ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Search your Heart
ก่อนจะโพสต์ตอนต่อไป ผู้แต่งเพิ่งได้ทราบมาว่า ฟิคชั่นซีรี่ย์เกี่ยวกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ อันมี
สิ่งที่ต้องเลือก มิตรภาพ ความรัก
Search your Heart
[Everything I do] I do it for you
ทั้งสามเรื่องของผู้แต่งนี้บางตอนถูกลักลอบนำมาลงที่เวปเด็กดีนี้แล้วโดยที่ผุ้แต่งไม่รู้เรื่องเลย
อีกทั้งยังถูกลักลอบไปลงยัง มักเกิ้ลไทยอีกด้วย
ผู้แต่งของแจ้งให้ทราบว่า ฟิคทั้งสามเรื่องนี้ เป็นของ moony_lupin หรือ moony of Lorien แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
และยังมีตอนที่ 4 คือ
Pureblood สายเลือดแห่งความตาย ซึ่งยังไม่จบอีกหนึ่งตอน
ฟิคชั่นทั้ง สี่ ตอนนั้นมีบางสิ่งที่เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงต่อกันมาโดยตลอด ซึ่งเป็นพล็อตที่ผู้เขียนตั้งใจทำไว้เพื่อเป็นการป้องกันกรณีเช่นนี้
นอกจากนี้ยังมีซี่รี่ย์แยกต่างหากของ [everything I do] ซึ่งเป็นเรื่องราวย้อนกลับไปยังอดีต กล่าวถึงแกรสดิโอส อันเป้นตัวนำเรื่องในตอนนี้อีกด้วย
ที่เกริ่นนำมายาวเหยียดนี้เพื่อแจ้งให้ท่านผู้อ่านทุกท่านให้ได้ทราบในข้อเท็จจริงนี้เท่านั้น เพื่อที่ว่าหากพบกับซีรี่ย์ชุดนี้ที่ใด
จะได้ทราบว่าผู้แต่งที่แท้จริงคือผู้ใด
ขอขอบพระคุณ
เชิญทุกๆท่านกลับเข้าสู่ความเพลิดเพลินของฟิคชั่น Search you Heart ต่อได้
*****2*****
การคัดสรรผ่านไปอย่างเรียบร้อย หลังจากรับประทานอาหารและแนะนำตัวอาจารย์กันเสร็จเรียบร้อยแล้วทุกคนก็ต่างพากันแยกย้ายกลับหอนอน เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองมัลฟอย แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจจะหันมามองทางพวกเธอเหมือนทุกครั้ง เธอเม้มปากก่อนจะตัดสินใจเดินกลับขึ้นหอนอนอย่างไม่สบายใจ เธอเกือบจะไม่ได้ยินพรีเฟ็คของกริฟฟินดอร์บอกรหัสผ่านด้วยซ้ำหากแฮร์รี่ไม่สะกิดเตือน เขามองเธออย่างกังวล
“แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร” เขาถามย้ำ
“ฉันสบายดีจริงๆ แฮร์รี่ ขอบใจมาก ราตรีสวัสดิ์” เธอแยกขึ้นไปทางหอหญิง
“จะมานั่งกลุ้มเรื่องแบบนี้อยู่ไม่ได้” เธอคิด
“พรุ่งนี้เราต้องเรียนแต่เช้า” เด็กสาวคิดวนไปวนมาจนหลับไป
เวลาอาหารเช้า เมื่อทุกคนได้รับแจกตารางเรียนแล้ว ต่างรีบดูวิชาแรกที่จะได้เรียน แฮร์รี่ และรอนแทบลาป่วย
“นี่เราต้องเรียนกับสลิธีรินตั้งแต่คาบแรกของปีเลยรึนี่” รอนร้อง เบ้หน้าไปทางโต๊ะสลิธีริน
“แถมเป็นวิชาของสเนปอีก ฉันว่าเขาต้องเป็นคนจัดตารางเรียนแน่ๆ นายว่าไหม แฮร์รี่” แฮร์รี่ยิ้มรับพลางเหลือบสายตาไปทางโต๊ะของอาจารย์  สเนปยังคงส่งสายตาที่ชิงชังมาที่เขาเหมือนเดิมก่อนจะเบือนไปทางอื่น
“ฉันตายแน่” เสียงเนวิลล์ ลองบัตท่อม ครางเบาๆ เขามักถูกสเนปไล่เบี้ยอยู่เสมอเพราะความเป็นคนที่มีสมองเฉื่อยชา “คงไม่ถึงตายหรอกน่า เนวิลล์ ยังไงสเนปคงไม่กล้าฆ่านายต่อหน้าพวกเราหรอก” ดีน โทมัส พูดเบาๆ
“แต่ถ้าทำเป็นอุบัติเหตุก็ไม่แน่นะ” รอนแย้ง จนเฮอร์ไมโอนี่ต้องส่งสายตาดุมา เขาทำเป็นหยิบเบคอนเข้าปากอย่างไม่รู้ไม่ชี้
..
“ลองบัตท่อม เธอจำไม่ได้รึยังไงว่าฉันสั่งให้ใส่หนวดตะขาบลงไปก่อนใส่ตับงูไพธ่อน หา!” เสียงสเนปตะคอกลั่นคุกใต้ดิน
“ตลอดปิดเทอมมานี่เธอคงไม่ได้ไปทำให้กะโหลกหนาๆ ของเธอบางลงเลยใช่ไหม มันถึงไม่เคยซึมซับอะไรลงไปเลยน่ะ” เด็กชายตัวสั่นอย่างประหม่าและเริ่มทำตัวไม่ถูก
“ไม่ต้องแก้ไข เปลี่ยนหม้อใหม่แล้วปรุงใหม่ทั้งหมด หักกริฟฟินดอร์ 10 คะแนน” เสียงกังวานดังไปทั่วแล้วเขาก็เดินตรวจเด็กๆ ทีละคน
“มิสบราวน์ ดูเธอจะให้ความสำคัญกับความงามมากกว่าการปรุงยานะ ฉันให้ตัดหนวดตะขาบ ไม่ใช่บรรจงเลาะมันจนเป็นแบบนี้” เขาเขี่ยหนวดตะขาบที่หลุดเป็นปล้องๆไปมา
“หักกริฟฟินดอร์ 5 คะแนน” เสียงหัวเราะเยาะคิกคักดังมาจากกลุ่มสลิธีริน มัลฟอยส่งสายตาเยาะเย้ยมาทางแฮร์รี่ แต่ดูเหมือนเขาจะพยายามไม่สนใจอะไร เนวิลล์เริ่มมือสั่นเมื่อสเนปเดินใกล้เข้ามา จนเฮอร์ไมโอนี่ต้องแอบกระซิบบอกวิธีที่ถูกต้อง
“ใครสั่งให้เธอแส่สอนคนอื่น หา เกรนเจอร์” เสียงเกรี้ยวกราดของสเนปดังขึ้นทันที
“ดูเหมือนระยะหลังมานี่เธอจะทำตัวเป็นผู้รู้มากเหลือเกินนะ” เขาหยุดยืนจ้องหน้าเฮอร์ไมโอนี่
“หักกริฟฟินดอร์ 10 คะแนนโทษฐานสู่รู้ทำนอกเหนือคำสั่งอาจารย์”
สเนปยังคงเดินวนไปวนมาระหว่างโต๊ะของกริฟฟินดอร์  พร้อมกับเสียงหักคะแนนดังตลอดเวลาจนหมดคาบ
หลังหมดคาบวิชาปรุงยา เป็นช่วงเวลาว่างของกริฟฟินดอร์ เฮอร์ไมโอนี่รีบเดินเข้าห้องสมุดทันที หลังจากค้นหาหนังสือไปประมาณ 10 นาที เธอก็ได้กองหนังสือตั้งใหญ่ เด็กสาวรีบก้มหน้าก้มตาเปิดอ่านโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัว
“ดูอะไรนี่สิพวกเรา” เสียงแหลมน่ารังเกียจดังขึ้นไม่ไกลนัก
“ใครมานั่งอยู่ตรงนี้”
“น่าขยะแขยง” เสียงอีกคนหนึ่งพูดรับ “พวกโคลนโสโครก”
เฮอร์ไมโอนี่เอะใจและรู้สึกรำคาญจึงเงยหน้าขึ้นดู เธอขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นเจ้าของเสียง  เด็กหญิงบ้านสลิธีรินกลุ่มเดียวกับที่มีเรื่องบนรถไฟกับเธอทั้งกลุ่มนั่งมองตรงมาที่เฮอร์ไมโอนี่ โดยมีแพนซี่ พาร์กินสันเป็นหัวโจกเหมือนเคย
“เหม็นกลิ่นโคลนสกปรกจริงๆ” แพนซี่พูดทำจมูกย่น ยิ่งทำให้หน้างอๆ ของเธอยิ่งดูยับย่นน่าเกลียดขึ้นไปอีก
“ไม่รู้ว่าเราจะต้องทนหายใจเอากลิ่นเหม็นๆ แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน”
“ไม่ยากเลยแพนซี่” มิลลิเซนต์ บัลสโตรด เด็กหญิงร่างยักษ์พูดอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“กวาดมันทิ้งไปก็สิ้นเรื่อง”
เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากอย่างอดทนแล้วก้มหน้าลงอ่านหนังสือต่อ แพนซี่เดินตรงมาที่โต๊ะของเฮอร์ไมโอนี่ หล่อนวางมือลงบนหนังสือที่เธอกำลังอ่าน
“ออกไปยายเลือดโสโครก แกนั่งอยู่แถวนี้ฉันหายใจไม่ออก อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง”
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองอย่างรำคาญใจ ก่อนที่เธอจะตอบอะไร สายตาก็เหลือบไปเห็นมัลฟอยนั่งดูเธออยู่อีกด้านหนึ่งด้วยสายตานิ่งเฉยชา เด็กสาวอึ้งเล็กน้อย เสียงแพนซี่ดังขัดขึ้นมาอีก
“หูหนวกรึยังไง ยัยหนอนโสโครก” เฮอร์ไมโอนี่มองหล่อนด้วยความโกรธ
“อย่างที่ฉันเคยพูด หูของฉันจะฟังแต่คำพูดดีๆ” เธอพูดเสียงเย็น
“และที่เธอบอกว่าอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง น่าจะมาจากสมองของเธอเองมากกว่านะ” แพนซี่โกรธจนตัวสั่น
“แก!!” หล่อนเค้นเสียงออกมา มาดามพินซ์เดินมาที่โต๊ะของพวกเธอ
“ที่นี่เป็นห้องสมุด” เธอพูดดุๆ กวาดสายตามองกลุ่มแพนซี่ “ใครเสียงดังช่วยออกไปข้างนอก”
แพนซี่มองมาดามพินซ์อย่างเกรงๆ ก่อนค่อยๆ ถอยไปรวมกลุ่ม แต่ยังคงปรายหางตามาทางเฮอร์ไมโอนี่อย่างมุ่งร้าย เมื่อมาดามดินซ์เห็นเด็กๆ ทุกคนสงบปากลงเธอจึงค่อยหันหลังกลับไปทำงานของเธอต่อ
เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่มัลฟอยอีกครั้ง เขายังคงมองมาที่เธอด้วยดวงตาสีเทาที่เย็นชา รอยยิ้มเยาะปรากฏที่มุมปากซีดของเขา เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกที่คอ เธอปิดหนังสือเก็บรวบรวมมันใส่กระเป๋าก่อนจะเดินออกจากห้องสมุดด้วยความรู้สึกสับสนและน้อยใจ
..........................................................................................................
ชั่วโมงสมุนไพรศาสตร์ก็เป็นอีกวิชาหนึ่งที่พวกแฮร์รี่ต้องเรียนร่วมกับสลิธีริน ศาสตราจารย์สเปราต์สั่งให้เด็กทั้งสองกลุ่มจับสลับคู่กันเพื่อช่วยกันดูต้นพอร์พิต้า โชคร้ายที่แฮร์รี่และรอนได้จับคู่กับแครบและกอยล์ ซึ่งดูเหมือนจะเกะกะมากกว่าช่วย มิหนำซ้ำเมื่อไม่มีเจ้านายอยู่ด้วยแล้วสองคนนี่แทบจะทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากถลึงตาใส่แฮร์รี่และรอน เมื่อถูกศาสตราจารย์สเปราต์ดุเวลาทำผิด ส่วนเนวิลล์โชคร้ายที่ต้องจับคู่กับ แพนซี่ พาร์กินสัน
“ทำไมฉันต้องคู่กับคนโง่ๆ อย่างแกด้วยนะ” หล่อนกระแทกเสียงอย่างไม่พอใจ และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อมองไปอีกคู่หนึ่งไม่ไกลนัก เฮอร์ไมโอนี่กำลังใช้ปากคีบหนีบหนอนตัวเล็กๆไปจ่อไว้ตรงช่องที่อยู่ตรงกลางของต้นพอร์พิต้า เธอมองดูหนวดเขียวๆ เป็นปล้องๆ ของมันขยับขึ้นมาจับหนอนส่งเข้าปากเองอย่างแหยงๆ เธอมองมัลฟอยที่ยังคงยืนเฉยอยู่
“นายจะไม่ลองให้อาหารมันดูบ้างเหรอ” มัลฟอยมองดูต้นพอร์พิต้าอย่างรังเกียจ เขาเบ้ปาก
“ฉันไม่มีหน้าที่ให้อาหารสัตว์” เขาพูดเสียงเหยียดๆ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกขัดหูกับประโยคของเขาอย่างมาก
“นี่เป็น พืช ไม่ใช่สัตว์..มัลฟอย” เธอเน้นคำอธิบายเหมือนเขาเป็นเด็กๆ ที่ไม่รู้เรื่องอะไร
“พอร์พิต้าชอบขึ้นในที่ชุ่มชื้น มีแดดพอเหมาะ มันจะขับเมือกออกมาคลุมตัวให้เย็นอยู่เสมอ แต่เมือกของมันจะเป็นกรดต่อผิวหนังของสิ่งมีชีวิตอื่น ความรุนแรงแล้วแต่ขนาดและอายุของต้นพอร์พิต้าต้นนั้นๆ” เธออธิบายอย่างยืดยาวจนมัลฟอยทำสีหน้าเหมือนกลืนเมือกของพอร์พิต้าเข้าไปซักครึ่งถ้วย
“เมือกของพอร์พิต้าสามารถใช้.........” เธอตั้งท่าจะอธิบายต่อ แต่มัลฟอยรีบโบกมือแล้วหยิบปากคีบมาจากมือของเธอคีบหนอนยัดเข้าไปในช่องกลวงของพอร์พิต้า
“นายทำอย่างนั้นไม่ได้” เฮอร์ไมโอนี่ร้องเบาๆ
“ทำแบบนั้นพอร์พิต้าจะนึกว่าถูกทำร้าย มันจะไม่กิน นายต้องเอาเหยื่อเข้าไปใกล้ๆ ระยะหนวดของมันแบบนี้”
เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าให้อาหารต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว มัลฟอยแอบยิ้มในท่าทางของเธอก่อนปรับสีหน้าให้เฉยเหมือนเดิม
“เก่งนี่” เขาชม เฮอร์ไมโอนี่เกือบจะยิ้มออกมาแต่..
“สมเป็นพวกเลือดสีโคลน งานแบบนี้ยังทำเป็น” เธอส่งปากคีบคืนให้มัลฟอย
“ก็ยังดีกว่าพวกเลือดบริสุทธิ์ ที่ทำเป็นแค่ป้อนอาหารเข้าปากตัวเอง” เธอประชดประชันจ้องหน้าเขา มัลฟอยจ้องเธอกลับอย่างโกรธๆ
“อย่าทำอวดเก่ง อย่างเธอน่ะมันก็แค่พวกเลือดสีโคลนที่ชอบอวดรู้ อวดฉลาดเท่านั้นเอง” เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากตัวเองแล้วความอดกลั้นของเธอก็หมดลงเมื่อได้ฟังประโยคต่อไปของเขา
“แค่มายืนใกล้ๆ เธอฉันก็เต็มทนแล้ว กลับหอคงต้องรีบอาบน้ำล้างหน้า ล้างจมูก ล้างหูให้สะอาด......” ยังไม่จบประโยคดีเขาก็ต้องรีบยกมือปิดหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อเฮอร์ไมโอนี่หยิบกองพอร์พิต้าโยนใส่เขาเต็มแรง เมือกเหลวเยิ้มของมันกระจายไปทั่ว เสียงศาสตราจารย์สเปราต์ดังขึ้นอย่างตกใจ
“พวกเธอทำอะไรกัน รู้ไหมว่าเมือกนี่มันเป็นกรด”  เธอรีบโบกไม้กายสิทธิ์ สายยางรดน้ำลอยขึ้นมาพร้อมน้ำที่ไหลออกมาล้างตัวของเด็กทั้งสอง
“ยังดีนะที่มันยังเป็นต้นอ่อน พวกเธอเลยได้แค่แผลพองแดงเท่านั้น” ศาสตราจารย์สเปราต์พูดเสียงโกรธๆ ขณะตรวจดูแผลหลังจากใช้น้ำล้างเมือกจนหมดแล้ว
“หักคนละ 20 คะแนน ฐานก่อเรื่องวิวาทและทำลายข้าวของ และฉันจะกักบริเวณเธอทั้งสองคนด้วย” เธอหันไปโบกมือไล่เด็กคนอื่นๆ ให้กลับไปทำงานต่อก่อนจะหันมาทางเด็กทั้งคู่
“เธอสองคนรีบไปหามาดามพอมฟรีย์เดี๋ยวนี้เพื่อทำแผล แล้วเย็นนี้หลังอาหารมาหาฉันที่นี่”
พูดจบเธอก็หันไปสอนเด็กคนอื่นๆ ต่อ เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยก่อนสะบัดหน้าเดินออกจากเรือนกระจก มัลฟอยมองเธออย่างโกรธๆ ก่อนเดินตามออกไป
“โดนกักบริเวณกับเจ้านั่น อะไรจะโชคร้ายขนาดนั้นนะ” รอนบ่นขณะตักอาหารเข้าปาก พลางเหลือบมองไปทางโต๊ะสลิธีรินอย่างเกลียดชัง
“ให้พวกเราไปเป็นเพื่อนไหม” แฮร์รี่ถามเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า
“อย่าดีกว่าเดี๋ยวถ้าถูกจับได้จะยิ่งแย่” เธอพยายามทานอาหารให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ รอนแอบหยิบขนมสองสามชิ้นใส่กระเป๋าเสื้อคลุมของเธอ เฮอร์ไมโอนี่มองตาเขียว
“ฉันไม่ได้ไปทำสงครามนะรอนแค่ถูกกักบริเวณ”
“นั่นแหละ” รอนพูดพลางส่งทาร์ตผลไม้เข้าปาก
“แค่โดนกักคู่กับหมอนั่นก็เหมือนเข้าสู่สงครามแล้ว ถ้าเธอถูกส่งไปทำงานที่คุกใต้ดินล่ะ” รอนทำท่าสยอง
“อย่างน้อยก็เป็นเสบียงไว้เวลาไปที่ห้องพยาบาลไง”
แฮร์รี่มองเฮอร์ไมโอนี่ที่หน้าเริ่มเข้มขึ้นขณะที่มองรอน เขาหัวเราะเบาๆ
“มันคงไม่เลวร้ายถึงขนาดนั้นมั้งรอน” เขาพูดขึ้นเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่ตั้งท่าจะต่อว่ารอน แต่อีกฝ่ายยักไหล่
“กันไว้ก่อนเพื่อน” เขาพูดยิ้มๆ
สิ่งที่ต้องเลือก มิตรภาพ ความรัก
Search your Heart
[Everything I do] I do it for you
ทั้งสามเรื่องของผู้แต่งนี้บางตอนถูกลักลอบนำมาลงที่เวปเด็กดีนี้แล้วโดยที่ผุ้แต่งไม่รู้เรื่องเลย
อีกทั้งยังถูกลักลอบไปลงยัง มักเกิ้ลไทยอีกด้วย
ผู้แต่งของแจ้งให้ทราบว่า ฟิคทั้งสามเรื่องนี้ เป็นของ moony_lupin หรือ moony of Lorien แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น
และยังมีตอนที่ 4 คือ
Pureblood สายเลือดแห่งความตาย ซึ่งยังไม่จบอีกหนึ่งตอน
ฟิคชั่นทั้ง สี่ ตอนนั้นมีบางสิ่งที่เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงต่อกันมาโดยตลอด ซึ่งเป็นพล็อตที่ผู้เขียนตั้งใจทำไว้เพื่อเป็นการป้องกันกรณีเช่นนี้
นอกจากนี้ยังมีซี่รี่ย์แยกต่างหากของ [everything I do] ซึ่งเป็นเรื่องราวย้อนกลับไปยังอดีต กล่าวถึงแกรสดิโอส อันเป้นตัวนำเรื่องในตอนนี้อีกด้วย
ที่เกริ่นนำมายาวเหยียดนี้เพื่อแจ้งให้ท่านผู้อ่านทุกท่านให้ได้ทราบในข้อเท็จจริงนี้เท่านั้น เพื่อที่ว่าหากพบกับซีรี่ย์ชุดนี้ที่ใด
จะได้ทราบว่าผู้แต่งที่แท้จริงคือผู้ใด
ขอขอบพระคุณ
เชิญทุกๆท่านกลับเข้าสู่ความเพลิดเพลินของฟิคชั่น Search you Heart ต่อได้
*****2*****
การคัดสรรผ่านไปอย่างเรียบร้อย หลังจากรับประทานอาหารและแนะนำตัวอาจารย์กันเสร็จเรียบร้อยแล้วทุกคนก็ต่างพากันแยกย้ายกลับหอนอน เฮอร์ไมโอนี่เหลือบมองมัลฟอย แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจจะหันมามองทางพวกเธอเหมือนทุกครั้ง เธอเม้มปากก่อนจะตัดสินใจเดินกลับขึ้นหอนอนอย่างไม่สบายใจ เธอเกือบจะไม่ได้ยินพรีเฟ็คของกริฟฟินดอร์บอกรหัสผ่านด้วยซ้ำหากแฮร์รี่ไม่สะกิดเตือน เขามองเธออย่างกังวล
“แน่ใจนะว่าไม่เป็นอะไร” เขาถามย้ำ
“ฉันสบายดีจริงๆ แฮร์รี่ ขอบใจมาก ราตรีสวัสดิ์” เธอแยกขึ้นไปทางหอหญิง
“จะมานั่งกลุ้มเรื่องแบบนี้อยู่ไม่ได้” เธอคิด
“พรุ่งนี้เราต้องเรียนแต่เช้า” เด็กสาวคิดวนไปวนมาจนหลับไป
เวลาอาหารเช้า เมื่อทุกคนได้รับแจกตารางเรียนแล้ว ต่างรีบดูวิชาแรกที่จะได้เรียน แฮร์รี่ และรอนแทบลาป่วย
“นี่เราต้องเรียนกับสลิธีรินตั้งแต่คาบแรกของปีเลยรึนี่” รอนร้อง เบ้หน้าไปทางโต๊ะสลิธีริน
“แถมเป็นวิชาของสเนปอีก ฉันว่าเขาต้องเป็นคนจัดตารางเรียนแน่ๆ นายว่าไหม แฮร์รี่” แฮร์รี่ยิ้มรับพลางเหลือบสายตาไปทางโต๊ะของอาจารย์  สเนปยังคงส่งสายตาที่ชิงชังมาที่เขาเหมือนเดิมก่อนจะเบือนไปทางอื่น
“ฉันตายแน่” เสียงเนวิลล์ ลองบัตท่อม ครางเบาๆ เขามักถูกสเนปไล่เบี้ยอยู่เสมอเพราะความเป็นคนที่มีสมองเฉื่อยชา “คงไม่ถึงตายหรอกน่า เนวิลล์ ยังไงสเนปคงไม่กล้าฆ่านายต่อหน้าพวกเราหรอก” ดีน โทมัส พูดเบาๆ
“แต่ถ้าทำเป็นอุบัติเหตุก็ไม่แน่นะ” รอนแย้ง จนเฮอร์ไมโอนี่ต้องส่งสายตาดุมา เขาทำเป็นหยิบเบคอนเข้าปากอย่างไม่รู้ไม่ชี้
..
“ลองบัตท่อม เธอจำไม่ได้รึยังไงว่าฉันสั่งให้ใส่หนวดตะขาบลงไปก่อนใส่ตับงูไพธ่อน หา!” เสียงสเนปตะคอกลั่นคุกใต้ดิน
“ตลอดปิดเทอมมานี่เธอคงไม่ได้ไปทำให้กะโหลกหนาๆ ของเธอบางลงเลยใช่ไหม มันถึงไม่เคยซึมซับอะไรลงไปเลยน่ะ” เด็กชายตัวสั่นอย่างประหม่าและเริ่มทำตัวไม่ถูก
“ไม่ต้องแก้ไข เปลี่ยนหม้อใหม่แล้วปรุงใหม่ทั้งหมด หักกริฟฟินดอร์ 10 คะแนน” เสียงกังวานดังไปทั่วแล้วเขาก็เดินตรวจเด็กๆ ทีละคน
“มิสบราวน์ ดูเธอจะให้ความสำคัญกับความงามมากกว่าการปรุงยานะ ฉันให้ตัดหนวดตะขาบ ไม่ใช่บรรจงเลาะมันจนเป็นแบบนี้” เขาเขี่ยหนวดตะขาบที่หลุดเป็นปล้องๆไปมา
“หักกริฟฟินดอร์ 5 คะแนน” เสียงหัวเราะเยาะคิกคักดังมาจากกลุ่มสลิธีริน มัลฟอยส่งสายตาเยาะเย้ยมาทางแฮร์รี่ แต่ดูเหมือนเขาจะพยายามไม่สนใจอะไร เนวิลล์เริ่มมือสั่นเมื่อสเนปเดินใกล้เข้ามา จนเฮอร์ไมโอนี่ต้องแอบกระซิบบอกวิธีที่ถูกต้อง
“ใครสั่งให้เธอแส่สอนคนอื่น หา เกรนเจอร์” เสียงเกรี้ยวกราดของสเนปดังขึ้นทันที
“ดูเหมือนระยะหลังมานี่เธอจะทำตัวเป็นผู้รู้มากเหลือเกินนะ” เขาหยุดยืนจ้องหน้าเฮอร์ไมโอนี่
“หักกริฟฟินดอร์ 10 คะแนนโทษฐานสู่รู้ทำนอกเหนือคำสั่งอาจารย์”
สเนปยังคงเดินวนไปวนมาระหว่างโต๊ะของกริฟฟินดอร์  พร้อมกับเสียงหักคะแนนดังตลอดเวลาจนหมดคาบ
หลังหมดคาบวิชาปรุงยา เป็นช่วงเวลาว่างของกริฟฟินดอร์ เฮอร์ไมโอนี่รีบเดินเข้าห้องสมุดทันที หลังจากค้นหาหนังสือไปประมาณ 10 นาที เธอก็ได้กองหนังสือตั้งใหญ่ เด็กสาวรีบก้มหน้าก้มตาเปิดอ่านโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัว
“ดูอะไรนี่สิพวกเรา” เสียงแหลมน่ารังเกียจดังขึ้นไม่ไกลนัก
“ใครมานั่งอยู่ตรงนี้”
“น่าขยะแขยง” เสียงอีกคนหนึ่งพูดรับ “พวกโคลนโสโครก”
เฮอร์ไมโอนี่เอะใจและรู้สึกรำคาญจึงเงยหน้าขึ้นดู เธอขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นเจ้าของเสียง  เด็กหญิงบ้านสลิธีรินกลุ่มเดียวกับที่มีเรื่องบนรถไฟกับเธอทั้งกลุ่มนั่งมองตรงมาที่เฮอร์ไมโอนี่ โดยมีแพนซี่ พาร์กินสันเป็นหัวโจกเหมือนเคย
“เหม็นกลิ่นโคลนสกปรกจริงๆ” แพนซี่พูดทำจมูกย่น ยิ่งทำให้หน้างอๆ ของเธอยิ่งดูยับย่นน่าเกลียดขึ้นไปอีก
“ไม่รู้ว่าเราจะต้องทนหายใจเอากลิ่นเหม็นๆ แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน”
“ไม่ยากเลยแพนซี่” มิลลิเซนต์ บัลสโตรด เด็กหญิงร่างยักษ์พูดอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“กวาดมันทิ้งไปก็สิ้นเรื่อง”
เฮอร์ไมโอนี่เม้มปากอย่างอดทนแล้วก้มหน้าลงอ่านหนังสือต่อ แพนซี่เดินตรงมาที่โต๊ะของเฮอร์ไมโอนี่ หล่อนวางมือลงบนหนังสือที่เธอกำลังอ่าน
“ออกไปยายเลือดโสโครก แกนั่งอยู่แถวนี้ฉันหายใจไม่ออก อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง”
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองอย่างรำคาญใจ ก่อนที่เธอจะตอบอะไร สายตาก็เหลือบไปเห็นมัลฟอยนั่งดูเธออยู่อีกด้านหนึ่งด้วยสายตานิ่งเฉยชา เด็กสาวอึ้งเล็กน้อย เสียงแพนซี่ดังขัดขึ้นมาอีก
“หูหนวกรึยังไง ยัยหนอนโสโครก” เฮอร์ไมโอนี่มองหล่อนด้วยความโกรธ
“อย่างที่ฉันเคยพูด หูของฉันจะฟังแต่คำพูดดีๆ” เธอพูดเสียงเย็น
“และที่เธอบอกว่าอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง น่าจะมาจากสมองของเธอเองมากกว่านะ” แพนซี่โกรธจนตัวสั่น
“แก!!” หล่อนเค้นเสียงออกมา มาดามพินซ์เดินมาที่โต๊ะของพวกเธอ
“ที่นี่เป็นห้องสมุด” เธอพูดดุๆ กวาดสายตามองกลุ่มแพนซี่ “ใครเสียงดังช่วยออกไปข้างนอก”
แพนซี่มองมาดามพินซ์อย่างเกรงๆ ก่อนค่อยๆ ถอยไปรวมกลุ่ม แต่ยังคงปรายหางตามาทางเฮอร์ไมโอนี่อย่างมุ่งร้าย เมื่อมาดามดินซ์เห็นเด็กๆ ทุกคนสงบปากลงเธอจึงค่อยหันหลังกลับไปทำงานของเธอต่อ
เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่มัลฟอยอีกครั้ง เขายังคงมองมาที่เธอด้วยดวงตาสีเทาที่เย็นชา รอยยิ้มเยาะปรากฏที่มุมปากซีดของเขา เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกที่คอ เธอปิดหนังสือเก็บรวบรวมมันใส่กระเป๋าก่อนจะเดินออกจากห้องสมุดด้วยความรู้สึกสับสนและน้อยใจ
..........................................................................................................
ชั่วโมงสมุนไพรศาสตร์ก็เป็นอีกวิชาหนึ่งที่พวกแฮร์รี่ต้องเรียนร่วมกับสลิธีริน ศาสตราจารย์สเปราต์สั่งให้เด็กทั้งสองกลุ่มจับสลับคู่กันเพื่อช่วยกันดูต้นพอร์พิต้า โชคร้ายที่แฮร์รี่และรอนได้จับคู่กับแครบและกอยล์ ซึ่งดูเหมือนจะเกะกะมากกว่าช่วย มิหนำซ้ำเมื่อไม่มีเจ้านายอยู่ด้วยแล้วสองคนนี่แทบจะทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากถลึงตาใส่แฮร์รี่และรอน เมื่อถูกศาสตราจารย์สเปราต์ดุเวลาทำผิด ส่วนเนวิลล์โชคร้ายที่ต้องจับคู่กับ แพนซี่ พาร์กินสัน
“ทำไมฉันต้องคู่กับคนโง่ๆ อย่างแกด้วยนะ” หล่อนกระแทกเสียงอย่างไม่พอใจ และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อมองไปอีกคู่หนึ่งไม่ไกลนัก เฮอร์ไมโอนี่กำลังใช้ปากคีบหนีบหนอนตัวเล็กๆไปจ่อไว้ตรงช่องที่อยู่ตรงกลางของต้นพอร์พิต้า เธอมองดูหนวดเขียวๆ เป็นปล้องๆ ของมันขยับขึ้นมาจับหนอนส่งเข้าปากเองอย่างแหยงๆ เธอมองมัลฟอยที่ยังคงยืนเฉยอยู่
“นายจะไม่ลองให้อาหารมันดูบ้างเหรอ” มัลฟอยมองดูต้นพอร์พิต้าอย่างรังเกียจ เขาเบ้ปาก
“ฉันไม่มีหน้าที่ให้อาหารสัตว์” เขาพูดเสียงเหยียดๆ เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกขัดหูกับประโยคของเขาอย่างมาก
“นี่เป็น พืช ไม่ใช่สัตว์..มัลฟอย” เธอเน้นคำอธิบายเหมือนเขาเป็นเด็กๆ ที่ไม่รู้เรื่องอะไร
“พอร์พิต้าชอบขึ้นในที่ชุ่มชื้น มีแดดพอเหมาะ มันจะขับเมือกออกมาคลุมตัวให้เย็นอยู่เสมอ แต่เมือกของมันจะเป็นกรดต่อผิวหนังของสิ่งมีชีวิตอื่น ความรุนแรงแล้วแต่ขนาดและอายุของต้นพอร์พิต้าต้นนั้นๆ” เธออธิบายอย่างยืดยาวจนมัลฟอยทำสีหน้าเหมือนกลืนเมือกของพอร์พิต้าเข้าไปซักครึ่งถ้วย
“เมือกของพอร์พิต้าสามารถใช้.........” เธอตั้งท่าจะอธิบายต่อ แต่มัลฟอยรีบโบกมือแล้วหยิบปากคีบมาจากมือของเธอคีบหนอนยัดเข้าไปในช่องกลวงของพอร์พิต้า
“นายทำอย่างนั้นไม่ได้” เฮอร์ไมโอนี่ร้องเบาๆ
“ทำแบบนั้นพอร์พิต้าจะนึกว่าถูกทำร้าย มันจะไม่กิน นายต้องเอาเหยื่อเข้าไปใกล้ๆ ระยะหนวดของมันแบบนี้”
เฮอร์ไมโอนี่ทำท่าให้อาหารต้นไม้อย่างคล่องแคล่ว มัลฟอยแอบยิ้มในท่าทางของเธอก่อนปรับสีหน้าให้เฉยเหมือนเดิม
“เก่งนี่” เขาชม เฮอร์ไมโอนี่เกือบจะยิ้มออกมาแต่..
“สมเป็นพวกเลือดสีโคลน งานแบบนี้ยังทำเป็น” เธอส่งปากคีบคืนให้มัลฟอย
“ก็ยังดีกว่าพวกเลือดบริสุทธิ์ ที่ทำเป็นแค่ป้อนอาหารเข้าปากตัวเอง” เธอประชดประชันจ้องหน้าเขา มัลฟอยจ้องเธอกลับอย่างโกรธๆ
“อย่าทำอวดเก่ง อย่างเธอน่ะมันก็แค่พวกเลือดสีโคลนที่ชอบอวดรู้ อวดฉลาดเท่านั้นเอง” เฮอร์ไมโอนี่กัดริมฝีปากตัวเองแล้วความอดกลั้นของเธอก็หมดลงเมื่อได้ฟังประโยคต่อไปของเขา
“แค่มายืนใกล้ๆ เธอฉันก็เต็มทนแล้ว กลับหอคงต้องรีบอาบน้ำล้างหน้า ล้างจมูก ล้างหูให้สะอาด......” ยังไม่จบประโยคดีเขาก็ต้องรีบยกมือปิดหน้าอย่างรวดเร็วเมื่อเฮอร์ไมโอนี่หยิบกองพอร์พิต้าโยนใส่เขาเต็มแรง เมือกเหลวเยิ้มของมันกระจายไปทั่ว เสียงศาสตราจารย์สเปราต์ดังขึ้นอย่างตกใจ
“พวกเธอทำอะไรกัน รู้ไหมว่าเมือกนี่มันเป็นกรด”  เธอรีบโบกไม้กายสิทธิ์ สายยางรดน้ำลอยขึ้นมาพร้อมน้ำที่ไหลออกมาล้างตัวของเด็กทั้งสอง
“ยังดีนะที่มันยังเป็นต้นอ่อน พวกเธอเลยได้แค่แผลพองแดงเท่านั้น” ศาสตราจารย์สเปราต์พูดเสียงโกรธๆ ขณะตรวจดูแผลหลังจากใช้น้ำล้างเมือกจนหมดแล้ว
“หักคนละ 20 คะแนน ฐานก่อเรื่องวิวาทและทำลายข้าวของ และฉันจะกักบริเวณเธอทั้งสองคนด้วย” เธอหันไปโบกมือไล่เด็กคนอื่นๆ ให้กลับไปทำงานต่อก่อนจะหันมาทางเด็กทั้งคู่
“เธอสองคนรีบไปหามาดามพอมฟรีย์เดี๋ยวนี้เพื่อทำแผล แล้วเย็นนี้หลังอาหารมาหาฉันที่นี่”
พูดจบเธอก็หันไปสอนเด็กคนอื่นๆ ต่อ เฮอร์ไมโอนี่มองมัลฟอยก่อนสะบัดหน้าเดินออกจากเรือนกระจก มัลฟอยมองเธออย่างโกรธๆ ก่อนเดินตามออกไป
“โดนกักบริเวณกับเจ้านั่น อะไรจะโชคร้ายขนาดนั้นนะ” รอนบ่นขณะตักอาหารเข้าปาก พลางเหลือบมองไปทางโต๊ะสลิธีรินอย่างเกลียดชัง
“ให้พวกเราไปเป็นเพื่อนไหม” แฮร์รี่ถามเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า
“อย่าดีกว่าเดี๋ยวถ้าถูกจับได้จะยิ่งแย่” เธอพยายามทานอาหารให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ รอนแอบหยิบขนมสองสามชิ้นใส่กระเป๋าเสื้อคลุมของเธอ เฮอร์ไมโอนี่มองตาเขียว
“ฉันไม่ได้ไปทำสงครามนะรอนแค่ถูกกักบริเวณ”
“นั่นแหละ” รอนพูดพลางส่งทาร์ตผลไม้เข้าปาก
“แค่โดนกักคู่กับหมอนั่นก็เหมือนเข้าสู่สงครามแล้ว ถ้าเธอถูกส่งไปทำงานที่คุกใต้ดินล่ะ” รอนทำท่าสยอง
“อย่างน้อยก็เป็นเสบียงไว้เวลาไปที่ห้องพยาบาลไง”
แฮร์รี่มองเฮอร์ไมโอนี่ที่หน้าเริ่มเข้มขึ้นขณะที่มองรอน เขาหัวเราะเบาๆ
“มันคงไม่เลวร้ายถึงขนาดนั้นมั้งรอน” เขาพูดขึ้นเมื่อเห็นเฮอร์ไมโอนี่ตั้งท่าจะต่อว่ารอน แต่อีกฝ่ายยักไหล่
“กันไว้ก่อนเพื่อน” เขาพูดยิ้มๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น