คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ★ Chapter4 : เพื่อนของใบไผ่
เพื่อนของใบไผ่
ตอนนี้ผมมีความรู้สึกว่าหนังหน้าตัวเองมันตึงมากเลยครับ คงอารมณ์คล้ายๆกับเวลาที่แม่ผมใช้ไอ้พวกโคลนกระปุกราคาหลายพันบาทมาร์คหน้าแล้วแม่จะขยับปากพูดไม่ค่อยได้เพราหน้าตึง แต่ของผมนี่ไม่เสียตังค์สักกะบาท แถมเป็นของบริสุทธิ์จากธรรมชาติด้วยนะ เหอะๆ
หนังหน้าตึงยังไม่เท่าไหร่นะครับเพราะเวลาพูดแม่งก็ร่วงๆหลุดลงมาเอง แต่ต้องมาโดนเจ๊ๆคณะอาจารย์ที่ดูแลแปลงเกษตรด่าเช็ดเม็ดเก็บทุกอย่าง ทั้งๆที่เหตุการณ์นี้ผมไม่ผิดสักหน่อย ใช่มะ? ใครมันจะไปรู้อนาคตได้วะว่าจักรยานจะแฮนด์หลุดติดมือทั้งๆที่ผมก็จับไม่ได้แรงเลยสักกะติ๊ดนึง มันต้องโทษที่จักรยานดิ่!!! (ได้ข่าวว่าลุงยามเค้าเตือนมาแล้ว
)
เออๆ จริงผมก็ผิดด้วย 10% (.__.
(ใช่หรอ.. : ใบไผ่แองเจิ้ล)
เออออออออ กูผิด ผิดเองทั้งหมดเลย แม่งงง!! (เตะใบไผ่แองเจิ้ลกระเด็น)
แต่ที่เจ็บใจมากที่สุดก็คือ สีหน้าของไอ้ฝุ่นละอ่องต๊อกต๋อยที่มันมองหน้าผมแล้วยิ้มเย้ยๆแบบ “สมน้ำหน้า(ที่โดนด่า)” เออ!!กูมันไม่ใช่คนมียศมีตำแหน่งอะไรนี่ ถึงได้ไม่โดนด่าอะไรเลย!! แถมดูเหมือนพวกเจ๊ๆแกจะชอบพวกมันด้วยนะครับ โดยเฉพาะไอ้คนที่ชื่อ..แวร์ หรือไวน์? อะไรสักอย่างนี่ละครับไอ้คนที่ตามันเขียวๆเพราะหมัดผมอะ ไอ้นั้นน่ะเป็นถึงประธานนักเรียนเลยนะครับ
ได้เพราะหน้าแน่ๆ
อย่างพวกมึงอะ!
ตอนนี้ผมนั่งหงุดหงิดกระปิดกระปอยอยู่ที่ม้านั่งสีขาวใต้ต้นไทรที่แผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณที่ถูกจัดไว้เหมือนให้นักเรียนมานั่งเล่นนั่งคุยชิลๆขำๆกันไป แถวๆหอพักชายทั้งตึก1ที่เป็นตึกหน้าด่านของตึกทั้งหมด ที่อยู่ห่างกันคนละซีกโลกกับนราธรณ์ฝั่งที่ผมไปคลุกขี้มาแถมตอนนี้ผมไม่ได้นั่งดมกลิ่นขี้กลิ่นโคลนบนตัวของตัวเองคนแล้วนะครับ
ผมมีเพื่อนมานั่งดมเป็นเพื่อนด้วยอีกคน
สงสัยอะดิใคร หึๆ
“ไม้โท..โรงเรียนมึงไม่มีที่อื่นให้กูล้างตัวบ้างหรอไงวะ??” ผมถามคนตรงหน้าที่นั่งเงียบๆมองหน้าผมมาได้สักครึ่งชั่วโมงแล้วมั้ง ไม้โทนั่งมองหน้าผมแบบเหมือนมีขี้ติดอยู่อะไรอย่างงั้น(ก็มีไง..) กูหล่อมากไง? หน้าเหมือน ณเดช คูกิมิยะมากหรอไง? ถ้าแม่งจะลากกูมาเพื่อนั่งจ้องหน้าแบบนี้ มึงช่วยพากูไปล้างตัวก่อนเหอะ!!
“ตอนบ่ายสามไม่มีหรอก กว่าจะใช้น้ำบนหอได้ก็ตอนสี่โมงเย็นน่ะแหละ แล้วใครเค้าใช้ให้มึงไปปั่นจักรยานลงบ่อเลี้ยงหมูละ” ไม้โทว่าหน้ายิ้มๆ ยักคิ้วกวนส้นเท้าให้ผมก่อนจะเอนหลังพิงม้านั่งอย่างอารมณ์ดี แต่มันก็ยังไม่เลิกจ้องหน้าผม..
อ๊ะ..เดี๋ยวก่อน
หลายคนสงสัยอะดิว่ามันเป็นใคร หึๆ..
ยังจำกันได้มั้ยครับ? ตอนที่ผมกำลังเล่นสงคราม(ขี้)กับไอ้ไต้ฝุ่นเมื่อกี้ อยู่ดีๆก็มีผู้ชายคนนึงเดินมุดๆเลาะๆเข้ามานั่งยองๆตรงที่กั้นเล้าในสภาพที่ไม่โดนลูกหลงเลยสักนิด แล้วมันก็ตะโกนเรียกผมที่ตอนนั้นที่กำลังจะเอาโคลนอัดใส่ปากไอ้ไต้ฝุ่น แล้วแม่งก็เสือกเป็นคนเดียวกันกับที่ผมคุ้นๆหน้าและชื่อมันบนบอร์ดคณะกรรมการนักเรียนด้วย
มันคือ
เพื่อนซี้วัยเด็กของผมครับ..
อะแฮ่มๆจะให้พรรณนานาวันนี้ก็ไม่หมดว่าผมกับมันสนิทกันขนาดไหน งั้นเอาคร่าวๆนะ พื้นฐานจริงๆผมเป็นเด็กกรุงเทพครับ เกิดที่กรุงเทพได้สักสองสามขวบ ป๊ากับแม่ก็พาเฮียใบหม่อนกับผมอพยพมาอยู่หัวหินถิ่นมีหอย(ฝรั่งนั่งค่อยดูหอยติดหิน 55555) เพราะป๊าผมเปิดทำธุรกิจเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารอยู่ที่นั่นครับมันเลยกลายเป็นว่าผมกับเฮียหม่อนก็โตกันมาที่นั่นตั้งแต่เด็กๆคลุกไอทรายเคล้าไอทะเลมาตั้งแต่แบเบาะ
ส่วนบ้านไอ้ไม้โทตระกูลมันเป็นทหารครับ แถมนามสกุลมันใหญ่ซะด้วยพ่อมันกับพ่อผมเป็นเพื่อนกันครับเรียนโรงเรียนเดียวกันมาตั้งแต่สมัยกระโปรงบานขาสั้นเลยสนิทสนมกันมาก ทั้งแม่ผมกับป้าเปียว(แม่ไอ้ไม้) ก็สนิทกันหมด ตอนนั้นผมจำได้ว่าลุงโพด(พ่อไอ้ไม้)ต้องมาประจำการอยู่ที่ค่ายที่หัวหิน(ที่เค้าเปิดให้ไปเที่ยวได้ด้วยอะครับ)ลุงโพดเลยไปๆมาๆหาพ่อผมที่ร้านบ่อยๆ แล้วก็จะหิ้วไอ้เด็กผู้ชายหน้าตาบ๊องแบ๊วๆคิ้วเข้มๆมาด้วย
ไอ้ไม้มันเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่ชายหรือน้องชายให้เล่นด้วยเหมือนผม ลุงโพดเลยชอบเอามันมาทิ้งไว้ที่บ้านให้เล่นกับผมบ่อยๆ ผมก็เลยสนิทกับมันตั้งแต่เด็กๆโตมาด้วยกันกินนอนมาด้วยกัน มันเป็นเหมือนเพื่อนคนแรกในชีวิตของผม ผมเรียนประถมที่เดียวกับมันจนกระทั่งกำลังจะขึ้นมัธยม อยู่ดีๆลุงโพดก็ต้องย้ายกลับมาเป็นผบ.ทร.ที่กรุงเทพแทน ไม้โทกับป้าเปรียวเลยต้องกลับขึ้นกรุงเทพกันหมด นั่นละครับ..การจากลาครั้งแรกของผมกับมัน
สมัยนั้นผมยังเล่นMSNไม่เป็นครับเลยไม่ได้ติดต่ออะไรกันเท่าไหร่ มีแต่ได้คุยกันนิดหน่อยก็ตอนที่ลุงโพดโทรมาหาพ่อแล้วมันจะชอบขอคุยกับผมทุกครั้ง แต่ช่วงหลังๆมาลุงโพดกับพ่อไม่ค่อยได้ติดต่อกันครับ ผมก็เริ่มโตแล้วและไอ้ไม้มันก็หายไปเลยครับ ผมไม่ได้ติดต่อกับอีกมันเลย จนผมขึ้น ม.2 พ่อต้องกลับมาอยู่กรุงเทพเพื่อมาดูแลอากงของผมที่เริ่มป่วยออดๆแอดๆ ผมจำได้ว่าช่วงนั้นป๊าผมต้องไปกลับหัวหินกรุงเทพบ่อยๆ จนในที่สุดเลยตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพแทน ส่วนกิจการต่างๆที่เหลือก็ให้อาหมูน้องชายป๊าลงมาดูแลแทน ส่วนตัวป๊าก็ไปดูร้านที่กรุงเทพแทน ผมก็เข้าเรียนม.2ที่โรงเรียนชายล้วนกางเกงน้ำเงิน ช่วงนั้นเหมือนเป็นช่วงจุดเปลี่ยนของชีวิตผมได้เจอกับพวกไอ้กล้วยไอ้ก๊อง(เพื่อนสนิทโรงเรียนเก่าผม) เลยเหมือนลืมๆเรื่องไม้โทไป เพราะผมเองก็ไม่ได้เจอกับมันอีกเลยจนกระทั่งวันนี้
ที่อยู่ๆผมก็ได้เจอมัน
“มึงจะจ้องหน้ากูอีกนานมั้ย หน้ากูเหมือนโซระ อาโออิมากหรอไง” ผมถามไอ้ไม้เสียงหงุดหงิดก่อนจะใช้ขาซ้าย เตะไปที่หน้าแข้งไอ้คนตรงหน้าเบาๆระบายอารมณ์
“หึ! ไม่เหมือนหรอก..แค่คล้ายๆ” มันว่า
หือ? คล้ายๆ?
“คล้ายยังไง?” ผมถาม
“ก็ตามึงโตๆเหมือนโซระไง ปากก็เล็กๆเหมือนกันด้วย
มีอย่างเดียวที่มึงไม่เหมือนคือปอดมึงไม่ได้บวม”
ควายยยยยยยยยยย!!
“พ่อมึงสิ! เค้าไม่ได้เรียกตาโตเว้ยแบบกูเค้าเรียกตาคมๆ บอกกูเหมือนณเดชกูยังมีความสุขกว่าเถอะ” ผมผิดเองครับที่ประชดมันไปแบบนั้น (เกาหัวแกรกๆ)
“หน้าอย่างมึงเหมือนณเดชไม่ได้หรอก..” อะไรอีกล่ะรอบนี้..
ผมเลิกคิ้วใส่มันก่อนจะมองหน้ามันแบบเหมือนลุ้นว่าแม่งจะพูดอะไรออกมาอีก “ณเดช เค้าไม่ได้หน้าตาน่ารัก
.”
“พ่อมึงสิ! ใครบอกกูน่ารัก กูหล่อเว้ยยย งอนว่ะ” ผมหยิบเศษใบไม้ที่ร่วงอยู่บนโต๊ะปาใส่หน้าไอ้ไม้โทที่เริ่มหัวเราะจนตัวงอเมื่อเห็นผมทำหน้าหงุดหงิด ใครอยากน่ารักบ้างครับ? เป็นผู้ชายแล้วน่ารักแม่งเสียชาติเกิดมาก (งั้นเอ็งก็เสียไปแล้วใบไผ่..)
“ฮ่าๆๆๆ
หึ มึงไม่ต้องมาทำเป็นงอนกูเลย กูจะไม่ง้อมึงเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ”
“
” เงียบไว้นะใบไผ่..
“ไม่ต้องมาเงียบเลยไอ้นมโรงเรียนบูด” นี่มันฉายาเก่ากูนะ 5555
“
.”
“ไม่พาไปล้างตัวละ” มันว่าเสียงเหมือนงอนๆใส่ผมก่อนจะกอดอกทำปากยื่นๆเหมือนตัวเองน่ารักมาก คิดว่ากูง้อหรอไง..
“อะไร ไม่ได้งอน ก็พาไปดิ”
ง้อก็ได้วะ (อ้าว)
++++++++++++++
“อยู่เฉยๆสิใบไผ่จะยุกยิกทำไมว่ะ
”
ไอ้ไม้จับแขนผมไว้ข้างนึงส่วนอีกข้างนึงมันก็กำลังรองน้ำที่ไหลจากแทงค์อันใหญ่บะเริ่มเทิ่มแล้ววักใส่หน้าผม ก็บอกแล้วไงว่าล้างเองได้!
“มึงไม่ต้องล้างให้กูหรอกกูล้างเองได้ มีมือและตีนว้อย”
“มึงล้างเองจะไปสะอาดอะไรไหนๆก็แอบมาใช้น้ำแล้วล้างทั้งที่ เอาให้สะอาดไปเลย”
ใช่ครับ ผมแอบมาใช้น้ำจริงๆน่ะแหละ ตอนนี้อยู่ตรงแทงค์น้ำหลังหอชายตึก1ครับ มันเป็นหอที่ใกล้ที่สุดในระแวกที่ผมนั่งเมื่อกี้แล้ว ไอ้ไม้บอกว่าน้ำที่ใช้ข้างบนก็สูบมาจากในแทงค์แล้วส่งขึ้นไปน่ะแหละ ถ้าอยากล้างหน้าที่เหมือนพอกด้วยโคลนออกก็ต้องมาล้างตรงนี้ ไม่งั้นก็รอบนหอ แล้วใครจะไปรอถูกมะ? อย่าน้อยๆได้ล้างหน้าก็ดีกว่าต้องนั่งหน้าแห้งรอไปถึงตอนเย็นละว่ะ
“หลับตา” พ่อคนที่สองเริ่มสั่งการผมทันที ผมก็หลับตาอย่างว่าง่ายทันทีเพราะอยากให้มันเสร็จเร็วๆจะได้ออกไปจากตรงนี้สักที ร้อน เหม็นอับ แถมกลัวเจออาจารย์อีก ไม่อยากอธิบายมาก
น้ำเย็นๆถูกวักใส่หน้าผมครั้งแล้วครั้งเล่า จนเหมือนหน้าผมมันชโลมไปด้วยน้ำจนทำให้ดินโคลนที่แปะอยู่บนหน้ามันเริ่มซึมน้ำแล้วก็ล้างออกง่ายขึ้น ไม้โทมันก็เลยปิดก๊อกแล้วหันมาถูหน้าผมไปมา ไล่ตั้งแต่หน้าผากคิ้วที่คาดว่ากรังมากจริงๆ ช่วงไรๆผมและ แก้ม..
ตรงแก้มแม่งถูนาน นานไปละ
ไม้โทใช้มือข้างนึงของมันจับแก้มซ้ายผมส่วนนิ้วโป้งอีกข้างก็เกลี่ยๆโคลนที่ติดอยู่แถวๆจมูกปากและแก้มให้หลุดออก คิ้วเข้มของมันมุนเข้าหากันแสดงถึงความตั้งอกตั้งใจกับการถูหนังหน้าของผมมาก จมูกโด่งของมันหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ มันต้องคอยย่อลงมาผมเพื่อให้ระดับตัวมันพอๆกับตัวผม (ก็แม่งสูงกว่า!) หน้าแม่งก็ชิดหน้ากูเข้ามาจริงๆ จมูกมันจะดูดหน้าผมอยู่ละ
“ก้มมาใกล้กูขนาดนี้ ไม่จูบปากกูไปเลยละ” ผมแหย่มัน
“อย่าปากดีดิ เดี๋ยวกูทำนะ หึหึ” อะ..ไอ้สัด..
“ลองทำดิ กูตัดไม้โทน้อยให้เป็ดกินแน่”
“กูก็ล้อเล่นเถอะ
เอ้า เสร็จแล้ว!” มันกลับไปยืนในระดับส่วนสูงของมันเหมือนเดิม แต่มือมึง
เอามือมึงออกไปด้วยดิ่!
“อู้อ้าเอ็ดแอ้ว แอ้วอำไออึงไอเอาอือออกไออวยอะ (รู้ว่าเสร็จแล้ว แล้วทำไมมึงไม่เอามือออกไปด้วยวะ)” ที่ผมพูดชัดๆไม่ใช่อะไรนะครับ แต่เพราะไอ้ไม้มันยังไม่เอามือมันออกไปจากแก้มผมแถมยังดึงซะยืดจนผมกลัวแก้มจะหลุดติดมือมันออกไปอยู่แล้ว
“แก้มมึงนิ่มเหมือนมาชเมโล่เลยว่ะ
มึงเป็นคนแน่นะไผ่ ไม่ใช่ตุ๊กตายาง?” มันว่าหน้าซื่อๆเสียงเรียบๆ ก่อนจะปล่อยมือมันออกจากแก้มผม
“ค_ย ไม่ได้เจอกันนานนี่มึง สมองกระทบมีปัญหามากหรอไงว่ะ ไม้ ไอ้บ้า ไปๆออกไปได้แล้ว อึดอัดว่ะในนี้” ผมว่าก่อนละลากให้มันเดินออกมา จริงๆก็หิวหนมเหอะแต่สภาพแบบนี้คงไปหาอะไรกินไม่ได้ นอกจากใช้ไอ้ไม้ไปซื้อในสหกรณ์~
“พูดไม่เพราะเลยนะมึงน่ะ!” มันว่าเสียงดุๆแต่ก็ยอมเดินตามผมมาแต่โดยดี ว่าแต่ทำไมตัวมันหนักจังว่ะ ฮึบบ~
ไม่เจอกันนนาน..มึงน่ารักขึ้นเยอะเลยนะ
ใบไผ่
++++++++++++++
[TyPhoon Part!]
“ไอ้ฝุ่น เสร็จแล้วมึงจะขึ้นห้องเลยป่ะ?”
ไอ้วินตะโกนถามผมเสียงดังออกมาจากห้องแต่งตัวที่ถูกกั้นไว้เป็นล็อคๆภายในห้องน้ำรวมขนาดใหญ่ ผมอยู่ในห้องอาบน้ำรวมของหอชายตึก4 ที่ผมแถมจะวิ่งไปขู่ลุงภารโรงให้เปิดน้ำเร็วๆเพราะผมจะอาบเอาไอ้ขี้โคลนพวกนี้ออกไปให้หมด ผมกับไอ้วินน่าจะเรียกว่าสองคนแรกที่มาเปิดซิงห้องน้ำรอบเย็นเลยมั้ง เพราะตอนนี้ไม่มีคนเลยสักนิด รอนู้นเหอะ..สักหกโมงทุ่มนึงสิแม่งแย่งกันลงมาใช้หยังกะห่าลง
“ไม่รู้ มึงถามทำไม?” ผมตอบไปเช็ดหัวไป โคลนแม่งหลุดออกหมดยังว่ะ
“ก็ถามไปงั้นๆละ แบบว่าจริงๆแล้วกูนอนคนเดียวติดกันมาสองคืนแล้วนะเว้ย..ไอ้แคนกับไอ้บาสยังไม่กลับเข้าหอสักที..” ห้อยวินว่าเสียงงิ๊ดๆบอกให้นิดๆว่าแม่งก็ป๊อดแดกกลัวผีกับเข้าเหมือนกันน่ะแหละ
“พวกมันโทรมาบอกกูเมื่อเช้าแล้ว ว่าจะเข้าหอวันนี้” ผมว่าเสียงเรียบๆ ก่อนจะเอาผ้าเช็ดหัวพาดคอแล้วหันไปหยิบคัทเติ้ลบัตมาปั่นหูแทน..กลัวขี้โคลนแม่งเข้าไปอยู่ในรูหูด้วยอะ (ระแวง)
หลังจากเสร็จกิจปาโคลนใส่กันในเล้า ไอ้ตัวแสบก็ชิ่งหนีพวกผมไปกับไอ้ไม้โทน้องรักผมทันที ผมไม่รู้ว่ามันสองตัวไปรู้จักกันตั้งแต่ตอนไหนแต่หน้ามันสองตัวตอนเจอกันดูอึ้งๆมาก ยิ่งตอนไอ้แสบมันจะโดดกอดไอ้ไม้โททั้งชุดเลอะๆขี้ของมันก็พอจะบ่งบอกได้แล้วว่าแม่งไมม่ธรรมดา หลังจากนั้นแม่งก็คุยคิกคักๆ ทำให้ดูรู้ว่ามันคงสนิทกันมาก เห็นละก็
หมั่นไส้
อ้อ..แต่ก่อนมันจะไปมันก็โด่นอาจารย์ด่าไปเยอะนะ ผมละสะใจนิดๆ เจอมันแต่ละทีมีแต่เรื่องซวยๆมาให้ตลอด นี่เจอมันแค่สามวันแรกยังขนาดนี้ แล้วกว่าผมจะจบ ม.6 ไม่เดดซะมอเร่ตายก่อนหรอไงว่ะ?
“เฮ้ยย จริงป่ะๆ โหหห ดีใจว่ะ กูล่ะกะไว้ว่าถ้าวันนี้มันไม่กลับกันจะไปนอนเบียดๆกับไอ้ไวน์ไอ้โด่ง” ไอ้วินว่าเสียงดีใจก่อนจะเปิดประตูห้องแต่งตัวพร้อมกับผูกกางเกงเลย์ขายาวสีส้มดับตับดับไตตัวเก่งของมัน สายแม่งก็ยาวขอให้เหยียบแล้วลื่นล้มหัวแตกปากห้อยกว่าเดิม
“พรุ่งนี้ปิดเทอมมันก็ต้องกลับมากันอยู่แล้ว ถึงวันนี้ไอ้บาสไอ้แคนไม่กลับมา มึงก็ไปนอนกับพวกมันไม่ได้หรอก เพราวันนี้ไอ้สองกลับมาแล้ว..” ผมบอกมัน แต่หน้ายังหันส่องกระจกอยู่ ผมกำลังเช็คสภาพหน้าลูกกะตาซอกเล็บว่ามันไม่มีขี้มูกขี้โคลนหรืออะไรอุดตันอีกแล้วใช่มั้ย บอกตรงๆระแวงโคลนไปอีกนานครับ - -‘’
“ไอ้สองกลับมาแล้ว? อ๋อ มิน่าละไวน์รีบไปขอใช้ห้องน้ำของพวกเจ๊ๆห้องคหกรรมอาบก่อน ที่แท้ก็จะไปรับเมีย อ๋ออออออออ” วินลากเสียงอ๋อยาวตั้งแต่กรุงเทพแตะไปยันสุไหงโกลก เว่อร์สัสๆเพื่อนกู ว่าแต่พูดถึงไอ้สองกลับมาแล้วผมก็ร้อนๆหนาวๆยังไงก็ไม่รู้ มีลางสังหรณ์บ่งบอกว่ามันจะต้องกลับมาพร้อมการชักนำอะไรบางอย่างแน่ๆ แน่ๆ
ผมหยิบเอาพวกเสื้อผ้าที่เปรอะโคลนจนเกินเยียวยาของตัวเองใส่ถุงพลาสติกกะทิ้งเลยครับ ของมันจะไปเราจะไปรั้งไว้ทำไม จริงมั้ย? ไอ้วินก็ไม่ต่างจากผมครับ มันก็กะทิ้งเลยเหมือนกัน ดีนะพวกผมไม่ได้ส่ชุดนักเรียนไม่งั้นก็ยุ่งกว่านี้แน่ๆ นึกๆแล้วก็พาลอยากด่าไอ้ตัวต้นเหตุที่เตี้ยๆแคระๆปากดีๆซะเหลือเกิน นึกถึงมันแล้วหงุดหงิดอีกแล้ว
ไอ้โด่งกับไอ้ไวน์มันหนีพวกผมไปอาบน้ำที่ห้องอาจารย์ตึกคหกรรมแล้วครับ ไอ้ไวน์น่ะลูกรักอาจารย์แทบจะทั้งโรงเรียน ไอ้โด่งก็เด็กกิจกรรมเส้นใหญ่ทำหน้าทำตาให้โรงเรียนเยอะ อย่างผมกับไอ้วินพ่วงด้วยไอ้บาสกับไอ้แคนมันก็เหมือนจอมมารที่สวมภาพว่าเป็นคนดีน่ะแหละครับ ไอ้สภงสภานักเรียนเนี้ยไม่อยากสมัครหรอกแต่ไอ้ไวน์แม่งชอบหาเรื่องมันแอบใส่ชื่อพวกผมลงไปในใบสมัครคณะกรรมนักเรียน โดยที่ตัวมันเป็นประธานนักเรียนให้ภรรละเมียมันเป็นรองประธาน คุณสมบัติแม่งผ่านทุกอย่างยิ่งมีน้องๆในโรงเรียนหลงใหลคลั่งไคล้พวกผม ก็ยิ่งซวยพวกผมเลยครับ สรุปก็ได้มาแบบใสๆแต่ผมว่าต้องมีการจารึกลงบนหน้าประวัติศาสตร์ของนราธรณ์นะ ว่า
ปีนี้จะเป็นปีที่คณะกรรมการนักเรียนทำผิดกฎโรงเรียนมากที่สุด
แกนนำก็
จริงๆก็พลัดกันนำน่ะแหละ ไอ้ไวน์ก็ไม่เคยเบรกพวกผมนะมันสนับสนุนตลอด อย่างในกลุ่มพวกผมมี7คน ส่วนมากจะพลัดกันนำในแต่ละด้านแต่ไอ้ไวน์นี่ส่วนมากมันไม่ฟังใครหรอกนอกจากโดน “เมีย” มันจูงจมูก
พูดแล้วก็หมั่นไส้ครับ เรื่องของมันสองตัวน่ะเป็นอะไรที่เรียกว่า “ประวัติศาสตร์” ของกลุ่มพวกผมเลยก็ว่าได้ เรื่องมันยาว เรายังมีเวลาเล่ากันอีกเยอะ
รอดูกันต่อไปนะครับ J (ยิ้มหวาน)
.
.
.
นาฬิกาบนกาแล็กซี่เอสทูของผมบอกว่าอีก 15 นาทีจะหกโมงแล้ว ท้องฟ้าตอนนี้เริ่มเป็นสีส้มๆ แต่คนก็ยังพอมีให้เห็นบ้างในณราธรณ์ เสียงคนหัวเราะตะโกนด่ากันมีให้ได้ยินแว่วๆมาตลอด เสียงเอะอะโวยวาย
นี่ละบรรยากาศของณราธรณ์ อยากซึมซับไว้นะยังไงผมก็ปีสุดท้ายแล้ว
ผมแยกย้ายกับไอ้วินทันทีที่โทรศัพทจากไอ้แคนเพื่อนผมอีกคนโทรมาบอกให้วินลงไปช่วยมันกับไอ้บาสยก ‘ลังลับ’ ขึ้นหอหน่อยเพราะรอบนี้มันเอามาเยอะมาก มากพอที่เราจะไม่ต้องออกไปข้างนอก ไม่ต้องเสี่ยงเจอกอลิล่าและไม่ต้องรอดรูนั้นออกไปกันอีก
สาบานกับกูสิว่าพวกมึงเป็น..กรรมการนักเรียนจริงๆ (-__- <<พูดเหมือนมึงไม่กินงั้นละ
ผมว่าผมไม่ต้องบอกหรอกนะว่าไอ้ลังลับนั่นมันมีอะไรบ้างเอาเป็นว่ามันเป็นน้ำบั่นทอนสติปัญญาที่ผมว่าแม่งก็ไม่อร่อยหรอกแต่เราก็กินกันมาแล้วก็กินมันต่อไป อย่าไปแคร์ๆ ถึงแม้พ่อผมจะบอกให้ผมเลิกๆกินมันบ้างได้แล้ว แต่พ่อก็กินนะแล้วยังจะมาบอกให้ผมเลิก คนอย่างไอ้ไต้ฝุ่นไม่เลิกง่ายๆหรอกครับ ผมกับพ่อเราจะเป็นตับแข็งไปพร้อมๆกัน!! (บาปนะมึง..)
บ่นไปบ่นมาคนเดียวในใจเผลอแป๊ปๆก็เดินขึ้นบันไดมาถึงหน้าห้องตัวเองแล้ว ไม่รู้ว่าไอ้รูมเมทร่วมห้องของผมมันจะกลับขึ้นมาแล้วหรือยัง? หรือไปนอนห้องไอ้ไม้โทแล้ว? ไปๆได้ก็ดีกูจะได้นอนๆคนเดียว
แกร๊ก
อ้าว เชี่ย ประตูไม่ได้ล็อคนี่หว่า
ทันทีที่ผมเปิดประตูออกไปสิ่งแรกที่รับรู้ได้เลยก็คือ..เสียงพัดลมเพดานมันดังอื้ดๆกับเสียงหัวเราคิกๆคักๆเหมือนคนบ่นอะไรคนเดียว
“โหยยยยย บอสด่านนี้แม่งกากว่ะ เจอกูก็แด้ดิ้นแล้ววว~”
ครับ
สิ่งแรกที่ผมเห็นคือเด็กผู้ชายที่ตัวสูงไม่น่าจะเกิน170 นอนไขว้หางกระดิกนิ้วเท้าเล่นPSP อยู่บนโซฟาสีดำ พร้อมกับเสียงตะโกนกรีดร้องและหัวเราะรวนๆใส่ไอ้เครื่องเล่นเกมสีขาวๆตรงหน้า ตาเตอหน้าเน้อมันนี่ไปหมดเลยครับบ่งบอกว่ามันคงมันส์ของมันมาก
“ปัญญาอ่อน
” ผมพูดลอยๆ
แต่แม่งคงไปกระทบโสตประสาทคน ‘ปัญญาอ่อน’ เข้า
“หมาเห่า อย่าเห่าตอบ” เสียงไอ้แสบเจื้อยแจ้วได้น่าเอาTeenยัดปากมันมาก
“หมาบางตัวแม่งก็ติ๊งต๊อง พูดคนเดียวก็ได้”
“ดีกว่าหมาบางตัววันนี้ว่ะ
หัวจิ้มขี้ กร๊ากกกกก”
“หึ! ได้ข่าวว่ามึงเละกว่ากูอีกไม่ใช่หรอ” ผมปิดประตูตู้เสื้อผ้าเบาๆหลังจากเก็บอุปกรณ์อาบน้ำใส่ตู้แล้ว มือก็เอื้อมไปหยิบกีต้าร์โปร่งลูกรักบนตู้เสื้อผ้าลงมาแล้วถือเดินไปนั่งบนปลายเตียง เสียงฮึดฮัดของไอ้แสบดังมาให้ผมได้ยินแว่วๆ
ด่ากู..ได้ข่าวว่ามึงนี่ตั้งแต่หัวจรดเท้าก็เละไม่ใช่หรอ ? หึ!
“หะ..เหอะ คุยกับหมาหมาเลียปากว่ะ
เฮ้ยยย เชี่ยยยยย บอสด่านนี้แม่งกากกกก อ๊ากกก”
แล้วแม่งก็กลับมาแหกปากแบบนี้อีกครั้ง.. ผมไม่ได้สนใจอะไรมันอีกนอกจากนั่งเกากีต้าร์ตัวเองเบาๆ แล้วก็มีเสียงไอ้แสบเตี้ยเหี้ยด้วย (?) ด่าทอไอ้ตัวการ์ตูนในเกมส์ที่มันเล่นดังออกมาเป็นระยะๆ น่ารำคาญจริงๆ..
ว่าแต่คงมีหลายคนสงสัยนะครับว่าทำไมผมถึงได้นอนคนเดียว?
เรื่องมันยาว
.แต่เอาเป็นว่าห้องแบบผมที่ติดแอร์น่ะมันไม่ได้มีแค่ห้องเดียวในโรงเรียนหรอก พวกเพื่อนๆผมก็นอนห้องแบบนี้กันละครับ เพียงแต่ว่ามันนอนกันห้องละสาม คน จริงๆตอนแรกผมก็นอนกับพวกมันน่ะแหละแต่พอ ขึ้น ม.4 แม่งเหมือนผมโดนแกล้งรึเปล่าก็ไม่รู้ อาจารย์รันหอพักผิดชื่อผมเลยตกไปอยู่ห้องอื่นแล้วชื่อไอ้สองก็มาอยู่ในห้องที่ผมนอนแทน ไอ้สองมันพึ่งย้ายเข้ามาตอน ม.4 เองครับ จะว่าไปที่ไอ้สองกับไอ้ไวน์ได้คบกันได้ พวกมันต้องขอบคุณผมด้วยซ้ำ!! อ๋อ..สองไม่ใช่ผู้หญิงนะครับ ต้องบอกอะไรอีกมั้ยว่าไอ้ไวน์แม่งมีแฟนเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
แล้วมันเป็นอะไร?
นอกเรื่องอีกละๆ นั่นละ ผมก็เลยโวยวายไงว่าผมไม่นอนห้องอื่นผมจะนอนกับพวกมัน!! แต่ทางโรงเรียนก็บอกว่ามันไม่ได้แล้วเพราะไอ้สองมันก็ไม่ยอมมันจะนอนห้องพิเศษเหมือนกัน ผมจำได้ว่าผมก็เกือบตีกับมันตายเพราะแย่งห้องกัน ตั้งแต่เกิดมาพึ่งเคยเจอผู้ชายแบบไอ้สองนี่ละเอาแต่ใจตัวเองสุดตีน แต่ผมก็ใช่ว่าจะยอมง่ายๆนะจนอาจารย์แกยื่นข้อเสนอว่างั้นให้ผมนอนห้องที่กำลังทำใหม่ ให้นอนคนเดียวด้วย..ตอนนั้นผมเลยยอม ก็มันสบายกว่าป่ะละ นอนคนเดียวไม่ต้องฟังพวกไอ้โด่งนั่งท่องสูตรเลขให้หลอนทุกค่ำคืน ไม่ต้องฟังเสียงไอ้ไวน์แอบโทรไปม่อสาว สบายสุดๆ..
ผมน่ะเคยสบายสุดๆ
จนกระทั่งมีไอ้แสบเตี้ยเหี้ยด้วยเข้ามา
เสียงไอ้แสบยังดังมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ พร้อมกับเสียงจากไอ้เกมส์ติ๊งต๊องที่มันกำลังเล่นอยู่ด้วย หมั่นไส้และหงุดหงิดจริงๆ
เล่นไปละกันกูจะร้องเพลงให้ฟัง..หึหึ
“ให้ตกน้ำน้ำ ตกรถเรือ ตกท่าน้ำ ..” ผมจรดนิ้วลงบนสายกีต้าร์ก่อนจะเริ่มเพิ่มความดังของเสียงที่กำลังร้องให้ไอ้คนที่นอนอยู่บนโซฟาได้ยิน..
“ตกเครื่องบิน ตกโต๊ะ ตกเตียง
.”
“เสียงหมาที่ไหน แม่งห่อนว่ะ
. พลั่ก! โอ๊ยยย”
“ปากกูนี่ดีจริงๆ แช่งคนแล้วแม่งก็ตกเตียงจริงๆด้วย หึ
” ผมยิ้มขำกับไอ้เสียงพลั่กทันทีที่ร้องท่อง ตกเตียงยังไม่ทัจะจบดีนัก ไอ้ใบเหี่ยว (?) ก็ดิ้นไปดิ้นมาแล้วตกเตียงเสียงดังพลั่ก กูละอยากจะขำให้ฟันร่วง (แต่ไม่ได้เราต้องรักษาอาการ..)
“โซหา มันลื่นหรอก ไม่เกี่ยวกับมึงสักหน่อย!!” ไอ้ตัวดีลุกขึ้นยืนได้ก็ด่าผมฉอดๆตาโตๆของมันงี้จ้องผมถลนเลย ผมก็เลยมองหน้ามันกลับนิ่งๆแล้ว ปากก็เริ่มร้องเพลงมือก็ดีดกีต้าร์ต่อ
“สอบตก ให้คางคกกัดให้งูรัดให้โดนพดลมบาดมือ บาดนิ้ว บาดแขน..” ผมยักคิ้วให้มันน้อยๆอีกนึงสเต็ป(กวนตีน) “ บาดขา สิวขึ้นหน้า ฝ้าขึ้นหลังลามขึ้นคอ ยังไม่พอขอให้อกหักไม่พบรัก ทุกชาติ ทุกชาติไป~”
พอผมดีดจนจบเพลงแล้ว ผมก็เอากีต้าร์ลูกรักพิงไว้ข้างๆโต๊ะบนหัวเตียง ก่อนจะเดินผ่านไอ้ใบเหี่ยวที่ยืนจ้องผมด้วยสายตาเคียดแค้นเดินไปปิดไฟตรงสวิตหน้าประตูห้อง เนื่องจากวันนี้ผมต้องรีบนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปเตรียมเล่นโฟร์คซองขอบคุณน้องๆที่เลือกพวกผมมาเป็นสภานักเรียน (ทั้งๆที่จริงๆอยากด่ารายคนว่าเลือกกูมาทำไมกูไม่ได้อยากเป็น..)
ไอ้ตัวดีกระแทกตัวนอนลงบนโซฟาที่เดิมพร้อมกับกดเล่นเกมส์ของมันต่อไป รอบนี้เสียงกดปุ่มเร็วและน่ากลัวกว่าตอนแรกซะอีก เฮ้ย!! ที่กูปิดไฟเนี้ยคือต้องการให้มึงรู้ว่า..มึงสมควรจะนอนได้แล้ว!!
แต่อย่างว่าละครับไอ้แสบก็คือไอ้แสบ ต่อให้เอารถเครนมายกแม่งก็ไม่ลุกมานอนแน่ๆผมก็เลยขึ้นเตียงนอนคลุมโปงทันที แต่ก็เหมือนคนมันแค้น มันเลยกะกวนตีนผม
“เช้สโด้!! แพนด้าแม่งเจ๋งว่ะ ตื้บมันเลยลูกกกกก”
เสียงเอ็ดตะโร่โห่หิ้วของมันดังขึ้นมาอีกในความมืด แถมดังกว่าเดิมด้วย เหมือนมันจะกวนส้นตีนผมยังไงอย่างงั้น นี่ขนาดกูปิดไฟไล่มึงแล้วนะ..
“ย๊ากกกกกกก ไอ้แพนด้าเลวตายซะเหอะเมิงงงงง”
“
..”อดทนไว้ไอ้ฝุ่น
“เอิ้ววว เอิ้ววว เยิ้บบ ชึ๊บบบ พ่อมึงตายยยยยย”
“
..”ขันตินะมึงๆ
“แว้กกกกก ผีด่านนี้น่ากลัวมากกก”
“โว้ยยยยยยย!! มึงจะนอนได้หรือยัง!!” ขันแตกแล้วเว้ยย!!
ผมลุกขึ้นเลิ่กผ้าห่มแล้วเดินไปเปิดไฟทันที ก่อนจะเดินมายืนคร่อมอยู่ตรงหลังโซฟาตัวที่มันนอน ไอ้ตัวดีก็เหลือบตาโตๆของมันมามองหน้าผมก่อนจะหันไปนอนกดเกมส์ยิกๆต่อ “ไม่!!! กูจะเล่นเกมส์..” มันว่าเสียงแข็ง
“มึงจะเล่นใช่มั้ย!?”
“เออ กูจะเล่น” มันยักคิ้วให้ผมแต่ตายังมองเกมส์
“งั้นลง..ไปเล่นเล่นกับพงหญ้าหน้าตึกละกัน!!!” ผมกระชากPSPบนมือไอ้ตัวดีออกมาก่อนจะเดินดุ่มๆไปที่หน้าต่างก่อนจะโยนมันทิ้งลงไปข้างล่าง...
ทีงี้ละลุกได้เลยนะมึง..
“มึงทำเหี้ยอะไร
” ไอ้ตัวแสบว่าเสียงเย็นๆ
“ก็กูบอกให้มึงนอน กูรำคาญ” ผมว่าพร้อมกับจ้องหน้ามันกลับนิ่งๆ
“มึงโยน PSP กูลงไปทำไม!!!!” มันเริ่มขึ้นเสียงดังใส่ผม
คราวนี้หน้าไอ้แสบมันดูโหดร้ายโรคจิตอำมหิตกว่าเมื่อกี้ขึ้นอีก 50% หน้าตามันเหมือนเด็กที่โดนแย่งของเล่นแล้วโกรธแค้นมากพร้อมจะฆ่าทุกคนที่ขวางหน้ามันได้เลย
“มึงอยากตายใช่มั้ยห๊ะ!!!!” มันก้าวเข้ามาหาผมพร้อมกำคอเสื้อผมแน่น ผมดึงมือเล็กๆของมันที่ขยุ้มคอเสื้อผมอยู่ให้หลุดออกจากคอเสื้อตัวเอง หวังว่ากูคงไม่โดนฆาตกรรมปิดตายในหอพักนักเรียนหรอกใช่มั้ย
“ถ้ามึงคิดจะอยู่ห้องเดียวกันกับคนอื่นแล้วทำตัวแบบนี้ก็อย่าอยู่เลย PSPก็ไม่ต้องเล่นแม่งหรอก สันดานแย่ๆแบบมึงน่ะ”
“เหอะ!!! กูบอกแล้วไง
กูไม่ได้อยากนอนกับคนอย่างมึงนักหรอก!! กูไปนอนห้องไอ้ไม้ก็ได้!!” มันสะบัดมือมันจนหลุดจากมือผม ก่อนจะเดินไปหยิบหมอนบนหัวเตียงกับผ้าห่มลายเบ็นเท็นของมันเตรียมจะเดินออกจากห้องไปทันที
“มึงรู้มั้ย..หอนี้มีประวัติเรื่อง เด็กผู้ชายผูกคอตายด้วยนะ..” ผมว่าด้วยน้ำเสียงธรรมดา แต่มันก็คงดังพอจะให้ไอ้คนที่ใส่กางเกงวิ่งขาสั้นสีน้ำหยุดชะงักกึกอยู่หน้าประตู้ห้องทันที กูรู้จุดอ่อนมึงแล้วน่า
ก่อนที่ผมจะเห็นมันเดินปึงๆกลับเข้ามาในห้อง
พร้อมกับโยนอุปกรณ์การนอนของมันลงบนที่นอนเหมือนเดิมแล้วตะคอกใส่ผมเสียงดัง
“จะนอนมั้ยไอ้สัส เรื่องมากจริงๆ เหี้ยอะไรนักหนาก็ไม่รู้ พ่อมึง
~@%#&^(*_(_*($&%^”
ที่เหลือขอเซ็นเซอร์นะครับ
สุดท้ายก็ปอดมีรูแหละว่ะ (ปอดแหก)
*************************************
♕ คนเขียน Talk !!!
ชะแว้บบบบ!! เค้าหายไปนานเนอะ เค้าเสียใจอะ ฮือออออ คือแบบช่วงที่หายไปไอ้ไก่ค่อนข้างจะเครียดๆท้อๆเยอะเลยค่ะ เกือบจะลบนิยายเรื่องทิ้งไปแล้ว จิตตกน่ะ _ _’’ แต่มีเพื่อนๆพี่ๆน้องมาช่วยทำให้ฮึด!! ขอบคุณมากจริงๆเน้อออ และ..ซอรี่ๆจริงๆที่มาลงช้า สัญญาว่าจะไม่เกินสามวันแล้วค่ะต่อจากนี้ TT/\TT แล้วน้องไม้โทของไก่น่ารักมั้ย? น่ารักอะดิ จีบไม่ได้นะ เค้าจองละ กร้ากกก ไปละๆ เจอกันตอนหน้า ชุ้บๆ
***EDIT***
มาเพิ่มและแก้ไข้บางช่วงค่ะ พอดีเพื่อนคนเขียนไอ้ "สับประรด" มันบอกว่าตอนนี้แปลกๆ
ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะค่ะ T/\T
Shalunla
ความคิดเห็น