คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ผู้ชายใจร้ายจัง
“สวัสดีตอนเช้าครับต้นรัก”
“อ้าวพี่เมฆ สวัสดีค่ะ”
“พี่มารับไปทำงาน”
“ขอบคุณค่ะ” ต้นรักหอบงานไปไว้บนรถของชายหนุ่ม งานแต่ละชิ้นของต้นรักก็มีขนาดใหญ่ ชายหนุ่มจึงเข้ามาช่วยถือ เมื่อเรียบร้อยรถยนต์สีขาวก็ออกสตาร์ทไป
“มาทำงานเกือบเดือนละยังไม่เจอคุณภพเลยค่ะ”
“หมอนี่มันไม่ค่อยว่างหรอก ธุระมันเยอะเฮ้ย!.”เมฆกล่าวขณะหักหลบรถมอเตอร์ไซด์ที่แซงปาดหน้า ทำให้ต้นรักศรีษะไปกระแทกกับกระจกรถ
“เป็นไรมั้ยต้นรัก” ชายหนุ่มรีบจอดรถเข้าข้างทาง
“คนสมัยนี้ขับรถแปลกๆนะคะ โอยยยเจ็บ” หญิงสาวปากบ่นแต่มือยังคลึงที่แผลที่โนปูดออกมา
“มาเดี๋ยวพี่ทายาให้” ชายหนุ่มจับหน้าหญิงสาวมาทางเขาแล้วพิจารณารอยปูดบวม ต้นรักเกิดอาการเขินไม่กล้าสบสายตา ส่วนชายหนุ่มเองก็เอื้อมตัวมาหยิบยาในกล่องใส่ของหน้ารถ ทำให้ต้นรักยิ่งเขินเกร็งมากขึ้น ชายหนุ่มบรรจงทายาที่รอยช้ำเบาๆ
“เพี้ยง”
“หายละคนเก่ง” เมฆยิ้มหวานแบบผู้ใหญ่ใจดี
“ขอบคุณค่ะ”
* * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ที่แกเล่ามาจริงอ๋อ”
“เห็นมะยัยฟ้าฉันบอกแกแล้วว่าไอ้รักมีกิ๊ก”
“เว่อร์แล้ว จะบ้าเหรอ เขาเป็นพี่ที่ทำงานนะ” ต้นรักตีหมอนใส่พิมที่ทำหน้าล้อเลียนเธอ
“ถามเจ้าเพชรมันยังรู้เลย”
“แม้วว!”(ใช่เห็นด้วย)
“มากไปเจ้าเหมียวเรื่องของคนแมวไม่เกี่ยว” ต้นรักยิ่งอายหน้าแดงไปกันใหญ่ ยิ่งพิมล้อเลียนเธอเรื่องทำแผลให้บนรถเธอยิ่งเขินมาก
“พอได้แล้ว ฉันกับพี่เขาเป็นเพื่อนกัน”
“แล้วนี่คืออะไรเหรอ” ฟ้าใสหยิบตั๋วหนังขึ้นมาปัดไปปัดมา ส่วนพิมก็เกทับทันทีด้วยการทำตาหวานเยิ้มใส่ ต้นรักรีบคว้าไปทันที
“มีตั้ง 4ใบแหนะ” พิมทำตาวาว
“ก็พี่เค้าฝากชวนพวกเธอด้วย” ต้นรักยื่นตั๋วที่เหลือให้
“ว้า...ฉันคงไปไม่ได้หรอก ฉันต้องไปเดทกับพลอะ”ฟ้าใสบ่นอย่างเสียดาย
“ไม่เป็นไรนะฉันไปได้ ของฟรีไม่พลาดค่ะ” พิมรีบรับตั่วอย่างร่าเริง
“แล้วพรุ่งนี้เจอกันที่หน้าโรงหนังนะ” พิมกับฟ้าใสขอตัวกลับบ้านก่อน
“แม้ว..แม๊ว”(ชอบเค้าจริงอ๋อ)
“เค้านิสัยดีมากเลย ถ้าใช่ฉันก็ไม่ปฏิเสธนะ” ต้นรักอุ้มเจ้าเหมียวมาไว้ในอ้อมแขน เดินฮัมเพลงเบาๆไปรอบๆบ้าน หญิงสาวออกไปยืนอยู่ที่ระเบียง ในใจก็คิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเมฆ
* * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ติ๊ด...ตี๊ด...”
“ฮาโหลค่า..” เสียงของคนเพิ่งตื่น
“นั่นใช่คุณพิมรึเปล่าครับ”
“ช่ายค่ะ มีรายหรอค๊า..”
“นี่ผมเมฆนะครับ โทษทีที่โทรมาปลุก”หญิงสาวแปลกใจที่เมฆโทรหาเธอทำไม และได้เบอร์โทรศัพท์มาได้ไงแต่เธอไม่กล้าถามตรงๆ
“อ้าวพี่เมฆมีอะไรหรือค่ะ”
“อ๋อเรื่องดูหนังอะครับ ไม่ทราบว่าน้องพิมไปรึเปล่า”
“ไปค่ะ ทำไมหรือค่ะ”
“เปล่าจ๊ะพี่กลัวรักเค้าไม่มีเพื่อนหนะ งั้นพี่ไม่กวนละ”
“ค่ะ สวัสดีค่ะ”
“ฝันดีนะครับ สวัสดีครับ”
“ฉันไม่ได้มาช้าไปใช่มั้ย” พิมรีบวิ่งกระหืดกระหอบมาที่หน้าโรงหนัง ซึ่งเมฆและต้นรักรออยู่
“ไม่ช้าหรอกแค่15 นาทีเอง”ต้นรักแอบจิกเพื่อน
“สวัสดีค่ะพี่เมฆ” พิมหันไปทักทายก่อนที่จะพากันเดินเข้าไปในโรงหนัง เพราะใกล้เวลาฉายแล้ว
“เดี๋ยวพี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
“สองคนเข้าไปก่อนเลยเดี๋ยวพี่ตามไป”
“ค่ะ”
หญิงสาวทั้งสองเดินเข้าไปในโรงหนัง ตอนนี้ที่นั่งในโรงมีคนมานั่งมากมาย เตรียมที่จะชมภาพยนตร์แล้ว
“พิมตรงนี้แอร์มันตกเดี๋ยวฉันนั่งเองละกัน”
“จะบ้าเหรอให้ฉันนั่งคั่นแกกะพี่เค้าอะนะ” สองสาวกระซิบเถียงกัน
“เปล่าแกลืมแล้วเหรอว่าแกขี้หนาวเดี๋ยวเป็นไรขึ้นมาแม่แกจะเสียใจ” ต้นรักรีบนั่งที่นั่งของตนเอง
“แหมอายอะดิ๊จะให้ฉันนั่งคั่นก็บอกมาเหอะ” เพื่อนสาวเถียงกลับอย่างรู้ทัน
“ดูหนังมาหลายรอบไม่เคยเป็นอย่างที่แกว่าสักรอบ” พิมยังไม่เลิกบ่น พอดีกันกับเมฆเดินเข้ามานั่งมาพอดี ชายหนุ่มมองหน้าพิมและยิ้มด้วยความแปลกใจ หญิงสาวกำลังจะเอ่ยปากเล่าสาเหตุก็ถูกต้นรักหยิกที่แขนทำให้หญิงสาวได้แค่ยิ้มแหยๆ
“หนังเริ่มแล้วค่ะ” พิมรีบพูดตัดบท
พอหนังเริ่มได้ไปเกือบครึ่งเรื่องพิมกับต้นรักก็ผลอยหลับ ทั้งสองหลับพิงกัน ชายหนุ่มละสายตาจากหนังมามองที่สองสาว สายตาของชายหนุ่มตอนนี้จ้องมองไปที่พิมคนเดียว!
“อ้า..หลับสบายจัง” ต้นรักออกมายืนบิดอยู่หน้าโรงหนัง
“แต่ฉันยังง่วงอยู่เลย” พิมออกมายืนหาวข้างๆต้นรัก
“นี่ครับสำหรับคนชอบแอบหลับ” ชายหนุ่มยื่นน้ำมะนาวให้ทั้งสองสาว ต้นรักรับมาแล้วมีสีหน้าเจือนๆ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สังเกต เพราะตอนนี้เขามองแต่พิม ส่วนพิมรู้ว่าต้นรักกินน้ำมะนาวไม่ได้แต่ก็ไม่กล้าบอกกลัวชายหนุ่มจะเสียหน้า
“เดี๋ยวให้พี่ไปส่งนะ” ชายหนุ่มอาสาเป็นสารถีให้สองสาว เขาขับรถมาส่งต้นรักที่บ้านจากนั้นจึงไปส่งพิมต่อ ต้นรักถือน้ำมะนาวที่ยังไม่ได้แตะสักหยดกลับมาด้วย สีหน้าบ่งบอกอารมณ์ที่เบื่อสุดๆ หญิงสาวนั่งลงที่โต๊ะญี่ปุ่น
“แม้ววว”(เป็นไร)
“เจ้าเพชร ...”ต้นรักมองแมวน้อยเศร้าๆ เธอยื่นแก้วน้ำมะนาวให้
“ฉันยังไม่กินมัน พี่เค้าก็ไม่สังเกตเลย” เจ้าเหมียวมองเจ้านายอย่างเข้าใจ
“พี่เค้าก็คงจะเหมือนคนอื่นๆ”
“แม้ว”(ไม่หรอก) เจ้าเหมียวมาเลียที่ปลายนิ้วมือ
“ฉันคงคิดมากไปเองใช่มั้ย”
* * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ฟ้าแกว่าฉันควรทำไงดีอะ” พิมปรึกษาเรื่องเมฆ
“จากที่แกเล่านะเล่นโทรมาบ่อยๆอย่งงี้ ฉันคิดว่า...”ฟ้าใสอึกอัก
“คิดว่าไร”พิมเร่งเร้า
“พี่เค้าชอบแกอะดิ”
“แล้วยัยรักหละ..ทำงี้ได่งัย” พิมพูดใส่อารมณ์และมีสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
“เค้าคงคิดแค่...น้องสาวมั้ง”
“ทำไมพี่เมฆเป็นคนแบบนี้นะ”ฟ้าใสบ่นกับตัวเอง โดยมีพิมนั่งอยู่ข้างๆด้วยอารมณ์ที่ไม่สู้ดีนัก พิมนั่งใช้ความคิดสักครู่และดูเหมือนว่าหญิงสาวจะคิดอะไรออก พิมรีบลุกเดินออกไปจากโต๊ะ ฟ้าใสตะโกนถามไล่หลังก็ไม่หันไปตอบ ฟ้าใสจึงลุกตามไปด้วยความเป็นห่วง
“นี่จะไปไหน ยัยพิมรอฉันด้วย” ฟ้าใสรีบคว้าแขนเสื้อของพิมไว้แต่พิมก็สะบัดมันหลุด พิมตรงไปเรียกรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ ในขณะที่พิมขึ้นรถแท็กซี่ฟ้าใสก็กระโดดขึ้นไปนั่งยังเบาะหน้าหันมาถามพิมว่า
“แกจะไปไหน”
“ไปหาพี่เมฆ ไปคุยให้รู้เรื่อง”
“แกไอ้รักมันทำงานที่เดียวกับเค้านะ แกคิดว่ามันจะไม่รู้เหรอ” ฟ้าใสปรามเพื่อน
“แกนัดเค้าไปคุยจะดีกว่า”
“...” พิมไม่ได้ตอบอะไร แต่รับฟังสิ่งที่เพื่อนเตือนสติไว้เท่านั้น
“เอางี้” พิมเริ่มคิดเห็นอีกครั้ง
“แกนัดเค้าที่สวนสาธารณะดิ ปลอดภัยดีด้วย”
“ก็ดีเหมือนกัน” เมื่อทั้งสองสาวกำหนดทิศทางได้ รถแท็กซี่ก็มุ่งตรงไปสวนสาธาราณะ
“ติ๊ด...ตี๊ด...”
“ใครโทรมาอะพิม”
“พี่เมฆ” - - “สวัสดีค่ะ”
“น้องพิมเลิกงานรึยังครับ”
“เลิกแล้วค่ะ ตอนนี้อยู่ที่สวนสาธารณะค่ะ”
“งั้นรอพี่ก่อนนะ พี่มีเรื่องจะบอกน้องพิมแหละ”
“ค่ะ” พิมกดวางโทรศัพท์
“พิมก็มีเรื่องจะบอกกับพี่เหมือนกัน”
“แกใจเย็นๆนะเพื่อน”- - “ฉันไปรอแกที่ร้านขายน้ำนะ”
ฟ้าใสเดินออกมาที่ร้านขายน้ำ สั่งเครื่องดื่มมาดื่มพลางๆ ปล่อยให้พิมนั่งควบคุมสมาธิคนเดียวที่ลานน้ำพุ ไม่นานเมฆก็มาถึง ชายหนุ่มรีบเดินไปที่ลานน้ำพุ แต่ก็ชะงักเมื่อเดินผ่านร้านขายน้ำ ชายหนุ่มตรงเข้ามา ฟ้าใสเกรงว่าเมฆจะเห็นตนจึงฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะทำเป็นหลับ ชายหนุ่มไม่ทันสังเกตสั่งเครื่องดื่มมาสองแก้ว แล้วรีบตรงไปที่ลานน้ำพุ
“รอนานมั้ยครับ” เมฆยื่นเครื่องดื่มที่นำมาด้วยให้พิม
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวรับมาด้วยสีหน้าที่เย็นชา เธอไม่ได้ดื่มมันแต่กลับวางลงข้างๆตัวเธอ
“พี่เมฆมีอะไรจะบอกพิมเหรอค่ะ” เสียงของหญิงสาวก็เย็นชาตามสีหน้า
“น้องพิมไม่สบายรึเปล่า” ชายหนุ่มเป็นกังวล ในขณะที่ทั้งสองสนทนากันที่ข้างลานน้ำพุ แล้วฟ้าใสนั่งสังเกตการแต่ฟ้าใสก็ต้องเหลือบไปเห็นต้นรักพาเจ้าเพชรออกมาเดินเล่น ฟ้าใสกลัวว่าต้นรักจะเจอคนทั้งสองจึงวิ่งออกไปตัดหน้าต้นรัก
“รัก มาได้งัย” ฟ้าใสสีหน้าตกใจ
“แล้วแกหละมาทำอะไรที่นี่” ต้นรักตอบกลับ
“ฉันมา..เอ่อฉันมา..” ฟ้าใสได้แต่อึกอัก ใจนึงก็ไม่กล้าโกหกเพื่อน อีกใจนึงก็ไม่อยากให้เพื่อนรู้ความจริง
“เออช่างมันเถอะ ไหนๆก็มาแล้วไปเดินเล่นกัน” ต้นรักชวน พร้อมกับจูงมือฟ้าใสมาด้วย เมื่อต้นรักจะเดินผ่านลานน้ำพุ ฟ้าใสถึงกับหน้าซีดยืนแข็ง เมื่อได้สติรีบดึงให้ต้นรักไปทางอื่น สองสาวยื้อกันไปมา ต้นรักเผลอปล่อยเจ้าเพชรหลุด มันเดินไปยังลานน้ำพุแล้ว ต้นรักรีบตามไปส่วนฟ้าใสได้แต่ยืนหน้าซีดทำอะไรไม่ถูก
“พิมพี่ขอโทษที่ทำแบบนี้”
“แต่พิมคิดกับพี่แค่เพื่อนเท่านั้น และในสมองพิม พี่คือแฟนยัยรัก” พิมพูดอย่างใส่อารามณ์ สีหน้าของพิมแดงก่ำไปด้วยความโกรธ
“แต่พี่ไม่ได้รักต้นรัก” ชายหนุ่มสารภาพออกมา
“พี่จะบอกว่าพี่..”พิมเลือดขึ้นหน้า
“ใช่พี่รักพิม” ชายหนุ่มยอมพูดความในใจของตนเองทั้งหมดโดยไม่รู้เลยว่าต้นรักเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พิมควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ตบหน้าชายหนุ่มไปฉาดใหญ่
“เพี๊ยะ!”
“นี่สำหรับสิ่งที่พี่หลอกลวงเพื่อนพิม” หญิงสาววิ่งออกไปทันที ทิ้งให้ชายหนุ่มนั่งจมอยู่กับความผิดที่ตนเองไม่ได้ตั้งใจทำ ส่วนต้นรักเมื่อรู้ความจริงทุกอย่าง ความรู้สึกเจ็บแปลบๆก็เกิดขั้น น้ำในตาเอ่อล้น หญิงสาวแทบล้มทั้งยืนฟ้าใสรีบเข้ามาปลอบ เจ้าเพชรก็รีบวิ่งมาหาเจ้านายของมัน
“ทำไมผู้ชาย...ใจร้ายจัง..”ต้นรักเพ้อกับตัวเอง ฟ้าใสได้แต่คอยปลอบและให้กำลังใจ
ความคิดเห็น