ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fan Fiction] Quarrel

    ลำดับตอนที่ #17 : Chapter ::17::

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ค. 51


    [Fiction] quarrel

    [Couple] Kaew X Fang Ft. Faye

    [Author] Deep

    [Warning] ระวัง... ระวัง 

     

     

     

    ‘Tru… Tu Tu’

    โทรศัพท์เครื่องเล็กที่ดังสั่นตลอดทั้งวันโดยที่เจ้าของเครื่องไม่อยากจะมองหรือยกขึ้นมาดูว่าเป็นเบอร์ใครบ้าง สายมิสคอลเกือบร้อยมาจาก คนรักเก่า ทั้งหมดที่โทรมาตั้งแต่เมื่อคืน สุดท้ายเธอก็ตัดปัญหาด้วยการปิดเครื่องทิ้งหนีเอาเสียดื้อๆ

    ตอนนี้เธอไม่รู้หรอกว่าแก้วจะรู้ความจริงหรือยัง หรือว่าจะแค่โทรมาง้อความสัมพันธ์รูปแบบเดิมๆคืนมา อันที่จริงก็ดีเหมือนกันที่ทางบริษัทให้พวกเธอพักจะได้ไม่เจอกันสักระยะ ถ้าตอนนี้เจอหน้ากันล่ะก็... ความคิดที่ทำให้ศีรษะได้รูปสั่นไปมา ก่อนจะโยนมือถือที่ไปบนเตียงทำเป็นเหมือนไม่ใส่ใจนัก

    ...

    แต่ไม่รู้ทำไมตาต้องหันกลับไปมองมันอย่างอาลัยทั้งที่ไม่อยาก ร่างบางถอนหายใจก่อนจะหัวเราะเบาราวกับนึกสมเพชที่คิดถึงเรื่องนี้ ความจริง... ความรู้สึกที่เรียกว่า รัก บางทีมันก็อาจจะไม่ได้หายไปไหน แต่ว่าเมื่อไม่เข้าใจกันมันก็อยู่ด้วยไม่ได้ ทะเลาะกันเสียน้ำลายเปล่า

    ...หรือจะเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว...

    นัยน์ตาเบนไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่อยู่บนผนังห้อง เข็มสั้นชี้เลขห้าเช็มยาวชี้เลขสาม น้องสาวของเธอไปเที่ยวนานน่าดู จะโทรไปถามก็ไม่อยากจะเปิดมือถือและก็ไม่อยากจะรบกวนน้องที่อยู่กับเธอมาตลอดหลายวัน ให้ไปพักผ่อนบ้างก็ดี

    ส่วนเด็กอีกคนที่นึกเคือง... เธอก็ไม่รู้ว่าจะมองหน้าติดยังไง จะโกรธก็โกรธเรื่องการกระทำที่ทำกับเธอ แต่ถามว่าตอนนี้โกรธไหมก็อาจจะตอบได้ว่าน้อยลงกว่าที่เป็นอยู่ เพราะอย่างไรก็เป็นรุ่นน้องร่วมค่าย... ขาเรียวพาร่างของตนไปยืนหน้ากระจก ใบหน้าที่ใครต่างพากันชมนั้นซูบไปเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นดูฝืนผิดธรรมชาติ

    ...นี่หรือธนันต์ธรญ์ ที่ใครต่างพากันว่าน่ารักสดใส...

     

    ไม่ใช่เพราะคนที่โทรมาหรอก...

     

    แค่แรงโน้มถ่วงเท่านั้นล่ะที่ทำให้น้ำตามันไหลพรากแบบนี้...

     

     

     

    แอ๊ด...

    ประตูบานใหญ่เปิดเข้ามาให้พี่สาวที่นั่งดูทีวีอยู่ต้องหันมองน้องสาวที่หอบของพะรุงพระรังเข้าบ้านต้องมองอย่างฉงน แล้วก็ต้องเอ่ยปากถามเมื่อเห็นดอกไม้ในมือ เฟย์ นั่น...คนที่ยืนอยู่หันมองไปรอบตัวก่อนจะร้องอ๋อเมื่อเห็นสิ่งที่พี่สาวต้องการจะรู้

    กุหลาบนางฟ้า สวยไหมล่ะพี่ฟางร่างที่สูงกว่าพี่โชว์ดอกกุหลาบสีชมพูให้คนอายุมากกว่ามองอย่างเพ่งพินิจ แล้วละสายตากลับมาจ้องหน้าจอสี่เหลี่ยมของโทรทัศน์เหมือนเดิม ให้เฟย์เดินเข้ามาข้างในแล้วนั่งลงข้างฟางอย่างเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางวันนี้

     

    วันนี้ไปเที่ยวกับเพื่อนเหนื่อยดี

     

    ไปเที่ยวกับใครมา

     

    ประโยคที่ซ้อนทับกันให้พี่น้องต้องหันมามองหน้าแล้วคนน้องหันเบือนหนีไปอีกทางให้คนเป็นพี่ต้องเลิกคิ้วอย่างสงสัยกับท่าทีที่อึกอักแบบนั้น เฟย์... เฟย์ไปเที่ยวกับใครมาคนตัวเล็กเค้นถามน้องสาวอีกครั้ง แต่คำตอบกลับเป็นแค่รอยยิ้มที่ส่งมาให้คนเป็นพี่สาวต้องจ้องเขม็งพร้อมกับเฟย์ที่ค่อยๆหุบยิ้มลงเหลือแค่เสียงดีทีวีเท่านั้นที่ดังให้ความอึดอัดทวีมากขึ้น

    เพื่อนไง... ก็แค่เพื่อนคนอายุน้อยกว่าว่าแล้วหันกลับไปมองรายการโทรทัศน์ที่เป็นตลกคาเฟ่ต่อ ท่าทางพิรุธของเฟย์ไม่รอดพ้นสายตาของฟางไปแม้แต่น้อย เพียงแต่ยังคงเก็บความสงสัยไว้ในใจเท่านั้น พอดีกับที่เสียงเมสเสจจากมือถือคนมีพิรุธดังขึ้นให้พี่สาวต้องชำเลืองสายตาไปมอง แต่เจ้าตัวก็เหมือนจะรู้ดีเอามือบังเสียมิดแล้วยิ้มกริ่มจนน่าสงสัยกว่าเดิม

    ใครส่งมาล่ะนั่น ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จริงคนเป็นพี่แขวะตามอารมณ์ให้เฟย์ต้องหัวเราะกลั้วคำตอบของตนที่ทำให้ฟางต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะสะอึกจุกจนพูดไม่ออก

    ไม่ใช่ แก้ว ส่งมาไม่ต้องสนใจหรอกพี่ฟางคำพูดของเฟย์ที่ทำให้ร่างเล็กมองไปยังโทรศัพท์ที่ไม่ได้เปิดใช้งานไม่รู้ว่ากี่สายมิสคอลแล้วที่ร่างโปร่งโทรมา พลันมือเรียวเอื้อมไปหยิบมือถือเครื่องบางก่อนจะกดเปิดเครื่องแล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นสายที่ไม่ได้รับโชว์เด่นบนนั้น

    231 miss call’

    เดี๋ยวพี่ขึ้นห้องก่อนนะเฟย์... ข้าวเย็นบอกแม่นะว่าพี่ไม่กินเสียงเครือที่เฟย์ไม่ทันจะดึงมือพี่สาวเอาไว้หายไปพร้อมกับร่างที่ขึ้นบันไดลับตาไป ความจริงภาพในโทรทัศน์ไม่ได้เข้าหัวเธอเท่าไหร่หรอก แต่เมสเสจของใครบางคนต่างหากที่ทำให้รอยยิ้มอันเจือจางต้องเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างกับข้อความที่ส่งมาจากคนที่ห่างกันไม่ถึงชั่วโมง

    วันนี้สนุกมาก... ดอกกุหลาบสวยเนอะ นางฟ้า

     

     

    กริ๊งงงงง

    มือกร้านกดปิดนาฬิกาปลุกที่อยู่บนหัวเตียงอย่างงัวเงีย พลางหยิบมันขึ้นมาดูเวลาแม้ว่าตาจะยังงัวเงียก็เถอะ ตีห้า ความคิดเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่ฟ้านั้นยังมืดอยู่ จำไม่ได้ว่าหลับไปเมื่อไหร่รู้แต่ว่านอนฟังเอ็มพีสามหลับไป คงจะ... ตีสามล่ะมั้ง

    เธอมองกับข้าวที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ถ้ากินตอนนี้รสชาติมันก็คงจะเย็นชืดแล้วล่ะมั้งเพราะเธอกินไม่จบมาสองวันแล้ว กินไม่ลง... หรืออันที่จริงเธอแค่อยากคุยโทรศัพท์กับใครอีกคนจนไม่สนใจมากกว่า ช่วงนี้พวกเธอไม่มีงานเข้าทำให้ยากที่จะเจอกันในตอนนี้

    นัยน์ตาสีดำที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีเขียวเพราะคอนแทคเลนส์จ้องมองตัวเองในกระจก ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงนั้นถูกเซตให้เป็นทรงอย่างเนือยๆ ริมฝีปากที่แห้งปากถูกทาลิปมัน ทุกอย่างถูกทำให้ดูดีขึ้นเห็นจะมีแต่อย่างเดียวที่ไม่ได้ดีขึ้นเลย มือซ้ายที่กำแน่นพร้อมกับต่อยกระจกเบาๆแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

    คนตรงหน้าเธอยังคงเป็นจริญญา ศิริมงคลสกุล คนเดิมที่มีแฟนคลับมากมาย แต่ไม่รู้มองดูทำไมเพียงแค่ยิ้มก็เหมือนกับฝืนทุกอย่างที่เป็นอยู่ ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาทำให้ร่างโปร่งต้องนั่งลงบนเตียงใหญ่พร้อมกับเอามือปิดหน้า มีเพียงแค่น้ำตาที่หยดลงบนพื้นห้องที่เย็นเฉียบเพราะแอร์

     

    ความผิดที่หวังจะให้แก้ไขได้... สายไปแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

    น่าแปลกที่แรงโน้มถ่วงก็ทำให้น้ำตาไหลพรากไม่ขาดแบบนี้...

     

     

     

     

     

     

     

     

    แผน! จะไหวเรอะ สองคนนั้นเขาออกจะหัวดื้อกัน

    ร่างเล็กถามคนตัวสูงกว่าที่นั่งกินข้าวอย่างสบายใจเฉิบ ให้คนที่เป็นน้องสาวของฝ่ายคู่กรณีด้านหนึ่งต้องเกาหัวกับแผนของผีเผือกที่วันนี้เรียกเธอมาปรึกษา หรืออันที่จริงแค่เรียกมาฟังแผนเฉยๆเสียมากกว่า เพราะยังไงรายนี้ก็กะจะเอาตามนี้อยู่แล้ว

    ฉันฉลาดแค่ไหนหืมม ยัยหัวหอม...คนที่มั่นใจในแผนว่าพลางหยิบมิลค์เชคของอีกคนมาดูดอย่างถือวิสาสะให้คนที่นั่งอึ้งต้องอึ้งกว่าเดิมพร้อมทั้งแจกรางวัลด้วยการตีกบาลของคนหัวดีไปอีกที ใช่สิ แกมันฉลาดจนทำให้พี่สาวฉันกับไอ่แก้วมันเลิกกันคำพูดที่ทำให้คนผิดต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น จนเฟย์ที่พลั้งปากพูดออกไปต้องเข้าไปโอ๋อีกคนอย่างนึกโทษปากตัวเอง

    เฮ้ยฉันขอโทษ เอาน่าสรุปเอาตามแผนแกนะ

    อือทำให้สองคนนั้นคืนดีกันอาจจะช่วยให้บาปมันลดลงได้บ้าง ร่างโปร่งกว่าหยิบกระดาษเอสี่ขึ้นมาพร้อมกับเขียนตัวหนังสือขยุกขยิกลงไป ให้คนที่นั่งด้านข้างต้องหันมามองความคิดอันฉลาดของผู้วางแผน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเบิกกว้างให้คนที่เขียนเสร็จต้องเอามือเขกหัว

    แกคิดมาเป็นเดือนแล้วเหรอไงว่ะ ได้แค่นี้!!”เหมือนจะชื่นชมแต่สุดท้ายก็สบถออกมาให้แจมต้องถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก็ แค่นี้ ของฉันก็ทำให้พี่ฟางกับแก้วแยกกันแล้วคำกล่าวที่ทำให้หัวหอมน้อยตกม้ารอบที่สองพร้อมกับมองนิ้วที่ชี้ไปที่สมองอันล้ำเลิศของ เพื่อน ที่ตอนนี้ยิ้มกว้าง

     

    หวังว่าแผนการครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จ ไม่งั้นล่ะก็...

     

    คราวนี้สี่คนก็อย่าหวังจะมองหน้ากันเองติดเลย...

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×