ตอนที่ 12 : บทที่ 6/2 ในอ้อมกอดแห่งรัก
“รอกลับมาก่อนดีกว่า”
“คงไม่ใช่ว่าเธอเป็นสาวประเภทสองหรือว่าเธอมีลูกมีผัวแล้วนะ” เขาพูดติดตลก
ปณาลีหัวเราะขำ “ไม่ใช่หรอกค่ะ”
“ค่อยยังชั่วหน่อย”
“แต่ถ้าหนูเป็นสาวประเภทสองจริง คุณกลัวหรือคะ” เธอแกล้งแหย่
“ฉันก็แมนทั้งแท่งนะ แต่ถ้าเธอเป็นจริงๆ ฉันก็จะยอมแหกกฎตัวเองสักครั้ง”
เธอยิ้มกว้าง “คุณน่ารัก”
“งั้นขอจูบได้มั้ย”
ปณาลีเงียบไปอีก
เขาถอนหายใจ “เงียบ แปลว่าไม่ยอ...”
เธอยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากเขาทีหนึ่ง เขานิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะจูบเธออย่างดูดดื่มและหนักหน่วง เธอค่อยๆ จูบตอบเขา เลียนแบบเหมือนที่เขาจูบเธอ
จูบของเขาทำให้เธอสูดลมหายใจเข้าปอดแทบไม่ทัน แต่เธอก็เต็มอกเต็มใจรับจูบจากเขา
เธอชอบที่เวลาลิ้นของทั้งสองสัมผัสเสียดสีกัน
แต่ที่มากกว่านั้นคือความหวามไหวในหัวใจ
เธออยากจูบเขาจนโลกใบนี้สูญสลายไป
ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก เธอยอมรับว่าผิดหวัง
“ถ้าฉันจูบเธอต่อ ฉันคงไม่หยุดแค่จูบ” เขากระซิบบอกเสียงทุ้มพร่า
ปณาลีไม่ตอบ แต่กอดเขาแน่นแทน
“แต่คราวหน้า ฉันรับรองว่าจะไม่หยุดแค่จูบแน่”
“คุณคิดแต่จะฟันหนู” เธอแกล้งกระเซ้า
เขาคลี่ยิ้มอวดฟันสวย “แต่ฉันฟันแล้วไม่ทิ้งนะ”
น่าแปลกที่เธอเชื่อคำพูดของผู้ชายที่เธอรู้ปูมหลังเขาน้อยนิดเหลือเกิน
“เธอเชื่อฉันใช่มั้ย”
“ค่ะ หนูเชื่อคุณ”
คืนนั้นเธอหลับไปในอ้อมกอดของเขาด้วยความอิ่มใจ
อะไรบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ในหัวใจเริ่มมีความหมาย
บางทีอาจเป็นความหมายของการมีชีวิตอยู่
การมีใครสักคนให้เราร่วมแบ่งปันความสุข ความเศร้า รวมถึงอ้อมกอด คือสิ่งสวยงาม
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ปณาลีไม่เคยได้ร่วมแบ่งปันสิ่งเหล่านี้กับใคร
ความโดดเดี่ยวคือสิ่งที่เธอคิดว่าตัวเองชินกับมัน แต่ถึงตอนนี้เธอรู้แล้วว่าสิ่งนี้แอบกัดกร่อนใจเธออยู่เงียบๆ
แล้วเขาก็คือคนเยียวยาบาดแผลเล็กๆ ในใจเธอ…
“ฉันจะโทร. หาเธอนะ”
ชายหนุ่มบอก ขณะยืนอยู่กับปณาลีที่หน้าบ้านพักสีขาว ห่างออกไปไม่มาก มีรถตู้คันหนึ่งพร้อมคนขับจอดรออยู่
“หนูจะรอโทรศัพท์คุณ”
“ฉันอยากเห็นเธอแทบขาดใจ”
“อีกไม่ช้าคุณก็จะได้เห็นหนูแล้ว”
ต่างสวมกอดกันและกันอยู่ครู่ใหญ่ กว่าเขาจะยอมขึ้นรถตู้ไป
ปณาลีโบกมือและเฝ้ามองรถตู้แล่นหายไปจนลับตา
ความเหงาเริ่มมาเยือนทีละน้อย เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าตัวเองจะขี้เหงาขนาดนี้
ผู้ชายคนนี้ดึงตัวตนหลายสิ่งอย่างของเธอออกมา
เธอยิ้มเมื่อคิดถึงเขาและเรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอดหนึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมา
หญิงสาวหันเดินเข้าไปในบ้านพักสีขาวที่ไม่ต่างจากบ้านพักแสนสุขในนิทานที่เธอเคยฝันถึงในวัยเยาว์
ปณาลียังคงทำกิจกรรมในแต่ละวันเหมือนตอนเขายังอยู่ ทำกับข้าว ไปเดินเล่นริมหาด นั่งดูดาวและทะเลสีดำตอนกลางคืน
เธอนอนบนเตียงเขาด้วย เพราะคิดถึงเขาแทบขาดใจ และกลิ่นของเขาก็ช่วยคลายความคิดถึงของเธอได้
เขาโทร. มาหาเธอครั้งหนึ่งเพื่อบอกว่ากำลังจะเข้าห้องผ่าตัดแล้ว เธออาจพูดให้กำลังใจเขาไปไม่กี่ประโยค แต่เธอรับรู้ได้ว่าทั้งสองถ่ายทอดความห่วงหาอาทรให้กันเงียบๆ
เธอคิดว่าทั้งสองเหมือนคู่รักกัน แม้จะยังเหมือนคนแปลกหน้าต่อกัน
แต่ถ้าเขากลับมาครั้งหน้า ทั้งสองคงจะไม่เป็นคนแปลกหน้าต่อกันอีกแล้ว เพราะเธอจะเล่าเรื่องราวของเธอให้เขาฟังทุกซอกทุกมุม และให้เขาเล่าของเขาให้เธอฟังด้วย
เธออยากรู้จักเขาให้มากขึ้น
อยากรู้ว่าเขาทำอาชีพอะไร มีพี่น้องกี่คน ตอนเด็กๆ เป็นอย่างไรบ้าง เรียนจบอะไรมา และอะไรอีกมากมาย ที่จะทำให้ช่องว่างของคนสองคนหดแคบลง
เธอคิดว่าเขาคงจะไม่โกรธและให้อภัยที่เธอหลอกเขาเรื่องอายุ และเรื่องชื่อด้วย
ทั้งสองอาจจะเริ่มคบหากันจริงจังเหมือนคู่รัก
เธอยิ้มบางๆ เมื่อคิดถึงตรงนี้
ความรักทำให้หัวใจคนเรามีความหมายอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
ปณาลีกินแทบไม่ได้ นอนแทบไม่หลับ เพราะลุ้นกับผลการผ่าตัดของชายหนุ่ม เฝ้ารอโทรศัพท์จากเขาทุกวินาที เวลาแต่ละนาทีที่ผ่านไปช่างยาวนานนัก จวบจนสองสัปดาห์ผ่านไป วันนี้เป็นวันที่แพทย์จะเปิดผ้าปิดตาชาญ และเขาสัญญาว่าจะโทร. หาเธอเพื่อรายงานผลการผ่าตัด เธอเฝ้ารอโทรศัพท์ด้วยหัวใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ
“ปีบ”
************
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะค้าาาาาา
พรุ่งนี้มาอัพต่อค่า ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

สนุกมาก รอเขาเจอกันอีกรอบนะ
รอลุ้นๆๆ คุณชาญจะมองเห้นไหม
หวังว่า กลับมาชาญจะยังเหมือนเดิมนะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านเช่นกันค่ะ ^^