มัธยมต้น - นิยาย มัธยมต้น : Dek-D.com - Writer
×

    มัธยมต้น

    บทเริ่ม หลังจากจบ มอ6 ก็เข้าสู่ก้าวแรกของชีวิตวัยรุ่น เพื่อน แฟน ศัตรู

    ผู้เข้าชมรวม

    56

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    56

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  6 ธ.ค. 56 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

          วันแรกของการเปิดเรียนชั้น ม.1 ผมเด็กเก่าซึ่งจบชั้นประถมจากโรงเรียนแห่งนี้ รู้สึกตื่นเต้นกับผู้คนใหม่ๆและการเติบโตขึ้นของตัวเองแต่ก็รู้สึกคุ้นชินกับสถาณที่เลยทำให้การเดินของผมดูมีจุดหมาย นั่นคือการมุ่งไปยังตึกมัธยมชั้น2ห้อง ม.1/5  เด็กมอ1คนอื่นๆเดินมากับพ่อแม่ เด็กผู้หญิงบางคนนั่งผูกเน็กไทน์อย่างงุ่มง่ามอยู่ตรงทางเดิน บางคนก็ผูกมาเรียนร้อย บางคนก็ไม่ผูก 

     
         วันเริ่มเรียนวันแรกทำให้ผมซึ่งเป็นเด็กเก่ารู้สึกถึงความกร่างและความเป็นเจ้าถิ่น ผมรู้จักและสนิทกับครูหลายท่าน จะมีบ้างก็บางท่านที่เพิ่งย้ายเข้ามาแต่ผมก็ปฏิบัติไม่ต่างจากครูเก่าๆนั่นคือการเข้าไปพูดคุยและช่วยเหลือท่านแจกงาน ลบกระดาน เก็บหนังสมุดหนังสือเพราะยังเป็นช่วงที่เด็กคนอื่นๆยังงุงงงและทำตัวไม่ถูก 

        ผมนั่งอยู่หลังห้องติดประตู ข้างๆผมคือเพื่อนชื่อเบส แถวหลังคือ เป้ ฟลุ๊ก เนส และบอล เวลาผ่านไปเรากลายเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน สนิทกัน ไปไหนไปกัน ตอนเย็นเรามักจะพากันเดินเกาะกลุ่มไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ๆเพื่อเล่นเกมส์ กินข้าว และแยกย้ายกันไปขึ้นรถประจำทางกลับบ้าน โดยขากลับจะมีผม เบส เป้ ฟลุ๊กเดินกลับมาขึ้นรถที่ รร. โดยผมจะเป็นคนเดียวที่ต้องกลับช้าเพราะต้องรอพ่อเลิกงานก่อนจึงจะมารับ พวกเราเริ่มสนิทกันมากขึ้นตามวันเวลาที่ผ่านไป

      ใกล้จบเทอม1โรงเรียนมีโครงการพาไปทัศนะศึกษาที่ทะเล  แน่นอนว่าพวกเราจะต้องเกาะกลุ่มกันและพักอยู่ห้องเดียวกัน ที่พักของเราเป็นบ้านหลังที่อยู่ท้ายสุด มีครูมานอนด้วย1คนคือครูปูเป้ ซึ่งรู้จักและสนิทกับพวกเราดี พวกเรามาถึงทะเลในตอนเย็น เมื่อย้ายกระเป๋าไปไว้ยังพี่พักเสดแน่นอนว่าเด็กเหนืออย่างพวกเราซึ่งบางคนยังไม่เคยเห็นทะเลกับตาจะต้องรีบมุ่งไปยังหาดทรายฝั่งตรงข้ามที่พักทันที เสียงพัวเราะ รอยยิ้ม ความสนุกสนานทำให้ผมมีความสุขที่ได้อยู่กับเพื่อนๆ วันต่อมาพวกเราออกจากที่พักไปยังสถาณที่ต่างๆในกรุมเทพ แน่นอนหล่ะมันคือ  พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และท้องฟ้าจําลอง สวนสนุกดรีมเวิร์ล และปิดท้ายด้วยห้างสรรพสินค้าสักแห่ง(ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิน) และแน่นอนว่าในห้างใหญ่ๆแบบนี้ย่อมทำให้GPSในสมองของเด็กต่างจังหวัดอย่างพวกเราเกิดการสับสนและหลงทางบ้างแหละน่า 



      และแล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้น ....

      
        ไอ่ฟลุ๊กเกิดไปแอบชอบรุ่นพี่ ม.2 คนนึ่ง ซึ่งห้องของพี่เขาอยู่ถัดจากห้องของพวกเราไป3-4ห้องได้ เย็นวันนึ่งขณะที่พวกเรากับลังทำเวรกวาดห้องอยู่ เป็นเวลาเดียวกันกับที่รุ่นพี่ ม.2 คนนั้นกำลังกวาดพื้นอยู่ตรงทางเดินหน้าห้องพอดี  ผมหันไปสะกิดพวกเพื่อนๆแล้วรีบตรงดิ่งไปหาพี่ ม.2คนนั้น   ไอ่ฟลุ๊กรีบหลบเข้าไปในห้องทันทีเมื่อผมชี้นิวไปทางมัน "พี่คับๆ เพื่อนผมคนโน้นนนนนมันชอบพี่น่ะ" เพื่อนที่เหลือๆพยายามลากตัวไอ่ฟลุ๊กออกมาจากห้อง  ผมยืนยิ้มและหัวเราะอยู่เพื่อรอจังหวะให้รู่นพี่ตอบกลับความประสงของไอ่ฟลุ๊ก ..... "แต่กี้เขาชอบน้องน่ะ ...แล้วน้องละชอบกี้รึป่าว" พี่ผู้หญิงอ้วนๆคนนึ่งซึ่งยืนอยู่ข้างผมพูดขึ้น  ผมหยุดหัวเราะและหันไปมองหน้ารุ่นพี่ที่ไอ้ฟลุ๊กแอบชอบ เขายิ้มให้ผม  ผมไม่พูดอะไร ไม่ยิ้มตอบ   ผมพยายามทำตัวให้ปกติที่สุดขณะเดินกลับมาหาเพื่อน พวกมันไม่ได้ยินบทสนทนาที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ และพวกมันไม่รู้หรอกว่ามันมีผลกับชีวิตของผมอย่างไร


        เรื่องมันดำเนนต่อไปยังไงไม่รู้ผมจำไม่ได้ .....
     
       เย็นวันนึ่งซึ่งผมไม่ได้ไปเดินเล่นกับพวกเพื่อนๆ ผมอยู่อยู่ตรงระเบียงชั้น3กับพี่กี้ เราคุยกันแบบเขิลๆ  มันเป็นครั้งแรกที่ผมใจเต้นแรงขนาดนนี้ เป็นครั้งแรกที่ผมไม่รู้จะคุยอะไร เป็นครั้งแรกที่หน้าผมแดงขนาดนนี้   จากนั้นทุกวันผมจะเดินไปส่งพี่กี้รอรถที่หน้ารร. และแน่นอนว่าไอ่ฟลุ๊กต้องรู้ ผมรู้สึกผิดมาก  ผมไม่ได้ขอโทษมัน ผมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเพื่อนทุกคนรวมทั้งไอ้ฟลุ๊กเองก็ยังพูดคุยกับผมเหมือนเดิม ผมยังเที่ยวเล่นกับพวกมันเหมือนเดิมยกเว้นแค่ตอนเย็น   พี่กี้เป็นคนน่ารัก เรียนเก่ง แน่นอนว่าต้องมีผู้ชายจำนวนมากเกิดอาการเหม็นขี้หน้าผม หลายครั้งที่ผมโดนก่อกวนจากทั้งรุ่นพี่และเพื่อนจนเกิดเรื่องขึ้นบ่อยๆ และนี้ก็เป็เหตุให้เรื่องรับรู้ไปถึงบรรดาครูๆทั้งหลาย ผมมันจะโดนคุณครูที่สนิทๆแซวอยู่บ่อยๆ เราได้เดินถือป้ายรร.ด้วยกัน มีคุณครูถ่ายรูปให้  ......เวลาผ่านไปไม่นานก็ถึงวันเกิดของพี่กี้ เย็นวันนั้นผมเอาตุ๊กตาไปให้พี่กี้ในห้องเรียน รุ่นพี่ในห้องต่างพากันส่งเสียงกรีดร้องแซวผม  "มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย ตามมา" พี่กี้พูดกับผมด้วยสีหน้าจิงจัง ผมเดินตามออกไปนอกห้อง "คือ.... เราเป็นพี่น้องกันเถอะนะ" ผมยืนนิ่งอยู่สักพัก "อื่มๆ เอาไปดิ สุขสันต์วันเกิดนะ"  เย็นวันนั้นผมกลับมานอนคิดถึงคำพูดที่ได้ยินอยู่ดีๆน้ำตามันก็ไหล ผมอธิบายตัวเองไม่ได้ว่ามันเกิดความรู้สึกยังไง ต่อจากวันนั้นก็ก็ไม่ได้คุยกับพี่กี้ต่ออีกเลย  มันแปลกที่ผมรู้ศึกเศร้าในเย็นวันนั้น แต่ในวันต่อๆมาผมกับไม่รู้สึกขาดหายหรือสูญเสียอะไรไป ผมกลับมาใช้เวลาอยู่กับเพื่อนๆ กินข้าว เดินห้าง ร้องเพลง ลอกการบ้าน ทำเวร .....


       เวลาช่วงมอ1 ของผมผ่านไป อย่างรวดเร็ว  เรื่องน่าใจหายเกิดขึ้นกับผมอีกครั้งเมื่อคะแนนสอบของผมเกิดสูงกว่าเพื่อนๆในห้อง ผมจึงถูกย้ายไปอยู่ห้อง 2/6 ส่วนเพื่อนอยู่ 2/5ติดๆกัน  ช่วงแรกของการเปิดเทอมพวกเรายังเกาะกลุ่มกันเหมือนเดิม แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตารางเรียนที่ต่างกัน สังคมในห้องที่ต้องขยันมากขึ้น และเพื่อนใหม่ๆทำให้ผมกับพวกมันห่างกัน  ไม่มีเวลาแม้แต่จะไปเดินเล่นด้วยกันตอนเย็นเพราะผมต้องไปเรียนพิเศษ ชีวิตของผมจึงมีแต่คำว่าเรียน เรียน และเรียน เวลา มอ2ของผมใกล้หมดลง เช่นเดียวกับรุ่นพี่มอ3 พี่จะขึ้นมอ4  เรื่องน่าใจหายอีกครั้งของผมเกิดขึ้น พี่กี้จะย้ายไปเรียนที่รร.ต่างอำเภอ ผมพูดลาพี่กี้ในเย็นวันสุดท้ายของพี่มอ3 โณงเรียนของเราดูเงียบเหงาไปเยอะเพราะน้องๆประถมปิดภาคเรียนไปก่อนแล้ว รุ่นพี่มอ3ก็จบหลักสูตร เหลือเพียงนักเรียน มอ1 และมอ2ที่ต้องอยู่สอบต่ออีก1อาทิตย์จึงจะปิดภาคเรียน   


    และจุดเปลี่ยนของชีวิตผมกำลังจะเกิดขึ้นหลังจากจบ มอ2 นี้เอง......



     
           

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น