ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fan Fiction] Quarrel

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter ::4::

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 51


    [Fiction] quarrel
    [Couple] Kaew X Fang Ft. Faye
    [Author] Deep
    [Warning] ระวัง... ระวัง







    ริมฝีปากหนาไล้ไปตามใบหูและนวลแก้ม... ก่อนจะประทับลงที่เดียวกัน ลิ้นร้อนแทรกผ่านกลีบปากบาง ลอบเอาหวานจากโพรงปากของอีกฝ่ายที่ครางอย่างลืมตัวแม้ว่าจะไร้สติ ร่างโปร่งยิ้มหวานก่อนจะกดริมฝีปากลงอีกครั้งและหนักหน่วงมากขึ้น...














    นัยน์ตาสีน้ำตาลเบิกขึ้นพลางกวาดสายตามองไปรอบรถ มือเรียวค่อยๆยันตัวให้กลับมาอยู่ในสภาพนั่ง ภาพที่เห็นคือ... ทุกคนกำลังหลับไม่เว้นแม้แต่ ‘ร่างโปร่ง’ ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะหลับสนิทไปไหนต่อไหน เธอส่ายหน้าไปมาก่อนจะเอนเบาะอีกครั้ง เพราะความมึน...

    ‘ไข้สามสิบแปดองศา’ ทำให้คนเป็นขนาดนี้เชียว?

    เธอข่มตาให้หลับลงอีกครั้ง เพียงแต่บางอย่างทำให้เธอรู้สึกผิดแปลกไป... นิ้วเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากอย่างลืมตัว สัมผัสที่ดูคุ้นเคย... คุ้นมาก ปลายลิ้นไล้ไปตามเรียวปาก... ความรู้สึกเหมือน ‘เมื่อวาน’

    ศีรษะได้รูปส่ายไปมาไล่ความคิดของตัวเองออกไป ‘ไม่มีทาง’ เพราะคนที่เธอนึกถึงก็กำลังหลับอยู่ข้างๆน้องสาวของเธอ หรือเธอแค่คิดไปเองเท่านั้น... ฟางถอนหายใจ ‘ก็ได้แต่ทำใจให้ไม่คิดฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้’











    “เฮ้ย! แบบนี้ไม่ดีมั้ง...”

    “ใช่! พี่ฟางไปนอนพักไป”

    “ไม่สบายแล้วยังจะถ่วงอีก”

    หลายเสียงที่ไล่เธอไปพัก แต่เธอกลับใส่ใจกับสองเสียงสุดท้ายมากกว่าใครอื่น... เฟย์กำลังมองเธอด้วยสายตาอ้อนวอน ส่วนอีกคน... เบือนหน้าหนีแถมยังมีการส่งสายตาเคืองๆมาให้เธออีก ‘แล้วนี่เธอทำอะไรผิดอีกล่ะ’

    “ไม่เป็นไรไหวน่า... ไหวจริงๆนะ”เธอพูดแม้ว่าหัวของเธอจะหนักอึ้ง เหงื่อจะไหลออกตามใบหน้ามากกว่าปกติ เรียกให้นัยน์ตาของเฟย์กรอกไปมา แล้วผลักให้คนที่มีไข้เอนไปพิงพนักของเก้าอี้พลางเอามือท่าบที่หน้าผากของอีกฝ่าย... “ไข้ก็... ลดลงแล้วนิ นอนพักอีกหน่อยน่าพี่ฟาง จะได้ทำงานไง” ร่างบางพยักหน้าก่อนที่เฟย์จะปล่อยให้อีกฝ่ายได้อยู่เงียบๆ

    เธอยื่นมือออกมามอง.. ความร้อนที่ยังรู้สึกได้เมื่อสักครู่ หน้าผากของพี่สาวที่เมื่อเช้าเธอว่าร้อน ตอนนี้...มันกลับร้อนยิ่งกว่าเดิมอีก เฟย์สะบัดมือเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในฉากเพื่อสมทบกับคน ‘ไร้เหตุผล’ ที่ยืนเก็กรออยู่

    จนเธออดที่หมั่นไส้ไม่ได้... ตั้งแต่เรื่องของพี่ฟาง แจม... แถมยังมีข่าวกับหวาย คิดแล้วก็นึกอยากจะบีบคอคนข้างๆที่ทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว ซ้ำตอนนี้ยังทำร้ายพี่สาวของเธออีก ในสมองของเธอตอนนี้มีทั้งแผนฆ่าหมกป่า เอามีดปาดคอ... จับถ่วงน้ำ และอีกสารพัดที่จะนึกได้ แต่ก็รู้ดีว่า... ทำไม่ลง

    “มองอะไร เห็นมองอยู่นานแล้วนะ”

    ร่างสูงโปร่งกระซิบขณะที่กำลังเดินไปอีกฉากให้ช่างภาพได้ถ่ายรูปอีกเซ็ท นัยน์ตากลมโตชำเลืองนิดๆก่อนจะตอบอย่างอ้อมแอ้ม “เปล่า!!ก็แค่... คิดจะฆ่าก็เท่านั้น”เฟย์พูดแต่ประโยคข้างท้ายกลับลดเสียงลงอย่างกระทันหัน จนแก้วต้องหันกลับมาถามอีกรอบ“อะไรนะ?”

    “ก็บอกแล้วว่าเปล่า จะเดินไปได้รึยัง!”เฟย์พูดพลางดันตัวคนที่สูงร้อยเจ็ดสิบให้เดินไปก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก... จะหูดีไปไหนนะ... จริญญา ศิริมงคลสกุล แก้ว... เธอคิดอะไรอยู่ทำอะไรอยู่ แต่อย่างน้อยช่วยให้มันดีกว่านี้ได้ไหม?

    “แก้ว... เขาขอร้อง ทำอะไรลงไป ขอล่ะ...”น้ำเสียงแปร่งๆของเฟย์ทำให้ร่างโปร่งต้องหยุดเดิน นัยน์คมชำเลืองหันมามองคนที่อยู่ข้างหลังเธอ แค่แวบเดียวเท่านั้นที่เฟย์เห็นความหวั่นไหวในดวงตาของอีกฝ่ายก่อนที่มันจะเปลี่ยนกล
    ับเป็นแววตาที่ว่างเปล่า “ขอไปน่ะ ไม่รับปาก... เขาไม่สัญญา เพราะคำสัญญามันก็แค่... ลมปาก”

    “ก็ใครบอกให้สัญญา... ขอล่ะเขาทนไม่ได้หรอกนะที่จะเห็นพี่สาวของตัวเอง เจ็บ”

    “หึ... ในสายตาของเฟย์เขามันก็... คนเห็นแก่ตัว”

    “ไม่รู้เหมือนกัน... ทุกคนมักจะมีเหตุผลและการกระทำของตัวเอง มันแล้วแต่คนจะมอง”คำกล่าวที่ทำให้แก้วต้องหัวเราะเบาๆในลำคอ พลางโคลงหัวไปมา ริมฝีปากเรียวคลี่ยิ้มอาบยาพิษ “ใช่! มันก็แล้วแต่เฟย์จะคิดว่าจะเชื่อใจเขาได้สักเท่าไหร่”



    ...ใช่ มันก็แล้วแต่เธอจะคิดนะเฟย์ คนเรามักมีการกระทำและเหตุผลที่ต่างกัน ฉันก็มีทางเดินของฉัน เราต่างคนต่างทางเดินและความคิด...


    ความเงียบเป็นคำตอบของทุกอย่าง ร่างบางกว่าเดินผ่านคนตัวสูงแต่ก็ไม่ลืมทิ้งท้ายคำพูดให้อีกฝ่ายได้คิด... ใบหน้าคมขมวดคิ้วกับคำพูดของคนตัวเล็กอย่างติดใจกับคำพูดที่ดูกึ่งเหมือนคำถามเสียมา
    กกว่า... คำกล่าวที่เจ็บถึงหัวใจของคนฟัง








    “คิดว่า... พี่ฟาง รู้สึกยังไงกับเธอล่ะแก้ว”











    “อืม...”

    เสียงละเมอของคนตัวเล็กที่ดูเหมือนจะเพ้อเพราะพิษไข้ เรียกให้ร่างสูงหันหน้าไปมองขณะนั่งพักรอเฟย์ถ่ายรูปเสร็จ... เธอส่ายหน้า ‘คิดว่า... พี่ฟางรู้สึกยังไงกับเธอล่ะแก้ว’ ความคิดที่มักจะโผล่ขึ้นมาบ่อยๆแม้ว่ามันจะได้มากเลย แทบจะนับคำได้ แต่ว่าตอนนี้มันกลับดังก้องในหัวของเธอ ‘แย่จริงๆ’

    “อ่า... ร้อน”คนตัวเล็กที่ครางออกมาอีกครั้ง ทำให้เธอต้องหันกลับไปดูอย่างเป็นห่วง ใบหน้าหวานของร่างบางที่เหงื่อ ออกมากกว่าเดิม ริมฝีปากเรียวเม้มแน่นก่อนจะตัดสินใจกระซิยกับทีมงานว่าขอตัว... ไปดูแลคนป่วยก่อน

    ผ้าเช็ดหน้าของเธอที่ตอนนี้เปียกหมาดๆเพราะน้ำที่เพิ่งถูกบีบไล่ออกไป สัมผัสใบหน้าของฟางอย่างแผ่วเบา ‘ยาก็ไม่กิน... แถมยังมาทำงานอีก’ ร่างโปร่งคิดในใจแต่ก็ยังเช็ดหน้าให้อีกฝ่ายต่อไป ความร้อนค่อยๆลดลงแต่ก็ยังมีพิษไข้อยู่ดี... “เขาทำให้ฟางได้แค่นี้ล่ะ” เธอเอ่ย พลางเกาหัวแก้เขินก่อนจะจ้องไปที่ใบหน้าของคนป่วยที่หลับตาพริ้ม

    ริมฝีปากบางเผยอเล็กน้อยคงเป็นเพราะความร้อนคงทำให้ร่างเล็กหอบออกมา แต่จะรู้ไหมในสายตาของคนที่ยืนมองอยู่มันเซ็กซี่ขนาดไหน? เม็ดเหงื่อเริ่มไหลตามมือของร่างโปร่ง ใบหน้าคมคายค่อยๆเลื่อนลงไปใกล้ใบหน้าของอีกฝ่าย... เพียงแต่ก่อนที่ริมฝีปากจะประทับ “แก้ว...”

    ใบหน้าหวานที่อยู่ๆก็ลืมตาขึ้นมามองเพราะรู้สึกถึงลมหายใจของใครอีกคน... จากนัยน์ตาที่อ่อนโยนเริ่มกลับมาแข็งกระด้างอีกครา แต่ก็เป็นเหมือนมนต์สะกดให้ฟางหยุดนิ่งไม่กล้าขยับไปไหน ลมหายใจอุ่นๆรดต้นคอเริ่มทำให้ใบหน้าของสาวหวานขึ้นสีเรื่อ จนร่างโปร่งที่ยืนหน้านิ่งอดที่จะหัวเราะในใจไม่ได้

    “เขาช่วยแบ่งไข้เอาไหม? จะได้หายไวๆ”ไม่ทันได้รอคำตอบ ริมฝีปากเรียวก็ประทับลงที่เดียวกันกับของอีกฝ่าย คราวนี้ไม่ใช่แค่ปากประกบปากเพราะมันลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น ลิ้นชื้นเข้าตวัดรัดรึงความหอมหวานหลังกลีบปากถูกครอบครองโดยไม่ทันให้ตั้งตัว คนถูกกระทำพยายามปิดกั้นไม่ให้ถูกล่วงล้ำไปมากกว่านี้ หากแต่ใบหน้ากลับถูกมือแกร่งบีบให้ปากเผยอกว้าง

    “อะ..อื้อ”ร่างบางครางออกมาอย่างลืมตัว ก่อนที่คนกระทำจะผละริมฝีปากออกมา แล้วยืนยิ้มเย้ยราวกับได้ชัยชนะ ร่างบางที่มักจะก้มหน้านิ่งเริ่มมีน้ำตาคลออีกครั้ง ใบหน้าหวานค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองคนที่ล่วงล้ำริมฝีปากเธอคนแรก...


    “ทำแบบนี้ทำไม... ทำ ทำไม!!”

    ฟางตะโกนอย่างหมดความอดทน มือเรียววาดไปที่ใบหน้าของอีกฝ่าย เสียงตบดังไปทั่วห้องสตูดิโอจนผู้คนทั้งหมดหันมามองอย่างตกใจ ใบหน้าของแก้วที่พลิกไปอีกทางเพราะแรงตบ... กับคนป่วยที่ตอนนี้ยืนหอบหายใจถี่แล้วทรุดลงนั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง

    ร่างโปร่งหันมามองหน้าของอีกฝ่ายอย่างไม่ยี่หระ แถมยังส่งยิ้มเย้ยให้อีกรอบ “ตบแรงดีนิ... ถือว่านี่เป็นคำชมก็แล้วกันนะ หึหึ” แก้วพูดพลางเช็ดเลือดที่ออกตามมุมปากเล่นเอาสไตล์ลิสทั้งหลายต้องดึงตัวสาวเท่ไปแต่ง
    หน้าโปะแป้งใหม่อีกรอบ ส่วนสาวหน้าหวานวันนี้ก็คงอดที่จะได้ถ่ายรูปเพราะดูท่าไข้สามสิบแปดองศาจะไม่ได้ลดเอ
    าซะเลย

    “พี่ตบหน้าแก้วทำไมล่ะ?”น้ำเสียงอ่อนๆของเฟย์ทำให้เธอดูจะลดอาการโมโหลงได้บ้าง เธอไม่เคยเจอใครทำแบบนี้มาก่อนและไม่คิดว่าเพื่อนสนิทของตัวเองจะทำแบบนี้... แม้ว่าจะเป็น... คนที่ตัวเองแอบรักก็ตามที มือเรียวกำแน่น ร่างบอบบางสั่นไหวเพราะความโกรธ

    ”พี่ไม่รู้!!”

    คนกลางอย่างเฟย์ก็ได้แต่กัดปากของตัวเองแน่น... คำขอร้องของเพื่อนอย่างเธอสำหรับแก้วเห็นมันเป็นอะไร ทุกอย่างที่แก้วทำไปมันก็ได้แต่บั่นทอนความสัมพันธ์ของเราสามคนลงไปทุกที ไหนล่ะเคยบอกว่า ‘รัก’ พี่สาวของเธอไง แล้วสิ่งที่ทำอยู่มันเรียกว่าอะไร?
    ...แล้วเมื่อไหร่เรื่องบ้าๆ แบบนี้จะยุติสักที เมื่อไหร่กัน?...












    “ขอโทษ... ขอโทษนะ”

    น้ำเสียงอ่อนแรงที่กระซิบข้างใบหูของคนที่หลับตาพริ้มอยู่ ใบหน้าหวานที่เปื้อนคราบน้ำตาทำให้เธอรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป... คำขอโทษมันอาจจะไม่พอแต่ก็ขอให้ให้ได้พูด แม้ว่าคนที่อยากให้ได้ฟังจะไม่ได้ยินก็ตาม

    มือแกร่งไล้ไปตามใบหน้าก่อนจะโน้มใบหน้าลงประทับริมฝีปากอีกครั้ง หากแต่คราวนี้มันกลับอ่อนหวานไม่รุนแรงเหมือนคราวไหน “สำหรับคำขอโทษ” ร่างโปร่งกระซิบคำสุดท้ายก่อนจะอาศัยจังหวะเงียบๆกลับไปนั่งที่เดิม













    ...ปล่อยให้ไออุ่นอันคงคละคลุ้งลอยอยู่ในอากาศ แม้ว่าความหอมหวานจะจากไป...














    TBC
    ........................
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×