คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ★ Chapter1 : โรงเรียนใหม่..
Chapter1
โรงเรียนใหม่
ในที่สุด…ผมก็ไม่รอดจากฝีมือป๊าครับ!!
จริงๆต้องพูดว่าผม..ทำตัวเอง TT__TT
จดหมายเชิญผู้ปกครองฉบับที่7ถูกส่งตรงมาถึงมือป๊า ก่อนสอบปิดเทอมวันสุดท้าย 3 วัน เพราะผมเอาประทัดจุดตรุษจีนที่จุดแล้วไปสอดใต้โต๊ะเพื่อนคนนึง กะแค่แกล้งมันขำๆเล่นๆเอาฮาก่อนปิดเทอมเฉยๆ สรุป ผมก็โดนอาจารฝ่ายปกครองเล่นกลับเลยครับ
และก็…ป๊าพูดจริงทำจริงเสมอ TTT____TTT!!!!
พอจดหมายถึงมือป๊าปุ๊ป บ้านแทบแตกผมรู้ตัวเลยทันทีว่าตายแน่ๆ ตอนนั้นเลยจัดแจงเก็บกระเป๋าเตรียมหนีไปบ้านไอ้กล้วยกะเอาตัวรอดไปก่อนแล้วค่อยหาทางเอาดาบหน้า ว่าจะทำยังไงดี เหมือนป๊าจะรู้แกวผม ดักผมทางหมดทุกอย่าง ออกไปจากบ้านไม่ได้…จนสุดท้ายก็ต้องโบกมือลานะชายล้วน แล้วก็..
Welcome โรงเรียนประจำ ฮืออออ
และวันนี้คือวันที่ผมจะต้องเก็บของลาจากบ้านตัวเอง หลังจากที่ป๊าติดต่อกับที่โรงเรียนได้และยัด(?)ผมเข้าโรงเรียนประจำโรงเรียนนี้ได้..ผมต้องเข้าหอก่อนสามวันตามธรรมเนียมของโรงเรียนแรียน
“เก็บของหมดแล้วแน่นะลูก” น้ำเสียงของแม่สุดที่รักของผมเอ่ยถามย้ำอีกครั้งเป็นรอบที่สามของเช้าวันนี้ น้ำเสียงของแม่ฟังดูเป็นห่วงผม ตั้งแต่ที่ผมรู้ว่าตัวเองต้องไปอยู่โรงเรียนประจำ..คนที่กังวลกว่าผมก็คือแม่ผมนี่ละครับ…
“ครับ ไผ่เก็บของหมดแล้ว แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ” ผมพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานๆไปให้กับแม่…เพื่อไม่ให้ท่านคิดมาก
“ไปอยู่นู่นก็ดูแลตัวเองดีๆด้วยนะ โทรหาแม่ทุกวันด้วย มีปัญหาอะไรก็บอกแล้วก็ที่สำคัญกว่า…อย่าไปสร้างปัญหาเพิ่มอะไรเพิ่มอีกด้วยรู้มั้ย?”
“แน่นอน ไผ่จะโทรหาแม่ทุกวันเลย…” แต่ไผ่ไม่สัญญานะว่าข้อหลังจะไม่ทำ แฮร่~
“แม่ ไม่ต้องไปห่วงมันมากหรอก คนอย่างไอ้ใบไผ่ไม่ตายง่ายๆหรอกครับ” มาแล้วครับ น้ำเสียงกวนอวัยวะเบื้องล่างแบบนี้ เฮียใบหม่อนพี่ชายผมเอง ดูปากมันๆทำมาเป็นพูดดี แอบเห็นนะเว้ยว่าร้องไห้ตอนรู้ว่าผมจะไปอยู่โรงเรียนประจำน่ะ หึ!
“หุบปากไปเลย ไอ้เฮียหม่อน”
“เดี้ยะๆๆ พูดมากเดี๋ยวตบให้เตี้ยกว่าเดิมเลย” มันพูดพร้อมเดินตรงเข้ามาหาผม
“กล้าหรอ? มาๆมาเลย ไม่กลัวเว้ย” ผมถกแขนเสื้อเตรียมสู้ทันที
“พอเลยๆทั้งคู่น่ะแหละ ไปได้แล้วใบไผ่เดี๋ยวสาย”แต่แม่ก็ห้ามทัพผมก่อน
“เห็นแก่แม่ห้ามหรอกนะ…” มันว่าพร้อมกับแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ผม แล้วเดินไปหาฮอนด้าแจ๊สสีเหลืองของมันทันที โตเป็นควายแล้วทำตัวปัญญาอ่อนมากพี่กู -_-‘
“ไผ่ไปแล้วนะ แม่ แล้วเจอกันเสาร์อาทิตย์นะ…” ผมว่าพร้อมกับกอดแม่เบาๆ แม่กอดผมตอบพร้อมกับลูบหัว
“ดูแลตัวเองดีๆนะลูก” แม่คลายออมกอดออกพร้อมกับยิ้มให้ผมเบาๆ ผมหันไปเห็นพ่อที่ยืนหน้ายักษ์อยู่ตรงหน้าประตูบ้านตอนแรกว่าจะลาแต่..
ผมก็สะบัดหัวเดินพรืดเดินออกมาทันที ไม่มีการร่ำลา…
ผมงอนป๊าอยู่ครับ!
++++++++++++++
ผมอยู่บนรถระหว่างการเดินทางไปโรงเรียนใหม่ของผม เฮียหม่อนเสียบสายสโมทอร์คคุยงานหน้าดำคร่ำเครียดอยู่ ผมเลยว่างครับ ไม่มีใครให้กวนตีน…งั้น ผมว่าเรามาทำความรู้จักกันหน่อยดีกว่าครับ…
ผมชื่อนาย พัชรวัฒณ์ ศิริประภา อายุ16กำลังจะ17ปีแล้ว ชื่อเล่นชื่อใบไผ่ครับ เกิดวันที่ 27 สิงหาคม ตกฝากเวลา…อะไรนะ? ละเอียดไปหรอครับ ฮ่าๆๆๆ
ผมพึ่งผ่านช่วงเวลาของการปิดเทอมใหญ่เตรียมจะขึ้น ม.5 แต่แล้วอยู่ๆก็อย่างที่รู้กันครับ พ่อผมก็จับผมย้ายโรงเรียนพร้อมกับยัด (ยัดจริงๆนะครับ..) ผมเข้าโรงเรียนประจำเอกชนชื่อดังอลังการ(ค่าเทอมนะ) ที่ขึ้นชื่ออันดับ1ที่สุดของประเทศไทย ผมไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ เพราะถ้าผมไม่เข้าโรงเรียนประจำ…ก็ต้องอาจจะต้องไปอยู่กับลุงที่อเมริกาแทน ซึ่งแน่นอน…ผมไม่ยอมไปหรอกอเมริกาน่ะ
ผมได้อ่านๆจากโบชัวร์ที่เฮียหม่อนมันเอามาให้อ่านบ้างว่าโรงเรียนที่ผมจะต้องไปใช้ชีวิตอยู่ ในช่วงเวลาสองปีที่เหลือของการเป็นนักเรียน ม.ปลาย นี้มีชื่อว่า…
‘นราธรณ์’
ชื่อโรงเรียนสั้นๆได้ใจความดีนะครับ แต่เท่าที่อ่านๆจากประวัติของโรงเรียนมาดูแล้วโรงเรียนนี้มีประวัติความยาวนานมมากว่า 70 กว่าปีแล้วครับ มีคนดัง นักการเมืองหรือผู้สำคัญๆของประเทศจบมาจากที่นี้มาเยอะมากเลยละครับ ก็ถือว่าไม่เลวน่ะนะ อีกอย่างโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนสหศึกษาน่ะครับ…
มีผู้หญิงด้วย แฮร่~
มันเป็นอะไรที่ฟินาเร่สำหรับผมมาก เพราะชีวิตครึ่งหนึ่งของการศึกษาเล่าเรียน ผมได้เรียนแต่โรงเรียนชายล้วน เข้าเรียนก็เจอแต่ไอ้พวกหัวเกรียนๆปากหมาๆทั้งนั้น บอกตามตรงว่าเซ็งเหมือนกันครับ อย่างน้อยๆเปลี่ยนโรงเรียนใหม่ก็ยังพอมีอะไรดีๆบ้างละว้า~
แต่อย่าคิดนะครับ ว่าผมเรียนชายล้วนแล้วจะไม่เคยมีแฟน…ระดับผมแล้ว ฟงแฟนมันก็พอจะมีบ้างละครับเด็กหญิงล้วน คอนแวนต์ มาให้ผมเลือกเยอะแยะ…แต่ส่วนมากผมจะหาแฟนไม่ได้ง่ายๆเท่าไหร่เพราะผม…
ตะ…เตี้ย..ครับ..
ผู้หญิงสมัยนี้ก็สูงกันเหลือเกินนะครับ บางคนก็คบผมได้ไม่นานก็บอกเลิกด้วยเหตุผลว่า “ผมน่ารักกกว่าเขา” ให้ตายเหอะกูจะบ้า…ส่วนผู้หญิงบางคนก็ส่งคนมาเล่นงานผม เพราะบอกว่าผมเป็นสาเหตุที่ให้เธอกับแฟนของเธอต้องเลิกกัน เพราะแฟนเธอดั๊นมาชอบผม…
แฟนเธอเป็นผู้ชายนะครับ…
ไอ้นี้ยังไม่เท่าไหร่ เพราะส่งมากี่คนผมก็ส่งมันไปนอนปอดบวมอยู่โรงพยาบาลหมดเลยครับ แต่ไอ้พวกที่แบบผมเดินผ่านแล้วแซววิดวิ้วเหมือนพ่อเป็นญาติกับนกฮูก ไอ้พวกนี้มักจะไม่ได้รอดกลับบ้านง่ายๆเพราะผมจะสั่งสอนให้มันรู้ว่า ผมไม่ใช่ผู้หญิงไม่ต้องมาจีบกู!
แต่ผู้ชายสมัยนี้แม่งแปลกนะครับ เขาให้ชอบผู้หญิงไม่ชอบ เสือกมาชอบผู้ชาย…โลกแม่งจะปั่นป่วนหมดก็เพราะแบบนี้ละครับ…
อ้าว ผมบ่นมาแป๊ปเดียว มองไปข้างทางก็เจอป้ายที่ยื่นออกมาจากเสาไฟฟ้าว่าซอยหน้าก็ถึงโรงเรียนนราธรณ์แล้วครับ พอเฮียหม่อนมันเห็นว่าใกล้จะถึงแล้วมันก็เลิกคุยโทรศัพท์แล้วเฮียแกก็จัดแจงดึงสโมทอร์คออกจากหู แล้วอีกมือก็กดโทรศัพท์ เยี่ยมมากครับพี่กู ขับรถมือเดียว..
เอี๊ยด!
เสียงล้อยางรถยนต์บดเบียดเสียดทานกับพื้นถนน ซะจนดังลั่นพร้อมกับฮอนด้าแจ๊สสีเหลืองที่หักเลี้ยวเข้าประตูรั้วโรงเรียนที่เปิดเอาไว้อยู่แล้ว ผมเอามือข้างซ้ายที่ว่างอยู่จับราวโหนบนหัวแน่นเพราะมันสะเทือนสั่นสะท้านและโคลงเคลง ส่วนเฮียหม่อน….รายนั้นแค่เงยหน้ามามองทางข้างหน้าเล็กน้อย แล้วมันก็กลับไปสนใจโทรศัพท์มือถือในมือต่อ
พี่กูเทพเกินไปแล้ว…
รถขับผ่านป้ายสีทองสลักสลวยสวยงามเป็นคำว่า ‘ โรงเรียนนราธรณ์ ‘ มันสวยและดูเหมือนมีมนต์ขลังมาก ผมมองตึกเรียนอาคารต่างๆที่รายล้อมอยู่รอบๆโรงเรียน พอมองออกไปไกลๆจากในรถก็เห็นอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ด้วย โรงเรียนถูกทาด้วยสีโทนเทาฟ้า บ่งบอกได้ว่าน่าจะเป็นสีประโรงเรียน
เฮียหม่อนขับรถมาจอดหน้าห้องปกครองที่อยู่แถวๆบริเวณลานน้ำพุใหญ่ขนาดใหญ่ของโรงเรียน ที่ตรงกลางของน้ำผุมีรูปปั้นผู้ชายมีหนวดหน้าตาดูอบอุ่นนั่งอยู่บนเก้าอี้นวม ตัวรูปปั้นเป็นสีน้ำตาลอ่อนอยู่ตรงกลางระหว่างน้ำผุทั้งสองข้างทีกำลังแข่งกันพ่นน้ำออกมา
“เดี๋ยวเฮียมานะ รอยู่ตรงนี้ละ” เฮียหม่อนว่า พร้อมกับเดินหายเข้าไปในห้องปกครอง สงสัยจะเข้าไปคุยเรื่องผม ผมเลยจัดแจงยกกระเป๋าใบโตสองสามใบลงจากหลังรถเอง อภินันทนาการการจัดโดยเสด็จแม่และท่านป้าแพรว สงสัยถ้าขนเครื่องออกกำลังกายใส่กระเป๋าให้ผมมาได้ ท่านคงทำแล้ว เพราะนี่ขนาดขนมาไม่ได้มันยังหนักมากเลยครับ
พอยกของเสร็จผมก็ยืนมองไปรอบๆอย่างคนต่างถิ่น ผมเห็นตรงสนามลานกว้างๆของโรงเรียนมีคนนั่งอยู่ประปราย บ่งบอกได้ว่าโรงเรียนใกล้จะเปิดเทอมแล้ว คนจึงเริ่มมีคนทยอยเข้ามากันแล้วละ บางคนก็เดินผ่านผมแล้วก็มองผมด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนไม่เคยเห็นคนยังไงอย่างงั้น -*- แต่ถ้าเป็นผู้หญิงน่ารักๆ มองมาทางผม…
ผมก็จะยิ้มหวานไปให้ทันที..
แล้วคุณเธอก็จะก้มหน้างุดๆวิ่งหนีไปทันที บ๊ะๆโรงเรียนสหฯมันดีอย่างนี้นิ่เอง~
ระหว่างที่ผมกำลังลิงโลดเพลิดเพลินกับการมองนู้นมองนี้อยู่นั่น เฮียหม่อนกับผู้หญิงหัวกระบังลมนำหน้าก็เดินออกมาจากห้องปกครองพอดี
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เราจะดูแลพัชรวัฒณ์ ให้เป็นอย่างดี” ชีว่าพลางจีบปากจีบคอตอบบอกกับพี่ชายผม
“ครับ ยังไงผมก็ฝากด้วยนะ” เฮียหม่อนว่าพร้อมกับยิ้มโชว์เขี้ยวส่งไปให้ผู้หญิงหัวกระบังลมคนนั้นที่ผมเดาว่าชีเป็นอาจารย์ -*-
“ไปแล้วนะโว้ย มีไรก็โทรมาละๆ” เฮียหม่อนว่า พลางขยี้หัวผมเบาๆ เดี๋ยวเหอะๆอุส่าเซ็ทมา!
“ไปไหนก็ไป ชิ่วๆ” ผมว่าพร้อมกับทำมือชิ่วๆ ไล่เฮียหม่อนทันที มันยิ้มให้ก่อนจะเดินไปที่รถ ปิดประตูดังปัง…แล้วขับออกไปทันที..
เยี่ยมมากก ไม่มีดราม่าจากลา…มีแต่มันจะรีบมาแล้วลากลับทันที
++++++++++++++
อาจารย์กระบังลมนำหน้า(ก็ไม่บอกเองว่าชื่ออะไรอะ) พาผมมาอยู่แถวๆโรงอาหารของโรงเรียน ชีบอกผมว่าต้องมาทำธุระที่ห้องพักครูให้ผมก่อน ให้รออยู่ตรงนี้สักพักเดี๋ยวชีมา ผมก็ไม่อะไรอะ รอได้อยู่แล้ว…
ระหว่างทางจากห้องปกครองมาโรงอาหาร มันทำให้ผมพอจะได้เห็นทัศน์นียภาพของโรงเรียนนี้บ้างละนะ ผมได้เดินผ่านสนามบาสของโรงเรียนด้วย มันเป็นเหมือนสนามบาสกลางแจ้งที่มีรั้วตะแกรงสีเขียวล้อมรอบอยู่ ที่โรงเรียนนี้มีจะทุกอย่างเลยมั้งครับ ทั้งสนามบาสกลางแจ้ง สนามบอล(ที่ล้อมรอบไปด้วยอัฒจันทร์ขนาดใหญ่) โรงยิมในร่ม สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส บลาๆๆ กว้างใหญ่ อภิมหาๆเลยเหอะ ถ้าให้ผมเดินวันนี้วันเดียวก็คงจะไม่รอบ คงต่อขอจักรยานสักคันมาปั่นดูหน่อยละ
ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือตัวเอง ตอนนี้บอกเวลาว่าอีกสิบห้านาทีก็จะเที่ยงแล้ว ผมรู้สึกคอแห้งหิวน้ำตะหงิดๆ ก็เลยวางกระเป๋าตัวเองไว้แถวๆนี้ คงไม่มีใครมาขโมยหรอกมั้ง แล้วก็มองชะเง้ออกไปจากหลืบหน้าห้องพักครูเพื่อมองเข้าไปในโรงอาหาร ขนาดใหญ่…
ที่นี่มีกลุ่มคนอยู่กันอย่างบางตา บ้างก็นั่งจับกลุ่มคุยกัน บ้างก็นั่งฟังเพลง บ้างก็นั่งอ่านหนังสือ แต่ส่วนมากจะคุยกันมากกว่า…และพอผมเดินผ่าน คนเหล่านั้นก็เหมือนโดนสะกิดให้หยุดทำทุกอย่างกันทันที พร้อมกับหันมาจ้องผมครับ…บางคนตัวเองจ้องไม่พอ สะกิดๆเรียกเพื่อนให้หันมามองผมด้วย
“โหยยย ขาวชิบ…”
“กินโอโม่พลัสเข้าไปหรอนาย~”
“หน้าตาน่ากินจัง…”
พร้อมกับมีเสียงประมาณนี้แว่วเข้ามากระทบโสตประสาทผม ประเด็นคือไอ้พวกที่พูดเป็นผู้ชายครับ ผมอยากจะถามจริงๆว่าหน้าผมมันไม่เหมือนผู้ชายมากหรอไงวะ!! แม่ง เอาละไง เดี๋ยวกูจะได้เตะปากคนตั้งแต่วันแรกที่ได้มาเหยียบโรงเรียนใหม่
“น่ารักจังเลย ชื่ออะไรหรอน้องง ฮริ้ววว” ไอ้หน้าปลาบู่คนแรกพูดจบไอ้พวกลูกรับลูกคู่ที่นั่งอยู่ด้วยกัน ก็ขานรับกันทันที ควาย…นี่ไม่ใช่งานแห่นาคนะ
ผมเงียบและหยุดเดิน แต่หน้าก็ยังคงนิ่งอยู่ครับ ผมค่อยๆหันไปหาไอ้ปลาบู่ตัวนั้นที่นั่งอยู่บนโต๊ะและเป็นตัวเดียวกับที่ ถามว่าผมชื่ออะไร
“ชื่อ…”
“จ๋า ตัวเอง~? ชื่ออะไรหรออ”
“…ชื่อเหมือนแม่พี่อะครับ”
“อ้าว น้องทำไมพูดอย่างงี้ละครับ” หน้ามันเหวอแดกเลยครับ
“ผมก็พูดอย่างงี้กับทุกคนที่พูดหมาๆกับผมอะครับพี่”
“…” แม่งเงียบหมดเลยครับ
“ผมว่าพวกพี่เงียบๆแล้วเก็บปากไว้แดกข้าวกันเถอะครับ ผมยังไม่อยากกระทื้บคน” ผมพูดเสร็จก็เดินออกมาจากตรงนั้นทันที ทั้งโรงอาหารเงียบกริบ เงียบซะจน…ได้ยินเสียงพัดลมบนเพดานดังหึ่งๆ ส่วนไอ้พวกนั้น หน้าเอ๋อแดกกันไปทั้งกลุ่มเลยครับ
เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับกู
++++++++++++++
ผมกระดกแฟนตาน้ำเขียวเข้าปากดับกระหายตัวเองและดับอารมณ์ขุ่นๆจากเหตุการณ์เมื่อกี้ ตอนนี้ผมกลับมายืนอยู่จุดเดิม รอเจ๊กระบังลมแกแล้วครับ จะคุยอะไรนักหนาก็ไม่รู้ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ แล้วบอกว่าแป๊ปเดียว นี่มันจะชั่วโมงละนะ
ผมนั่งยองๆข้างกระเป๋าตัวเองที่พิงอยู่กับกำแพงกระจกติดฟิล์มสีดำของห้องพักครู ก่อนจะกรอกแฟนตาน้ำเขียวใส่ปากตัวเองอีก มันซ่าและหวานดี ผมชอบแฟนต้าน้ำเขียว~
“อาจารย์!!! ผมไม่ยอมนะ อยู่ดีๆจะเอาเด็กที่ไหนไม่รู้มานอนห้องเดียวกับผมแบบนี้ได้ไง!!”
เสียงโวยวายของผู้ชายคนหนึ่งดังกระทบโสตประสาทผม ทำให้ผมต้องละความสนใจจากเจ้าแฟนต้ากระป๋อง มามองต้นตอของเสียงที่ดังมาจากประตูห้องพักครู ก่อนประตูจะโดนผลักพลั่กออกมาพร้อมกับร่างของเจ๊กระบังลมและตามมาด้วยผู้ชายคนนั้นที่เป็นเจ้าของเสียงโวยวายคนนั้น…
เกิดมาถ้าไม่นับเฮียหม่อน นี่เป็นผู้ชายอีกคนที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเตี้ยมากเพราะไอ้นี้เขาสูงมาก สูงกว่าผมเยอะเลย ผิวขาวผ่องตัดกับเส้นผมสีดำขลับที่ช่วยขับประกายน่าเกรงขามให้กับแว่วตาสีรัตติกาลคู่นั้น ริมฝีปากสวยได้รูปดูเข้ากันกับคิ้วเข้มและจมูกโด่งคมคาย…เอาง่ายๆไอ้นี่แม่งหล่อเว่อร์วะ หล่อมาก เกิดมาพึ่งเคยเจอ
แล้วกูมาชมผู้ชายด้วยกันทำไมวะ บรึ๋ยยยยส์
“วายุ ครูก็บอกเธออยู่นี่ไง ว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ” เจ๊กระบังลมบอกกลับไปด้วยน้ำเสียงเอือมๆ
“เหอะ…สุดวิสัยบ้าอะไร ’จารย์อย่ามาอ้างเลย เด็กเข้ากะทันหันอะไรกัน ก็จับมันไปนอนกับเด็ก ม.4ดิ่”
“ชั้นของ ม.4เต็มหมดแล้ว ก็เหลือแต่ห้องเธอนั่นละ ที่มีที่ว่าง เพราะห้องอื่นเขานอนกันสามคนหมด มีแต่เธอน่ะแหละที่นอนคนเดียว!!” เจ๊กระบังลมว่าเสียงดัง พร้อมกับมองหน้าผู้ชายหน้าหล่อคนนั้นอย่างระอา
“ก็แล้วไง…จารย์อย่าลืมดิ่ว่าพ่อผม..”
“..ว่าพ่อผมเป็นใคร พอเถอะฉันฟังเธอพูดคำนี้มาตั้งแต่ ม.ต้นแล้ว เบื่อ!!”
ผู้ชายคนนั้นเงียบลงทันที พร้อมกับส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคออย่างขัดใจ มือข้างซ้ายที่ถือกระดาษสีขาวแผ่นบางๆถูกยกขึ้นมาตบหน้าผากตัวเองอย่างเซ็งๆ
“ว่าแต่เธอมาก็ดีแล้วละวายุ หึ…ส่วนพัชรวัฒณ์ เธอมานี่…” ผมที่กำลังนั่งมองเหตุการณ์ตรงหน้าเพลินๆ อยู่ดีๆก็ถูกเจ๊แกเรียก เรียก..เรียกกูทำไมวะ -*-
ผมลุกขึ้นยืนแล้วเดินงงๆไปหาเจ๊แกทันที
“เอาละ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว วายุนี่คือรูมเมทรุ่นน้องร่วมห้องกับเธอส่วนเธอ..พัชรวัฒน์นี่คือรุ่นพี่ร่วมห้องนอนกับเธอ รู้จักไว้ซะ”
“อะไรนะ/นะ!!” ผมและไอ้หน้าหล่อนี่พูดขึ้นมาพร้อมกันด้วยเสียงอันดังก่อนจะกันมามองหน้ากันทันที ผมขอจับเรื่องชนราวก่อนนะ ว่าไอ้หล่อนี่มันมาโวยวายกับเจ๊กระบังลมว่าทำไมอยู่ดีๆถึงจับใครก็ไม่รู้มานอนร่วมห้องกับมัน เหมือนมันจะไม่พอใจ…และคนที่มาร่วมห้องห้องนั้น
คือผม?
งั้นที่ไอ้หล่อนี่กำลังเดือดดาลก็เพราะผม?
อ๋อ…นี่รูมเมทร่วมห้องผมคือไอ้หน้าหล่อร้ายกาจนี่อะนะ!!!
“ไม่!! ผมไม่นอนกับไอ้หน้าตุ๊ดนี่หรอก”
“อ้าว ทำไมพูดหมาๆงี้อะ” เส้นเลือดบนขมับผมมันเต้นดิ๊กๆทันทีที่คำว่า ‘หน้าตุ๊ด’ ของไอ้หน้าปีศาจนั่นมันกระทบเข้าโสตประสาทผม ฟวยยยยย พูดจาน่าเอาคอนเวิร์สยัดปากมาก
“เหอะๆ เงียบไปเลยมึง เด็กยัดนี่หว่า อยู่ดีๆถึงได้เข้ามาได้แบบนี้”
“ยัดไม่ยัดก็เงินพ่อกู ไม่ได้ขอมึงซะหน่อย…อาจารย์ครับ ถ้าไอ้นี่มันไม่อยากให้ผมร่วมห้องกับมันมาก ให้ผมนอนห้องอื่นก็ได้นะครับ”
“เกรงว่าจะอย่างงั้นจะไม่ได้นะ พัชรวัฒณ์ เพราะตอนนี้ไม่มีห้องไหนว่างแล้ว นอกจากห้องนี้” เจ๊แกตอบผมกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“พูดให้มันดีๆหน่อยมึง ห้องนี้กูนอนก่อนมึงมานานตั้งสองปีแล้ว”
“แล้วไง แต่มึงก็ไม่ได้เป็นคนสร้างมันไม่ใช่ไง เรื่องอะไรกูจะนอนไม่ได้”
“มึงนี่พูดออกมา ไม่รู้อะไรซะเลยนะ…”
“แล้วมึงจะเอายังไงละ…” ผมพูดเสร็จก็เตรียมเข้าใส่ไอ้หน้าปีศาจสูงชะลูดตูดปลิงทันที ไอ้เวรนี่ก็สูงสูงมากไปละ ผมยื่นประจันกับมัน…ตัวผมแค่ระดับอกมันเอง.. แต่อย่าคิดเลยว่าผมจะกลัวมัน
“พอเลยทั้งคู่น่ะแหละ!!” เสียงเจ๊กระบังลมแหวดังเสียดแก้วหูผม จะแหวทำไมวะ “ต่อหน้าฉันยังจะกล้า ทำตัวแบบนี้อีกหรอไง…ก็ดี”
“ถ้าเธอไม่ทำตามที่ฉันบอก ด้วยการให้พัชรวัฒณ์นอนร่วมห้องกับเธอ ฉันจะโทรไปฟ้องพ่อเธอ..” เจ๊แกว่าพร้อมกับยักคิ้วหลิ่วตาส่าไอ้หน้าปีศาจนั่นทันที หน้ามันซีดๆทันทีที่คำว่า ‘พ่อ’ หลุดออกมาจากปากของเจ๊แก ทำเป็นซ่าส์สุดท้ายก็กลัวพ่อละว้า~ ก๊ากกกก (ว่าเขาไม่ดูตัวเอง)
“หื้มมม ว่าไงวายุ ฉันโทรกริ๊งเดียวก็ถึงพ่อเธอเลยนะ”
ไอ้หน้าปีศาจเงียบไปอึดใจนึงเหมือนกำลังคิด คิ้วเข้มขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ก่อนมันจะพ่นลมหายใจแรงๆออกมา…
“เออ ก็ได้วะ…แม่ง…” แล้วมันก็บ่นพึมพำๆเป็นหมีกินผึ้งอยู่คนเดียว…เหอะ ไอ้ลูกกลัวพ่อ ว่าแต่ผมก็ไม่อยากจะนอนกับมันหรอกนะ แต่ทำยังไงได้ว่ะ..
“หึๆเข้าใจง่ายๆอย่างงี้ก็ดีแล้ว ส่วนนี่กุญแจและบัตรประจำตัวของเธอนะ ส่วนเธอ…พัชรวัฒณ์ ทำตัวให้มันดีๆด้วยละ” แกหัวเราะหึๆในลำคอให้ไอ้หน้าปีศาจนั่นเสร็จแกก็หันมาหาผมพร้อมกับยื่นบัตรนักเรียนใบหรูกับกุญแจห้องพักให้ผม เสร็จชีก็มองผมลอดแว่น…
“ครูไปก่อนนะ เธอก็พาพัชรวัฒณ์ไปห้องด้วยละวายุ…อ๋อ จริงๆอยู่บ้านเค้าเรียกเธอว่า ‘คุณหนูไต้ฝุ่นนิ่ หึๆ…” ชีว่าพร้อมหัวเราะหึๆเหมือนถูกใจอะไรสักอย่าง ก่อนนจะเดินย้ายก้นๆใหญ่ๆของเธอหายลับไปทันที
“แม่งเอ้ยยย เวรกรรมอะไรของกูวะ!!” ทันทีที่เจ๊แกลับสายตา ไอ้หน้าปีศาจนี่ก็ร้องว้ากออกมาทันทีเหมือนระบายอารมณ์ เสร็จแล้วมันก็เงยหน้ามาจ้องหน้าผม..ผมก็เลยมองหน้ามันกลับ
ผมกับมันจ้องหน้ากันนิ่งๆแต่ไม่มีใครพูดอะไร ก่อนที่มันจะเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบ…
“มึง…อยู่ห้องเดียวกับกู อย่าสร้างปัญหาละกัน ไม่งั้นกูจะเล่นมึงให้เดินกลับบ้านไม่ถูกแน่..”
“งั้นหรอ…” ผมว่าเสียงเรียบก่อนจะค่อยๆกระตุกยิ้มที่มุมปากขึ้นมาเบาๆ แล้วเอ่ยน้ำเสียงที่ต้องการให้มันรู้ว่า…คนอย่างผมไม่เคยยอมใคร..
“หึ!......กูจะค่อยดูละกัน
ว่าใครกันแน่…ที่จะคลานกลับบ้านไม่ถูก!!!”
**********************************
จบตอน แรกไปแล้วเนอะ ชอบมั้ยค่ะ? ถูกใจรึเปล่า TT_TT
ชอบไม่ชอบก็โพสบอกกันได้ เน้อออ ไอ้ใบไผ่มันก็ปากด็อกๆงี้ละ
จริงๆมันน่ารักน้า~ ฝุ่นด้วยทำเป็นเข้มไปงั้นน จริงๆน่ะ...หึหึ
แล้วพบกันตอนต่อไป...คนบางคน จะโดนรังแก แอร้ยยย
ไอ้ไก่ไปแล้ววว ฟิ้ววว~
ปล.นิยายเราไม่มีNCเน้อ ใสๆ (หรอออ)
ความคิดเห็น