ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter ::9::
[Fiction] quarrel
[Couple] Kaew X Fang Ft. Faye
[Author] Deep
[Warning] ระวัง... ระวัง
“Hi~ my best Friend”
เสียงที่ดังมาแต่ไกล ตั้งแต่หน้าบริษัทสร้างความหงุดหงิดใจให้แก่ร่างบางเป็นอย่างยิ่งเพียงแต่ทำอะไรไม่ไ
ด้เพราะเป็น ‘เพื่อนสนิท’ ของร่างสูงโปร่งหน้าตาดีที่อยู่ข้างๆเธอ ที่ไม่รู้เธอตกลงปลงใจเป็น ‘แฟน’ เสียตั้งแต่เมื่อไหร่
ส่วนเฟย์ก็ได้แต่หรี่ตาลงพลางจ้องไปยัง ‘แจม’ ที่เดินเข้ามาเกาะแกะแก้วที่ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราวสักอย่าง
...ให้มันได้อย่างนี้สิ พระเจ้า!...
เฟย์สบถในใจอย่างเบื่อหน่ายแต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจเพียงแค่...วินาทีเดียวเท่านั้นแค
่วินาทีเดียวที่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของแจมเปลี่ยนไป ใบหน้าหวานที่มักจะยิ้มพรายเหมือนนางฟ้า แต่ที่ทำให้ใจของเฟย์เต้นรัวเพราะความกลัวคือ...
‘รอยยิ้มของปีศาจ’
ไม่เคยคิดว่าแค่รอยยิ้มนั่นจะทำให้น้ำลายเฝื่อนคอได้เป็นอย่างดี... จนเธอต้องตั้งสติตัวเองใหม่แล้วกระแอมเบาๆเป็นการคลายสถานการณ์อันน่าอึดอัดใจ “อะแฮ่ม! มายืนอะไรตรงนี้ เดี๋ยวก็สายหรอก”เธอบอกแสร้งทำเหมือนพูดให้ทุกคนฟัง
แต่แท้จริง... นัยน์ตาสีดำจ้องไปที่คนที่เพิ่งมาใหม่ ที่ดูเหมือนจะรู้ดีว่าเธอบ่งบอกอะไร
“งั้นไปก็ได้เนอะ เพื่อนรัก”แจมพูดพลางใช้แรงมหาศาลลากคนตัวสูงที่ตอนนี้กวักมือขอความช่วยเหลือจากพวก
เธอสองคน เฟย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งพลางทำท่าจะฉุดมือของแก้วเอาไว้ เพียงแต่มีมือนึงที่มาตัดหน้าเธอ...
ความรู้สึกหนักๆทำให้แจมหันกลับไปมองคนที่เธอลากมาด้วย แต่สิ่งที่เห็นคือ มืออีกด้านของแก้วถูกฉุดเอาไว้โดนใครบางคน เธอขยับรอยยิ้มที่มุมปากพลางเอยด้วยเสียงต่ำๆ หากแต่ฟังดูเป็นแจมมากยิ่งขึ้น “ว่าไงฟาง?” คำถามที่เรียกให้ร่างบางผู้ถือสิทธิ์ ‘แฟน’ เงยหน้าขึ้นมามอง ใบหน้าที่มักจะขรึมเงียบ ตอนนี้กลับส่งยิ้มหวานให้เธอ
“ขอโทษนะ... แต่เขามากับ ‘แก้ว’ ยังไงก็ต้องไปกับ ’แก้ว’ ”
น้ำเสียงหนักแน่นที่ทำให้แจมต้องยิ้มอีกครั้ง ส่วนคนกลางก็ได้แต่หันหน้าไปมาตามคำพูดของทั้งสองที่รั้งเธอไว้ ใจจริงก็อยากจะบอกแจมว่าปล่อยเธอสักที... แต่คำว่า ‘เพื่อนสนิท’ มันค้ำคอ ให้เธอพูดแบบนั้นก็แปลว่าเท่ากับตัดเพื่อนสินะ แต่ก่อนที่จะได้อธิบาย...
“ก็แก้วนัดเขามารอนิ แก้วไม่ได้บอกเหรอ”
คำกล่าวที่ทำให้สาวหวานอายุสิบหก หันไปมองคนที่ยืนอยู่ตรงกลาง ใบหน้าคมโคลงหัวไปมาเล็กน้อยเป็นเชิงว่า ‘ไม่จริง’ ฟางสูดลมหายใจเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มหวานให้คนที่อยู่อีกฝั่งอีกครั้งหนึ่ง “แจม... โกหกผิดศีลข้อสี่นะ”
คำเทศนาที่ทำให้แจมต้องปล่อยมือของร่างสูง แต่ไม่วายที่จะกระซิบกระซาบบางอย่างให้ฟางได้หงุดหงิดใจอีกครั้ง...
“ขอโทษนะฟาง... งั้นเดี๋ยวเจอกันในห้องซ้อมนะแก้ว”พูดจบก็ขยิบตาให้คนตัวสูงหนึ่งที พลางวิ่งเข้าตึกไป ปล่อยให้แก้วต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...
สถานการณ์แบบนี้ นัยน์ตาสีน้ำตาลกรอกไปมา พลางหันหน้ากลับมาดูคนตัวเล็ก... ที่ดูเหมือนจะงอนเธอเข้าเสียแล้ว
“ฟาง... เขาไม่รู้เรื่องจริงๆ”เธอพูด แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือน้ำเสียงราบเรียบที่ฟังแล้วขนลุกยิ่งกว่าวันไหน
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”คนตัวเล็กเอ่ยแล้วเบือนใบหน้าหนี... ส่วนเธอก็ได้แต่เกาหัวให้ยุ่งเพราะไม่รู้จะหาวิธีง้อฟางยังไง เพราะเรื่องนี้เธอไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่คุยโทรศัพท์แล้วอีกอย่างที่ต้องคิดให้วุ่นคือ...
ทำไมเพื่อนสนิทของเธอต้องมาโกหกคนรักของเธอล่ะเนี่ย? แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญตอนนี้ง้อฟางสำคัญกว่า...
“โธ่ ที่รักจ๋า เขาไม่รู้เรื่องจริงๆนะ ตาของเขาโกหกตัวเองเหรอ?”เธอพูดพลางยื่นใบหน้าที่ใครก็ชมว่าหล่อนักหล่อหนาเข้าไปใกล้ๆคนรัก...ที่ตอนนี้พยาย
ามผลักหน้าคมๆของเธอออก ริมฝีปากคลี่ยิ้มหวานกรุ้มกริ่มแล้วพ่นลมใส่หูของคนตัวเล็กกว่า... เล่นเอาเฟย์ต้องหันไปมองทางอื่น
“ออกไปไกลๆ คนบ้า!”
คนตัวเล็กตะโกนไม่อายใคร... เพราะแค่ตอนนี้ก็อายเต็มแก่อยู่แล้ว ร่างโปร่งที่ทำตามคำสั่งแต่โดนดีเพราะกลัวว่าจมูกโด่งๆของตัวเองจะโดนบีบแบบเมื่อเช้
า แต่ต่อให้หลบยังไง... ก็ไม่วาย ‘โดนบีบอยู่ดีนั่นล่ะ’
“นี่ๆ อย่ามาเล่นแบบนี้อีกนะ จำไว้”มือเรียวบีบจมูกคนร่างสูงอย่างเมามันส์ พร้อมปล่อยออกเมื่อเห็นคนรักเริ่มหายใจไม่ออก มือกร้านลูบจมูกไปมาเพื่อดูว่าจมูกโด่งๆของตัวเองนั้นมีความเสียหายตรงไหนบ้าง... หรือว่าพังไปแล้ว
...ต่อไปนี้จะใส่หน้ากากทุกวันเพื่อป้องกันการบีบจมูก...
ร่างสูงคิดในใจก่อนจะจูงมือคนตัวเล็กที่นิ่งอยู่ให้เข้าไปในตึก ตามด้วยเฟย์ที่มีบทได้อย่างมากแค่ส่ายหน้าหรือถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย... แต่ความรู้เมื่อสักครู่มันน่าตกใจ จนใจหาย ริมฝีปากบางเม้มแน่นก่อนจะขยับรอยยิ้มปลอบใจตัวเองอีกครั้ง
...คงจะไม่เป็นอย่างที่คิด ใช่ไหม?...
เธอถอนหายใจพลางมองแผ่นหลังของคนสองคนที่อยู่ข้างหน้าเธอ ได้แต่ภาวนาไม่ให้มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้น เพราะดูท่าลางสังหรณ์ของหวายท่าจะแม่นซะแล้วสิ... เฟย์คิดพลางเดินตามทั้งสองที่เรียกเธออยู่
หารู้ไม่ว่ามีคนที่กำลังยิ้มและยืมมองลงมาจากหน้าต่างอย่างพอใจ ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มเหมือนเป็นคนกำชัย เพียงแต่... มันก็แค่เริ่มต้น นัยน์ตาที่มักจะดูหวานตอนนี้กลับดูคมและมีเล่ห์นัยน์ พลางส่งเสียงหัวเราะในลำคอ... ‘มันก็แค่เริ่มต้นเท่านั้น’
“อ่ะ... ขอบใจมาก”
ขวดน้ำที่ถูกส่งยื่นให้จากมือของเฟย์ทำให้สาวอย่างหวายต้องยิ้มหวาน... ร่างเล็กที่มีศักดิ์เป็นน้องสาวของฟางทิ้งตัวลงมานั่งข้างๆเธอ เฟย์พึมพำเบาๆเหมือนต้องการบอกว่า ‘ไม่เป็นไร’
เหงื่อที่ไหลออกมาตามร่างกายบ่งบอกว่าวันนี้ซ้อมหนักกันเพียงใด แม้ว่าจะมีแอร์เปิดอยู่ก็ตามที...
หวายหัวเราะพลางหันกลับไปมองตรงพื้นที่ซ้อม ก่อนจะขมวดคิ้วลงอย่างแปลกใจ... ไม่ใช่เพราะแก้วอยู่กับฟาง นั่นมันเรื่องปกติเสียแล้วเพราะเธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แปลกใจน่ะสิ...
‘ทำไมแจมถึงเอาอกเอาใจแก้วขนาดนั้น’ แถมพอฟางบ่นกลับไม่ว่าไม่ทำอะไร แค่ยิ้มให้แล้วเดินหนีไป
...จนในสายตาของเธอ ฟางดูเป็นคนไร้เหตุผล...
“หวายเห็นอย่างที่เขาเห็นใช่ไหม?”
เสียงของคนข้างๆ เรียกสติให้เธอกลับมาพลางพยักหน้า... เฟย์ก็คงคิดเช่นเดียวกันกับเธอ ไม่แปลกใจหรอกว่าฟางทำอะไร แต่แปลกใจที่แจมกำลังทำอะไรเสียมากกว่า หรือคนที่แจมบอกว่า ‘ชอบ’ จะเป็นแก้ว? เป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง?
“เฟย์... เขาว่าลางสังหรณ์เขาไม่ผิดหรอกนะ”เธอพูดพลางเช็ดเหงื่อที่ยังเกาะอยู่ตามใบหน้า ร่างเล็กข้างๆยิ้มที่มุมปาก พลางหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม... แต่สิ่งที่พยายามจะละสายตา แต่ก็ทำให้ละสายตาไม่ได้ก็คือ...
“ฟาง! จะอะไรกันกันหนาเนี่ยวันนี้!”
เสียงของแก้วดังมากระทบประสาทการได้ยินของเธอ นัยน์ตาที่พยายามจะถอนออกจากภาพเมื่อสักครู่ก็ต้องกลับไปจ้องมองใหม่อีกครั้ง ภาพที่เห็นครั้งนี้ทำให้คนอย่างเฟย์ต้องกุมขมับอีกครั้ง สุดท้ายลางสังหรณ์ของหวายก็ไม่เคยพลาด
แก้วกำลังยืนบีบข้อมือของพี่สาวเธอแน่น ซ้ำยังไม่มีคนที่คิดจะเข้าไปห้ามอีกต่างหากเพราะดูเหมือนว่าแก้วกำลังหงุดหงิดสุดขีด ไม่ต่างจากพี่สาวของเธอเช่นกัน... ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะจ้องคนรักของตัวเองแทบจะกินกันได้เลยทีเดียว
“งั้นต่อไปนี้เขาจะได้ไม่ต้องยุ่งไง ไปเล้ย!”ร่างเล็กตะคอกอย่างหงุดหงิดเพราะอารมณ์ขัดใจ ทำไมแจมต้องเข้ามารู้มาเห็นทุกเรื่อง ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องของแจม...
ส่วนคนรักที่แสนจะซื่อของเธอก็รัก ‘เพื่อนสนิท’ เสียเหลือเกิน ไม่ว่าไม่ปรามซ้ำพอเธอพูดกับแจมว่านิดว่าหน่อยก็ว่าเธออีก สรุปวันนี้เธอก็ผิดอีกตามเคย...
“มีเหตุผลหน่อยสิ แจมเป็นเพื่อ...”
“เป็นเพื่อนสนิทของแก้ว... แล้วไงอ่ะ ก็บอกแล้วถ้าไม่ชอบก็ไปไกลๆ”
ฟางพูดก่อนที่จะพยายามสะบัดข้อมือให้หลุดจากการบีบของอีกฝ่าย แต่ยิ่งดิ้นเท่าไหร่มือแกร่งก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเท่านั้น ใบหน้าคมจ้องมองคนตัวเล็ก... นัยน์ตานั้นดูเครือๆ และอ่อนแรง ริมฝีปากเรียวเม้มแน่น พลางค่อยๆคลายมือของตัวเองลง จนคนตัวเล็กต้องตกใจ
“เฮ้อ... อย่าทะเลาะกันได้ไหม? เขาไม่ชอบเลยที่ต้องมีปัญหากับฟาง”
“แก้ว... ก็...เขา เฮ้อ...”
“กินไม่ได้นอนไม่หลับอีกแล้ว...ทำไม... เราจึงต้องเป็นกันอย่างนี้... เรื่อยไป
ฉันก็รัก...เธอก็รักเข้าใจ... แต่ทำไม... ต้องทะเลาะ
ฉันก็รู้ลิ้นกับฟัน... ฉันเข้าใจ แต่ทำไมจึงบั่นทอนฉัน... เรื่อยไป
เธอก็เหนื่อย... ฉันก็เหนื่อย ในหัวใจ... หมดแรงไปก็เท่านั้น
ก่อนที่มันจะสาย...เกินไปกว่านี้
ไม่เอาอีกแล้ว... เราไม่ทะเลาะกันได้ไหม เมื่อต่างคนก็รักและต่างคนก็หวง
แล้วเราจะเถียงกันเพื่อใคร... เมื่อผลสุดท้าย...ก็ดีแต่ต้องเสียใจกันไป
เมื่อมันไม่ไปไหน ทำไมต้องทนทุกข์ ให้เรา... ได้รักกันดีกว่า”
เสียงนุ่มๆที่ทำให้คนฟังต้องเบือนหน้านี เพราะกลัวว่าจะต้องน้ำตาคลอ ร่างสูงกุมมือคนตัวเล็กให้แน่นขึ้นพลาง กระซิบเสียงหวานด้วยถ้อยคำที่ทำให้คนฟังต้องน้ำตาล่วง เฟย์ถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อม ไล่สายเพื่อมองหาคนที่ต้องการ...
ริมฝีปากบางขบแน่น ‘ก็ยังไม่แน่’ เธอคิดพลางคลี่ยิ้มหวานอย่างอารมณ์ มันก็แค่ระยะแรกเท่านั้น ก็เหมือนไข้หวัดนั่นล่ะ ที่หากไม่มีภูมิต้านทานโรคที่ดีก็อย่างหวังว่าจะรอด
...ก็เหมือนสองคนนี้ล่ะ ที่แทบจะไม่มีภูมิต้านทานเลนสักนิด...
“ขอโทษนะ... ขอโทษจริงๆที่งี่เง่า”
“ช่างมันเถอะ ลืมๆมันไปซะ”ร่างโปร่งพูดพลางลูบหัวคนตัวเล็ก แล้วคลี่ยิ้มหวาน... คำพูดที่ทำให้คนตัวเล็กต้องร้องไห้ออกมา คำพูดที่ออกมาจากใจเธอจริงๆ
“เขารักแค่ฟางคนเดียวนะ... ถ้าฟางเลิกรักเขาเมื่อไหร่ อย่าลืมเอามืดมาแทงที่หน้าอกด้านซ้ายด้วยล่ะ”
TBC
...............................
[Couple] Kaew X Fang Ft. Faye
[Author] Deep
[Warning] ระวัง... ระวัง
“Hi~ my best Friend”
เสียงที่ดังมาแต่ไกล ตั้งแต่หน้าบริษัทสร้างความหงุดหงิดใจให้แก่ร่างบางเป็นอย่างยิ่งเพียงแต่ทำอะไรไม่ไ
ด้เพราะเป็น ‘เพื่อนสนิท’ ของร่างสูงโปร่งหน้าตาดีที่อยู่ข้างๆเธอ ที่ไม่รู้เธอตกลงปลงใจเป็น ‘แฟน’ เสียตั้งแต่เมื่อไหร่
ส่วนเฟย์ก็ได้แต่หรี่ตาลงพลางจ้องไปยัง ‘แจม’ ที่เดินเข้ามาเกาะแกะแก้วที่ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราวสักอย่าง
...ให้มันได้อย่างนี้สิ พระเจ้า!...
เฟย์สบถในใจอย่างเบื่อหน่ายแต่สิ่งที่ทำให้เธอตกใจเพียงแค่...วินาทีเดียวเท่านั้นแค
่วินาทีเดียวที่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของแจมเปลี่ยนไป ใบหน้าหวานที่มักจะยิ้มพรายเหมือนนางฟ้า แต่ที่ทำให้ใจของเฟย์เต้นรัวเพราะความกลัวคือ...
‘รอยยิ้มของปีศาจ’
ไม่เคยคิดว่าแค่รอยยิ้มนั่นจะทำให้น้ำลายเฝื่อนคอได้เป็นอย่างดี... จนเธอต้องตั้งสติตัวเองใหม่แล้วกระแอมเบาๆเป็นการคลายสถานการณ์อันน่าอึดอัดใจ “อะแฮ่ม! มายืนอะไรตรงนี้ เดี๋ยวก็สายหรอก”เธอบอกแสร้งทำเหมือนพูดให้ทุกคนฟัง
แต่แท้จริง... นัยน์ตาสีดำจ้องไปที่คนที่เพิ่งมาใหม่ ที่ดูเหมือนจะรู้ดีว่าเธอบ่งบอกอะไร
“งั้นไปก็ได้เนอะ เพื่อนรัก”แจมพูดพลางใช้แรงมหาศาลลากคนตัวสูงที่ตอนนี้กวักมือขอความช่วยเหลือจากพวก
เธอสองคน เฟย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งพลางทำท่าจะฉุดมือของแก้วเอาไว้ เพียงแต่มีมือนึงที่มาตัดหน้าเธอ...
ความรู้สึกหนักๆทำให้แจมหันกลับไปมองคนที่เธอลากมาด้วย แต่สิ่งที่เห็นคือ มืออีกด้านของแก้วถูกฉุดเอาไว้โดนใครบางคน เธอขยับรอยยิ้มที่มุมปากพลางเอยด้วยเสียงต่ำๆ หากแต่ฟังดูเป็นแจมมากยิ่งขึ้น “ว่าไงฟาง?” คำถามที่เรียกให้ร่างบางผู้ถือสิทธิ์ ‘แฟน’ เงยหน้าขึ้นมามอง ใบหน้าที่มักจะขรึมเงียบ ตอนนี้กลับส่งยิ้มหวานให้เธอ
“ขอโทษนะ... แต่เขามากับ ‘แก้ว’ ยังไงก็ต้องไปกับ ’แก้ว’ ”
น้ำเสียงหนักแน่นที่ทำให้แจมต้องยิ้มอีกครั้ง ส่วนคนกลางก็ได้แต่หันหน้าไปมาตามคำพูดของทั้งสองที่รั้งเธอไว้ ใจจริงก็อยากจะบอกแจมว่าปล่อยเธอสักที... แต่คำว่า ‘เพื่อนสนิท’ มันค้ำคอ ให้เธอพูดแบบนั้นก็แปลว่าเท่ากับตัดเพื่อนสินะ แต่ก่อนที่จะได้อธิบาย...
“ก็แก้วนัดเขามารอนิ แก้วไม่ได้บอกเหรอ”
คำกล่าวที่ทำให้สาวหวานอายุสิบหก หันไปมองคนที่ยืนอยู่ตรงกลาง ใบหน้าคมโคลงหัวไปมาเล็กน้อยเป็นเชิงว่า ‘ไม่จริง’ ฟางสูดลมหายใจเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มหวานให้คนที่อยู่อีกฝั่งอีกครั้งหนึ่ง “แจม... โกหกผิดศีลข้อสี่นะ”
คำเทศนาที่ทำให้แจมต้องปล่อยมือของร่างสูง แต่ไม่วายที่จะกระซิบกระซาบบางอย่างให้ฟางได้หงุดหงิดใจอีกครั้ง...
“ขอโทษนะฟาง... งั้นเดี๋ยวเจอกันในห้องซ้อมนะแก้ว”พูดจบก็ขยิบตาให้คนตัวสูงหนึ่งที พลางวิ่งเข้าตึกไป ปล่อยให้แก้วต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...
สถานการณ์แบบนี้ นัยน์ตาสีน้ำตาลกรอกไปมา พลางหันหน้ากลับมาดูคนตัวเล็ก... ที่ดูเหมือนจะงอนเธอเข้าเสียแล้ว
“ฟาง... เขาไม่รู้เรื่องจริงๆ”เธอพูด แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือน้ำเสียงราบเรียบที่ฟังแล้วขนลุกยิ่งกว่าวันไหน
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย”คนตัวเล็กเอ่ยแล้วเบือนใบหน้าหนี... ส่วนเธอก็ได้แต่เกาหัวให้ยุ่งเพราะไม่รู้จะหาวิธีง้อฟางยังไง เพราะเรื่องนี้เธอไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่คุยโทรศัพท์แล้วอีกอย่างที่ต้องคิดให้วุ่นคือ...
ทำไมเพื่อนสนิทของเธอต้องมาโกหกคนรักของเธอล่ะเนี่ย? แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญตอนนี้ง้อฟางสำคัญกว่า...
“โธ่ ที่รักจ๋า เขาไม่รู้เรื่องจริงๆนะ ตาของเขาโกหกตัวเองเหรอ?”เธอพูดพลางยื่นใบหน้าที่ใครก็ชมว่าหล่อนักหล่อหนาเข้าไปใกล้ๆคนรัก...ที่ตอนนี้พยาย
ามผลักหน้าคมๆของเธอออก ริมฝีปากคลี่ยิ้มหวานกรุ้มกริ่มแล้วพ่นลมใส่หูของคนตัวเล็กกว่า... เล่นเอาเฟย์ต้องหันไปมองทางอื่น
“ออกไปไกลๆ คนบ้า!”
คนตัวเล็กตะโกนไม่อายใคร... เพราะแค่ตอนนี้ก็อายเต็มแก่อยู่แล้ว ร่างโปร่งที่ทำตามคำสั่งแต่โดนดีเพราะกลัวว่าจมูกโด่งๆของตัวเองจะโดนบีบแบบเมื่อเช้
า แต่ต่อให้หลบยังไง... ก็ไม่วาย ‘โดนบีบอยู่ดีนั่นล่ะ’
“นี่ๆ อย่ามาเล่นแบบนี้อีกนะ จำไว้”มือเรียวบีบจมูกคนร่างสูงอย่างเมามันส์ พร้อมปล่อยออกเมื่อเห็นคนรักเริ่มหายใจไม่ออก มือกร้านลูบจมูกไปมาเพื่อดูว่าจมูกโด่งๆของตัวเองนั้นมีความเสียหายตรงไหนบ้าง... หรือว่าพังไปแล้ว
...ต่อไปนี้จะใส่หน้ากากทุกวันเพื่อป้องกันการบีบจมูก...
ร่างสูงคิดในใจก่อนจะจูงมือคนตัวเล็กที่นิ่งอยู่ให้เข้าไปในตึก ตามด้วยเฟย์ที่มีบทได้อย่างมากแค่ส่ายหน้าหรือถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย... แต่ความรู้เมื่อสักครู่มันน่าตกใจ จนใจหาย ริมฝีปากบางเม้มแน่นก่อนจะขยับรอยยิ้มปลอบใจตัวเองอีกครั้ง
...คงจะไม่เป็นอย่างที่คิด ใช่ไหม?...
เธอถอนหายใจพลางมองแผ่นหลังของคนสองคนที่อยู่ข้างหน้าเธอ ได้แต่ภาวนาไม่ให้มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้น เพราะดูท่าลางสังหรณ์ของหวายท่าจะแม่นซะแล้วสิ... เฟย์คิดพลางเดินตามทั้งสองที่เรียกเธออยู่
หารู้ไม่ว่ามีคนที่กำลังยิ้มและยืมมองลงมาจากหน้าต่างอย่างพอใจ ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มเหมือนเป็นคนกำชัย เพียงแต่... มันก็แค่เริ่มต้น นัยน์ตาที่มักจะดูหวานตอนนี้กลับดูคมและมีเล่ห์นัยน์ พลางส่งเสียงหัวเราะในลำคอ... ‘มันก็แค่เริ่มต้นเท่านั้น’
“อ่ะ... ขอบใจมาก”
ขวดน้ำที่ถูกส่งยื่นให้จากมือของเฟย์ทำให้สาวอย่างหวายต้องยิ้มหวาน... ร่างเล็กที่มีศักดิ์เป็นน้องสาวของฟางทิ้งตัวลงมานั่งข้างๆเธอ เฟย์พึมพำเบาๆเหมือนต้องการบอกว่า ‘ไม่เป็นไร’
เหงื่อที่ไหลออกมาตามร่างกายบ่งบอกว่าวันนี้ซ้อมหนักกันเพียงใด แม้ว่าจะมีแอร์เปิดอยู่ก็ตามที...
หวายหัวเราะพลางหันกลับไปมองตรงพื้นที่ซ้อม ก่อนจะขมวดคิ้วลงอย่างแปลกใจ... ไม่ใช่เพราะแก้วอยู่กับฟาง นั่นมันเรื่องปกติเสียแล้วเพราะเธอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แปลกใจน่ะสิ...
‘ทำไมแจมถึงเอาอกเอาใจแก้วขนาดนั้น’ แถมพอฟางบ่นกลับไม่ว่าไม่ทำอะไร แค่ยิ้มให้แล้วเดินหนีไป
...จนในสายตาของเธอ ฟางดูเป็นคนไร้เหตุผล...
“หวายเห็นอย่างที่เขาเห็นใช่ไหม?”
เสียงของคนข้างๆ เรียกสติให้เธอกลับมาพลางพยักหน้า... เฟย์ก็คงคิดเช่นเดียวกันกับเธอ ไม่แปลกใจหรอกว่าฟางทำอะไร แต่แปลกใจที่แจมกำลังทำอะไรเสียมากกว่า หรือคนที่แจมบอกว่า ‘ชอบ’ จะเป็นแก้ว? เป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง?
“เฟย์... เขาว่าลางสังหรณ์เขาไม่ผิดหรอกนะ”เธอพูดพลางเช็ดเหงื่อที่ยังเกาะอยู่ตามใบหน้า ร่างเล็กข้างๆยิ้มที่มุมปาก พลางหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม... แต่สิ่งที่พยายามจะละสายตา แต่ก็ทำให้ละสายตาไม่ได้ก็คือ...
“ฟาง! จะอะไรกันกันหนาเนี่ยวันนี้!”
เสียงของแก้วดังมากระทบประสาทการได้ยินของเธอ นัยน์ตาที่พยายามจะถอนออกจากภาพเมื่อสักครู่ก็ต้องกลับไปจ้องมองใหม่อีกครั้ง ภาพที่เห็นครั้งนี้ทำให้คนอย่างเฟย์ต้องกุมขมับอีกครั้ง สุดท้ายลางสังหรณ์ของหวายก็ไม่เคยพลาด
แก้วกำลังยืนบีบข้อมือของพี่สาวเธอแน่น ซ้ำยังไม่มีคนที่คิดจะเข้าไปห้ามอีกต่างหากเพราะดูเหมือนว่าแก้วกำลังหงุดหงิดสุดขีด ไม่ต่างจากพี่สาวของเธอเช่นกัน... ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะจ้องคนรักของตัวเองแทบจะกินกันได้เลยทีเดียว
“งั้นต่อไปนี้เขาจะได้ไม่ต้องยุ่งไง ไปเล้ย!”ร่างเล็กตะคอกอย่างหงุดหงิดเพราะอารมณ์ขัดใจ ทำไมแจมต้องเข้ามารู้มาเห็นทุกเรื่อง ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องของแจม...
ส่วนคนรักที่แสนจะซื่อของเธอก็รัก ‘เพื่อนสนิท’ เสียเหลือเกิน ไม่ว่าไม่ปรามซ้ำพอเธอพูดกับแจมว่านิดว่าหน่อยก็ว่าเธออีก สรุปวันนี้เธอก็ผิดอีกตามเคย...
“มีเหตุผลหน่อยสิ แจมเป็นเพื่อ...”
“เป็นเพื่อนสนิทของแก้ว... แล้วไงอ่ะ ก็บอกแล้วถ้าไม่ชอบก็ไปไกลๆ”
ฟางพูดก่อนที่จะพยายามสะบัดข้อมือให้หลุดจากการบีบของอีกฝ่าย แต่ยิ่งดิ้นเท่าไหร่มือแกร่งก็ยิ่งบีบแน่นขึ้นเท่านั้น ใบหน้าคมจ้องมองคนตัวเล็ก... นัยน์ตานั้นดูเครือๆ และอ่อนแรง ริมฝีปากเรียวเม้มแน่น พลางค่อยๆคลายมือของตัวเองลง จนคนตัวเล็กต้องตกใจ
“เฮ้อ... อย่าทะเลาะกันได้ไหม? เขาไม่ชอบเลยที่ต้องมีปัญหากับฟาง”
“แก้ว... ก็...เขา เฮ้อ...”
“กินไม่ได้นอนไม่หลับอีกแล้ว...ทำไม... เราจึงต้องเป็นกันอย่างนี้... เรื่อยไป
ฉันก็รัก...เธอก็รักเข้าใจ... แต่ทำไม... ต้องทะเลาะ
ฉันก็รู้ลิ้นกับฟัน... ฉันเข้าใจ แต่ทำไมจึงบั่นทอนฉัน... เรื่อยไป
เธอก็เหนื่อย... ฉันก็เหนื่อย ในหัวใจ... หมดแรงไปก็เท่านั้น
ก่อนที่มันจะสาย...เกินไปกว่านี้
ไม่เอาอีกแล้ว... เราไม่ทะเลาะกันได้ไหม เมื่อต่างคนก็รักและต่างคนก็หวง
แล้วเราจะเถียงกันเพื่อใคร... เมื่อผลสุดท้าย...ก็ดีแต่ต้องเสียใจกันไป
เมื่อมันไม่ไปไหน ทำไมต้องทนทุกข์ ให้เรา... ได้รักกันดีกว่า”
เสียงนุ่มๆที่ทำให้คนฟังต้องเบือนหน้านี เพราะกลัวว่าจะต้องน้ำตาคลอ ร่างสูงกุมมือคนตัวเล็กให้แน่นขึ้นพลาง กระซิบเสียงหวานด้วยถ้อยคำที่ทำให้คนฟังต้องน้ำตาล่วง เฟย์ถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อม ไล่สายเพื่อมองหาคนที่ต้องการ...
ริมฝีปากบางขบแน่น ‘ก็ยังไม่แน่’ เธอคิดพลางคลี่ยิ้มหวานอย่างอารมณ์ มันก็แค่ระยะแรกเท่านั้น ก็เหมือนไข้หวัดนั่นล่ะ ที่หากไม่มีภูมิต้านทานโรคที่ดีก็อย่างหวังว่าจะรอด
...ก็เหมือนสองคนนี้ล่ะ ที่แทบจะไม่มีภูมิต้านทานเลนสักนิด...
“ขอโทษนะ... ขอโทษจริงๆที่งี่เง่า”
“ช่างมันเถอะ ลืมๆมันไปซะ”ร่างโปร่งพูดพลางลูบหัวคนตัวเล็ก แล้วคลี่ยิ้มหวาน... คำพูดที่ทำให้คนตัวเล็กต้องร้องไห้ออกมา คำพูดที่ออกมาจากใจเธอจริงๆ
“เขารักแค่ฟางคนเดียวนะ... ถ้าฟางเลิกรักเขาเมื่อไหร่ อย่าลืมเอามืดมาแทงที่หน้าอกด้านซ้ายด้วยล่ะ”
TBC
...............................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น