Into the Further.

     จะบอกว่าเป็นความฝันได้รึไม่นะ? หรือจะบอกว่าเป็นนิมิตของการเห็นอนาคตก็ไม่เชิง เพราะว่าจริงๆแล้ว มันคือการ Travel หรือ Astral Projection <แต่ผมชอบเรียกสั้นๆ ว่า AP> หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆคือ การถอดจิต นั่นเอง ปรกติแล้วมักเกิดขึ้นโดยความตั้งใจหรือไม่ก็ได้ หากแต่ครั้งนี้เป็นความตั้งใจของตัวกระผมเองที่อยากจะลองไปเยื่ยมชม ปรภพ ขณะที่ยังไม่ตายหรือถึงคาดดูสักครั่้ง.


     ตอนเด็กๆ  ผมก็ไม่รู้เหรอกว่ามันคือความสามารถพิเศษหรืออะไรก็เข้าใจว่าเป็นแค่ความฝัน หากไปในสถานที่ดีๆ ก็คือฝันดี แต่หากได้ไปในที่ๆ เลวร้ายหน่อยก็คงเป็นแค่ฝันร้ายแค่นั้้นเอง และถึงแม้ว่าจะโตขึ้นมาอีกหน่อยแล้วก็ยังคงคิดอยุ่ว่าเป็นความฝัน แต่ ก็เริ่มคิดและศึกษา ทฤษฎี เกี่ยวกับความฝันมากขึ้นเพราะความสงสัยว่าแท้จริงแล้วความฝันนั้นเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง แต่เท่าที่ศึกษาและอ่านๆดูก้ไม่มี ทฤษฎี ไหนเลยที่ตรงกับประสบการณืฝันที่ผ่านๆมาของผม ผมจึงทำได้แค่สงสัยและศึกาารวมถึงอ่านหนังสิือให้มากขึ้น ทั้งบทความในอินเตอร์เน็ตถึงข้อมูลต่างๆ ที่พอจะหาได้หากแต่กว่าจะรู้ก็ปาไปเป็นสิบปีจนโตเลยทีเดียว ถึงแม้จะเคยได้ยินมาบ้างว่าคืออะไรแต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อนัก แต่พอหลังจากที่รู้แล้วว่าสิ่งที่เห็นและเผชิญมาคืออะไรอย่างแม่นแท้ ก็เริ่มที่อยากจะซน! <การซนคือการทดลองสำหรับผมผมเรียกว่าซน เนื่องจากว่ายังไม่มีหลักฐานใดที่แน่นอนแต่ทำให้ผมกระจ่างมากขึ้นแล้วเท่านั้น>.

     มันเป็นการซนครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของผมที่จะทำให้ผมเข็ดและหลาบจำไปตลอดกาลเลย.