คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Chapter :: 15::
“ฟาง... เฮ้!! ฟางอยู่ไหน”
ร่างโปร่งที่ตามมาตะโกนเรียกชื่อคนตัวเล็กที่ไม่รู้วิ่งไปอยู่ไหนเสียแล้ว... ใบหน้าหล่อเหลามีท่าทีวิตกเป็นอย่างยิ่ง พลันร่างโปร่งของตนก็ต้องเซเมื่อถูกมือปริศนาฉุดไปติดกำแพง ปากที่ตะโกนเรียกหาสาวหวานนั้นเตรียมจะร้องแหกปากอีกครั้ง แต่กลับถูกปิดด้วยมือเล็ก “อย่าร้องน่าป๊อป! เงียบก่อนพวกฉันเอง”เสียงอันคุ้นหูทำให้ชายหนุ่มหันไปมองก่อนจะพบเจ็ดคนที่ยืนหลบอยู่ตามซอก
“อ้าว... พวกนายมาทำอะไรที่นี่! แล้วเห็นฟางไหม?”คำถามที่รัวออกมาเป็นชุดทำให้ผู้ฟังทั้งเจ็ดคนต้องยกมือขึ้นห้ามก่อนที่ป๊อปปี้จะถามอะไรไปมากกว่านี้ “เงียบหน่อย พวกเรากำลังวางแผนกันอยู่”สาวตัวเล็กอย่าง ‘หวาย’ ผู้ขึ้นก่อนจะฉุดให้ชายหนุ่มนั่งลงตามคนอื่นที่นั่งเครียดอยู่แล้ว “สรุปพวกเธอลากฉันมามีแผนอะไรเนี่ย?”ป๊อปปี้ถามก่อนที่จะโดนมะเหงกจากเขื่อนไปหนึ่งที
“ถามโง่ๆ ฉันว่านายก็ต้องรู้นั่นล่ะว่า ‘แจม’ กำลังทำอะไร... น่าสงสารฟางออก”เขื่อนพูด ขณะที่ชายหนุ่มลูบหัวตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาพร้อมกันทุกคน ก็พอรู้ว่าตอนนี้มันย่ำแย่ขนาดไหน... “เฮ้อ... พี่สาวฉันกับแก้วก็เหมือนจะนุ่มนวลทั้งคู่เลยนะ”เฟย์บ่นพลางนึกถึงตอนทะเลาะครั้งก่อน ทำเอาทั้งหมดต้องถอนหายใจอีกครั้ง
“แล้วแกเตือนแก้วไปยังว่ะ ป๊อป”เขื่อนถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์สำคัญ ก่อนที่หนุ่มร้องนำของเคโอติกจะพยักหน้างึกงัก “เตือนก็เตือนแล้วว่าระวังเพื่อนสนิทไว้ ระวังแจมไว้หน่อย... เฮ้อ ไม่เคยคิดเลย!”เฟย์ได้แค่กุมขมับอย่างปวดหัว ‘ทีเรื่องอย่างนั้นน่ะฉลาด ทีเรื่องแฟนตัวเองไม่เคยฉลาดสักที’ ก่อนที่ทั้งแปดชีวิตจะมานั่งสุมหัวอีกครั้งหาลือเรื่องจะจับแจมแยกออกจากทั้งสองคนอย่างไรดี
“เอาเป็นว่า...ยังไงก็ต้องจับแจมแยกจากแก้วให้ได้ ว่าแต่ป๊อป ตอนนี้ฟางเป็นไงบ้างเนี่ย”หวายถามด้วยสีหน้าเครียดเป็นพิเศษ “เฮ้อ เมื่อกี้ทะเลาะกันใหญ่เลยน่ะสิ ยิ่งยัยแจมนี่เป็นตัวยุเลย เฮ้ย! เดี๋ยว ฉันมาตามฟางนะเนี่ยไม่รู้ไปไหนแล้วเนี่ย!”ชายหนุ่มพูดด้วยอารามตกใจก่อนทั้งหมดแปดคนจะรีบออกไปตามหา...
...หวังว่า ฟางจะไม่เจอเรื่องโชคร้ายนะ...
“ฮึก... แคร์กันบ้างไหม?”
คนตัวเล็กพึมพำพลางสะอื้น... พลันเสียงรองเท้าดังก้องทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมามองก่อนที่คิ้วเรียวจะต้องขมวดเพราะความไม่ไว้ใจหรืออันที่จริง... จะเรียกว่า ‘กลัว’ ก็ไม่ผิดแปลกอะไร ใบหน้าหวานที่ยืนส่งยิ้มให้เธออย่างอารมณ์ดีซึ่งเธอไม่ได้ดีตามด้วยเลยสักนิด
“ที่แท้พี่ฟางของเราก็เป็น ‘เด็กขี้แย’ เท่านั้นเอง”น้ำเสียงเห็นใจที่ฟังก็รู้ว่ากำลังเยาะเย้ยทำให้เธอต้องรีบปาดน้ำตา แล้วลุกขึ้นยืนมองหน้าเด็กสาวที่อายุน้อยกว่าแค่ปีเดียวเท่านั้น “แล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ ‘แจม’”คำถามที่ทำให้รุ่นน้องร่วมค่ายหัวเราะพลางเดินย่างสามขุมเข้ามาใกล้ประชิดตัว
“ไม่เกี่ยวหรอก เรื่องนี้... แต่อีกเรื่องก็ไม่แน่เหมือนกัน”เสียงหวานที่ต่ำลงทำให้คนตัวเล็กที่ยืนจ้องหน้าอยู่นั้นต้องผงะเล็กน้อย “ต้องการอะไร... แจม”เธอถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ความมั่นใจที่จะเผชิญหน้าคนตรงหน้าหายไปหมดสิ้น เรียวปากของแจมกระตุกเล็กน้อยพลางก้มลงกระซิบที่ใบหูของคนตัวเล็ก “ต้องการ... คนตัวสูง หัวสีทอง หรือง่ายๆก็แฟนพี่นั่นล่ะ พี่ฟาง”ว่าจบมือเรียวก็ผลักคนตัวเล็กติดกำแพง
นัยน์ตาสีน้ำตาลกลมโตเบิกกว้างเมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ มือเรียวฟาดไปที่แก้มของรุ่นน้องอย่างจงใจ แต่นั่นกลับทำให้คนที่ได้เปรียบอยู่นั้นกลับยิ้มหวาน ก่อนจะถอยห่างออกมาแล้วทรุดไปนั่งกับพื้นกุมหน้าตัวเอง พอดีกับที่ใครอีกคนเดินมาเจอพอดี... นัยน์ตาคมมองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่กับเพื่อนสนิทที่นั่งกุมหน้าสลับไปมา ร่างบางเบิกตากว้างแต่ก่อนจะได้อธิบายก็ถูกร่างโปร่งตวาดกลับ
“ฟาง! เป็นบ้าหรือไง ตบแจมทำไม!”ด้วยความเป็นคนรักเพื่อนทำให้แก้วพูดออกไปอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังเสียก่อน ก่อนที่ทั้งแปดคนที่กระวนกระวายจะมายืนหยุดนิ่งดูภาพและเสียงอันน่าตกใจ คนตัวเล็กที่ยืนนิ่งกับคำพูดของร่างโปร่งได้แค่มองก่อนจะถอนหายใจออกมา
“สรุปแก้วจะไม่ฟังฟางอธิบายเลยใช่ไหม?”คำถามที่ร่างเล็กยืนหันหลังให้กับคนตัวสูงที่ประคองเพื่อนสนิทเอาไว้อยู่ ใบหน้าคมนั้นจ้องมองแผ่นหลังอย่างเหนื่อยล้า ริมฝีปากเรียวขยับเป็นคำถาม “ต้องฟังอะไรอีกล่ะ กับสิ่งที่เห็นก็บอกอยู่แล้วนิ ไม่ว่าฟางจะตั้งใจทำแบบไหนก็ตบแจมไปแล้ว”แผ่นหลังที่นิ่งโคลงหัวขึ้นลงก่อนจะเดินไปยังกลุ่มที่มองอยู่...
เฟย์ที่ก้าวออกมารับพี่สาวก่อนที่จะพาคนตัวเล็กเดินไป ปล่อยให้แก้วนั่งถามสารทุกข์สุกดิบของคนที่โดยตบ... ประตูห้องซ้อมถูกปิดลงโดยมีทั้งหมดเก้าชีวิตนั่งลง คนตัวเล็กที่ยิ้มหวานเริ่มสะอื้นพลางปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร จนหวาย มีน และเฟย์ต้องมานั่งปลอบ ปล่อยให้ห้าหนุ่มเคโอติกต้องนั่งคิดแผนกัน
“เอายังไงดีล่ะทีนี้... เฮ้อ! ยัยแจมทำให้เรื่องยุ่งเลยทีนี้”เขื่อนโพล่งออกมาขณะที่ทุกคนนั่งนิ่งเครียด ก่อนที่ป๊อปปี้จะเสริมต่อ “ใช่! โดยเฉพาะแก้วนี่ยิ่งแล้วใหญ่มาเห็นภาพแบบนั้น จากที่ทะเลาะอยู่แล้วมันก็ฉุนเพิ่มขึ้นอีก”ทั้งหมดห้าคนถอนหายใจก่อนที่จะหันไปมองฟางที่นั่งร้องไห้โดยมีสามสาวพยายามปลอบทุกวิถีทาง และแล้วหนุ่มแว่นอย่างจองเบก็ดีดนิ้วเรียกให้ทุกคนหันมามอง
“งั้นเอาอย่างนี้ไหมครับ เรียกแก้วมาแล้วอธิบายให้ฟังไงครับ”สำเนียงแปล่งๆของหนุ่มเกาหลีกับไอเดียที่ทั้งหมดได้แต่ขมวดคิ้ว ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงที่ว่าจะอธิบายได้หรือไม่ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า... จะจับคนเจ้าปัญหามาได้อย่างไร อีกอย่างแจมก็น่าจะเกาะเป็นปลิงโตตัว ว่าแล้วทั้งห้าคนก็หันไปมองสาวหวานที่ตอนนี้หวายให้ฟางซบอยู่นั้น นัยน์ตาทั้งสิบดวงไล่มองทีละคน...
‘มีน’... รุ่นพี่สาวร่วมวง แต่นิสัยอ่อนโยนยิ่งกว่าอะไรดี ไม่ผ่าน ‘หวาย’...สาวน้อยที่ฝีปากกล้าพอสมควรแต่จะท้าสู้กับแจมคงไม่ไหวสักเท่าไหร่ พลันสายตาเหลือบไปมองคนที่นั่งกุมขมับอยู่ ‘เฟย์’ เคโอติกทั้งหมดหันมามองกันพลางพยักหน้างึกงัก ก่อนที่ทั้งหมดจะขับไสไล่ส่งให้คนต้นคิดแผนอย่างจองเบไปโดยที่มีป๊อปไปเป็นล่าม
ชายหนุ่มเชื้อสายเกาหลีสะกิดร่างบอบบางที่เปลี่ยนมานั่งมองพี่สาวของตัวเอง... ก่อนจะส่งซิกให้เดินตามมาที่มุมห้อง ร่างเล็กเลิกคิ้วมองชายหนุ่มทั้งสองอย่างสงสัยก่อนจะออกปากถาม ”เรียกมามีอะไร?”ทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนที่จองเบจะอธิบาย “ก็... ผมมีแผนน่ะครับ เฟย์จะช่วยได้ไหมครับ”คำขอร้องที่เป็นสำเนียงแปล่งๆทำให้เฟย์ต้องคิดหนักก่อนที่ป๊อปจะอธิบายต่อ
“คือ ยังไงเฟย์ก็ไม่อยากเห็นฟางกับแก้วทะเลาะกันแบบนี้ใช่ไหม? ป๊อปว่ายังไงก็ช่วยๆดีกว่า”คำกล่าวที่เหมือนคำสั่งแกมบังคับทำให้เฟย์ต้องพยักหน้าตอบรับอย่างเลือกไม่ได้ เมื่อได้ฟังแผนของสองหนุ่มก็ต้องขมวดคิ้วอย่างปวดหัว... ใบหน้าหวานเหลือบมองพี่สาวของตนที่ร้องไห้จนหลับไป
“โอเค... ป๊อป เดี๋ยวเฟย์จัดการแจมเอง”
“แก้ว... กินไอศกรีมหน่อยสิ”
ร่างบางที่คะยั้นคะยอให้คนตัวสูงกินไอศกรีมที่อยู่ในช้อนตน... แก้วถอนหายใจก่อนจะอ้าปากงับช้อนก่อนจะถอนออกเมื่อของหวานนั้นละลายในปากหมดแล้ว นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มนั้นไม่ได้จ้องคนตรงหน้าแม้แต่น้อย หากแต่เหม่อลอยไปถึงร่างเล็กที่เดินหันหลังกลับให้เธอไป...
‘นี่เธอกำลังทำอะไรกันแน่... วันนี้’
ได้แต่นึกถามตัวเองในใจ พลันเสียงกระดิ่งหน้าร้านเรียกสติให้กลับมาอีกครั้ง พลางสายตาของทั้งสองคนนั้นหันไปมอง ร่างที่ยืนชะโงกหน้าอยู่ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อหาพวกเธอเจอ... “เฟย์... มาทำอะไรเนี่ย”ร่างบางถามสาวเปรี้ยวอารมณ์ดีที่เดินมาหา คนตัวสูงนั้นมองเพื่อนร่วมวงอย่างสงสัย แต่ก่อนที่จะได้ออกปากถามก็ถูกเฟย์ชิงพูดเสียก่อน “เฮ้อ... เฮียจองเบเขามีเรื่องคุยกับแก้วน่ะสิ! โวยวายใหญ่เลยเนี่ย”ว่าแล้วก็ชี้ไปทางหนุ่มเกาหลีที่ยืนเงอะงะอยู่ จนร่างโปร่งต้องเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ ‘ก็ไม่เห็นเฮียจองเบจะโวยวายตรงไหน’
“ไปเร็วแก้ว! เนี่ยเฮียจองเบเขาหงุดหงิดจนพูดไม่ออกแล้วเนี่ย”เฟย์ที่เนียนไปเรื่อยฉุดให้ร่างโปร่งลุกวิ่งไปหาจองเบ ก่อนที่มุมบนของเรียวปากจะคลี่ยิ้มพอใจส่งให้กับคนต้นคิดที่เตรียมรับช่วงต่อ ทิ้งให้แจมนั่งเอ๋อพร้อมกับเฟย์ที่นั่งลงแทนที่แก้วแล้วกินไอศกรีมอย่างเพลินใจ
“ใครเชิญเธอมานั่งเนี่ยเฟย์ แถมยังมากินของแก้วอีก”แจมถามเฟย์ที่ทำท่าทีเป็นไม่รู้เรื่อง... เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวไม่มีท่าทีที่จะตอบกลับ ร่างบางก็เตรียมจะลุกขึ้นแต่กลับโดนดึงข้อมือให้นั่งลง นัยน์ตาหันมามองคนที่มือนึงตักไอศกรีมกินและอีกมือนึงจับข้อมือเธออยู่ “อย่าเพิ่งไปสิแจม... อยู่กินไอศกรีมเป็นเพื่อนเขาก่อน แก้วกับจองเบไม่เห็นต้องไปสนใจเลย”เฟย์พูดด้วยเสียงขบขันก่อนจะยัดช้อนที่มีไอศกรีมเข้าปากร่างบางไป
จากปากที่จะพยายามอ้าเถียงก็ได้แต่นิ่งเพื่อรอไอศกรีมคำใหญ่ละลายให้หมดปาก คนที่สวมบทเนียนได้แค่หัวเราะก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มคนที่นั่งตรงข้ามอย่างหมั่นเขี้ยว “เวลาไม่เกียงก็น่ารักดีอยู่หรอก ยัยผีเผือก”คำพูดที่ทำให้สาวเจ้าต้องหันมาถลึงตาใส่ แต่สิ่งนั้นยิ่งทำให้คนที่นั่งมองต้องหัวเราะ
...ก็น่ารักดีนิ ยัยผีเผือก...
“เฮียหยุดก่อน! เฮียใจเย็น จะพาแก้วไปไหนเนี่ย”
ร่างโปร่งถามชายหนุ่มที่ฉุดกระชากลากถูเธอไปอย่างลืมตัว... ก่อนที่มือใหญ่จะปล่อยมือของคนตัวเล็กเมื่อพาวิ่งมาถึงห้องซ้อม ใบหน้าคมของทั้งสองคนนั้นมีเหงื่อผุดเพราะวิ่งผ่านแดดที่ร้อน เมื่อหายใจได้เป็นปกติทั้งคู่ มือหนาก็ดันกายของแก้วให้เข้าไปในห้องซ้อมที่มี มีนและหวายนั่งอยู่... แต่สิ่งที่ร่างโปร่งสนใจกลับไม่ใช่ทั้งสองคนหากแต่เป็นร่างบางที่นอนซบหวายอยู่
ร่างเล็กนั้นลืมตาขึ้นมาก่อนจะจ้องมองร่างโปร่งอย่างเศร้าใจ... นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลมองคนรักที่เหนื่อยโทรมกาย “ออกไป...”คำพูดแรกที่ทำให้คนฟังต้องรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจเหมือนคราวที่ทะเลาะกันเหมือนครั้งก่อน ครันจะออกปากถูกดักด้วยเสียงของอีกฝ่าย “ไม่ไปดูแลแจมล่ะ... เขาเจ็บอยู่นิ ดูแลให้ดีด้วยนะ อย่าให้เป็นแบบเขา ฮึก... เราเลิกกันเถอะ แก้ว”นัยน์ตาคมเบิกกว้างมองร่างเล็กที่แค่นยิ้มออกมา
“ฟาง... เขา... เขาขอโทษ อย่า..”ไม่ทันจะพูดจบประโยคคนตัวเล็กก็ตะโกนออกมาอย่างหมดความอดทน “ขอโทษ! แก้วพูดมันเป็นพันครั้ง แต่ยิ่งพูดมันดูไร้ค่าลงไปเรื่อยๆ”คนตัวสูงได้แต่ยืนนิ่ง หน้าอกแน่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อากาศรอบตัวเหมือนจะหมดไปอย่างไร้สาเหตุ
...หมดแล้ว ทุกอย่าง จบลงแล้ว ทุกอย่างผิดที่ฉันเอง...
TBC
ความคิดเห็น