ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ★Bad Room-mate : รักคูณร้าย...สุดท้าย ก็รัก [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : ★ Chapter2 : ผีหลอก

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 54


    Chapter2

    ผีหลอก

     

    ผมกำลังพยายามระงับอารมณ์ตัวเอง

     

    ยืนบื้ออยู่ได้จะเข้ามามั้ย ไม่ให้มีความรู้สึกว่า

     

    อยากซัดหน้ามัน

     

    ผมเดินเข้ามาในห้องพัก 466 ก่อนจะโยนของในมือทั้งหมดเข้าผนังห้องระบายอารมณ์ทันที เข้าใจอารมณ์มั้ยครับหงุดหงิดอยากซัดปากคนแต่แม่งก็ทำไม่ได้ไอ้ไผ่อยากกัดลิ้นตัวเองตายยย

     

    ร่างที่สูงกว่าผมหันมามองตามเสียงโครมครามทันที นัยน์ตาสีดำคู่นั้นสบมองผมนิ่งๆก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสูง แล้วก็ร้อง หึ ในลำคอตัวเองเบาๆ ทำไมวะแม่งมีอะไรน่าขำมากหรอไง!!!

     

    เพราะผมมัวแต่กระฟักกระฟัดกระเฟียดหรือไงก็ไม่รู้ ผมจึงลืมมองสำรวจไปรอบๆห้องนี้  สิ่งแรกที่รับรู้ทันทีที่เข้ามาถึงห้องนี้เลยก็คือแอร์มันเย็นมากครับบ่งบอกได้ว่าไอ้เจ้าของห้องคนแรกมันต้องมาห้องก่อนแล้วแน่ๆ ภายในห้องถูกทาด้วยสีฟ้าอ่อนตัดกับสีขาวของประตู หน้าต่างห้องเป็นกระจกใสมีผ้าม่านสีฟ้าเช่นเดียวกัน พื้นห้องเป็นไม้ปาเก้อย่างดีปูด้วยพรหมผืนหนา ในห้องนี้มีตู้เย็นเล็กๆหนึ่งตู้ที่วางอยู่ชิดผนังทางด้านขวาในสุดของห้อง และมีตู้เสื้อผ้าที่ทำด้วยไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ชิดแถวๆริมหน้าต่าง โซฟาสีดำตัวใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางห้อง ทีวีจอLCDขนาดยักษ์ที่ถูกตั้งไว้ริมผนังปลายเตียงของห้อง โต๊ะเขียนหนังสือที่มีแล็ปท็อปสีขาวเครื่องบางตั้งอยู่และเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่เตียงเดียว

     

    เดี๋ยวดิ่มีเตียงเดียว

     

    ทำไมห้องมึงมีแค่เตียงเดียว

     

    ก็บอกแล้วไงว่ากูนอนคนเดียว  

     

    ฟ๊าคคคค มีเตียงเดียว!! จะบ้ารึเปล่า แล้วปกติห้องนึงมันก็พักกันสามคนไม่ใช่หรอไง  (ฟังจากเจ๊กระบังลมมา) ถึงจะรู้ว่ามันนอนคนเดียวก็เหอะ แล้วทำไมห้องไอ้บ้านี่มันมีแค่เตียงเดียว (ถึงแม้จะใหญ่มาก) แถมข้าวของที่ตกแต่งในห้องก็หยังกะคอนโดหรู5ดาว ไม่เหมือนห้องพักนักเรียนในโรงเรียนเลย

     

    แม่งเป็นใครวะ?!

     

    แล้วถ้ามันมีเตียงเดียว กูจะนอนตรงไหนอะ ผมถาม

     

    โซฟา….”

     

    ว่าไงนะ?!”

     

    โซฟาไงห้องนี้เป็นของกูตั้งแต่แรก มึงมาที่หลังโซฟาน่ะถูกแล้ว ไอ้หน้าปีศาจหันมาตอบผมพร้อมยักคิ้วกวนๆใส่

     

    ตลกเหอะ กูไม่นอนหรอกโซฟา แคบก็แคบเย็นก็เย็นผมไม่ยอมหรอก!!

     

    งั้นมึงจะนอนตรงไหนล่ะ..เตียงเดียวกับกู? มันทำเป็นเอียงคอสงสัย ขอให้คอแม่งหัก - -!

    เออทำไม ก็ในเมื่อมึงนอนบนที่นอนได้ ทำไมกูจะนอนไม่ได้ ผมตอบกลับไป ทำไมล่ะวะ ที่มึงยังนอนบนที่นอนได้แล้วทำไม ผมต้องยอมไปนอนบนโซฟาด้วย ผมไม่ใช่ขี้ข้าหรือคนรับใช้มันนะครับ เรื่องอะไรต้องยอมลดตัวไปนอนโซฟาแล้วให้มันสบายบนเตียงใหญ่ๆคนเดียว!!

     

    หืมมม คิดดีแล้วหรอจะนอนเตียงเดียวกับกูน่ะ..” ร่างสูงกว่าพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหาผมที่ยืนอยู่ตรงกำแพงทางประตูห้อง ผมที่กำลังงุนงงกับท่าทางของคนตรงหน้ารู้ตัวอีกทีร่างสูงกว่าก็ก้าวมาจนประชิดตัวผมแล้ว  ด้วยความตกใจประจวบกับมองไม่เห็นทางข้างหลังผมเลยเสียหลักเซถอยหลัง รู้ตัวอีกทีหลังของผมก็สัมผัสกับผนังห้องเย็นๆตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

     

    มือทั้งสองข้างของมันเท้าเข้ากับกำแพงเหมือนจะกันไม่ให้ผมหนี  ก่อนใบหน้าคมคายจะจ้องมองสบกับนัยน์ตาของผมในระยะประชิด จนทำให้ผมมองเห็นนัยน์ตาสีดำดุจรัตติกาลของมันได้อย่างชัดเจน จมูกโด่งสวยได้รูปกับริมฝีปากบาง กำลังโน้มต่ำลงมาเรื่อยๆ  พร้อมๆกับหัวใจของผมที่กำลังเต้นถี่แรงและเร็วขึ้น

     

    ผมกำลังใจเต้นกับการกระทำของคนตรงหน้า

     

    ที่สำคัญกว่า ทำไมผมใจเต้นกับผู้ชาย!!!

     

    ว่าไงละ หืม..ยังอยากนอนเตียงเดียวกับกูมั้ย…” ลมหายใจอุ่นๆรดที่ต้นคอของผม พร้อมกับน้ำเสียงที่ทำให้ขนตรงช่วงคอของผมลุกขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุผมสาบานได้ว่า ขาผมกำลังสั่น

     

    ทะทำไมกูจะนอนตะ...เตียงเดียวกับมึงไม่ได้ ผมพยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเหมือนขา ห่าเอ้ย...กูเป็นอะไร!!

     

    แน่ใจแล้วนะ...ถ้านอนเตียงเดียวกับกู มึงอาจจะไม่รอด ก็ได้นะ ไม่รอด ไม่รอด...เชี้ยอะไรวะ!!! ผมอยากผลักมันออกไป แต่ผมไม่มีแรงไม่มีแรงเอาเสียดื้อๆทั้งๆที่มันยังไม่ทำอะไรสักอย่างผมเลย

     

     คิด….” แต่แล้วอยู่ๆผมก็ฮึด คิดจะขู่กูหรอ!!”

     

    ผลั่ก!!

     

    โอ๊ยยยยย!!!”

     

    ผมรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายของตัวเองก่อนจะจัดการเตะผ่าหมากมันไปเน้นๆ เรื่องอะไรจะยอมให้มันมาทำกับผมแบบนี้ พอเห็นว่าร่างของคนที่คร่อมผมอยู่ตอนแรกนั้นร่วงลงไปนอนอุดคุดคู้อยู่แทบเท้าแล้ว ผมก็จัดแจงเดินออกมาจากมุมกำแพง เปลี่ยนมาเป็นยืนมุมที่มันเคยยืนแล้วผมไปยืนตรงที่มันยืนแทน ก่อนจะค่อยๆย่อตัวลงมานั่งยองๆข้างๆมัน

     

    คิดจะขู่กูด้วยวิธีนี่หรอ? .อย่าคิดว่ากูจะกลัวเลยนะ..”ผมพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันคนตรงหน้าอย่างเต็มที่ อย่าหวังว่า...จะได้กดกูแบบนี้อีก!! ก่อนที่ประโยคหลังจะตะโกนใส่หน้ามันเต็มๆ

     

    ผมพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันใส่หน้ามัน ก่อนจะค่อยๆลุกแล้วเดินออกหนีออกไปจากห้องทันทีทิ้งให้มันร้องโอดครวญอยู่ข้างในห้องคนเดียว

     

     

    ไอ้ตัวแสบไอ้ ไอ้หน้าตุ๊ดกูสัญญา กูจะไม่ปล่อยมึงไว้แน่ๆ!!!!”

     

     

    ++++++++++++++

     

     

    Taifun Part!

                                                   

              ผมนอนหงายหน้าอยู่บนโซฟาโดยที่มืออีกข้างก็ค่อยๆจับเจ้าถุงน้ำแข็งที่ประคบไต้ฝุ่นน้อยลูกรักที่ถูกไอ้ตัวแสบเมื่อกี้เตะใส่มาเต็มๆแรง กูจะสูญพันธ์ปะวะ

               

                มืออีกข้างที่ว่างอยู่ของผมก็พยายามควานหา Samsung Galaxy Sll ที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกข้างๆโซฟา เพื่อกดหาเบอร์ไอ้วิน ให้มาขึ้นมาหาผมหน่อยพอดีมี แผน หึหึ...เพื่อไอ้ตัวแสบเมื่อกี้โดยเฉพาะ

     

               

                เห็นผมเรียกมัน ไอ้หน้าตุ๊ด จริงๆหน้ามันก็ไม่ได้ตุ๊ดอะไรขนาดนั้นหรอกครับ แต่ว่าแม่งหน้าหวานเหลือเกิน ผู้ชายที่ตัวเล็กๆปากแดงๆขาวๆหน้าตาหยิ่งๆ ที่มองเห็นตอนแรกถ้ามันไม่พูดจะดูน่ารักมาก แต่พออ้าพูดเท่านั้นละปากมันหยังกะรวบรวมฟาร์มสุนัขทั้งประเทศไทยไว้ ผมเห็นมันตั้งแต่ตอนที่มันตะโกนด่าพวกไอ้โอกลางโรงอาหารแล้วละ แต่ตอนนั้นใครจะไปคิดว่ามันจะเป็น ผู้มาแย่งที่พักพิงของผม..

     

              ..ผมนายวายุ อัครโยธิน ผู้ชายที่อาศัยอยู่ในห้อง 466 มาตลอดระยะเวลาสองปีกว่า แต่จริงๆต้องพูดว่าผมกินๆนอนๆเรียนๆที่นราธรณ์มาตั้งแต่ ม.1 แล้ว แล้วจู่ๆอยู่ๆวันหนึ่งกำลังเก็บของจะกลับเข้าหอ ไอ้ไวน์ท่านประธานนักเรียนก็โทรมาคาบข่าวบอกผมว่า...

     

                (เตรียมตัวมีรูมเมทได้เลยนะไอ้ฝุ่น น้อง ม.5 ย้ายมากลางคัน...)

     

                นั่นละครับพอรู้เรื่องจากไอ้ไวน์ผมก็รีบบึ่งรถมาโรงเรียนทันที ตอนแรกโมโหที่มันมาแย่งห้องผม ห้องอื่นมีเยอะแยะทำไมมันไม่ไปนอน แต่พอเจอเหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์อย่างเมื่อกี้ ผมชัก

     

                สนุกขึ้นมาแล้วสิJ

               

                ผมกดโทรศัพท์เลื่อนลงมาเรื่อยๆจนเจอเบอร์ไอ้วิน ผมกดโทรออกทันที ฟังสัญญาณรอสายมันด่าว่าผมเป็นตุ๊ดละก็เคืองแม่ง ร้องแบบอื่นไม่เป็นไงวะ (พาล)

     

                (หน้ามืดปะวะ โทรหากูเนี้ย)

               

                อย่าพึ่งกวนตีนดิเชี่ยห้อย อยู่ไหนเนี้ย

     

                (สัส ด่ากูห้อยกูเสียหาย..กำลังจะเลี้ยวเข้าโรงเรียนละเนี้ย ทำไม..คิดถึงกูมากไง)

     

                หึใครจะไปคิดถึงคนปากห้อยๆอย่างมึง ย้ำแม่งหน่อยครับ ไม่เจอนานไม่ได้ด่าใครห้อยมานาน

     

                (ถ้าโทรมาเพื่อด่ากูปากห้อย งั้นกูวางละ ขับรถไม่ถนัด)

     

                หึ! ไม่ได้จะโทรมาด่ามึงหรอก แค่อยากจะบอกว่ามาถึงแล้วให้มาหากูที่ห้องด้วย พอดีกูมีปัญหาอะไรนิดหน่อยว่ะ…”

     

                (ปัญหาห่าไรอีกละ มึงอย่าหาเรื่องมากนะฝุ่น เดี๋ยวไอ้ไวน์ก็ด่าอีก เออๆ..เดี๋ยวกูขึ้นไปหา แกร๊ก! โธ่ จารย์! ถ้าผมจะรถคว่ำคงคว่ำตั้งแต่ ลำลูกกาแล้วปิ๊ป!)

     

                เสียงกุกกักๆกับเสียงตะโกนเถียงกันแบบนั้น ให้เดาก็ไอ้เชี่ยวินโดนอาจารย์สักคนด่าแน่เลยที่ขับรถมือเดียว สมน้ำหน้าอยากปากห้อยดีนัก (พาลเขาไปทั่ว)

     

     

                เตรียมตัวไว้เลยไอ้แสบ…^^

     

    ++++++++++++++

     

    นราธรณ์โรงเรียนมัธยมต้นชื่อดังอันดับต้นๆของประเทศไทย ด้วยเนื้อที่ที่กินอาณาบริเวณของซอยชื่อดังย่านกรุงเทพมหานครมากกว่า 50 ไร่ บริเวณโรงเรียนถูกโอบล้อมไปด้วยต้นไม้และรั้วสูงกันเพื่อไม่ให้เหล่าเด็กหอปีนป่ายหนีออกไปได้ ตึกเรียนสีเทาฟ้าที่ถูกแยกเป็นตึกตามสาขาของแต่ละวิชาแต่ก็ถูกเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินยาวที่ทอดต่อกัน และหอพักชายหญิงที่ถูกจับแยกไว้คนละทิศละทางเพื่อกันไม่ให้เกิดเรื่องเสียหายขึ้น และอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ของโรงเรียนที่เป็นสถานที่ขึ้นชื่ออีกที่หนึ่งของโรงเรียน เคยถูกใช้เป็นการจัดแข่งขันฟุตบอลระดับประเทศมาแล้วหลายครั้ง และสิ่งสำคัญที่ทำให้โรงเรียนนี้เลื่องชื่อมากที่สุดก็คือด้านวิชาการ รับรองการขัดเกลาบุคคลได้จากผู้นำประเทศ หรือนักการเมืองชื่อดังหลายๆคนล้วนแล้วแต่ก็จบมาจากโรงเรียนนี้ทั้งนั้น

     

    เวลาพลบค่ำของนราธรณ์ในตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เด็กดีๆจะออกมาเดินเล่นกัน แต่กลับมีร่างสูงของชายหนุ่มสามสี่คนเดินทำตัวลับๆล่อๆอยู่แถวบริเวณหลังห้องสมุดของโรงเรียน

     

    ไต้ฝุ่น มึงเอาจะทำจริงๆหรอว่ะ ผู้ชายหน้าตากวนๆ (ตีน) ถามด้วยน้ำเสียงกึ่งเย้ากึ่งหยอก นัยน์ตาสีน้ำตาลพราวระยับผิดกับการพูดการจาลิบลับ

     

    กูล้อเล่นมั้งวิน มาถึงขนาดนี้แล้ว เจ้าของชื่อไต้ฝุ่น หันมาตอบคนถามด้วยใบหน้าเรียบนิ่งไม่มีท่าทีบ่งบอกเลยสักนิดว่าจะเปลี่ยนความตั้งใจของตัวเอง

     

    แต่ถ้ามีอะไรขึ้นกูไม่เกี่ยวกับพวกมึงนะ ไม่อยากเอาตำแหน่งประธานนักเรียนมาแขวนไว้บนเส้นด้าย เดี๋ยวสองกลับมารู้กูหัวขาดแน่ๆ คิดแล้วสยอง…” คนที่ได้ชื่อว่าเป็น ท่านประธานนักเรียน บอกด้วยน้ำเสียงแบบเรื่องนี้กูไม่เกี่ยวใดๆทั้งสิ้นยิ่งปลายๆประโยคแล้วเจ้าตัวก็ยกแขนทั้งสองข้างที่ถือหน้ากากผีของตนอยู่ขึ้นมากอดตัวเองแล้วสั่นเบาๆให้บ่งบอกว่าตัวเองสยอง ก่อนจะโดนผู้ชายร่างที่สูงไล่เลี่ยกันแขวะกลับด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยเต็มที่...

     

    หึ ก็ทำเป็นพูดไปงั้นแหละ มึงน่ะ..ไอ้ไวน์ จริงๆก็แค่กลัวเมีย

     

    หุปปากไปเลย ไอ้เชี่ยโด่ง แม่ง เดินเร็วๆดิ๊ ยุงจะห่ามกูไปละ พอเห็นว่าเพื่อนเอาความจริงมาพูด (?) พอตัวเองสู้ไม่ได้เลยหันไปเร่งให้ไอ้สามตัวที่เหลือรีบๆเดินเร็วๆทันที

     

    เฮ้ยๆหลบก่อนมีคนมา...” วินที่เดินนำหน้าเพื่อนอยู่หันมาบอกให้ไอ้สามตัวที่เหลือหลบทันที ที่ได้ยินเสียงกรอบแกรบพร้อมกับเสียงเหมือนคนบ่นอะไรคนเดียวลอยแว่วๆมา กองไม้ที่ตั้งเรียงรายกันหลังตึกจึงถูกใช้เป็นที่กำบังสำหรับมนุษย์ตัวโตสี่คนทันที ก่อนที่ร่างทั้งสี่จะค่อยๆชะโงกหน้าออกมาดูว่าใครกำลังเดินมา

     

    กูก็ไม่ได้อยากจะเข้านักหรอกมึงก็รู้อะกล้วย

     

    น้ำเสียงที่ไต้ฝุ่นคุ้นเคยเป็นอย่างดี ดีเสียจนเจ้าตัวต้องชะโงกหน้าออกมาดูเพื่อให้เห็นชัดๆว่าใช่จริงๆรึเปล่า ก่อนจะโดนไวน์สั่งให้หดหัวกลับมาหน่อยเดี๋ยวเขารู้ว่าแอบอยู่ตรงนี้กัน ร่างบางในชุดกางเกงขาสามส่วนสีฟ้ากับเสื้อยืดเข้ารูปสีขาวที่ขนาดเสื้อว่าเล็กแล้วแต่ตัวคนใส่กลับเล็กกว่า ดูได้จากความหลวมของมัน

     

    หึ!เมื่อคืนคงนอนหลับสบายดีสินะ..ไต้ฝุ่นคิดในใจ

     

    นี่ละรูมเมทร่วมห้องกู ไต้ฝุ่นเอ่ยเบาๆทำลายความเงียบ เรียกให้อีกสามร่างที่ชะโงกหน้ากันอยู่นั้นพากันหันพรึบกลับมามองหน้าคนพูดทันที หือ?? คนนี้อะนะ??ไวน์ถามด้วยเสียงสงสัย น่ารักวะ…” ก่อนจะทำหน้าเพ้อๆมองร่างบางที่ยืนอยู่จุดเดิมไม่วางตา

     

    โอ๊ยยย โด่งตบหัวกูทำไมว่ะไวน์ลูบหัวตัวเองปอยๆหลังจากได้รับรสฝ่ามือของโด่งที่โบกเข้าเต็มๆจนกลุ่มผมบนหัวไวน์กระจุยกระจายออกอย่างเห็นได้ชัด

     

    เก็บวิญญาณเสือของมึงหน่อยไอ้ไวน์...กูจะฟ้องไอ้สอง โด่งว่าเสียงโหด

     

    อย่านะเว้ย!!! ก็แค่บอกน้องเค้าน่ารักเฉยๆ ยังไงกูก็รักสองคนเดียวแหละ..” โด่งไม่ตอบอะไรแต่ทำเพียงแค่เป็นแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ไวน์  ไวน์เลยทำแค่ถลึงตาใส่ก่อนจะหันกลับไปมองร่างบางที่ยืนอยู่ใต้หลอดไฟนีออนตรงจุดเดิม ผิวขาวๆพอต้องแสงนีออนแล้วก็ยิ่งช่วยขับให้มันดูขาวยิ่งขึ้น

     

    แต่น้องเขาน่ารักจริงๆนะเว้ยฝุ่น มึงจะโวยวายทำไมว่ะ..” วินว่าเสียงเคลิ้ม ก่อนจะโดนไต้ฝุ่นดีดติ่งหูไปอย่างเต็มแรง โอ๊ยย ไอ้ฝุ่น ไอ้สัส ไอ้พ่อแม่ไม่สั่งสอน มึงดีดหูกูทำไมว่ะวินแหวเสียงเบาก่อนจะลูบติ่งหูตัวเองปอยๆ

     

    แค่นี้ต้องด่าพ่อด่าแม่กูเลยหรอ ควาย มึงก็พูดได้เห็นหน้าตาอย่างงี้ แต่ปากนี่อย่าให้กูบรรยาย เอาไว้มึงรอดูต่อไปละกัน หึหึ ไต้ฝุ่นหัวเราะหึหึอย่างคนที่เจอมากับตัวแล้ว ก่อนจะพยักเพยิดให้วินกลับไปมองร่างบางที่เดินวนไปวนมาโดยที่มีโทรศัพท์แนบหูอยู่

     

    อ๋อ ไอ้ห่าที่กูเล่าให้ฟังตะกี้อะนะแม่งสันดานนี่..เออ ถูกของมึงกล้วยเหี้ยสัสๆอะกูไม่อยากจะเอ่ยแม่งเหี้ยจนไม่รู้จะหาคำไหนมาด่าละคิดถึงหน้าแม่งแล้วอยากเอานันยางยัดปาก หมันหน้าแม่ง.. แล้วมึงคิดดูดิ่กล้วยกูต้องนอนห้องเดียวกับมันตั้งปีนึงเลยนะว้อยมันอยู่ม.6ว่ะเลยได้นอนกับแม่งแค่ปีเดียวฟายย นอนเฉยๆดิวะ…..ฮ่าๆๆๆ ทำไมมึงพูดงั้นอะกูฮา….ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

     

     

    เออว่ะปากกับหน้าตาห่างกันลิบลับเลยว่ะ...” น้ำเสียงผิดหวังถูกเอ่ยออกมาทันที ที่ได้ยินฝีปากของคนที่เค้าพึ่งชมไปแหมบๆว่าน่ารัก ว่าแต่เหมือนมึงโดนนินทาเลยวะฝุ่น หึหึแต่ประโยคหลังก็เปลี่ยนมาเป็นน้ำเสียงเย้ยๆคนข้างหน้าตัวเองแทน

     

    สัส กูได้ยินแล้ว ไหนๆเหยื่อก็มาหาถึงตรงนี้แล้ว พวกมึงใส่หน้ากาก!!” ถึงจะไม่ใช่เสียงที่ดังมากจนเหมือนขู่ แต่มันก็เรียกให้สามคนที่เหลือหันมามองหน้ากันเลิกลั่ก

     

    เฮ้ย! ตรงนี้เลยหรอมึงไหนบอกว่าจะกลับไปหลอกที่หอไง..” ไวน์ว่าด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ ผีบ้าตัวไหนเข้าสิงเพื่อนเขา

     

    เออ!! ตรงนี้ล่ะกูเปลี่ยนใจละ ไต้ฝุ่นว่าพร้อมกับหยิบ หน้ากากผี ที่ซ่อนไว้ในเสื้อตัวเองออกมาใส่ จากหน้าหล่อๆเลยกลายเป็นผีหน้าตาประหลาดๆที่มีลูกกะตาโบ้ข้าง ห้อยออกมาข้าง ไต้ฝุ่นหยิบวิกผมสีดำยาวที่ซ่อนไว้ในผ้าคลุมสีดำพื้นใหญ่ออกมา ก่อนจะยืนมันไปให้วินที่นั่งยองๆอยู่ข้างหลัง ของมึง

     

    ห๊ะ!!! กูต้องใส่วิกผมยาวด้วยหรอ กูไม่อยากใส่เออแม่งๆ ใส่ก็ได้วะ ถึงปากจะบนว่าไม่อยากใส่แค่ไหน แต่พอเจอไต้ฝุ่นที่ถลึงตาใส่วิกผู้หญิงผมยาวก็ถูกรับมาสวมแทนผมซอยสั้นของวินทันที ก่อนที่โด่งกับไวน์จะใส่หน้ากากในมือของตัวเองตามและเอาผ้าสีขาวผืนใหญ่มาคลุมตัวเองกันทันที ตอนนี้หลังกระดานไม้กองโตที่ตอนแรกมีชายหนุ่มรูปหล่อสี่คนนั่งอยู่ กลับกลายเป็นมีแต่ผีตาปูดตาโปนและผีผู้หญิงผมยาวนั่งอยู่แทน

     

     มึงออกไปก่อนเลยวิน

     

    อ้าว ทำไมให้กูออกก่อนอะฝุ่น มึงเป็นคนคิดแผนมึงก็ออกดิ..”

     

    มึงไม่รู้หรอ ผีผู้หญิงมันต้องออกก่อนเว้ย แล้วผีสมุนอย่างพวกกูค่อยตามออกมาไง ฝุ่นว่า (แถ) อย่างมีเหตุผล

     

    เออ มึงพูดถูก โด่งพยักหน้าเห็นด้วยหงึกหงัก

     

    เหตุผลห่าไร เกิดมาไม่เคยได้ยิน...เออๆๆไปก็ไปว่ะ แต่ก่อนไปกูขอพูดอะไรหน่อยได้มั้ย วินถอนหายใจยาวๆอย่างปลงๆชีวิต ก่อนจะขยับวิกให้เข้าที่เข้าทางและจัดแจงเช็คชุดคลุมสีขาวที่มีเลือดสาดเปรอะเปื้อนของตัวเองให้เข้าที่ ส่วนเพื่อนอีกสามคนก็หันมามองหน้ามันก่อนจะทำหน้าสงสัยกัน

     

    อะไร

     

    กูว่าแผนนี้แม่งปัญญาอ่อนว่ะ

     

     

    ++++++++++++++

     

     

    ผมเก็บบีบีของตัวเองใส่กระเป๋ากางเกงหลังจากวางสายจากไอ้กล้วยเพื่อนรัก มันโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบผมน่ะ มันบอกว่าจริงๆกะจะโทรมาชวนไปกินเหล้าแต่ผมเข้าหอมาได้สองวันแล้ว เสียดายจริงๆอย่างน้อยๆได้เจอหน้าพวกมันอีกสักครั้งก่อนเปิดเทอมก็ยังดี

     

    หึหึ ตอนนี้ผมใช้ชีวิตอยู่ที่นราธรณ์มาได้สองวันแล้วละครับ สงสัยละสิว่าผมนอนยังไงก็ไม่มีไรมากหรอก แค่รูมเมทร่วมห้องผมหายหัวไปตั้งแต่เมื่อวานที่โดนผมเตะลูกน้อยของมันจนหน้าเขียวหน้าคล้ำไปเลยทีเดียวเชียว พูดแล้วสะใจ ก๊ากกกก ผมเลยยึดเตียงนอนคิงไซส์เตียงนั้นไว้คนเดียว สบายโครตๆอะครับบบ ไม่อยากจะบอก หุๆ

     

    ตอนนี้ผมอยู่ เอ่อน่าจะแถวๆห้องสมุดของโรงเรียน อากาศตอนนี้อากาศเริ่มเย็นๆแล้วละครับ สัมผัสได้จากลมเอื่อยๆที่ปะทะเข้าใบหน้าและแขนของผม ผมยังไม่ได้ขึ้นห้องเลย เพราะออกมาเดินเล่นเมื่อตอนเย็นๆแล้วก็คุยโทรศัพท์กับไอ้กล้วยเพลินไปหน่อย ตอนนี้ก็เฮือก!! สะ..สามทุ่มแล้วหรอ ทำไมมันเร็วจังเลยวะ..

     

    พอก้มมองนาปัดนาฬิกาลายสีเขียวลายเบ็นเทนของผมแล้วก็ต้องตกใจ สามทุ่มแล้วมืดขนาดนี้แล้วหรอเนี้ย ผมมองไปรอบๆตัวเองทันที นราธรณ์เป็นโรงเรียนที่มีต้นไม้เยอะมากไม่เว้นแม้แต่บริเวณแถวๆห้องสมุด ต้นไม้สูงใหญ่ยามค่ำคืนดูน่ากลัวพอๆกับห้องสมุดที่ถูกปิดล็อคด้วยลูกกุญแจดอกใหญ่บ่งบอกว่ายังไม่เปิดให้ใช้บริการ  มองผ่านประตูกระจกใสๆของห้องสมุดก็มีเพียงแสงจากหลอดไฟนีออนพอให้เห้นโต๊ะเก้าอี้และตู้หนังสือเห็นได้รางๆเท่านั้น ส่วนตัวผมตอนนี้ก็ยืนอยู่ตรงซอกตึกที่มองไปข้างหลังก็เห็นแต่เพียงกองไม้สูงพะเนินเทินทึก และ….

     

    ร่างของผู้หญิงผมยาวในชุดขาว!!!!

     

    ผมขยี้ตาตัวเองแรงๆทันที ด้วยกลัวว่าตัวเองจะจิตหลอนและตาฝาดจนจินตนาการไปเอง ผมหันหลังกลับทันที หัวใจผมเต้นแรงๆพอๆกับตอนที่ขึ้นรถไฟเหาะเลย แต่อันนั้นมันแรงเพราะเสียว..อันนี้มันแรงเพราะกลัวT_T ผมสูดลมหายใจเข้าปอดตัวเองลึกๆก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับไปดูทางเดิมอีกครั้ง ไม่มีอะไรหรอกผมคงแค่ตาฝาด ไปเอง อาจจะเป็นแค่ป้าภารโรงก็ได้ เนอะๆผีไม่มีจริงบนโลกใบนี้หร (ล) อก

     

    อึก…” (เสียงใบไผ่กลืนน้ำลาย) 

     

    ฉันหิวหิวเหลือเกิน…” เสียงที่เหมือนแว่วดังมาจากข้างหลังผมทำให้ขนในกายลุกชันทันที ขาที่กำลังจะก้าวหันหลังกลับไปดูเป็นอันต้องชะงักค้างทันที เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงสำเนียงแปร่งๆ   ร้องบอกว่าตัวเองหิว อยู่เหมือนไม่ใกล้ไม่ไกลจากผมเท่าไหร่ มาถึงตรงนี้แล้วผมอยากบอกอะไรกับบางอย่างกับทุกคนครับ

     

    ไอ้ใบไผ่กลัวผี TTTT [] TTTT!!!!!

     

    ฟึ่บ!!

     

    เหมือนหางตาผมมองเห็นอะไรบางอย่างแว้บๆหายไปทางด้านซ้ายมือของผม ก่อนจะได้ยินเหมือนฝีเท้าทางด้านหลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ..เรื่อยๆ

     

    มีอะไรให้ฉันกินมั้ย….หิวเหลือเกินนนนน เสียงของมันโหยหวนและเริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย ถึงผมจะดื้อไม่ค่อยตั้งใจเรียนเท่าไหร่ ชอบทำให้ป๊าลำบากใจ ติดเกมส์ แต่ผมก็ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อนนะ ช่วยผมด้วยยยย!!!!

     

    อะระหะโตสัมมาสัมพุธทสะ ใช่ปะวะ... (มั่วแล้ว) สงสัยบทนี้จะไม่ใช่ เปลี่ยนๆ นะโมตะสะภะคะวาตัมธัมโมสังฆังนะมามิ โว้ยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!! ตีกันมั่วไปหมดแล้ว กลัว กลัวเว้ยยยย ฮืออออออออออ

     

    ผมยกมือขึ้นมาพนมแล้วท่องคะถาบทสวดต่างๆนาๆที่นึกออกในหัวแต่เหมือนมันจะมั่วแล้วเอามารวมกัน ทางสุดท้ายที่ผมคิดก็คือผมต้องวิ่ง ใช่ๆ!! ผมต้องวิ่ง แต่มองไปข้างหน้าแม่งก็มืดน่ากลัวเกิน..ผมเลยตัดสินใจจะวิ่งไปทางขวาแทนแต่พอเงยหน้ามองก็เห็นตึกคหกรรมมืดๆยิ่งน่ากลัว งั้นกูวิ่งไปทางซ้ายกลับหอก็ได้วะ

     

    แต่จังหวะที่ผมกำลังจะหัน

     

    แฮร่!!!!!!!!!!!!

     

    “!!!!!!!!!” ผมสะดุ้งโหยงทันทีที่หันไปข้างๆแล้วเจออผีตาปูดตาโปนตัวนึงที่ยืนแลบลิ้นปลิ้นตาหลอกผมอยู่ มันสูงมากสูงกว่าผมเยอะเลยด้วย หรือมันจะคือเปรตขนาดมินิ ไม่เอา อย่ามาหลอกกูววววววววววว

     

    เลือดด ข้าต้องการเลือดดด วะฮ่าๆๆๆๆ มือของมันยาวเฟื้อย พอๆกับขาที่เริ่มก้าวสูงเข้ามาใกล้ผม ประจวบกับผีผู้หญิงผมยาวที่แม่งมึงจะมาอยู่ตรงนี้เมื่อไหร่วะ ช่วยด้วยยยยย ฮือออ

     

    ผีเหี้ยยย อย่ามาหลอกกูเลยค้าบบบบ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะทำบุญกรวดน้ำไปให้นะ ฮือๆๆๆๆ ผีก็อยู่ส่วนผีคนก็อยู่ส่วนคนสิค้าบบบ ฮืออ ฮึกๆๆ ผมยกมือขึ้นไหว้พนมจรดแทบหัวเลยครับ น้ำตาที่เริ่มไหลลงมาพร้อมกับความกลัวที่เริ่มทวีคูณขึ้น ผมจะทำยังไงดีวะ

     

    ผี!!!! มึงอย่าเข้ามานะกูมีพระ!!!” ผมขู่ผี

     

    ฮ่าๆๆๆๆ อุบ๊ะ กูไม่กลัวพระเว้ยย!!” เสียงของมันกึ่งก้องไปทั่ว ขายาวๆของมันก้าวเข้ามาหาผมช้าๆจนผมต้องถอยหลังหนี แต่พอหันไปข้างๆก็มีอิผีผู้หญิงยืนชูมือมาทางผมอยู่ เลยทำให้ผมต้องวิ่งกลับไปด้านหน้า แต่ไอ้ผีเปรตแม่งก็กำลังเดินไล่ผมมา เอาไงดีวะ

     

    ย๊ากกกกกกกกกกกก!!” ผมหลับหูหลับตาปล่อยหมัดสะเปะสะปะไปทั่วเผื่อมันจะโดนผี (คิดได้..)

     

    ในช่วงแว้บนึงตอนที่ปล่อยหมัดออกไป ผมรู้สึกกเหมือนหมัดที่กำไว้แน่นของตัวเองสัมผัสเข้ากับอะไรแข็งๆที่เหมือนกระดูก

     

    โอ๊ยยยยยยยยยย!!!”

     

    หือ? ผีร้องโอ๊ย?? O_o?!!!

     

    เชี่ยย กูจะ ร่วงงงงง

     

    เฮ้ยยยยยยย / เฮ้ยยๆๆๆๆๆๆ

     

     

    ยังไม่ทันที่ความสงสัยของผมจะหมดไป อยู่ดีๆร่างของผีเปรตก็ค่อยๆแยกออกจากกันเริ่มจากหัวมันร่วงลงมา ตามมาด้วยตรงกลางที่หล่นตามมาและเหลือเพียงขาสั้นๆของมันที่ร่วงตามๆกันลงไป ผมที่ยืนกำพระในคอถึงกับปล่อยรพระในมือทิ้งทันที ก่อนที่จะยืนมองภาพตรงหน้า ด้วยความงุนงง

     

    ชิบหายแล้วไง…”

     

    ผมหันไปตามเสียงทันทีก็พบว่าผีผู้หญิงตนเดิมที่เคยยืนยื่นมือมายาวๆของมันมาหลอกผมอยู่ตกี้ กลับกลายเป็นเสียงของผู้ชายแมนๆแทนลยครับ เหมือนในใจผมมันจะร้องอ๋อขึ้นมาเบาๆ

     

    ผมกำหมัดตัวเองแน่น

     

    พวกมึงเป็นไงบ้างวะ

     

    โอ๊ย เชี่ยตากู

     

    ไอ้เชี่ยฝุ่น ถ้ากระดูกหลังกูหลุด มึงรับผิดชอบด้วยนะ

     

    กูก็ไม่ต่างจากพวกมึงหรอก…”

     

    พวกมึงทำเหี้ยอะไรกันเนี้ยะ!!!!!!!!!!”

     

     

     

     

     

     

    *********************************

    มาอัพแล้วจ้า *[]*!!!

    หลังจากโดนน้องๆหลายๆคน(หน้าม้า..ส่วนตัว)

    เมนชั่นในทวิตเตอร์มากดดันบอกให้อัพไว้ๆ อัพแล้วเน้อ

    แก้ๆลบๆอยู่หลายอย่าง จนออกมาได้แบบนี้ละ

    ติ๊งต๊องป่ะ ก๊ากกกก 555555555555

    อ่านตอนแรกเหมือนนิยายจะแรงๆใช่มะ

    ไม่จริงอ้ะ โดนหลอกแล้วพวกเธอ หุหุ

    ตอนต่อไปคงไม่นานแล้วจ้า เป็นกำลังใจให้กันต่อไปด้วยนะ

    (ไม่ใช่ว่าเลิกอ่านเพราะตอนนี้นะพวกเธอออ TT__TT)

     

    See u again and again *เต้นท่าทูพีเอ็มออกนอกหน้านิยาย*

    **Edit** มาแก้คำผิดแล้วสำนวนแปลกๆ ตอนนี้รีบลงไปหน่อยขอโทษด้วยค่า T/\T!!

    shala.la
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×