ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สิ่งที่ต้องเลือก มิตรภาพ ความรัก

    ลำดับตอนที่ #4 : สิ่งที่ต้องเลือก มิตรภาพ ความรัก ตอนที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.ย. 48


    *****4*****



    “มิสเตอร์มัลฟอย ฉันเข้าใจดีว่าเธอไม่ชอบวิชานี้ แต่กรุณาให้ความสนใจกับมันด้วย” ศาสตราจารย์สเปราต์เตือนมัลฟอยที่กำลังเหม่อลอยอยู่ เขาสะดุ้ง แครบและกอยล์มองอย่างงงๆ

    “เป็นอะไรไปน่ะ เดรโก” แพนซี่ พาร์กินสัน เด็กสาวหน้างอถามเบาๆ

    “เรื่องของฉัน” เขาตอบสะบัดอย่างรำคาญ พลางตั้งสมาธิสนใจเจ้าต้นไม้เบื้องหน้า

    “ออฟตามิวคัส ใช้เป็นตัวยาประกอบยาจำพวกทำให้ฝัน แล้วแต่ว่าประกอบเข้ากับตัวยาประเภทไหน” ศาสตราจารย์สเปราต์อธิบายพลางยกถาดต้นไม้ ซึ่งพวกเขาดูแล้วไม่เห็นว่ามันจะเหมือนต้นไม้ตรงไหน มันเหมือนลูกตากลมโตขนาดเท่าลูกควัฟเฟิล มีเมือกเขียวๆ ห่อหุ้มโดยรอบมันกลอกกลิ้งไปมาอยู่ภายในเมือกสีเขียวนั่น

    “น่าขยะแขยงชะมัด” แพนซี่ พาร์กินสันทำท่าขนลุกพลางเบียดตัวเข้าหามัลฟอยเล็กน้อย เขาขยับออกอย่างรำคาญ

    “แล้วมัน....เอ่อ...มีพิษไหมครับ” เด็กคนหนึ่งยกมือถาม ศาสตราจารย์สเปราต์ยิ้ม

    “ตามลำพังไม่หรอกจ้ะ” เธอตอบ

    “แต่ถ้านำไปรวมกับยาตัวอื่นมันอาจจะเป็นพิษร้าย หรือเป็นยาก็ได้ เช่นถ้านำไปรวมกับตาคางคก 6 ขา 13 คู่ กับออฟตามิวคัส 1 ต้น จะได้น้ำยาฝันร้าย 1 ขวดเล็กๆ” เธออธิบาย

    “ออฟตามิวคัสไม่ชอบดินมาก ไม่ชอบน้ำแต่ชอบที่เย็นๆ มืดๆ ค่อนข้างชื้น การรดน้ำต้องกระทำโดยใช้น้ำเป็นละอองฝอย ค่อยๆ พรมนะจ๊ะเด็กๆ” เธอร้องเมื่อเห็นกอยล์ทำท่าจะเทน้ำทั้งถังลงไป “ถ้าโดนน้ำมากมันจะตายทันที”

    มัลฟอยค่อยๆ พรมน้ำรดเจ้าต้นลูกตาอย่างใจลอย ป่านนี้ยายเลือดสีโคลนนั่นจะเป็นยังไงบ้างนะ เขาคิด คงจะกลัวแย่แล้ว ตรงนั้นทั้งมืดและเย็นด้วย เด็กชายขมวดคิ้ว ช่างปะไร สมควรแล้วที่จะโดนแบบนั้น อีกใจหนึ่งค้านขึ้นมา พวกโคลนมันก็ต้องอยู่กับโคลนซิถึงจะเหมาะ

    “มิสเตอร์มัลฟอย” เสียงศาสตราจารย์สเปราต์แทรกขึ้นมา

    “ฉันว่าเธอให้น้ำออฟตามิวคัสมากเกินไปแล้วนะจ้ะ”

    เขาชะงัก ก้มลงมองถาดลูกตาซึ่งน้ำท่วมถาดได้ครึ่งตาแล้ว และมันกำลังหมุนไปมาเหมือนคนตาเหลือกสำลักน้ำอยู่ แล้วก็มีเสียงฟุ่บ เบาๆ เจ้าลูกตาพ่นฟองอากาศเป็นฝอยเล็กๆ ออกมา แล้วมันก็เหี่ยวลงสลายเป็นเมือกเขียวเละๆ ไป

    “แย่จริง” ศาสตราจารย์สเปราต์บ่น

    “มันสำลักน้ำตายเสียแล้ว ฉันต้องขอโทษที่ต้องหักคะแนนเธอ 5 คะแนนนะจ๊ะมิสเตอร์มัลฟอย แล้วเธอก็ต้องมาเรียนซ่อมชั่วโมงนี้ด้วย” เธอหันไปตบมือเบาๆ

    “เอาล่ะจ้ะเด็กๆ เอาถาดต้นออฟตามิวคัสไปเก็บได้แล้วจ้ะ อย่าลืมปิดตู้เพาะให้เรียบร้อยก่อนกลับนะจ๊ะ”

    มัลฟอยมองดูถาดต้นลูกตาของเขาอย่างเซ็งๆ เพราะไปคิดถึงยายเกรนเจอร์ถึงเป็นแบบนี้ เขาคิด

    “ไปกันเถอะเดรโก” เสียงแพนซี่ดังฉอเลาะขึ้นมา เขาพยักหน้าอย่างเบื่อๆ เดินออกจากห้องกระจก

    เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ในห้องโถงใหญ่ เด็กๆ ต่างสาละวนกับการรับประทานอาหารเย็น

    “ศาสตราจารย์ลูปินนะ สุดยอดเลย” เสียงเฟร็ดคุย

    “เขาใช้ ‘ของจริง’ สอนเลยล่ะ แฮร์รี่” จอร์จเสริม

    “เราจะได้เรียนกับเขาพรุ่งนี้ ต่อจากสเนป” แฮร์รี่บอก รอนเคี้ยวเนื้อแกะย่างพลางพูด

    “ก็ดีนะ วิชาห่วย กับวิชาสุดยอด” แฮร์รี่มองไปรอบๆ

    “เฮอร์ไมโอนี่ล่ะ” เขาถาม

    “ห้องสมุดมั้ง ถ้าหนังสือเป็นอาหาร ป่านนี้ยายนั่นคงอ้วนกลมไปแล้วล่ะ” รอนตอบพลางจิ้มแครอทต้มเข้าปาก

    ไม่เพียงแฮร์รี่ที่มองหาเฮอร์ไมโอนี่ มัลฟอยเองก็รู้สึกแปลกใจที่เขามองหาเด็กสาวด้วยเช่นกัน

    “แปลก” เขาพึมพำเบาๆ

    “ไม่มีใครรู้เลยหรือนี่” แล้วอยู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกจากห้องอาหาร

    “จะไปไหนเดรโก” แพนซี่ดึงมือเขาถามอย่างอยากรู้ มัลฟอยดึงมือกลับ

    “เรื่องของฉัน” เขาตอบสะบัดเสียง พลางเดินออกจากห้องอาหารอย่างเร็ว

    ………………………………………………………

    ขณะนี้ความมืดเริ่มแผ่เข้ามาปกคลุมทั่วบริเวณปราสาทแล้ว เฮอร์ไมโอนี่นอนตาลืมโพลงด้วยความหวาดกลัว เธอสะดุ้งทุกครั้งที่มีเสียงกรอบแกรบดังขึ้น มีเสียงกิ่งไม้หักเบาๆ พร้อมดวงตาวาวเรืองที่จ้องมายังเธอ เฮอร์ไมโอนี่อยากจะกรีดร้อง แต่ขากรรไกรเธอแข็งค้างไปหมด เจ้าของดวงตานั้นเลื่อนเข้ามาใกล้ๆ หนูป่านั่นเอง เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก มีเสียงสวบสาบดังขึ้นอีก เฮอร์ไมโอนี่ภาวนาขอให้เป็น แฮร์รี่ รอนหรือใครก็ได้ มาเจอเธอเร็วๆ เงาสีขาวโผล่วูบมาตรงหน้าเธอ เฮอร์ไมโอนี่เบิกตาโตด้วยความตกใจสุดขีด แต่แล้วก็เปลี่ยนเป็นประหลาดใจและโกรธเมื่อเห็นคนที่ยู่ตรงหน้า

    “นึกว่าโดนแมงมุมลากไปกินแล้วเสียอีก” น้ำเสียงเยาะนิดๆ ออกจะผิดหวัง

    “ฉันคิดจะกลับมาเก็บชิ้นส่วนของเธอนะนี่” มัลฟอยนั่งลงข้างๆ เธอ เขามองไปรอบๆ

    “น่ากลัวนะ” เขาพูดแล้วสายตามาหยุดที่เฮอร์ไมโอนี่

    “อยากให้ฉันช่วยไหมล่ะ” เขาถามพลางหรี่ตาอย่างผู้ที่อยู่เหนือกว่า

    “อ้อนวอนซิ” แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับส่งแววตาขุ่นเขียวกลับมาที่เขา มัลฟอยหัวเราะในลำคอ

    “อวดเก่ง” เขาพูดเบาๆ

    “ฉันว่าฉันกลับไปตอนนี้ดีกว่าแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยมาเก็บชิ้นส่วนเธอ” เขาทำท่าจะลุก เฮอร์ไมโอนี่เหลือกตามองอย่างตกใจ น้ำตาเริ่มเอ่อที่ขอบตาอีกครั้ง มัลฟอยมองตากลมโตคู่นั้นอย่างรู้สึกสะใจ เขาหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาหมุนในมืออย่างใคร่ครวญ

    “จะเอายังไงดีล่ะ” เขาแกล้งพูด

    “ถ้าคลายคาถาตอนนี้ เธอก็คงลุกขึ้นมาแล้วตบหน้าฉัน หรือว่า..” เขาหยุดพูดแล้วหรี่ตา

    “ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เดินกลับไปนอนอย่างสบายอารมณ์”

    ถ้าสายตาของเฮอร์ไมโอนี่ฆ่าคนได้มัลฟอยคงแตกเป็นเสี่ยงไปแล้ว เธอจ้องมัลฟอยด้วยสายตาวาวโรจน์ และเขาก็มองกลับด้วยแววตาของผู้มีชัย รอยยิ้มเหยียดยังคงอยู่ที่มุมปากซีดของเขา

    “สายตาแบบนี้หมายความว่า เธออยากอยู่แบบนี้ต่อไปจนเช้าใช่ไหม ยายหัวฟู” เขาพูด เฮอร์ไมโอนี่สลดตาลงวูบหนึ่งเหมือนขอร้องจนมัลฟอยรู้สึกแปลกใจ

    “งั้นก็ได้” เขาพูด พลางใช้ไม้กายสิทธิ์เคาะเบาๆ ที่ตัวของเฮอร์ไมโอนี่ ทันทีที่ขยับตัวได้เธอรีบลุกขึ้นนั่ง เงื้อมือเตรียมฟาดลงบนหน้าของมัลฟอย เขารับมือเล็กๆ นั้นไว้ทัน

    “นึกแล้วว่าต้องมาแบบนี้ นี่เป็นวิธีขอบคุณของพวกเลือดสีโคลนรึ” เขาเลื่อนมือไปกระชากคอเสื้อเฮอร์ไมโอนี่ดึงเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว

    “ขอบคุณน่ะต้องแบบนี้เกรนเจอร์”

    โดยไม่ทันตั้งตัว มัลฟอยประกบปากของเขากับปากของเธออย่างหนักหน่วง เด็กสาวตกใจจนตัวแข็งทื่อ พอตั้งสติได้ เธอรวบรวมกำลังทั้งหมดผลักเขาอย่างแรง มัลฟอยผงะหงาย ไม้กายสิทธิ์กลิ้งอยู่ข้างตัว เขาเงยหน้าขึ้นมองเธออย่างโกรธเคือง แต่ก็ต้องอ้าปากค้างเพราะเฮอร์ไมโอนี่ชี้ไม้กายสิทธิ์ของเธอจ้องมาทางเขา เนื้อตัวสั่นด้วยความโกรธ น้ำตาเอ่อล้นไหลพราก

    “นายมัน…” เธอพูดหอบหายใจ

    “เลว!”

    ขาดคำเฮอร์ไมโอนี่ผุดลุกขึ้นแล้ววิ่งหายเข้าไปในปราสาท ทิ้งให้มัลฟอยนั่งนิ่งงันอยู่ เขาลูบริมฝีปากตัวเองเบาๆ

    “เราทำอะไรลงไปน่ะ” พลางมองไปยังตั้งหนังสือกองโตที่เฮอร์ไมโอนี่ลืมทิ้งไว้

    “ไม่น่าหาเรื่องเลย” เขาพึมพำเบาๆ



                                                  .................................
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×