ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter ::6::
[Fiction] quarrel
[Couple] Kaew X Fang Ft. Faye
[Author] Deep
[Warning] ระวัง... ระวัง
“สองคนนั้น... คืนดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ไม่รู้ ก็แล้วทำไมต้องรู้ล่ะ?”
“เปล๊า พักก่อนนะ”
เฟย์ขมวดคิ้วเรียวกับท่าทีของแจมวันนี้ ใบหน้าหวานของเพื่อนสาวร่วมค่ายค่อนข้างจะหงุดหงิด... เมื่อเห็นแก้วกับพี่สาวของเธอเล่นหรือหยอกกัน เฟย์ทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นไม้ปาร์เก้ก่อนจะถอนหายใจกับคำพูดที่วนเวียนอยู่ในหัวเมื่อเ
ช้า
‘ระวัง... ฉันรู้สึกไม่ดี’
คำเตือนจากหวาย ลางสังหรณ์ที่ไม่น่าเชื่อ... แต่ก็อดที่จะระวังเอาไว้ไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องของแจม หรือจะเป็นอย่างที่หวายคิด? ร่างเพรียวส่ายหน้าพลางหันไปมองหญิงสาวสองคนที่กำลังยืนหัวเราะอยู่ คิ้วขวากระตุกอย่างไม่ได้ตั้งใจ...
‘ไม่น่าใช่น่า...’
“แก้ว! ทำไรเนี่ย”
เสียงของพี่สาวทำให้เธอหันไปมอง ใบหน้าคมที่ยืนยิ้มหวาน... ส่วนหน้าของพี่สาวเธอกำลังแดงก่ำจนและดูจากสถานการณ์ก็คง... ‘หอมแก้ม’ กันล่ะมั้ง เฟย์หัวเราะเบาๆ เพียงแต่อยู่ๆก็รู้สึกเสียวสันหลังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอค่อยๆชำเลืองไปข้างหลัง “แจม...” ริมฝีปากขยับเป็นคำพูดเบาๆไร้เสียง
ใบหน้าของสาวหวานอย่างแจมกำลังขมวดคิ้วและดูเครียดกว่าวันไหน... ‘ไม่น่า... ไม่ใช่หรอก’ ทุกอย่างที่คิดคงไม่ใช่เรื่องจริง เฟย์ขยับรอยยิ้มปลอบใจ
...ขอให้เรื่องที่คิดเป็นแค่ความรู้สึกของเธอเท่านั้น...
‘ทำไม?’
ความคิดของสาวน้อยหน้าหวานที่กำลังยืนมองร่างสูงโปร่งยืนหยอกล้อกับร่างบางที่ดูท่าจ
ะเขินอายมากกว่าวันไหน ทั้งที่เมื่อวันสองวันที่ผ่านมายังดูเหมือนทะเลาะกันอยู่... ริมฝีปากเม้มแน่นเพราะความกังวล เพราะสิ่งที่เธอคิดไว้ว่าจะไม่เกิดกำลังจะเป็นจริง
‘แก้วกับฟาง...’
“เฮ้! แจม เหม่อไปไหนเนี่ย... น้ำเขาล่ะ”
มีนทักเสียงดัง ทำให้เธอรู้สึกตัวก่อนจะส่งขวดน้ำไปให้... เพียงแต่สิ่งที่เพื่อนสาวสงสัยก็คือ ‘ทำไมแจมต้องมองแก้วกับฟางตลอดเวลา’ มีนขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะไม่เคยเห็นแจมมองใครด้วยสายแบบนี้... สายตาที่แทบจะฆ่าคนได้ในทันที
“มีน แจม... เขาเรียกรวมแล้วน้า”
เสียงของแก้วทำให้ทั้งสองคนรีบเดินเข้าไปรวมกลุ่ม ทั้งหมดนั่งเป็นครึ่งวงกลมก่อนที่ครูจะอธิบายกิจกรรมวันนี้ กิจกรรมที่ทำให้เด็กทั้งหมดยี่สิบสองคนต้องถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อโจทย์ออกมาง่ายก
ว่าที่คิด
“ร้องเพลงที่ไม่ใช่เพลงของตัวเอง”
ฟางทวนโจทย์ไปมา พลางดีดนิ้วอย่างถูกใจเมื่อคิดเพลงที่ตัวเองจะใช้ร้องในวันนี้ออก ใบหน้าหวานที่ยิ้มกว้างกว่าปกติจนร่างโปร่งสงสัยว่าเพลงที่ฟางนั้นเลือกเป็นเพลงอะไร แก้วเขยิบเข้าไปใกล้ๆฟางพลางกระซิบถาม “เลือกเพลงอะไร”
และคำตอบที่ได้กลับมาคือ... การบีบจมูก ที่ทำให้มือของร่างสูงต้องยกขึ้นมาลูบมันหลังจากโดนสาวน้อยบีบไปอย่างไม่ยั้งมือ สร้างความขบขันให้แก่คนตัวเล็กเป็นอย่างยิ่ง อย่างน้อยก็รู้สึกได้เอาคืนแม้จะไม่สาสมเท่าที่แก้วทำกับเธอเอาไว้
เสียงปรบมือของครูทำให้นักเรียนทั้งหมดเงียบ หลังจากบอกโจทย์แล้วต่อไปก็คือการเลือกว่าใครจะออกมาร้องเพลงคนแรก... สายตาอันคมกริบของผู้สอนค่อยๆเลื่อนไปที่นักเรียนทีละรายทีละราย พลางหยุดที่ร่างโปร่งที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจกับ... สิ่งที่มอบหมายให้สักเท่าไหร่
“แก้ว... คนแรกก็แล้วกัน”การตัดสินใจของครูทำให้แก้วที่ไม่ได้ตั้งตัวเอ๋อไปสักเล็กน้อย ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก พลางก้าวออกไปข้างหน้า เสียงเชียร์ดังก้องก่อนที่ร่างโปร่งจะร้องเพลงที่กะให้คนที่ ‘รัก’
เพลงที่มีความหมาย... มากสำหรับเธอ
“ไม่ใช่เหงา ไม่ใช่เผลอ... ที่ฉันนั้นรักเธออย่างง่ายดาย ไม่ใช่ฉัน แค่อ่อนไหว ไม่ใช่ฟ้ามาดลใจให้รักเธอ...”
นัยน์ตาคมกวาดมองไปทั่วพลางหยุดที่คนที่อยู่ข้างหลังสุด พลันรอยยิ้มหวานก็ปรากฎบนใบหน้า ท่วงทำนองอันไพเราะยังคงดำเนินต่อไป เสียงของร่างโปร่งทั้งทุ้มและนุ่ม สร้างความสบายหูแก่คนฟัง... และทำให้หัวใจของใครที่รับรู้เต้นรัว
“ขอเชื่อในความรักสักหน่อย...แม้รักนั้นอาจทำให้ช้ำใจ”
พลันจบเพลง เสียงผิวปากเสียงแซวก็ดังไปทั่ว... ว่าใครกันที่เป็นเจ้าของหัวใจ ร่างโปร่งสูงคนนี้ แก้วหัวเราะก่อนจะกลับไปนั่งข้างๆคนที่ตอนนี้หน้าแดงไปไหนต่อไหน แก้วมองคนตัวเล็กที่ตอนนี้ก้มหน้างุดอย่างขบขัน พลางมือของฟางก็จับชายเสื้อเชิ้ตของร่างโปร่งเอาไว้
มือเล็กที่กุมชายเสื้อแน่นจน ร่างโปร่งอดที่จะยิ้มหวานไม่ได้
ภาพสวีทนี้ไม่มีทางหลุดสายตาของครูไปได้ และในที่สุด ‘ฟาง’ ก็โดนเรียกออกไป... หนุ่มๆเคโอติกผู้มีหน้าที่แซวก็ผิวปากเช่นเคย... เรียกให้ใบหน้าที่แดงมากอยู่แล้วแดงขึ้นอีก จนครูต้องมาห้าม
“หน้าเครียดอีกแล้วนะ แจม...”
มีนทักเพื่อนสาวอีกครั้ง...เพียงแต่ครั้งนี้กลับไม่มีปฎิกิริยาหรือเสียงตอบรับกลับ จนเธอเริ่มสงสัยว่ามันต้องเกี่ยวอะไรกับแก้วไม่ก็... ฟาง ใบหน้าหวานสูดลมหายใจเข้าลึกๆตามปกติ พลางเปล่งท่วงทำนองอันไพเราะออกมา
“ฉันรู้ว่าเธอยังเหมือนไม่มั่นใจที่เรานั้นรักกัน มันจะดีหรือเลวร้ายจะจบแบบไหนกัน
เหมือนวันนี้เธออยากขอถ้อยคำที่ฟังแล้วยืนยัน... ว่าเราจะไปด้วยกันถึงเมื่อไหร่
ใจจริงเรื่องวันพรุ่งนี้เป็นอย่างไรก็ยังไม่แน่ใจ เมื่อขอบฟ้ายังเปลี่ยนสี โลกยังเปลี่ยนทุกวัน
เมื่อต้นยังมีล้ม ผืนดินยังเคยต้องแยกกัน กับวันพรุ่งนี้เป็นอย่างไร
ไม่สัญญาว่าฉันจะยืนจะเคียงข้างเธอได้นานเท่าไหร่ ก็ยังไม่มั่นใจ
แค่รู้ว่าทุกนาทีที่ตัวฉันเองยังอยู่ ก็รู้ว่าจะยืนอยู่ข้างๆเธอ
เวลาไม่ว่าจะเหลือสักเท่าไหร่ ก็อย่าไปสนใจ แค่วันนี้ที่เรามีจะอยู่เพื่อรักกัน
ให้ความรักนับจากนี้มันงดงามขึ้นทุกวัน เท่านี้ที่ฉันจะพอให้สัญญา
ไม่สัญญาว่าฉันจะยืนจะเคียงข้างเธอได้นานเท่าไหร่ ก็ยังไม่มั่นใจ
แค่รู้ว่าทุกนาทีที่ตัวฉันเองยังอยู่ ก็รู้ว่าจะยืนอยู่จะรักเธอและขอทำดีเพื่อเธอต่อไป
ทั้งหมดของหัวใจก็ยกให้เธอคนเดียวฉันยอมให้เธอทุกอย่าง เท่านี้ที่ฉันจะพอให้สัญญา
ไม่สัญญา.... “
คำบอกรักเสียงใสๆที่ผ่านเพลงทำร่างโปร่งยิ้มแก้มปริ... เพราะเมื่อเช้าเธอถามอีกฝ่ายว่ารักเธอไหม? คำตอบก็ได้กลับมาแค่ว่า ‘ไม่รู้’ ‘แล้วแต่จะคิด...’ คิดแล้วมันก็น่าน้อยใจ จะไปงอนก็ไม่ได้เพราะยังไม่พ้นกระทงเดิม... แต่แค่นี้ ได้แค่นี้ก็พอแล้ว...
[เมื่อตอนเช้า]
“ฟาง! รักเขาไหม?”ร่างโปร่งพูดเสียงอู้อี้ขณะยัดเบคอนเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย คำถามที่ทำให้เฟย์ต้องหัวเราะในลำคอ และทำให้คนถูกถามต้องสำลักน้ำที่กำลังดื่มอยู่... ใบหน้าหวานเบือนหันไปอีกทางพยายามที่จะเก็บอาการเอาไว้
‘รักมันพูดง่ายๆซะที่ไหนล่ะ’
“ไม่รู้สิ... เฟย์ พี่อิ่มแล้วฝากเก็บด้วยนะจ้ะ”พูดเสร็จสรรพ ร่างบางก็เดินจากไปไม่ปล่อยให้คนที่นั่งรอฟังคำตอบได้รั้งเอาไว้ นัยน์ตากรอกไปมาเพราะความปากแข็งของฟาง... ทั้งๆที่เมื่อคืนยังนอนกอดกันแท้ๆ เฟย์จ้องมองคนถามอย่างขบขัน ก็พี่สาวของเธอปากแข็งกว่าใครเลยล่ะ เรื่องนี้...
[ในรถ]
“ฟางจ๋า... รักเขาไหมอ่ะ?”
ร่างสูงที่พูดคำๆเดียวมาเกือบร้อยครั้ง แต่คำที่ได้คือการเปลี่ยนไปเรื่องอื่นไม่ก็การเงียบแทนคำตอบ... ตอนแรกที่ถามดีๆ แล้วก็เปลี่ยนมาขู่ แต่ก็ไม่ได้ผลสุดท้ายก็มาตกที่ลูกอ้อนเพียงแต่คนใจแข็งก็ยังเป็นคนใจแข็ง คนปากแข็งก็ยังเป็นคนปากแข็ง
“แล้วแต่จะคิด...”
ร่างบางตอบแล้วเฉทำไปคุยกับน้องสาวของตัวเอง ใบหน้าคมได้แต่บึ้ง แต่ทุกการแสดงออกอยู่ในสายตาของฟางเสมอ ริมฝีปากที่แสร้งนิ่งลอบคลี่ยิ้มหวานออกมาอย่างพึงพอใจ
...อย่างน้อยก็รู้ว่าแก้วอยากฟังคำว่า ‘รัก’ จากปากเธอ...
“เอ้า... สุดท้ายแล้วๆ แจม!”
“แจม... แจม!”เสียงตะโกนของคนรอบข้างทำให้คนที่นั่งเหม่อรู้สึกตัวพลางลุกเดินออกไปข้างหน้า ใบหน้าหวานมองไปยังฟางกับแก้วที่กำลังหยอกล้อกันอยู่...
ริมฝีปากเรียวเม้มแน่น พลางเปล่งเสียงออกมาเป็นท่วงทำนองแม้จะเป็นแค่ท่อนฮุก แต่ก็ทำให้คนที่นั่งฟังเสียงสันหลังวาบ
“ทางใดที่เธอจะมีความสุขกับเขา ทางนั้นจะมีฉันคอยกั้นกลาง
เธอเป็นดอกไม้ ฉันจะเป็นขวากหนาม ทิ่มแทง ที่เขาจงปวดใจ ที่เขาทิ้งเธอไป ที่เขาไม่รักเธอ”
TBC
...............
[Couple] Kaew X Fang Ft. Faye
[Author] Deep
[Warning] ระวัง... ระวัง
“สองคนนั้น... คืนดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ไม่รู้ ก็แล้วทำไมต้องรู้ล่ะ?”
“เปล๊า พักก่อนนะ”
เฟย์ขมวดคิ้วเรียวกับท่าทีของแจมวันนี้ ใบหน้าหวานของเพื่อนสาวร่วมค่ายค่อนข้างจะหงุดหงิด... เมื่อเห็นแก้วกับพี่สาวของเธอเล่นหรือหยอกกัน เฟย์ทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นไม้ปาร์เก้ก่อนจะถอนหายใจกับคำพูดที่วนเวียนอยู่ในหัวเมื่อเ
ช้า
‘ระวัง... ฉันรู้สึกไม่ดี’
คำเตือนจากหวาย ลางสังหรณ์ที่ไม่น่าเชื่อ... แต่ก็อดที่จะระวังเอาไว้ไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องของแจม หรือจะเป็นอย่างที่หวายคิด? ร่างเพรียวส่ายหน้าพลางหันไปมองหญิงสาวสองคนที่กำลังยืนหัวเราะอยู่ คิ้วขวากระตุกอย่างไม่ได้ตั้งใจ...
‘ไม่น่าใช่น่า...’
“แก้ว! ทำไรเนี่ย”
เสียงของพี่สาวทำให้เธอหันไปมอง ใบหน้าคมที่ยืนยิ้มหวาน... ส่วนหน้าของพี่สาวเธอกำลังแดงก่ำจนและดูจากสถานการณ์ก็คง... ‘หอมแก้ม’ กันล่ะมั้ง เฟย์หัวเราะเบาๆ เพียงแต่อยู่ๆก็รู้สึกเสียวสันหลังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอค่อยๆชำเลืองไปข้างหลัง “แจม...” ริมฝีปากขยับเป็นคำพูดเบาๆไร้เสียง
ใบหน้าของสาวหวานอย่างแจมกำลังขมวดคิ้วและดูเครียดกว่าวันไหน... ‘ไม่น่า... ไม่ใช่หรอก’ ทุกอย่างที่คิดคงไม่ใช่เรื่องจริง เฟย์ขยับรอยยิ้มปลอบใจ
...ขอให้เรื่องที่คิดเป็นแค่ความรู้สึกของเธอเท่านั้น...
‘ทำไม?’
ความคิดของสาวน้อยหน้าหวานที่กำลังยืนมองร่างสูงโปร่งยืนหยอกล้อกับร่างบางที่ดูท่าจ
ะเขินอายมากกว่าวันไหน ทั้งที่เมื่อวันสองวันที่ผ่านมายังดูเหมือนทะเลาะกันอยู่... ริมฝีปากเม้มแน่นเพราะความกังวล เพราะสิ่งที่เธอคิดไว้ว่าจะไม่เกิดกำลังจะเป็นจริง
‘แก้วกับฟาง...’
“เฮ้! แจม เหม่อไปไหนเนี่ย... น้ำเขาล่ะ”
มีนทักเสียงดัง ทำให้เธอรู้สึกตัวก่อนจะส่งขวดน้ำไปให้... เพียงแต่สิ่งที่เพื่อนสาวสงสัยก็คือ ‘ทำไมแจมต้องมองแก้วกับฟางตลอดเวลา’ มีนขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะไม่เคยเห็นแจมมองใครด้วยสายแบบนี้... สายตาที่แทบจะฆ่าคนได้ในทันที
“มีน แจม... เขาเรียกรวมแล้วน้า”
เสียงของแก้วทำให้ทั้งสองคนรีบเดินเข้าไปรวมกลุ่ม ทั้งหมดนั่งเป็นครึ่งวงกลมก่อนที่ครูจะอธิบายกิจกรรมวันนี้ กิจกรรมที่ทำให้เด็กทั้งหมดยี่สิบสองคนต้องถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อโจทย์ออกมาง่ายก
ว่าที่คิด
“ร้องเพลงที่ไม่ใช่เพลงของตัวเอง”
ฟางทวนโจทย์ไปมา พลางดีดนิ้วอย่างถูกใจเมื่อคิดเพลงที่ตัวเองจะใช้ร้องในวันนี้ออก ใบหน้าหวานที่ยิ้มกว้างกว่าปกติจนร่างโปร่งสงสัยว่าเพลงที่ฟางนั้นเลือกเป็นเพลงอะไร แก้วเขยิบเข้าไปใกล้ๆฟางพลางกระซิบถาม “เลือกเพลงอะไร”
และคำตอบที่ได้กลับมาคือ... การบีบจมูก ที่ทำให้มือของร่างสูงต้องยกขึ้นมาลูบมันหลังจากโดนสาวน้อยบีบไปอย่างไม่ยั้งมือ สร้างความขบขันให้แก่คนตัวเล็กเป็นอย่างยิ่ง อย่างน้อยก็รู้สึกได้เอาคืนแม้จะไม่สาสมเท่าที่แก้วทำกับเธอเอาไว้
เสียงปรบมือของครูทำให้นักเรียนทั้งหมดเงียบ หลังจากบอกโจทย์แล้วต่อไปก็คือการเลือกว่าใครจะออกมาร้องเพลงคนแรก... สายตาอันคมกริบของผู้สอนค่อยๆเลื่อนไปที่นักเรียนทีละรายทีละราย พลางหยุดที่ร่างโปร่งที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจกับ... สิ่งที่มอบหมายให้สักเท่าไหร่
“แก้ว... คนแรกก็แล้วกัน”การตัดสินใจของครูทำให้แก้วที่ไม่ได้ตั้งตัวเอ๋อไปสักเล็กน้อย ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก พลางก้าวออกไปข้างหน้า เสียงเชียร์ดังก้องก่อนที่ร่างโปร่งจะร้องเพลงที่กะให้คนที่ ‘รัก’
เพลงที่มีความหมาย... มากสำหรับเธอ
“ไม่ใช่เหงา ไม่ใช่เผลอ... ที่ฉันนั้นรักเธออย่างง่ายดาย ไม่ใช่ฉัน แค่อ่อนไหว ไม่ใช่ฟ้ามาดลใจให้รักเธอ...”
นัยน์ตาคมกวาดมองไปทั่วพลางหยุดที่คนที่อยู่ข้างหลังสุด พลันรอยยิ้มหวานก็ปรากฎบนใบหน้า ท่วงทำนองอันไพเราะยังคงดำเนินต่อไป เสียงของร่างโปร่งทั้งทุ้มและนุ่ม สร้างความสบายหูแก่คนฟัง... และทำให้หัวใจของใครที่รับรู้เต้นรัว
“ขอเชื่อในความรักสักหน่อย...แม้รักนั้นอาจทำให้ช้ำใจ”
พลันจบเพลง เสียงผิวปากเสียงแซวก็ดังไปทั่ว... ว่าใครกันที่เป็นเจ้าของหัวใจ ร่างโปร่งสูงคนนี้ แก้วหัวเราะก่อนจะกลับไปนั่งข้างๆคนที่ตอนนี้หน้าแดงไปไหนต่อไหน แก้วมองคนตัวเล็กที่ตอนนี้ก้มหน้างุดอย่างขบขัน พลางมือของฟางก็จับชายเสื้อเชิ้ตของร่างโปร่งเอาไว้
มือเล็กที่กุมชายเสื้อแน่นจน ร่างโปร่งอดที่จะยิ้มหวานไม่ได้
ภาพสวีทนี้ไม่มีทางหลุดสายตาของครูไปได้ และในที่สุด ‘ฟาง’ ก็โดนเรียกออกไป... หนุ่มๆเคโอติกผู้มีหน้าที่แซวก็ผิวปากเช่นเคย... เรียกให้ใบหน้าที่แดงมากอยู่แล้วแดงขึ้นอีก จนครูต้องมาห้าม
“หน้าเครียดอีกแล้วนะ แจม...”
มีนทักเพื่อนสาวอีกครั้ง...เพียงแต่ครั้งนี้กลับไม่มีปฎิกิริยาหรือเสียงตอบรับกลับ จนเธอเริ่มสงสัยว่ามันต้องเกี่ยวอะไรกับแก้วไม่ก็... ฟาง ใบหน้าหวานสูดลมหายใจเข้าลึกๆตามปกติ พลางเปล่งท่วงทำนองอันไพเราะออกมา
“ฉันรู้ว่าเธอยังเหมือนไม่มั่นใจที่เรานั้นรักกัน มันจะดีหรือเลวร้ายจะจบแบบไหนกัน
เหมือนวันนี้เธออยากขอถ้อยคำที่ฟังแล้วยืนยัน... ว่าเราจะไปด้วยกันถึงเมื่อไหร่
ใจจริงเรื่องวันพรุ่งนี้เป็นอย่างไรก็ยังไม่แน่ใจ เมื่อขอบฟ้ายังเปลี่ยนสี โลกยังเปลี่ยนทุกวัน
เมื่อต้นยังมีล้ม ผืนดินยังเคยต้องแยกกัน กับวันพรุ่งนี้เป็นอย่างไร
ไม่สัญญาว่าฉันจะยืนจะเคียงข้างเธอได้นานเท่าไหร่ ก็ยังไม่มั่นใจ
แค่รู้ว่าทุกนาทีที่ตัวฉันเองยังอยู่ ก็รู้ว่าจะยืนอยู่ข้างๆเธอ
เวลาไม่ว่าจะเหลือสักเท่าไหร่ ก็อย่าไปสนใจ แค่วันนี้ที่เรามีจะอยู่เพื่อรักกัน
ให้ความรักนับจากนี้มันงดงามขึ้นทุกวัน เท่านี้ที่ฉันจะพอให้สัญญา
ไม่สัญญาว่าฉันจะยืนจะเคียงข้างเธอได้นานเท่าไหร่ ก็ยังไม่มั่นใจ
แค่รู้ว่าทุกนาทีที่ตัวฉันเองยังอยู่ ก็รู้ว่าจะยืนอยู่จะรักเธอและขอทำดีเพื่อเธอต่อไป
ทั้งหมดของหัวใจก็ยกให้เธอคนเดียวฉันยอมให้เธอทุกอย่าง เท่านี้ที่ฉันจะพอให้สัญญา
ไม่สัญญา.... “
คำบอกรักเสียงใสๆที่ผ่านเพลงทำร่างโปร่งยิ้มแก้มปริ... เพราะเมื่อเช้าเธอถามอีกฝ่ายว่ารักเธอไหม? คำตอบก็ได้กลับมาแค่ว่า ‘ไม่รู้’ ‘แล้วแต่จะคิด...’ คิดแล้วมันก็น่าน้อยใจ จะไปงอนก็ไม่ได้เพราะยังไม่พ้นกระทงเดิม... แต่แค่นี้ ได้แค่นี้ก็พอแล้ว...
[เมื่อตอนเช้า]
“ฟาง! รักเขาไหม?”ร่างโปร่งพูดเสียงอู้อี้ขณะยัดเบคอนเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย คำถามที่ทำให้เฟย์ต้องหัวเราะในลำคอ และทำให้คนถูกถามต้องสำลักน้ำที่กำลังดื่มอยู่... ใบหน้าหวานเบือนหันไปอีกทางพยายามที่จะเก็บอาการเอาไว้
‘รักมันพูดง่ายๆซะที่ไหนล่ะ’
“ไม่รู้สิ... เฟย์ พี่อิ่มแล้วฝากเก็บด้วยนะจ้ะ”พูดเสร็จสรรพ ร่างบางก็เดินจากไปไม่ปล่อยให้คนที่นั่งรอฟังคำตอบได้รั้งเอาไว้ นัยน์ตากรอกไปมาเพราะความปากแข็งของฟาง... ทั้งๆที่เมื่อคืนยังนอนกอดกันแท้ๆ เฟย์จ้องมองคนถามอย่างขบขัน ก็พี่สาวของเธอปากแข็งกว่าใครเลยล่ะ เรื่องนี้...
[ในรถ]
“ฟางจ๋า... รักเขาไหมอ่ะ?”
ร่างสูงที่พูดคำๆเดียวมาเกือบร้อยครั้ง แต่คำที่ได้คือการเปลี่ยนไปเรื่องอื่นไม่ก็การเงียบแทนคำตอบ... ตอนแรกที่ถามดีๆ แล้วก็เปลี่ยนมาขู่ แต่ก็ไม่ได้ผลสุดท้ายก็มาตกที่ลูกอ้อนเพียงแต่คนใจแข็งก็ยังเป็นคนใจแข็ง คนปากแข็งก็ยังเป็นคนปากแข็ง
“แล้วแต่จะคิด...”
ร่างบางตอบแล้วเฉทำไปคุยกับน้องสาวของตัวเอง ใบหน้าคมได้แต่บึ้ง แต่ทุกการแสดงออกอยู่ในสายตาของฟางเสมอ ริมฝีปากที่แสร้งนิ่งลอบคลี่ยิ้มหวานออกมาอย่างพึงพอใจ
...อย่างน้อยก็รู้ว่าแก้วอยากฟังคำว่า ‘รัก’ จากปากเธอ...
“เอ้า... สุดท้ายแล้วๆ แจม!”
“แจม... แจม!”เสียงตะโกนของคนรอบข้างทำให้คนที่นั่งเหม่อรู้สึกตัวพลางลุกเดินออกไปข้างหน้า ใบหน้าหวานมองไปยังฟางกับแก้วที่กำลังหยอกล้อกันอยู่...
ริมฝีปากเรียวเม้มแน่น พลางเปล่งเสียงออกมาเป็นท่วงทำนองแม้จะเป็นแค่ท่อนฮุก แต่ก็ทำให้คนที่นั่งฟังเสียงสันหลังวาบ
“ทางใดที่เธอจะมีความสุขกับเขา ทางนั้นจะมีฉันคอยกั้นกลาง
เธอเป็นดอกไม้ ฉันจะเป็นขวากหนาม ทิ่มแทง ที่เขาจงปวดใจ ที่เขาทิ้งเธอไป ที่เขาไม่รักเธอ”
TBC
...............
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น