คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Chapter ::17::
[Fiction] quarrel
[Couple] Kaew X Fang
[Author] Deep
[Warning] ระวัง... ระวัง
‘Tru
Tu Tu’
โทรศัพท์เครื่องเล็กที่ดังสั่นตลอดทั้งวันโดยที่เจ้าของเครื่องไม่อยากจะมองหรือยกขึ้นมาดูว่าเป็นเบอร์ใครบ้าง สายมิสคอลเกือบร้อยมาจาก ‘คนรักเก่า’ ทั้งหมดที่โทรมาตั้งแต่เมื่อคืน สุดท้ายเธอก็ตัดปัญหาด้วยการปิดเครื่องทิ้งหนีเอาเสียดื้อๆ
ตอนนี้เธอไม่รู้หรอกว่าแก้วจะรู้ความจริงหรือยัง หรือว่าจะแค่โทรมาง้อความสัมพันธ์รูปแบบเดิมๆคืนมา อันที่จริงก็ดีเหมือนกันที่ทางบริษัทให้พวกเธอพักจะได้ไม่เจอกันสักระยะ ถ้าตอนนี้เจอหน้ากันล่ะก็... ความคิดที่ทำให้ศีรษะได้รูปสั่นไปมา ก่อนจะโยนมือถือที่ไปบนเตียงทำเป็นเหมือนไม่ใส่ใจนัก
“...”
แต่ไม่รู้ทำไมตาต้องหันกลับไปมองมันอย่างอาลัยทั้งที่ไม่อยาก ร่างบางถอนหายใจก่อนจะหัวเราะเบาราวกับนึกสมเพชที่คิดถึงเรื่องนี้ ความจริง... ความรู้สึกที่เรียกว่า ‘รัก’ บางทีมันก็อาจจะไม่ได้หายไปไหน แต่ว่าเมื่อไม่เข้าใจกันมันก็อยู่ด้วยไม่ได้ ทะเลาะกันเสียน้ำลายเปล่า
...หรือจะเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว...
นัยน์ตาเบนไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่อยู่บนผนังห้อง เข็มสั้นชี้เลขห้าเช็มยาวชี้เลขสาม น้องสาวของเธอไปเที่ยวนานน่าดู จะโทรไปถามก็ไม่อยากจะเปิดมือถือและก็ไม่อยากจะรบกวนน้องที่อยู่กับเธอมาตลอดหลายวัน ให้ไปพักผ่อนบ้างก็ดี
ส่วนเด็กอีกคนที่นึกเคือง... เธอก็ไม่รู้ว่าจะมองหน้าติดยังไง จะโกรธก็โกรธเรื่องการกระทำที่ทำกับเธอ แต่ถามว่าตอนนี้โกรธไหมก็อาจจะตอบได้ว่าน้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ เพราะอย่างไรก็เป็นรุ่นน้องร่วมค่าย... ขาเรียวพาร่างของตนไปยืนหน้ากระจก ใบหน้าที่ใครต่างพากันชมนั้นซูบไปเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นดูฝืนผิดธรรมชาติ
...นี่หรือธนันต์ธรญ์ ที่ใครต่างพากันว่าน่ารักสดใส...
ไม่ใช่เพราะคนที่โทรมาหรอก...
แค่แรงโน้มถ่วงเท่านั้นล่ะที่ทำให้น้ำตามันไหลพรากแบบนี้...
‘แอ๊ด...’
ประตูบานใหญ่เปิดเข้ามาให้พี่สาวที่นั่งดูทีวีอยู่ต้องหันมองน้องสาวที่หอบของพะรุงพระรังเข้าบ้านต้องมองอย่างฉงน แล้วก็ต้องเอ่ยปากถามเมื่อเห็นดอกไม้ในมือ “เฟย์ นั่น...”คนที่ยืนอยู่หันมองไปรอบตัวก่อนจะร้องอ๋อเมื่อเห็นสิ่งที่พี่สาวต้องการจะรู้
“กุหลาบนางฟ้า สวยไหมล่ะพี่ฟาง”ร่างที่สูงกว่าพี่โชว์ดอกกุหลาบสีชมพูให้คนอายุมากกว่ามองอย่างเพ่งพินิจ แล้วละสายตากลับมาจ้องหน้าจอสี่เหลี่ยมของโทรทัศน์เหมือนเดิม ให้เฟย์เดินเข้ามาข้างในแล้วนั่งลงข้างฟางอย่างเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางวันนี้
“วันนี้ไปเที่ยวกับเพื่อนเหนื่อยดี”
“ไปเที่ยวกับใครมา”
ประโยคที่ซ้อนทับกันให้พี่น้องต้องหันมามองหน้าแล้วคนน้องหันเบือนหนีไปอีกทางให้คนเป็นพี่ต้องเลิกคิ้วอย่างสงสัยกับท่าทีที่อึกอักแบบนั้น “เฟย์... เฟย์ไปเที่ยวกับใครมา”คนตัวเล็กเค้นถามน้องสาวอีกครั้ง แต่คำตอบกลับเป็นแค่รอยยิ้มที่ส่งมาให้คนเป็นพี่สาวต้องจ้องเขม็งพร้อมกับเฟย์ที่ค่อยๆหุบยิ้มลงเหลือแค่เสียงดีทีวีเท่านั้นที่ดังให้ความอึดอัดทวีมากขึ้น
“เพื่อนไง... ก็แค่เพื่อน”คนอายุน้อยกว่าว่าแล้วหันกลับไปมองรายการโทรทัศน์ที่เป็นตลกคาเฟ่ต่อ ท่าทางพิรุธของเฟย์ไม่รอดพ้นสายตาของฟางไปแม้แต่น้อย เพียงแต่ยังคงเก็บความสงสัยไว้ในใจเท่านั้น พอดีกับที่เสียงเมสเสจจากมือถือคนมีพิรุธดังขึ้นให้พี่สาวต้องชำเลืองสายตาไปมอง แต่เจ้าตัวก็เหมือนจะรู้ดีเอามือบังเสียมิดแล้วยิ้มกริ่มจนน่าสงสัยกว่าเดิม
“ใครส่งมาล่ะนั่น ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จริง”คนเป็นพี่แขวะตามอารมณ์ให้เฟย์ต้องหัวเราะกลั้วคำตอบของตนที่ทำให้ฟางต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะสะอึกจุกจนพูดไม่ออก
“ไม่ใช่ ‘แก้ว’ ส่งมาไม่ต้องสนใจหรอกพี่ฟาง”คำพูดของเฟย์ที่ทำให้ร่างเล็กมองไปยังโทรศัพท์ที่ไม่ได้เปิดใช้งานไม่รู้ว่ากี่สายมิสคอลแล้วที่ร่างโปร่งโทรมา พลันมือเรียวเอื้อมไปหยิบมือถือเครื่องบางก่อนจะกดเปิดเครื่องแล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นสายที่ไม่ได้รับโชว์เด่นบนนั้น
‘231 miss call’
“เดี๋ยวพี่ขึ้นห้องก่อนนะเฟย์... ข้าวเย็นบอกแม่นะว่าพี่ไม่กิน”เสียงเครือที่เฟย์ไม่ทันจะดึงมือพี่สาวเอาไว้หายไปพร้อมกับร่างที่ขึ้นบันไดลับตาไป ความจริงภาพในโทรทัศน์ไม่ได้เข้าหัวเธอเท่าไหร่หรอก แต่เมสเสจของใครบางคนต่างหากที่ทำให้รอยยิ้มอันเจือจางต้องเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างกับข้อความที่ส่งมาจากคนที่ห่างกันไม่ถึงชั่วโมง
‘วันนี้สนุกมาก... ดอกกุหลาบสวยเนอะ นางฟ้า’
‘กริ๊งงงงง’
มือกร้านกดปิดนาฬิกาปลุกที่อยู่บนหัวเตียงอย่างงัวเงีย พลางหยิบมันขึ้นมาดูเวลาแม้ว่าตาจะยังงัวเงียก็เถอะ ‘ตีห้า’ ความคิดเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่ฟ้านั้นยังมืดอยู่ จำไม่ได้ว่าหลับไปเมื่อไหร่รู้แต่ว่านอนฟังเอ็มพีสามหลับไป คงจะ... ตีสามล่ะมั้ง
เธอมองกับข้าวที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ถ้ากินตอนนี้รสชาติมันก็คงจะเย็นชืดแล้วล่ะมั้งเพราะเธอกินไม่จบมาสองวันแล้ว กินไม่ลง... หรืออันที่จริงเธอแค่อยากคุยโทรศัพท์กับใครอีกคนจนไม่สนใจมากกว่า ช่วงนี้พวกเธอไม่มีงานเข้าทำให้ยากที่จะเจอกันในตอนนี้
นัยน์ตาสีดำที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีเขียวเพราะคอนแทคเลนส์จ้องมองตัวเองในกระจก ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงนั้นถูกเซตให้เป็นทรงอย่างเนือยๆ ริมฝีปากที่แห้งปากถูกทาลิปมัน ทุกอย่างถูกทำให้ดูดีขึ้นเห็นจะมีแต่อย่างเดียวที่ไม่ได้ดีขึ้นเลย มือซ้ายที่กำแน่นพร้อมกับต่อยกระจกเบาๆแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
คนตรงหน้าเธอยังคงเป็นจริญญา ศิริมงคลสกุล คนเดิมที่มีแฟนคลับมากมาย แต่ไม่รู้มองดูทำไมเพียงแค่ยิ้มก็เหมือนกับฝืนทุกอย่างที่เป็นอยู่ ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาทำให้ร่างโปร่งต้องนั่งลงบนเตียงใหญ่พร้อมกับเอามือปิดหน้า มีเพียงแค่น้ำตาที่หยดลงบนพื้นห้องที่เย็นเฉียบเพราะแอร์
ความผิดที่หวังจะให้แก้ไขได้... สายไปแล้ว
น่าแปลกที่แรงโน้มถ่วงก็ทำให้น้ำตาไหลพรากไม่ขาดแบบนี้...
“แผน! จะไหวเรอะ สองคนนั้นเขาออกจะหัวดื้อกัน”
ร่างเล็กถามคนตัวสูงกว่าที่นั่งกินข้าวอย่างสบายใจเฉิบ ให้คนที่เป็นน้องสาวของฝ่ายคู่กรณีด้านหนึ่งต้องเกาหัวกับแผนของผีเผือกที่วันนี้เรียกเธอมาปรึกษา หรืออันที่จริงแค่เรียกมาฟังแผนเฉยๆเสียมากกว่า เพราะยังไงรายนี้ก็กะจะเอาตามนี้อยู่แล้ว
“ฉันฉลาดแค่ไหนหืมม ยัยหัวหอม...”คนที่มั่นใจในแผนว่าพลางหยิบมิลค์เชคของอีกคนมาดูดอย่างถือวิสาสะให้คนที่นั่งอึ้งต้องอึ้งกว่าเดิมพร้อมทั้งแจกรางวัลด้วยการตีกบาลของคนหัวดีไปอีกที “ใช่สิ แกมันฉลาดจนทำให้พี่สาวฉันกับไอ่แก้วมันเลิกกัน”คำพูดที่ทำให้คนผิดต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น จนเฟย์ที่พลั้งปากพูดออกไปต้องเข้าไปโอ๋อีกคนอย่างนึกโทษปากตัวเอง
“เฮ้ยฉันขอโทษ เอาน่าสรุปเอาตามแผนแกนะ”
“อือ”ทำให้สองคนนั้นคืนดีกันอาจจะช่วยให้บาปมันลดลงได้บ้าง ร่างโปร่งกว่าหยิบกระดาษเอสี่ขึ้นมาพร้อมกับเขียนตัวหนังสือขยุกขยิกลงไป ให้คนที่นั่งด้านข้างต้องหันมามองความคิดอันฉลาดของผู้วางแผน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเบิกกว้างให้คนที่เขียนเสร็จต้องเอามือเขกหัว
“แกคิดมาเป็นเดือนแล้วเหรอไงว่ะ ได้แค่นี้!!”เหมือนจะชื่นชมแต่สุดท้ายก็สบถออกมาให้แจมต้องถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “ก็ ‘แค่นี้’ ของฉันก็ทำให้พี่ฟางกับแก้วแยกกันแล้ว”คำกล่าวที่ทำให้หัวหอมน้อยตกม้ารอบที่สองพร้อมกับมองนิ้วที่ชี้ไปที่สมองอันล้ำเลิศของ ‘เพื่อน’ ที่ตอนนี้ยิ้มกว้าง
หวังว่าแผนการครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จ ไม่งั้นล่ะก็...
คราวนี้สี่คนก็อย่าหวังจะมองหน้ากันเองติดเลย...
ความคิดเห็น