คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 อาชีพที่ไม่น่าดีใจ(รีไรท์)
บทที่1
“อ้าวเจ้าบอกว่าไม่ได้เหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ข้าบอกท่านไปตั้งหลายรอบแล้วนะ!”
“อ้าวเหรอ ข้าก็นึกว่าเจ้าพูดว่า ‘เต็มใจอย่างมาก’ เสียอีก โฮะๆ”
เช้าวันที่แสนจะสดใสและสุดแสนน่าเบื่อของข้าก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกวันหลังจากที่
เมื่อวานตามรีบบึ่งไปรับเจ้าลูกชายตัวแสบของท่านป้าข้างบ้านทั้งๆที่วันนั้นข้าก็กำชับกับท่านไไปแล้วตั้งหลายสิบครั้งว่าไปรับไม่ได้แต่สุดท้าย...ข้าก็หนีไม่พ้นอยู่ดี
ข้ามีชื่อว่าโซน่า คลาวด์ เด็กสาวชาวทุ่งธรรมดาทั่วไปที่วันๆไม่ทำอะไรเลยนอก
จากออกไปเก็บของป่ามาทาน เฮ้! อย่ามาทำหน้าดูถูกของป่าพวกนั้นนะ ถึงรสชาติจะ
ไม่ได้เรื่องแต่ก็มีประโยชน์ล้นหลามเลยนะจะบอกให้
“นี่พี่โซน่า วันนี้ออกไปเล่นกับข้าได้รึเปล่า” แว่วเสียงของเด็กชายจอมป่วน ปีศาจ
ตัวที่ข้าต้องแบกสังขาญที่เหนื่อยจากการเดิน(หลง)ป่าไปรับถึงที่โรงเรียนตะโกนเข้ามาใน
บ้าน..(อันที่จริงคือกระท่อม)ของข้าแบบไม่ดูสถานการณ์ ฮึ่ย!ข้ากำลังหงุดหงิดอยู่นะเฟ้ย
ถ้ายังไม่อยากโดนตื้บก็อย่าเพิ่งมาทักข้าเซ่!
“โทษทีนะ วันนี้ข้าไม่ค่อยว่าง...”
“อย่ามาแกล้งปฏิเสธเลยนะพี่ ถ้าวันนี้ท่านยอมมาเล่นกับข้า ข้าจะลองขอท่านแม่
ให้พี่พักไม่ต้องมารับข้าวันนึง”
ข้อเสนอของเจ้าเด็กแสบทำเอาข้าหูผึ่งในทันที ข้ารีบใส่รองเท้าแล้วออกไปตาม
คำชวนอย่างเลี่ยงไม่ได้ อา..วันนี้ข้าจะได้นั่งพักอยู่บ้านสบายๆสักที
“นี่ไง ที่นี่แหละ”
“เอ่อ เจ้าแน่ใจเหรอ”
เด็กชายพาข้ามาถึงปากทางเข้าป่าแห่งหนึ่งซึ่งห่างจากหมู่บ้านที่ข้าอยู่ประมาณ
หลายกิโลประมาณว่าต้องพกอย่านวดคลายกล้ามเนื้อติดตัวมาด้วยหากจะมาอีก ไม่งั้น
ขาได้ม่องก่อนมาถึงแน่
นี่ข้ายังไม่ได้บอกชื่อของเด็กชาวปีศาจจอมป่วนตนนี้เลยใช่มั้ย เขามีชื่อว่า ‘ซีน’
อาศัยอยู่บ้านข้างๆของข้านี่เองแหละ เอาล่ะๆ เข้าเรื่องกันดีกว่า..
ข้าหันไปมองหน้าอันแสนมั่นใจของซีนด้วยคามวิตก ถึงข้ามักจะเข้าไปหาของป่า
เจ้าป่านี่มันไม่ใช่ที่ๆข้ารู้จักทางนี่ว้อย!
และยิ่งข้าเป็นคนที่ชอบหลงทิศเวลาไปที่ๆไม่เคยไปอยู่ด้วยสิ! แบบนี้จะรอดมั้ย
เนี่ยยยย!
“นะ..นี่ เจ้าเคยมาที่นี่มาก่อนแล้วใช่มั้ยซีน..” ข้าถามเสียงสั่น
“อ้อ เปล่าหรอก ข้าถึงชวนพี่มายังไงล่ะ”
“….”
เวรแล้วไง!
ตอนนี้อารมณ์ข้าคุกกรุ่นจนแทบจะต้มบะหมี่ได้อยู่แล้ว ข้ามองหน้าเจ้าตัวแสบ
ด้วยสายตาอาฆาตแต่รอยยิ้มไร้เดียงสาของเด็กชายทำเอาอารมณ์ที่กำลังพุ่งพล่านดับลง
อย่างทันทีทันใด
“แต่พี่ไม่ต้องห่วงนะ ข้าให้ลุงฮอบบิทที่อยู่ในหมู่บ้านช่วยเขียนแผนที่ให้แล้วล่ะ
ตราบใดที่มีเจ้านี่อยู่รับรองไม่หลงแน่นอนขอรับ” ได้ยินดังนั้นข้าก็โล่งอกขึ้นมาหน่อยนึง
จะว่าไปเจ้าก็ทำตัวมีประโยชน์เป็นเหมือนกันนี่ สงสัยข้าต้องมองเจ้าใหม่ซะแล้วล่ะมั้ง
ข้าเดินเข้าป่าไปพร้อมกับเด็กชายโดยมีแผนที่เป็นตัวช่วยนำทาง แต่พอผ่านไปได้
แค่ครึ่งทางข้าขอไปเก็บเห็ดเรืองแสงแค่ไม่กี่นาทีกลับมาอีกที…
“เอ่อ คือว่าพี่เห็นแผนที่ของข้าบ้างมั้ย ข้าวางไว้ตรงตอไม้ตรงนู้นจู่ๆก็หายไปเลย”
ข้าขอถอนคำพูดที่จะมองเจ้าใหม่ตอนนี้เลยได้ม้ายย!!
ข้ารู้สึกอยากจะตบกบาลเจ้าเด็กแสบจอมสะเพร่านี่ให้หัวโนไปเลยชะมัด! แผนที่นั่นเป็นทุกอย่างเลยนะเฟ้ย! ถ้าไม่มีมันแล้วเราจะกลับออกไปยังง้าย!
ฟุบๆ!
จู่ๆเสียงของอะไรบางอย่างก็ดังขึ้นที่พุ่มไม้ข้างหลังข้ากับซีน เด็กชายกระโดดเข้า
มาเกาะแขนข้าแทบจะทันที พร้อมกับบรรยากาศที่ค่อยๆเงียบสงัดลงเรื่อยๆ
ฟุบๆ ฟุบๆ
ออกไปหมายจะแหวกพุ่มไม้ออกให้มันรู้แล้วรู้รอด
“พี่จะทำอะไรน่ะ พี่โซน่า”
“เออน่า เจ้าอยู่ตรงนั้นแหละ”
ฟุบๆ! ฟุบๆ!
มือของข้าเริ่มสั่นเพราะความตื่นเต้นข้าจึงรีบแหวกเจ้าพุ่มไม้นั่นออก แต่สุดท้าย..
“อ๊ะ!”
“เหวอ!” ความคิดฟุ้งซ่านของข้าแตกกระเจิงเมื่อสิ่งที่อยู่หลังพุ่มไม้นั้นเป็นแค่
ปีศาจตนหนึ่งที่มือข้างนึงเอากิ่งใบไม้บังไบหน้าและอีกข้างควานหาอะไรบางอย่าง มอง
ไปมองมาก็อดขำไม่ได้
“อา..ในที่สุดก็มีปีศาจสักตนผ่านมา ได้โปรดช่วยอะไรข้าหน่อยได้มั้ยขอรับ”
“คิก คิก..อะ..อ้อ ได้มั้ง เจ้าต้องการอะไรล่ะ..เอ่อ..”
“ข้ามีนามว่ากัลเวนขอรับ” ชายหนุ่มที่เอากิ่งไม้ปิดหน้ากล่าวด้วยน้ำเสียงเป็น
กันเองราวกับรู้จักกันมานาน หลังจากที่เจรจากันอยู่ตั้งนานสุดท้ายก็ได้ข้อสรุป
พวกข้าจะต้องช่วยเขาหาหน้ากากที่ทำหล่นที่ไหนสักแห่งแลกกับการที่เขาจะ
ช่วยนำทางออกจากป่านี่ก่อนค่ำ หรือก็คือถ้าหากกลับไปหลังจากเวลาโรงเรียนเลิกทั้ง
ข้าและซีนก็จะโดนท่านป้าเฉ่งจนไม่เหลือซากฉะนั้นข้อเสนอนี่ก็ถือว่าไม่เลว
“ถ้าอย่างนั้นข้าว่าแยกกันหาจะดีกว่านะขอรับ ขอให้พวกท่านโชคดีนะขอรับ”
กัลเวนโบกมือให้ก่อนจะกระโดดหายไปในป่าลึก ทิ้งให้ข้ากับซีนยืนงงกันอยู่สอง
คนเสียดื้อๆ
“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นเรามาช่วยกันหาเถอะพี่โซน่า จะได้รีบๆกลับ” มันก็ต้องเป็น
อย่างนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เรอะ! จะมาพูดให้ตัวเองดูดีมีความรับผิดชอบทำไมกันเล่า
ข้าเดินไปหาตามพุ่มไม้ กองใบไม้ และที่อื่นๆที่พอจะนึกออกแต่พอลองเหลือบ
มองไปที่กองกิ้งไม้แห้งก็เห็นแสงสะท้อนของอะไรบางอย่างสีเงินวาวซ่อนอยู่ท่ามกลาง
ดงกิ่งไม้ ข้าจึงเดินเข้าไปแล้วหยิบวัตถุสีเงินวาวขึ้นมาแทบจะทันที มันเป็นหน้ากากสีเงิน
แบบครอบปิดทั้งใบหน้า มีรูแค่ตรงบริเวณตาสองข้างกับปากเท่านั้นดูคล้ายกับหน้าที่
กำลังส่งยิ้มให้อยู่ยังไงก็ไม่รู้
ทันทีที่หาเจอข้าจึงรีบวิ่งไปบอกให้ชายหนุ่มที่ยังคงพยายามหาอะไรสักอย่างมา
ปิดหน้าไว้ก่อนจะยื่นหน้ากากสีเงินอันแสนล้ำค่าที่สุดของเขาคืนให้
“นี่ท่านหาเจอแล้วเหรอขอรับ ขอบคุณมากนะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงซึ้งใจเหมือน
อยากกระโดดกอดคอข้าทันทีที่เป็นไปได้ เพื่อไม่ให้เลยเถิดข้าจึงต้องรีบทวงสัญญาก่อนที่
“เอาล่ะข้าหาของให้แล้วนะ พาข้ากับซีนออกไปจากที่นี่ซักทีสิ”
“อ้อ! เรื่องนั้นข้าไม่ลืมหรอกขอรับ ตามมาได้เลยขอรับ”
“เอ่อ..นี่เวลาคุยกับข้าไม่ต้องมีคำลงท้ายสวยหรูก็ได้นะ”
“ขอรับ!”
เฮ้อ เจ้าบ้านี่....
“อ้าว! กลับมากันแล้วเรอะ”
“แม่จ๋าาา”
“มะ..มีอะไรเหรอซีน”
“ฮืออออ แม่จ๋าาาา” เด็กชายตัวน้อยที่เพิ่งไปผจญป่ามาแหมบๆวิ่งโผเข้าหาแม่
หรือก็ข้าท่านป้าที่อยู่บ้านติดกับข้านั่นเอง ฮึ่ย! เจ้าแสบเอ๊ย! คนที่ควรจะร้องไห้คือข้าต่าง
หากเล่า ทำแผนที่แสนสำคัญปลิวหายไม่พอยังทำให้ข้าเกือบโดนแม่เจ้าดุอีกแน่ะ เจ้ามัน
ต้นเหตุรู้ม้ายยย!!
“เฮ้อ วันนี้มันวันอะไรของข้าเนี่ย มีแต่เรื่องแปลกๆทั้งนั้นเลยน้า” ข้าบ่นกับ
ตัวเองไปพลางระหว่างเดินกลับบ้านแต่พอข้ากำลังจะเปิดประตูบ้าน..
“สวัสดียามเย็นขอรับ”
“เย้ย!!” ข้าแทบสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นหนุ่มหน้ากากนามกัลเวนที่เจอในป่าโผล่มา
ทางด้านหลังแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย นี่ถ้าข้าตกใจมากกว่านี้บางทีเจ้าอาจจะโดนซัดโดยไม่รู้ตัว
เพราะกลไกตอบโต้อัตโนมัติของข้าก็ได้นะ
“นี่เจ้ายังไม่กลับบ้านอีกเหรอเนี่ยกัลเวน?”
“เอ๋? ถามอะไรแปลกๆนะครับ กระผมไม่ได้มีบ้านซักหน่อย”
ฮะ? ข้าว่าเจ้าพูดอะไรแปลกๆมากกว่ามั้งนั่น
“ไม่แปลกหรอกขอรับ เพราะข้าไม่มีบ้าน”
“อืมๆเหรอ..เฮ้ย!เจ้าอ่านใจข้าได้งั้นเรอะ!”
“ขอรับ” เวรล่ะสิ ข้าเผลอแอบนินทาหมอนี่ไปตั้งเยอะตอนอยู่ในป่าซะด้วยสิเนี่ย
“..อันที่จริงที่ข้าไม่มีบ้านก็เพราะข้าเป็นหัวหน้าองครักษ์ของราชาปีศาจแห่งเร-
นาซน่ะขอรับ”
ข้าลืมอธิบายไปอาณาจักรเรนาซเป็นชื่อของอาณาจักรที่ข้าอยู่และยังเป็นศูนย์
กลางของแดนปีศาจอีกด้วยประมาณว่าในบรรดาอาณาจักรทั้งเจ็ดแห่งแดนปีศาจ อาณา
จักรเรนาซจะมีอำนาจมากที่สุด รวมไปถึงราชาแห่งเรนาซด้วย เพราะฉะนั้นคำสั่งของ
ปฏิเสธได้....แต่ไหงมันถึงฟังดูเผด็จการยังไงก็ไม่รู้แฮะ
จากที่ข้าลองพิจารณาจากคำพูดของชายหนุ่มหน้ากากตรงหน้าแล้วงั้นก็แปลว่า
กัลเวนต้องเก่งมากเลยทีเดียวถึงได้ตำแหน่งหัวหน้าองครักษ์มา...สงสัยข้าจะนินทาเจ้า
นี่ไม่ได้แล้วล่ะมั้ง
“แต่เดี๋ยวนะเจ้าบอกว่าเจ้าเป็นหัวหน้าองครักษ์ไม่ใช่เหรอแล้วเกี่ยวอะไรกับไม่มี
บ้านด้วยล่ะ?”
“ก็ข้าอาศัยอยู่ในปราสาทน่ะสิขอรับ” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ
ข้าและกัลเวนคุยเรื่องสัพเพเหระกันอยู่สักพักก่อนเขาจะลาหลับปราสาทเนื่อง
จากมีเวรเฝ้ากะดึกอีก ข้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับวันอันแสนประหลาดและการได้
เพื่อนใหม่เป็นหัวหน้าองครักษ์ที่ชวนปวดหัวสุดๆนี้แล้วเดินเข้าบ้านทิ้งตัวลงนอนบน
เตียงแคบๆของตัวเอง รู้ตัวอีกทีข้าก็หลับปุ๋ยไปตั้งแต่ยังไม่สองทุ่มเลยด้วยซ้ำ
หวังว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีอะไรแปลกๆอีกนะ...
...............................................................
โซน่า....โซน่า.....จงมาเป็น..ของๆข้าซะ
เปลือกตาอันหนักอึ้งของข้าเบิกขึ้นท่ามกลางความมืดสนิท ความมืดที่มืดจน
กระทั่งมองไม่เห็นแม้มือตัวเอง…นี่ข้าอยู่ที่ไหนกันเนี่ย!
โซน่า......มาเป็น..ของข้า....!
เสียงทุ้มต่ำของบุคคลปริศนาดังขึ้นในโสตประสาทของข้า มันเอาแต่เรียกชื่อข้า
พร้อมกับพูดประโยคเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้จักจบจักเลิก ข้าลองยกมือขึ้นมาอุดหูไว้แต่ก็
อย่างที่คาด มันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นเลย...
จะยอมฟัง
แต่เสี้ยววินาทีที่ข้ากำลังอ้าปากหมายจะตะเบ็งเสียง สิ่งที่ออกมาจากปากข้ากลับ
มีแต่ความเงียบ........
ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...แล้วข้าอยู่ที่ไหนกันล่ะเนี่ย!
ข้าล้มเลิกความพยายามที่จะพูดแล้วหันมามองรอบๆตัวดูบ้าง ความสับสนในหัว
จึงเพิ่มมากขึ้นอีกเมื่อลองกวาดสายตาไปรอบตัว...ข้ามองอะไรไม่เห็นเลย!
รอบตัวข้ามีแต่ความมืด มองทางไหนก็มืด จะมองท่าไหนก็ไม่เห็นอะไรอย่างอื่นนอกจากตัวเอง....อย่างนี้สินะที่เขาเรียกว่ามืดแปด-
ด้าน ข้าเพิ่งจะเข้าใจมันถ่องแท้ก็วันนี้แหละ
สรุปที่แห่งนี้มันคือที่ไหนกันแน่ล่ะเนี่ย..สวรรค์เหรอ? คงไม่มั้ง เพราะ เท่าที่รู้มา มันควรจะดูดีกว่านี้นี่นา...หรือว่าจะเป็นนรก? แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้นก็เถอะ ข้าก็ยัง ไม่ได้ตายสักหน่อย จะมาที่แบบนี้ได้ไงกันเล่า
โซน่า.....ชีวิตของเจ้า......อยู่ในกำมือข้าแล้ว...!
เสียงไร้เจ้าของเสียงเดิมดังขึ้นขัดความคิดฟุ้งซ่านของข้าด้วยประโยคที่ชวนปวด
ตับ ถึงมันจะพูดติดต่อกันมามากกว่าหนึ่งครั้งก็เถอะ แต่ข้ายังก็ไม่เข้าใจสิ่งที่มันจะบอก
อยู่ดี....
สักพักหัวข้าก็รู้สึกปวดจี๊ดราวกับมีแท่งเหล็กมากดเข้าที่ขมับอย่างแรง มันเป็น ความเจ็บปวดแบบที่ข้าไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน สมองข้าเหมือนกับกำลังถูกบีบอัดอย่าง
แรงจนแทบจะระเบิด ถึงแม้ตาจะมองไม่เห็นอะไรเลยแต่ก็รู้สึกได้ว่าโลกมันกำลังหมุน
แต่เพียงแค่ไม่กี่อึดใจความเจ็บปวดเหล่านั้นก็ค่อยๆจางลงอย่างน่าประหลาด เป็น
เวลาเดียวกับที่ตาข้ามองเห็นแสงบางอย่างจากไกลๆ
แสงนั้นสว่างมากขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดก็เข้ามาล้อมรอบตัวข้าแทนที่ความมืด
เมื่อครู่ แต่...แบบนี้มันสว่างเกินไปมั้ยเนี่ย
ข้าหรี่ตาลงเพื่อปรับตาให้สู้แสงแล้วมองไปรอบๆอีกครั้งก่อนสายตาจะหยุดที่
วัตถุรูปร่างเรียวยาวซึ่งอยู่ห่างข้าไปประมาณสามเมตร
ดาบยาวสีนิลประดับด้วยเพชรพลอยและลวดลายที่แปลกตาทำเอาสติข้าพร่า
เบลอไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนหรือความปราณีตของลวดลายต่างๆที่ละเอียด
ยิบย่อยบนตัวดาบหรือเพชรพลอยหลากสีสันที่ถูกฝังที่คมดาบสีนิลแวววาว ทุกๆอย่าง
นั้นทำให้ข้าอึ้งตะลึงแบบบอกไม่ถูก หากจะบอกว่าเป็นวัตถุที่งดงามที่สุดที่เคยเห็นมา
ในชีวิตก็คงจะไม่เกินไป
...เพราะยังไงข้าก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นอะไรแบบนี้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว
...โซน่า.....ซักวันเจ้าจะปฏิเสธข้าไม่ได้อีก.....
“..พี่โซน่า...พี่โซน่า..! ตื่นซักที่เซ่! นี่มันสายมากแล้วนะ”
“อืม...อย่ามากวนน่า!”
ข้าพลิกตัวไปทางอื่นเพื่อหลบเสียงแจ้วๆของซีนที่ตะโกนกรอกหูข้าไม่เลิกมาตั้ง
แต่เช้า สงสัยคงจะมาชวนข้าไปเล่นอะไรแผลงๆอีกแหงเลย
“นี่! ตื่นเถอะพี่โซน่า มีใครบางคนอยากจะคุยกับท่านนะ”
“อย่ามาเพ้อเจ้อน่า! จะมีใครอยากคุยกับข้ากัน!”
ข้าตะโกนออกไปอย่างเหลืออดถ้าอยากให้ไปเล่นขนาดนั้นด้วยก็บอกมาตรงๆก็ได้นี่ ไหงต้องนึกมุกอะไรห่วยแตกขนาดนั้นด้วยเล่า
เด็กชายเงียบไปครู่นึงก่อนจะพึมพำกับตัวเองเบาๆเป็นเชิงบ่นข้าแล้วกลับหลังหัน
เดินออกจากห้องนอนข้าไปซะเฉยๆ อา..ค่อยยังชั่วหน่อยอย่างน้อยก็เงียบลง...
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ฮึ่ย! อะไรอีกเนี่ย จะให้ข้านอนอย่างสงบสุขไม่ได้เลยใช่มั้ย?!
“นี่เจ้าตัวแสบ ขอข้านอนต่ออีกสักสองสามนาทีไม่ได้รึไงฮะ!”
“เอ๋...ข้ารบกวนการนอนของท่านหรือขอรับ? ขออภัยด้วยขอร้าบ!”
เฮ้ย..เสียงแบบนี้มัน....กัลเวนน่ะเรอะ?
ข้าขยี้ตาตัวเองให้ตื่นแล้วพิจารณาลักษณะของบุคคลตรงหน้า หน้ากากสีเงินวาว
กับชุดเต็มยศของพวกองครักษ์ทำเอาข้าตื่นเต็มตา
“กัลเวน!? มาทำอะไรหน้าบ้านข้าเนี่ย”
“เอ่อคือ..ข้ามีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับท่านโซน่าหน่อยน่ะขอรับแต่พอดีเห็นว่า
ท่านหลับอยู่ก็เลยไม่อยากรบกวนน่ะขอรับ..” เหรอ..แล้วไอ้เสียงเคาะประตูสนั่นโลกา
เมื่อกี๊มันอะไรฮึ?
ข้ามุ่ยหน้าใส่กัลเวนหนึ่งทีก่อนจะเชิญเขาเข้ามานั่งข้างในบ้านด้วยอาการหงุด-
หงิดปนง่วง เมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ไม่รีรอเดินมานั่งที่เก้าอี้แล้วเริ่มเข้าประเด็นเพื่อ
ไม่ให้เสียเวลา
“ท่านโซน่าขอรับ...ท่านคงจะรู้ว่าอาณาจักรเรนาซของเรากำลังต้องการราชินี
ปีศาจองค์ใหม่แล้วใช่มั้ยขอรับ”
“เอ่อ..ก็ได้ยินมาเหมือนกันนะ...”
“ขอรับ ข้าอยากจะให้ท่านช่วยเรื่องนี้หน่อยน่ะขอรับ”
อ้าว...ไหงเป็นข้าเฉยเลยอ่ะ
“....ก็ท่านเป็นคนที่ข้าสนิทที่สุดนี่ขอรับ” เจ้าจะอ่านใจข้าไปถึงไหนเนี่ยกัลเวน
“เหรอ? แล้วจะให้ข้าช่วยยังไงล่ะ”
พอข้าเอ่ยปากถาม ชายสวมหน้ากากตรงหน้าข้าก็แสดงท่าทีกระอักกระอ่วน
แบบแปลกๆจนต่อมสงสัยของข้าเริ่มทำงาน แต่พอถามอีกรอบเขาก็ยังคงนั่งนิ่งเหมือน
เดิมแล้วตกลงเมื่อไหร่ข้าจะได้คำตอบล่ะเนี่ย
“เอ่อ...คือ” เจ้าหน้ากากนี่ ข้าชักจะหงุดหงิดแล้วนะ
“ท่านช่วยเป็นราชินีชั่วคราวไปก่อนจะได้มั้ย..ขอรับ?”
เอ๋???!!!
“มันอาจจะฟังดูแปลกไปสักนิดแต่ไม่ต้องห่วงขอรับ ท่านแค่ไปเป็นราชินีชั่วคราว
เท่านั้นเองขอรับ”
“ไอ้ชั่วคราวมันหมายความว่ายังไงกันเล่า!”
“ก็แค่เป็นออกสื่อเฉยๆน่ะขอรับ ทันทีที่พวกข้าหาคนมาเป็นราชินีได้เมื่อไหร่
ท่านโซน่าก็กลับมาใช้ชีวิตปกติได้เหมือนเดิมแหละขอร้าบ” กัลเวนอธิบายให้ข้าฟังด้วย
น้ำเสียงรู้สึกผิด ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะข้าช็อกไปตั้งแต่ประโยคแรกแล้วล่ะ
“แต่ยังไงวันนี้ท่านก็ต้องไปรายงานตัวกับราชาทั้งเจ็ดก่อนอยู่ดีแหละขอรับ”
สุดท้ายข้าโซน่า คลาวด์ผู้ได้ถูกรับเลือกเป็นราชินี ‘ชั่วคราว’ ก็ต้องนั่งรถม้าที่
องครักษ์สวมหน้ากากเตรียมมาให้ โอย...ไอ้พูดมันก็ง่ายอยู่หรอกแต่ข้าที่เคยเป็นชาวไร่
ชาวสวนมาก่อนต้องมากลายเป็นราชินีเนี่ยนะ กัลเวนนี่เจ้าตาบอดหรืออะไรกันฮะ!
“ก็แหมกระผมต้องรีบราชินีให้ได้ภายในวันนี้นี่ขอรับ ครั้นจะให้ไปถามความ
เห็นของหญิงสาวทั่วอาณาจักรก็กระไรอยู่นะขอรับ”
เฮ้อ...แล้วนี่ข้าจะเอาตัวรอดยังไงล่ะเนี่ย..ไม่เป็นไรๆอย่างน้อยก็แค่ชั่วคราวล่ะน้า
คงไม่หนักมากนักหรอก......
...หวังว่านะ..
(จบบทที่1)
ความคิดเห็น