ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : สิ่งที่ต้องเลือก มิตรภาพ ความรัก ตอนที่ 10 จบตอน
*****10*****
เช้าวันรุ่งขึ้น แฮร์รี่รู้สึกตกใจกับสภาพของเฮอร์ไมโอนี่ที่ดูเหมือนจะผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาทั้งคืน เขามองรอนและเฮอร์ไมโอนี่อย่างไม่สบายใจ ดูเหมือนเฮอร์ไมโอนี่จะทุ่มเทชีวิตไปกับการเรียน ส่วนรอนก็คอยจ้องจะหาเรื่องถากถางเธอเรื่องสแคบเบอร์อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าแฮกริดจะเตือนสติรอนเรื่องความสำคัญระหว่างเพื่อน แต่ดูเหมือนรอนจะไม่ยอมรับฟังอะไรทั้งนั้น ในวันอาทิตย์ต่อมา รอนและแฮร์รี่นัดกันไปฮอกส์มี้ด แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เห็นด้วย
“ถ้าเธอไป ฉันจะบอกอาจารย์” เธอแกล้งขู่ แต่รอนกลับพูดขึ้นมา
“เหมือนเธอกำลังหาเรื่องให้แฮร์รี่ถูกไล่ออกเลยนะ เธอกำลังกำจัดเพื่อน เหมือนกำจัดแสแคบเบอร์หรือไง” เขาประชดประชัน เฮอร์ไมโอนี่เม้มปาก
“ก็ได้” เธอพูดแค่นั้น ก่อนหอบหนังสือเดินจากไป
ขณะที่เด็กสาวกำลังนั่งอ่านหนังสือพร้อมทำรายงานไปด้วย มีนกฮูกสีเทาตัวโตบินมาเกาะที่หน้าต่าง เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมอง เธอขมวดคิ้วอย่างสงสัย พลางลุกขึ้น
“ขอบใจนะ”
เธอปลดจดหมายจากขาของนกฮูกแกะออกอ่านอย่างค่อนข้างลำบาก เหมือนจดหมายเปียกน้ำจนแห้ง ทำให้กระดาษบางช่วงติดกัน ข้อความในจดหมายสั้นๆ แต่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าซีด เธอตัดสินใจวิ่งออกไปหาเพื่อนทั้งสองของเธอ แฮร์รี่กับรอนเพิ่งแยกกับศาสตราจารย์ลูปิน ซึ่งช่วยพวกเขาออกมาจากการทำโทษของสเนป เรื่องที่แฮร์รี่แอบหนีไปฮอกส์มี้ด รอนแลเห็นเฮอร์ไมโอนี่เดินมาหา
“ไปฟ้องอาจารย์มารึยังล่ะ” เขาเริ่ม แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับยื่นจดหมายให้เพื่อนทั้งสองอ่าน แฮร์รี่และรอนตกตะลึง
“บัคบีคจะถูกประหาร” เฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้
“ฉัน...พยายามแล้ว” เธอพูดทั้งน้ำตา
“แต่คนที่กระทรวงถูกลูเซียส มัลฟอย ข่มขู่ไว้ ถึงยื่นเรื่องกี่ครั้งก็เหมือนเดิม”
“เราต้องช่วยกันสิ” รอนพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ในที่สุด “ฉันไม่ยอมให้เธอลำบากคนเดียวอีกแล้วเฮอร์ไมโอนี่”
เหมือนความทุกข์ทั้งหมดถูกยกออกจากจิตใจ เฮอร์ไมโอนี่กลั้นความรู้สึกต่อไปไม่ไหว เธอกอดคอรอนร้องไห้
“ฉันขอโทษ เรื่องสแคบเบอร์ รอน ฉันเสียใจ” รอนพูดอย่างเขินๆ
“ไม่เป็นไรหรอก เฮอร์ไมโอนี่” ทั้งสามตกลงกันว่าจะไปพบกับแฮกริดในชั่วโมงสัตว์วิเศษวันต่อมา
.............................................................................
ดูเหมือนแฮกริดจะหมดกำลังใจไปกับทุกอย่าง เขานั่งซึมเศร้า แม้ในขณะที่สอนเด็กๆ อยู่
“มันต้องมีหนทางซิฮะ” แฮร์รี่พูด เมื่อหมดคาบเรียนแล้ว “เรายังยื่นเรื่องได้อีกไม่ใช่หรือฮะ” แฮกริดสั่งน้ำมูก
“ไม่มีทางหรอกแฮร์รี่ พวกแก่ๆ ที่นั่นน่ะ กลัวลูเซียส มัลฟอย จนหัวหด” เขาเริ่มร้องไห้เสียงดัง
“ฉันสงสารบีคกี้จัง..มัน....” แฮกริดพูดไม่ออก ก้อนสะอื้นมาจุกอยู่ที่ลำคอของเขา เขารีบลุกขึ้นเดินหนีเด็กทั้งสามกลับเข้าบ้าน ทั้งสามคนมองหน้ากัน แต่แล้วก็มีเสียงหัวเราะเฮฮามาจากด้านหลังของพวกเขา
“ดูเจ้ายักษ์นั่นสิ” กอยล์พูด “ร้องไห้เหมือนเด็กปัญญาอ่อน”
“ไอ้บื้อ” แครบเสริม มัลฟอยยิ้มเหยียด
“ไม่เคยเห็นอะไรน่าสมเพชอย่างนี้มาก่อน นี่น่ะหรือ คนที่เป็นอาจารย์”
รอนขยับตัว แต่ช้ากว่าเฮอร์ไมโอนี่ เธอก้าวขาไปหน้ามัลฟอย มือเล็กๆ ฟาดลงไปบนใบหน้าซีดเผือดของเขาเต็มแรง
“อย่ามาว่าแฮกริดนะ” เธอพูดเสียงดัง พลางเงื้อมือขึ้นอีกครั้ง มัลฟอยมองเธออย่างตกตะลึง เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ น้ำตาปริ่มอยู่ขอบตา
“นายมัน..ชั่วร้าย...ปิศาจ!!”
เธอมองหน้าเขาด้วยแววตาปวดร้าว ก่อนเน้นคำพูดสุดท้าย
“เลว!”
มัลฟอยอ้าปากค้างอย่างงงงัน แฮร์รี่และรอนเตรียมไม้กายสิทธิ์เพราะคิดว่ามัลฟอยคงต้องตอบโต้แน่ แต่...
“ไปกันเถอะ” เขาพูดกับสมุนสองคนเรียบๆ รีบเดินจากไป
“ยอดไปเลย เฮอร์ไมโอนี่” รอนร้องอย่างทึ่งจัด เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มรับเล็กน้อยก่อนก้มลงมองที่มือของตัวเองด้วยความรู้สึกเศร้าใจ
......................................................................
แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ รีบเดินเพื่อเข้าเรียนวิชาของศาสตราจารย์ฟลิตวิก
“ตายล่ะ ฉันลืมของไว้ที่กระท่อมแฮกริด” เฮอร์ไมโอนี่ร้องขึ้นมา
“พวกเธอไปก่อนเถอะ บอกอาจารย์ให้ด้วยนะ” พูดจบ เธอรีบวิ่งออกไป
เฮอร์ไมโอนี่รีบหยิบม้วนกระดาษรายงานก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่ปราสาทอีกครั้ง
“จะรีบวิ่งไปไหน เกรนเจอร์” เสียงยานคางเบาๆ ดังขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก หันหลังกลับมามอง มัลฟอยยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่ รอยผื่นสีแดงยังปรากฏอยู่บนใบหน้าสีซีดของเขา เฮอร์ไมโอนี่รีบมองรอบๆ ตัว
“สองคนนั่นไม่อยู่หรอก ฉันไล่มันกลับหอไปแล้ว” เขาพูดเมื่อเห็นกิริยาของเธอ
“แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าฉันจะย้อนกลับมานี่” เขามองที่ม้วนกระดาษในมือเธอ
“ฉันเห็นเธอวางไว้ที่หน้าบ้านเจ้ายักษ์นั่น” เขาเหลือบตาขึ้นมองหน้าเธอ
“ฉันคิดว่าเธอต้องกลับมา เลยมายืนรอไง” เฮอร์ไมโอนี่หน้าเสียทันที
“จะมาแก้แค้นฉันซินะ” เธอพูด
“แต่มันก็สมควรแล้วนี่นาที่นายทำกับแฮกริดแบบนั้นน่ะ เจ็บแค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ”
มัลฟอยขยับตัวมาหาเธอด้วยสีหน้าขุ่นเคือง เฮอร์ไมโอนี่รีบเดินหนี แต่เขากลับมาขวางไว้
“ใช่ ฉันเจ็บ” เขาพูด
“ไม่เคยมีใครกล้าทำร้ายฉัน” เขาเริ่มประชิดตัวเธอ เฮอร์ไมโอนี่รีบล้วงมือเข้าไปในเสื้อคลุม แต่มัลฟอยจับมือเล็กๆ นั้นไว้
“ยังคิดจะทำร้ายฉันอีกรึ เกรนเจอร์” เขาพูดเสียงเย็น บีบมือของเธอแน่น เฮอร์ไมโอนี่พยายามบิดข้อมือให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา
“ปล่อยนะมัลฟอย ฉัน..เจ็บ”
แต่เขากลับดึงมือเธอมาแนบกับอกของเขา
“ที่เจ็บน่ะ ฉันต่างหาก...เกรนเจอร์”
น้ำเสียงของเขาเหมือนตัดพ้ออยู่ในที เฮอร์ไมโอนี่เหมือนรู้สึกปั่นป่วนในใจ เธอไม่เข้าใจความคิดของเขา ไม่เข้าใจการกระทำของเขา
“ฉันไม่คิดว่าพวกมัลฟอยจะรู้สึกเจ็บเป็นนะ” เธอพูดออกมาในที่สุด
มัลฟอยมองเธอนิ่ง เขาปล่อยมือของเธอ แต่กลับดันตัวของเด็กสาวจนติดกำแพงปราสาท กางแขนสองข้างคร่อมร่างเธอไว้ไม่ให้หนีแทน
“ฉันคงเลวมากซินะ ในสายตาของเธอ” เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้านิ่งไม่ตอบเขา มัลฟอยถอนหายใจเบาๆ
“จะให้ฉันทำอะไรที่เธอพอใจล่ะ” เขาพูดเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้ามองเขาด้วยความคาดไม่ถึง
“ว่าไง เกรนเจอร์” เขาถามซ้ำ
“ปล่อยบัคบีคได้ไหมมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่นิ่งคิดเล็กน้อย “แล้วเลิกยุ่งกับพวกแฮร์รี่” มัลฟอยมองดูเธออย่างชั่งใจ
“แล้วถ้าฉันขอให้เธอเลิกคบกับพวกมัน แล้วมาอยู่กับฉันล่ะ” เขาย้อนถาม
“เธอก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ มัลฟอย แฮร์รี่และรอนเป็นเพื่อนรักของฉันนะ” เธอแย้ง “พวกเราอยู่ด้วยกันดีๆ ก็ได้นี่”
“ไม่มีทาง!” มัลฟอยเบ้หน้า “เธอขออย่างอื่นเถอะ เกรนเจอร์  ฉันจะหาซื้อมาให้”  เฮอร์ไมโอนี่จ้องหน้าเขา
“ความรัก กับมิตรภาพน่ะ มันหาซื้อกันไม่ได้หรอก มัลฟอย” เธอพูดเสียงเข้มเล็กน้อยด้วยความโกรธ มัลฟอยจ้องเธออย่างไม่พอใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องพูดกัน เกรนเจอร์” เฮอร์ไมโอนี่ดันตัวเขา
“ฉันก็ไม่อยากจะพูดกับคนอย่างนาย หลีกทาง ฉันจะรีบไปเรียน” แต่มัลฟอยกลับกดไหล่เธอติดกำแพงอีกครั้ง เขามองหน้าเธอ
“ฉันขอถามอีกครั้ง เกรนเจอร์...เธอจะเลือกใคร พวกพอตเตอร์ หรือว่าฉัน..” เขาจ้องหน้าเธอเขม็ง เฮอร์ไมโอนี่มองดวงตาของเขาที่เหมือนรอคอยคำตอบด้วยความหวัง
“ฉัน...” เธออึกอักยืนนิ่ง มัลฟอยเม้มปาก
“ฉันเข้าใจแล้ว เกรนเจอร์” เขาก้มหน้าลงมาที่เธอ แนบริมฝีปากกับเธออย่างหนักหน่วงกว่าทุกครั้ง
“เธอเลือกพวกมัน” เขากระซิบเบาๆ แล้วถอยหลังออกมามองเธอ แววตาสีซีดเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แล้วทันใดมันก็ลุกโชนขึ้นด้วยความโกรธ
“ลืมเรื่องบัคบีคของเธอได้เลย เกรนเจอร์” เขาพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน
“แล้วฉันก็จะทำตามที่ฉันเคยบอกเธอ เกรนเจอร์ ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อสลิธีริน ไม่ว่ามันจะสกปรกแค่ไหนก็ตาม” มัลฟอยมองดูดวงหน้าของเฮอร์ไมโอนี่นิ่ง ก่อนหมุนตัวหันหลังให้เธอ
“ลาก่อน เกรนเจอร์” แล้วมัลฟอยก็เดินเข้าปราสาทไป ไม่หันกลับมามองเธออีกเลย เฮอร์ไมโอนี่ยืนกอดอกร้องไห้เบาๆ
“คงไม่มีวันที่เราจะดีต่อกันได้จริงๆ สินะ มัลฟอย”
และแล้วมัลฟอยก็ทำตามที่เขาพูดไว้กับเฮอร์ไมโอนี่ เขาทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะแฮร์รี่ ถึงแม้ว่าจะไม่สำเร็จก็ตาม แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังคงหวังว่า สักวันเขาคงเปลี่ยนใจ และเป็นเพื่อนกับพวกเธอ ไม่วันใด ก็วันหนึ่ง.....
The End
เช้าวันรุ่งขึ้น แฮร์รี่รู้สึกตกใจกับสภาพของเฮอร์ไมโอนี่ที่ดูเหมือนจะผ่านการร้องไห้อย่างหนักมาทั้งคืน เขามองรอนและเฮอร์ไมโอนี่อย่างไม่สบายใจ ดูเหมือนเฮอร์ไมโอนี่จะทุ่มเทชีวิตไปกับการเรียน ส่วนรอนก็คอยจ้องจะหาเรื่องถากถางเธอเรื่องสแคบเบอร์อยู่ตลอดเวลา แม้ว่าแฮกริดจะเตือนสติรอนเรื่องความสำคัญระหว่างเพื่อน แต่ดูเหมือนรอนจะไม่ยอมรับฟังอะไรทั้งนั้น ในวันอาทิตย์ต่อมา รอนและแฮร์รี่นัดกันไปฮอกส์มี้ด แต่เฮอร์ไมโอนี่ไม่เห็นด้วย
“ถ้าเธอไป ฉันจะบอกอาจารย์” เธอแกล้งขู่ แต่รอนกลับพูดขึ้นมา
“เหมือนเธอกำลังหาเรื่องให้แฮร์รี่ถูกไล่ออกเลยนะ เธอกำลังกำจัดเพื่อน เหมือนกำจัดแสแคบเบอร์หรือไง” เขาประชดประชัน เฮอร์ไมโอนี่เม้มปาก
“ก็ได้” เธอพูดแค่นั้น ก่อนหอบหนังสือเดินจากไป
ขณะที่เด็กสาวกำลังนั่งอ่านหนังสือพร้อมทำรายงานไปด้วย มีนกฮูกสีเทาตัวโตบินมาเกาะที่หน้าต่าง เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมอง เธอขมวดคิ้วอย่างสงสัย พลางลุกขึ้น
“ขอบใจนะ”
เธอปลดจดหมายจากขาของนกฮูกแกะออกอ่านอย่างค่อนข้างลำบาก เหมือนจดหมายเปียกน้ำจนแห้ง ทำให้กระดาษบางช่วงติดกัน ข้อความในจดหมายสั้นๆ แต่ทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าซีด เธอตัดสินใจวิ่งออกไปหาเพื่อนทั้งสองของเธอ แฮร์รี่กับรอนเพิ่งแยกกับศาสตราจารย์ลูปิน ซึ่งช่วยพวกเขาออกมาจากการทำโทษของสเนป เรื่องที่แฮร์รี่แอบหนีไปฮอกส์มี้ด รอนแลเห็นเฮอร์ไมโอนี่เดินมาหา
“ไปฟ้องอาจารย์มารึยังล่ะ” เขาเริ่ม แต่เฮอร์ไมโอนี่กลับยื่นจดหมายให้เพื่อนทั้งสองอ่าน แฮร์รี่และรอนตกตะลึง
“บัคบีคจะถูกประหาร” เฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้
“ฉัน...พยายามแล้ว” เธอพูดทั้งน้ำตา
“แต่คนที่กระทรวงถูกลูเซียส มัลฟอย ข่มขู่ไว้ ถึงยื่นเรื่องกี่ครั้งก็เหมือนเดิม”
“เราต้องช่วยกันสิ” รอนพูดกับเฮอร์ไมโอนี่ในที่สุด “ฉันไม่ยอมให้เธอลำบากคนเดียวอีกแล้วเฮอร์ไมโอนี่”
เหมือนความทุกข์ทั้งหมดถูกยกออกจากจิตใจ เฮอร์ไมโอนี่กลั้นความรู้สึกต่อไปไม่ไหว เธอกอดคอรอนร้องไห้
“ฉันขอโทษ เรื่องสแคบเบอร์ รอน ฉันเสียใจ” รอนพูดอย่างเขินๆ
“ไม่เป็นไรหรอก เฮอร์ไมโอนี่” ทั้งสามตกลงกันว่าจะไปพบกับแฮกริดในชั่วโมงสัตว์วิเศษวันต่อมา
.............................................................................
ดูเหมือนแฮกริดจะหมดกำลังใจไปกับทุกอย่าง เขานั่งซึมเศร้า แม้ในขณะที่สอนเด็กๆ อยู่
“มันต้องมีหนทางซิฮะ” แฮร์รี่พูด เมื่อหมดคาบเรียนแล้ว “เรายังยื่นเรื่องได้อีกไม่ใช่หรือฮะ” แฮกริดสั่งน้ำมูก
“ไม่มีทางหรอกแฮร์รี่ พวกแก่ๆ ที่นั่นน่ะ กลัวลูเซียส มัลฟอย จนหัวหด” เขาเริ่มร้องไห้เสียงดัง
“ฉันสงสารบีคกี้จัง..มัน....” แฮกริดพูดไม่ออก ก้อนสะอื้นมาจุกอยู่ที่ลำคอของเขา เขารีบลุกขึ้นเดินหนีเด็กทั้งสามกลับเข้าบ้าน ทั้งสามคนมองหน้ากัน แต่แล้วก็มีเสียงหัวเราะเฮฮามาจากด้านหลังของพวกเขา
“ดูเจ้ายักษ์นั่นสิ” กอยล์พูด “ร้องไห้เหมือนเด็กปัญญาอ่อน”
“ไอ้บื้อ” แครบเสริม มัลฟอยยิ้มเหยียด
“ไม่เคยเห็นอะไรน่าสมเพชอย่างนี้มาก่อน นี่น่ะหรือ คนที่เป็นอาจารย์”
รอนขยับตัว แต่ช้ากว่าเฮอร์ไมโอนี่ เธอก้าวขาไปหน้ามัลฟอย มือเล็กๆ ฟาดลงไปบนใบหน้าซีดเผือดของเขาเต็มแรง
“อย่ามาว่าแฮกริดนะ” เธอพูดเสียงดัง พลางเงื้อมือขึ้นอีกครั้ง มัลฟอยมองเธออย่างตกตะลึง เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ น้ำตาปริ่มอยู่ขอบตา
“นายมัน..ชั่วร้าย...ปิศาจ!!”
เธอมองหน้าเขาด้วยแววตาปวดร้าว ก่อนเน้นคำพูดสุดท้าย
“เลว!”
มัลฟอยอ้าปากค้างอย่างงงงัน แฮร์รี่และรอนเตรียมไม้กายสิทธิ์เพราะคิดว่ามัลฟอยคงต้องตอบโต้แน่ แต่...
“ไปกันเถอะ” เขาพูดกับสมุนสองคนเรียบๆ รีบเดินจากไป
“ยอดไปเลย เฮอร์ไมโอนี่” รอนร้องอย่างทึ่งจัด เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มรับเล็กน้อยก่อนก้มลงมองที่มือของตัวเองด้วยความรู้สึกเศร้าใจ
......................................................................
แฮร์รี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่ รีบเดินเพื่อเข้าเรียนวิชาของศาสตราจารย์ฟลิตวิก
“ตายล่ะ ฉันลืมของไว้ที่กระท่อมแฮกริด” เฮอร์ไมโอนี่ร้องขึ้นมา
“พวกเธอไปก่อนเถอะ บอกอาจารย์ให้ด้วยนะ” พูดจบ เธอรีบวิ่งออกไป
เฮอร์ไมโอนี่รีบหยิบม้วนกระดาษรายงานก่อนจะรีบวิ่งกลับไปที่ปราสาทอีกครั้ง
“จะรีบวิ่งไปไหน เกรนเจอร์” เสียงยานคางเบาๆ ดังขึ้น เฮอร์ไมโอนี่ชะงัก หันหลังกลับมามอง มัลฟอยยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่ รอยผื่นสีแดงยังปรากฏอยู่บนใบหน้าสีซีดของเขา เฮอร์ไมโอนี่รีบมองรอบๆ ตัว
“สองคนนั่นไม่อยู่หรอก ฉันไล่มันกลับหอไปแล้ว” เขาพูดเมื่อเห็นกิริยาของเธอ
“แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าฉันจะย้อนกลับมานี่” เขามองที่ม้วนกระดาษในมือเธอ
“ฉันเห็นเธอวางไว้ที่หน้าบ้านเจ้ายักษ์นั่น” เขาเหลือบตาขึ้นมองหน้าเธอ
“ฉันคิดว่าเธอต้องกลับมา เลยมายืนรอไง” เฮอร์ไมโอนี่หน้าเสียทันที
“จะมาแก้แค้นฉันซินะ” เธอพูด
“แต่มันก็สมควรแล้วนี่นาที่นายทำกับแฮกริดแบบนั้นน่ะ เจ็บแค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ”
มัลฟอยขยับตัวมาหาเธอด้วยสีหน้าขุ่นเคือง เฮอร์ไมโอนี่รีบเดินหนี แต่เขากลับมาขวางไว้
“ใช่ ฉันเจ็บ” เขาพูด
“ไม่เคยมีใครกล้าทำร้ายฉัน” เขาเริ่มประชิดตัวเธอ เฮอร์ไมโอนี่รีบล้วงมือเข้าไปในเสื้อคลุม แต่มัลฟอยจับมือเล็กๆ นั้นไว้
“ยังคิดจะทำร้ายฉันอีกรึ เกรนเจอร์” เขาพูดเสียงเย็น บีบมือของเธอแน่น เฮอร์ไมโอนี่พยายามบิดข้อมือให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา
“ปล่อยนะมัลฟอย ฉัน..เจ็บ”
แต่เขากลับดึงมือเธอมาแนบกับอกของเขา
“ที่เจ็บน่ะ ฉันต่างหาก...เกรนเจอร์”
น้ำเสียงของเขาเหมือนตัดพ้ออยู่ในที เฮอร์ไมโอนี่เหมือนรู้สึกปั่นป่วนในใจ เธอไม่เข้าใจความคิดของเขา ไม่เข้าใจการกระทำของเขา
“ฉันไม่คิดว่าพวกมัลฟอยจะรู้สึกเจ็บเป็นนะ” เธอพูดออกมาในที่สุด
มัลฟอยมองเธอนิ่ง เขาปล่อยมือของเธอ แต่กลับดันตัวของเด็กสาวจนติดกำแพงปราสาท กางแขนสองข้างคร่อมร่างเธอไว้ไม่ให้หนีแทน
“ฉันคงเลวมากซินะ ในสายตาของเธอ” เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้านิ่งไม่ตอบเขา มัลฟอยถอนหายใจเบาๆ
“จะให้ฉันทำอะไรที่เธอพอใจล่ะ” เขาพูดเบาๆ เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้ามองเขาด้วยความคาดไม่ถึง
“ว่าไง เกรนเจอร์” เขาถามซ้ำ
“ปล่อยบัคบีคได้ไหมมัลฟอย” เฮอร์ไมโอนี่นิ่งคิดเล็กน้อย “แล้วเลิกยุ่งกับพวกแฮร์รี่” มัลฟอยมองดูเธออย่างชั่งใจ
“แล้วถ้าฉันขอให้เธอเลิกคบกับพวกมัน แล้วมาอยู่กับฉันล่ะ” เขาย้อนถาม
“เธอก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ มัลฟอย แฮร์รี่และรอนเป็นเพื่อนรักของฉันนะ” เธอแย้ง “พวกเราอยู่ด้วยกันดีๆ ก็ได้นี่”
“ไม่มีทาง!” มัลฟอยเบ้หน้า “เธอขออย่างอื่นเถอะ เกรนเจอร์  ฉันจะหาซื้อมาให้”  เฮอร์ไมโอนี่จ้องหน้าเขา
“ความรัก กับมิตรภาพน่ะ มันหาซื้อกันไม่ได้หรอก มัลฟอย” เธอพูดเสียงเข้มเล็กน้อยด้วยความโกรธ มัลฟอยจ้องเธออย่างไม่พอใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องพูดกัน เกรนเจอร์” เฮอร์ไมโอนี่ดันตัวเขา
“ฉันก็ไม่อยากจะพูดกับคนอย่างนาย หลีกทาง ฉันจะรีบไปเรียน” แต่มัลฟอยกลับกดไหล่เธอติดกำแพงอีกครั้ง เขามองหน้าเธอ
“ฉันขอถามอีกครั้ง เกรนเจอร์...เธอจะเลือกใคร พวกพอตเตอร์ หรือว่าฉัน..” เขาจ้องหน้าเธอเขม็ง เฮอร์ไมโอนี่มองดวงตาของเขาที่เหมือนรอคอยคำตอบด้วยความหวัง
“ฉัน...” เธออึกอักยืนนิ่ง มัลฟอยเม้มปาก
“ฉันเข้าใจแล้ว เกรนเจอร์” เขาก้มหน้าลงมาที่เธอ แนบริมฝีปากกับเธออย่างหนักหน่วงกว่าทุกครั้ง
“เธอเลือกพวกมัน” เขากระซิบเบาๆ แล้วถอยหลังออกมามองเธอ แววตาสีซีดเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แล้วทันใดมันก็ลุกโชนขึ้นด้วยความโกรธ
“ลืมเรื่องบัคบีคของเธอได้เลย เกรนเจอร์” เขาพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน
“แล้วฉันก็จะทำตามที่ฉันเคยบอกเธอ เกรนเจอร์ ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อสลิธีริน ไม่ว่ามันจะสกปรกแค่ไหนก็ตาม” มัลฟอยมองดูดวงหน้าของเฮอร์ไมโอนี่นิ่ง ก่อนหมุนตัวหันหลังให้เธอ
“ลาก่อน เกรนเจอร์” แล้วมัลฟอยก็เดินเข้าปราสาทไป ไม่หันกลับมามองเธออีกเลย เฮอร์ไมโอนี่ยืนกอดอกร้องไห้เบาๆ
“คงไม่มีวันที่เราจะดีต่อกันได้จริงๆ สินะ มัลฟอย”
และแล้วมัลฟอยก็ทำตามที่เขาพูดไว้กับเฮอร์ไมโอนี่ เขาทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะแฮร์รี่ ถึงแม้ว่าจะไม่สำเร็จก็ตาม แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังคงหวังว่า สักวันเขาคงเปลี่ยนใจ และเป็นเพื่อนกับพวกเธอ ไม่วันใด ก็วันหนึ่ง.....
The End
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น