ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter ::5::
[Fiction] quarrel
[Couple] Kaew X Fang Ft. Faye
[Author] Deep
[Warning] ระวัง... ระวัง
ทางเดินอันเงียบสงบ... จนดูน่ากลัว ร่างโปร่งกลืนน้ำลายลงคออาจจะเพราะความกลัว... บันไดที่เธอรู้สึกไปเองรึเปล่าว่ามันยาว... กว่าปกติ ใบหน้าคมและมือเริ่มมีเหงื่อซึมชื้นจนเธอรู้สึกได้ ขายาวค่อยๆก้าวลงอย่างระมัดระวัง แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างของใครบางคนที่คุ้นตาอยู่ขั้นสุดท้าย
‘ฟาง’
เธอตะโกนออกไปพลางวิ่งลงไปหาอีกคนอย่างรวดเร็ว... แต่ไม่ว่าจะวิ่งเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที วิ่งจนเหนื่อยกระทั่งเธอนั่งลงหอบแล้วค่อยๆเงยหน้าเพื่อจ้องมองไปยังคนที่ยืนหันหลัง
อยู่...
ร่างบางค่อยๆหันมา ใบหน้าหวานมีน้ำตาไหลพราก ซ้ำเธอยังรู้สึกเจ็บหน้าอก... ราวกับจะขาดอากาศหายใจตาย
“ฮะ!”
นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง ก่อนจะมองไปรอบๆห้อง... ร่างโปร่งผ่อนลมหายใจพลางยิ้มเล็กน้อยที่ริมฝีปาก พลางเช็ดเหงื่อตามใบหน้าของตน ‘ฝันร้าย’ โตขนาดนี้แล้วยังจะฝันร้ายอีก... วันนี้เธอมานอนค้างบ้านของสองพี่น้อง แต่ที่แปลกไปคือเธอ ขอออกมานอนที่โซฟาตัวยาว
เธอส่ายหน้าช้าๆพลางเดินลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อหวังที่ล้างหน้าและสงบสติอารมณ์... ไม่รู้ทำไมแค่เธอฝันแต่เธอกลับรู้สึกเจ็บที่หน้าอกซ้าย เจ็บราวจะขาดใจตาย มือแกร่งขยำเสื้อของตัวเองหวังจะระงับความเจ็บปวด... ของหัวใจ
...หรือมันไม่มีทางแก้ หรือเพราะนี่คือ การตอบแทนที่สาสม...
‘หึ’
ได้แค่หัวเราะในลำคอ ได้แค่ยิ้มสมเพชกับตัวเองเท่านั้น นี่จะการตอบแทนที่สมควร... มันสาสมแล้วที่ทำกับคนที่ตัวเองรักได้ลงคอ นัยน์ตาสีน้ำตาลหุบลงเพราะความเหนื่อยล้าหรือเพราะแค่น้ำตามันคลออยู่ที่เบ้า มือกร้านปาดน้ำตาอย่างลวกๆ พลางเปิดก๊อกน้ำให้ไหล
‘ตึก’
เสียงทำให้เธอต้องหันหลังกลับไปมอง ร่างโปร่งส่ายหน้า ‘ก็แค่หูฝาด’ มือแกร่งปิดก๊อกน้ำก่อนจะเดินออกมา ใบหน้าคมมองไปทั่วบริเวณ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นเงาบริเวญฝาผนัง หัวใจที่อัตราการเต้นเป็นปกติเริ่มเต้นแรงอีกครั้ง แรงเหมือนตอนอยู่ในฝัน
ริมฝีปากขยับหากแต่ไม่มีเสียง เม็ดเหงื่อเริ่มออกตามใบหน้าอีกครั้ง...
‘เพล้ง’
เสียงเหมือนแก้วแตกจากในครัวทำให้เธอสะดุ้งรู้สึกตัว ร่างโปร่งรีบวิ่งไปที่ครัว ก่อนจะพบคนที่อยู่ ‘ในฝัน’ ใบหน้าคมจ้องมองอย่างตกใจ... มือเรียวที่ตอนนี้มีเลือดออกเพราะเศษแก้วที่บาดมือ ใบหน้าของฟางเงยหน้าขึ้น “แก้ว...”
เธอถอนหายใจพลางสั่งให้อีกฝ่ายถอยไปห่างๆ พลางหยิบไม้กวาดกับที่โกยขยะมาจัดการเก็บกวาดเศษแก้วที่กระจายอยู่ตามพื้น พลางถามสาเหตุที่ฟางตื่นมาตอนดึกๆอย่างลืมตัว...
“มาทำอะไรกลางดึกฮะ? แถมยังทำแก้วแตกอีก”
“หาน้ำกิน... นอนไม่หลับฝันร้าย”คำตอบที่ทำให้เธอต้องสะดุ้งนิดๆ ‘ฝันร้าย’ เหมือนเธอ ใบหน้าคมหันมาชำเลืองคนตัวเล็กช้าๆ ใบหน้าของร่างบางที่ดวงตาบวมช้ำเพราะการร้องไห้ ทำให้เธอรู้สึกใจหาย... เพราะสิ่งที่ร่างบางเป็นอยู่แบบนี้ เพราะ ‘เธอ’
“แล้วแก้วล่ะ ทำไมตื่นมากลางดึก”
“อืม ฝันร้ายเหมือนเด็กบางคนที่ไม่ใช่เด็ก”คำตอบที่เล่นเอาฟางต้องส่งสายตาเคืองๆไปให้คนท
ี่จัดการกับเศษแก้วอยู่ “อ่ะ... กวาดเสร็จแล้ว ไปทำแผลกัน” ร่างโปร่งพูดพลางย่อลงตรงหน้าของคนตัวเล็ก ร่างบางทำหน้าสงสัยเล็กน้อย... “ขี่หลังไง ฟาง”
พูดจบ หน้าขาวๆก็เริ่มมีสีเรื่ออีกครั้ง แล้วลุกขึ้นขี่หลังของร่างสูงพลางซบหน้าลงที่หลังของคนตัวสูงกว่า ส่วนร่างสูงที่ถูกซบตอนนี้กำลังยิ้มกว้าง ถ้าใครเห็นก็คงจะหาว่าเธอบ้าเป็นแน่แท้ เมื่อพาร่างเล็กที่ดูเหมือนจะหนักกว่าวันอื่นมานั่งบนที่นอนกิตติมศักดิ์ของเธอ กล่องปฐมพยาบาลก็ถูกนำมาใช้งาน หลังจากที่หลายๆบ้านคงคิดว่าไร้ประโยชน์
มือของร่างโปร่งทำแผลอย่างระมัดระวัง... อย่างน้อยเมื่อก่อนที่ซ่าส์บ่อยๆก็เป็นประโยชน์ เมื่อพันแผลเสร็จแล้วร่างโปร่งก็จับมือของคนตัวเล็กแน่น จนคนที่นั่งอยู่ต้องเลิกคิ้วสงสัย แก้วหัวเราะพลางเป่าที่มือของร่างบาง
“ฟู่ว คาถาให้หายไวๆน่ะ”
คาถาที่เหมือนจะได้ผลเกินคาด เพราะกำไรที่ได้มาคือหน้าแดงๆของอีกฝ่ายที่ไม่รู้จะเก็บอาการเอาไปซ่อนไว้ที่ตรงไหน เธอหัวเราะอย่างอารมณ์ดี... พลางมือที่ไม่โดนแก้วบาดก็ฟาดลงมาเต็มๆแขนของเธอที่ได้แค่ลูบแขนของตัวเอง... “หัวเราะทำไมเล่า”
ฟางบ่นอุบอิบ แต่มันกลับดูน่ารักในสายตาของคนขี้แกล้งที่ดูเหมือนอยากจะแกล้งอีกสักรอบ
นัยน์ตาคู่คมจ้องมองอีกฝ่ายที่ตอนนี้หันกลับมามองเธอ ราวกับตกอยู่ในมนต์สะกดดวงตาของร่างสูงสะกดอีกฝ่ายไม่ให้ขยับไปไหน พลางค่อยๆเลื่อนใบหน้าโน้มลงไปสัมผัสริมฝีปากของอีกฝ่าย... เพียงแต่คราวนี้อ่อนหวานจนดูอ่อนโยน แขนเรียวจากที่ปล่อยทิ้งข้างตัวเลื่อนไปคล้องคอของคนเจ้าเล่ห์เอาไว้
ร่างบางที่ดูจะเก้ๆกังๆ กับเรื่องนี้ ทำให้ร่างโปร่งต้องหัวเราะในลำคอ ก่อนจะถอนริมฝีปากออกมา คนตัวเล็กที่นัยน์ตาปรือหวาน สร้างความขบขันเล็กให้คนตัวสูงที่ดูเหมือนจะได้กำไรมากกว่าเดิมหลายเท่า
ใบหน้าของคนตัวเล็กที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำจนเธอย่างจะแกล้งอีกสักรอบ เพียงแต่สงสารกลัวฟางจะไม่ได้หายใจเอาเสียก่อน “นอนเถอะ... พรุ่งนี้ว่าง” เธอพูดพลางจับอีกฝ่ายให้นอนลงด้วยกัน
คงเพราะโซฟาแคบ
คงเพราะอากาศหนาว
คงเพราะ... ต้องการไออุ่น
ที่ทำให้คนตัวยาวกอดร่างเล็กๆไว้แน่น ราวกับกลัวจะหายไป...
“แก้ว... คิดยังไงกับเขา?”เสียงแหบพร่าของฟางทำให้เธอต้องหัวเราะ... ‘สุดท้ายก็ลืมตัวจนได้’ สุดท้ายก็หนีไปไหนไม่พ้น หรือ... ตอนนี้เธอไม่คิดจะหนีกันแน่ “ก็อย่างที่ฟางคิดนั่นล่ะ Good night จ้ะ” คำกล่าวราตรีสวัสดิ์ ที่ทำให้คนตัวเล็กฝันดีกว่าคืนไหน...
...คงเพราะ มีแก้วล่ะมั้ง ที่ทำให้ฟางหลับฝันดี...
แสงแดดที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบเปลือกตาให้คนตัวสูงขี้เซาต้องมองไปรอบห้อง พลางก้มลงมองที่วงแขนของตัวเองที่มีคนตัวเล็กหลับอยู่ เสียงของลมหายใจอุ่นที่เป็นจังหวะสร้างรอยยิ้มอันสดใสให้แก่เช้านี้ของแก้ว เธอค่อยๆขยับตัวออกมาจากคนตัวเล็ก พลางจัดการห่มผ้าให้... หวังให้เช้านี้ก็เป็นเช้าที่อบอุ่นของฟาง
‘ซ่า’
เสียงน้ำไหลทำให้คนที่อยู่ใกล้ผ้าห่มลืมตาขึ้นมา พลางขยี้ตาเบาๆ ใบหน้าหวานที่กดคิ้วเล็กน้อยเพราะความเจ็บของมือ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองไปที่ผ้าพันแผลที่มีเลือดซึมเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มให้กับมัน... ‘ไม่ได้ฝันไป’ ทุกอย่างที่เกินขึ้นเป็นเรื่องจริง
“อรุณสวัสดิ์”
เสียงที่คุ้นเคยเรียกให้เธอหันไปมอง ใบหน้าสวยติดหล่อยิ้มเล็กๆพลางเกาหัวแก้เขิน จนเธออดที่จะขำออกมาไม่ได้ ร่างโปร่งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้ได้แต่หน้าแดงลามไปถึงใบหู พลางขยับริมฝีปากถาม “ยังเจ็บมือรึเปล่า”
เธอส่ายหน้าก่อนจะทิ้งท้ายประโยคที่ทำให้ร่างสูงต้องหน้าแดงเป็นครั้งสองของวัน...
“อรุณสวัสดิ์... เมื่อคืนอุ่นจัง”
“ชอบ... เฮ้อ!”
เด็กสาวเอยลอยๆทำให้คนที่นั่งมองอยู่ข้างๆต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย... ใบหน้าหวานที่ไม่มีแววจะชอบใครตอนนี้กลับดูเพ้อและล่องลอยไปไหนต่อไหน... เพียงเพราะ ‘คนๆนั้น’
“ขนาดนั้นเชียว”
“ก็... อื้ม”คนที่มาด้วยกันถอนหายใจ พลางเรียกให้พนักงานเก็บตังค์ค่าอาหาร แต่คนที่อยู่ในอาการเพ้อมาวันสองวันก็ยังไม่รู้สึกตัว จนอีกฝ่ายต้องตะโกนเพราะความหมั่นไส้ “จะตื่นได้รึยัง ฝันกลางวันอยู่นั่นล่ะ”
‘หวาย’ พูดอย่างหมดความอดทนหลังจากที่มากับเพื่อนในค่ายอย่าง ‘แจม’ ที่ตอนนี้กำลังเพ้อถึงใครคนนั้นที่ไม่ยอมบอกสักทีว่าใคร แจมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหยิบเงินขึ้นมาวางไว้แล้วบ่นออกมาอีกครั้งให้หวายได้เบื่อกั
นไปข้าง
“ชอบจริงๆนะ”
“แล้วทำไมไม่บอกล่ะ บ่นอยู่ได้”ร่างบางเม้มปากแน่นเพราะความไม่พอใจ แน่ล่ะเพราะแจมบ่นตลอดเวลาไม่ว่าจะก่อนออกจากบ้านหรือตอนเที่ยวตอนดูหนังและเมื่อสัก
ครู่ สุดท้ายที่เธอพยายามเก็บอารมณ์ก็หมดความอดทนจนได้...
“ก็... มันอายนิ”ว่าจบหน้าของสาวน้อยก็แดงก่ำไปถึงใบหู หวายได้แต่ถอนหายใจ... และคิ้วขวาของเธอก็กระตุกอีกคนได้ หัวใจที่เต้นอยู่เป็นปกติ เมื่อกลับรู้สึกแปลก... เหมือนกับใจหาย
หวังว่าลางสังหรณ์คงไม่ตรงอีกนะ หวาย...
“ขอโทษนะ... ที่ทำตัวแย่ๆ”
“อืม... ช่างมันเถอะ”
“ดีแล้ว เบื่อที่จะเป็นคนกลางจริงๆ วันๆก็เอาแต่ทะเลาะกัน”
เฟย์ว่าจบก็โดนมะเหงกจากเพื่อนสาวสุดห้าวเข้าไปหนึ่งดอกเต็มๆ ฟางส่งสายตาเคืองๆไปให้คนตัวดีที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แถมยังแอบขำอีกต่างหาก แต่สุดท้ายทั้งสองคนก็หัวเราะออกมา ส่วนเฟย์ก็ได้แต่ปลง...
‘ติ๊ด... ติ๊ด’
เสียงเมสเสจดังขึ้นจากโทรศัพท์ของทั้งสามคน ตัวอักษรในหน้าจอเหมือนกันทุกประการ
...พรุ่งนี้สิบเอ็ดโมง ซ้อมรวม...
TBC
...............................................
[Couple] Kaew X Fang Ft. Faye
[Author] Deep
[Warning] ระวัง... ระวัง
ทางเดินอันเงียบสงบ... จนดูน่ากลัว ร่างโปร่งกลืนน้ำลายลงคออาจจะเพราะความกลัว... บันไดที่เธอรู้สึกไปเองรึเปล่าว่ามันยาว... กว่าปกติ ใบหน้าคมและมือเริ่มมีเหงื่อซึมชื้นจนเธอรู้สึกได้ ขายาวค่อยๆก้าวลงอย่างระมัดระวัง แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างของใครบางคนที่คุ้นตาอยู่ขั้นสุดท้าย
‘ฟาง’
เธอตะโกนออกไปพลางวิ่งลงไปหาอีกคนอย่างรวดเร็ว... แต่ไม่ว่าจะวิ่งเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที วิ่งจนเหนื่อยกระทั่งเธอนั่งลงหอบแล้วค่อยๆเงยหน้าเพื่อจ้องมองไปยังคนที่ยืนหันหลัง
อยู่...
ร่างบางค่อยๆหันมา ใบหน้าหวานมีน้ำตาไหลพราก ซ้ำเธอยังรู้สึกเจ็บหน้าอก... ราวกับจะขาดอากาศหายใจตาย
“ฮะ!”
นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกกว้าง ก่อนจะมองไปรอบๆห้อง... ร่างโปร่งผ่อนลมหายใจพลางยิ้มเล็กน้อยที่ริมฝีปาก พลางเช็ดเหงื่อตามใบหน้าของตน ‘ฝันร้าย’ โตขนาดนี้แล้วยังจะฝันร้ายอีก... วันนี้เธอมานอนค้างบ้านของสองพี่น้อง แต่ที่แปลกไปคือเธอ ขอออกมานอนที่โซฟาตัวยาว
เธอส่ายหน้าช้าๆพลางเดินลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อหวังที่ล้างหน้าและสงบสติอารมณ์... ไม่รู้ทำไมแค่เธอฝันแต่เธอกลับรู้สึกเจ็บที่หน้าอกซ้าย เจ็บราวจะขาดใจตาย มือแกร่งขยำเสื้อของตัวเองหวังจะระงับความเจ็บปวด... ของหัวใจ
...หรือมันไม่มีทางแก้ หรือเพราะนี่คือ การตอบแทนที่สาสม...
‘หึ’
ได้แค่หัวเราะในลำคอ ได้แค่ยิ้มสมเพชกับตัวเองเท่านั้น นี่จะการตอบแทนที่สมควร... มันสาสมแล้วที่ทำกับคนที่ตัวเองรักได้ลงคอ นัยน์ตาสีน้ำตาลหุบลงเพราะความเหนื่อยล้าหรือเพราะแค่น้ำตามันคลออยู่ที่เบ้า มือกร้านปาดน้ำตาอย่างลวกๆ พลางเปิดก๊อกน้ำให้ไหล
‘ตึก’
เสียงทำให้เธอต้องหันหลังกลับไปมอง ร่างโปร่งส่ายหน้า ‘ก็แค่หูฝาด’ มือแกร่งปิดก๊อกน้ำก่อนจะเดินออกมา ใบหน้าคมมองไปทั่วบริเวณ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นเงาบริเวญฝาผนัง หัวใจที่อัตราการเต้นเป็นปกติเริ่มเต้นแรงอีกครั้ง แรงเหมือนตอนอยู่ในฝัน
ริมฝีปากขยับหากแต่ไม่มีเสียง เม็ดเหงื่อเริ่มออกตามใบหน้าอีกครั้ง...
‘เพล้ง’
เสียงเหมือนแก้วแตกจากในครัวทำให้เธอสะดุ้งรู้สึกตัว ร่างโปร่งรีบวิ่งไปที่ครัว ก่อนจะพบคนที่อยู่ ‘ในฝัน’ ใบหน้าคมจ้องมองอย่างตกใจ... มือเรียวที่ตอนนี้มีเลือดออกเพราะเศษแก้วที่บาดมือ ใบหน้าของฟางเงยหน้าขึ้น “แก้ว...”
เธอถอนหายใจพลางสั่งให้อีกฝ่ายถอยไปห่างๆ พลางหยิบไม้กวาดกับที่โกยขยะมาจัดการเก็บกวาดเศษแก้วที่กระจายอยู่ตามพื้น พลางถามสาเหตุที่ฟางตื่นมาตอนดึกๆอย่างลืมตัว...
“มาทำอะไรกลางดึกฮะ? แถมยังทำแก้วแตกอีก”
“หาน้ำกิน... นอนไม่หลับฝันร้าย”คำตอบที่ทำให้เธอต้องสะดุ้งนิดๆ ‘ฝันร้าย’ เหมือนเธอ ใบหน้าคมหันมาชำเลืองคนตัวเล็กช้าๆ ใบหน้าของร่างบางที่ดวงตาบวมช้ำเพราะการร้องไห้ ทำให้เธอรู้สึกใจหาย... เพราะสิ่งที่ร่างบางเป็นอยู่แบบนี้ เพราะ ‘เธอ’
“แล้วแก้วล่ะ ทำไมตื่นมากลางดึก”
“อืม ฝันร้ายเหมือนเด็กบางคนที่ไม่ใช่เด็ก”คำตอบที่เล่นเอาฟางต้องส่งสายตาเคืองๆไปให้คนท
ี่จัดการกับเศษแก้วอยู่ “อ่ะ... กวาดเสร็จแล้ว ไปทำแผลกัน” ร่างโปร่งพูดพลางย่อลงตรงหน้าของคนตัวเล็ก ร่างบางทำหน้าสงสัยเล็กน้อย... “ขี่หลังไง ฟาง”
พูดจบ หน้าขาวๆก็เริ่มมีสีเรื่ออีกครั้ง แล้วลุกขึ้นขี่หลังของร่างสูงพลางซบหน้าลงที่หลังของคนตัวสูงกว่า ส่วนร่างสูงที่ถูกซบตอนนี้กำลังยิ้มกว้าง ถ้าใครเห็นก็คงจะหาว่าเธอบ้าเป็นแน่แท้ เมื่อพาร่างเล็กที่ดูเหมือนจะหนักกว่าวันอื่นมานั่งบนที่นอนกิตติมศักดิ์ของเธอ กล่องปฐมพยาบาลก็ถูกนำมาใช้งาน หลังจากที่หลายๆบ้านคงคิดว่าไร้ประโยชน์
มือของร่างโปร่งทำแผลอย่างระมัดระวัง... อย่างน้อยเมื่อก่อนที่ซ่าส์บ่อยๆก็เป็นประโยชน์ เมื่อพันแผลเสร็จแล้วร่างโปร่งก็จับมือของคนตัวเล็กแน่น จนคนที่นั่งอยู่ต้องเลิกคิ้วสงสัย แก้วหัวเราะพลางเป่าที่มือของร่างบาง
“ฟู่ว คาถาให้หายไวๆน่ะ”
คาถาที่เหมือนจะได้ผลเกินคาด เพราะกำไรที่ได้มาคือหน้าแดงๆของอีกฝ่ายที่ไม่รู้จะเก็บอาการเอาไปซ่อนไว้ที่ตรงไหน เธอหัวเราะอย่างอารมณ์ดี... พลางมือที่ไม่โดนแก้วบาดก็ฟาดลงมาเต็มๆแขนของเธอที่ได้แค่ลูบแขนของตัวเอง... “หัวเราะทำไมเล่า”
ฟางบ่นอุบอิบ แต่มันกลับดูน่ารักในสายตาของคนขี้แกล้งที่ดูเหมือนอยากจะแกล้งอีกสักรอบ
นัยน์ตาคู่คมจ้องมองอีกฝ่ายที่ตอนนี้หันกลับมามองเธอ ราวกับตกอยู่ในมนต์สะกดดวงตาของร่างสูงสะกดอีกฝ่ายไม่ให้ขยับไปไหน พลางค่อยๆเลื่อนใบหน้าโน้มลงไปสัมผัสริมฝีปากของอีกฝ่าย... เพียงแต่คราวนี้อ่อนหวานจนดูอ่อนโยน แขนเรียวจากที่ปล่อยทิ้งข้างตัวเลื่อนไปคล้องคอของคนเจ้าเล่ห์เอาไว้
ร่างบางที่ดูจะเก้ๆกังๆ กับเรื่องนี้ ทำให้ร่างโปร่งต้องหัวเราะในลำคอ ก่อนจะถอนริมฝีปากออกมา คนตัวเล็กที่นัยน์ตาปรือหวาน สร้างความขบขันเล็กให้คนตัวสูงที่ดูเหมือนจะได้กำไรมากกว่าเดิมหลายเท่า
ใบหน้าของคนตัวเล็กที่ตอนนี้หน้าแดงก่ำจนเธอย่างจะแกล้งอีกสักรอบ เพียงแต่สงสารกลัวฟางจะไม่ได้หายใจเอาเสียก่อน “นอนเถอะ... พรุ่งนี้ว่าง” เธอพูดพลางจับอีกฝ่ายให้นอนลงด้วยกัน
คงเพราะโซฟาแคบ
คงเพราะอากาศหนาว
คงเพราะ... ต้องการไออุ่น
ที่ทำให้คนตัวยาวกอดร่างเล็กๆไว้แน่น ราวกับกลัวจะหายไป...
“แก้ว... คิดยังไงกับเขา?”เสียงแหบพร่าของฟางทำให้เธอต้องหัวเราะ... ‘สุดท้ายก็ลืมตัวจนได้’ สุดท้ายก็หนีไปไหนไม่พ้น หรือ... ตอนนี้เธอไม่คิดจะหนีกันแน่ “ก็อย่างที่ฟางคิดนั่นล่ะ Good night จ้ะ” คำกล่าวราตรีสวัสดิ์ ที่ทำให้คนตัวเล็กฝันดีกว่าคืนไหน...
...คงเพราะ มีแก้วล่ะมั้ง ที่ทำให้ฟางหลับฝันดี...
แสงแดดที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบเปลือกตาให้คนตัวสูงขี้เซาต้องมองไปรอบห้อง พลางก้มลงมองที่วงแขนของตัวเองที่มีคนตัวเล็กหลับอยู่ เสียงของลมหายใจอุ่นที่เป็นจังหวะสร้างรอยยิ้มอันสดใสให้แก่เช้านี้ของแก้ว เธอค่อยๆขยับตัวออกมาจากคนตัวเล็ก พลางจัดการห่มผ้าให้... หวังให้เช้านี้ก็เป็นเช้าที่อบอุ่นของฟาง
‘ซ่า’
เสียงน้ำไหลทำให้คนที่อยู่ใกล้ผ้าห่มลืมตาขึ้นมา พลางขยี้ตาเบาๆ ใบหน้าหวานที่กดคิ้วเล็กน้อยเพราะความเจ็บของมือ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองไปที่ผ้าพันแผลที่มีเลือดซึมเล็กน้อย ก่อนที่จะยิ้มให้กับมัน... ‘ไม่ได้ฝันไป’ ทุกอย่างที่เกินขึ้นเป็นเรื่องจริง
“อรุณสวัสดิ์”
เสียงที่คุ้นเคยเรียกให้เธอหันไปมอง ใบหน้าสวยติดหล่อยิ้มเล็กๆพลางเกาหัวแก้เขิน จนเธออดที่จะขำออกมาไม่ได้ ร่างโปร่งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้ได้แต่หน้าแดงลามไปถึงใบหู พลางขยับริมฝีปากถาม “ยังเจ็บมือรึเปล่า”
เธอส่ายหน้าก่อนจะทิ้งท้ายประโยคที่ทำให้ร่างสูงต้องหน้าแดงเป็นครั้งสองของวัน...
“อรุณสวัสดิ์... เมื่อคืนอุ่นจัง”
“ชอบ... เฮ้อ!”
เด็กสาวเอยลอยๆทำให้คนที่นั่งมองอยู่ข้างๆต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย... ใบหน้าหวานที่ไม่มีแววจะชอบใครตอนนี้กลับดูเพ้อและล่องลอยไปไหนต่อไหน... เพียงเพราะ ‘คนๆนั้น’
“ขนาดนั้นเชียว”
“ก็... อื้ม”คนที่มาด้วยกันถอนหายใจ พลางเรียกให้พนักงานเก็บตังค์ค่าอาหาร แต่คนที่อยู่ในอาการเพ้อมาวันสองวันก็ยังไม่รู้สึกตัว จนอีกฝ่ายต้องตะโกนเพราะความหมั่นไส้ “จะตื่นได้รึยัง ฝันกลางวันอยู่นั่นล่ะ”
‘หวาย’ พูดอย่างหมดความอดทนหลังจากที่มากับเพื่อนในค่ายอย่าง ‘แจม’ ที่ตอนนี้กำลังเพ้อถึงใครคนนั้นที่ไม่ยอมบอกสักทีว่าใคร แจมสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหยิบเงินขึ้นมาวางไว้แล้วบ่นออกมาอีกครั้งให้หวายได้เบื่อกั
นไปข้าง
“ชอบจริงๆนะ”
“แล้วทำไมไม่บอกล่ะ บ่นอยู่ได้”ร่างบางเม้มปากแน่นเพราะความไม่พอใจ แน่ล่ะเพราะแจมบ่นตลอดเวลาไม่ว่าจะก่อนออกจากบ้านหรือตอนเที่ยวตอนดูหนังและเมื่อสัก
ครู่ สุดท้ายที่เธอพยายามเก็บอารมณ์ก็หมดความอดทนจนได้...
“ก็... มันอายนิ”ว่าจบหน้าของสาวน้อยก็แดงก่ำไปถึงใบหู หวายได้แต่ถอนหายใจ... และคิ้วขวาของเธอก็กระตุกอีกคนได้ หัวใจที่เต้นอยู่เป็นปกติ เมื่อกลับรู้สึกแปลก... เหมือนกับใจหาย
หวังว่าลางสังหรณ์คงไม่ตรงอีกนะ หวาย...
“ขอโทษนะ... ที่ทำตัวแย่ๆ”
“อืม... ช่างมันเถอะ”
“ดีแล้ว เบื่อที่จะเป็นคนกลางจริงๆ วันๆก็เอาแต่ทะเลาะกัน”
เฟย์ว่าจบก็โดนมะเหงกจากเพื่อนสาวสุดห้าวเข้าไปหนึ่งดอกเต็มๆ ฟางส่งสายตาเคืองๆไปให้คนตัวดีที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แถมยังแอบขำอีกต่างหาก แต่สุดท้ายทั้งสองคนก็หัวเราะออกมา ส่วนเฟย์ก็ได้แต่ปลง...
‘ติ๊ด... ติ๊ด’
เสียงเมสเสจดังขึ้นจากโทรศัพท์ของทั้งสามคน ตัวอักษรในหน้าจอเหมือนกันทุกประการ
...พรุ่งนี้สิบเอ็ดโมง ซ้อมรวม...
TBC
...............................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น