คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 : ขอให้เธอหลับฝันดี
หลังจากที่ทั้งปุ้นและเติ้ลกินมื้อค่ำกันอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งคู่ก็มานั่งลงที่โซฟาก่อนที่ปุ้นจะเดินมาพร้อมชาคาโมมายด์ที่เอามาจากคอนโดเขา
“นี่ค่ะ ชาคาโมมายด์หอมพร้อมทาน” ปุ้นวางแก้วชาไว้ที่โต๊ะพร้อมนั่งลงข้างเติ้ลที่กำลังนั่งเปิดโน๊ตบุ๊คแก้งานของลูกค้าที่ส่งมาเมื่อตอนเย็น
“ขอบใจนะปุ้น เดี๋ยวพี่แก้งานลูกค้าก่อน เราจะได้อาบน้ำก่อนก็ได้นะหรือว่าจะดูอะไรก็เปิดดูได้เลย” เติ้ลพูดก่อนจะเงยหน้าละสายตาจากจอ หันมามองปุ้นที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่
“งั้นปุ้นเลือกไปอาบน้ำแล้วกันนะคะ เพราะว่าตอนนี้ตัวปุ้นมีแต่กลิ่นผัดกะเพรา”
“ปุ้นเปิดห้องนอนไปหยิบผ้าขนหนูได้เลยนะ พี่วางไว้ที่เตียงนะ” เติ้ลที่บอกก่อนจะชี้ไปที่ประตูห้องนอนสีขาว ปุ้นที่ยิ้มก่อนจะเดินเข้าห้องไป เตียงนอนขนาดควีนไซส์ที่ถูกปูด้วยผ้าปูสีน้ำตาลและสิ่งที่สะดุดตาปุ้นมากที่สุดคือตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่วางอยู่ข้างนึงของเตียง ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูที่ปลายเตียงเดินออกไปเข้าห้องน้ำทันที
‘ทำไมต้องหน้าแดงด้วยไอ้ปุ้น ก็แค่เตียงนอนไหมหล่ะ’ ปุ้นที่ส่องกระจกพร้อมกับตีหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติกลับมา ก่อนจะรีบทำธุระของตัวเอง
ส่วนทางด้านเติ้ลที่ปิดโน้ตบุ๊คแล้วล้มตัวนอนเหยียดกายอยู่บนโซฟา สายตาเหม่อมองบนเพดานที่เก่าที่เขามองจะนอนมองอยู่เป็นประจำ สิ่งที่อยู่ในหัวสมองเข้าตอนนี้ก็ยังคิดวนเวียนเรื่องเดิมๆ ของคนที่เขาเจอเมื่อตอนบ่าย
‘เติ้ล แกไม่เหนื่อยบ้างหรอกับการคิดแต่เรื่องหลิวซ้ำๆ แบบนี้ ก็รู้เหตุผลของการที่เขาเดินออกมาแล้ว จะยังคิดถึงเขาทำไม แกนี่มันน่าสมเพชสิ้นดี ต่อให้ร้องไห้เสียใจอย่างไงเขาก็ไม่กลับมาแล้ว’ เมื่อความคิดแบบนี้วนกลับเข้ามาซ้ำๆ น้ำตาที่เคยแห้งหายก็เริ่มไหลออกมาจากสองตา เติ้ลยกแขนมาปิดหน้าพร้อมกับปล่อยให้ความรู้สึกดึงเขาเข้าสู่ห้วงอารมณ์ความเดียวดายให้มันดิ่งลงไปภายใต้ความรู้สึกเจ็บนี้
เสียงสะอื้นที่ไม่แม้อยากจะส่งเสียง ความทุกข์ทรมานที่ไม่แม้จะแบ่งปันกับใครได้รับรู้ แต่จู่ๆ ไออุ่นที่ไม่เคยได้สัมผัสกลับส่งความรู้สึกนี้มาจากการกุมมือของใครสักคน
ปุ้นที่เดินออกจากห้องน้ำมาก็มองหาเติ้ล ก็พบว่าเติ้ลนั้นนอนอยู่บนโซฟา แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขาพบร่างนั้นกำลังเศร้าเสียใจอีกแล้ว คนที่นอนร้องไห้ตอนนี้กลับสู่ห้วงความเศร้าอีกแล้ว ปุ้นเดินตรงไปนั่งก่อนกุ้มมืออีกข้างของคนที่สะอื้นเบาๆ
‘จะมีอะไรไหมที่ทำให้คนๆ นี้ออกจากความทุกข์ทรมานนี้ได้ ฉันสามารถช่วยอะไรเขาได้ไหม ฉันสามารถบรรเทาความเจ็บปวดของคนๆ นี้ มีหนทางไหนที่จะทำให้เขาดีขึ้นกว่านี้’ ปุ้นรับรู้ถึงความเจ็บปวดของอีกฝ่าย เขาเริ่มที่จะไม่อยากทนเห็นอีกฝ่ายตกอยู่ในสภาพแบบนี้อีกแล้ว อย่างน้อยการที่มีเขาอยู่ข้างๆ มันน่าจะดีที่ปล่อยให้อีกฝ่ายอยู่เดียวในตอนนี้
ไม่รู้ว่าล่วงเลยผ่านไปนานแค่ไหน เติ้ลที่ค่อยๆ ยกแขนออกก่อนจะหันมองคนที่นั่งกุมมืออยู่ข้างๆ สายตาที่ปรับโฟกัสได้ก็เห็นเขาเห็นอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน ปุ้นที่ยิ้มให้บางๆ ก่อนที่จะพยุงให้เติ้ลลุกขึ้นนั่ง
“พี่ขอโทษนะที่ทำให้ปุ้นต้องหนักใจเพราะพี่” เติ้ลพูดด้วยน้ำเสียงที่มีแต่ความเศร้า ปุ้นที่ยังคงกุมมืออีกฝ่ายพร้อมช้อนสายตามองคนที่นั่งอยู่กับโซฟาที่ตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“พี่เติ้ลไม่ต้องขอโทษปุ้นหรอกค่ะ เพราะว่าปุ้นเต็มใจที่จะอยู่ข้างๆ พี่เติ้ลจริงๆ รู้สึกดีขึ้นมาแล้วใช่ไหมค่ะ”
“ยิ่งปุ้นทำแบบนี้ พี่ยิ่งรู้สึกผิด”
“ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกค่ะ ปุ้นเอาตัวปุ้นเอง เข้ามาอยู่ตรงนี้ด้วยความสมัครใจของปุ้นเอง พี่เติ้ลไม่ต้องแม้จะโทษตัวเองเลยนะคะ” ปุ้นที่ยกมือมาปาดคราบน้ำตาที่แก้มอีกฝ่าย ทำให้เติ้ลจ้องมองมาที่คนที่อยู่ตรงหน้า
เขารับรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายมาโดยตลอด แต่เพราะกำแพงที่สร้างไว้ มันคอยเตือนใจเขาว่าอย่าคิดที่จะทำร้ายคนอื่นด้วยการพยายามใช้ใครเพื่อให้ลืมคนเก่า แต่ตอนนี้คนที่อยู่ตรงหน้าเขาพยายามทลายกำแพงทีละชั้นจนมาใกล้เขาได้ขนาดนี้ หัวใจที่เป็นแผลตอนนี้เหมือนได้ถูกห้ามเลือดได้ทันเวลาพร้อมยารักษาชั้นดี
“ขอบคุณที่คอยอยู่ข้างๆ พี่นะปุ้น” เติ้ลที่ลูบผมของอีกฝ่ายเบาๆ ความรู้สึกที่ไม่ต้องแบกรับไว้คนเดียวแบบนี้ มันก็ดีกว่าการร้องไห้คนเดียวแบบเมื่อก่อน ปุ้นที่ทำได้เพียงยิ้มรับคำขอบคุณ ก่อนจะฉุดให้เติ้ลนั้นลุกขึ้น
“ปุ้นว่าพี่ไปอาบน้ำก่อนไหมค่ะ อาบน้ำเสร็จพี่น่าจะสดชื่นกว่านี้” เติ้ลที่พยักหน้ารับก่อนจะเดินหายไปให้ห้องน้ำ ปุ้นที่รู้สึกถึงความเปาะบางของอีกฝ่าย
วันเวลาอาจจะไม่ช่วยอะไรเติ้ลได้มาก แต่การที่ใครสักคนเข้ามาอยู่ข้างๆ เติ้ล อาจจะช่วยทำให้ความรู้สึกเหล่านั้นหายไปได้
หลังจากที่เติ้ลอาบน้ำเสร็จก็พบว่าปุ้นตั้งใจดูซีรี่ย์อยู่ เขาที่ตอนนี้ก็รู้สึกดีขึ้นมาก็เดินตรงไปนั่งข้างๆ ปุ้นที่กำลังสนใจทีวีอย่างไม่ละสายตา เติ้ลที่ไม่อยากจะกวนอีกฝ่ายเลยจะนั่งเล่นโทรศัพท์แทน โดยมีผ้าขนหนูคลุมผมที่เปียกหมาด เพราะความเคยชินของเติ้ลที่ไม่ชอบไดร์ผม เลยเลือกที่จะปล่อยให้ผมแห้งเอง และเป็นเวลาเดียวกันที่ปุ้นหันมามองคนข้างๆ ที่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้อีกฝ่าย
“พี่เติ้ลปล่อยผมเปียกแบบนี้ได้อย่างไงค่ะ เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก” ปุ้นที่บ่นไปก็ลุกขึ้นมาเช็ดผมให้เติ้ล ซึ่งปุ้นก็มักจะบ่นกับพี่ชายอย่างไม้อยู่เสมอเรื่องเช็ดผมก่อนจะนอน
“แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ที่มีปุ้นอยู่ข้างๆ แบบนี้” เติ้ลที่เงยหน้ามองปุ้นที่ยืนเช็ดผมให้ ก่อนจะยิ้มให้บางๆ ปุ้นที่หยุดชะงักเมื่อเห็นสายตาของเติ้ลที่มอง ใจเจ้ากรรมดันกลับมาเต้นแรงอีกแล้ว
“พี่เติ้ลควรเช็ดผมให้แห้งนะคะ ไม่งั้นจะเป็นเชื้อราได้นะ ยิ่งพี่ไว้ผมอย่างงี้ด้วย”
“อย่างงั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะไปตัดผม” เติ้ลที่ตัดสินใจตัดผมในรอบสี่ปี ก็ประกาศขึ้น
“ปุ้นบ่นขนาดที่พี่เติ้ลจะตัดผมเลยหรอค่ะเนี่ย” ปุ้นที่ตกใจเมื่อได้ฟังอีกฝ่ายจะตัดผม
“ไม่ใช่ พี่อยากจะตัดอยู่แล้ว แต่ไม่มีเวลาที่จะตัด” จะเรียกว่ายุ่งจนลืมเวลาก็ว่าได้สำหรับเติ้ล เพราะที่ผ่านมาเขาเลือกที่จะอยู่กับงาน จนบางทีลืมกินข้าวก็มี ปุ้นเข้าใจถึงเหตุผลที่เติ้ลไม่มีเวลาในการดูแลตัวเอง
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ปุ้นไปเป็นเพื่อนนะคะ”
“ถ้าเราไม่ว่างก็ไม่เป็นไรก็ได้นะปุ้น” เติ้ลที่เหลือบมองคนที่นั่งข้างๆ
“ว่างค่ะ ปุ้นว่างสำหรับพี่เติ้ลเสมอ” ปุ้นที่หันกลับไปยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนจะกลับไปจ้องซีรี่ย์ที่กำลังเล่น
“เดี๋ยวพี่ไปจัดที่นอนก่อนแล้วกัน”
“ปุ้นนอนที่โซฟาก็ได้นะคะ ปุ้นกลัวพี่เติ้ลอึดอัด” ปุ้นรีบคว้าข้อมือของเติ้ลไว้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินไปที่ห้องนอน
“ไม่ได้นะปุ้น สำหรับพี่ พี่ไม่ได้อึดอัดนะ อีกอย่างจะให้แขกนอนโซฟาได้ไง ถ้าอย่างงั้นพี่นอนโซฟาแทน เราไปนอนในห้อง หรือว่าเราไม่สะดวกใจ” เติ้ลที่หันหน้ากลับมาถามปุ้นที่ดูกระอักกระอ่วน
“ไม่ใช่อย่างงั้นค่ะ แต่ปุ้นเกรงใจมากกว่าอะค่ะ”
“ถ้าอย่างงั้นก็ไปนอนที่ห้องทั้งคู่นั้นแหละ เดี๋ยวพี่ไปเอาเจ้าหมีออกมาก่อน”
“แต่ว่า” เติ้ลที่ไม่ฟังเสียงของปุ้นที่ไล่ตามหลังมา เดินเข้าห้องไปพร้อมกับออกมาจากห้องโดยการลากเจ้าหมีตุ๊กตาที่นอนอยู่บนที่นอนมาวางไว้ที่โซฟา
“วันนี้นอนข้างนอกนะเจ้าหมี” เติ้ลที่ลูบพุงเจ้าหมีเพื่อนร่วมเตียง ก่อนจะมองปุ้นมองเขาอยู่
“จริงๆ เอาเจ้าหมีไปนอนด้วยก็ได้นะคะพี่เติ้ล เออคือว่า…ปุ้นกลัวเจ้าหมีเหงา”
“วันนี้พี่มีเรานอนเป็นเพื่อนแล้ว เจ้าหมีไม่ว่าหรอก เราจะเข้าไปนอนเลยไหมหรือว่าจะดูซีรี่ย์ต่อ เดี๋ยวพี่นั่งเป็นเพื่อน”
“เดี๋ยวปุ้นขอดูอีกสักสองตอนแล้วกันนะคะ แต่ว่าถ้าพี่เติ้ลง่วงก็เข้าไปนอนก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวปุ้นปิดใส่ให้”
“ไม่เป็นไร นี่พึ่งจะสองทุ่มเองพี่ยังตาสว่างอยู่เลย เดี๋ยวพี่ดูซีรี่ย์์เป็นเพื่อน” เติ้ลที่นั่งลงข้างๆ เจ้าหมีที่อยู่ระหว่างกลางเขากับปุ้น โดยจิตใจของปุ้นตอนนี้คงไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไหร่
เมื่อเวลาผ่านล่วงเลยหลังจากซีรี่ย์จบไปสองตอน ปุ้นก็กลับมาโฟกัสเสียงหายใจของอีกคนที่ตอนนี้รู้ได้เลยว่านอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว ปุ้นที่หันไปมองเติ้ลที่หลับโดยท่าที่มือโอบพุงเจ้าหมี ปุ้นที่ค่อยๆ ลุกขึ้นก็จะแอบถ่ายรูปอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ
‘ทำไมตอนที่พี่เติ้ลนอนถึงได้น่ารักขนาดนี้ เหมือนเด็กติดตุ๊กตาเลยนะคะ’ ปุ้นที่เอามือไปเกลี่ยไรผมที่ปรก แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้สึกตัว เติ้ลที่เรียกว่าเพลียขึ้นสุดก็ดูท่าจะไม่ยอมลุกสักที
“ปุ้นว่าได้เวลาเข้านอนแล้วนะคะ” ปุ้นที่จับข้อมือเติ้ลในลุกขึ้นก็จะพาคนที่ดูจะงัวเงียเลยเข้าห้องไปนอน ตอนนี้เขาเหมือนพี่เลี้ยงเด็กซะมากกว่าในเวลานี้ เติ้ลที่ตอนนี้งัวเงียมากก็เข้ามุมที่นอนตัวเองด้วยความเคยชิน ปุ้นที่คิดว่าควรจะต้องรีบปิดไฟ เพื่อให้อีกฝ่ายนอนหลับสนิทก็ต้องรีบเดินไปปิดไฟก่อนจะนอนข้างๆ เติ้ลที่ตอนนี้หลับสนิทไปแล้ว
ด้วยความเคยชินของอีกฝ่ายที่เคยนอนกอดเจ้าหมี ก็พลิกตัวมาโอบเอวของปุ้น ดึงตัวปุ้นเข้ามากอด ใบหน้าที่อยู่ห่างกันเพียงนิดเดียว ทำให้ใจของปุ้นเต้นแรงมากจนกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินจนตื่น ตอนนี้้เขาต้องทำหน้าที่แทนเจ้าหมีให้ดีที่สุด
วันนี้เป็นวันที่ปุ้นคิดว่าเขาค่อยๆ ทลายกำแพงของอีกฝ่ายไปได้เยอะ จนไม่อยากที่จะให้อีกฝ่ายสร้างกำแพงเพิ่มอีกแล้ว กว่าจะได้มาอยู่ตรงนี้ได้ เขาใช้เวลานานแค่ไหน เขารู้ดีแก่ใจเสมอมา จากคนที่แอบชอบกลายมาเป็นคนที่รู้จัก จากคนที่รู้จักกลายมาเป็นดาวเคราะห์ที่หมุนรอบตัวของเติ้ลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ยาเลย
แสงจันทร์เต็มดวงที่สาดแสงส่องลงมา ทำให้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ในห้วงนิทรา ปุ้นโน้มตัวลงจูบกลางหน้าผากของคนที่อยู่ข้างๆ อย่างเบาๆ
‘ฝากจุมพิตนี้ให้รักษาจิตใจอีกฝ่าย ขอให้เธอไม่เจอฝันร้าย ขอให้เธอได้นอนหลับฝันดี’
————————————————————————————————————
‘ตอนหน้าคือตอนที่ทำให้รู้ว่าทำไมยัยน้องปุ้นถึงเทคแคร์ดูแลเจ้าเติ้ลดีขนาดนี้ เขารักของเขามานานนะจะบอกให้’
มาพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองความรักหรือความคิดเห็นของนิยายได้ โดยเราขอยึดแท็กนี้สำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะ #มูฟออนเป็นเธอ
หวังว่าจะสนุกกับสิ่งที่เราสร้างสรรค์ เพราะนั่นคือสิ่งที่เราอยากจะสื่อออกมาให้เสพสมด้วยตัวอักษรและความรู้สึก
ความคิดเห็น