คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : การเริ่มต้น
“ ท้องฟ้าสีดำไร้ซึ่งแสงจันทร์ ผืนป่าที่รกแสนทึบอันชื้นแฉะไร้ซึ่งเสียงสัตว์น้อยใหญ่
มีเพียงสายลมเท่านั้นที่กล้าต่อกรกับความเงียบในยามราตรี ทั่วผืนแผ่นดินถูกปกคลุมด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวของจอมราชาปีศาจลูซิเฟอร์ มีเพียงผืนแผ่นดินแห่งเดียวที่อำนาจชั่วร้ายของมันมิอาจย่างกรายเข้ามาได้ ที่แห่งนั้นคือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ฮิคาริ และตามตำนานที่เล่าขานกันมาในศิลาจารึกโบราณในดินแดนแห่งนี้ ว่ากันว่ายามใดเมื่อความมืดเข้าครอบงำผืนปฐพี คณะนักเดินทางทั้งสี่จะปรากฏและอาจหาญเข้าต่อกรกับอำนาจชั่วร้าย........”
“คุณพ่อคะ พอได้แล้วค่ะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขัดขึ้น “อย่าเอาเรื่องงานของตัวเองมาเล่าให้หลานฟังมากสิคะ แล้วอีกอย่างตำนานที่คุณพ่อเล่ามามันมีจริงรึเปล่าก็ไม่รู้
”
“เฮ้ย! ลูน่านี่มันเรื่องจริงนา..เจ้าไม่เชื่อข้ารึไง” ชายแก่พูดแย้งขึ้นมา “ชั้นใช้เวลาทั้งค่อนชีวิตศึกษาพวกอักษรโบราณในวิหารศักดิ์สิทธิ์เชียวนา”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่พ่อก็อย่าเล่าเรื่องพวกนี้ให้หลานฟังมากนักล่ะ หนูไม่อยากให้เป็นเหมือน.....” ลูน่ากะจะพูดต่อแต่เธอกับทำหน้าเศร้าเหมือนมีบางอย่างที่เธอไม่อยากจะพูดออกมาแต่เธอพยายามเก็บสีหน้านั้นไว้เพื่อไม่ให้พ่อของเธอเป็นห่วง “มาๆ ทั้งปู่ทั้งลูกมาทานข้าวกันได้แล้วจ๊ะ”
“ปู่ฮะ แล้วยังไงต่อล่ะฮะ” เด็กชายถามปู่ของเขาด้วยความอยากรู้ “เล่าต่อสิฮะ”
“คืองี้นะ...” ปู่กำลังจะเล่าต่อ
“ นี่ ! ” เสียงของแม่ขัดการสนทนาของทั้งสอง “พ่อ.....อัล”
“คร้าบบบ” เสียงปู่และอัลขานรับแต่โดยดี
ทั้งสามนั่งทานข้าวกันบนโต๊ะไม้กลางห้องโถงใหญ่กลางบ้านวันนี้แม่ทำสตูเนื้อของโปรดของอัลไว้พร้อมด้วยสลัดผลไม้ไว้คอยตบท้าย
“อัลจ๊ะ เดี๋ยวทานข้าวเสร็จไปช่วยแม่เก็บสมุนไพรแถวๆวิหารนะจ๊ะ”
“โธ่...แม่ฮะ ผมอยากฟังเรื่องที่ปู่เล่าให้จบก่อนแล้วค่อยไปไม่ได้เหรอฮะ”อัลพูดขอร้องแม่ทั้งส่งสายตาอ้อนวอน
“ไม่ได้จ๊ะ- -” แม่ตอบด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มแต่น้ำเสียงนั้นบังคับให้ต้องปฏิบัติตาม “ คุณนี่ล่ะก็ ชอบเอาเรื่องงานของตัวเองมาเล่าให้หลานฟังทุกทีเลย ดูสิหลานติดแจเลย”
“เอาน่า...มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรพ่อก็แค่อยากเล่าเรื่องสนุกให้หลานฟังก็เท่านั้นเอง ไม่มีอะไรมากหรอก”
“เออจริงสิ!” อัลปู่มีอะไรจะให้หลานด้วย”ปู่หยิบเอาบางอย่างออกมาจากกะเปาเสื้อมันเป็นจี้รูปประอาทิตย์ครึ่งดวง “ปู่พบมันในวิหารน่ะตามตำนานว่ากันว่าเมื่อใดที่จี้นี้เปล่งแสงออกมา...”
“แฮ่ม!” เสียงเดิมขัดจังหวะอีกครั้ง “คณพ่อคะ...อัล...เมื่อกี้บอกว่าไง”
“คร้าบบ ใจแล้วคร้าบบ” อัลขานรับอย่างไม่ขัดแย้งแล้วก็เอาจี้ที่ปู่ให้มาก่อนที่จะเดินคอตกออกไปทำงานกับแม่
อัลและแม่ออกมาเดินเก็บสมุนไพรอย่างเช่นทุกเคยในที่แห่งนี้ พลังศักดิ์สิทธิ์จากวิหารทำให้ที่แห่งนี้มีสมุนไพรขึ้นมากมาย ผู้คนในหมู่บ้านจึงนิยมมาเก็บกันอยู่เป็นประจำ
“แม่ฮะ... ผมจะไปเก็บสมุนไพรแถวๆแม่น้ำนะ” อัลตะโกนบอกแม่ก่อนจะวิ่งลับหายไป
“จ้า... ระวังตัวด้วยนะ แล้วอย่าข้ามไปฝั่งตรงข้ามล่ะ” แม่ตะโกนตามหลังอัลไป
อัลมักจะมาเก็บสมุนไพรที่นี่เป็นประจนแถวนี้เป็นแหล่งประจำสำหรับเขา หรือบางครั้งเวลาที่รู้สึกขี้เกียจก็จะมานั่งแถวๆโขดหินริมแม่น้ำ อัลมองไปตรงข้ามกับฝั่งเขาที่อยู่ซึ่งมีแม่น้ำเป็นเขตกั้นระหว่างทั้งสองฟาก หากข้ามไปอีกฝั่งก็จะพ้นจากอาณาเขตของแดนฮิคาริ “เฮ้อ... เมื่อไหร่เราจะข้ามไปฝั่งตรงข้ามได้ซักทันะ”อัลถอนหายใจก่อนที่จะทิ้งตัวนั่งลงตรงริมฝั่งแม่น้ำ “อยากให้เป็นเหมือนเมื่อก่อนจัง คิดถึงทุ่งดอกไม้ที่อยู่ฝั่งนั้นจัง แล้วยังพวกกระต่ายน้อยกับพวกสัตว์ที่เล่นด้วยทุกครั้งอีก แต่พอ...เฮ้อ..ไม่อยากคิดเลย”
วิ้ง!วิ้ง!
“เอ๊ะ นั่นแสงอะไรน่ะ” อัลสังเกตเห็นแสงสีชมพูเรืองๆตรงฝั่งตรงข้าม
“นั่นมันต้นแห่งชีวิตนี่!”อัลพูดด้วยความตื่นเต้น ต้นแห่งชีวิตเป็นสมุนไพรที่หายากที่สุดในโลกนี มันสามารถรักษาบรรดาโรคต่างๆได้หายชะงักไม่ว่าโรคนั้นจะร้ายแรงแค่ไหนก็ตาม และมันจะขึ้นทุกๆห้าสิบปีครั้งหนึ่ง “ทำไมของหายากแบบนี้มาขึ้นแถวนี้ได้นะ?ถ้าเก็บไปให้แม่ได้ แม่คงจะดีใจมากแน่ๆเลย แต่เอ..มันอยู่ฝั่งโน้นน่ะสิ จะทำไงดีเนี่ย”อัลคิดอยู่ซักพักหนึ่ง “คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เช้าแบบนี้พวกมอนสเตอร์คงไม่ออกมาป้วนเปี้ยนแถวนี้หรอก”
อัลเดินข้ามแม่น้ำไปอย่างรวดเร็ว เขาหันมองซ้ายที ขวาทีเพื่อความปลอดภัยก่อนจะเดินไปยังที่มาของแสงนั่น “แม่ต้องดีใจแน่เลย”อัลพูดอย่างตื่นเต้นแล้วเอื้อมือไปเก็บมัน
ควับ! ควับ!
รากไม้เส้นหนึ่งพันรอบข้อมือของไว้ “เฮ้ย! นี่มันอะไรกันเนี่ย”อัลพูดด้วยความตกใจและพยายามที่จะแกะรากไม้นั่นออกจากมือ รากไม้บริเวณนั้นค่อยๆรวมตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาร่างของมันค่อยๆใหญ่ขึ้นจนขนาดเท่าผู้ใหญ่คนหนึ่ง ตรงส่วนหัวมันมีดวงตาสีเขียวปรากฏขึ้นมาและตรงกลางลำตัวปริออกเผยให้เห็นฟันแหลมคมเป็นจำนวนมากมี แสงเรืองสีชมพูของต้นแห่งชีวิตค่อยๆริบหรี่ลงแปรสภาพกลายเป็นรากไม้แทน มันเดินย่างก้าวอย่างช้าๆเข้ามาหาอัล
“ไม่!ไม่นะ! อย่าเข้ามา”อัลร้องค้วยความหวาดกลัวและพยายามแกะรากไม้ที่พันข้อมือออกแต่รากไม้อีกจำนวนหนึ่งก็พันที่ขาและมืออีกข้างหนึ่งของเขาจนดิ้นไม่หลุดในขณะที่เจ้าปีศาจรากไม่ใกล้จะถึงตัวอัลเข้าไปทุกที “อย่านะ! ใครก็ได้ช่วยผมที”
วาบ!..... แสงสีทองจากจี้ห้อยคอของอัลเปล่งประกายขึ้น มันลอยขึ้นมาอยู่ตรงหน้าของอัล ปีศาจรากไม้ถอยผงะออกไปเพราะไม่สามารถทนแสงสว่างของจี้ห้อยคอได้ แล้วจี้ห้อยคอนั่นก็วูบดับไป
เพี้ยว! ฉับ!
มีดบินสี่เล่มพุ่งตัดรากไม้ที่พันแขนขาของอัลจนเขาหงายหลังตามแรงดึงที่เขายื้อดึงไว้ เงาร่างหนึ่งกระโดดลงมาจากต้นไม้เงานั้นอยู่ตรงกลางระหว่างอัลและปีศาจรากไม้ เงาร่างนั้นชักดาบเรียวยาวเกือบเมตรออกมา ดาบเรืองแสงไฟสีเขียวแล้วฟันไปตรงกลางลำตัวของปีศาจตนนั้นขาดเป็นสองท่อนแล้วไหม้เป็นผงธุลีในพริบตา
“เจ้าไม่เป็นไรนะ”ชายลึกลับถามอัล
“ไม่เป็นไรครับ”อัลลุกขึ้นแล้วแกะรากที่พันเขาออก “ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผมไว้”
“เจ้ารากไม้นี่น่ะมันมันสามารถหลอกเหยื่อด้วยสิ่งของที่เหยื่อนั้นอยากได้น่ะ คราวหน้าก็ระวังบ้างล่ะอย่าออกมาเพ่นพ่านแถวนี้อีก”ว่าแล้วชายลึกลับก็กระโดดขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ “นายก็เป็นนักเดินทางเหมือนกันสินะ...จี้ห้อยคอนั่นน่ะ...แล้วเราคงได้เจอกัน”
“ด...เดี๋นวสิ” อัลพยายามจะถามแต่เขากับกระโดดหายเข้าไปในเงาไม้ใหญ่เสียแล้ว อัลมองดูจี้ห้อยคอที่ปู่ให้มาอย่างสงสัย จี้นี่มันคืออะไร? แล้วนักเดินทางที่ชายลึกลับพูดนั้นมันหมายถึงอะไร?
ความคิดเห็น