ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★Bad Room-mate : รักคูณร้าย...สุดท้าย ก็รัก [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #6 : ★ Chapter5 : เปิดเทอมวันแรก…กับสายกีต้าร์ที่หายไป

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 55


     
    Chapter5

                        เปิดเทอมวันแรกกับสายกีต้าร์ที่หายไป

     

    [Special Typhoon Part!!]

     

              ตอนนี้ขาทั้งสองข้างของผมกำลังก้าวยาว เพื่อที่จะได้ขึ้นให้ถึงห้องโฮมรูมของชั้น ม.5/4 ให้เร็วสุด.. เท่าที่เท้าและขาของผมจะก้าวได้!!!

     

              เมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว ตอนที่ผมพึ่งอาบน้ำเสร็จและเตรียมจะแต่งตัวลงไปหาพวกไอ้ไวน์ เพื่อซ้อมเพลงอีกสักรอบก่อนจะขึ้นเล่นโฟร์คซองขอบคุณน้องๆในวันนี้ตอนพักเที่ยง

     

                ไอ้ตอนตื่นมาก็ไม่เจอใครหรอกครับ มีแต่ห้องเงียบๆและที่นอนข้างๆที่ยับๆกับซากผ้าเช็ดตัวลายเบ็นเท็นที่ถูกขยุ้มๆวางแหมะอยู่บนโซฟา  บอกได้เลยว่าไอ้เจ้าของผ้าเช็ดตัวมันคงจะรีบร้อนออกไปขนาดไหน  แต่พอผมเห็นแบบนั้นมันก็ทำให้ผมโล่งอกอย่างประหลาด (?)

               

                ผมก็เลยรีบลุกไปส่องกระจกเช็คสภาพร่างกายตัวเองว่าครบสามสิบสองประการมั้ย เพื่อไอ้รูมเมทร่วมห้องผมมันจะเอาคืนเรื่องPSPเมื่อคืน

     

     

                แต่พอผมสำรวจสภาพร่างกายและหน้าตัวตัวเองก็พบว่ามันอยู่ครบดีทุกอย่างแขนไม่ขาดไปข้างนึงขายังอยู่ติดสะโพกเหมือนเดิมและฟันอยู่ทั้ง32ซี่  

     

                ทุกอย่างอยู่ครบปกติ!

     

                พอโล่งแล้ว ผมก็เลยลงไปอาบน้ำ หวังจะรีบอาบให้เสร็จเร็วๆเพราะเห็นมิสคอลตั้งแต่ตื่นแล้วละ ไอ้วินโทรมาเป็นสิบๆสาย แต่ผมกะว่าอาบน้ำก่อน แล้วค่อยโทรหามันละกัน        

               

                ทุกอย่างดูเหมือนเพอร์เฟ็คดีจนกระทั่ง..

     

                (ฮัลโหล! ฝุ่น มึงเอากีต้าร์มึงมาด้วยนะเว้ย เกิดปัญหากับกีต้าร์โรงเรียนนิดหน่อย..)

     

                ไอ้วินโทรมาหาผมอีกรอบ

     

                ไม่บอกกูก็เอาไปอยู่แล้ว นี่มันลูกรักกูเลยนะเว้ยถอยมาจากญี่ปุ่น เสียงดีไม่มีหย่อน ว่าแต่เกิดไรขึ้นว่ะ?  

     

                ต้นประโยคแรกน่ะอวดลูกชายตัวเอง ก็อยากให้รู้อะครับว่ามันเจ๋งจริงๆ เกือบๆแสนไม่อยากจะคุย (หรอ)  ส่วนประโยคหลังน่ะถามมันไปส่งๆอย่างงั้นแหละ คงไม่มีไรมากหรอกมั้ง กีต้าร์โรงเรียนเก่าจะตายทุกวันนี้ปลวกไม่ห่ามเอาไปแทะแทนฝาผนังห้องก็บุญถมถืดแล้วละครับ - -

     

                พอไอ้วินทักเรื่องกี้ต้าร์ขึ้นมา ผมก็มองหาไอ้ลูกรักทันที ว่าแต่ว่ามัน

     

                ว่าแต่ว่า….เฮ้ย!! กีต้าร์กูหายไปไหนว่ะ!!!??           

               

                (เออๆ ดีแล้วๆ ก็เมื่อเช้าเว้ย กูมาห้องดนตรีสากล ไอ้ไวน์มันวานให้มาเอาเนื้อเพลงให้ได้สอหน่อยง เจอจารย์โจ้ จารย์ก็บอกกูว่าเมื่อเช้ามืดมีคนปีนขึ้นห้องดนตรีฯมาตัดสายกีต้าร์ทุกตัวเลยว่ะ ทั้งกีต้าร์ไฟฟ้าอคูสติก กีต้าร์โปร่งแม่งตัดขาดหมดเลย มีพวกเด็กม.2เห็นคนร้ายด้วยนะเว้ย มันบอกว่าคนร้ายใส่หมวกไอ้โม่งสีดำ วิ่งหนีออกไปทางแปลงเกษตรอะ)

     

              ไอ้วินเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผมฟังอย่างยาวเหยียด แต่ผมก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ก็ลูกรักผมหายไปไหนก็ไม่รู้อะครับ เมื่อคืนจำได้ว่าพิงมันไว้บนโต๊ะโคมไฟข้างๆหัวเตียงนี่หว่า

     

                แล้วมันจะหายไปไหนได้ว่ะ??  

     

                ผมเดินหาในห้องให้ทั่ว พร้อมกับเปิดตู้นู้นทีตูนี้ทีหามันหมดทุกที่ บนโซฟาก็ไม่มี ในตู้เสื้อผ้าก็ไม่มี บนหลังตู้เสื้อผ้าก็ไม่มี โต๊ะเขียนหนังสือก็ไม่มี ในตู้เย็นก็ไม่มี(เอาเข้าไปได้ก็บ้าแล้ว!!) แทบจะเปิดคุ้ยลิ้นชักกางเกงในดูกันเลยทีเดียว

     

                แต่มันก็ไม่มีแม้แต่เงา

     

                จนกระทั่งสายตาผมไปสะดุดกับคอกีต้าร์ที่ยืนออกมาจากใต้เตียง..

     

                เฮ้ยยยย  เจอแล้ววว !!!   

     

                แต่ฮะ..เฮ้ย

     

                วิน…”

     

                เมื่อประมาณ5วินาทีที่แล้วหัวใจผมมันพองโตแทบจะใหญ่เท่าลูกโป่งลูนเลยทีเดียว แต่มันก็ฟีบเหี่ยวเหมือนมีคนเอาเข็มแหลมๆมาทิ่มทันทีที่ผมดึงลูกรักตัวเองออกมาจะใต้เตียง...แล้วสภาพมัน..

     

                เห็นแล้วกูอยากจะร้องไห้ …..

     

               

                เชี่ยอะไรว่ะเนี้ยยยยยยยยยยยยยย!! 

     

                (อะไรมึง ทำไมทำเสียงแบบนั้นว่ะ)

     

              วินกีต้าร์กูสายหายหมดเลย!!!!!!!!”    

     

              (ห๊ะ/ห๊ะ/เหี้ย/เหี้ย/เหี้ย/พ่อมึง!!!)

     

              เสียงอุทานไม่ต่ำกว่าสี่เสียงดังลั่นทะลุโทรศัพท์ไอ้วินมาให้ผมได้ยิน แปลว่าพวกมันอยู่ด้วยกัน งั้นพวกมึงก็รับรู้ชะตากรรมไปพร้อมๆกันเลยละกัน

     

                (เอามานี่!! กูคุยเอง กุกกัก!! !เฮ้ย!! สายกีต้าร์มันจะหายไปไหนได้ว่ะ??) เสียงไอ้ไวน์

     

              “ไปเที่ยวเสม็ดมั้ง ไม่รู้เว้ย!!!”

     

                ผมกำโทรศัพท์แน่นพร้อมกับนังหนึ่งถึงสิบในใจช้าๆเป็นการข่มและสะกดกลั้นอารมณ์โกรธและโมโหของตัวเองเอาไว้

     

                ก่อนจะรู้สึกแล้วว่าผมไม่ได้รอดจาดไอ้เรื่องเมื่อคืนแน่ๆ

               

                ไอ้คนที่กล้ามีปัญหากับผมไม่ค่อยจะมีหรอก

     

    จะมี..แม่งก็มีอยู่คนเดียวแหละ!!!

     

    ไอ้แสบ!! ไอ้เตี้ย!! ไอ้เหี้ยใบไผ่ ไอ้ใบเหี่ยวพิการซ้ำซ้อน!!

     

                เอาเป็นว่าถ้ามึงจะเอาคืนกูแบบนี้!!!

     

                ได้!! มึงก็รอรับมือกูละกัน!!       

     

    ++++++++++++++

     

    [Special MaiTo Part!!]

     

              สวัสดีครับ ผมไม้โทครับ..ในที่สุดก็ได้โผล่หน้าโผล่ตาออกมาคุยกับทุกคนสักที หลังจากที่คุณๆคงต้องฟังไอ้ใบไผ่พูดพร่ำบ่นไปเยอะใช่มั้ละครับ หึๆ

     

                 ตอนนี้ผมกำลังยืนรอไอ้คนตื่นเช้าอยู่ มันบอกว่ามันตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งแล้ว ไม่รู้จะรีบตื่นทำไมสงสัยมันคงอยากฝึกการเป็นซีเคียริตี้การ์ดที่ดีในอนาคต แต่ตื่นเช้าขนาดมันมันจะตื่นมาทำซากอะไรวะ ในเมื่อมันก็มาช้าจนให้ผมยืนรอมันมานานนมขนาดนี้..

     

                แม่ง มองส้นตีนอะไรกันนักหนาว่ะ!!! หน้ากูมีรูปมิยาบิแปะอยู่หรอไง!?”

     

                อายุยืนจริงๆ ..

               

                ใบไผ่ในชุดเครื่องแบบสีเทาฟ้าของโรงเรียน กางเกงสแล็คขายาวสีเทากับเสื้อเชิ้ตสีขาวติดกระดุมแขนสั้น และเนคไทค์ในสภาพเอียงกะเทเร่ บ่งบอกได้เลยว่าคนผูกมันคงไม่ถนัดผูกเนคไทค์แน่ๆ และไอ้เอกลักษณ์เสียงด่ามาก่อนตัวของมันแบบนี้ ต้องบอกมั้ยว่าใคร

     

                ไปกินรังผึ้งที่ไหนมาเนี้ย? ผมถามมันทีที่มันเดินหน้ามุ่ยมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม ปากส้มๆแดงๆของมันจิ๊เสียงอย่างอารมณ์ไม่ดี อย่างงี้ละ..เด็กใหม่หน้าตาและวีรกรรมแบบมัน โดนจับตามองเป็นพิเศษถือธรรมดาอยู่แล้ว

               

                ไม่ได้กิน แต่เดี๋ยวจะแดกหัวมึงแทนเนี้ยแหละ คนอารมณ์ดีๆอยู่ มาหงุดหงิดเพราะไอ้พวกนี้นี่ละ แม่ง..ทำหยังกะกูมีสามหัว เจ็ดหาง ยี่สิบสองมืออย่างงั้นแหละ..” ไอ้ใบไผ่บ่นฟอดแฟดๆ พร้อมกับปรายตาไอ้พวกที่มันตะโกนด่าใส่เมื่อกี้เป็นระยะๆ ปากเล็กๆบางๆของมันก็อธิบาความยาวสาวความยืดถึงความอึดอัดตลอดระยะทางจากสหกรณ์โรงเรียนมาหาผมที่หน้าอาคาร3 สีหน้าท่าทางมันดูหงุดหงิด ยิ่งไอ้คิ้วบางๆที่มุ่นเข้าหากันซะเหมือนจะโดนผูกให้กลายเป็นโบว์ ตลกพิลึกเลย ฮ่าๆๆๆ แต่มันก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ขี้โมโห ขี้โวยวาย เอาแต่ใจตัวเอง

               

                ยังไง ใบไผ่ ก็ยังคงเป็นใบไผ่เหมือนเดิม..

     

                “..เค้าก็คงอยากทำความรู้จักกับมึงไง ไม่ก็เขาคงไม่แน่ใจว่ามึงใช่คนเดียวกันกับคนที่พังเล้าหมูที่แปลงเกษตรเมื่อวานรึเปล่า ฮ่าๆๆๆๆ เอ้า! ตี กูทำไมเนี้ย มือไอ้ไผ่ฟาดใส่หหลังผมมาเต็มแรง ตัวก็แค่เนี้ยแรงเยอะจริงๆ

     

                เช้านี้เป็นเช้าวันแรกของการเปิดภาคเรียนครับ ดูจะเป็นเช้าที่คึกคักและสดใสสำหรับใครหลายๆคน เสียงดังโวยวายทะเลาะตบตีกันดังให้ผมได้ยินอยู่เป็นระยะๆ ส่วนไอ้คนข้างๆนี่ก็เปลี่ยนอารมณ์เร็วเหลือเกิน พอมันกระหน่ำฟาดมือใส่แขนใส่หลังผมจนพอใจ(และฝากรอยแดงๆไว้) มันก็สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะกุมกระเป๋ากางเกง แล้วล้วงไอ้โทรศัพท์รุ่นน้อยหน่า ขึ้นมากดยิกๆ เบื่อคนใช้บีบีจริงๆ

     

                “วันๆกดแต่บีบีนะ ไว้ตอนมึงตายกูจะไม่มัดมือมึงแล้วใส่ดอกบัวให้หรอก กูจะมัดมือมึงแล้วเอาบีบีเสียบไว้ตรงกลางแทน ปากไวตลอดเลยกู ฮ่าๆๆๆ

     

                “กวนตีนและถากถางกูอีกแล้วนะมึงน่ะ!!  รู้งี้เมื่อวานเอาขี้หมูยัดใส่ปากแม่งอีกคนก็ดีหรอก เหอะ!!”

     

                “มึงจะยัดใส่ปากกูถึงหรอ ดูๆแล้วความสูงเรามันห่างกันเยอะนะใบไผ่ ผมยิ้มกวนตีนให้มันก่อนจะขยี้กลุ่มผมสีน้ำตาลของใบไผ่ให้กระจุยกระจายออกจากกันอย่างหมั่นเขี้ยว ส่วนไอ้ตัวดีพอโดนผมแกล้งแบบนี้ มันก็เลยพยายามกระโดดขึ้นมาขยี้หัวผมบ้าง แต่ขอโทษเถอะครับ 170 กับ 184 มันต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

     

                อย่าให้กูสูงแบบมึงบ้างนะ กูจะตบหัวมึงทุกวันให้ขี้เลื่อยแม่งไหลออกมาจากสมองเลย มันว่าเสียงโมโหๆเสร็จ ก็เดินปังๆไปเหมือนมันจะงอนผม

     

                นั่นมึงจะเดินไปไหน? ผมถาม

     

                ไปเข้าแถวไง!!” ไอ้ใบไผ่หันมาตอบ

     

                นั่นมันทางไป หออาจารย์

     

                อะ เอ่อ.. เออๆ กูรู้อยู่แล้วน่า

     

                หรอ.. หึ! ถ้าจะไปเข้าแถวก็เดินตามกูมาดีๆ

     

                พอตัวผมพูดจบ ก็เลิกพิงเสาแล้วกลับมายืนเต็มความสูงของตัวเองทันที  ก่อนจะเดินไปคว้ามือเล็กๆของใบไผ่ให้เดินตามผมไปลานเข้าแถวทันที พอดีกับเสียงออดที่ดังขึ้น

     

                ไอ้ตัวดีก็ทำหน้าเหลอหลาแบบงงๆ แต่ก็เดินตามมาผมมาอย่างไม่บ่นอะไรสักคำ ขืนปล่อยให้มันเอ๋อๆเด๋อๆอีกสักพักมันจะต้องเหวี่ยงผมแน่ เพราะผมจะขำกับท่าทีมัน จริงๆไม่ว่ามันจะยิ้ม มันจะพูด มันจะหัวเราะ มันจะงอน มันเหวี่ยง มันจะซนหรือมันจะดื้อ..

     

                สำหรับผมแล้ว

     

                แม่งน่ารักว่ะ..

     

               

                หลังเข้าแถวเคารพธงชาติและฟัง ผอ. แร็พให้ฟังเสร็จ อาจารย์ก็เริ่มปล่อยแถวให้พวกผมขึ้นห้อง ไอ้พวกในห้องผมนี่ทำหน้าตาสนอกสนใจไอ้ใบไผ่กันอย่างออกนอกหน้านอกตา แค่นั้นไม่เท่าไหร่ บางคนถึงขั้นเขียนใส่กระดาษแล้วโยนใส่ผมกันยกใหญ่

     

                คนนี้หรอ เด็กใหม่???

     

              ใช่คนที่อยู่ห้องเดียวกับพี่ฝุ่นป่ะวะ?

     

                มึงเล่าเดี๋ยวนี้ ว่าไปรู้จักได้ยังไง

     

                สนอกสนใจจริงๆนะพวกมึง (ทำหน้าเซ็งๆ) แต่เหมือนไอ้มิ้นท์เพื่อนสนิทตั้งแต่ม.1ของผมกับใบไผ่มันจะเข้ากันได้ดีนะ ดีเกินไปด้วยซ้ำ..

     

                เฮ้ยยยย กูก็ชอบนะเกมส์นี้อะ เล่นไปสองสามรอบแล้วมันส์สัดๆ (ใบไผ่)

               

                ใช่ป่ะๆ นี่กูแอบเอาแผ่นขึ้นหอมาด้วยนะเว้ย แต่เล่นห้องที่กูนอนไม่ได้อะ เพราะห้องกูไม่มีทีวี (มิ้นท์)

     

                งั้น..วันหลัง มึงมาเล่นห้องกูดิ ห้องกูมีทีวีด้วย(ใบไผ่)

     

                โหยยย เยี่ยม!!  แจ๋วไปเลยว่ะ (มิ้นท์)

     

                อะไรว่ะเนี้ย - -‘’ (ทำหน้างงๆ)

     

                ผมมองภาพใบไผ่กับมิ้นท์ที่นั่งคุยกันเรื่องเกมส์อย่างออกรสชาติราวกับรู้จักกันมาแล้วสักสิบปี

               

                 คือผมรู้สึกว่ามันสองตัวพึ่งจะรู้จักกันเมื่อตะกี้เองนะ รู้จักเพราะผมหันไปแนะนำไอ้ใบไผ่ที่ตอนแรกทำหน้าบ่จอยอยู่(แดดมันร้อน)ให้รู้จักกับไอ้มิ้นท์เพื่อนสนิทและรูมเมทร่วมของผม(พ่วงร่วมชั้นไปด้วย) ตอนแรกใบไผ่ก็หันมาปรายตามองผ่านๆพยักๆหน้าเหมือนรับรู้แต่มันก็ทำหน้ามุ่ยเหมือนเดิมอยู่ดี ไอ้มิ้นท์มันก็ทำหน้าแหยๆแบบมันคงงง (ลืมเตือนมิ้นท์มันว่าใบไผ่มันอาร์ตตัวพ่อ) แล้วอยู่ดีๆมิ้นท์มันก็ทำเสียงหงอยๆแล้วบ่นลอยว่า อยากเล่นเกมส์ดันเต้..”

     

                เท่านั้นละครับเปิดประเด็นยาวเป็นหางว่าว ผมละงงเลยว่าทำไมมันคุยกันง่ายจัง แต่ก็ดีแล้วผมละกลัวไอ้ใบไผ่มันจะไม่มีใครคบนอกจากผม (ยิ้มเลวในใจ)

     

                นายๆ…” ผมเงยหน้าจากตารางสอนไปมองตามเสียงเรียกกวนตีนๆที่โครตจะคุ้นเลยครับ ก่อนจะต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าไอ้เจนั่งยองๆกอดเข่าแล้วสะกิดใบไผ่ด้วยสีหน้าตระหนกๆปนยิ้มๆอย่างกวนส้นตีนตามแบบฉบับมัน

     

                สงสัยจะโดนส่งมาเป็นหน่วยกล้าตาย - -‘’

     

                ใบไผ่หยุดการโม้ถึงการติดโทมาฮอคสี่ครั้งติดของมันในเกมส์ปังย่าให้ไอ้มิ้นท์ฟัง แล้วหันมามองตามเสียงเรียกและแรงสะกิดยึกๆทันที ก่อนมันจะทำหน้างงๆพร้อมส่งเครื่องเหมือนคำถามด้วยการถลึงตาโตๆของมันถามไอ้เจประมาณว่ามีอะไรกับมันหรอ

     

                 ทำใจไว้นิดๆนะเจมึงมีสิทธิ์ได้เห็นฟาร์มลับของไอ้ใบไผ่แน่ๆ (ฟาร์มหมานะครับ)

     

                เราชื่อเจ อยู่ห้องเดียวกับนาย คือแบบเพื่อนๆในห้องอยากรู้จักนายอะ แล้วเราก็เห็นว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว เราต้องอยู่ห้องเดียวกันเลยมาทำความรู้จักอะ นายชื่ออะไรหรอ?? ไอ้เจว่าหน้ายิ้มๆ แต่ไอ้เสียงเรียกนายๆของเจนี่โปรดนึกถึงเด็กช่างกลเวลากวนตีนกันไว้นะครับ

     

                ไม่ต้องมารงมาเราได้ป่ะ รงเราไปก็เท่านั้น อยู่ๆไปเดี๋ยวพวกมึงก็เรียกกู ว่ากูกันไม่ต้องสร้างภาพพูดเพราะๆหรอก แมนๆไปเลยไม่ได้ไง!? หรือเด็กที่นี่เค้าพูดพยาบๆแมนๆไม่เป็น?? ใบไผ่ว่าหน้านิ่งๆแต่น้ำเสียงกวนตีนสุดๆ ที่มันพูดแม่งก็จริงอะ คิดได้นะมึง ฮ่าๆๆ

     

                ไอ้เจอ้าปากกระพริบตาปริบๆก่อนมันจะกลับมายิ้มหน้าเลวๆตามแบบฉบับของมันเหมือนเดิม

     

                นี่ละหน้าที่แท้จริงของมึง!

     

                กูชื่อเจ ชื่อจริงอยู่บนหน้าอกอ่านเองละกัน จริงๆกูแพ้โอน้อยออกว่ะเลยต้องมาเป็นหน่วยกล้าตายทำความรู้จักกับมึงแทนคนทั้งห้อง จริงๆกูก็พอจะรู้จักมึงอยู่แล้ว มึงเล่นด่าคนทั้งโรงอาหารตั้งแต่วันแรกที่เหยียบเข้ามาที่นี่เลยนิ่ ปากหมาใช้ได้ อยู่กับพวกกูต้องปากหมาหน้าด้านและด่าพวกกูได้ทันถึงจะอยู่ห้องนี่ได้ ว่าแต่แนะนำตัวแบบี้แมนๆพอยังป่ะว่ะ

     

                เออ ก็แมนอยู่ แต่มึงนี่พูดมากนะ แถมหลอกด่ากูว่าปากหมาด้วย ด่ากูไม่พอเหมือนด่าคนทั้งห้องด้วย แต่ก็ยินดีที่ได้รู้จักว่ะ ใบไผ่ว่าเสียงเหมือนมันจะถูกใจการแนะนำตัวของไอ้เจรอบนี้ ก่อนมันสองตัวจะเช็คแฮนด์กันอย่างเป็นมิตร ตามมาด้วยเสียงฮริ้วและเสียงเฮถึงสัญญาณการตอบรับที่เป็นมิตรจากไอ้ใบไผ่

     

                ผมว่านะปีนี้

     

                5 / 4 จะมีแกนนำก่อเรื่องเพิ่มอีกคนแล้ววะ -__- <<หัวหน้าห้องกลุ้มใจ

     

    +++++++++++

     

                ยะโฮ่ววว~ ไปฟังไอ้ไม้บ่นมาเบื่อป่ะๆๆ งี้ละลุงแก่ๆบ่นน่ารำคาญจะตาย หึๆ มาฟังผมบ่นยังจะดีซะกว่า อยากจะบอกว่าการเรียนคาบแรกของผมพึ่งผ่านไปแหมบๆเองๆส่วนมากวันแรกอาจารย์ก็ไม่สอนอะไรมากหรอกนอกจากให้จดพวกจุดประสงค์กับแนะนำตัวและพูดถึงเนื้อหาที่จะเรียนกันในเทอมนี้ ตอนนี้ก็คาบสองแล้วละ แต่อาจารย์ไม่เข้านี้พวกผมก็เลย..

     

                ตามึงแล้วอะไอ้เป็ด สีเขียวๆอะมีมั้ย ไอ้มิ้นท์หันไปเร่งไอ้เป็ดยิกๆ อีหรอบนี้แม่งมีแน่เลยวว่ะ เพื่อนใหม่หัวสกินเฮดที่เจาะหูเป็นจิลเล็กๆเลยยิ่งรีบใช้สายตากวาดมองตัวพลาสติกสีดำๆในกล่องของมันว่ามีสีเขียวพอจะให้ลงมั้ย

     

                เออๆ เร่งกูจริงเร่งกูจัง หึ! อะลงละ.. สีชมพูๆต่อ ไงละมึงมีมั้ยไอ้มิ้นท์โครตเตี้ยเหี้ยด้วย กร๊ากกกกกก ไอ้เป็ดหัวเราะเสียงดังเอิ๊กอ้ากก่อนจะโดนไอ้มิ้นต์เตะเข้าให้ที่หน้าแข้ง เป็นการเอาคืนที่มันด่าว่ามิ้นเตี้ยเหี้ยด้วย (กระทบกูนิดๆ..)

     

                ตอนนี้ผมกำลังเล่นโดมิโนกันอยู่ ตาละ5บาทเลยนะ ไอ้เจบอกว่าเป็นการรับขวัญเด็กใหม่อย่างผมเข้าห้อง หลังจากที่เมื่อเช้าผมกับไอ้เจได้ทำการรู้จักกัน แบบแปลกๆไปแล้ว หลังจากเจมันคุยกับผมเสร็จ ไอ้พวกที่เหลือมันก็เลยกล้าเข้ามาทักผม กูไม่ได้หยิ่งและเหวี่ยงไม่เลือกนะครับ ใครมาดีๆกูก็คุยดีๆด้วยได้

     

                และอย่างว่าละครับผู้ชายมันคุยกันง่ายไม่มาอายๆแอ๊บๆแบบผู้หญิงหรอกเวลาจะรู้จักกัน ยิ่งสอบถามแล้วพวกนี้ก็เด็กวินนิ่งด้วย ใช้ได้ๆ คุยกันได้ยาวเลยย~ (ทำหน้าลั้ลลา)

     

                ส่วนไอ้ไม้โทพ่อคนที่สองของผมก็หายหนังศรีษะไปตั้งแต่คาบโฮมรูมแล้วครับ มันบอกว่ามันมีธุระต้องออกไปคุยเรื่องคณะกรรมการนักเรียนอะไรสักอย่าง ตอนแรกมันห่วงผมว่าจะมีคนอยู่ด้วยมั้ยแต่พอมันเห็นว่าผมกับทุกคนในห้องโอเคกันแบบนี้ มันก็หมดห่วงสะบัดตูดแหน็บไปทำหน้าที่คณะกรรมการนักเรียนที่ดีทันที

     

                ผู้ชายห้องนี้มีอยู่ประมาณ10กว่าคนเห็นจะได้ นอกนั้นก็ผู้หญิงหมดเลย (คนที่ชื่อไพลินน่ารักมากเลยครับ) ไม้มันบอกว่าผู้ชายของนี้มันเฮ้วๆแต่เด็กเรียนทั้งนั้นละ โดยส่วนมากแกนนำทำเรื่องบ้าๆบอๆมักจะเป็นไอ้เจนั่นละ..

     

                ส่วนคุณไม้โทผมก็ไม่คิดนะครับว่าเขาจะเป็นถึงหัวหน้าห้องด้วย!! ไอ้มิ้นท์กระซิบบอกผมมาว่ามันเรียนเก่ง ประพฤติดีลูกรักอาจารย์ เพื่อนเลยโหวตให้มันเป็นหัวหน้าห้อง

     

                กูละไม่อยากจะเชื่อ - -!!

     

                เยส!!! ตานี้กูกินๆๆๆ พวกมึงจ่ายมาเลยๆๆ มาๆรวยแล้วกู~” เสียงไอ้ฟงหน้าตี๋ใส่แว่นยิ้มหน้าบานตบโต๊ะดังปัง หลังจากที่มันหมดตัวลงคนแรก มันแบมือพร้อมยิ้มร่ารอรับเงินจากพวกผมอย่างแช่มบาน  ฟ๊าค!! มึงแดกพวกกูมาสองตาละนะไอ้ตี๋ตระกูลเหลา(เย่)!!

     

                มึงโกงใช่มั้ยฟง แม่งเอ๊ยยย หมดตัวละกู!!” ไอ้มิกซ์เจ้าของทรงหัวชี้ๆตั้งๆบ่นอย่างเซ็งๆก่อนจะควักกระเป๋าตังค์หยิบเหรียญห้าออกมาวางไว้บนโต๊รวมทั้งผมด้วย เล่นมาตั้งนานโดนไปจะหกสิบกว่าบาทละ การพนันเป็นอะไรที่ผมไม่ถนัดเลยจริงๆ เล่นเกมส์แบบกินเงินกะกูดิ่ รับรองพวกมึงหมดตัวแน่ๆ

     

                เลิกๆๆๆ ไม่เล่นแล้วโดมิโนเนี้ย กูว่าเล่นหมุนขวดเสี่ยงทายดีกว่า ไอ้เพ้นท์ผู้หล่อวิ้งหน้าใส(น้อยกว่าผม) เสนอเกมส์ใหม่ซึ่งผบก็ว่าแม่งดีกว่าเล่นโดมิโนเยอะ อย่างน้อยๆกูก็ไม่ต้องเสียตังค์ไปมากกว่านี้ละวะ

     

                ไอ้เจหันไปขอขวดน้ำเปล่าจากเพื่อนผู้หญิงในห้องที่นั่งจ้องผมไม่เลิกตั้งแต่เหยียบเข้าโฮมรูมมาแล้ว อยากคุยก็เดินมาทักสิครับ ถ้าเป็นผู้หญิงผมไม่กัดหรอกนะ (ยิ้มหวาน)

     

                เจเอาขวดน้ำดื่มคริสตัล น้ำดื่มที่ได้มาตราฐานจากสหรัฐอเมริกา(<<จะขายของอีกนานมั้ย) มาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะอ้าปากอธิบายเกมส์ที่เล่นประมาณว่า ว่างขวดแล้วตรงกลางแล้วหมุนเสร็จก็ผลัดกันเดาไปรอบวงเรื่อยๆเช่น วันนี้ใครไม่ใส่กางเกงในมาเรียน แล้วถ้ามันขวดแล้วหยุดที่ใครก็แปลว่าคนนั้นเป็นแบบนั้น

     

                คิดๆดูปัญญาอ่อนพิลึกว่ะ (แต่ก็เล่น)

     

                กูขอคนแรก ผมพูดก่อนจะยักคิ้วนิดๆให้พวกมันรอบวงแล้วรับขวดน้ำจากมือไอ้เจที่มันยื่นมาให้ผมแล้ววางไว้ตรงกลางวงทันที

     

                ใครใส่จีสตริงมาโรงเรียน

     

                ติ้วววววว~

     

                ฮ่าๆๆๆ กร๊ากกกกกก ไอ้ฟงมึงใส่จีสตริงมาเรียนหรอ ฮ่าๆๆๆ ไม่น่าละเมื่อเช้าตอนมึงก้มหยิบของกูไม่เห็นขอบกางเกงในมึง กร๊ากกกกกกกกก

     

                พ่อมึงสิ! กูไม่ได้ใส่มาเว้ย ไอ้ฟงทำหน้าหงุดหงิดก่อนจะจับขวดน้ำกลางวงบิดแล้วปล่อยให้มันมันติ้วอีกรอบทันที โอ๊ยย กูละฮาไอ้เชี่ยฟง ก๊ากกกกก

     

                ใครขุดแหย้ที่แปลงเกษตรกินเมื่อเช้า ไอ้ฟงถาม

     

                ติ้ววววว~

     

                อ้าว จริงรึเปล่ามิ้นท์เตี้ยเหี้ยด้วย มึงไม่กินนมแต่แดกแหย้ใช่มะ ฮ่าๆๆๆๆไอ้ฟงหันไปถากถางไอ้มิ้นท์ทันที ฮ่าๆๆๆ ไม่เอาอย่าว่าเพื่อนๆ ฮ่าๆๆ (หัวเราะเยอะเขาไม่ดูส่วนสูงตัวเองเลย)

     

                สัส!!! ถึงกูจะแดกแหย้หน้าก็ไม่แจ้แฮ้แบบมึงหรอก ไอ้เชี้ยฟง ไอ้ฟันเหล็กติดขี้

     

                อ้าว ด่าเหล็กดัดฟันกูทำไม เหล็กดัดฟันกูทำอะไรผิด

     

                เหล็กดัดฟันมึงไม่ผิดหรอก แต่มันผิดที่ไปติดอยู่บนฟันมึง

     

                เตี้ยแล้วปากหมาด้วยนะมึง ไม่เจอกันนานห่อนได้กี่โทนเสียงแล้วละหมาในปากมึงน่ะ

     

                ไอ้เชี่ยตี๋ ไอ้เจ๊กติดเหล็ก..ไอ้

     

                ปัง!!!!!!!

     

                เสียงประตูกระจกบานเลื่อนที่ถูกเลื่อนออกดังปัง เรียกให้สายตานับสิบคู่ในห้องหันไปมองตามต้นต่อของเสียงทันทีและทุกคนหยุดทำทุกกิจกรรมไม่เว้นแม้แต่ไอ้มิ้นท์กับไอ้ฟงที่เมื่อกี้แทบจะตีกันตาย ว่าแต่ว่าใครเปิดประตูว่ะ..ฮะ เฮ้ยยย!!

     

                ไอ้ใบไผ่ อยู่มั้ย!!!!!!!!”

     

                ผู้ชายที่หน้าตาโครตจะคุ้นเคยในชุดเครื่องแบบเทาฟ้าเหมือนพวกผม ต่างกันนิดก็ตรงที่ปกแขนเสื้อมันคาดสีแดงติดไว้อยู่ หน้ามันขึงขังประหนึ่งเหมือนตอนนี้มีคลื่นพลังงานบางอย่างไปสิงมันอยู่  และมันก็คือ

     

                ไอ้เชี่ยไต้ฝุ่นนนนนนนน มาทำไมว่ะ  T T!!!

     

                อ๋อ อยู่จริงๆด้วยสินะมึง มันหันไปมองซ้ายมองขวา ก่อนจะหันยิ้มอำมหิตใส่ผมทันทีที่เห็นผม ซึ่งอยู่โคตรเด่นเลยครับ กลางห้องเป็นกระจุกใหญ่ๆ มันจะเดินดุ่มๆทางผมที่นั่งอ้าปากพะงาบๆ กำลังงงสุดตีนว่ามันมาทำไม ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นใช่มั้ย!!

     

                ไปกับกูเดี๋ยวนี้!!!!!!”

     

                พอมันมาถึงตัวผม มันจับข้อมือผมก่อนจะบีบและออกแรงดึงให้ต้องลุกเดินตามมันไป อ๊ากกกกก แรงคนหรือแรงควายขนาดกูสะบัดยังไม่หลุด T T…

     

                แต่มึงจะลากกูไปอะไรช่วยกูด้วยยยยยยยยย!!!

     

     

    ++++++++++++++

     

    [Special Typhoon Part!!]

               

                ผมลากไอ้ตัวแสบมาถึงตึกวิทย์ที่เวิ้งว้างเพราะยังไม่มีคนมาใช้ ในช่วงเปิดเทอมใหม่ๆแบบนี้ เสียงไอ้แสบตะโกนก่นด่าผมดังสะท้อนไปทั่วทั้งทางเดิน มันด่าผมตั้งแต่ตึก3มาจนถึงตึก5 ด่าไม่หยุดไม่หย่อน ตอนเกิดมาแม่มันเอาอะไรให้กินว่ะ นี่ปากคนแน่นะ!?

     

                “ไอ้เชี่ยยยย ปล่อยแขนกูนะ!!” ไอ้แสบตะโกนแหกปากด้วยระดับเสียงที่ดังกว่าเดิม มือข้างขวาที่ว่างอยู่ของมันก็เกี่ยวเอาเสาแถวๆนั้นขืนตัวเองเอาไว้ ยังจะพยายามอีกนะ

     

                ผมออกแรงที่บีบแขนมันอีกข้างอยู่ให้แรงยิ่งขึ้น และแม่งก็ได้ผลพอแขนอีกข้างโดนบีบซะจนเลือดแทบจะวิ่งผ่านไม่ได้มันเลยปล่อยแขนที่เกี่ยวเสาตึกออกแล้วก็ถลามาตามแรงดึงของผม ก่อนที่ผมจะดันใบไผ่ให้มันนั่งลงไปบนที่นั่งที่ยื่นออกมาจากระเบียงทางเดิน

     

                ไม่ต้องมาทำไขสือ ทำเหี้ยไรไว้น่าจะรู้ตัว

     

                เฮ้ย กูก็บอกไงว่าไม่ได้ทำๆๆๆๆ แม่ง..!!”

     

                แน่ใจนะ?!” ผมเลิ่กคิ้วถามมันย้ำอีกครั้ง

     

                อะ..เออ (<<ไม่กล้าตอบเต็มเสียง)

     

                ไอ้ตัวดีทำหน้าเลิ่กลั่กๆเล็กๆก่อนจะตอบผม หึตอบกูก็ไม่เต็มเสียง หลับสายตาอีกอย่างงี้ไม่เรียกว่าโกหกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ปากอย่างงี้มันน่า

     

                ถ้ามึงไม่พูดความจริง กูจะจูบมึง..”

     

                สต๊อป!! (เงยหน้าขึ้นไปมองประโยคบน)

     

                ไต้ฝุ่นครับ..ทำไมมึงพูดออกไปแบบน๊านนนน

     

                ผมละอยากจะกัดลิ้นตัวเองจริงๆ คำขู่แม่งมีเป็นล้านแปด ทำไมต้องขู่แบบนี้ จูบผู้ชายเนี้ยนะ?! จูบไอ้แสบเนี้ยนะ?! มึงกล้าหรอฝุ่น

               

                ก็ไม่ได้รังเกียจแหละว่ะ

     

                เฮ้ยยยย!!! มึงอย่าไปเคลิ้มดิ่ อย่าไปเคลิ้มกับอารมณ์ชั่ววูบของตัวเองงง!!!!

     

                ไอ้ตัวแสบที่ได้ยินประโยคเมื่อกี้ทำหน้าเหวอๆนิดนึง ก่อนหน้ากับหูมันจะเริ่มแดง แล้วปากมันก็อ้าพะงาบๆก่อนจะตะโกนออกสุกเสียงเป็นประโยคเมื่อกี้ ที่อย่างงี้ละยอมรับเร็วทันทีเลยนะ..

     

                “เออ กูทำ!!!”

     

                หึ! นึกว่าต้องรอให้กู จูบ มึงก่อน ถึงจะอ้าปากง้างออกมาได้ว่ามึงเป็นคนทำ ย้ำจังนะไอ้ฝุ่นเรื่องจูบนี้ย.. (ขุดหลุมฝังตัวเองเข้าไป..)

     

                ละ แล้ว มึงจะทำมะ ก็เพราะว่ามึงน่ะแหละ มึงเขวี้ยง PSP กูทิ้งเมื่อคืน มึงมาทำลายของ ของกูก่อนนะ ทำไมกูจะทำของมึงบ้างไม่ได้!!!” ลิ้นนี่ท่าทางจะมีปัญหานิดหน่อยนะพันๆกันเลย หึนี่มึงคิดว่ากูโยนของมึงทิ้งจริงๆหรอเนี้ย

     

                ถ้ามึงหมายถึง ไอ้เครื่องเล่นเกมส์ที่มึงกดยิกๆเมื่อคืนละก็ กู-ไม่-ได้-เขวี้ยง!

     

              พอผมพูดจบ ก็เอือมมือไปปหยิบไอ้เครื่องเล่นเกมส์แบบพกพาสีขาวที่เหน็บอยู่ตรงกระเป๋ากางเกงข้างหลังออกมาโยนใส่ให้คนตรงหน้า ส่วนไอ้คนรับก็ทำหน้างง ตกใจ หลายๆอย่างๆปนๆกัน แต่ไอ้หน้านี้ละชัดสุด

     

                อ๊ากกก น้องฟอนท์ลูกพ่อ กลับมาแล้วสินะ โอ๋ๆๆๆ

               

                ไอ้ใบไผ่เอาหน้าลูบติดกับเครื่องเล่นเกมส์สีขาวประหนึ่งเหมือนคุณแม่ที่ดีใจเมื่อพบลูกชายที่หายไป

     

                ปัญญาอ่อน

     

                ในเมื่อกูไม่ได้ทำลายข้างของมึง แต่มึงทำลายข้าวของกู ฉะนั้น..มึง ต้องชดใช้ผมเลิกสนใจความปัญญาอ่อนของมันก่อนจะเปลี่นเป็นกระตุกรอยยิ้มเบาๆที่มุมปาก และเริ่มลากมันไปรับรู้กับสิ่งที่มันต้องรับผิดชอบ

     

                ชดใช้เหี้ยอะไร

     

                มานี่กับกูเดี๋ยวนี้!!!”

               

     

               

               

     

     

               

    **********************

    คนเขียน Talk !!!

    สะสวัสดีค่ะ *[]*’’’’ อย่ามองเค้าด้วยสายตาแบบนั้น ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษจริงๆ อัพช้าม๊ากกกกกกก แบบว่าก่อนจะเปิดเทอมเค้าหนีไปปั่นการบ้านมาละ ส่วนตอนนี้ก็เปิดเทอมแล้วละค่ะ..เปิดมาได้สักพักนึง เปิดพร้อมๆไอ้ใบไผ่กับไต้ฝุ่นเลย 55555 จะพยายามมาอัพให้บ่อยที่สุดท่าที่จะทำได้นะค่ะ กิจกรรมเยอะมากเลยช่วงนี้ ต้องเรียนเสริมวันเสาร์ด้วย ไอ้ไก่อยากตาย ฮือๆ T^T…

    ตอนนี้ก็ป่วงๆป่วนๆเหมือนเดิมเนอะ ตัวละครจะออกมาตีกันแล้ว เย้ (หัวเราะบ้า) นี่มันพึ่งเริ่มต้นนะ หนทางยังอีกไกล อย่าพึ่งทิ้งกันไปก่อนนะค่ะ ยังไงก็เจอกันตอนหน้า อากาศเริ่มหนาวแล้ว รักษาสุขภาพด้วยค่ะ J

          

     

     

     

                

    Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×