ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : สิ่งที่ต้องเลือก มิตรภาพ ความรัก ตอนที่ 5
*****5*****
เฮอร์ไมโอนี่พรวดพราดเข้าไปในห้องนั่งเล่นรวม แฮร์รี่และรอนต่างตกใจ
“เกิดอะไรขึ้นเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ร้องถามแล้วชะงักเมื่อเห็นน้ำตาของเด็กสาว
“ไม่มีอะไร” เธอตอบ
“ฉันขอตัวนะ” พูดจบเธอก็วิ่งขึ้นหอนอนหญิงทันที ทิ้งให้แฮร์รี่และรอนนั่งมองหน้ากันอย่างงงๆ
“สงสัยโดนอาจารย์หักคะแนนมามั้ง” รอนว่าพลางนั่งทำการบ้านต่ออย่างไม่สนใจ แต่แฮร์รี่ไม่เห็นด้วย เขารู้สึกกังวลใจลึกๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น แฮร์รี่และรอนตกใจกับสภาพของเฮอร์ไมโอนี่มาก เหมือนเธออดนอนมาทั้งคืน ขอบตาบวมช้ำ ดูอ่อนแรง
“ไม่เป็นอะไรหรอก แค่อ่านหนังสือมากไปหน่อย เลยนอนน้อยน่ะ” เธอให้เหตุผลพลางทำตัวร่าเริงกลบเกลื่อน แฮร์รี่จับไหล่เธอเบาๆ
“แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มพยักหน้า
“ไปทานอาหารกันเถอะ” เธอพูด
“แล้วเธอไม่เอากระเป๋าไปด้วยเหรอ” แฮร์รี่ถาม เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้ง เธอลืมหนังสือทั้งหมดไว้ที่ต้นไม้นั่น
“ตายล่ะ” เธอร้อง
“แฮร์รี่ฉันนึกได้ว่ามีธุระต้องไปห้องสมุด เธอไปทานกันก่อนนะเจอกันที่ห้องเรียน” เฮอร์ไมโอนี่ผลุนผลันออกจากห้องไป ทิ้งให้แฮร์รี่ยืนงงอยู่ จนรอนมาตบไหล่
“ไปกันรึยังล่ะ” เขาพยักหน้าและเดินข้ามช่องประตูออกไป
เฮอร์ไมโอนี่วิ่งมาหยุดหอบหายใจที่ใต้ต้นไม้ เธอมองหาหนังสืออย่างรวดเร็ว
“ไม่มี..เป็นไปได้ยังไง” เธอร้องพลางก้มลงเปิดตามพุ่มไม้อย่างร้อนรนแล้วชะงัก
“มัลฟอย!!”
ใช่แล้วเมื่อคืนนี้เธอรีบร้อนวิ่งหนีเขาออกไป จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขาที่เอาหนังสือทั้งหมดของเธอไป ปัญหาคือ เขาเอาไปไว้ที่ไหน..หรือทิ้งลงทะเลสาบ
“เป็นไปไม่ได้น่า..” เธอคิด แต่ถ้าเขาเก็บเอาหนังสือทั้งหมดของเธอไปด้วย เธอจะไปขอคืนได้อย่างไรกัน
คาบแรกของวันนี้คือวิชาปรุงยา 2 คาบติดต่อกัน สำหรับ เนวิลล์ ลองบัตท่อมแล้ว มันยาวนานเหมือน 2 ปีเลยทีเดียว เด็กชายถูกสเนปขู่จนตัวสั่นเทาตลอดเวลา เฮอร์ไมโอนี่คอยแอบกระซิบบอกวิธีที่ถูกต้องให้ทุกครั้งที่สเนปเผลอ โชคดีที่กองหนังสือทั้งตั้งที่เธอลืมไว้ไม่มีหนังสือวิชาปรุงยาอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงโดนหักคะแนนอีกอย่างน้อย 20 คะแนนฐานลืมตำราเรียน แต่ถึงกระนั้น..
“หักกริฟฟินดอร์ 5 คะแแนน ใครให้เธอสู่รู้สอนคนอื่น หา! เกรนเจอร์” สเนปตวาดก้อง พลางชี้มือมาที่เฮอร์ไมโอนี่
“เธอ!..ย้ายมานั่งตรงนี้” เขาชี้มือเข้าไปในกลุ่มสลิธีริน ระหว่างมัลฟอยกับแครบ
“ส่วนลองบัตท่อม ปรุงยาใหม่ ถ้าอ่านหนังสือแล้วยังทำไม่ได้ ฉันจะได้เอามันยัดเข้าไปในกะโหลกหนาๆ ของเธอทั้งเล่ม”
เขากวาดตามองรอบห้อง เด็กๆ ก้มหน้าก้มตาปรุงยาของตัวเองเงียบๆ เฮอร์ไมโอนี่ย้ายข้าวของทั้งหมดมานั่งใกล้ๆ มัลฟอย
“ไม่ต้องมาใกล้ฉันมากนักหรอก ยัยเลือดสีโคลน” เขาเริ่ม เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันนิ่ง มัลฟอยยิ้มมุมปากเล็กน้อยก้มลงไปกระซิบเธอเบาๆ
“ไม่อยากได้หนังสือคืนหรือ เกรนเจอร์” เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก เหลือบตามองเขาแล้วถามเบาๆ
“นายเอาหนังสือฉันไปไว้ที่ไหน” มัลฟอยเลิกคิ้วไม่ตอบคำถาม
“อาจารย์ครับผมแยกเยื่อออฟตามิวคัสไม่ได้ครับ” สเนปหยุดมอง
“เกรนเจอร์ เธอช่วยมิสเตอร์มัลฟอยทีซิ” เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากเธอจัดแจงแยกลูกตากลมๆ ออกจากเมือกเขียวๆ อย่างหมดจด
“ลูกตามันลื่นน่ะ เธอช่วยเอามันใส่หม้อยาให้ทีซิ” มัลฟอยพูดอย่างเนือยๆ เฮอร์ไมโอนี่นึกอยากจะเอาลูกตายักษ์โปะไปบนหัวที่เรียบแปล้ของเขาเหลือเกิน เขายิ้มอย่างพอใจที่แกล้งเฮอร์ไมโอนี่ได้
“ช่วยกวนตัวยาให้ด้วยซิ” เขาพูดอย่างเป็นต่อ เฮอร์ไมโอนี่เริ่มโกรธ
“ทำเองซินายยังมีมือเหลืออีกข้างนี่” มัลฟอยสะบัดแขนเบาๆ
“ฉันปวดแขน เมื่อคืนยกของหนัก” เขายิ้มยียวน
“ไม่!” เธอหันกลับไปทำงานของตัวเองต่อ เสียงสเนปดังลั่นคุกใต้ดินอีกครั้ง
“ลองบัตท่อมเธอใส่ตาคางคกลงไปที่อันหา ฉันบอกให้ใส่แค่ 3 เท่านั้น ตาคางคก 3 อัน ยาจะเป็นสีเขียวใสใช้ดื่มให้ฝันดี” เขายืนจ้องหน้าเนวิลล์ที่ตัวสั่น ปากซีด
“สมองโง่ๆ ของเธอคงนับเลขผิด จาก 3 เป็น 13 ใช่ไหม ลองบัตท่อม น้ำยาเธอถึงได้ดำปี๋แบบนี้ นี่น่ะมันน้ำยาฝันร้ายและฉันจะให้เธอดื่มมันหลังหมดคาบ หักกริฟฟินดอร์ 5 คะแแนน”
เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย ชั่วโมงของสเนป เป็นชั่วโมงทองของสลิธีรินจริงๆ ไม่ว่าจะทำอะไรบ้านอื่นจะถูกหักคะแนนได้เรื่อยๆ ต่อให้ทำถูกต้องก็ตามที สเนปหักคะแนนได้เรื่อยๆ ตลอดสองคาบจนระฆังหมดเวลาดังขึ้น เขายังไม่ลืมที่จะบังคับให้เนวิลล์ดื่มน้ำยาของตัวเอง หลังจากนั้นทุกคนก็รีบไปที่ห้องเรียนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดอย่างกระตือรือร้น เพราะทุกคนอยากเห็นวิชา ‘ของจริง’ จากศาสตราจารย์ลูปิน
หลังจากได้เรียนการต่อสู้กับบ็อกการ์ต เนวิลล์ดูมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และทุกคนสนุกสนานกับการเรียนวิชานี้มาก เฮอร์ไมโอนี่รีบเร่งเดินนำแฮร์รี่กับรอนออกไป อึดใจต่อมาเธอปรากฎตัวข้างหลังคนทั้งสอง เธอบอกว่าเดินย้อนกลับไปเอาหนังสือที่ลืมไว้ที่ห้องปรุงยา
ในเวลาอาหาร นกฮูกบินเข้ามาส่งจดหมายให้แฮร์รี่
“จากแฮกริด” เขาพูดพลางรีบแกะออกอ่าน
“เกิดเรื่องแล้ว” แฮร์รี่พูดสีหน้าไม่ค่อยดี
“กระทรวงเวทมนตร์จะเข้ามาสอบสวนบัคบีค พ่อของมัลฟอยเป็นคนไปแจ้ง” เฮอร์ไมโอนี่รีบดึงจดหมายมาอ่านต่อ
“จะทำยังไงดีแฮร์รี่”
“เราคงต้องลงไปหาแฮกริด ดูซิว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง” เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองไปทางโต๊ะสลิธีริน มัลฟอยกำลังทำท่าล้อเลียนแฮร์รี่อยู่ และส่งสายตาเยาะเย้ยมาทางเด็กทั้งสาม
เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเพื่อช่วยคดีบัคบีค เธอตั้งอกตั้งใจมากจนลืมเรื่องหนังสือที่มัลฟอยเอาไปจนมาดามพินซ์กล่าวเตือนว่าถึงเวลาคืนหนังสือแล้ว
“เอาไงดีเรา” เธอพูดกับตัวเอง พลางเดินครุ่นคิดไปเรื่อยๆ เธอเดินไปหยุดยืนตรงข้างทะเลสาบโดยไม่รู้ตัว
“ใช้ผ้าคลุมล่องหนของแฮร์รี่คงไม่ได้” เธอคิด
“หรือจะขอคืนตรงๆ”  คิดถึงตรงนี้เธอรู้สึกเหมือนแบกของหนักๆ
“เฮ้อ..” เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจพลางทรุดตัวลงนั่งมองแผ่นน้ำ ถ้าเป็นไปได้เธออยากวางยานอนหลับให้คนทั้งหอสลิธีรินกิน เธอจะได้เดินเข้าไปหยิบหนังสืออย่างสบาย
เสียงย่ำพื้นมาหยุดเบื้องหลังเด็กสาว เธอนึกแปลกใจหันหน้ากลับมามอง พอเห็นหน้าเจ้าของเสียงฝีเท้า เธอผุดลุกขึ้นทันทีด้วยความโกรธ
“ต้องการอะไร” เธอพูดเสียงเข้ม มัลฟอยทำหูทวนลมไม่ตอบคำถาม กลับมองเธอด้วยสายตาอย่างผู้มีชัย เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันแน่นเธอสะบัดหน้าเดินหนี เสียงยานคางไล่หลังจนเธอชะงัก
“ไม่อยากได้หนังสือคืนหรือ เกรนเจอร์” เฮอร์ไมโอนี่หันหลังกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ใช่”  เธอพูดห้วนๆ สั้นๆ มัลฟอยส่ายหน้าน้อยๆ
“วิธีการขอของพวกมักเกิ้ลนี่หยาบคายจริงๆ” เฮอร์ไมโอนี่พยายามนับหนึ่งถึงห้าร้อยเพื่อไม่ให้ตัวเองโกรธ เธอต้องการหนังสือคืนต้องใจเย็น
“แล้วนายจะให้ทำยังไง” เธอพูดเสียงเครียด
“ได้โปรด เกรนเจอร์ คำง่ายๆ มักเกิ้ลก็ต้องพูดได้” มัลฟอยเลิกคิ้ว
“หรือเธอพูดไม่เป็น” เฮอร์ไมโอนี่หน้าเริ่มแดงขึ้น เธอกัดฟันอยู่ครู่หนึ่ง
“ได้โปรด คืนหนังสือให้ฉัน” เธอแค่นคำพูดออกมาอย่างยากเย็น มัลฟอยทำเป็นเกาหูตัวเอง
“ฉันไม่ได้ยินที่เธอพูด” เขายิ้มกวนๆ
“เธอว่าอะไรนะ เกรนเจอร์” เฮอร์ไมโอนี่ตอนนี้หน้าแดงก่ำ เธอตะโกนลั่น
“คืนหนังสือให้ฉันด้วย ได้โปรด” มัลฟอยทำหน้าเฉยเมย
“เหมือนถูกบังคับเลยนะ ถ้าเธอไม่เต็มใจจะขอก็ไม่ต้อง ยัยหัวฟู” เขาก้าวขาเดินผ่านเฮอร์ไมโอนี่ไปเสียเฉยๆ
“ก็ได้!” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นอย่างเหลืออด
“ฉันจะไปสารภาพกับมาดามพินซ์ว่าฉันทำหนังสือทั้งหมด หาย!” เธอรีบเดินแซงมัลฟอยขึ้นไป เขาคว้าข้อมือเธอไว้อย่างรวดเร็ว
“นั่นจะทำให้เธอถูกทำโทษนะ บางทีอาจถูกไม่ให้ยืมหนังสือออกจากห้องสมุดก็ได้” เขาขู่
ได้ผล เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก เธอกลัวการถูกห้ามเข้าห้องสมุดมากกว่าถูกจับโยนเข้าไปในป่าต้องห้ามเสียอีก เธอมองหน้าเขา แต่ด้วยระยะห่างระหว่างใบหน้าของเด็กทั้งสองใกล้กันมาก ทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนขึ้นมา เด็กสาวหน้าแดง สะบัดมือออกจากมัลฟอย พลางถอยห่างออกมาเล็กน้อย ดูเหมือนมัลฟอยจะคิดแบบเดียวกัน เพราะใบหน้าซีดเซียวของเขามีสีเลือดขึ้นมาเล็กน้อย
“คืนนี้สองทุ่ม ฉันจะนัดสถานที่ให้เองทีหลัง” เขาพูดเบาๆ พลางเดินกลับปราสาทอย่างรวดเร็ว เฮอร์ไมโอนี่มองตามอย่างไม่ค่อยไว้วางใจ
“นี่นายจะมาไม้ไหนอีกนะ มัลฟอย” เธอพึมพำเบาๆ
..
เฮอร์ไมโอนี่ยังคงก้มหน้าก้มตาทำรายงานอย่างเคร่งเครียด จากเหตุการณ์เมื่อวาน ทำให้เธอต้องขาดเรียนวิชาคาบบ่ายทั้งหมด เป็นเหตุให้อาจารย์สั่งให้เธอทำรายงานเพิ่มเป็นสองเท่า ประกอบกับหนังสือที่เธอใช้ประกอบวิชาเรียนหลายเล่มถูกมัลฟอยเอาไป ทำให้เธอต้องวิ่งวุ่นหาหนังสือใกล้เคียงกันในห้องสมุดมาอ่านเพิ่มเติม ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ตอนนี้ล้อมรอบด้วยกองภูเขาหนังสือ แฮร์รี่มองอย่างหวาดๆ ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่เหมือนระเบิดเวลา พร้อมที่จะระเบิดใส่ทุกคนที่เข้ามาทำให้เธอเสียสมาธิ
“เอ่อ..เฮอร์ไมโอนี่..” แฮร์รี่เรียกเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมา ผมยุ่งกระเซิง ตาแดง จนแฮร์รี่คิดว่า ถ้าเป็นเวลากลางคืน เธอโผล่มาในสภาพนี้เขาคงวิ่งเตลิดแน่
“มีอะไร” เธอถามห้วนๆ
“คือ..นี่เวลาอาหารเย็นแล้วนะ” เขาเตือนเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว พลางก้มลงไปเขียนรายงานต่อ
“เธอไปก่อนก็แล้วกันแฮร์รี่” เธอพูด แฮร์รี่มองดูเธอครู่ใหญ่ จึงเดินออกไปกับรอน ซึ่งยังคงไม่พูดกับเฮอร์ไมโอนี่อยู่
“นายว่าเฮอร์ไมโอนี่เครียดเกินไปรึเปล่า” แฮร์รี่ถามรอนขณะเดินไปที่ห้องอาหาร
“ฉันไม่สนหรอก” รอนพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“ถ้าเขาสนใจสัตว์เลี้ยงของคนอื่นเท่ากับหนังสือที่เขาอ่านจะดีกว่านี้นะ” เขาลงท้ายประโยคอย่างโกรธๆ
เฮอร์ไมโอนี่เขียนรายงานเพิ่งเสร็จไปแค่สองวิชา ส่วนวิชาที่เหลือเป็นวิชาที่ต้องใช้หนังสือเฉพาะที่ถูกมัลฟอยหยิบไป เธอเก็บอุปกรณ์ตำราอย่างหงุดหงิด แต่แล้วมีเสียงกระพือปีกที่หน้าต่าง นกฮูกเหยี่ยวเกาะอยู่บนขอบหน้าต่างพลางแกะจดหมายทิ้งไว้ แล้วบินจากไป เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นไปหยิบจดหมายขึ้นมาอ่าน แน่นอน เธอรู้ดีว่านี่เป็นนกฮูกของใคร ในจดหมายระบุสถานที่ที่จะนัดเจอกับมัลฟอยเพื่อเขาจะได้คืนหนังสือให้เธอ เด็กสาวม้วนกระดาษยัดใส่เสื้อคลุม เก็บรายงานและอุปกรณ์ขึ้นไปเก็บบนหอนอน แล้วรีบก้าวข้ามช่องประตูเพื่อออกไปรับประทานอาหาร แฮร์รี่และรอน ซึ่งทานกันเกือบเสร็จแล้วมองเธออย่างแปลกใจเล็กน้อย
“นึกว่าจะกินรายงานแทนอาหาร” รอนเริ่มแขวะ
“แล้วสแคบเบอร์เป็นยังไงบ้าง” เฮอร์ไมโอนี่สะกดอารมณ์ถาม
“มันกลัวจนไม่กล้าออกจากกล่องในห้อง ตอนนี้มันผอมหัวโตแล้ว เพราะแมวบ้าๆ ของเธอ” รอนพูดเสียงดังจนคนอื่นหันมามอง แฮร์รี่ส่งเสียงห้ามรอนเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากเล็กน้อย พลางหันไปทางแฮร์รี่
“แล้วแฮกริดล่ะ เป็นยังไงบ้างแฮร์รี่”
“สงสัยจะเรื่องใหญ่” แฮร์รี่ตอบอย่างกังวล เขานึกเรื่องบัคบีคขึ้นได้ เพราะช่วงนี้เขาเริ่มซ้อมควิดดิชจนลืมไป
“ทางกระทรวงเริ่มยื่นเรื่องแล้ว เห็นทีแฮกริดจะแย่” เฮอร์ไมโอนี่ทำสีหน้ากังวล
“ฉันจะลองไปค้นหนังสือเก่าๆ เกี่ยวกับคำร้องคดีสัตว์ทำร้ายคนดู” เธอครุ่นคิด
“น่าจะมีหนังสือบางเล่มให้ข้อมูลได้”
“เอ่อ.. เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดค่อยๆ
“เธอเองก็ดูแลตัวเองบ้างนะ ฉันว่าเธอจะเครียดเกินไปแล้วล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มบางๆ
“เธอเองก็หมั่นซ้อมควิดดิชนะ แฮร์รี่ ปีนี้เราต้องได้ถ้วยชนะเลิศให้ได้” แฮร์รี่พยักหน้ายิ้มรับคำ เฮอร์ไมโอนี่หยิบแก้วน้ำฟักทองขึ้นมาดื่ม แล้วลุกขึ้น
“ฉันจะไปห้องสมุด หาหนังสืออ่านอีกหน่อย เผื่อมีวิธีช่วยบัคบีคอีก” พูดจบเธอก็เดินออกไปอย่างเร็ว
มาดามพินซ์กรุณามาก เธอช่วยเฮอร์ไมโอนี่หาหนังสือเกี่ยวกับการฟ้องร้องคดีสัตว์ต่างๆ เฮอร์ไมโอนี่ไล่ดูเรื่อยๆ
“คดีนี้น่าสนใจ ตัวมันติคอร์ทำร้ายคน” เธออ่านรายละเอียด
“ปรากฏว่าไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เนื่องจากมันติคอร์ดุร้ายเกินไป จนเข้าใกล้ไม่ได้เลยต้องปล่อยไป..เฮ้อ..แบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยน่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่หลับตาแล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ มาดามพินซ์เดินมาที่เธอ
“มิสเกรนเจอร์จ๊ะ จวนได้เวลาปิดห้องสมุดแล้วนะจ๊ะ” เฮอร์ไมโอนี่ดูเวลา เกือบสองทุ่มแล้ว
“ขอบคุณค่ะ มาดามพินซ์” เธอรีบรวบรวมหนังสือเก็บ แล้วเดินออกจากห้องสมุด ตรงออกไปทางอีกด้านของปราสาท เธอหยิบจดหมายขึ้นมาอ่านทวน
“ทางใต้ของปราสาทชั้น 3 ห้องที่ 2 นับจากด้านใน” เธอพับจดหมายเก็บ
“ทำไมเรื่องมากแบบนี้นะ ไม่รู้จะมาไม้ไหนอีก” เธอบ่นพึมพำ พลางล้วงมือเข้าไปในเสื้อคลุม กระชับไม้กายสิทธิ์แน่น แล้วเดินต่อไปอย่างระมัดระวัง
“หวังว่าคงไม่เจอฟิลช์นะ” เธอพึมพำกับตัวเอง พลางมองสำรวจทั่วบริเวณทางเดินที่สลัวและเงียบสงัด ท่าทางว่าทางด้านนี้จะไม่ได้ใช้งานมานาน เพราะบางที่มีฝุ่นจับหนาเตอะ เฮอร์ไมโอนี่หันรีหันขวาง ลังเลใจอยู่ชั่วขณะ จึงตัดสินใจดันประตูบานหนึ่งเปิดออก แล้วเดินเข้าไปด้านใน มันดูเหมือนเคยเป็นห้องเรียนเก่ามาก่อนยังมีตำราเก่าๆ และตัวอย่างของสัตว์บางชนิดตั้งอยู่ เฮอร์ไมโอนี่เดินไปสำรวจดูอย่างสนใจ โดยเฉพาะตำราที่มีฝุ่นหนาเตอะจับอยู่
“เอ..คาถาต้องห้ามกับสมุนไพรอาถรรพ์” เฮอร์ไมโอนี่ตาโต หนังสือนี่จัดเป็นหนังสือต้องห้าม เธอค่อยๆ ปัดฝุ่นออก ทำความสะอาดหนังสืออย่างเบามือ และค่อยๆ เปิดออกอ่าน แต่มันมืดจนมองแทบไม่เห็นแล้ว
“ลูมอส” เธอพูดเบาๆ ไฟสีฟ้าอ่อนปรากฏบนปลายไม้กายสิทธิ์ของเธอ เด็กสาวก้มลงอ่านหนังสืออย่างสนใจจนลืมสภาพรอบข้าง
“เหลือเชื่อ..” เสียงยานคางดังขึ้นด้านหลัง เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้ง รีบปิดหนังสือแล้วหันกลับไปมอง มัลฟอยยืนอยู่หลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เขามองข้ามไหล่เด็กสาวอ่านชื่อบนปกหนังสือ
“นั่นมันหนังสือต้องห้ามนะ” เขาพูดพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าเธอเอามาได้ยังไง
“มันวางอยู่ในห้องนี้อยู่แล้วน่ะ” เธอพูดขึ้นอย่างเร็ว “แล้วหนังสือของฉันล่ะ” เธอรีบทวงถาม
มัลฟอยมองไปรอบๆ ตัว แล้วหันมามองหน้าเธอ
“ที่นี่เงียบดีนะ” เขาพูดอีกเรื่องหนึ่งแทน เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว ขยับไม้กายสิทธิ์แน่น มัลฟอยยิ้มอย่างรู้ทัน
“ถ้าจะใช้คาถากับฉันน่ะ เธอต้องดับไฟนั่นก่อนนะ” เขาหมายถึงขณะนี้เธอกำลังใช้คาถาจุดไฟอยู่ ไม่สามารถใช้คาถาอื่นได้จนกว่าจะยกเลิกคาถาเดิมก่อน เฮอร์ไมโอนี่ถลึงตาใส่มัลฟอย
“หนัง-สือ-ฉัน-อยู่-ที่-ไหน มัลฟอย” เธอเน้นย้ำทีละคำ มัลฟอยยิ้มอย่างรู้สึกดีใจที่ยั่วโมโหเฮอร์ไมโอนี่สำเร็จ เขามองไปที่มุมห้องอีกด้าน หนังสือของเฮอร์ไมโอนี่อยู่ที่นั่น มันถูกมัดไว้อย่างดี เฮอร์ไมโอนี่รีบเดินไปตรวจดูหนังสือของเธอ
“มันอยู่ครบน่า ยัยหัวฟู” เสียงมัลฟอยพูดอย่างรำคาญ
“จะไปรู้ได้ยังไง เกิด ‘คุณหนู’ ผู้สูงส่งเกิดอยากได้ของของคนอื่นขึ้นมาล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงขุ่นๆ มัลฟอยหยุดยิ้มทันที เขาจ้องเฮอร์ไมโอนี่อย่างโกรธเคือง
“นั่นมันเป็นนิสัยของพวก สีโคลน เกรนเจอร์” เขาเดินเข้ามาหาเธออย่างมุ่งร้าย “อย่ามาดูถูกฉันแบบนี้”
เฮอร์ไมโอนี่ผุดลุกขึ้นอย่างตกใจ เธอชี้ไม้กายสิทธิ์ที่ยังมีไฟสว่างอยู่ที่ปลายไม้
“น็อกซ์”
“เอกซ์เปลลิอาร์มัส” ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน แต่ไม้กายสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่ปลิวไปอยู่ในมือของมัลฟอย เขาเอามันเก็บไว้ในเสื้อคลุม พลางยิ้มเยาะ
“ที่นี้ ” เขาเย้ย
“เธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ยัยหัวฟู” เฮอร์ไมโอนี่อึ้ง นึกถึงวันที่เขาสาปเธอนอนแข็งค้างอยู่ริมทะเลสาบ ถ้าเป็นที่นี่คนอื่นคงไม่มีทางรู้ว่าเธออยู่ตรงนี้แน่
“นายจะทำอะไรฉัน มัลฟอย” เธอพูดเสียงดัง พลางค่อยๆ ถอยหนีมัลฟอยที่เดินเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ จนติดผนังห้อง เฮอร์ไมโอนี่เบี่ยงตัวหลบ แต่มัลฟอยยกแขนข้างที่เจ็บขวางไว้ เธอมองแขนข้างนั้นเขม็ง
“แขนนาย หายแล้วนี่” พลางจ้องหน้ามัลฟอย เขายักไหล่น้อยๆ
“แต่นายบอกทุกคนว่านายเจ็บมาก นายโกหกทำไม จะแกล้งแฮกริดรึยังไงกัน” เธอพูดด้วยอารมณ์โกรธสุดขีด มัลฟอยยิ้มเยือกเย็น
“ก็ใช่ ฉันตั้งใจจะให้เจ้ายักษ์นั่นไปให้พ้นๆ” เขาหรี่ตาเล็กน้อย
“มัวแต่ห่วงคนอื่นน่ะ ตัวเองเคยห่วงบ้างมั้ย ยายเลือดสีโคลน” เฮอร์ไมโอนี่หน้าซีด
“นายจะทำอะไรฉัน” เธอพูดคำเดิมอย่างหวั่นๆ เขาจ้องไปที่ตากลมใสของเธอ
“คำขอบคุณ” เขาพูดสั้นๆ
“ง่ายๆ สั้นๆ แต่ต้องอย่างสุภาพและจริงใจ เธอคงทำไม่ได้มั้ง” เฮอร์ไมโอนี่เม้มปาก เชิดหน้า
“นายเอาหนังสือของฉันไปเฉยๆ จะให้ฉันขอบคุณอะไร” มัลฟอยจ่อไม้กายสิทธิ์ไปที่คอของเฮอร์ไมโอนี่
“งั้น ฉันขอเป็นอย่างอื่นก็แล้วกัน” ไม่พูดเปล่า เขาก้มหน้าลงมาหาเด็กสาวช้าๆ เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากจะร้องโวยวายออกมา แต่กลับอึ้งเมื่อมัลฟอยฝังจมูกลงบนแก้มของเธอแทน
“นาย..” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาได้คำเดียว เขามองหน้าเธอนิ่งแล้วยิ้มบางๆ
“พวกเลือดสีโคลนนี่ นึกว่าจะมีแต่กลิ่นโคลนซะอีก” เขาเปลี่ยนเป็นยิ้มเหยียดหยัน
“อย่านึกว่าที่ฉันทำแบบนี้เพราะฉันพิศวาสเธอนะ เกรนเจอร์” เขาถอยหลังออกมาเล็กน้อย
“ฉันรู้..เรื่องแบบนี้มันทำให้เธอเสียศักดิ์ศรีมาก แล้วฉันก็จะทำมันอีกถ้ามีโอกาส” เขาเดินไปที่ประตู ก่อนล้วงไม้กายสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่ออกมา
“อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเจ้าพอตเตอร์ ฉันจะทำลายให้หมด”
เขาพูดพลางโยนไม้กายสิทธิ์ของเธอลงบนพื้น ก่อนออกจากห้องไป เฮอร์ไมโอนี่ทรุดตัวลงนั่ง พลางลูบแก้มตัวเองเบาๆ อย่างแค้นใจ เด็กสาวกัดฟันแน่น รวบรวมหนังสือขึ้นเต็มอ้อมแขน น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม เธอเดินกลับมาถึงหอนอนอย่างไม่รู้ตัว
.
มัลฟอยเดินกลับหอด้วยอารมณ์หงุดหงิด เขารู้สึกสะใจที่แกล้งเฮอร์ไมโอนี่ได้ แต่อีกใจหนึ่ง เขารู้สึกอ่อนไหวกับสายตาของเธอที่จ้องกลับมา มันทำให้รู้สึกแปลกๆ เมื่อมาถึงหน้าหอ รูปปั้นนูนสูงรูปงูจ้องมาที่เขา ลิ้นหินอ่อนสีเทาแลบตวัดออกมา
“ดาร์ค อาร์ต”
เขาพูดพึมพำเบาๆ งูบิดตัวออกเปิดช่องให้เขาผ่านเข้าไป เขาเดินผ่านห้องนั่งเล่นรวม ซึ่งแพนซี่เตรียมตัวจะกระโดดเข้ามาเกาะแขนเขาไปอย่างไม่สนใจ เมื่อเข้าไปในห้องของเขา มัลฟอยทิ้งตัวลงบนที่นอนของตัว ยกแขนก่ายหน้าผากอย่างครุ่นคิด
“นายเป็นอะไรมัลฟอย” เสียงแครบถาม
“แล้วนายหายไปไหนมา ทำไมเพิ่งกลับเข้ามาล่ะ” กอยล์ถามบ้าง มัลฟอยลุกพรวดขึ้น
“มันเรื่องของฉัน ฉันไม่มีหน้าที่ตอบพวกนาย” เขาถอดเสื้อคลุมโยนลงบนเตียง เดินเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำใส่อ่างจนเต็มแล้วจุ่มหัวลงไป เหมือนจะให้น้ำล้างความคิดสับสนนี่ออกไป เขาเงยหน้าขึ้นมองกระจก
“ออกไปจากความคิดฉันนะ ยัยเลือดสีโคลน” เขากัดฟันพูดเบาๆ
                                                                    ................................
เฮอร์ไมโอนี่พรวดพราดเข้าไปในห้องนั่งเล่นรวม แฮร์รี่และรอนต่างตกใจ
“เกิดอะไรขึ้นเฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่ร้องถามแล้วชะงักเมื่อเห็นน้ำตาของเด็กสาว
“ไม่มีอะไร” เธอตอบ
“ฉันขอตัวนะ” พูดจบเธอก็วิ่งขึ้นหอนอนหญิงทันที ทิ้งให้แฮร์รี่และรอนนั่งมองหน้ากันอย่างงงๆ
“สงสัยโดนอาจารย์หักคะแนนมามั้ง” รอนว่าพลางนั่งทำการบ้านต่ออย่างไม่สนใจ แต่แฮร์รี่ไม่เห็นด้วย เขารู้สึกกังวลใจลึกๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น แฮร์รี่และรอนตกใจกับสภาพของเฮอร์ไมโอนี่มาก เหมือนเธออดนอนมาทั้งคืน ขอบตาบวมช้ำ ดูอ่อนแรง
“ไม่เป็นอะไรหรอก แค่อ่านหนังสือมากไปหน่อย เลยนอนน้อยน่ะ” เธอให้เหตุผลพลางทำตัวร่าเริงกลบเกลื่อน แฮร์รี่จับไหล่เธอเบาๆ
“แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มพยักหน้า
“ไปทานอาหารกันเถอะ” เธอพูด
“แล้วเธอไม่เอากระเป๋าไปด้วยเหรอ” แฮร์รี่ถาม เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้ง เธอลืมหนังสือทั้งหมดไว้ที่ต้นไม้นั่น
“ตายล่ะ” เธอร้อง
“แฮร์รี่ฉันนึกได้ว่ามีธุระต้องไปห้องสมุด เธอไปทานกันก่อนนะเจอกันที่ห้องเรียน” เฮอร์ไมโอนี่ผลุนผลันออกจากห้องไป ทิ้งให้แฮร์รี่ยืนงงอยู่ จนรอนมาตบไหล่
“ไปกันรึยังล่ะ” เขาพยักหน้าและเดินข้ามช่องประตูออกไป
เฮอร์ไมโอนี่วิ่งมาหยุดหอบหายใจที่ใต้ต้นไม้ เธอมองหาหนังสืออย่างรวดเร็ว
“ไม่มี..เป็นไปได้ยังไง” เธอร้องพลางก้มลงเปิดตามพุ่มไม้อย่างร้อนรนแล้วชะงัก
“มัลฟอย!!”
ใช่แล้วเมื่อคืนนี้เธอรีบร้อนวิ่งหนีเขาออกไป จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเขาที่เอาหนังสือทั้งหมดของเธอไป ปัญหาคือ เขาเอาไปไว้ที่ไหน..หรือทิ้งลงทะเลสาบ
“เป็นไปไม่ได้น่า..” เธอคิด แต่ถ้าเขาเก็บเอาหนังสือทั้งหมดของเธอไปด้วย เธอจะไปขอคืนได้อย่างไรกัน
คาบแรกของวันนี้คือวิชาปรุงยา 2 คาบติดต่อกัน สำหรับ เนวิลล์ ลองบัตท่อมแล้ว มันยาวนานเหมือน 2 ปีเลยทีเดียว เด็กชายถูกสเนปขู่จนตัวสั่นเทาตลอดเวลา เฮอร์ไมโอนี่คอยแอบกระซิบบอกวิธีที่ถูกต้องให้ทุกครั้งที่สเนปเผลอ โชคดีที่กองหนังสือทั้งตั้งที่เธอลืมไว้ไม่มีหนังสือวิชาปรุงยาอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นเธอคงโดนหักคะแนนอีกอย่างน้อย 20 คะแนนฐานลืมตำราเรียน แต่ถึงกระนั้น..
“หักกริฟฟินดอร์ 5 คะแแนน ใครให้เธอสู่รู้สอนคนอื่น หา! เกรนเจอร์” สเนปตวาดก้อง พลางชี้มือมาที่เฮอร์ไมโอนี่
“เธอ!..ย้ายมานั่งตรงนี้” เขาชี้มือเข้าไปในกลุ่มสลิธีริน ระหว่างมัลฟอยกับแครบ
“ส่วนลองบัตท่อม ปรุงยาใหม่ ถ้าอ่านหนังสือแล้วยังทำไม่ได้ ฉันจะได้เอามันยัดเข้าไปในกะโหลกหนาๆ ของเธอทั้งเล่ม”
เขากวาดตามองรอบห้อง เด็กๆ ก้มหน้าก้มตาปรุงยาของตัวเองเงียบๆ เฮอร์ไมโอนี่ย้ายข้าวของทั้งหมดมานั่งใกล้ๆ มัลฟอย
“ไม่ต้องมาใกล้ฉันมากนักหรอก ยัยเลือดสีโคลน” เขาเริ่ม เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันนิ่ง มัลฟอยยิ้มมุมปากเล็กน้อยก้มลงไปกระซิบเธอเบาๆ
“ไม่อยากได้หนังสือคืนหรือ เกรนเจอร์” เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก เหลือบตามองเขาแล้วถามเบาๆ
“นายเอาหนังสือฉันไปไว้ที่ไหน” มัลฟอยเลิกคิ้วไม่ตอบคำถาม
“อาจารย์ครับผมแยกเยื่อออฟตามิวคัสไม่ได้ครับ” สเนปหยุดมอง
“เกรนเจอร์ เธอช่วยมิสเตอร์มัลฟอยทีซิ” เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากเธอจัดแจงแยกลูกตากลมๆ ออกจากเมือกเขียวๆ อย่างหมดจด
“ลูกตามันลื่นน่ะ เธอช่วยเอามันใส่หม้อยาให้ทีซิ” มัลฟอยพูดอย่างเนือยๆ เฮอร์ไมโอนี่นึกอยากจะเอาลูกตายักษ์โปะไปบนหัวที่เรียบแปล้ของเขาเหลือเกิน เขายิ้มอย่างพอใจที่แกล้งเฮอร์ไมโอนี่ได้
“ช่วยกวนตัวยาให้ด้วยซิ” เขาพูดอย่างเป็นต่อ เฮอร์ไมโอนี่เริ่มโกรธ
“ทำเองซินายยังมีมือเหลืออีกข้างนี่” มัลฟอยสะบัดแขนเบาๆ
“ฉันปวดแขน เมื่อคืนยกของหนัก” เขายิ้มยียวน
“ไม่!” เธอหันกลับไปทำงานของตัวเองต่อ เสียงสเนปดังลั่นคุกใต้ดินอีกครั้ง
“ลองบัตท่อมเธอใส่ตาคางคกลงไปที่อันหา ฉันบอกให้ใส่แค่ 3 เท่านั้น ตาคางคก 3 อัน ยาจะเป็นสีเขียวใสใช้ดื่มให้ฝันดี” เขายืนจ้องหน้าเนวิลล์ที่ตัวสั่น ปากซีด
“สมองโง่ๆ ของเธอคงนับเลขผิด จาก 3 เป็น 13 ใช่ไหม ลองบัตท่อม น้ำยาเธอถึงได้ดำปี๋แบบนี้ นี่น่ะมันน้ำยาฝันร้ายและฉันจะให้เธอดื่มมันหลังหมดคาบ หักกริฟฟินดอร์ 5 คะแแนน”
เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย ชั่วโมงของสเนป เป็นชั่วโมงทองของสลิธีรินจริงๆ ไม่ว่าจะทำอะไรบ้านอื่นจะถูกหักคะแนนได้เรื่อยๆ ต่อให้ทำถูกต้องก็ตามที สเนปหักคะแนนได้เรื่อยๆ ตลอดสองคาบจนระฆังหมดเวลาดังขึ้น เขายังไม่ลืมที่จะบังคับให้เนวิลล์ดื่มน้ำยาของตัวเอง หลังจากนั้นทุกคนก็รีบไปที่ห้องเรียนวิชาการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดอย่างกระตือรือร้น เพราะทุกคนอยากเห็นวิชา ‘ของจริง’ จากศาสตราจารย์ลูปิน
หลังจากได้เรียนการต่อสู้กับบ็อกการ์ต เนวิลล์ดูมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และทุกคนสนุกสนานกับการเรียนวิชานี้มาก เฮอร์ไมโอนี่รีบเร่งเดินนำแฮร์รี่กับรอนออกไป อึดใจต่อมาเธอปรากฎตัวข้างหลังคนทั้งสอง เธอบอกว่าเดินย้อนกลับไปเอาหนังสือที่ลืมไว้ที่ห้องปรุงยา
ในเวลาอาหาร นกฮูกบินเข้ามาส่งจดหมายให้แฮร์รี่
“จากแฮกริด” เขาพูดพลางรีบแกะออกอ่าน
“เกิดเรื่องแล้ว” แฮร์รี่พูดสีหน้าไม่ค่อยดี
“กระทรวงเวทมนตร์จะเข้ามาสอบสวนบัคบีค พ่อของมัลฟอยเป็นคนไปแจ้ง” เฮอร์ไมโอนี่รีบดึงจดหมายมาอ่านต่อ
“จะทำยังไงดีแฮร์รี่”
“เราคงต้องลงไปหาแฮกริด ดูซิว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง” เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองไปทางโต๊ะสลิธีริน มัลฟอยกำลังทำท่าล้อเลียนแฮร์รี่อยู่ และส่งสายตาเยาะเย้ยมาทางเด็กทั้งสาม
เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเพื่อช่วยคดีบัคบีค เธอตั้งอกตั้งใจมากจนลืมเรื่องหนังสือที่มัลฟอยเอาไปจนมาดามพินซ์กล่าวเตือนว่าถึงเวลาคืนหนังสือแล้ว
“เอาไงดีเรา” เธอพูดกับตัวเอง พลางเดินครุ่นคิดไปเรื่อยๆ เธอเดินไปหยุดยืนตรงข้างทะเลสาบโดยไม่รู้ตัว
“ใช้ผ้าคลุมล่องหนของแฮร์รี่คงไม่ได้” เธอคิด
“หรือจะขอคืนตรงๆ”  คิดถึงตรงนี้เธอรู้สึกเหมือนแบกของหนักๆ
“เฮ้อ..” เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจพลางทรุดตัวลงนั่งมองแผ่นน้ำ ถ้าเป็นไปได้เธออยากวางยานอนหลับให้คนทั้งหอสลิธีรินกิน เธอจะได้เดินเข้าไปหยิบหนังสืออย่างสบาย
เสียงย่ำพื้นมาหยุดเบื้องหลังเด็กสาว เธอนึกแปลกใจหันหน้ากลับมามอง พอเห็นหน้าเจ้าของเสียงฝีเท้า เธอผุดลุกขึ้นทันทีด้วยความโกรธ
“ต้องการอะไร” เธอพูดเสียงเข้ม มัลฟอยทำหูทวนลมไม่ตอบคำถาม กลับมองเธอด้วยสายตาอย่างผู้มีชัย เฮอร์ไมโอนี่กัดฟันแน่นเธอสะบัดหน้าเดินหนี เสียงยานคางไล่หลังจนเธอชะงัก
“ไม่อยากได้หนังสือคืนหรือ เกรนเจอร์” เฮอร์ไมโอนี่หันหลังกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ใช่”  เธอพูดห้วนๆ สั้นๆ มัลฟอยส่ายหน้าน้อยๆ
“วิธีการขอของพวกมักเกิ้ลนี่หยาบคายจริงๆ” เฮอร์ไมโอนี่พยายามนับหนึ่งถึงห้าร้อยเพื่อไม่ให้ตัวเองโกรธ เธอต้องการหนังสือคืนต้องใจเย็น
“แล้วนายจะให้ทำยังไง” เธอพูดเสียงเครียด
“ได้โปรด เกรนเจอร์ คำง่ายๆ มักเกิ้ลก็ต้องพูดได้” มัลฟอยเลิกคิ้ว
“หรือเธอพูดไม่เป็น” เฮอร์ไมโอนี่หน้าเริ่มแดงขึ้น เธอกัดฟันอยู่ครู่หนึ่ง
“ได้โปรด คืนหนังสือให้ฉัน” เธอแค่นคำพูดออกมาอย่างยากเย็น มัลฟอยทำเป็นเกาหูตัวเอง
“ฉันไม่ได้ยินที่เธอพูด” เขายิ้มกวนๆ
“เธอว่าอะไรนะ เกรนเจอร์” เฮอร์ไมโอนี่ตอนนี้หน้าแดงก่ำ เธอตะโกนลั่น
“คืนหนังสือให้ฉันด้วย ได้โปรด” มัลฟอยทำหน้าเฉยเมย
“เหมือนถูกบังคับเลยนะ ถ้าเธอไม่เต็มใจจะขอก็ไม่ต้อง ยัยหัวฟู” เขาก้าวขาเดินผ่านเฮอร์ไมโอนี่ไปเสียเฉยๆ
“ก็ได้!” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นอย่างเหลืออด
“ฉันจะไปสารภาพกับมาดามพินซ์ว่าฉันทำหนังสือทั้งหมด หาย!” เธอรีบเดินแซงมัลฟอยขึ้นไป เขาคว้าข้อมือเธอไว้อย่างรวดเร็ว
“นั่นจะทำให้เธอถูกทำโทษนะ บางทีอาจถูกไม่ให้ยืมหนังสือออกจากห้องสมุดก็ได้” เขาขู่
ได้ผล เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก เธอกลัวการถูกห้ามเข้าห้องสมุดมากกว่าถูกจับโยนเข้าไปในป่าต้องห้ามเสียอีก เธอมองหน้าเขา แต่ด้วยระยะห่างระหว่างใบหน้าของเด็กทั้งสองใกล้กันมาก ทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนขึ้นมา เด็กสาวหน้าแดง สะบัดมือออกจากมัลฟอย พลางถอยห่างออกมาเล็กน้อย ดูเหมือนมัลฟอยจะคิดแบบเดียวกัน เพราะใบหน้าซีดเซียวของเขามีสีเลือดขึ้นมาเล็กน้อย
“คืนนี้สองทุ่ม ฉันจะนัดสถานที่ให้เองทีหลัง” เขาพูดเบาๆ พลางเดินกลับปราสาทอย่างรวดเร็ว เฮอร์ไมโอนี่มองตามอย่างไม่ค่อยไว้วางใจ
“นี่นายจะมาไม้ไหนอีกนะ มัลฟอย” เธอพึมพำเบาๆ
..
เฮอร์ไมโอนี่ยังคงก้มหน้าก้มตาทำรายงานอย่างเคร่งเครียด จากเหตุการณ์เมื่อวาน ทำให้เธอต้องขาดเรียนวิชาคาบบ่ายทั้งหมด เป็นเหตุให้อาจารย์สั่งให้เธอทำรายงานเพิ่มเป็นสองเท่า ประกอบกับหนังสือที่เธอใช้ประกอบวิชาเรียนหลายเล่มถูกมัลฟอยเอาไป ทำให้เธอต้องวิ่งวุ่นหาหนังสือใกล้เคียงกันในห้องสมุดมาอ่านเพิ่มเติม ทำให้เฮอร์ไมโอนี่ตอนนี้ล้อมรอบด้วยกองภูเขาหนังสือ แฮร์รี่มองอย่างหวาดๆ ตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่เหมือนระเบิดเวลา พร้อมที่จะระเบิดใส่ทุกคนที่เข้ามาทำให้เธอเสียสมาธิ
“เอ่อ..เฮอร์ไมโอนี่..” แฮร์รี่เรียกเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมา ผมยุ่งกระเซิง ตาแดง จนแฮร์รี่คิดว่า ถ้าเป็นเวลากลางคืน เธอโผล่มาในสภาพนี้เขาคงวิ่งเตลิดแน่
“มีอะไร” เธอถามห้วนๆ
“คือ..นี่เวลาอาหารเย็นแล้วนะ” เขาเตือนเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว พลางก้มลงไปเขียนรายงานต่อ
“เธอไปก่อนก็แล้วกันแฮร์รี่” เธอพูด แฮร์รี่มองดูเธอครู่ใหญ่ จึงเดินออกไปกับรอน ซึ่งยังคงไม่พูดกับเฮอร์ไมโอนี่อยู่
“นายว่าเฮอร์ไมโอนี่เครียดเกินไปรึเปล่า” แฮร์รี่ถามรอนขณะเดินไปที่ห้องอาหาร
“ฉันไม่สนหรอก” รอนพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“ถ้าเขาสนใจสัตว์เลี้ยงของคนอื่นเท่ากับหนังสือที่เขาอ่านจะดีกว่านี้นะ” เขาลงท้ายประโยคอย่างโกรธๆ
เฮอร์ไมโอนี่เขียนรายงานเพิ่งเสร็จไปแค่สองวิชา ส่วนวิชาที่เหลือเป็นวิชาที่ต้องใช้หนังสือเฉพาะที่ถูกมัลฟอยหยิบไป เธอเก็บอุปกรณ์ตำราอย่างหงุดหงิด แต่แล้วมีเสียงกระพือปีกที่หน้าต่าง นกฮูกเหยี่ยวเกาะอยู่บนขอบหน้าต่างพลางแกะจดหมายทิ้งไว้ แล้วบินจากไป เฮอร์ไมโอนี่ลุกขึ้นไปหยิบจดหมายขึ้นมาอ่าน แน่นอน เธอรู้ดีว่านี่เป็นนกฮูกของใคร ในจดหมายระบุสถานที่ที่จะนัดเจอกับมัลฟอยเพื่อเขาจะได้คืนหนังสือให้เธอ เด็กสาวม้วนกระดาษยัดใส่เสื้อคลุม เก็บรายงานและอุปกรณ์ขึ้นไปเก็บบนหอนอน แล้วรีบก้าวข้ามช่องประตูเพื่อออกไปรับประทานอาหาร แฮร์รี่และรอน ซึ่งทานกันเกือบเสร็จแล้วมองเธออย่างแปลกใจเล็กน้อย
“นึกว่าจะกินรายงานแทนอาหาร” รอนเริ่มแขวะ
“แล้วสแคบเบอร์เป็นยังไงบ้าง” เฮอร์ไมโอนี่สะกดอารมณ์ถาม
“มันกลัวจนไม่กล้าออกจากกล่องในห้อง ตอนนี้มันผอมหัวโตแล้ว เพราะแมวบ้าๆ ของเธอ” รอนพูดเสียงดังจนคนอื่นหันมามอง แฮร์รี่ส่งเสียงห้ามรอนเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากเล็กน้อย พลางหันไปทางแฮร์รี่
“แล้วแฮกริดล่ะ เป็นยังไงบ้างแฮร์รี่”
“สงสัยจะเรื่องใหญ่” แฮร์รี่ตอบอย่างกังวล เขานึกเรื่องบัคบีคขึ้นได้ เพราะช่วงนี้เขาเริ่มซ้อมควิดดิชจนลืมไป
“ทางกระทรวงเริ่มยื่นเรื่องแล้ว เห็นทีแฮกริดจะแย่” เฮอร์ไมโอนี่ทำสีหน้ากังวล
“ฉันจะลองไปค้นหนังสือเก่าๆ เกี่ยวกับคำร้องคดีสัตว์ทำร้ายคนดู” เธอครุ่นคิด
“น่าจะมีหนังสือบางเล่มให้ข้อมูลได้”
“เอ่อ.. เฮอร์ไมโอนี่” แฮร์รี่พูดค่อยๆ
“เธอเองก็ดูแลตัวเองบ้างนะ ฉันว่าเธอจะเครียดเกินไปแล้วล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มบางๆ
“เธอเองก็หมั่นซ้อมควิดดิชนะ แฮร์รี่ ปีนี้เราต้องได้ถ้วยชนะเลิศให้ได้” แฮร์รี่พยักหน้ายิ้มรับคำ เฮอร์ไมโอนี่หยิบแก้วน้ำฟักทองขึ้นมาดื่ม แล้วลุกขึ้น
“ฉันจะไปห้องสมุด หาหนังสืออ่านอีกหน่อย เผื่อมีวิธีช่วยบัคบีคอีก” พูดจบเธอก็เดินออกไปอย่างเร็ว
มาดามพินซ์กรุณามาก เธอช่วยเฮอร์ไมโอนี่หาหนังสือเกี่ยวกับการฟ้องร้องคดีสัตว์ต่างๆ เฮอร์ไมโอนี่ไล่ดูเรื่อยๆ
“คดีนี้น่าสนใจ ตัวมันติคอร์ทำร้ายคน” เธออ่านรายละเอียด
“ปรากฏว่าไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เนื่องจากมันติคอร์ดุร้ายเกินไป จนเข้าใกล้ไม่ได้เลยต้องปล่อยไป..เฮ้อ..แบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยน่ะสิ” เฮอร์ไมโอนี่หลับตาแล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ มาดามพินซ์เดินมาที่เธอ
“มิสเกรนเจอร์จ๊ะ จวนได้เวลาปิดห้องสมุดแล้วนะจ๊ะ” เฮอร์ไมโอนี่ดูเวลา เกือบสองทุ่มแล้ว
“ขอบคุณค่ะ มาดามพินซ์” เธอรีบรวบรวมหนังสือเก็บ แล้วเดินออกจากห้องสมุด ตรงออกไปทางอีกด้านของปราสาท เธอหยิบจดหมายขึ้นมาอ่านทวน
“ทางใต้ของปราสาทชั้น 3 ห้องที่ 2 นับจากด้านใน” เธอพับจดหมายเก็บ
“ทำไมเรื่องมากแบบนี้นะ ไม่รู้จะมาไม้ไหนอีก” เธอบ่นพึมพำ พลางล้วงมือเข้าไปในเสื้อคลุม กระชับไม้กายสิทธิ์แน่น แล้วเดินต่อไปอย่างระมัดระวัง
“หวังว่าคงไม่เจอฟิลช์นะ” เธอพึมพำกับตัวเอง พลางมองสำรวจทั่วบริเวณทางเดินที่สลัวและเงียบสงัด ท่าทางว่าทางด้านนี้จะไม่ได้ใช้งานมานาน เพราะบางที่มีฝุ่นจับหนาเตอะ เฮอร์ไมโอนี่หันรีหันขวาง ลังเลใจอยู่ชั่วขณะ จึงตัดสินใจดันประตูบานหนึ่งเปิดออก แล้วเดินเข้าไปด้านใน มันดูเหมือนเคยเป็นห้องเรียนเก่ามาก่อนยังมีตำราเก่าๆ และตัวอย่างของสัตว์บางชนิดตั้งอยู่ เฮอร์ไมโอนี่เดินไปสำรวจดูอย่างสนใจ โดยเฉพาะตำราที่มีฝุ่นหนาเตอะจับอยู่
“เอ..คาถาต้องห้ามกับสมุนไพรอาถรรพ์” เฮอร์ไมโอนี่ตาโต หนังสือนี่จัดเป็นหนังสือต้องห้าม เธอค่อยๆ ปัดฝุ่นออก ทำความสะอาดหนังสืออย่างเบามือ และค่อยๆ เปิดออกอ่าน แต่มันมืดจนมองแทบไม่เห็นแล้ว
“ลูมอส” เธอพูดเบาๆ ไฟสีฟ้าอ่อนปรากฏบนปลายไม้กายสิทธิ์ของเธอ เด็กสาวก้มลงอ่านหนังสืออย่างสนใจจนลืมสภาพรอบข้าง
“เหลือเชื่อ..” เสียงยานคางดังขึ้นด้านหลัง เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้ง รีบปิดหนังสือแล้วหันกลับไปมอง มัลฟอยยืนอยู่หลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เขามองข้ามไหล่เด็กสาวอ่านชื่อบนปกหนังสือ
“นั่นมันหนังสือต้องห้ามนะ” เขาพูดพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าเธอเอามาได้ยังไง
“มันวางอยู่ในห้องนี้อยู่แล้วน่ะ” เธอพูดขึ้นอย่างเร็ว “แล้วหนังสือของฉันล่ะ” เธอรีบทวงถาม
มัลฟอยมองไปรอบๆ ตัว แล้วหันมามองหน้าเธอ
“ที่นี่เงียบดีนะ” เขาพูดอีกเรื่องหนึ่งแทน เฮอร์ไมโอนี่ขมวดคิ้ว ขยับไม้กายสิทธิ์แน่น มัลฟอยยิ้มอย่างรู้ทัน
“ถ้าจะใช้คาถากับฉันน่ะ เธอต้องดับไฟนั่นก่อนนะ” เขาหมายถึงขณะนี้เธอกำลังใช้คาถาจุดไฟอยู่ ไม่สามารถใช้คาถาอื่นได้จนกว่าจะยกเลิกคาถาเดิมก่อน เฮอร์ไมโอนี่ถลึงตาใส่มัลฟอย
“หนัง-สือ-ฉัน-อยู่-ที่-ไหน มัลฟอย” เธอเน้นย้ำทีละคำ มัลฟอยยิ้มอย่างรู้สึกดีใจที่ยั่วโมโหเฮอร์ไมโอนี่สำเร็จ เขามองไปที่มุมห้องอีกด้าน หนังสือของเฮอร์ไมโอนี่อยู่ที่นั่น มันถูกมัดไว้อย่างดี เฮอร์ไมโอนี่รีบเดินไปตรวจดูหนังสือของเธอ
“มันอยู่ครบน่า ยัยหัวฟู” เสียงมัลฟอยพูดอย่างรำคาญ
“จะไปรู้ได้ยังไง เกิด ‘คุณหนู’ ผู้สูงส่งเกิดอยากได้ของของคนอื่นขึ้นมาล่ะ” เฮอร์ไมโอนี่พูดเสียงขุ่นๆ มัลฟอยหยุดยิ้มทันที เขาจ้องเฮอร์ไมโอนี่อย่างโกรธเคือง
“นั่นมันเป็นนิสัยของพวก สีโคลน เกรนเจอร์” เขาเดินเข้ามาหาเธออย่างมุ่งร้าย “อย่ามาดูถูกฉันแบบนี้”
เฮอร์ไมโอนี่ผุดลุกขึ้นอย่างตกใจ เธอชี้ไม้กายสิทธิ์ที่ยังมีไฟสว่างอยู่ที่ปลายไม้
“น็อกซ์”
“เอกซ์เปลลิอาร์มัส” ทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน แต่ไม้กายสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่ปลิวไปอยู่ในมือของมัลฟอย เขาเอามันเก็บไว้ในเสื้อคลุม พลางยิ้มเยาะ
“ที่นี้ ” เขาเย้ย
“เธอก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ยัยหัวฟู” เฮอร์ไมโอนี่อึ้ง นึกถึงวันที่เขาสาปเธอนอนแข็งค้างอยู่ริมทะเลสาบ ถ้าเป็นที่นี่คนอื่นคงไม่มีทางรู้ว่าเธออยู่ตรงนี้แน่
“นายจะทำอะไรฉัน มัลฟอย” เธอพูดเสียงดัง พลางค่อยๆ ถอยหนีมัลฟอยที่เดินเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ จนติดผนังห้อง เฮอร์ไมโอนี่เบี่ยงตัวหลบ แต่มัลฟอยยกแขนข้างที่เจ็บขวางไว้ เธอมองแขนข้างนั้นเขม็ง
“แขนนาย หายแล้วนี่” พลางจ้องหน้ามัลฟอย เขายักไหล่น้อยๆ
“แต่นายบอกทุกคนว่านายเจ็บมาก นายโกหกทำไม จะแกล้งแฮกริดรึยังไงกัน” เธอพูดด้วยอารมณ์โกรธสุดขีด มัลฟอยยิ้มเยือกเย็น
“ก็ใช่ ฉันตั้งใจจะให้เจ้ายักษ์นั่นไปให้พ้นๆ” เขาหรี่ตาเล็กน้อย
“มัวแต่ห่วงคนอื่นน่ะ ตัวเองเคยห่วงบ้างมั้ย ยายเลือดสีโคลน” เฮอร์ไมโอนี่หน้าซีด
“นายจะทำอะไรฉัน” เธอพูดคำเดิมอย่างหวั่นๆ เขาจ้องไปที่ตากลมใสของเธอ
“คำขอบคุณ” เขาพูดสั้นๆ
“ง่ายๆ สั้นๆ แต่ต้องอย่างสุภาพและจริงใจ เธอคงทำไม่ได้มั้ง” เฮอร์ไมโอนี่เม้มปาก เชิดหน้า
“นายเอาหนังสือของฉันไปเฉยๆ จะให้ฉันขอบคุณอะไร” มัลฟอยจ่อไม้กายสิทธิ์ไปที่คอของเฮอร์ไมโอนี่
“งั้น ฉันขอเป็นอย่างอื่นก็แล้วกัน” ไม่พูดเปล่า เขาก้มหน้าลงมาหาเด็กสาวช้าๆ เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากจะร้องโวยวายออกมา แต่กลับอึ้งเมื่อมัลฟอยฝังจมูกลงบนแก้มของเธอแทน
“นาย..” เฮอร์ไมโอนี่พูดออกมาได้คำเดียว เขามองหน้าเธอนิ่งแล้วยิ้มบางๆ
“พวกเลือดสีโคลนนี่ นึกว่าจะมีแต่กลิ่นโคลนซะอีก” เขาเปลี่ยนเป็นยิ้มเหยียดหยัน
“อย่านึกว่าที่ฉันทำแบบนี้เพราะฉันพิศวาสเธอนะ เกรนเจอร์” เขาถอยหลังออกมาเล็กน้อย
“ฉันรู้..เรื่องแบบนี้มันทำให้เธอเสียศักดิ์ศรีมาก แล้วฉันก็จะทำมันอีกถ้ามีโอกาส” เขาเดินไปที่ประตู ก่อนล้วงไม้กายสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่ออกมา
“อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเจ้าพอตเตอร์ ฉันจะทำลายให้หมด”
เขาพูดพลางโยนไม้กายสิทธิ์ของเธอลงบนพื้น ก่อนออกจากห้องไป เฮอร์ไมโอนี่ทรุดตัวลงนั่ง พลางลูบแก้มตัวเองเบาๆ อย่างแค้นใจ เด็กสาวกัดฟันแน่น รวบรวมหนังสือขึ้นเต็มอ้อมแขน น้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม เธอเดินกลับมาถึงหอนอนอย่างไม่รู้ตัว
.
มัลฟอยเดินกลับหอด้วยอารมณ์หงุดหงิด เขารู้สึกสะใจที่แกล้งเฮอร์ไมโอนี่ได้ แต่อีกใจหนึ่ง เขารู้สึกอ่อนไหวกับสายตาของเธอที่จ้องกลับมา มันทำให้รู้สึกแปลกๆ เมื่อมาถึงหน้าหอ รูปปั้นนูนสูงรูปงูจ้องมาที่เขา ลิ้นหินอ่อนสีเทาแลบตวัดออกมา
“ดาร์ค อาร์ต”
เขาพูดพึมพำเบาๆ งูบิดตัวออกเปิดช่องให้เขาผ่านเข้าไป เขาเดินผ่านห้องนั่งเล่นรวม ซึ่งแพนซี่เตรียมตัวจะกระโดดเข้ามาเกาะแขนเขาไปอย่างไม่สนใจ เมื่อเข้าไปในห้องของเขา มัลฟอยทิ้งตัวลงบนที่นอนของตัว ยกแขนก่ายหน้าผากอย่างครุ่นคิด
“นายเป็นอะไรมัลฟอย” เสียงแครบถาม
“แล้วนายหายไปไหนมา ทำไมเพิ่งกลับเข้ามาล่ะ” กอยล์ถามบ้าง มัลฟอยลุกพรวดขึ้น
“มันเรื่องของฉัน ฉันไม่มีหน้าที่ตอบพวกนาย” เขาถอดเสื้อคลุมโยนลงบนเตียง เดินเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำใส่อ่างจนเต็มแล้วจุ่มหัวลงไป เหมือนจะให้น้ำล้างความคิดสับสนนี่ออกไป เขาเงยหน้าขึ้นมองกระจก
“ออกไปจากความคิดฉันนะ ยัยเลือดสีโคลน” เขากัดฟันพูดเบาๆ
                                                                    ................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น