คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 4 เรื่องเข้าใจผิด 1
Chapter 4
เรื่องเข้าใจผิด 1
บ้านพาณิชกุลย์ยามสามทุ่มเศษ...ไฟที่กลางโถงชั้นล่างยังคงส่องสว่าง
ในโซนห้องครัวที่แยกเป็นครัวไทยและครัวฝรั่ง...เลียงสนทนาดังแว่วมาจากครัวไทย
"คุณป้านอนดึกอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอคะ"
"เรียกป้าพินก็พอจ้ะ ไม่ต้องคุณป้า"
ท่ามกลางเสียงจานกระทบกัน
ยุพินหันไปยิ้มกว้างให้เด็กสาวคราวหลาน หลังจากมื้อเย็นที่ไร้เงาลูกชายคนโตของบ้าน
จันทร์เจ้าเอยก็มาช่วยเก็บช่วยกวาดเพราะความเกรงใจ
หล่อนอยู่ฟรีกินฟรี
ซ้ำยังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับใครในบ้านหลังนี้
จึงเกรงใจหากจะไม่หยิบจับช่วยอะไร อีกทั้งยุพินก็อายุมากแล้ว
หล่อนสงสารที่อีกฝ่ายต้องนอนดึกเกือบทุกวัน
"แล้วงานบ้านใครทำคะ ตึกตั้งห้าชั้น
ทำคนเดียวคงไม่ไหวแน่"
"จ้างบริษัทข้างนอกเข้ามาทำจ้ะ
ส่วนป้าก็รับผิดชอบแค่งานครัวกับช่วยคุณเหนือเลี้ยงลูก"
"ทำไมเขาไม่จ้างพี่เลี้ยงคะ"
"เขาไม่ไว้ใจใครจ้ะ
กลัวจะมีคนทำร้ายลูกเขา"
จันทร์เจ้าเอยคลี่ยิ้มอ่อน
หากแต่ถ้าเป็นหล่อน หล่อนก็คงจะกลัวเหมือนกัน
เพระาข่าวมีมารายวันเรื่องพี่เลี้ยงทำร้ายเด็กเมื่อยามลับหลังพ่อแม่
"เอาละ เสร็จแล้ว"
จานใบสุดท้ายถูกเช็ดจนแห้งและคว่ำไว้บนชั้นแยกเอาไว้ก่อน
ในขณะที่แก้วในมือจันทร์เจ้าเอยก็ถูกคว่ำลงในที่ของมันเช่นกัน
"เหลือแค่เก็บกวาดเล็ก ๆ น้อย ๆ
ป้าพินไปนอนเถอะค่ะ ที่เหลือเอยจัดการเอง"
ยุพินทำท่าลังเล
เพราะนั่นมันคือหน้าที่ของหล่อนตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว...อดสงสัยไม่ได้
นายของตนจ้างหญิงสาวตรงหน้าตำแหน่งอะไรกันแน่
"เงินเดือนเท่าไหร่กันเนี่ย
เล่นแย่งป้าทำซะทุกหน้าที่แบบนี้"
"เขาจ้างเอยมาเป็นแม่บ้านด้วยค่ะ
ควบกับงานเลขา"
จันทร์เจ้าเอยสวมรอยเสียเลย
พูดทีเล่นทีจริง หล่อนคลี่ยิ้มไปให้อีกฝ่าย
เป็นรอยยิ้มที่ยุพินเดาไม่ออกว่าพูดเล่นหรือพูดจริง
"ไปค่ะ ไปนอนนะคะ เดี๋ยวเอยจัดการแทน"
หล่อนรั้งแขนยุพินให้เดินออกไปข้างนอก
และยุพินก็ทนการเซ้าซี้ไม่ไหว จึงยอมเดินออกไปเพื่อไปทางออกที่อยู่หลังบ้าน
ทางที่จะพาไปสู่เรือนเล็กที่ถัดไปจากตัวอาคาร บ้านที่หล่อนอยู่คนเดียวมาหลายปี
ไฟจากห้องครัวที่ยังสาดแสงส่อง
และเสียงกุกกักคล้ายกับมีคนทำอะไรอยู่ในนั้น ภีมพลเดินไปตามเสียง
ที่จริงเขาจะลงมาทานมื้อเย็นที่ล่วงเลยมาแล้ว
เพราะเห็นว่ามีแม่เลี้ยงคนใหม่มาร่วมโต๊ะ
เขาจึงไม่ยอมมานั่งร่วมเพราะยังทำใจมองหน้าผู้หญิงใจร้ายไม่ได้
เขาคิดว่าเป็นยุพิน
จึงร้องถามออกไปทั้งที่ยังไม่เดินเข้าไปในครัว
"มีอะไรเหลือบ้างครับป้าพิน"
".....!"
จันทร์เจ้าเอยชะงักมือที่กำลังกวาดเศษสกปรกบนพื้น...หันไปมอง
ก็เห็นคนที่ตั้งแง่รังเกียจตั้งแต่แรกพบโผล่
พรวดเข้ามาพอดี
"เอิง!"
เขาเผลอหลุดปากอุทานออกมา
แววตาสื่อถึงความตกใจ เมื่อได้เผชิญหน้ากันอีกครั้งเขาก็ยืนขาแข็ง
แววตาเข้มแข็งกร้าวจับจ้องมองคนที่กำลังมีท่าทีตกใจไม่ต่างกัน
แววตาฉายความชิงชังไล่มองหล่อนไปทั้งตัว
กระตุกยิ้มคล้ายหยัน ภายใต้ชุดนอนกางเกงขายาวเสื้อแขนยาวนั้น
เรือนร่างที่เขาเคยได้สัมผัสมาหมดแล้ว ยกเว้น...มีเรื่องหนึ่งที่เขายังคงกังขา
ก็เพราะเมาเลยจำไม่ได้
สรุปหล่อนกับเขามีสัมพันธ์รักลึกซึ้งกันจริงหรือไม่...นางฟ้าตัวน้อยที่เขาเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูด้วยความรักใคร่
ที่แท้ลูกใคร ความจริงที่คลุมเครือเมื่อนึกทีไรก็ปวดหัวใจทุกที
จันทร์เจ้าเอยเห็นท่าไม่ดี
แววตาของเขาชวนตีได้ทุกเวลา หล่อนรีบเก็บกวาดแบบลวก ๆ คิดว่าการปลีกตัวไปจากตรงนี้และตอนนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
หล่อนนำอุปกรณ์เก็บกวาดไปซุกไว้ที่เดิม
ก่อนจะเดินกลับมายังทางออก ตรงที่ภีมพลยืนขวางเอาไว้
และดูท่าเขาจะไม่หลบเสียด้วย
"เธอต้องการอะไรเอิง กลับมาทำไม!"
".....?"
หล่อนยืนงง
เอียงหน้ามอง เพราะเขาเรียกชื่อของหล่อนผิด ซ้ำคำถามก็ยังแปลก ๆ อีกด้วย
"พี่เหนือคงจะจำชื่อเอยผิด...ต้องเรียกว่าเอยนะคะ
ไม่ใช่เอิง"
เพียงเท่านั้น
เขาก็หัวเราะออกมาราวได้ฟังเรื่องตลก...เขาหัวเราะให้กับนักแสดงหน้าซื่อตาใส
มันช่างน่าตลกสิ้นดีที่หล่อนทำทีเป็นไม่รู้จักกันมาก่อน
"ตลอดเวลาที่เธอหายไป เธอไปทำอะไรมาถึงความ
จำเสื่อมล่ะเอิง หึ หัวกระแทกสมองเสื่อจนถึงขนาดจำผัวตัวเองไม่ได้!"
'อะไรของเขา?'
แทนที่จันทร์เจ้าเอยจะโกรธ
หากแต่หล่อนงุนงงมากกว่า ได้แต่คิดในใจ...เขาคงเสียใจจนเป็นบ้า
ถูกเมียทิ้งจนสมองกลับ จนถึงขั้นจำผิดจำถูก ละเมอเพ้อพกหาคนที่จากไป
เขาอาจมีปัญหาทางจิตร่วมด้วย
หล่อนคิดไปเรื่อยเปื่อยพลางจับจ้องหน้าคมคร้ามที่ไร้ซึ่งรอยยิ้มแต่งแต้ม
"ถ้าพี่เหนือจะคิดว่าเอยเป็นผู้หญิงคนนั้น
พี่เหนือคงจะเสียใจมากจนประสาทหลอน เอยว่าพี่เหนือควรไปพบหมอ
ไปคุยกับหมอเสียบ้างก่อนจะเป็นโรคซึม...โอ๊ย!"
หล่อนร้องออกมาเมื่อเขากระชากร่างของหล่อนแล้วผลักจนแผ่นหลังชิดติดกำแพง
กรงอุ้งมือขยุ้มลงบนปลายคางเรียวด้วยความกรุ่นโกรธ กับท่าทียั่วประสาทของหล่อน
เขาเกลียดชะมัด กับท่าทีที่ทำเป็นจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้
หวังจะใช้ความใสซื่อปั่นหัวทุกคน
"เธอคิดว่าพี่โง่นักรึไง คิดจะแกล้งทำเป็นสมองเสื่อมจำอะไรไม่ได้
เพื่อที่เธอจะได้รอดและจับตัวเองใส่ตะกร้าล้างน้ำ ที่เข้ามาในบ้าน
เธอมาในฐานะเมียใหม่ของคุณพ่อใช่มั้ย!"
".....?"
"ใช่มั้ยเอิง! อย่าเงียบ ตอบ ตอบมา!"
หล่อนปัดมือของเขาออกจากใบหน้า หากแต่ก็ไปไหนไม่ได้
เพราะถูกกักเอาไว้ด้วยสองมือที่ยันไว้กับผนัง
"แกล้งอะไรคะ เอยไม่รู้เรื่อง!"
"จำไม่ได้ใช่มั้ย ได้!"
"อื๊อ!"
หล่อนดิ้นขลุกขลัก
สองมือผลักไสอกกว้างเมื่อถูกจู่โจมด้วยจูบแสนดุดันป่าเถื่อน
ความร้อนรุ่มบดขยี้จนกลีบปากนุ่มร้าวระบม เจ็บแสบไปทั่วเรียวปากจากสัมผัสแสน
หยาบกระด้างจากคนเถื่อนถ่อย
ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้
นายจ้างของหล่อนไม่เคยบอกว่ามีผู้ป่วยจิตเวชอาศัยอยู่ร่วมชายคา
"เอยไม่ใช่เมียพี่เหนือ ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น ถอยไป!"
เมื่อเป็นอิสระ สองมือจึงผลักไปที่อกกว้างเต็มแรง
ผลุนผลันทำท่าจะเปิดประตูออกไปจากห้อง แต่แล้วหล่อนต้องชะงัก
เมื่อเขาไวกว่าด้วยการยื่นมือไปกดปุ่มบนแผง วงจรที่ติดอยู่ข้างประตู
และมันเป็นสิ่งที่หล่อนไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ามีเอาไว้ทำอะไร
".....!"
แววตาคู่สวยเบิกกว้าง ต้องชะงักฝีเท้าผงะถอยหลัง เมื่อจู่ ๆ
ก็มีบานประตูลับเลื่อนออกมาขวางหน้ากั้นโลกภายนอก อิสรภาพของหล่อนสูญสิ้น
บานประตูอัตโนมัติขังหล่อนเอาไว้ในครัวเพียงลำพังกับเขาสองคน
หล่อนขนลุก
ใจหล่นวูบ เมื่อเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอดังอยู่ด้านหลังเหนือต้นคอ
"คุณพ่อได้บอกเธอไหม บ้านหลังนี้...มีเอาไว้ขังโจร!"
หญิงสาวยื่นมือไปกดปุ่มเพื่อหวังจะให้มันเปิดออก
หากแต่ก็ไร้ผล จึงหันกลับไปมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเลิ่กลั่ก
"เธอรู้รหัสเหรอเอิง...ถึงคิดจะหนีออกไป"
"พี่เหนือ ปล่อยเอยไปเดี๋ยวนี้!"
หล่อนชักกลัวจริง
ๆ เสียแล้ว กลัวกับแววตากรุ่นกระแสปรารถนาที่จับจ้อง
เขาเหมือนเสือร้ายกระหายหิวที่จ้องจะตะปบชิ้นเนื้อแสนโอชะ ยืนตัวสั่นใจเต้นแรง
ยามที่เขาขยับเข้ามาประชิดตัว
ยิ่งตอกย้ำความเชื่อ
ลูกชายบ้านนี้เป็นโรคที่เกี่ยวกับจิตเวชจริง ๆ
หล่อนไม่รู้หรอกว่า
ท่าทีตื่นกลัวยิ่งกระตุ้นสัญชาต ญาณดิบในใจภีมพล
แรงขับจากความเคียดแค้นทำให้ใจเขามืดบอด คิดเพียงแต่ว่าอยากแก้แค้นเอาคืน
ให้หล่อนได้รู้รสชาติของความเจ็บปวดเสียบ้าง
แววตาชิงชังแดงก่ำสั่นระริก
ยิ่งคิดไปถึงเรื่องนั้นตามความเข้าใจของตน...หล่อนเข้าหาบิดาของเขาเพราะผล ประโยชน์ของเงิน
สองแขนของหล่อนถูกเขากระชากเข้าหาตัว
จันทร์เจ้าเอยพยายามจะร้องให้คนช่วย แววตาคู่สวยเบิกกว้าง
"อย่านะ! ช่วย อื๊อ!"
มือใหญ่ยื่นมาตะปบปิดเสียงของหล่อนเอาไว้
"หึ ทำเป็นสะดีดสะดิ้งเหมือนไม่เคย
เธอกลัวคุณพ่อรู้หรือไงว่าเราเป็นอะไรกัน!"
"อื๊อ!"
หล่อนพยายามส่ายหน้าหนี
หากแต่เขาไม่ฟัง ชายหนุ่มใช้มือข้างที่ว่างแกะกระดุมเสื้อของตัวเองออก
เขากระชากมันออกจากกายแกร่ง ก่อนนำไปปิดปากของหล่อน
มัดเอาไว้จนเสียงร้องประท้วงดังอู้อี้อยู่ภายใต้พันธนาการที่ขวางกั้น
ร่างกลมกลึงถูกอุ้มไปวางบนโต๊ะตัวใหญ่ที่เอาไว้ใช้เตรียมวัตถุดิบเพื่อปรุงอาหาร ชายหนุ่มมองหาผ้าเอามามัดมือของหล่อนที่ถูกยกขึ้นไปเหนือหัว
ความกลัวทำให้หยาดน้ำตารินไหลออกมา
หากแต่มันไม่อาจแทรกซึมลงไปในใจอันแสนด้านชาได้
เขากลับมองว่านั่นคือมารยาที่หล่อนเสแสร้งแกล้งทำ
เขาจะไม่มีวันเชื่อหล่อนอีกต่อไป
หลอกเขามานานหลายปีแล้วก็ทิ้งกันไป ทิ้งไปได้แม้กระทั่งสายเลือดของตัว
|
ความคิดเห็น