ลำดับตอนที่ #8
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter ::8:: F i n a l . . . . T o S t a r t
It’s Time to Start Past 2
หากย้อนเวลาได้... จะไม่ทำแบบนี้ ทั้งตัวและหัวใจจะไม่พลั้งพลาดไปหาใคร
หากน้ำตาสามารถไหลย้อนกลับได้... จะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น จะไม่อ่อนแอออกมา แม้ว่าหัวใจจะอ่อนล่าสักเท่าไหร่... แม้ว่าจะเจ็บเจียนตายต่อหน้าคนที่ตัวเอง ‘รัก’
เพียงแต่เวลา... ไม่เคยรอคอยใคร มันเดินไปช้าๆ เดินไปเรื่อยๆ... มีนักวิทยาศาสตร์บอกว่า เรื่องไหนที่รู้สึกชอบหรือคุณสนใจ มันก็จะผ่านไปเร็ว
แต่... ถ้าหากเรื่องไหนที่คุณไม่ชอบหรือไม่มีความสุขมันก็มักจะผ่านไปอย่างช้าๆ แม้แต่เข็มวินาทีก็อาจจะช้ากว่าวันไหนๆ
ถ้าเป็นแบบนั้น...
‘ฆ่ากันให้ตายไม่ดีกว่ารึไง’
[Fiction] quarrel
[Couple] Kaew X Fang Ft. Faye
[Author] Deep
[Warning] ระวัง... ระวัง
ลมหายใจถูกผ่อนออกมาอย่างแรงและหนักหน่วง... นาฬิกาสีดำที่อยู่บนผาผนังเริ่มเดินช้าลงเรื่อยๆ ใบหน้าของใครคนหนึ่งเบือนหนีอีกคนไปอีกทาง เพื่อหลบหนีดวงตาที่คาดคั้นจากอีกฝ่าย เพียงแต่จะรู้ไหมหนอว่า เธอก็มีน้ำตาคลอเบ้า จะรู้ไหมว่า... ก็เจ็บไม่แพ้กัน
“ฟาง... ขอโทษ”
คำกล่าวที่พร่ำบอกจนชินหูของคนที่ฟังอยู่ให้เจ็บและฝังลึกลงไปในจิตใจ ใบหน้าหวานค่อยๆหันกลับมามองร่างโปร่งที่นั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้าม... ใบหน้าที่เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนอาจจะทำให้เธอยิ้มหัวเราะหรือมีความสุขได้ แต่... ตอนนี้
...หน้าคมๆนั้นเธอก็ไม่อยากจะเหลียวมอง แม้แต่น้อย...
‘แก้ว’ ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน... ไม่ว่าเธอจะลุกหนีขึ้นห้องหรือว่าจะเดินไปมาก็ตาม แม้จะรู้สึกใจอ่อน แม้ว่าจะอยากให้อภัย แต่ภาพเดิมๆก็ผุดขึ้นมาไม่ว่าจะพยายามลบเลือนสักเท่าไหร่ หัวใจที่เต้นแรงกลับหมดแรงอย่างรวดเร็ว จะให้เธอทำยังไง...
‘ก็มันทั้งรักทั้งเจ็บจนแยกไม่ออก’
เข็มนาฬิกายังเดินต่อไปแม้ว่าจะค่อยๆเดินช้าลงช้าลงเรื่อยๆ จนหยุดที่เลขสิบสอง... ‘เวลาหมดแล้ว’ นัยน์ตาสีน้ำตาลหุบลงอย่างเหนื่อยล้า ใบหน้าหวานส่ายช้าๆอย่างเหนื่อยอ่อน ริมฝีปากบางขยับเป็นคำพูดที่ทำให้คนฟังต้องน้ำตาร่วง...
“ขอโทษเช่นกัน... ‘เลิก’ กันน่ะดีแล้ว แก้ว”
เธอเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ พลางลุกเดินกลับขึ้นห้องไปปล่อยให้คนที่ทำผิดต้องนึกทบทวนสิ่งที่ตัวเองทำ ริมฝีปากที่เผยอนิดๆเพราะอาการช็อกปิดลงพลางขบแน่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่นจนสั่นเทา... ผิดเอง
เธอผิดเองที่เผลอใจไป... ผิดเองที่พลาดท่า กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายไปเสียแล้ว ใบหน้าคมเงยขึ้นมามอง หวังว่าจะให้คนที่เดินจากกลับมานั่งที่เดิมแล้วบอกว่า... ‘ใหอภัย... ไม่โกรธแล้ว’ เพียงแต่สิ่งที่เห็นคือ อากาศอันน้อยนิดและความว่างเปล่า
แล้วจะมีความหมายอะไรกันเล่า หาก... หัวใจหยุดเต้นเสียแล้ว
[อาทิตย์ก่อน]
“จะนอนไปถึงไหนฮะ... คนขี้เซา”
เสียงที่ดังโหวกเหวกทำให้มือต้องควานหาหมอนมาปิดหูของตัวเอง แต่ก็หาไม่เจอ... จนสงสัยว่านี่เธอนอนดิ้นมากจนหมอนตกพื้นไปแล้วเหรอ เปลือกตาที่ปิดสนิทค่อยๆเปิดขึ้นมาพลางกวาดมองไปทางซ้ายและขวา บนที่นอนไร้ซึ่งหมอนและผ้าห่ม... จนอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้
นัยน์ตาสีน้ำตาลค่อยๆเลื่อนขึ้นไปมองด้านบน หวังไว้ว่าคนที่ปลุกเธอคงจะไม่ใช่ ‘ฟาง’ เพราะปลุกทีไรปลุกโหดทุกที แต่คำขอของคนขี้เซาก็คงจะไม่เป็นความจริงเพราะว่า...
ริมฝีปากคลี่ยิ้มหวานก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ใบหน้าหวานของคนรักที่ตอนนี้เด่นหราอยู่บนตัวเธอทำให้ ร่างโปร่งต้องรีบลุกขึ้นมาอยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอน เพราะกลัวจะโดนบีบจมูกโด่งๆของเธอ
ไม่รู้ว่าฟางไปมีเวรมีกรรมกับจมูกของเธอชาติไหนถึงต้องบีบมันทุกเช้าและทุกเวลาที่หม
ั่นไส้
“เมื่อไหร่จะตื่นเช้าๆบ้างเนี่ย? รู้ไหมนี่จะสิบโมงแล้วนะ วัน...”
“วันนี้เข้าบริษัทเที่ยงตรง ห้ามไปสายไม่งั้นจะถูกทำโทษ”แก้วพูดต่ออย่างเบื่อหน่าย ส่วนคนถูกย้อนก็ได้แต่กรอกตาไปมาอย่างอารมณ์เสียที่คนขี้เซารู้ทันไปซะทุกเรื่อง สุดท้ายคนตัวเล็กก็บีบจมูกโด่งๆของคนขี้เซาจนได้และไล่ไปอาบน้ำได้สำเร็จ
แต่ไม่วายที่คนตัวสูงจะตะโกนจากห้องน้ำให้เธอได้หงุดหงิดใจ...
“ทำตัวเหมือนแม่จริงๆ คนรักหรือแม่เนี่ย!”
และผู้ที่ได้กิตติมศักดิ์ใหม่ว่า’แม่’ ก็ได้แต่นั่งงอนคนตัวดีที่ตอนนี้หายเข้าไปในห้องน้ำเป็นชั่วโมง... จนเธอสงสัยว่าคนเท่ๆอย่างแก้วจะสำอางขนาดนี้เชียวรึ เฟย์ก็ได้แต่หัวเราะเบาๆตามเคย... เพราะไม่เคยตามอารมณ์ของสองคนนี้ทัน ดูอย่างเดียวก็ดีแล้ว สนุกดี...
เสียงลงบันไดทำให้เธอทั้งสองคนต้องหันไปมอง... เพียงแต่เสียงที่ตามมาทำให้เธอต้องขมวดคิ้วรวมถึงพี่สาวของเธอที่ตอนนี้เริ่มมีรอยสง
สัยบนใบหน้าหวาน... แน่นอนรวมถึงเธอด้วยไม่ใช่เพราอะไรหรอก มันเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวทุกคน...
‘โทรศัพท์มือถือ’
“อ่า... บายๆ เจอกันๆ”
ร่างโปร่งกดวางสายแล้วเดินมาสมทบพวกเธอที่ตอนนี้จ้องมองอย่างไม่ละตา สายตาคาดคั้นจากพี่สาวของเธอทำให้คนที่ตัวใหญ่กว่าต้องเลิกคิ้วสงสัยอย่างสงสัยเมื่อ
เห็นใบหน้าของคนรักดูหงุดหงิดมากกว่าปกติเท่าตัว และแล้วสิ่งที่ออกจากปากก็คลายความสงสัยนั้น
“คุยกับใครอีกล่ะ คุยทุกวันเลยนะ”
น้ำเสียงที่ออกเคืองๆ สร้างเสียงถอนหายใจของร่างโปร่งอาจจะครบร้อยรอบเสียแล้วในสามวันที่ผ่านมา เวลาที่เธอรับโทรศัพท์ทีไร... ฟางก็จะต้องถามเธอทุกครั้งและเวลาที่เธอบอกว่าเป็น ‘แจม’โทรมา
คนตัวเล็กก็มักจะเงียบแล้วกลับมาทำร่าเริงดูผิดปกติ... หรืออันที่จริงแปลกได้เลยล่ะมั้ง?
“ก็... แจมนั่นล่ะ ไม่รู้เป็นไรโทรมาทุกวันเลย”แก้วตอบด้วยเสียงเบื่อๆพลางเดินเข้าไปคลอเคลียคนรักที่พ
ยายามหนีจากลูกแมวตัวใหญ่ที่ดูเหมือนจะชอบแทะเล็มเธอเสมอ และแน่นอนเฟย์ก็ได้แต่ถอนหายใจพลางเดินลุกหนีออกไป เหมือนกับรู้หน้าที่
ใบหน้าคมซุกอยู่ที่ซอกคอของคนตัวเล็กที่พยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดหลวมๆที่เริ่มรั
ดแน่น แถมมือข้างไหนก็ไม่รู้ตอนนี้เริ่มเปะปะไม่ตามตัวของเธอ... ใบหูที่เริ่มแดงของฟางเรียกความขบขันในใจของร่างโปร่งเป็นอย่างยิ่ง แต่ยิ่งแกล้งก็ยิ่งได้ใจ เพียงแต่ว่า...
“พี่ฟาง... แม่บอกว่...”
เฟย์ที่เดินก้อมหน้าเข้ามาเพราะมองสมุดการบ้านในมือ... พลางใบหน้าหวานเงยขึ้นมาก่อนจะตกใจกับภาพที่เห็น ร่างโปร่งที่คลอเคลียอยู่กับพี่สาวของเธอ และใบหน้าอันเคลิ้มๆของพี่ฟางก็ทำให้เฟย์ต้องหน้าแดงขึ้นไปอีก...
“อ่ะ..เฟย์”
“อ่า... ตามสบายนะ แม่โทรมาบอกว่าวันนี้อย่ากลับดึกนัก แหะๆ”
พูดจบคนที่มีศักดิ์เป้นน้องสาวก็รีบวิ่งออกไป ปล่อยให้คนตัวเล็กต้องถลึงตาใส่ร่างสูงที่ยืนยิ้มหวานแถมยังหัวเราะแห้งๆให้... ใบหน้าหวานแดงก่ำมากขึ้นและประโยคที่แก้วจะจดจำไปอีกนานอีกประโยคคือ....
“ไม่ต้องมานอนกอดสองวัน!!”
หากย้อนเวลาได้... จะไม่ทำแบบนี้ ทั้งตัวและหัวใจจะไม่พลั้งพลาดไปหาใคร
หากน้ำตาสามารถไหลย้อนกลับได้... จะไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น จะไม่อ่อนแอออกมา แม้ว่าหัวใจจะอ่อนล่าสักเท่าไหร่... แม้ว่าจะเจ็บเจียนตายต่อหน้าคนที่ตัวเอง ‘รัก’
เพียงแต่เวลา... ไม่เคยรอคอยใคร มันเดินไปช้าๆ เดินไปเรื่อยๆ... มีนักวิทยาศาสตร์บอกว่า เรื่องไหนที่รู้สึกชอบหรือคุณสนใจ มันก็จะผ่านไปเร็ว
แต่... ถ้าหากเรื่องไหนที่คุณไม่ชอบหรือไม่มีความสุขมันก็มักจะผ่านไปอย่างช้าๆ แม้แต่เข็มวินาทีก็อาจจะช้ากว่าวันไหนๆ
ถ้าเป็นแบบนั้น...
‘ฆ่ากันให้ตายไม่ดีกว่ารึไง’
[Fiction] quarrel
[Couple] Kaew X Fang Ft. Faye
[Author] Deep
[Warning] ระวัง... ระวัง
ลมหายใจถูกผ่อนออกมาอย่างแรงและหนักหน่วง... นาฬิกาสีดำที่อยู่บนผาผนังเริ่มเดินช้าลงเรื่อยๆ ใบหน้าของใครคนหนึ่งเบือนหนีอีกคนไปอีกทาง เพื่อหลบหนีดวงตาที่คาดคั้นจากอีกฝ่าย เพียงแต่จะรู้ไหมหนอว่า เธอก็มีน้ำตาคลอเบ้า จะรู้ไหมว่า... ก็เจ็บไม่แพ้กัน
“ฟาง... ขอโทษ”
คำกล่าวที่พร่ำบอกจนชินหูของคนที่ฟังอยู่ให้เจ็บและฝังลึกลงไปในจิตใจ ใบหน้าหวานค่อยๆหันกลับมามองร่างโปร่งที่นั่งอยู่ทางฝั่งตรงข้าม... ใบหน้าที่เมื่อหลายอาทิตย์ก่อนอาจจะทำให้เธอยิ้มหัวเราะหรือมีความสุขได้ แต่... ตอนนี้
...หน้าคมๆนั้นเธอก็ไม่อยากจะเหลียวมอง แม้แต่น้อย...
‘แก้ว’ ยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน... ไม่ว่าเธอจะลุกหนีขึ้นห้องหรือว่าจะเดินไปมาก็ตาม แม้จะรู้สึกใจอ่อน แม้ว่าจะอยากให้อภัย แต่ภาพเดิมๆก็ผุดขึ้นมาไม่ว่าจะพยายามลบเลือนสักเท่าไหร่ หัวใจที่เต้นแรงกลับหมดแรงอย่างรวดเร็ว จะให้เธอทำยังไง...
‘ก็มันทั้งรักทั้งเจ็บจนแยกไม่ออก’
เข็มนาฬิกายังเดินต่อไปแม้ว่าจะค่อยๆเดินช้าลงช้าลงเรื่อยๆ จนหยุดที่เลขสิบสอง... ‘เวลาหมดแล้ว’ นัยน์ตาสีน้ำตาลหุบลงอย่างเหนื่อยล้า ใบหน้าหวานส่ายช้าๆอย่างเหนื่อยอ่อน ริมฝีปากบางขยับเป็นคำพูดที่ทำให้คนฟังต้องน้ำตาร่วง...
“ขอโทษเช่นกัน... ‘เลิก’ กันน่ะดีแล้ว แก้ว”
เธอเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ พลางลุกเดินกลับขึ้นห้องไปปล่อยให้คนที่ทำผิดต้องนึกทบทวนสิ่งที่ตัวเองทำ ริมฝีปากที่เผยอนิดๆเพราะอาการช็อกปิดลงพลางขบแน่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่นจนสั่นเทา... ผิดเอง
เธอผิดเองที่เผลอใจไป... ผิดเองที่พลาดท่า กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็สายไปเสียแล้ว ใบหน้าคมเงยขึ้นมามอง หวังว่าจะให้คนที่เดินจากกลับมานั่งที่เดิมแล้วบอกว่า... ‘ใหอภัย... ไม่โกรธแล้ว’ เพียงแต่สิ่งที่เห็นคือ อากาศอันน้อยนิดและความว่างเปล่า
แล้วจะมีความหมายอะไรกันเล่า หาก... หัวใจหยุดเต้นเสียแล้ว
[อาทิตย์ก่อน]
“จะนอนไปถึงไหนฮะ... คนขี้เซา”
เสียงที่ดังโหวกเหวกทำให้มือต้องควานหาหมอนมาปิดหูของตัวเอง แต่ก็หาไม่เจอ... จนสงสัยว่านี่เธอนอนดิ้นมากจนหมอนตกพื้นไปแล้วเหรอ เปลือกตาที่ปิดสนิทค่อยๆเปิดขึ้นมาพลางกวาดมองไปทางซ้ายและขวา บนที่นอนไร้ซึ่งหมอนและผ้าห่ม... จนอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้
นัยน์ตาสีน้ำตาลค่อยๆเลื่อนขึ้นไปมองด้านบน หวังไว้ว่าคนที่ปลุกเธอคงจะไม่ใช่ ‘ฟาง’ เพราะปลุกทีไรปลุกโหดทุกที แต่คำขอของคนขี้เซาก็คงจะไม่เป็นความจริงเพราะว่า...
ริมฝีปากคลี่ยิ้มหวานก่อนจะกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ใบหน้าหวานของคนรักที่ตอนนี้เด่นหราอยู่บนตัวเธอทำให้ ร่างโปร่งต้องรีบลุกขึ้นมาอยู่ในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอน เพราะกลัวจะโดนบีบจมูกโด่งๆของเธอ
ไม่รู้ว่าฟางไปมีเวรมีกรรมกับจมูกของเธอชาติไหนถึงต้องบีบมันทุกเช้าและทุกเวลาที่หม
ั่นไส้
“เมื่อไหร่จะตื่นเช้าๆบ้างเนี่ย? รู้ไหมนี่จะสิบโมงแล้วนะ วัน...”
“วันนี้เข้าบริษัทเที่ยงตรง ห้ามไปสายไม่งั้นจะถูกทำโทษ”แก้วพูดต่ออย่างเบื่อหน่าย ส่วนคนถูกย้อนก็ได้แต่กรอกตาไปมาอย่างอารมณ์เสียที่คนขี้เซารู้ทันไปซะทุกเรื่อง สุดท้ายคนตัวเล็กก็บีบจมูกโด่งๆของคนขี้เซาจนได้และไล่ไปอาบน้ำได้สำเร็จ
แต่ไม่วายที่คนตัวสูงจะตะโกนจากห้องน้ำให้เธอได้หงุดหงิดใจ...
“ทำตัวเหมือนแม่จริงๆ คนรักหรือแม่เนี่ย!”
และผู้ที่ได้กิตติมศักดิ์ใหม่ว่า’แม่’ ก็ได้แต่นั่งงอนคนตัวดีที่ตอนนี้หายเข้าไปในห้องน้ำเป็นชั่วโมง... จนเธอสงสัยว่าคนเท่ๆอย่างแก้วจะสำอางขนาดนี้เชียวรึ เฟย์ก็ได้แต่หัวเราะเบาๆตามเคย... เพราะไม่เคยตามอารมณ์ของสองคนนี้ทัน ดูอย่างเดียวก็ดีแล้ว สนุกดี...
เสียงลงบันไดทำให้เธอทั้งสองคนต้องหันไปมอง... เพียงแต่เสียงที่ตามมาทำให้เธอต้องขมวดคิ้วรวมถึงพี่สาวของเธอที่ตอนนี้เริ่มมีรอยสง
สัยบนใบหน้าหวาน... แน่นอนรวมถึงเธอด้วยไม่ใช่เพราอะไรหรอก มันเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวทุกคน...
‘โทรศัพท์มือถือ’
“อ่า... บายๆ เจอกันๆ”
ร่างโปร่งกดวางสายแล้วเดินมาสมทบพวกเธอที่ตอนนี้จ้องมองอย่างไม่ละตา สายตาคาดคั้นจากพี่สาวของเธอทำให้คนที่ตัวใหญ่กว่าต้องเลิกคิ้วสงสัยอย่างสงสัยเมื่อ
เห็นใบหน้าของคนรักดูหงุดหงิดมากกว่าปกติเท่าตัว และแล้วสิ่งที่ออกจากปากก็คลายความสงสัยนั้น
“คุยกับใครอีกล่ะ คุยทุกวันเลยนะ”
น้ำเสียงที่ออกเคืองๆ สร้างเสียงถอนหายใจของร่างโปร่งอาจจะครบร้อยรอบเสียแล้วในสามวันที่ผ่านมา เวลาที่เธอรับโทรศัพท์ทีไร... ฟางก็จะต้องถามเธอทุกครั้งและเวลาที่เธอบอกว่าเป็น ‘แจม’โทรมา
คนตัวเล็กก็มักจะเงียบแล้วกลับมาทำร่าเริงดูผิดปกติ... หรืออันที่จริงแปลกได้เลยล่ะมั้ง?
“ก็... แจมนั่นล่ะ ไม่รู้เป็นไรโทรมาทุกวันเลย”แก้วตอบด้วยเสียงเบื่อๆพลางเดินเข้าไปคลอเคลียคนรักที่พ
ยายามหนีจากลูกแมวตัวใหญ่ที่ดูเหมือนจะชอบแทะเล็มเธอเสมอ และแน่นอนเฟย์ก็ได้แต่ถอนหายใจพลางเดินลุกหนีออกไป เหมือนกับรู้หน้าที่
ใบหน้าคมซุกอยู่ที่ซอกคอของคนตัวเล็กที่พยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดหลวมๆที่เริ่มรั
ดแน่น แถมมือข้างไหนก็ไม่รู้ตอนนี้เริ่มเปะปะไม่ตามตัวของเธอ... ใบหูที่เริ่มแดงของฟางเรียกความขบขันในใจของร่างโปร่งเป็นอย่างยิ่ง แต่ยิ่งแกล้งก็ยิ่งได้ใจ เพียงแต่ว่า...
“พี่ฟาง... แม่บอกว่...”
เฟย์ที่เดินก้อมหน้าเข้ามาเพราะมองสมุดการบ้านในมือ... พลางใบหน้าหวานเงยขึ้นมาก่อนจะตกใจกับภาพที่เห็น ร่างโปร่งที่คลอเคลียอยู่กับพี่สาวของเธอ และใบหน้าอันเคลิ้มๆของพี่ฟางก็ทำให้เฟย์ต้องหน้าแดงขึ้นไปอีก...
“อ่ะ..เฟย์”
“อ่า... ตามสบายนะ แม่โทรมาบอกว่าวันนี้อย่ากลับดึกนัก แหะๆ”
พูดจบคนที่มีศักดิ์เป้นน้องสาวก็รีบวิ่งออกไป ปล่อยให้คนตัวเล็กต้องถลึงตาใส่ร่างสูงที่ยืนยิ้มหวานแถมยังหัวเราะแห้งๆให้... ใบหน้าหวานแดงก่ำมากขึ้นและประโยคที่แก้วจะจดจำไปอีกนานอีกประโยคคือ....
“ไม่ต้องมานอนกอดสองวัน!!”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น