ลำดับตอนที่ #12
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter ::12::
[Fiction] quarrel
[Couple] Kaew X Fang Ft. Faye
[Author] Deep
[Warning] ระวัง... ระวัง
“ป๊อปปี้! เล่นอะไรเนี่ย?”
เสียงของฟางดังลั่นห้องซ้อม เมื่อชายหนุ่มรูปหล่อจากเคโอติกเดินมาสวมกอดด้านหลัง... ก่อนที่คนตัวเล็กจะกัดแขนของป๊อปปี้ พลางรีบวิ่งไปด้านหลังของคนรักที่หัวเราะกับความฉลาดของคนตัวเล็กที่สร้างแผลให้แก่ช
ายหนุ่มที่สะบัดข้อมือไปมา
“ฟาง... เจ็บนะ”ป๊อปปี้ร้องโอดครวญพลางมองรอยฟันของฟางที่อยู่บริเวณข้อมือ ถ้าคราวนี้เขาไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าก็ให้มันรู้ไป! เพียงแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงหัวเราะคิกคักของสองสาวคู่รักที่ยิ้มกว้างและแท็กม
ือกันอย่างอารมณ์ดี
ปล่อยให้ร่างสูงยืนกัดฟันกรอดๆแล้วเดินปึงปังออกไปพร้อมเสียงหัวเราะอีกระลอก
‘แกร๊ก’
ประตูถูกปิดลงพร้อมทั้งลมหายใจที่ผ่อนออกมาอย่างปลงๆ ศีรษะพิงกับบานประตูอย่างเหนื่อยล้า ริมฝีปากขยับเป็นชื่อของคนเมื่อสักครู่ ‘ฟาง’ เขายิ้มให้กับตัวเองเล็กน้อยพลางทรุดตัวนั่งลงบนพื้นแล้วหันหลังพิงประตูอย่างเหนื่อ
ยอ่อน
ข้อมือที่ยังคงเป็นรอยฟันจางๆสร้างรอยยิ้มเล็กให้แก่เขา... ก่อนที่โคลงหัวไปมาไล่ความคิดต่างๆออก
...หมดสิทธิ์แล้ว หมดสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้าของใจเธอแล้ว...
“ฮึก”
ชายหนุ่มสะอื้นเล็กน้อยอย่างสมเพชตัวเอง... มือกร้านปาดน้ำตาอย่างลวกๆและรวดเร็ว ‘มีที่ไหนกันเล่าที่ผู้ชายจะร้องไห้เพราะเรื่องพวกนี้...’ หรือว่าจะถึงเวลาที่จะตัดใจสักทีนะ ดันทุรังต่อไปก็มีแต่จะแย่ไปกว่านี้ จบสักทีเถอะ... ได้แค่คิด ทำได้แค่คิด เพราะสุดท้าย น้ำตาอุ่นๆก็ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
หารู้ไม่ว่า... มีอีกคนที่กำลังมองเหตุการณ์นี้อย่างมีความสุข เหมือนทุกอย่างจะเป็นใจให้สาวน้อยร่างบางที่ยืนหลบอยู่หลังกำแพงได้คิดแผนขั้นต่อไปอ
ย่างสบายใจ...
ริมฝีปากคลี่ยิ้มหวานพลางสะบัดตัวหนีเดินจากไป ปล่อยให้เสียงสะอื้นดังก้องบริเวณทางเดิน...
“ไปทำอะไรมาล่ะ ป๊อป นายดูแย่มากเลยนะ”
เฟย์ทักชายหนุ่มที่ดูท่าจะเหม่อลอยมากเสียกว่าจะแตะอาหารจานโปรดตรงหน้าและดูเหมือนป
๊อปปี้ก็จะยังคงไร้สติต่อไป แม้เฟย์จะเรียกเป็นครั้งที่สิบแล้วก็ตาม...
นัยน์ตาสีน้ำตาลเหม่อออกไปนอกกระจกของโรงอาหารแห่งนี้ ภาพของฟางยังคงวนเวียนให้เขาเผลอยิ้มออกมาบ่อยครั้ง แต่ก็มักจะถูกซ้อนทับด้วยภาพของแก้วกับฟาง... ที่ทำให้เขาต้องยิ้มค้างอย่างไร้จุดหมาย เคยถามตัวเองอยู่หลายครั้ง... คิดแล้วได้อะไรขึ้นมา
จมปลักกับสิ่งเดิมๆที่ได้แต่ทำร้ายตัวเองไปแต่ล่ะวันๆ... หากลืมมันไปเสียล่ะ หากตัดใจ แล้วจะดีขึ้นใช่ไหม? มือกร้านกุมช้อนแน่นขึ้นกว่าเดิม จนร่างบางที่มาทานข้าวด้วยกันเพราะคำชักชวนต้องมึนงงกับท่าทีที่เห็นของเพื่อนร่วมค่
าย...
“ป๊อป ไหวไหม? เป็นอะไรรึเปล่า”
คนตัวเล็กถามด้วยเสียงดังกว่าเดิมที่ทำให้ชายหนุ่มต้องสะดุ้งเล็กน้อย... พลางสั่นหัวไปมาอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาสีน้ำตาลดูลุกลี้ลุกลนจนเฟย์ต้องเลิกคิ้ว... การปฎิเสธที่ดูเหมือนจะเป็นการตอบว่ายอมรับเสียมาก มือเรียวยกขึ้นมาเคาะปลายคาง...
“ไม่สบายใจบอกเขาได้นะ เพื่อนกันนิ”หากแต่ก็ยังเป็นคำตอบเดิมคือการสั่นหัว แต่มันดูเบาลงน่าเชื่อถือกว่าครั้งก่อน “เฮ้อ... ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ว่าแต่ทำโทรมแบบนี้”คำถามที่ป๊อปปี้ได้แค่หัวเราะแห้งๆ ร่างสูงมองดูกระจกข้างๆก่อนจะสำรวจร่างกายตัวเอง
ผมเผ้าดูยุ่งเหยิงกว่าปกติ ขอบตาบวมเปล่งเหมือนคนที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก... เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ยับยู่ยี่เหมือนกางเกงสีน้ำตาลเข้ม สำหรับแฟนคลับอาจจะมองดูว่าเซอร์ แต่สำหรับเพื่อนร่วมค่ายมันเหมือนคนบ้าที่ดูกระเซอะกระเซิงมากกว่า
“ก็... ซ้อมหนักไปหน่อยล่ะมั้ง?”
ชายหนุ่มวงเคโอติกแก้ตัวน้ำขุ่นๆ พลางก้มลงดูดเป็ปซี่ที่ยังเหลืออยู่ในแก้วให้หมดอย่างรวดเร็วเหมือนกับที่กำลังจะพูด
กับเฟย์ในตอนนี้ “งั้นเขาไปก่อนนะ... พอดียังต้องซ้อมต่อ”ป๊อปปี้พูดพลางเดินจากไปปล่อยให้คนที่ถูกชวนมานั่งอึ้งไปชั่วครู
่ ก่อนจะหันไปมองแผ่นหลังของร่างสูงที่ดูผิดแปลกไป...
‘ป๊อปปี้...’
ทางเดินแคบที่ตอนนี้ดูกว้างกว่าปกติ คงเพราะเดินคนเดียวกระมัง... ชายหนุ่มคิดก่อนจะทรุดตัวลงนั่งพิงกำแพงอย่างเงียบๆ ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไรกันนะ... เจ็บแปลบ ปวดหัวใจ หรือว่า ‘อกหัก’ ดีล่ะ คำตอบสุดท้ายที่ดังก้องในหัวของป๊อปปี้ที่ไม่มีท่าจะขยับไปไหน
‘ตึก... ตึก... ตึก’
เสียงของจังหวะการเดินทำให้ชายหนุ่มต้องค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองหาต้นเสียง... ก่อนจะพบใบหน้าที่คุ้นเคยของเพื่อนร่วมค่ายอีกคน... ร่างบางค่อยๆก้มตัวลงมาหาเขาก่อนจะส่งมือเล็กๆเหมือนต้องการให้เขาลุกขึ้น เขามองหน้าคนตัวเล็กอย่างไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่ แต่ก็จับมือนั้นไว้แล้วค่อยๆยันตัวให้ลุกขึ้น
“มานั่งเล่นมิวสิกเพลงไหนล่ะ... รักไม่ได้หรือไม่ได้รัก อยู่ในช่วงปรับปรุง หรือว่า... เพื่อนสนิท?”ชื่อเพลงสุดท้ายของเอ็นโดฟินที่ทำให้เขารู้สึกจุกอยู่ที่คอ... ‘แจม’ คนๆเดียวกับคนที่ร้องเพลงอย่ามากมาย คนๆเดียวกับคนที่มีรอยยิ้มสดใส แต่ดูเหมือนคนที่พูดล้อเขามันไม่ใช่แจมที่รู้จัก
“แล้วแจมล่ะ ทำไมรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่... อีกอย่างได้ข่าวว่าเลิกซ้อมแล้วนิ”คำถามที่เบี่ยงบ่ายที่จะตอบคำถามเมื่อสักครู่ เพียงแต่สาวน้อยกลับส่ายหน้าแล้วส่งเสียงเล็กน้อยอย่างรู้ทัน... “ขอเดานะ เพลงเพื่อนสนิทแน่ๆเลย” ริมฝีปากบางขยับเป็นคำตอบที่ทำให้ร่างสูงต้องหรี่ตาลงทันควัน
“แจม... รู้ไหมการยุ่งเรื่องของคนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่ดี”
“แม้ว่าเขาจะรู้ว่า ป๊อปชอบฟางอยู่”นัยน์ตาสีน้ำตาลชำเลืองไปยังร่างบางที่ยืนยิ้มให้ และบางอย่างที่บอกให้เขารู้ว่า... คนๆนี้ไม่ใช่แค่ธรรมดาอย่างที่เคยเห็นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ป๊อปปี้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“แจม... ต้องการอะไร”คำถามที่ต้องการจบบทสนทนาอย่างรวดเร็วที่ไม่หวังจะเจอแจมให้สภาพนี้เป็น
ครั้งที่สอง เพราะเขาสัมผัสได้ว่าใบหน้าและมือของเขาเมื่อมีเหนื่อยออกมา แม้ว่าทางเดินจะติดแอร์และเปิดแอร์ยี่สิบสององศาก็ตามที
...อย่างนี้คงไม่เรียกว่าร้อนแล้วล่ะมั้ง?...
“ว้า~ ป๊อปอ่ะ เฮ้อหมดสนุกซะแล้ว เล่นถามคำถามที่หน้าเบื่อแบบนี้”แจมพูดขณะฉีกยิ้มกว้างส่งให้ หากแต่มองดีๆนี่ล่ะที่เรียกว่ายิ้มปีศาจ มันดูหวานแต่กลับมีบางอย่างซ่อนเอาไว้ในรอยยิ้มหวานเชื่อมนั่น ชายหนุ่มหัวเราะเสียงแห้งๆ “พอดีฉันไม่มีเวลาสนุกกับเธอหรอกนะ แจม”
เขาตอบปฎิเสธแบบไร้เยื่อใย เพื่อหวังที่จะเดินจากไปเหมือนกับเรื่องที่คนตัวเล็กจะพูดเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ แต่นั่นล่ะที่เข้าทางแจมพอดี ร่างบางแสร้งทำเป็นสีหน้าผิดหวัง ขณะที่ร่างสูงพลิกตัวเดินหนีเมื่อไม่มีบทสนทนาใดๆเกินขึ้น แต่คำพูดของแจมก็ทำให้เขาต้อง... หยุดชะงัก
“โธ่ ป๊อป... เขาเองก็ชอบ ‘แก้ว’ นะ”
ชื่อของสาวร่างสูงโปร่งที่มักตามมาด้วยคำพูดกวนๆและใบหน้าหล่อติดสวยนั่น ชายหนุ่มปิดเปลือกตาลงแต่ก็ยังหยุดนิ่งไม่คิดที่จะถามแจมที่กำลังยิ้มกริ่มอย่างดีใจ
ที่เรื่องราวกำลังดำเนินไปตามเกมที่เธอกำหนด
พลางสาวหวานก็เอ่ยข้อเสนอต่อไปที่ทำให้คนอย่างป๊อปปี้ต้องคิดหนัก
“ก็ถ้าป๊อปชอบฟาง... เขาชอบแก้ว มันก็ดีไม่ใช่เหรอไง”
รู้... รู้ดีแก่ใจว่าแจมกำลังพูดถึง ‘อะไร’ ริมฝีปากหนาขบแน่นทางเลือกที่มีอยู่สองทาง... หนึ่ง ตกลงกับข้อเสนอของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะวางแผนชั่วร้าย สอง... ตัดใจซะตอนนี้ เดินจากไปอย่างกล้าหาญ ชายหนุ่มหัวเราะกับทางเลือกของตัวเอง...
ใจนึงก็รัก ’ฟาง’ อีกใจก็สงสาร ‘แก้ว’ แล้วจะให้เขาทำยังไง
“ฮ่าๆ ป๊อป ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้น เวลายังมีอีกเหลือเฟือ เอาไว้ฉันจะขอคำตอบจากนายพรุ่งนี้นะ”แจมพูดด้วยเสียงเรียบๆ แม้ว่าภายในใจจะดีใจเพราะกำชัยชนะไปกว่าครึ่ง... อันที่จริงแผนนี้จะไม่มีทางสำเร็จถ้าไม่มีนายป๊อปปี้ผู้หลงรักฟาง
หญิงสาวคิดพลางเดินจากไป ปล่อยให้ร่างสูงได้กังวลกับความคิดของตัวเอง... แจมคลี่ยิ้มอย่างพอใจขณะยื่นมือออกไปทางหน้าต่างเพื่อรับน้ำฝนที่ตกลงมา น้ำจากฟ้าที่ชุ่มฉ่ำเหมือนกับภายในใจของเธอที่กำลังมีความหวัง...
...สับสนเข้าไปป๊อป สับสนเข้าไป แล้วนายจะได้รู้ว่าความจริงคำตอบมีเพียงแค่ ‘ตกลง’ เท่านั้น...
“ป๊อปปี้! จะเหม่อไปถึงไหนเนี่ย!”
เพื่อนร่วมวงอย่าง ’เขื่อน’ ตะโกนใส่รูหูทั้งสองข้างของคนเหม่อ หากแต่สิ่งที่ได้ตอบกลับมาคือความเงียบเป็นครั้งสามร้อย จนคนทั้งวงได้แต่ถอนหายใจกับท่าทีของป๊อปปี้ที่ดูแปลกออกไป เจ้าของเสียงหัวเราะและคำพูดติดตลกหายไปไหน?
“อ่า... Poppy, Are you ok”
ชายหนุ่มนาม ‘จองเบ’ พูดเป็นภาษาอังกฤษเพราะความห่วงใย ส่วนสิ่งที่ได้ตอบกลับมาก็ทำให้พวกเขาใจชื้นขึ้นเล็กน้อย นับว่าเล็กน้อยจริงๆ... “I’m ok, Thanks Jongbae”หนุ่มชาวไทยพูดด้วยเสียงเครือที่ฟังดูไม่เหมาะกับคำตอบเลยสักนิด
“เฮ้อ... ‘โทโมะ’ ฉันล่ะเครียดจริงๆ”เสียงของชาวญี่ปุ่นด้วยกันอย่าง ‘เคนตะ’ พูดขึ้นระหว่างที่โทโมะยังซ้อมบาสต่อไปไม่ว่าสถานการณ์จะดีร้ายเช่นไร โทโมะได้แต่หัวเราะในลำคอ... เรื่องนี้เขาไม่อยากจะยุ่งสักเท่าไหร่ เพราะป๊อปปี้เองก็ดูแล้วไม่อยากจะตอบคำถามเสียด้วย อย่างน้อยเฉยๆไว้ก็พอ...
ส่วน เคนตะ จองเบ และเขื่อนก็ได้แต่ยืนเกาหัวแกร็กๆอย่างแก้สถานการณ์ไม่ถูก... จนสุดท้ายทั้งสามก็ได้แต่ปล่อยให้เพื่อนร่วมวงได้นั่งเงียบๆไปสักพัก
...วันนี้ช่างเป็นวันที่ดูวุ่นวายเสียจริง Kamikaze...
TBC
........................................................
[Couple] Kaew X Fang Ft. Faye
[Author] Deep
[Warning] ระวัง... ระวัง
“ป๊อปปี้! เล่นอะไรเนี่ย?”
เสียงของฟางดังลั่นห้องซ้อม เมื่อชายหนุ่มรูปหล่อจากเคโอติกเดินมาสวมกอดด้านหลัง... ก่อนที่คนตัวเล็กจะกัดแขนของป๊อปปี้ พลางรีบวิ่งไปด้านหลังของคนรักที่หัวเราะกับความฉลาดของคนตัวเล็กที่สร้างแผลให้แก่ช
ายหนุ่มที่สะบัดข้อมือไปมา
“ฟาง... เจ็บนะ”ป๊อปปี้ร้องโอดครวญพลางมองรอยฟันของฟางที่อยู่บริเวณข้อมือ ถ้าคราวนี้เขาไม่เป็นโรคพิษสุนัขบ้าก็ให้มันรู้ไป! เพียงแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงหัวเราะคิกคักของสองสาวคู่รักที่ยิ้มกว้างและแท็กม
ือกันอย่างอารมณ์ดี
ปล่อยให้ร่างสูงยืนกัดฟันกรอดๆแล้วเดินปึงปังออกไปพร้อมเสียงหัวเราะอีกระลอก
‘แกร๊ก’
ประตูถูกปิดลงพร้อมทั้งลมหายใจที่ผ่อนออกมาอย่างปลงๆ ศีรษะพิงกับบานประตูอย่างเหนื่อยล้า ริมฝีปากขยับเป็นชื่อของคนเมื่อสักครู่ ‘ฟาง’ เขายิ้มให้กับตัวเองเล็กน้อยพลางทรุดตัวนั่งลงบนพื้นแล้วหันหลังพิงประตูอย่างเหนื่อ
ยอ่อน
ข้อมือที่ยังคงเป็นรอยฟันจางๆสร้างรอยยิ้มเล็กให้แก่เขา... ก่อนที่โคลงหัวไปมาไล่ความคิดต่างๆออก
...หมดสิทธิ์แล้ว หมดสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้าของใจเธอแล้ว...
“ฮึก”
ชายหนุ่มสะอื้นเล็กน้อยอย่างสมเพชตัวเอง... มือกร้านปาดน้ำตาอย่างลวกๆและรวดเร็ว ‘มีที่ไหนกันเล่าที่ผู้ชายจะร้องไห้เพราะเรื่องพวกนี้...’ หรือว่าจะถึงเวลาที่จะตัดใจสักทีนะ ดันทุรังต่อไปก็มีแต่จะแย่ไปกว่านี้ จบสักทีเถอะ... ได้แค่คิด ทำได้แค่คิด เพราะสุดท้าย น้ำตาอุ่นๆก็ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
หารู้ไม่ว่า... มีอีกคนที่กำลังมองเหตุการณ์นี้อย่างมีความสุข เหมือนทุกอย่างจะเป็นใจให้สาวน้อยร่างบางที่ยืนหลบอยู่หลังกำแพงได้คิดแผนขั้นต่อไปอ
ย่างสบายใจ...
ริมฝีปากคลี่ยิ้มหวานพลางสะบัดตัวหนีเดินจากไป ปล่อยให้เสียงสะอื้นดังก้องบริเวณทางเดิน...
“ไปทำอะไรมาล่ะ ป๊อป นายดูแย่มากเลยนะ”
เฟย์ทักชายหนุ่มที่ดูท่าจะเหม่อลอยมากเสียกว่าจะแตะอาหารจานโปรดตรงหน้าและดูเหมือนป
๊อปปี้ก็จะยังคงไร้สติต่อไป แม้เฟย์จะเรียกเป็นครั้งที่สิบแล้วก็ตาม...
นัยน์ตาสีน้ำตาลเหม่อออกไปนอกกระจกของโรงอาหารแห่งนี้ ภาพของฟางยังคงวนเวียนให้เขาเผลอยิ้มออกมาบ่อยครั้ง แต่ก็มักจะถูกซ้อนทับด้วยภาพของแก้วกับฟาง... ที่ทำให้เขาต้องยิ้มค้างอย่างไร้จุดหมาย เคยถามตัวเองอยู่หลายครั้ง... คิดแล้วได้อะไรขึ้นมา
จมปลักกับสิ่งเดิมๆที่ได้แต่ทำร้ายตัวเองไปแต่ล่ะวันๆ... หากลืมมันไปเสียล่ะ หากตัดใจ แล้วจะดีขึ้นใช่ไหม? มือกร้านกุมช้อนแน่นขึ้นกว่าเดิม จนร่างบางที่มาทานข้าวด้วยกันเพราะคำชักชวนต้องมึนงงกับท่าทีที่เห็นของเพื่อนร่วมค่
าย...
“ป๊อป ไหวไหม? เป็นอะไรรึเปล่า”
คนตัวเล็กถามด้วยเสียงดังกว่าเดิมที่ทำให้ชายหนุ่มต้องสะดุ้งเล็กน้อย... พลางสั่นหัวไปมาอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาสีน้ำตาลดูลุกลี้ลุกลนจนเฟย์ต้องเลิกคิ้ว... การปฎิเสธที่ดูเหมือนจะเป็นการตอบว่ายอมรับเสียมาก มือเรียวยกขึ้นมาเคาะปลายคาง...
“ไม่สบายใจบอกเขาได้นะ เพื่อนกันนิ”หากแต่ก็ยังเป็นคำตอบเดิมคือการสั่นหัว แต่มันดูเบาลงน่าเชื่อถือกว่าครั้งก่อน “เฮ้อ... ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ว่าแต่ทำโทรมแบบนี้”คำถามที่ป๊อปปี้ได้แค่หัวเราะแห้งๆ ร่างสูงมองดูกระจกข้างๆก่อนจะสำรวจร่างกายตัวเอง
ผมเผ้าดูยุ่งเหยิงกว่าปกติ ขอบตาบวมเปล่งเหมือนคนที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก... เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ยับยู่ยี่เหมือนกางเกงสีน้ำตาลเข้ม สำหรับแฟนคลับอาจจะมองดูว่าเซอร์ แต่สำหรับเพื่อนร่วมค่ายมันเหมือนคนบ้าที่ดูกระเซอะกระเซิงมากกว่า
“ก็... ซ้อมหนักไปหน่อยล่ะมั้ง?”
ชายหนุ่มวงเคโอติกแก้ตัวน้ำขุ่นๆ พลางก้มลงดูดเป็ปซี่ที่ยังเหลืออยู่ในแก้วให้หมดอย่างรวดเร็วเหมือนกับที่กำลังจะพูด
กับเฟย์ในตอนนี้ “งั้นเขาไปก่อนนะ... พอดียังต้องซ้อมต่อ”ป๊อปปี้พูดพลางเดินจากไปปล่อยให้คนที่ถูกชวนมานั่งอึ้งไปชั่วครู
่ ก่อนจะหันไปมองแผ่นหลังของร่างสูงที่ดูผิดแปลกไป...
‘ป๊อปปี้...’
ทางเดินแคบที่ตอนนี้ดูกว้างกว่าปกติ คงเพราะเดินคนเดียวกระมัง... ชายหนุ่มคิดก่อนจะทรุดตัวลงนั่งพิงกำแพงอย่างเงียบๆ ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไรกันนะ... เจ็บแปลบ ปวดหัวใจ หรือว่า ‘อกหัก’ ดีล่ะ คำตอบสุดท้ายที่ดังก้องในหัวของป๊อปปี้ที่ไม่มีท่าจะขยับไปไหน
‘ตึก... ตึก... ตึก’
เสียงของจังหวะการเดินทำให้ชายหนุ่มต้องค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองหาต้นเสียง... ก่อนจะพบใบหน้าที่คุ้นเคยของเพื่อนร่วมค่ายอีกคน... ร่างบางค่อยๆก้มตัวลงมาหาเขาก่อนจะส่งมือเล็กๆเหมือนต้องการให้เขาลุกขึ้น เขามองหน้าคนตัวเล็กอย่างไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่ แต่ก็จับมือนั้นไว้แล้วค่อยๆยันตัวให้ลุกขึ้น
“มานั่งเล่นมิวสิกเพลงไหนล่ะ... รักไม่ได้หรือไม่ได้รัก อยู่ในช่วงปรับปรุง หรือว่า... เพื่อนสนิท?”ชื่อเพลงสุดท้ายของเอ็นโดฟินที่ทำให้เขารู้สึกจุกอยู่ที่คอ... ‘แจม’ คนๆเดียวกับคนที่ร้องเพลงอย่ามากมาย คนๆเดียวกับคนที่มีรอยยิ้มสดใส แต่ดูเหมือนคนที่พูดล้อเขามันไม่ใช่แจมที่รู้จัก
“แล้วแจมล่ะ ทำไมรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่... อีกอย่างได้ข่าวว่าเลิกซ้อมแล้วนิ”คำถามที่เบี่ยงบ่ายที่จะตอบคำถามเมื่อสักครู่ เพียงแต่สาวน้อยกลับส่ายหน้าแล้วส่งเสียงเล็กน้อยอย่างรู้ทัน... “ขอเดานะ เพลงเพื่อนสนิทแน่ๆเลย” ริมฝีปากบางขยับเป็นคำตอบที่ทำให้ร่างสูงต้องหรี่ตาลงทันควัน
“แจม... รู้ไหมการยุ่งเรื่องของคนอื่นเป็นสิ่งที่ไม่ดี”
“แม้ว่าเขาจะรู้ว่า ป๊อปชอบฟางอยู่”นัยน์ตาสีน้ำตาลชำเลืองไปยังร่างบางที่ยืนยิ้มให้ และบางอย่างที่บอกให้เขารู้ว่า... คนๆนี้ไม่ใช่แค่ธรรมดาอย่างที่เคยเห็นตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ป๊อปปี้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“แจม... ต้องการอะไร”คำถามที่ต้องการจบบทสนทนาอย่างรวดเร็วที่ไม่หวังจะเจอแจมให้สภาพนี้เป็น
ครั้งที่สอง เพราะเขาสัมผัสได้ว่าใบหน้าและมือของเขาเมื่อมีเหนื่อยออกมา แม้ว่าทางเดินจะติดแอร์และเปิดแอร์ยี่สิบสององศาก็ตามที
...อย่างนี้คงไม่เรียกว่าร้อนแล้วล่ะมั้ง?...
“ว้า~ ป๊อปอ่ะ เฮ้อหมดสนุกซะแล้ว เล่นถามคำถามที่หน้าเบื่อแบบนี้”แจมพูดขณะฉีกยิ้มกว้างส่งให้ หากแต่มองดีๆนี่ล่ะที่เรียกว่ายิ้มปีศาจ มันดูหวานแต่กลับมีบางอย่างซ่อนเอาไว้ในรอยยิ้มหวานเชื่อมนั่น ชายหนุ่มหัวเราะเสียงแห้งๆ “พอดีฉันไม่มีเวลาสนุกกับเธอหรอกนะ แจม”
เขาตอบปฎิเสธแบบไร้เยื่อใย เพื่อหวังที่จะเดินจากไปเหมือนกับเรื่องที่คนตัวเล็กจะพูดเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ แต่นั่นล่ะที่เข้าทางแจมพอดี ร่างบางแสร้งทำเป็นสีหน้าผิดหวัง ขณะที่ร่างสูงพลิกตัวเดินหนีเมื่อไม่มีบทสนทนาใดๆเกินขึ้น แต่คำพูดของแจมก็ทำให้เขาต้อง... หยุดชะงัก
“โธ่ ป๊อป... เขาเองก็ชอบ ‘แก้ว’ นะ”
ชื่อของสาวร่างสูงโปร่งที่มักตามมาด้วยคำพูดกวนๆและใบหน้าหล่อติดสวยนั่น ชายหนุ่มปิดเปลือกตาลงแต่ก็ยังหยุดนิ่งไม่คิดที่จะถามแจมที่กำลังยิ้มกริ่มอย่างดีใจ
ที่เรื่องราวกำลังดำเนินไปตามเกมที่เธอกำหนด
พลางสาวหวานก็เอ่ยข้อเสนอต่อไปที่ทำให้คนอย่างป๊อปปี้ต้องคิดหนัก
“ก็ถ้าป๊อปชอบฟาง... เขาชอบแก้ว มันก็ดีไม่ใช่เหรอไง”
รู้... รู้ดีแก่ใจว่าแจมกำลังพูดถึง ‘อะไร’ ริมฝีปากหนาขบแน่นทางเลือกที่มีอยู่สองทาง... หนึ่ง ตกลงกับข้อเสนอของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะวางแผนชั่วร้าย สอง... ตัดใจซะตอนนี้ เดินจากไปอย่างกล้าหาญ ชายหนุ่มหัวเราะกับทางเลือกของตัวเอง...
ใจนึงก็รัก ’ฟาง’ อีกใจก็สงสาร ‘แก้ว’ แล้วจะให้เขาทำยังไง
“ฮ่าๆ ป๊อป ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้น เวลายังมีอีกเหลือเฟือ เอาไว้ฉันจะขอคำตอบจากนายพรุ่งนี้นะ”แจมพูดด้วยเสียงเรียบๆ แม้ว่าภายในใจจะดีใจเพราะกำชัยชนะไปกว่าครึ่ง... อันที่จริงแผนนี้จะไม่มีทางสำเร็จถ้าไม่มีนายป๊อปปี้ผู้หลงรักฟาง
หญิงสาวคิดพลางเดินจากไป ปล่อยให้ร่างสูงได้กังวลกับความคิดของตัวเอง... แจมคลี่ยิ้มอย่างพอใจขณะยื่นมือออกไปทางหน้าต่างเพื่อรับน้ำฝนที่ตกลงมา น้ำจากฟ้าที่ชุ่มฉ่ำเหมือนกับภายในใจของเธอที่กำลังมีความหวัง...
...สับสนเข้าไปป๊อป สับสนเข้าไป แล้วนายจะได้รู้ว่าความจริงคำตอบมีเพียงแค่ ‘ตกลง’ เท่านั้น...
“ป๊อปปี้! จะเหม่อไปถึงไหนเนี่ย!”
เพื่อนร่วมวงอย่าง ’เขื่อน’ ตะโกนใส่รูหูทั้งสองข้างของคนเหม่อ หากแต่สิ่งที่ได้ตอบกลับมาคือความเงียบเป็นครั้งสามร้อย จนคนทั้งวงได้แต่ถอนหายใจกับท่าทีของป๊อปปี้ที่ดูแปลกออกไป เจ้าของเสียงหัวเราะและคำพูดติดตลกหายไปไหน?
“อ่า... Poppy, Are you ok”
ชายหนุ่มนาม ‘จองเบ’ พูดเป็นภาษาอังกฤษเพราะความห่วงใย ส่วนสิ่งที่ได้ตอบกลับมาก็ทำให้พวกเขาใจชื้นขึ้นเล็กน้อย นับว่าเล็กน้อยจริงๆ... “I’m ok, Thanks Jongbae”หนุ่มชาวไทยพูดด้วยเสียงเครือที่ฟังดูไม่เหมาะกับคำตอบเลยสักนิด
“เฮ้อ... ‘โทโมะ’ ฉันล่ะเครียดจริงๆ”เสียงของชาวญี่ปุ่นด้วยกันอย่าง ‘เคนตะ’ พูดขึ้นระหว่างที่โทโมะยังซ้อมบาสต่อไปไม่ว่าสถานการณ์จะดีร้ายเช่นไร โทโมะได้แต่หัวเราะในลำคอ... เรื่องนี้เขาไม่อยากจะยุ่งสักเท่าไหร่ เพราะป๊อปปี้เองก็ดูแล้วไม่อยากจะตอบคำถามเสียด้วย อย่างน้อยเฉยๆไว้ก็พอ...
ส่วน เคนตะ จองเบ และเขื่อนก็ได้แต่ยืนเกาหัวแกร็กๆอย่างแก้สถานการณ์ไม่ถูก... จนสุดท้ายทั้งสามก็ได้แต่ปล่อยให้เพื่อนร่วมวงได้นั่งเงียบๆไปสักพัก
...วันนี้ช่างเป็นวันที่ดูวุ่นวายเสียจริง Kamikaze...
TBC
........................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น