คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 01. KyuSeo : โลกแห่งความรัก By maknae-biased
01. KyuSeo
โลกแห่งความรัก
เสียงจังหวะดนตรีค่อย ๆ ดังขึ้นเป็นท่วงทำนองหวานระคนเศร้า เสียงหญิงสาวร้องคลอไปตามจังหวะของดนตรีกล่อมผู้ฟังที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่งของกระจกใสได้อย่างน่าอัศจรรย์ ร่างสูงเกินมาตรฐานของสาวเอเชียหากแต่ดูบอบบางน่าทะนุถนอมยืนอยู่ลำพังในห้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ มีเพียงเจ้าไมโครโฟนและแท่นวางโน้ตกับกระดาษไม่กี่ใบอยู่เป็นเพื่อนเธอเท่านั้น ถึงอย่างนั้นกลับดูธรรมชาติไม่ขัดเขิน ไม่ว่าจะมองมุมไหนเธอที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งกับกางเกงยีนส์เข้ารูปก็เหมือนกับนางฟ้ากำลังยืนร้องเพลงอยู่บนปุยเมฆขาว มือเล็ก ๆ แตะเบา ๆ ที่หูฟังขนาดใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ยังคงหลับตาเปล่งเสียงร้องออกมาจากหัวใจ ทำเอาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ แทบจะหยุดนิ่ง ไม่กล้าเคลื่อนไหว แม้เพียงกระพริบตา
“ดีมากซอฮยอน ดีกว่าตอนแรกมากเลยทีเดียว วันนี้พอก่อนแล้วกัน” เสียงทุ้มกังวานของชายหนุ่มร่างใหญ่ที่นั่งหมกมุ่นอยู่กับแผงอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ตรงหน้าเอ่ยขึ้นอย่างชื่นชมท่ามกลางความเงียบสงบหลังเสียงเพลงจบลง
“ขอบคุณมากค่ะ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงยินดีพร้อมกับโค้งตัวเก้าสิบองศาแบบที่เธอทำจนเป็นนิสัย ดวงตากลมลอบสังเกตอาการของชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ในห้องกระจกฝั่งตรงข้ามใกล้ ๆ กันกับชายหนุ่มตัวโต หากแต่เขาไม่ได้มีท่าทีอันใดให้เธอล่วงรู้ถึงความคิดเขาได้เลยแม้แต่น้อย
“ต้องปรับอีกไหมฮะ หรือว่านี่โอเคแล้ว” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หันไปถามความเห็นของอีกฝ่ายอย่างสงสัย
“ชั้นว่าดีแล้ว นายล่ะว่ายังไงคยูฮยอน” โปรดิวเซอร์ร่างโตถามกลับเกือบจะทันที ด้วยทำงานร่วมกันมานานทำให้สนิทสนมกับจนรู้ว่าสามารถคุยกันได้แบบตรง ๆ ไม่มีอ้อมค้อม ถามตรงไปอย่างไรคยูฮยอนก็ตอบมาทื่อ ๆ อย่างนั้นจนบางทีคนฟังก็สะอึก หากแต่เพราะชายหนุ่มเป็นคนมีความคิดและมีประสบการณ์ในธุรกิจดนตรีมาไม่น้อย จึงทำให้คำตอบของชายหนุ่มรุ่นน้องน่าสนใจสำหรับโปรดิวเซอร์ที่มักจะมองด้านศิลป์มากกว่าด้านธุรกิจ
หญิงสาวที่เดินมาสมทบจากห้องกระจกอีกฝั่งอย่างเงียบ ๆ ดวงตามองคนตรงหน้าอย่างคาดหวัง อยากรู้ว่าเขาจะตอบว่าอย่างไร ทำไมถึงได้ทำท่าทางนิ่งเฉยได้ขนาดนั้น
“ผมว่า...ดีแล้วฮะ อาจจะมีข้อบกพร่องไปบ้างแต่ซอฮยอนสื่อสารอารมณ์ได้ดีจริง ๆ” คยูฮยอนเอ่ยตอบพร้อมกับลอบมองร่างสวยตรงหน้า ดวงตากลมใสเปล่งประกายขึ้นมาวูบนึง รอยยิ้มน้อย ๆ เผยขึ้นแทบจะทันทีที่ได้ยินคำชมจากปากเขา
“เออ! จริง!” โปรดิวเซอร์รุ่นพี่แทบจะตบเข่าฉาดอย่างถูกใจในคำตอบของชายหนุ่มรุ่นน้องทำสองคนที่กำลังจะสร้างโลกส่วนตัวสะดุ้งเฮือก แทบจะเก็บอาการไม่ทัน
“สื่อสารได้ดีจนไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เคยมีความรักมาก่อนอย่างนั้นแหละ”
ซอฮยอนมองตาชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ด้วยไหวพริบของเขา คยูฮยอนสามารถจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นได้ด้วยประโยคเดียว “แหมฮยอง คนไม่เคยแต่งงานยังเล่นบทแม่ได้เลย ฮยองก็พูดไปเรื่อย”
“เอาเป็นว่าผมพาซอฮยอนกลับก่อนนะฮะ ถ้าต้องอัดเพิ่มอีกโทรมานัดเวลากับผมก็แล้วกัน” ชายหนุ่มตัดบท มือหนาเอื้อมมือหยิบกระเป๋าถือใบหรูที่วางอยู่มาพร้อมกับแก้วสตาร์บักส์มาไว้ในมือเดียวก่อนจะเอื้อมมือที่ว่างอยู่ไปเปิดประตูให้กับเธอ หญิงสาวโค้งตัวลาโปรดิวเซอร์ร่างโตอีกครั้งก่อนจะเดินนำออกไป
“อปป้าไม่ต้องถือให้หรอกค่ะ เดี๋ยวเค้าถือเอง” หญิงสาวพูดขึ้นทันทีเมื่ออยู่เพียงลำพังสองคน แขนเรียวบางพยายามเอื้อมคว้าเอาของที่อยู่ในมือเขามาถือ หากแต่อีกฝ่ายสูงกว่า ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่เกิดผล แม้จะเอื้อมสุดปลายมือแถมยังเขย่งยืนบ่นปลายเท้าแล้วก็ตาม ใครมาเห็นท่าทางของเธอตอนนี้คงไม่คิดว่านี่คือนักร้องหญิงชื่อดัง .. ซอฮยอน
ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ในลำคออย่างคนที่เหนือกว่า ท่าทางเด็ก ๆ แสนน่ารักเวลาที่เธออยู่กับเขาทำให้เขาอารมณ์ดีไม่น้อย ซอฮยอนเป็นนักร้องหญิงที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปัจจุบัน เพลงของเธอได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น ด้วยรูปร่างหน้าตาสวยสดใสและน้ำเสียงหวานละไมจับใจแฟนเพลงได้ไม่ยาก หญิงสาวได้ขื่อว่าเป็นนักร้องหญิงตัวอย่างที่ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย เธอดำรงชีวิตอย่างถูกต้องและสวยงามตามแบบแผนมาโดยตลอด โลกของเธอที่ใคร ๆ เห็นช่างแสนสวยงามหรูหรา หากจะมีใครรู้ว่าซอฮยอนนางฟ้าของวงการเพลงแท้จริงแล้วคือซอฮยอนคนที่อยู่ตรงหน้าเขาต่างหาก
.. ผู้หญิงที่แสนเรียบง่ายอ่อนหวาน บางทีเธอโตเป็นผู้ใหญ่ บางทีเธอเป็นเด็กหญิงสดใส อย่างยากที่จะคาดเดา
คยูฮยอนรู้จักกับซอฮยอนเมื่อตอนที่เขารับเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับเธอ ก่อนหน้านั้นเขาเป็นผู้จัดการวงบอยแบนด์ของค่าย ในขณะที่ซอฮยอนเองก็มีผู้จัดการหญิงคอยดูแล เจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเวลามีงานของบริษัท
ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว วันที่เขาถูกเรียกเข้าไปในห้องท่านประธานเพื่อมอบหมายเธอให้อยู่ในความดูแลของเขาแทนผู้จัดการคนเก่าที่ลาออกไปมีครอบครัว เขายังจำสีหน้าท่าทางตกใจของหลาย ๆ คนได้เป็นอย่างดีที่หวยมาออกเลยที่เขาทั้ง ๆ ที่มีคนอื่นอีกมากที่คาดหวังจะได้รับหน้าที่นี้
แต่คนเดียวที่ไม่ได้แสดงอาการตกใจคือเธอที่ยืนมองเขาอยู่ดวงสายตาที่ไม่อาจบอกความหมาย หญิงสาวโค้งให้เขาก่อนคลี่ยิ้มน้อย ๆ เธอเอ่ยเบา ๆ แต่ดังพอที่เขาจะได้ยิน
"ยินดีที่ได้ทำงานร่วมกันนะคะ คุณคยูฮยอน"
เพียงแค่ประโยคนั้นประโยคเดียว โลกของเขาก็เปลี่ยนไป
ใครต่อใครต่างก็ว่าเพราะคยูฮยอนคือผู้จัดการที่ปากร้ายที่สุดในบริษัท ท่านประธานเลยไว้ใจเขาให้ดูแลเธอ นักร้องหญิงเบอร์หนึ่งที่รักคนทั้งค่าย ด้วยคิดว่าผู้ชายอย่างเขาคงไม่สามารถทำให้ผู้หญิงอย่างเธอสนใจมากไปกว่าแค่คนทำงานร่วมกัน แต่มันจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ น่ะหรือ
"อปป้า~า" หญิงสาวร้องเรียกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ชายหนุ่มตามใจ
ถ้าเขาจำไม่ผิดวันที่รู้จักกันครั้งแรกเป็นเพียงครั้งเดียวที่เธอเรียกเขาว่า "คุณคยูฮยอน" หลังจากนั้นหญิงสาวก็บอกกับเขาเองว่าเธอจะเรียกเขาว่าอปป้า ไหน ๆ ก็จะต้องทำงานด้วยกัน เจอกันทุกวัน ยังไงเสียก็ควรจะสนิทกันไว้ เธอให้เหตุผลที่เขาไม่รู้จะปฏิเสธได้อย่างไร
"เค้าขอแก้วมาดื่มน้ำก็ไม่ได้เหรอคะ เมื่อไรจะเลิกแกล้งเค้าซะที" แก้มยุ้ย ๆ พองลมออกมาอย่างต้องการให้อีกฝ่ายรู้ว่ากำลังไม่พอใจ ซอฮยอนในตอนนี้แปลงร่างเป็นเด็กหญิงน้องซออย่างเต็มภาคภูมิแล้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายแกล้งไม่เลิกแถมยังเอาแต่หัวเราะใส่เธอ
"ก็อยากน่ารักน่าแกล้งทำไมล่ะ" เขาตอบอย่างอารมณ์ดี มือหนายื่นเอาแก้วน้ำสตาร์บักส์ใบโปรดของเธอมาตรงหน้าอย่างตั้งใจจะกวน มือยังคงถือกระเป๋าไว้ให้เธออย่างนั้น จนเมื่อเธอรับแก้วไปจากมือเขา ชายหนุ่มจึงเอื้อมไปลูบศีรษะน้อยอย่างแสนรัก
"พี่ถือให้น่า พี่รู้ว่าเธอเหนื่อย อยู่ในห้องอัดตั้งนาน" สิ้นคำร่างสูงก็ก้าวเท้ายาว ๆ นำหน้าไปทันที ทิ้งให้หญิงสาวยืนอยู่อย่างนั้น ดวงตากลมโตมองตามแผ่นหลังสูงกว้างนั้น ค่อย ๆ นึกถึงสิ่งที่เขาพูด ริมฝีปากสีกุหลาบค่อย ๆ คลี่ยิ้มบาง ๆ เมื่อรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่อีกฝ่ายส่งผ่านมาให้ก่อนจะรีบวิ่งตามคนที่ค่อย ๆเดินทิ้งห่างออกไป
บนถนนที่ยังคงมีรถราขวักไขว่แม้จะผ่านเข้าสู่เวลาของวันใหม่ไปแล้ว รถยนต์ส่วนบุคคลสีดำแล่นด้วยความเร็วคงที่ไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย ภายในห้องโดยสารเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องทำความร้อนที่ดังขึ้นแข่งกับเสียงจราจรที่ยังคงวุ่นวายจากภายนอก ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยชำเลืองมองหญิงสาวที่หลับอยู่ตรงที่นั่งข้างคนขับเพียงชั่วเสี้ยววินาที เพื่อดูว่าเธอยังหลับสนิทดี ก่อนที่เขาจะหันไปใส่ใจกับทางด้านหน้าต่อ คยูฮยอนค่อย ๆ ชะลอความเร็วก่อนจะจอดรถนิ่งตามจังหวะสัญญาณไฟ
ร่างบอบบางเอนกายพิงกับพนักที่นั่ง ดวงหน้าไร้เครื่องสำอางเผยผิวขาวเนียนละเอียด เปลือกตาปิดสนิทดูผ่อนคลาย คล้ายกับจะมีรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่ริมฝีปากบาง ปอยผมยุ่งตกลงมาเคลียหน้าคนที่กำลังสลบไสลจนเขาอดไม่ได้ต้องเอื้อมมือไปเกลี่ยให้พ้นวงหน้าหวาน
"ถึงไหนแล้วคะ" เสียงอู้อี้ถามขึ้น มือบางยกขึ้นมาขยี้ ๆ ตาหลาย ๆ ครั้งอย่างคนยังไม่ตื่นดี
"หลับไปก่อนเลย เดี๋ยวถึงแล้วพี่จะปลุกเธอเอง" เขาตอบสั้น ๆ ก่อนจะหันไปมองถนนตรงหน้าที่บัดนี้ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว หญิงสาวที่ยังคงงัวเงียได้ยินก็เอนกายพิงเบาะนุ่มนิ่มไปอีกครั้งด้วยความเหน็ดเหนื่อย ตั้งแต่หกโมงเช้าจนตอนนี้ใกล้จะสองนาฬิกาของอีกวันเธอยังไม่ได้พักผ่อนเต็ม ๆ ซักที เป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่เธอใช้เวลาอยู่ในห้องอัดเสียง เพราะคยูฮยอนคอยจัดการ ทุกอย่างเลยดูง่ายขึ้น ไม่เช่นนั้นตอนนี้เธออาจจะยังอยู่ในห้องอัดต่อหรือไม่ก็ต้องถ่างตาขับรถเองก็ได้
รถยนต์สีดำทะมึนแล่นพุ่งทะยานไปตามท้องถนน หากแต่คนขับที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยประคองสติอย่างดี ถึงคยูฮยอนจะได้ขื่อว่าขับรถเลวร้ายแค่ไหน เมื่อมีเธอโดยสารไปด้วยเขามักจะเพิ่มความระมัดระวังขึ้นจนใครต่อใครสังเกตได้ เพียงไม่นานชายหนุ่มก็หักรถเลี้ยวเข้าที่จอดรถของอพาร์ทเมนท์สุดหรูในย่านคังนัม
"ซอฮยอน-อาห์ ตื่นได้แล้วล่ะ ถึงแล้ว" ชายหนุ่มพูดเบา ๆ มือหนาแตะแขนคนที่นอนนิ่งอยู่ เป็นไปตามคาด ซอฮยอนลุกขึ้นนั่งแทบจะทันทีที่ได้ยินคำว่าตื่น ราวกับตั้งโปรแกมไว้ยังไงอย่างงั้น คยูฮยอนเห็นดังนั้นจึงออกจากรถวนอ้อมไปหยิบสัมภาระจากท้ายรถมายืนรอเธอ หญิงออกมาจากรถด้วยท่าทางกระฉับกระเฉงแม้จะยังเพิ่งตื่น การพักสายตาเมื่อครู่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาก ขาเรียวยาวก้าวตามไปสมทบกับเขาก่อนที่จะเดินเคียงกันไป
ภาพสองคนเดินเคียงคู่กันดูจะเป็นภาพที่เห็นกันจนคุ้นตาของพนักงานและผู้อยู่อาศัยที่อพาร์ทเมนท์แห่งนี้ ฝ่ายหญิงมักจะยิ้มทักคนรอบข้างอย่างเป็นมิตรเสมอ ไม่เว้นแม้แต่พนักงานดูแลความปลอดภัย ในขณะที่ฝ่ายชายนั้นนิ่งจนใคร ๆ ต่างพากันเกรง ด้วยเป็นอพาร์ทเมนท์หรูที่มีการดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี ดังนั้นทั้งพนักงานและผู้อาศัยที่นี่จึงต่างให้ความเป็นส่วนตัวแก่กัน ทำให้การดูแลซอฮยอนนั้นง่ายสำหรับเขามากขึ้น อย่างน้อยการพักอยู่ที่นี่ก็ทำให้เขาหมดห่วงเรื่องการรบกวนจากแฟน ๆ และนักข่าวไปได้หนึ่งประการ
ลิฟต์ตัวหรูใช้ระบบการรักษาความปลอดภัยระบบเดียวกับโรงแรมห้าดาวโดยต้องกดชั้นและรหัสที่ถูกต้องก่อนจึงจะสามารถขึ้นได้ มือเรียวบางเอื้อมไปแตะเพื่อป้อนรหัสก่อนที่ประตูจะปิดลง เพียงชั่วอึดใจเจ้ากล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ก็มาหยุดที่ชั้นสูงสุดของอพาร์ทเมนท์ หญิงสาวเดินนำออกไป เธอเดินเรื่อย ๆ ไปตามโถงทางเดินแล้วหยุดที่ประตูห้องด้านในสุดก่อนจะใส่รหัสอย่างคุ้นเคยอีกครั้ง หญิงสาวเปิดประตูโดยมีร่างสูงเดินตามเธออย่างเงียบ ๆ ช้า ๆ
คยูฮยอนมองตามคนที่ทิ้งตัวบนโซฟาตัวนุ่มกลางห้องทันทีที่เดินมาถึง เธอคงเหนื่ิิอยแต่ก็ยังยิ้มเสมอ เขาปิดประตูลงก่อนจะเดินไปวางของลงบนโต๊ะที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก ร่างสูงยืนล้วงกระเป๋านิ่ง สายตาคมยังคงมองเธออยู่อย่างนั้น "คืนนี้เธอพักผ่อนเถอะ พี่กลับล่ะ"
"อะไรกันคะ แต่อปป้าบอกเค้าว่า..." ยังไม่ทันได้พูดอะไรมากกว่านั้นเขาก็ตอบกลับมาทันควัน
"วันนี้เธอเหนื่อยนี่นา ทำงานทั้งวันแล้ว พักผ่อนไม่ดีเหรอ" ร่างเล็กที่กำลังนั่งในท่าสบายผุดลุกขึ้นแทบจะทันทีที่ได้ยินคำพูดจากปากเขา
"ใครบอกว่าเค้าเหนื่อย ถ้ารู้ว่าเค้าเหนื่อยก็ทำข้าวเย็นให้กินหน่อยสิคะ เค้าหิวจะตายอยู่แล้ว" เธอเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับเอื้อมมือไปเขย่าแขนแกร่ง ดวงตากลมโตส่งสายตาออดอ้อนเต็มที่อย่างหมายจะเปลี่ยนใจคนตรงหน้า แค่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเพิ่มขึ้นซักเพียงแค่วินาทีก็ยังดีสำหรับเธอ
ชายหนุ่มยังคงยืนล้วงกระเป๋ากางเกงยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ ถึงอย่างนั้นซอฮยอนยังคงไม่ละความพยายาม เธอเอ่ยต่อ "พรุ่งนี้เค้าไม่มีงานเช้าซักหน่อย..."
ยังไม่ทันสิ้นเสียงช่างจำนรรจาคยูฮยอนก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาจับที่ต้นแขนกลมกลึง เขาดึงเธอเข้ามาใกล้แล้วจรดริมฝีปากลงบนริมฝีปากสีกุหลาบนั้น ลิ้นร้อนค่อย ๆ เคลื่อนไหวเพื่อลิ้มรสเธอที่แสนหวาน หญิงสาวปล่อยเขาได้นำพาเธอไปเดินอยู่บนปุยเมฆขาว ราวกับว่าโลกทั้งโลกนี้หยุดหมุนไปชั่วขณะ จูบของเขาทำให้เธอหมดแรงได้เสมอ คยูฮยอนถอนจูบอย่างแสนเสียดาย มือหนาโอบกอดเธอไว้ในขณะที่อีกข้างยังคงล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่อย่างนั้น เขามองหญิงสาวที่ซุกศีรษะได้รูปที่อกแกร่ง เสียงทุ้มพูดกับเธอเบา ๆ ที่ข้างหูจนพาเอาคนฟังใจสั่นระรัว
"ก็แค่อยากให้พักผ่อน แต่ถ้าเธอยืนยัน..." เขาพูดแกมหยอก
"อปป้า!" หญิงสาวร้องโวยเสียงดังลั่น มือน้อยดันตัวเองออกห่าง พวกแก้มใสขึ้นสีระเรื่อเมื่อคิดไปไกลถึงสิ่งที่เขาพูด
"อ้าว ก็ในเมื่อเธอยืนยันว่าหิว พี่ก็จะทำอาหารให้กินไง" คยูฮยอนพูดไปพลางหัวเราะไปพลางเมื่อเห็นอาการของคนตรงหน้า ซอฮยอนน่ารักเสมอ ไม่ว่าจะคบกันมานานแค่ไหน แต่หญิงสาวยังคงเขินอายเวลาที่เขาพูดหยอกเย้าหรือสัมผัส นั่นยิ่งทำให้เธอน่ารัก ดวงหน้าหวานที่ขึ้นสีจัดขึ้น อาการขัดเขินแต่ไม่ได้รังเกียจ ทำให้เขาเพลินที่ได้มองจนต้องแกล้งอยู่บ่อย ๆ เพื่อให้ได้เห็นแก้มสีชมพูระเรื่อ
"คิดไปถึงไหนเนี่ย"
มือหนายีที่ศีรษะกลมมนก่อนเดินแยกเข้าไปในห้องครัวขนาดเล็กโดยไม่ลืมสั่งหญิงสาวภายใต้การดูแลด้วยความคุ้นเคย "เอาของไปเก็บให้เรียบร้อย เธอจัดการตัวเองเสร็จอาหารก็น่าจะเสร็จพอดี"
ซอฮยอนมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเปี่ยมรัก จะมีใครที่ดูแลเธอได้อย่างเขาอีกไหม ผู้ชายที่ดูแลเธอทุกกระเบียดนิ้ว ผู้ชายที่ไม่เคยละสายตาไปจากเธอ ผู้ชายที่ยอมทำอาหารให้เธอกินแม้ว่าเธอจะคอยบ่นเขาว่าแค่ทำรามยอนก็ยังไม่อร่อย ความรักของเขาและเธอเริ่มต้นอย่างง่ายดายจนมาถึงวันนี้ก็ยาวนานนับปี แม้ความรักระหว่างศิลปินชื่อดังกับผู้จัดการส่วนตัวนั้นทำให้ไม่สามารถเปิดเผยได้อย่างคนทั่วไปจนบ่อยครั้งที่เธอเองก็นึกท้อ แต่มันก็มีส่วนดี .. อย่างน้อยฐานะแบบนี้ก็ทำให้ไม่ต้องปิดบังใด ๆ ในการใช้เวลาอยู่ร่วมกัน
หญิงสาวจัดการอาบน้ำแต่งตัวเพียงชั่วครู่แล้วจึงเดินมาที่ห้องครัวในชุดลำลอง ซอฮยอนเสื้อยืดตัวใหญ่ที่พออยู่บนตัวเธอแล้วยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก กับกางเกงขาสั้นตัวเล็กเนื้อผ้าเบาสบาย เธอค่อย ๆ ย่องเข้ามาเบา ๆ ก่อนจะโถมตัวกอดเขาจากด้านหลังจนชายหนุ่มเซไปด้านหน้าเบา ๆ อย่างไม่ได้ตั้งหลัก
"เสร็จแล้วเหรอคะ" เธอถามพลางทำจมูกฟุดฟิดเพื่อสูดกลิ่นอาหารแล้วจึงชะโงกหน้าดูผลงานของผู้จัดการรูปหล่อ
"อื้ม ไปนั่งสิ เดี๋ยวพี่ยกไปให้" เขาเอ่ย
เสียงหวานใสรับคำแล้วจึงเดินมานั่งที่โต๊ะอาหาร คยูฮยอนถือชามใบโตที่มีบีบิมบับอยู่ในนั้นตามมาที่โต๊ะอาหารโดยที่ไม่ลืมหยิบช้อนมาอีกสองคัน เขาวางชามลงกลางโต๊ะอย่างง่าย ๆ แล้วยื่นอาวุธให้เธอรับไป
"ทานง่าย ๆ ไปก่อนนะ ของในตู้เรามีพอทำได้แค่นี้เท่านั้นแหละ" เขาอธิบาย
"ไม่เห็นเป็นไรนี่คะ อะไรที่อปป้าทำ เค้าชอบทั้งนั้นแหละ" ซอฮยอนใช้ช้อนตักข้าวคำโตเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยแล้วจึงตักอีกคำยื่นไปป้อนชายหนุ่ม สองคนทานอาหารกันเพียงลำพังในห้องครัวขนาดเล็ก ๆ แต่กลับมาความสุขไม่แพ้มื้อไหน ๆ การที่ได้ใช้เวลาคุณภาพร่วมกันหลังจากผ่านวันที่แสนเหนื่อยเหมือนกับเป็นการเติมพลังให้พร้อมจะก้าวเดินในวันถัดไป
โลกแห่งความรักของเขาและเธอไม่เคยมีใครได้ล่วงรู้ หากแต่ว่ามีอยู่จริง และมันช่างแสนสวยงามเหมือนเป็นนิรันดร์
01. KyuSeo : โลกแห่งความรัก By maknae-biased
© Tenpoints!
ความคิดเห็น