ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fan Fiction] Quarrel

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter ::13::

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 51


    [Fiction] quarrel
    [Couple] Kaew X Fang Ft. Faye
    [Author] Deep
    [Warning] ระวัง... ระวัง







    “จะอะไรกันนักกันหนาเนี่ย!”


    ฟางตะโกนออกมาอย่างเหลืออดเมื่อมองเห็นแจมเข้ามายุ่งกับ ‘แฟน’ ของเธอ ที่หัวเราะคิกคักเออ ออกับ ‘เพื่อนสนิท’ ที่คนเป็นแฟนอย่างเธอดูก็รู้ว่า ‘คิดไม่ซื่อ’ “กำลังคิดอยู่ใช่ไหมว่า ทำไมแจมต้องมายุ่งทุกเรื่อง”เสียงของน้องสาวดังขึ้นข้างๆ เธอพยักหน้า แม้ว่าหูจะรับฟัง แต่ตายังจ้องไปที่ภาพข้างหน้า

    “คิดถูกนิ... เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ น่าจะใช้เพลงนี้ได้นะ ว่าไหม?”

    ฟางเฟรยเสียงเรียบๆ ส่วนเฟย์ได้แต่หัวเราะในลำคออย่างถูกใจกับคำกล่าวของพี่สาวที่ดูท่าวันนี้คงจะได้สวม
    บทโหด ไม่ก็บทหมอโฮจุนอีกครั้ง... แต่ไม่รู้ทำไม รู้สึกขัดใจทุกครั้งที่เห็นแจมไปนัวเนียหรือเล่นกับแก้ว?



    ...คงเพราะ ได้จิตสำนึกมาจากพี่ฟางล่ะมั้ง?...


    เธอตัดสินใจกับความคิดข้างต้น พลางก้มลงกระซิบที่หูของพี่สาว... แผนการที่ทำให้ฟางเบิกตาโตอย่างตกใจ แต่ความมั่นใจบนใบหน้าของเฟย์กลับทำให้เธอต้องลองเอาที่สิ่งน้องสาวบอกมาคิดทบทวน


    ‘จะดีเหรอ... แผนนี้’








    “อ่ะ... แก้วบ้า!”

    เสียงของแจมที่สะกิดหูเธอให้หันไปมองภาพตรงหน้า... ริมฝีปากหนาของร่างสูงประทับลงบนแก้มเนียนของเพื่อนสนิทที่หน้าขึ้นสีเรื่อ เท่านั้นความอดทนทั้งหมดก็ขาดลงทันที “แก้ว!”เธอตะโกนออกไปอย่างหมดความอดทนจนคนทั้งหมดหันมามอง ร่างโปร่งที่ยิ้มกว้างหันมามองคนตัวเล็กที่ยืนหน้าแดงเช่นกัน...

    ไม่ใช่เพราะความอาย... แต่เป็นเพราะความโกรธ สองสามวันที่ผ่านมาแก้วก็ทำแบบนี้ หอมแก้ม...หัวเราะ... แต่ไม่ใช่กับเธอ แต่เป็นเพื่อนสนิทของร่างสูงที่มองเธอด้วยแววตาสงสัย “เป็นอะไรไป... ฟาง”คำถามที่ออกจากปากของคนรัก ‘เป็นอะไร’ ถามมาได้หน้าตาเฉย...

    ริมฝีปากพยายามจะขยับเป็นคำโต้ตอบอีกครั้ง แต่กลับมีมือหนึ่งมาแตะที่บ่าของเธอ... ใบหน้าหวานหันไปมองเจ้าของมืออุ่นๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่จ้องเธอด้วยความอ่อนโยน อ่อนโยนเสียจนเธอหมดอารมณ์โกรธเคืองไปทันใด

    “ใจเย็นน่า เป็นอะไรไหม? ฟาง”

    น้ำเสียงของ ‘ป๊อปปี้’ ฟังแล้วดูอ่อนโยน... นัยน์ตากลมโตเริ่มมีน้ำตาคลอพลางคนตัวเล็กก็โผซบร่างโปร่งที่ได้ชื่อว่า ‘เพื่อนสนิท’ อีกคน มือกร้านลูบหัวคนตัวเล็กอย่างเข้าใจ ริมฝีปากเลื่อนไปที่ข้างหู

    “ปล่อยก่อนเถอะ เดี๋ยวแก้วจะฆ่าพี่”

    “ฮึก ช่างหัวมันสิ... ปล่อยมันไป”คำกล่าวน้อยอกน้อยใจของฟางทำให้ป๊อปปี้หัวเราะ พลางผลักคนตัวเล็กออกพลันหันกลับไปมองสาวห้าวที่นั่งขมวดคิ้วอยู่อย่างไม่เข้าใจสถาน
    การณ์ เขาส่งยิ้มน้อยให้แก้วพลางทำท่าร้องไห้บ่งบอกอาการของคนตัวเล็ก

    “ขอตัวนะ แจม... ไปปลอบฟางก่อน”แก้วพูดขณะจ้องป๊อปปี้อย่างไม่ไว้ใจ... พลางลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหาคนรักที่ตอนนี้นั่งก้มหน้านิ่ง ไม่มีใครเข้าไปยุ่งสักคนนอกจากชายหนุ่มที่พยายามปลอบอยู่ข้างๆ

    เมื่อเห็นเจ้าของตัวจริงมา เขาก็ได้แต่ถอยออกแล้วเดินไปหาคนที่กำลังต้องการคำตอบ... ปล่อยให้คนรักทั้งสองปรับความเข้าใจ ร่างโปร่งที่หยุดยืนตรงหน้าคนตัวเล็กที่ยังสะอื้นเล็กๆอยู่ พลางคนตัวสูงทรุดลงแล้วยื่นมือไปแตะที่ไหล่ของคนรัก




    “จะมาสนใจกันทำไมเล่า!”



    ฟางตะโกนพลางปัดมือของร่างสูงออกอย่างไม่ใยดี หากแต่วงแขนกลับรวบตัวของเธอเข้าไปในอ้อมกอด ร่างเล็กดิ้นขลุกขลักเพราะความน้อยใจ ก่อนจะหยุดนิ่งแล้วปล่อยโฮที่บ่าของคนซื่อบื้ออีกรอบ... ภาพที่เห็นทำให้คนที่นั่งมองอยู่ไกลๆยิ้มออกมา




    ...เป็นแบบนี้น่ะดีแล้ว ป๊อป...



    “ยิ้มอะไรอยู่ นายควรจะเสียใจไม่ใช่หรือไง”เสียงของแจมทำให้เขาหันไปมองคนตัวเล็กที่นั่งหน้าบึ้งอย
    ู่ สาเหตุน่าจะเดาได้จากการกระทำของแก้ว เพียงแต่ชายหนุ่มกลับส่ายหัวช้าๆเป็นคำตอบ จนร่างบางต้องเลิกคิ้วสงสัย


    “เอาเป็นว่า... ฉันให้คำตอบเธอแล้วนะแจม”ป๊อปพูดพลางลุกขึ้นเมื่อเพื่อนร่วมวงอีกสี่คนมาตามให้ไปซ้อ
    ม พลางส่งยิ้มหวานปิดท้ายให้แจมที่นั่งนิ่งเพราะความอึ้ง... ก่อนที่นัยน์ตาสำนิลหรี่ลงเล็กน้อยขณะมองแผ่นหลังของร่างสูงที่เดินออกไป




    ‘ไม่รู้เหรอป๊อป... ว่านายมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยเสมอ’











    “แก้ว... ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม?”

    เสียงของนายป๊อปปี้ทำให้ร่างสูงเงยละใบหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มที่ยืนส่งยิ้มให้ ริมฝีปากเรียวเม้มแน่นคงเป็นเพราะความหึงหวงกระมังที่ทำให้เธอไม่อยากจะญาติดีกับคนต
    รงหน้าสักเท่าไหร่นัก เพียงแต่มือกร้านก็ยันตัวเองให้ลุกขึ้นมา ตามอีกฝ่ายออกไป...

    ระเบียงทางเดินอันคับแคบ ตอนนี้มีสองร่างที่กำลังยืนอยู่ คนหนึ่งพิงกำแพงอย่างไม่สบอารมณ์อีกคนนั่งอยู่ตรงที่ขอบกำแพงของอีกฝั่ง ความเงียบยังคงปกคลุมตั้งแต่เมื่อสิบนาทีที่แล้ว...

    คนที่ชวนเธอมาก็ยังไม่เอ่ยปากพูดเรื่องไหนสักเรื่อง “ป๊อป ชวนเขามาทำไม”เธอเปิดประเด็นอย่างไร้อารมณ์ แต่ชายหนุ่มกลับยังดูใจเย็น

    “อืม... ก็คุยนั่นล่ะ เรื่องของ ‘ฟาง’ “

    หัวข้อที่ทำให้ร่างโปร่งเลิกคิ้วเพราะความสงสัย... ‘ทำไมต้องเป็นเรื่องของฟาง?’ คำถามที่วนเวียนอยู่ในสมองของเธอตอนนี้ พลางอาการนิ่งอึ้งเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหยันๆบนใบหน้าของตน “ฟางเกี่ยวอะไรด้วย”เธอถามด้วยเสียงเรียบๆแต่แสดงออกถึงความเป็นเจ้าของ
    แต่นั่นทำไม่ได้ให้ป๊อปรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจแต่อย่างใด กลับยิ้มกว้างเสียด้วยซ้ำ...

    อย่างน้อยเขาเองก็ชื้นใจว่าแก้วไม่ใช่มนุษย์ที่แสนจะซื่อบื้ออย่างเดียว พลันยิ้มค่อยๆจางหายไปเมื่อนึกถึงเรื่องที่กำลังจะคุย ชายหนุ่มค่อยๆเปลี่ยนสีหน้าให้เคร่งขรึม...


    “เฮ้อ... แก้ว เขาถามจริง ‘แจม’ ในสายตาแก้วเป็นยังไง”สิ่งที่ป๊อปพูดออกมา ทำให้ความคิดต่างๆหยุดลง... สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาแลดูเหมือนจะแรงขึ้นเรื่อยๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลมองไปยังชายหนุ่มที่เริ่มเปียกแม้จะอยู่ใต้ร่ม แต่เพราะฝนที่สาดลงมาก็ทำให้หลังและบ่าเปียกชื้น


    คำถามที่เธอไม่รู้จะตอบแบบไหนดี แจม... แจมเป็นเพื่อนสนิท เพื่อนสนิทที่ไม่มีทางมากกว่านั้น เพราะเธอไม่เคยรู้สึกเลยว่า... ‘รัก’ เธอมีแค่คนๆเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะงี่เง่าบ้าบอแค่ไหน แต่ก็ยังรัก... รักหมดหัวใจ สาวห้าวถอนหายใจอย่างปลงๆ พลางเงยหน้าขึ้นมาตอบคำถามของนายป๊อปปี้ที่รอฟังอยู่


    “อืม... เพื่อนสนิทไง ทำไมถามเหมือนฟางเลยล่ะ”

    “ยัยโง่! เธอไม่รู้อะไรหรือไง”ป๊อปพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ พลางกุมขมับอย่างปวดหัว ‘ให้ตายเถอะฟาง... แฟนเธอโง่หรือซื่อบื้อเนี่ย!!’ ความคิดของป๊อปที่อยากจะบอกออกมาเป็นคำพูด แต่กลัวโดนแก้วที่กำลังทำหน้าเอ๋ออัดเข้าให้... ยิ่งแรงเยอะอยู่


    “ทำไมอ่ะ? แจมทำไม?”

    ร่างสูงถามพลางเกาหัวแกร็กๆอย่างมึนสุดขีด ป๊อปส่ายหน้าเล็กน้อยพลางบ่นพึมพำไม่ให้แก้วได้ยิน “ฟางน้า... รู้แล้วทำไมถึงร้องไห้บ่อยๆ” คำบ่นที่สุดท้ายไม่ว่ายังไงก็ต้องดังให้ร่างสูงได้ยินสักตัวอักษรล่ะน้า

    “ว่าไงนะป๊อป พูดใหม่อีกทีสิ”เสียงของแก้วทำให้ชายหนุ่มออกจากภวังค์พลางส่ายหัวดุ๊กดิ๊กทำเหมือนไ
    ม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่นัยน์ตาคมก็ยังคาดคั้นให้ป๊อปปี้ได้เหงื่อตก... จะจำไว้ว่าจะไม่นินทาแก้วอีกต่อไปแล้ว น่ากลัวเสียจริง...

    “เปล่า... คือความจริงเขาก็ไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่หรอกนะ”น้ำเสียงที่ค่อนข้างจริง
    จังของป๊อปปี้ทำให้ สาวห้าวต้องหันมาฟังอย่างใส่ใจ เธอรู้ดีว่า นายป๊อปคงไม่ได้พูดเล่นเป็นแน่แท้... “อืม”เธอตอบรับคำสั้นๆง่ายๆให้ป๊อปปี้ได้พูดต่อ

    “แล้วก็ไม่อยากจะเล่าอะไรมากด้วย แต่เอาเป็นว่า... ‘เพื่อนสนิท’ น่ะระวังไว้หน่อยก็ดี”คำกล่าวที่ทำให้แก้วต้องมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างประหลาดใจ ‘แจม’ ชื่อผุดขึ้นมา... ทั้งฟางทั้งป๊อปปี้ทำไมถึงต้องพูดเรื่องเกี่ยวกับแจมทั้งคู่ “ทำไม?”ร่างโปร่งถามด้วยอาการสงสัย แม้ว่าใบหน้าจะนิ่งสนิท

    “บอกแล้วว่าไม่อยากยุ่งด้วยเรื่องนี้ ขอตัวล่ะ”


    ชายหนุ่มกล่าวทิ้งปิดท้ายให้ร่างโปร่งได้ไปคิดเอง ขายาวเมื่อแตะถึงพื้นก็ออกเดินทันทีไม่ให้อีกฝ่ายได้ทักท้วงแต่อย่างใด ริมฝีปากเรียวเม้มแน่นกับทิฐิของตัวเอง... คงเป็นเพราะเขายังมีอคติกับแก้วล่ะมั้งที่ทำให้พูดออกไปได้แค่นั้น






    ...ขอโทษนะแก้ว ขอโทษที่ฉันพูดได้แค่นี้ล่ะ...













    “เพื่อนสนิท โธ่เว้ย! อะไรกันเนี่ย!!~”

    เสียงที่ดังก้องระเบียงอย่างไม่เข้าใจ... เกี่ยวกับฟาง แจมเกี่ยวอะไรกับฟาง? เพื่อนสนิทของเธอกำลังทำอะไร เธอทรุดลงกับพื้นเพราะความสับสน พลางปิดเปลือกตาให้สนิทแล้วส่ายหัวไปมา...

    คำถามที่ใครๆถามเธอมันน่าสงสัย ส่วนคำตอบที่ได้มาเธอก็ยังไม่เข้าใจเอาเสียเลย


    “อ้าว! แก้วมานั่งอะไรตรงนี้”

    น้ำเสียงอันคุ้นเคยของเฟย์เรียกให้ใบหน้าคมเงยขึ้นมามอง... สาวหวานที่ตอนนี้กำลังจะไปหาของกินสะดุดใจกับเสียงตะโกนแว่วๆ เหมือนเสียงของเพื่อนร่วมวงและนึกไม่ถึงว่าจะเป็น ‘แก้ว’ จริงๆ ที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ในมุมอับของกำแพง

    ใบหน้าที่ใครๆมักจะชมว่าหล่อหรือสวยนั้น ตอนนี้กลับมีรอยครุ่นคิดและกังวลตลอดเวลา จนเฟย์ยังตกใจเพราะไม่เคยแก้วเครียดเรื่องไหนมากจนขนาดต้องมานั่งสติแตกอยู่ตรงนี้ เรือนผมสีทองที่มีสีฟ้าแซมตอนนี้กลับดูยุ่งเหยิงกว่าปกติ... หรืออันที่กระเซอะกระเซิงเลยก็ว่าได้

    “เฟย์... ทำไม? ฟางกับแจมทำไมกัน?”

    แก้วถามด้วยเสียงแหบพร่า... เพราะสับสนหรือเพราะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทำให้เธอรู้สึกแย่ได้ขนาดนี้ คนนึงก็เพื่อนอีกคนก็คนรัก นี่ล่ะที่เป็นปัญหาเพราะมันสำคัญทั้งสองคน และคนสำคัญทั้งสองกำลังมีเรื่องอะไรเธอก็ยังไม่รู้ และเหมือนจะเกี่ยวกับเธอ...

    “แก้ว... ใจเย็นสิ ตั้งสติหน่อย!”เฟย์ตะโกนเรียกให้ร่างสูงเงยหน้าขึ้นไปมอง... ร่างบางถอนหายใจก่อนจะพยายามบอกให้ร่างโปร่งใจเย็นควบคุมอารมณ์หน่อย คนตัวสูงสูดหายใจเข้าก่อนจะพ่นออกอย่างเหนื่อยล้า “ขอบคุณ” แก้วพูดสั้นๆ... ทำให้คนตัวเล็กกว่ายิ้มน้อยๆ










    “ไม่ต้องห่วงหรอก... เดี๋ยวขอเวลาหน่อย แล้วทุกอย่างจะบอกแก้วเอง ว่าอะไรและทำไม?”




































    TBC
    ...............................................
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×