ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มูฟออนเป็นเธอ (yuri)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 : การพบกันในฐานะคนรักเก่า

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ค. 64


    เสียงนาฬิกาปลุกในมือถือที่กำลังทำงานในยามเช้าส่งเสียงเรียกเจ้าของผมฟูๆ ที่ยังอยู่บนเตียงให้ลืมตา หลังจากนอนไปแค่สี่ชั่วโมง

    ไตเติ้ล เอื้อมมือไปหยิบมือถือมาปิดเสียงนาฬิกาปลุกที่ทำให้รู้ว่าได้เวลาเตรียมตัวไปทำงาน เช้าที่สดใสไม่มีอยู่จริงสำหรับมนุษย์วัยทำงานที่เมื่อคืนนอนไปแค่สี่ชั่วโมง ถ้าจะถามว่าเมื่อคืนทำไมเขาได้นอนไปแค่สี่ชั่วโมง ขอย้อนกลับไปเมื่อคืน.....

    เสียงเพลงชิลๆ ยามค่ำคืนวันอาทิตย์ของร้านนั่งชิลทำให้บรรยากาศตอนนี้ดูเหมาะสำหรับการนั่งดื่มเบียร์ในมือมากยิ่งขึ้น วันนี้เป็นวันเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานของเพื่อนสมัยมอปลายอย่างมิ้นและมิกซ์ เพื่อนสมัยมอปลายของเติ้ล ซึ่งเพื่อนนับสิบกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เปรียบเสมือนว่าเป็นงานรียูเนี่ยนอย่างไงอย่างงั้น

    “มานั่งทำอะไรตรงนี้ คนเขาหาตัวแกให้วุ่น” เสียงของเพื่อนสนิทอย่างมิลที่เดินตามหาเติ้ลจนทั่วร้าน

    “กินเบียร์ไงเจ๊ ว่าแต่ตามหาตัวฉันทำไม ฉันไม่ใช่พ่องานแม่งานนะ” เติ้ลที่หันไปหามิลที่มาเดินตามหาอย่างกระหืดกระหอบ

    “รีบไปในงานก่อน ตอนนี้มือกีตาร์ที่จ้างมาอาหารเป็นพิษ แกช่วยไปร้องเพลงกับเล่นกีตาร์ให้มิกซ์มันหน่อย เร็วๆ เดี๋ยวงานล้มแผนพังหมด”

    “ไหงเป็นงั้นอะเจ๊”

    “ไม่รู้แหละ รีบไปดูก่อน” มิลรีบลากเติ้ลที่ตอนนี้ตกเป็นนักดนตรีจำเป็นในงานนี้ไปเสียแล้ว

    “นี่ไงมาแล้ว เติ้ลเราไหว้แหละ ช่วยมิกซ์หน่อยเถอะนะ” มิกซ์ว่าที่เจ้าบ่าวในอนาคต เจ้าของงานวันนี้ที่ไหว้วานเมื่อเห็นหน้าเติ้ลที่มิลลากมา

    “ไอ้ได้มันก็ได้อยู่หรอก แต่ว่าไม่ให้เวลาเราเตรียมตัวเลยนะมิกซ์” เติ้ลที่พูดหยอกๆ มิกซ์ที่ทำหน้าตื่นเต้นปนกังวลใจ

    “ไอ้เติ้ล แค่นี้มิกซ์มันก็ล่กจะแย่แล้ว แกก็ยังไปหยอกเล่นกับมันอีก” มิลที่วิ่งไปเอากีต้าร์มาให้ถึงกับเบรกการหยอกล้อของเติ้ล

    “เราโทษทีนะเติ้ล แต่ในงานนี้เราไว้ใจเสียงเติ้ลสุดแล้ว”

    “ฮ่าๆๆ โอเคไหนบรีฟงานมาดิ” เติ้ลยิ้มรับก่อนจะฟังบรีฟจากว่าที่เจ้าบ่าว

    หลังจากการรับบรีฟงานในบทนักดนตรีจำเป็น เติ้ลก็ง่วนกับการซ้อมคอร์ดเพลงแสนล้านนาที จนตอนนี้ทุกอย่างได้เซ็ทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่เพียงมิ้นว่าที่เจ้าสาวเข้ามาในห้องนี้

    “ตื่นเต้นวะ” เติ้ลที่หันไปกระซิบกับมิลที่เป็นฝ่ายดึงพลุกระดาษ

    “อย่าพลาดนะไอ้เติ้ล เพื่อนของมิ้นมาส่งตัวแล้วมิกซ์คุกเข่าขอ แกร้องเพลงเลยนะ เอาแบบเพราะๆ อย่าให้เสียชื่อนักร้องไมค์ทองแดงนะไอ้เติ้ล”

    “โอเคได้ เจ๊ส่งซิกมาให้อีกทีนะ ว่าแต่ใครเป็นเพื่อนส่งตัวของมิ้นวะเจ๊ ฉันเห็นกุ๊กไก่อยู่นี่”

    “เอออ...ตะ เห้ยๆๆๆ มาแล้วๆๆๆๆ” มิลที่รีบเข้าประจำที่ทันที ไม่ทันได้ตอบคำถามของเติ้ล ก็มีส่งซิกจากข้างนอกส่งมา ตอนนี้ทุกอย่างอยู่ในความสงบเงียบ มิ้นที่เดินปิดตามากับเพื่อน เพื่อนที่ทำให้เติ้ลใจเต้นแรงมือไม้เย็นไปชั่วครู่ ใบหน้าของคนที่เขาอยากจะลืมในตอนนี้กับปรากฏอยู่ในงานนี้

    ‘ทำไมต้องเป็นวันนี้ ทำไมต้องเป็นตอนนี้ ที่นี่ ในเวลานี้’

    ต้นหลิว แฟนเก่าที่เติ้ลยังไม่สามารถลืมได้ตลอด 8 ปี คนที่อยากจะลืมกลับมาอยู่ตรงหน้า

    ‘ใจเจ้ากรรม ทำไมต้องเต้นแรงแบบนี้’

    แต่ก่อนที่สติของเติ้ลจะไปไกลกว่านี้ มิลก็ส่งซิกมาให้เติ้ลทำหน้าที่ของตัวเอง

    จะเป็นดาวดวงใดที่ปลายฟ้า

    จะเป็นรุ้งเส้นใดที่ทอดมา

    จะเป็นใครคนใดก็ไม่เข้าตา

    ไม่สวยงามได้อย่างเธอ

    จะเป็นเพื่อนใกล้ชิดสนิทเพียงไร

    จะเป็นใครคนใดที่เคยพบเจอ

    ไม่มีใครเข้าใจฉันเหมือนเธอ

    ไม่มี

    จะเป็นใครคนใดเมื่อก่อนนั้น

    ที่บอกกับฉันว่ารักกันมากมาย

    แต่ละคนเข้ามาก็เลยพ้นไป

    ไม่รักฉันจริงสักคน

    อยู่บนโลกที่แสนกว้างใหญ่เกินไป (ฮู้)

    เหนื่อยใจจนมันเกือบจะไม่ทน (ฮู)

    แต่ฉันก็ยังได้พบคนอย่างเธอ

    หมื่นแสนล้านนาทีต่อไปนี้

    ขอใช้มันไปกับเธอ

    อยากมีวันเวลาที่สวยงามดั่งความฝันที่เคยละเมอ (ฮู)

    แสนล้านนาทีต่อไปนี้

    ไม่มีใครเทียมเท่าเธอ

    จะบอกให้คนทั้งโลกได้รู้ว่า (ฮู)

    หนึ่งชีวิตฉันยกให้เธอ (ฮ้า)

    ทั้งหัวใจ

    จะไม่มีคืนใดที่เหน็บหนาว

    หากว่าสองเราอิงมาซบกัน

    จะไม่มีวันใดที่เลยพ้นผ่าน

    โดยไร้ซึ่งในความหมาย

    จะไม่เหลือพื้นที่สักเศษมุมเดียว (ฮู้)

    เมื่อเราประคองเกี่ยวโยงหัวใจ (ฮู)

    สุดท้ายชีวิตฉันรักได้แต่เธอ…’

    เสียงกีตาร์และเสียงร้องไปจบลงพร้อมกับเสียงปรบมือของคนภายในงาน ว่าที่เจ้าบ่าวสวมแหวนหมั้นหลังจากที่เจ้าสาวตอบตกลง งานในตอนนี้ทุกคนอาจจะสนใจคู่ชายหญิงที่อยู่ท่ามกลางสปอตไลต์และคนที่รายล้อม แต่กับเติ้ลเขากับสนใจคนคนเดียวในตอนนี้ ไม่สิคนเดียวคนนี้ตลอดแปดปีที่ผ่านมา เพลงที่เขาพึ่งร้องไห้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวนั้น แท้ที่จริงแล้ว เคยเป็นเพลงที่เขาเคยร้องไห้กับใครคนนึงที่เขายังรักอยู่ คนที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาและยืนอยู่ข้างหน้าเขาตอนนี้

    “ไงเติ้ล สบายดีไหม” เสียงที่คุ้นเคย สายตาที่จ้องมองมา รอยยิ้มที่ถูกตกแต่งด้วยลิปสีชมพูตุ่นๆ ทำให้เติ้ลเงียบไปชั่วขณะ

    “โอเค สบายดี” ความรู้สึกตอนนี้เติ้ลอยากจะเดินหนีไปสงบสติอารมณ์กับความรู้สึกของตัวเองมากในตอนนี้

    'ทำไมเราต้องมาเจอกันในตอนนี้' คำถามที่โผล่ขึ้นมาให้หัวของเติ้ล

    “ไม่เจอกันนานเลยนะ” ต้นหลิวพูดขึ้น

    ‘สายตาแบบนี้ต้นหลิวจะสื่อถึงอะไรกันแน่’ เติ้ลที่ทำได้เพียงถามตัวเองในใจ ซึ่งตอนนี้ช่องว่างระหว่างเขาและเธอมีมากกว่าแต่ก่อน

    “นั้นดิ แปดปีได้แล้วมั้ง” เติ้ลพูดพร้อมรอยยิ้มที่ดูเศร้า ทำให้หลิวที่อ่านสีหน้าของอีกฝ่ายออก

    “ยังไม่หายโกรธเราเรื่องนั้นอีกหรอ”

    “นั้นดิ ทำไมเรายังติดอยู่กับเรื่องเดิมๆ ด้วยนะ” เติ้ลที่พลั้งปากหลุดประโยคที่รู้สึกว่าอีกฝ่ายดูจะกะอักกะอ่วนใจ แต่ดีที่มิลเดินเข้ามาพอดีทำให้บรรยากาศที่ดูจะออกไปทางคุกรุ่นนั้น พอจะมีอากาศหายใจได้บ้าง

    “ไงหลิว ไม่เจอกันนาน สวยขึ้นเยอะเลยนะ” มิลที่เข้ามาทักทายเพื่อนเพราะรู้ว่าตอนนี้เติ้ลต้องการออกจากตรงนี้ไปอย่างมาก

    “ก็โอเคนะ แล้วมิลหละ” ระหว่างที่มิลกับต้นหลิวคุยกันเรื่องเก่าๆ เติ้ลก็ปลีกตัวออกมาถ่ายรูปกับว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวก่อนจะขอตัวกลับ แต่เพราะว่าความที่ติดรถมิลมาเลยทำให้เติ้ลต้องเรียกแอปเขียวมารับ แต่ยังไม่ทันที่รถที่เรียกจะมารับ รถป้ายแดงขับมาจอดตรงหน้าเติ้ล ซึ่งเจ้าของรถคันงามไม่ใช่ใครที่ไหน คนที่เขายังไม่ได้ร่ำลาแต่ว่าปลีกตัวออกมาก่อน

    “กลับด้วยกันไหม” หลิวที่ลดกระจกลงมาแล้วมองมาที่เติ้ลที่ยืนรอรถอยู่

    “ไม่เป็นไร เรารอรถแอปมารับ”

    “แต่ว่าเรามีเรื่องอยากจะคุยกับเติ้ลนะ” ตอนนี้บทสนทนาไปเงียบลงพร้อมกับการชั่งใจในการจะขึ้นรถไปกับหลิวในครั้งนี้

    “ได้” เติ้ลที่เปิดประตูรถก่อนจะคาดเบลในฝั่งคนนั่ง ก่อนที่หลิวจะออกรถ ซึ่งภายในรถไม่มีบทสนทนาใดๆ อีกจนเติ้ลที่เริ่มจะอึดอัดจะเริ่มบทสนทนาก่อน

    “กลับมาไทยตั้งแต่เมื่อไหร่” เติ้ลที่ถามขึ้น

    “เมื่อต้นปีที่แล้ว กลับมาอยู่ไทยถาวรแล้วคราวนี่ แล้วเติ้ลหล่ะเป็นไงบ้าง”

    “เป็นไงบ้างในที่นี้หมายถึงอะไร” เติ้ลเริ่มจะงงกับการสื่อความหมายของอื่นฝ่าย

    “หมายถึงทำงานเป็นไงบ้างอะไรประมาณนี้”

    “ก็ดี” เติ้ลได้ตอบไปก่อนจะหันหน้าหนีเพื่อซ่อนอาการหวั่นไหว

    เอี๊ยดดดดดดดด!!!!!

    แต่ทว่าจู่ๆ หลิวก็เหยียบเบรกกะทันหันก่อนจะจอดรถริมทาง เติ้ลที่งงกับการกระทำของอีกฝ่าย ถึงกับสถบออกมา

    “อะไรของหลิววะ เบรกแบบนี้มันอันตรายนะเว้ยหลิว” เติ้ลหันไปมองอีกฝ่ายที่หันมองจ้องตากับอีกฝ่ายตรงๆ

    “เราจะมาเคลียร์เรื่องของเรา”

    “เคลียร์ทำไมไหนบอกว่าจบกันไปแล้ว เป็นเพื่อนกันไง” เติ้ลที่เริ่มขึ้นเสียงจ้องมองมายังหลิว

    “แต่การกระทำของเติ้ลมันไม่ได้แสดงว่าอยากเป็นเพื่อนกับเราเลยนะ เรื่องมันก็จบไปนานแล้ว ทำไมเติ้ลจะไม่ให้เหลือความรู้สึกดีๆ ที่มีในฐานะเพื่อนเลยหรอ” หลิวที่พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาจนหมด ทำให้เติ้ลยิ้มมุมปากก่อนจะหันกลับไปมองสายตาที่กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน

    “หลิวคิดว่าเราอยากเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าที่เรายังรักอยู่จริงๆ หรอวะ”

    “........”

    “แกยัดเยียดความเป็นเพื่อนให้เราทั้งๆ ที่เราไม่สามารถกลับมาเป็นแค่เพื่อนกับหลิวได้แล้ว ตอนนั้นหลิวพูดแค่ว่าเรากลับมาเป็นเพื่อนกันเถอะ แล้วก็หนีหายไปเรียนเมืองนอกเลย หลิวคิดว่าเราจะรู้สึกอย่างไง หลิวแม่งโคตรใจร้ายเลยนะรู้ไหม”

    “......”

    “เราโคตรทรมานเลยวะหลิว แปดปีที่ผ่านมาเราโคตรทรมานเลย” เติ้ลพูดจบน้ำตาก็ไหลนองอาบแก้ม สายตาที่ทรมานกับความรู้สึกส่งผ่านออกมาให้หลิวได้รับรู้ ซึ่งตอนนี้ภายในรถมีแต่ความอึดอัด เติ้ลที่เช็ดน้ำตาก่อนจะรวบรวมสติตัวเอง

    “เติ้ล เราขอโทษ” หลิวที่กระอักเมื่อได้ยินสิ่งที่เติ้ลระบายความในใจออกมา

    “ช่างเถอะ...ในเมื่อหลิวต้องการแบบนี้ เราไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวหลิวแล้ว” เติ้ลถอนหายใจก่อนจะถอดเบลออกเตรียมจะเปิดประตูรถ แต่หลิวได้คว้าเสื้อของเติ้ลไว้

    “เราขอโทษ” หลิวที่ก้มหน้าพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลอาบหน้า แต่มือยังกำเสื้อของเติ้ลไว้แน่น

    เพราะว่าความไม่เข้าใจกันได้ก่อเกิดให้เกิดเรื่องราวที่ค้างค้าใจทั้งสองคน ต่างคนต่างรู้สึกผิดกันทั้งคู่มาตลอดแปดปี

    “ไม่ต้องโทษตัวเองแล้วหลิว เราจะกลับไปเคลียร์ตัวเองเพราะว่ามันผิดที่เราเองไม่ยอมปล่อยหลิวไป สักวันเราจะเป็นเพื่อนกับหลิวไปเองแหละ” เติ้ลหันกลับมามองหลิว กลับมาเห็นว่าอีกฝ่ายก็ทรมานไม่ต่างจากเขา ความรู้สึกเสียใจปนเห็นใจ ทำให้เติ้ลสับสนกับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ในตอนนี้

    “อย่า ทำให้เราอึก...รู้สึกเหมือนคนไม่ดี อึก..ไปกว่านี้เลยเติ้ล” หลิวที่เช็ดน้ำตาก่อนจะมองมาที่เติ้ล

    “คนที่ไม่ดีมันคือเรามากกว่า” พอพูดจบเติ้ลได้โน้มหน้าไปประจบที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายก่อนจะจูบด้วยความคิดถึงผสมเศร้าโดยที่หลิวไม่ได้ถอยจากจูบนี้แต่อย่างใด เหมือนเวลาหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ เติ้ลที่ยอมเป็นฝ่ายถอดจูบนั้นออกมาพร้อมกับเกลี่ยคราบน้ำตาที่แก้มของอีกฝ่าย

    “จูบสุดท้ายในฐานะคนรักเก่า”

    “.......”

    “จากนี้ไปเราจะอยู่ในฐานะเพื่อนอย่างที่หลิวต้องการเอง”

    “.......”

    “กลับบ้านดีๆ นะ”

    เติ้ลที่พูดจบได้ส่งยิ้มให้หลิวด้วยสายตาที่เศร้า ก่อนนะลงจากรถของหลิวไปเรียกแท็กซี่กลับคอนโด

    ————————————————————————————————————

    ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกนิยายแห่งความดราม่า แถมตัดพ้อกันเก่งงงงงง 55555 ซึ่งไรท์เตอร์ขอถามท่านผู้อ่านทุกท่านว่า ‘เราจะเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าได้จริงๆ หรอค่ะ’ อันนี้ ถามท่านผู้อ่านนะ ไม่ได้้ถามตัวไรท์เองเล๊ย 5555555

    มาพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองความรักหรือความคิดเห็นของนิยายได้ โดยเราขอยึดแท็กนี้สำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะ 

    #มูฟออนเป็นเธอ

    หวังว่าจะสนุกกับสิ่งที่เราสร้างสรรค์ เพราะนั่นคือสิ่งที่เราอยากจะสื่อออกมาให้เสพสมด้วยตัวอักษรและความรู้สึก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×