ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    my soulmate.. เนื้อคู่ หรือคนรู้ใจ

    ลำดับตอนที่ #4 : chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 54


      

       CHaPteR 4


    2 วัน ผ่านพ้นไปช่างเร็วไวเสียเหลือเกิน ก้อยยังจัดการบอกกับความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ว่าให้ข่มใจไม่ให้เต้นถี่ยิบขนาดนั้นเมื่ออยู่หน้าเพื่อนคนเดิม ที่เคยเห็นหน้ากันอยู่ทุกๆวัน

    “สวัสดีค่ะ น้องๆ พี่ชื่อก้อยค่ะ” ก้อย เดินไปห้องขยายเสียงของโรงเรียน เพื่อประกาศข่าว

    “พี่มีชมรมเปิดใหม่นะคะ ชมรมร้องเพลง พี่มีครูมาสอนให้ เปิดที่โรงยิมเก่า เรียนทั้งปี 300 บาทต่อคนเท่านั้น ออกกลางคันไม่คืนเงินค่ะ มาลองดูได้นะคะ” ก้อยหยุดการประชาสัมพันธ์ไว้เท่านั้น เธอเดินออกมาจากห้องขยายเสียงห้องเล็ก เวลานี้พึ่งจะเลิกเรียน น้องๆหลายคนเข้าชมรมที่ตัวเองชอบ เธอมารอน้องๆที่จะมาสมัครเข้าชมรมของเธอ ไม่นานนัก ครูสอนก็มาถึง พร้อมกับผู้หญิงอีกเกือบสิบคน รุ่นน้องหลายคนมองกันตาเป็นประกาย คงกระหายชายคนนี้มากสินะ ก้อยคิดพลางแสยะยิ้ม

    “นี่เป็นครูที่จะสอนชมรมนี้จ้ะ สอนร้องเพลง”

    “จริงหรอคะ พี่ก้อย”

    “จ้ะ สมัครไหมล่ะ”

    “ค่ะ สมัคร เริ่มสอนเมื่อไหร่คะ”

    “พรุ่งนี้จ้ะ มาให้ตรงเวลานะ” รุ่นน้องร่วมสิบคนที่เดินตามมา พร้อมใจกันเข้าสมัครลงชื่อสกุลกันเรียบร้อย อัคคียืนยิ้มกับผลงานของตน ที่สามารถเรียกเด็กๆเข้ามาร่วมได้ ไม่นาน กลุ่มหญิงน้อยหญิงใหญ่ก็สลายการชุมนุม

    “โรงเรียนนี้ใหญ่ดีจังครับ”

    “ใครไปรับมาล่ะเนี่ย”

    “อ้อ มีนักเรียนคนหนึ่ง เดินมาบอกว่า ประธานนักเรียนให้ไปหา ผมเจอพี่ต้น พี่ต้นเลยไล่ผมมาตึกนี้”

    “ต้นนะต้น ทำไมไม่มาส่งให้ถึงที่นะ”

    “เขาบอกว่ามีงานต้องทำก่อนน่ะฮะ เดี๋ยวคงตามมา” จริงของเขา ไม่นานจริงๆ ต้นปรากฏตัวตรงหน้า ก้อยกลับรู้สึกเฉยๆเมื่ออยู่ต่อหน้าต้นในวันนี้ อาจเพราะมีอัคคีอยู่ด้วยล่ะมั้ง

    “ก้อย เมื่อวานแก...”

    “เออ ฉันไม่เป็นไรหรอกน่า ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ” อัคคีไม่ค่อยเข้าใจนัก เขาก้มหน้าลงเพราะไม่รู้เรื่องที่ทั้งสองคนคุย เขาบังเอิญเห็นผ้าพันแผลในมือข้างซ้ายของพี่สาวคนสวย เลือดนั้นชุ่มเต็มไปหมด

    “พี่ก้อยเป็นแผลที่มือหรอฮะ

    “อืม ไม่เป็นไรแล้วล่ะ”

    “อย่าฝืนฮะ เลือดไหลขนาดนี้ ไม่ปวดบ้างก็คงบ้า” ต้นพอรู้คร่าวๆมาว่า ไอ้น้องหน้าหล่อนี่ตั้งใจเรียนหมอ คงศึกษาเรื่องแบบนี้มาดี อัคคีเอื้อมมือจับมือข้างซ้ายที่มีผ้าพันแผล เขาบอกให้พี่สาวนั่งลง แล้วบอกให้ไอ้พี่ผู้ชายที่ยืนเป็นก้างอยู่ ไปเอายากับผ้าพันแผล เพราะเขาไม่รู้ทางไปห้องพยาบาล เขาค่อยๆแกะผ้าพันแผลออกเผยให้เห็นเลือดที่ยังไหลอยู่ตลอด

    “พี่ไม่น่าเอามือไว้ต่ำนัก เลือดจะไหลลงมือและแผล”ครู่เดียว กล่องปฐมพยาลขนาดย่อมก็มาพร้อมประธานฯหน้าหอบ

    “ขอบคุณฮะ” ต้นหยิบยาล้างแผลมา ใช้สำลีก้อนเล็กๆชุบมันมาล้างเลือดและเชื้อโรครอบแผล เขาแอบบ่นว่าแผลใหญ่และลึกมากทีเดียว เลือดก็ไหลไม่ยอมหยุดเลย เขาใช้สำลีเช็ดเลือดออกจนหมด ใช้ผ้าพันแผลขนาดใหญ่พันรอบมือของก้อย

    “เดี๋ยวก็หาย พยายามยกมือบ่อยๆ อย่าให้มือตก และห้ามแผลโดนน้ำ”

    “จ้ะๆ ขอบใจนะ” ก้อย หันหน้าไปขอบคุณรุ่นน้องหน้าตาดี ที่ช่วยทำแผลให้ เอาอีกแล้ว ใจเธอเต้นแรงอีกแล้ว แต่ไม่ใช่เพราะต้น แต่เพราะ... อัคคี

    .

    .

    “ชมรมเป็นไงบ้างแก” เพลงมักจะกลับมาที่หอก่อน เพราะเธอติดคอมฯ

    “ดีเลย เพราะคีย์ เลยมีคนสมัครเพียบ” ก้อยพูดพลางยิ้ม

    “เสน่ห์แรง รูปหล่อขนาดนั้น ฉันยังชอบเลย ฮ่าๆ”

    “เออ เอาเหอะแก” วันนั้นผ่านไปด้วยดี ก้อยยอมรับว่ารู้สึกหวั่นไหวเหมือนกันที่อยู่กับต้น แต่ไม่เท่ารุ่นน้องคนนั้นเลย เธอเป็นอะไรของเธอเนี่ย

    เย็นของวันต่อมา วันนี้เป็นวันแรก ไม่น่าเชื่อว่ามีคนมาสมัครเข้าชมรมของเธอเกินความคาดหมายมาก มีรุ่นน้องสาวๆมาสมัครกันมากหน้าหลายตา หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เก้ง กวางกระซู่ กูปรี ชะนี อีเห็น เข้ามาชมรมนี้กันหมด แต่ดูท่าจะรุ่งและตั้งใจจริงแค่ 20 กว่าคนเท่านั้น ตอนนี้ยอดผู้สมัครสูงมากถึง 65 คน แม่เจ้า ก้อยเองก็ตกใจเหมือนกัน ส่วนเพลงก็เข้าใจดี ว่าทำไมถึงมีแต่คนสมัครมา ก็ไอ้ครูสอนสุดหล่อ ที่ยืนอยู่ตรงจุดรับสมัครนั่นแหละ แค่เห็น ก็ใจละลายแล้วล่ะ

    “พี่ก้อย ผมว่าคนชักจะเยอะมากไปแล้วนะ”

    “ครบ 72 แล้วค่อยปิด”

    “ครับ” ไม่เกิน 5 นาที จุดรับสมัครก็ปิดลง เงินที่ได้แบ่งหักให้ไอ้หนุ่มน้อยไปแล้วเกินครึ่ง ที่เหลือเอาไว้ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ก้อยนั้นถนัดมากเรื่องนั้น รุ่นน้องถูกรุ่นพี่จัดให้เข้าแถวและแบ่งกลุ่ม มีนักเรียนมาเรียนเต็มอัตรา 72 คน ก้อยบอกให้รุ่นน้องจับกลุ่มกัน กลุ่มละ 9 คน ได้ 8 กลุ่ม ตั้งชื่อกลุ่มก่อน แล้วแนะนำตัว

    “พี่ชื่อก้อย เป็นประธานฯชมรมนี้ค่ะ” เสียงปรบมือเกรียวกราว เพราะก้อยเองก็เป็นที่รู้จักของรุ่นน้องอยู่แล้ว

    “พี่เพลงค่ะ เป็นเหรัญญิก”

    “ผม ต้น เป็นรองประธานฯครับ”

    “พี่ชื่อ อัคคี หรือ คีย์ เป็นครูมาสอน” รุ่นพี่ในชมรมแนะนำตัวกันอีก 3 คน ได้แก่ ปอนด์ และ แป้ง พี่น้องฝาแฝดจอมโหด เอามาไว้คุมน้องที่ดื้อ และคนสุดท้าย เป็นเพื่อนที่คิดว่าเก่งมากเรื่องการจัดกิจกรรมต่างๆ นั่นคือ นพ เพราะเขาอยู่ห้องประชาสัมพันธ์

    “พรุ่งนี้ พี่หวังว่าน้องๆจะมากันก่อนเวลานะครับ เราจะได้ทำความรู้จักกันด้วย ขอบคุณครับ วันนี้ แค่นี้แหละ” ก่อนแยกกลับบ้าน ก้อยนั้นรู้ดีว่าถ้าปล่อยน้องกลับเลยพร้อมกับอัคคี ไอ้หนุ่มน้อยหน้าหล่อคงโดนขอเบอร์เป็นแน่ เธอนำทางและอาสาไปส่งที่หน้าโรงเรียน อัคคีบอกว่าเดี๋ยวแม่เขาคงมารับ เพลงและต้นให้หัวหน้ากลุ่มที่จับกัน มาลงชื่อเล่นของน้องๆในกลุ่ม เพราะเขาจะใช้แขวนคอน้อง จะได้เรียกชื่อถูก

    “พี่รอเป็นเพื่อน” ก้อย ยังยืนรอข้างๆอัคคี ที่ดูท่าจะสนใจมือเล็กของรุ่นพี่ข้างๆเสียมากกว่า

    “ฮะ มือเป็นไงบ้าง”

    “อยู่ดี” ก้อย ตอบคำถาม ทำเอาอัคคียิ้มออก

    “นั่นไง สงสัยผมต้องบอกลาพี่ก่อนละ ไปนะฮะ พี่ก้อย พรุ่งนี้เลิกเรียนแล้วจะรีบมานะฮะ”

    “อืม” รถสีขาวคันงาม เดาว่าราคาไม่น่าต่ำกว่า 2 ล้าน ก้อยเปิดประตูรถด้วยมือขวาที่ไม่ได้มีบาดแผลใดๆทั้งนั้น อัคคีก้มหน้าขอบคุณ ไอ้คนขับเสนอหน้ามามองช้าๆ ตายล่ะหว่า นี่มันไอ้หน้าโหด ไหนอัคคีบอกว่าแม่ไง

    “ปิดประตูรถด้วยครับ คุณผู้หญิง” วายุชะโงกหน้ามองมาทางก้อย จู่ๆ ความเจ็บก็แล่นเข้ามาที่มือ เลือดไหลอีกแล้ว อัคคีที่ทำทำไม่พอใจพี่ชาย หันไปเห็นว่าพี่สาวหน้าสวยเลือดออกอีก ก็ถึงขั้นตกใจ

    “พี่ไปก่อนเลยไป เดี๋ยวผมตามไปทีหลัง”

    “ได้ยังไง ฉันมาถึงนี่ แกก็กลับไปกับฉัน”

    “พี่ไม่เห็นรึไง ว่าพี่ก้อยเลือดออกที่แผล” อัคคีทำหน้าไม่ค่อยพึงพอใจนัก เขาเดินลงจากรถก่อนจะปิดประตูรถเสียงดัง เขาเดินพาก้อยไปนั่งที่เก้าอี้ไม้ไม่กลจากหน้าโรงเรียนนัก คราวนี้ เขาคงต้องหาทางไปที่ห้องพยาบาลเองเสียแล้ว

    “เดี๋ยวผมมานะ เอ่อ ห้องพยาบาลอยู่ไหน”

    “อาคาร 5 ชั้น 2” เท่าที่จำได้ ไอ้อาคาร 5 เนี่ย มันไม่ไกลหรอก แต่ประตูทางขึ้นมันปิดแล้ว

    “ผมจะขึ้นไปได้ยังไง”

    “อาคารโรงยิมเก่า มีบันไดเชื่อม” โรงยิมเก่าเป็นตึกในสุด ไกลสุด กว่าจะได้ทำแผล พอดีก้อยเลือดหมดตัวตายแน่

    อัคคีวิ่งไป ก้อยมองเห็นว่าเขาห่างออกไปแล้ว เธอรู้สึกเจ็บที่แผลมาก เลือดก็ไหลเยอะเสียเหลือเกิน มันจริงอยู่ว่าแผลยาวและลึก แต่ไม่น่าปวดบ่อยขนาดนี้นี่นา

    “มือไปโดนอะไรมา” เสียงเย็นๆลอยเข้ามากระทบหู ก้อยสะดุ้งด้วยความปวด วายุที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ดูท่าจะไม่ช่วย

    “จานแตก จานบาด”

    “โง่” วายุเห็นสายตาคนตัวเล็กตรงหน้า เธอดูไม่เป็นมิตรเหมือนกับเขาส่องกระจกอยู่ยังไงยังงั้น

    “ไม่ต้องมาซ้ำเติมกันหรอก” วายุถอนหายใจยาว ก่อนจะเดินไปที่รถคันงาม ไม่นานเขาก็เดินกลับมาพร้อมกระเป๋ายา

    “ยื่นมือมานี่” ก้อยยกมือไม่ไหวจริงๆ เธอส่ายหน้า

    “ไม่ไหวเลยรึไง มานี่” วายุดึงแขนเล็กไป มันแอบสะเทือนแผลเธอ แต่เธอไม่ได้ร้อง วายุแกะผ้าพันแผลผืนใหม่ที่ดูไม่ใหม่ออกมาจากแผล เขาเห็นว่าแผลของเธอลึกมาก

    “ต้องเย็บ ไปโรงพยาบาลดีกว่า” วายุไม่พูดอะไรมาก เขาเช็ดเลือดออกก่อนจะใช้ผ้าพันแผลอีกอันที่หยิบมาด้วยพันใหม่ อัคคีวิ่งเหนื่อยหอบมาจนถึงที่ที่จำได้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาชอบนั่งอยู่ แต่มันไม่เหมือนเดิม มีผู้ชายอีกคนนั่งอยู่ด้านล่าง เขาเห็นว่านั่นคือพี่ชายของเขา วายุโยนกุญแจรถให้อัคคี

    “พายายผู้หญิงปากร้ายนี่ไปโรงพยาบาลซะ แผลมันลึกเกิน ต้องเย็บ”

    “แล้วพี่ล่ะ”

    “ฉันจะไปบ้านไอ้นาย ไม่ไกลนักหรอก เดินไป 15 นาทีก็ถึง” ไม่ว่าจะพูดอะไร หน้าตอของเขาก็ดูไม่มีความอ่อนโยนสุภาพเอาเสียเลย

    อัคคีพาก้อยไปที่รถ เขาพาเธอไปที่โรงพยาบาลที่พ่อของเขาเป็นเจ้าของอยู่ โชคดี ที่มันไม่ไกลนัก

    “เธอเป็นแผลที่มือ” พยาบาลสาวพยักหน้ารับเป็นเชิงว่าเข้าใจ ก่อนจะพาก้อยไปห้องฉุกเฉินเพื่อทำแผล เวลาผ่านไปร่วม 1 ชั่วโมง ก้อยเดินออกมา เขาเห็นน้ำตาเม็ดเล็ก เขายิ้มเล็กๆ ผู้หญิงดุๆก็ร้องไห้เป็นด้วย แถมน่ารักอีกต่างหาก

    “เป็นอะไรไปครับ น้ำตาซึมเชียว” ก้อยยกมือขวาขึ้นปาดน้ำตา

    “ไม่มีอะไรหรอก อย่าห่วงเลย” ก้อยเดินไปรอที่หน้าห้องจ่ายยา คุณพยาบาลจ่ายยาแก้อักเสบและยาอื่นๆให้เธอ เธอนึกขึ้นได้ว่าไม่เอาเงินมาสักบาท กระเป๋าเงินยังอยู่โรงเรียนอยู่เลย

    “คุณพยาบาล บอกพ่อผมนะว่า ผมพาเธอมา” พยาบาลสาวก้มหน้าก้มตาพยักหน้ารู้เรื่อง เธอโทรศัพท์หาเจ้าของโรงพยาบาลนี้ทันที 

    “พ่อผมเป็นเจ้าของที่นี่ ไม่ต้องห่วงฮะ ผมโทรฯไปบอกพี่ต้นให้เก็บของให้พี่แล้ว เดี๋ยวผมไปส่งนะ” วันนี้เธอรู้สึกแย่มากที่ทำแบบนี้ แต่ผิดกัน อัคคีกลับรู้สึกดี ที่ได้ดูแลพี่สาวคนนี้เสียด้วยซ้ำไป

    .

    .

    “เพลง ก้อยมันจะเป็นอะไรรึเปล่าวะ” ต้น อยู่ไม่สุขเมื่อมีสายเข้ามาจากรุ่นร้องต่างโรงเรียนที่ชื่อคีย์ ว่าเพื่อนสาวของตนเข้าโรงพยาบาล แต่คีย์บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวก็คงเสร็จ เขาวานให้รุ่นพี่ช่วยเก็บของให้ก้อยด้วย ต้นรีบโทรฯหาแม่เพื่อบอกว่าจะกลับช้าหน่อย เพื่อนรักไม่สบายอย่างนี้ ให้หนีกลับบ้านก็กะไรอยู่

    “ไม่เป็นไรหรอกน่า อย่าคิดมากไปเลย” เพลง ที่ดูจะไม่แสดงอาการมากนัก แต่ใครจะไปรู้ เธอน่ะ ห่วงเพื่อนรักคนนี้ที่สุด เธอไม่เปิดคอมพิวเตอร์ลูกรัก ไม่เช็คอีเมลล์ใดๆทั้งสิ้น พยายามจะให้เป็นเหมือนเดิม จะกินอะไรก็จุกไปหมด

    “แกไม่ห่วงมันบ้างรึไง” ต้น เอ่ยถาม

    “ห่วง แต่มันไม่เป็นไรหรอก” เพลงพยายามข่มให้ตัวเองพูดให้ดูดีที่สุด

    “เออ เรื่องของแกเหอะ ฉันห่วง” ต้นยังคงเดินไปเดินมาอยู่อย่างนั้น เขาเฝ้ารอการเปิดประตูมาของใครสักคน

    “แกมานั่งสักทีเหอะ ฉันปวดหัวไปหมดแล้ว”

    “ก็ฉัน...” เสียงลูกบิดประตูดังขึ้น ใครคนที่ทุกคนกำลังเฝ้ารออยู่กลับมา มีชายหนุ่มหน้าตาคุ้นหน้าเพราะรู้จักกันอยู่แต่แรกแล้วเดินขึ้นมาส่งข้างบน เสียงโทรศัพท์เจ้ากรรมดังขึ้นทันที ต้นเดินมาประคองเพื่อนรักไว้แทน เพราะไอ้หนุ่มข้างๆมันโทรศัพท์เข้า

    “เดี๋ยวฉันดูแลเอง นายไปรับโทรศัพท์เถอะ” ต้นเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจ

    “ฉันว่าแกกลับไปกันได้แล้ว ฉันดูแลมันเอง” เพลงเดินมาเกาะไหล่เพื่อนรักไว้ ก่อนจะพาเพื่อนสาวไปนั่งที่ห้องนอน

    “เรียกคีย์ให้หน่อยสิ” ก้อยบอกเพลง

    “เออ รอก่อนนะ” เพลงพยักหน้าเดินออกไปหาเจ้าตัว เธอกระซิบเพราะไม่ต้องการให้ต้นได้ยิน อัคคีเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่เรียกเขา ทิ้งให้เพลงและต้นอยู่ด้วยกัน

    “ฉันชักไม่ไว้ใจไอ้หมดนี่แล้วว่ะ เพลง” ต้นมีสีหน้าร้อนใจ เขารู้สึกไม่ดีนักกับน้องชายเพื่อน

    “ทำไม หึงไอ้ก้อยมันล่ะสิ”

    “แกเอาอะไรมาพูด” ต้น เงียบไปสักพัก เขาไม่ทำท่าทางอะไรออกมา ดูเขาจะเครียดขึ้นด้วยซ้ำ เขาเดินไปที่ห้องนอนเพื่อนสาว ประตูไม่ได้ปิดสนิทนัก เขาหันไปมองหาเพลง ได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำ เพลงคงเข้าห้องน้ำแล้วกระมัง เขาแอบมองคนสองคนนั้นคุยกัน ได้ยินชัดเจนว่าพูดอะไร

    “พี่ต้องขอบใจคีย์มากนะ”

    “ผมว่าต้องขอบคุณพี่ชายผมต่างหากฮะ พยาบาลบอกว่าเขาโทรฯหาคุณพ่อก่อนผมกับพี่จะไปอีกด้วยซ้ำ”

    “จริงหรอ”

    “ฮะ เมื่อกี้เขาก็โทรฯมา ถามว่าพี่เป็นยังไงบ้าง แล้วก็ถามว่าจะกลับเมื่อไหร่”

    “งั้นก็ฝากขอบคุณด้วยละกัน”

    “ฮะ งั้นผมไปก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้เจอกันฮะพี่ก้อย”

    “จ้ะ” คีย์จับมือเล็กเบาๆข้างที่เจ็บ เขาทรุดตัวนั่งลงที่พื้น เขาเป่ามือเธอเบาๆ

    “หายไวๆนะครับ” ก้อย ทำอะไรไม่ได้ มือของเธอขยับเองยาก มันปวดไปหมด เธอรู้สึกแปลกๆตอนสบตารุ่นน้องคนนี้ เธอรู้สึกว่าใจเธอสั่น เหมือนกับจะหลุดออกมาจากในอกเสียให้ได้

    อัคคีลุกขึ้นเดินจากไปช้าๆ ก้อยไม่กล้ามองตาม เธอยังคงก้มหน้างุดๆ หน้าใสแดงฉ่ำ เธอกล้าบอกตัวเอง ว่าเมื่อกี้นี้ เธอเขินอายรุ่นน้องคนนี้เอามากๆจริงๆ ต้นที่ฟังอยู่ และเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง เขารีบเดินกลับไปนั่งที่โซฟา ทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็น เพลงที่นั่งอยู่บนโซฟาตั้งแต่แรกเอ่ยถาม

    “เห็นอะไรดีๆมาสินะ”

    “เธอ...” เพลงขยับหัวดุกดิกไปมา

    “ผมไปนะครับ พี่เพลง พี่ต้น” อัคคีเดินเปิดประตูกลับออกไป

    “ฉันถามแกตรงๆนะ แกชอบไอ้ก้อยจริงๆล่ะสิ ใช่มั้ย”

    “ฉันไม่รู้ ฉันแค่รู้สึกหวง”

    “นั่นแหละ ฉันไม่ขอลงความเห็น” เพลงเดินไปหยิบของบางอย่างออกมาจากห้อง นั่นคือโน๊ตบุ๊คลูกรักของเธอ เธอเปิดไปที่เว็บเพจหน้าหนึ่ง เป็นรูปก้อยขึ้นมา เขาอ่านตัวอักษรใต้รูป มันเขียนว่า –เขาว่าเนื้อคู่ของฉัน ในชื่อจะมีสระสองตัว- ต้นฉีกยิ้มเล็กพลางนึก           –ก็กูนี่หว่า-

    “เมื่อไหร่”

    “ไม่นานนักหรอก แกกลับไปได้แล้ว” ต้นลุกขึ้นหยิบกระเป๋านักเรียนไปเคาะประตูไม้ห้องก้อย ประตูยังแง้มๆอยู่ เขาผลักเบาๆ ก้อยนั้นนอนหลับไปแล้ว คงจะเหนื่อยตั้งแต่ที่โรงเรียนแล้วสิ

    “ฉันรักแกนะ ก้อย” ต้นมองจากประตู เห็นหญิงสาวนอนหลับตาปี๋อยู่ เขายิ้มและเดินจากไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×