ตอนที่ 7 : บท 7
คร่อก...ฟี้...คร่อก...ฟี้
ทุกคนในห้องประชุมต่างหันไปตามเสียงกรนที่ดังเป็นจังหวะมาจากทางหัวโต๊ะ
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงตำแหน่งประธานบริษัทนั่งสัปหงก จนศีรษะโยกคลอนไปมาเป็นระยะ น้ำลายยืดมุมปากเล็กน้อยอีกต่างหาก
แต่ละคนในที่นั้นหันมองหน้ากันไปมา หลายคนปั้นหน้าอึ้ง บ้างก็ส่ายหน้าอย่างระอา โดยเฉพาะนายสุกิจที่นั่งอยู่ทางฝั่งขวาของน่านฟ้า
“คุณน่าน คุณน่าน ตื่น” มัศยาที่นั่งประกบข้างๆ เยื้องไปด้านหลังของน่านฟ้า พยายามปลุกด้วยเสียงกระซิบ ทว่าคนขี้เซาไม่มีทีท่าจะตื่นง่ายๆ น่านฟ้ายังสัปหงกอย่างเอาจริงเอาจัง ส่งเสียงกรนอย่างต่อเนื่อง
แม้หล่อนจะพยายามเพิ่มความดังของระดับเสียงและเขย่าแขนเขาหลายครั้ง แต่ไร้ผลอยู่ดี
นางวิภาผลักประตูห้องประชุมเข้ามาพอดี พร้อมกับเอ่ยขอโทษทุกคนที่มาเข้าประชุมสายไปหน่อย เหตุเพราะติดภารกิจสำคัญ แต่แล้วนางก็ชะงัก หน้านิ่ว พร้อมกับเหลียวมองไปยังหัวโต๊ะประชุม
มัศยาทั้งเหลืออดและร้อนใจกับพฤติกรรมของน่านฟ้า ยิ่งเมื่อสบตาเหี้ยมๆ แฝงความระอาของนางวิภา สุดท้ายก็เลยตัดสินใจยกเท้าของตัวเองขึ้นเพื่อบดบี้ส้นรองเท้าคัตชูสีดำลงบนรองเท้าผ้าใบสีส้มแป๊ดของน่านฟ้า
“โอ๊ย! ” ชายหนุ่มที่แต่งตัวแตกต่างจากทุกคนในห้องลืมตาขึ้นพึ่บและร้องอุทานเสียงหลง ก่อนจะหันมองหล่อนด้วยนัยน์ตาขุ่นเคือง แต่มัศยาไม่สนใจ พยักพเยิดไปทางผู้ร่วมประชุมและสายตาเหี้ยมเกรียมของนางวิภา
น่านฟ้าหันมองตามสายตาของหล่อน แลเห็นสายตานับสิบคู่ที่จับจ้องมองมา แต่เขาดูเหมือนไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจสักเท่าไร เพราะยังอุตส่าห์หาวอีกสองสามครั้ง ก่อนจะฉีกยิ้มเก้อให้ทุกคนในที่นั้น
มัศยาอยากจะบ้าตายกับประธานคนใหม่ของมีโชค หรือถึงคราวที่บริษัทมีโชคจะต้องล่มสลายกัน
“เหยียบเท้าผมทำไม” น่านฟ้าหันมาเค้นเสียงลอดไรฟันถามหล่อนเบาๆ
“ก็ปลุกคุณไงล่ะ ยังมีหน้ามาถามอีก” หญิงสาวเค้นเสียงตอบกลับบ้าง
“แล้วปลุกดีๆ ไม่เป็นหรือไง”
“ปลุกแล้ว แต่คุณไม่ตื่น”
“รู้ได้ไงว่าผมยังไม่ตื่น” ชายหนุ่มตอบกวนประสาท
หญิงสาวพยายามระงับอารมณ์เดือดปุดๆ นับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจ เมื่อความอดทนของตัวเองกำลังจะขาดผึง “เอาไว้เถียงกันทีหลัง แต่ตอนนี้คุณควรทำหน้าที่ประธานบริษัท ด้วยการตั้งอกตั้งใจฟังผู้ร่วมประชุมรายงานผลการดำเนินงานในแต่ละแผนกด้วย”
“ผมรู้อยู่แล้ว ไม่ต้องพูดย้ำหรอก น่าเบื่อ”
ปากเสียๆ แบบนี้ มันน่าบีบคอให้ลิ้นจุกปากนัก มัศยาคิดอย่างโกรธกรุ่น แต่ก็ฝืนอดทน เพราะความซื่อสัตย์และจงรักภักดีค้ำคอ
“ว่าไง นายน่าน ฟังผลการดำเนินงานของแต่ละแผนกแล้วเป็นยังไงบ้าง” เสียงถามทรงพลังของนางวิภาดังขึ้นอย่างสื่อว่าเจ้าตัวพยายามข่มอารมณ์เดือดดาลไว้ แต่กระนั้นสายตาของนางที่จ้องมองน่านฟ้าก็คล้ายกับอยากจะสับเขาเป็นชิ้นๆ
“ก็น่าเบื่อ เอ๊ย น่าสนใจดีครับ ยังไงผมขอปิดประชุมเลยแล้วกัน ทุกคนน่าจะคอแห้งกันแล้ว แต่ละคนพูดกันเยอะเหลือเกิน” คนที่หลับตั้งแต่เริ่มประชุมได้เพียงไม่นานตอบชัดถ้อยชัดคำ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้รู้สึกผิดแม้แต่นิดเดียว
หญิงสูงวัยถลึงตาใส่อีกฝ่าย ขณะที่มัศยามองเขาอย่างไม่อยากเชื่อ
ประธานคนใหม่จะไม่มีสามัญสำนึกแม้แต่สักนิดหรือไร นี่เป็นบริษัทที่บิดาของเขาปลุกปั้นมาด้วยตัวท่านเองนะ
“เอาล่ะครับ ทุกคนแยกย้ายกันได้แล้ว” น่านฟ้าเอ่ยขึ้นอีก ท่าทางกระฉับกระเฉงผิดกับก่อนหน้านี้
“ไม่ได้! เรายังประชุมกันไม่เสร็จ” แต่เสียงกังวานและเด็ดขาดของนางวิภาดังตามมาติดๆ
สุกิจหันมองนางวิภาอย่างระอา “ผมว่าปิดประชุมก็ดีนะครับ ท่านประธานจะได้พักผ่อน เพราะท่าทางจะเพลียเต็มทน”
“เห็นมั้ยครับ น้าสุกิจยังเห็นด้วยกับผมเลย” น่านฟ้ารีบเสริมขึ้น
นางวิภาค้อนน่านฟ้าตาเขียวปั้ด แต่สุดท้ายก็จำต้องยอมเลิกประชุม เหล่าผู้ร่วมประชุมที่เป็นหัวหน้าระดับสูงของแต่ละแผนกต่างลุกขึ้นแยกย้ายกันออกจากห้อง ด้วยสีหน้าเอือมระอาไม่ต่างกัน
เมื่อน่านฟ้ากำลังจะเดินตามทุกคนออกไปจากห้อง ก็ต้องชะงักเพราะเสียงของหญิงสูงวัย
“หยุด แกยังไปไหนไม่ได้! ”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
