คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : SFMB - part 1 || Songkran Festival
15 เมษายน 2558
อันที่จริงวันนี้ต้องเป็นวันที่เขาได้ออกไปเล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนๆที่ตกลงกันไว้เสียดิบดีแถวข้าวสาร เนื่องจากปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่จะได้อยู่เล่นน้ำด้วยกันแล้วเพราะพวกเขาพึ่งจบมอหกและแต่ละคนต่างได้มหาวิทยาลัยไกลกันคนละโลก หากแต่ตอนที่ขออนุญาตพี่ชายสุดที่รักกลับโดนปฏิเสธแถมยัดเยียดหน้าที่ให้เขาช่วยเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านเสียอย่างนั้น
แบมแบมเดินรับออเดอร์และเสิร์ฟอาหารในร้านตั้งแต่สิบเอ็ดโมงจนเวลาล่วงเลยมาถึงประมาณตอนสี่โมงเย็น หากแต่ลูกค้าในร้านก็ยังแน่นขนัด เนื่องจากวันนี้เป็นวันสงกรานต์สุดท้ายและร้านค้าส่วนใหญ่มักจะหยุดเพื่อไปพักผ่อนกัน ยกเว้นร้านของเขาที่มีพี่คุณจอมงกคอยจัดการ จึงชิงเอาโอกาสนี้เปิดร้านเสียตั้งแต่สิบเอ็ดโมง ทั้งๆที่ร้านของเขามักเปิดแค่ช่วงตอนเย็นๆไปจนเกือบสี่ทุ่มเท่านั้น
ร่างบางเดินถือถุงขยะสีดำใบใหญ่ออกมาด้านหลังร้านเพื่อจะนำไปทิ้งที่ถังขยะที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนักด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ตอนนี้ทุกคนในแก๊งค์คงเล่นน้ำสงกรานต์อย่างมีความสุข ในขณะที่เขาต้องมารับใช้พี่คุณแถมยังไม่ได้เงินค่าทำงานแม้แต่บาทเดียว
“แบมแบม!”เสียงเรียกชื่อตัวเองทำให้คนที่พึ่งทิ้งขยะลงถังเรียบร้อยได้แต่หันไปมองด้วยความตกใจก็พบกับเพื่อนทั้งกลุ่มอยู่ในชุดเตรียมออกไปเล่นน้ำสงกรานต์พร้อมปืนฉีดน้ำลากสีในมือ เอาเป็นว่าทุกคนแต่งตัวจัดเต็มสุดๆไปเลยล่ะ
“เฮ้ย! มาอยู่นี่ได้ไง?”แบมแบมหันไปถาม
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน พวกเราต้องรีบไปแล้ว”ลลิซ เพื่อนสนิทผู้หญิงตัวเล็กของแบมแบมรีบดึงผ้ากันเปื้อนที่แบมแบมสวมไว้ออกมาแล้วนำไปวางไว้บนโต๊ะแถวนั้นก่อนจะลงมือลากแบมแบมที่ยังเหวออยู่ออกไปจากบริเวณนั้นทันที
“เดี๋ยวนะครับผม ถ้าไปตอนนี้แล้วพี่คุณจะไม่ว่าอะไรเหรอเนี่ย?”แบมแบมพึ่งตั้งสติถามคำถามออกมาได้เมื่อตัวเองและกลุ่มเพื่อนย้ายขึ้นมาอยู่บนรถเมล์ที่สามารถเดินทางต่อไปที่ตรอกข้าวสารได้แล้ว
“เอาน่า ตอนนั้นไว้ค่อยคิดแก้ปัญหาก็ยังไม่สาย นี่มันการเล่นน้ำครั้งสุดท้ายของพวกเราแล้วนะเว้ย”เตนล์ตอบพร้อมรอยยิ้มกว้าง ถึงตอนนี้แบมแบมคงได้แต่ทำใจสินะ พี่คุณอย่ามอบบทลงโทษให้เค้าหนักๆเลยนะ .. แบมแบมคิดอยู่ในใจ
[ BAMBAM PART ]
เมื่อมาถึงตรอกข้าวสารในเวลาตอนเกือบห้าโมงเย็น ทุกคนก็รีบวิ่งไปซื้อแป้งมาไว้ในมือพร้อมปืนฉีดน้ำคู่ใจแล้วเดินจัดการคนที่เดินสวนกันไปมาอย่างสนุกสนานจนลืมไปเลยว่าถ้ากลับไปจะโดนพี่คุณจัดการอะไรบ้าง
“ขอโทษนะครับ ขอปะแป้งหน่อยนะครับผม”
“ขอโทษนะครับ ขอปะแป้งหน่อยนะครับผม”
“ขอโทษนะครับ ขอปะแป้งหน่อยนะครับผม”ผมพูดประโยคเดิมๆเป็นสิบรอบเพื่อขอปะแป้งผู้คนที่สวนไปมาพร้อมรอยยิ้มน่ารักที่ทำให้คนโดนขอปะแป้งยอมให้ปะโดยเต็มใจ ก็ผมหล่อขนาดนี้ใครก็อยากให้ผมปะแป้งอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ ฮ่าๆ
ผมหันไปปะแป้งคนนั้นทีคนนี้ทีจนกระทั่งหันกลับมาอีกทีเพื่อนที่เดินตามอยู่ก็หายไปจากสายตาหมดแล้ว อ่าวทำไงดีล่ะ โทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าสตางค์ก็ไม่ได้พกมาจะหาทุกคนเจอได้ไงวะเนี่ย ผมขยี้หัวตัวเองแรงๆแล้วเดินหลบมาอยุ่ในมุมหนึ่งของถนนที่ไม่มีผู้คนผ่านไปมามากนักแล้วนั่งรอด้วยความหวังว่าจะมีเพื่อนสักคนนึกได้ว่าผมหายไปแล้วเดินกลับมาบ้าง
“น้องมาคนเดียวเหรอครับ?”ผู้ชายท่าทางน่ากลัวสามคนเดินตรงมาที่ผมที่นั่งอยู่ริมฟุตบาธพร้อมรอยยิ้มกะหลิ่มกะเหลี่ย จนผมต้องลุกขึ้นมาพร้อมกำปืนฉีดน้ำในมือแน่น แค่ขนาดตัวที่สูงกว่าผมกับรอยยิ้มของฟากนั้นผมก็ไม่กล้าไว้วางใจแล้วครับ
“เอ่อ .. ป่าวครับ ผมรอเพื่อนอยู่ครับ”ผมได้แต่ยิ้มแห้งตอบพี่คนนั้น ทำใจดีสู้เสือไปก่อน
“งั้นก็มาสนุกกับพวกพี่ได้ก่อนสิ เนี่ยพวกพี่กำลังเบื่อๆอยู่เลยนะ”หนึ่งในสามน่ากลัวยกมือจะมาจับที่ไหล่ของผม แต่ผมก็ไหวตัวทันเลยถอยหลังไปอีกสามก้าว หากแต่เป็นสามก้าวที่เข้าไปในซอยมืดๆนี่ลึกกว่าเดิม ฮือพี่คุณน้องแบมขอโทษที่แอบหนีออกมานะ T T
“ไม่ต้องกลัวพวกพี่หรอกน่า พวกพี่ก็แค่อยากเล่นน้ำกับน้องคนน่ารักเฉยๆนี่นา”น่ากลัวคนที่สองและสามเขยิบเข้ามาเหมือนจะล้อมตัวผมที่กำปืนฉีดน้ำเอาไว้แน่น ตอนนี้อยากให้ปืนฉีดน้ำกลายเป็นปืนจริงๆเสียมากกว่าแล้ว #ร้องไห้หนักมาก
“รับรองไปเล่นกับพวกพี่ น้องต้องสนุกแน่ๆเลย”น่ากลัวคนที่หนึ่งแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากแถมจะยื่นมือมาจับไหล่ผมอีกแล้ว แถมตอนนี้ผมก็ถอยไปตรงไหนไม่ได้แล้วด้วย T T
“HEY! DON’T TOUCH MY BOY!(เฮ้ย! อย่าจับคนของฉัน!)” เสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นก่อนที่น่ากลัวคนที่หนึ่งจะยื่นมือมาจับตัวของผมได้พร้อมกับตัวผมที่ลอยฟรึ่บเข้าไปปะทะกับอกของร่างเจ้าของเสียงภาษาอังกฤษคนนั้น แถมในมือของเขายังมีปืนสีดำเมี่ยมที่กำลังชี้ไปที่น่ากลัวคนที่หนึ่ง,สองและสามอีกด้วย
“สัสเอ้ย! เห็นว่ามีปืนหรอกนะ พวกเราไปเว้ย”น่ากลัวคนที่หนึ่ง,สองและสามมองมาที่ผมสองคนด้วยความเซ็งก่อนจะแยกย้ายเดินออกไปทิ้งให้ผมยืนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เกือบไปแล้วมั้ยล่ะเกือบได้สามน่ากลัวเป็นผัวแล้วครับผม T T
“Are you alright ? (คุณสบายดีนะ?)”เจ้าของร่างสูงก้มลงมาถามผมที่สูงเลยบ่าของเขามานิดหน่อยจนหน้าของเขาใกล้หน้าของผมมากจนผมต้องกลั้นหายใจไปนิดนึงเลยล่ะ
“Yes, Thank you for you help. (ครับ ขอบคุณนะครับที่ช่วย)”ผมรีบเขยิบออกจากอ้อมกอดนั้นก่อนที่ผมจะเคลิ้มไปมากกว่านี้ ก็คนตรงข้ามหล่อมากเลยนี่หน่า ทั้งใบหน้าเรียวเล็ก จมูกโด่งเป็นสัน และนัยน์ตาที่น่าหลงใหลที่กำลังจ้องมองลงมาที่ผมแถมยังใส่เสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงประมาณเข่าอีก (เช็ดเลือดกำเดาก่อน)
“No problem, So why you stand here alone? (ไม่มีปัญหา แล้วทำไมนายมายืนอยู่ตรงนี้คนเดียว?)”เจ้าของร่างสูงลดปืนในมือลงก่อนจะจ้องมาที่ผมด้วยสายตาตำหนิเล็กน้อย
“I get lost with my friends. May you take the gun away,please? (ผมหลงทางกับผมน่ะครับ ว่าแต่คุณช่วยเก็บปืนไปก่อนได้มั้ย?)”ผมมองไปที่ปืนในมือของคนตรงข้ามหวาดๆ ถ้าเกิดมันลั่นใส่ผมที่ยืนอยู่ใกล้ๆนี่ผมจะไม่บาดเจ็บแทนสามน่ากลัวหรือไงเล่า
“This gun? Bang! (ปืนนี่เหรอ? ปัง!)”ร่างสูงกดยิงปืนใส่ผมก่อนจะพบว่ามีแต่น้ำที่ไหลออกมาจากปืนเท่านั้น นี่ถ้าสามน่ากลัวรู้ว่ามันเป็นของปลอมต้องกลับมากระทืบพวกผมแน่ๆ
“Mark! 你来这儿干嘛? 他是谁? (มาร์ค! แกมาทำอะไรตรงนี้วะ? แล้วนี่ใคร?)”ผู้ชายร่างไม่สูงจากผมมากนักเดินเข้ามาขัดจังหวะบทสนทนาของเราสองคนพร้อมเสียงโหวกเหวกโวยวายตามสไตล์ไชนีสแล้วมองมาที่ผมที่ยืนอยู่ข้างๆเจ้าของร่างที่ชื่อว่ามาร์ค
“看他正在有问题我来帮助他 (เห็นเขากำลังมีปัญหาก็เลยเข้ามาช่วยน่ะ)”มาร์คหันกลับไปตอบโต้คนที่น่าจะเป็นเพื่อนของเขาด้วยเสียงนิ่งๆ แต่ดันเป็นภาษาจีนที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง ช่วยพูดภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษได้มั้ยเล่า เดี๋ยวผมก็แร้พสวรรค์ชั้นเจ็ดใส่เลยนี่! . _ .
“Nice to meet you little boy, this is wild and sexy – JACKSON”ผู้ชายมาใหม่คนนั้นแนะนำตัวพร้อมยักคิ้วให้ผมแบบกวนโอ้ยที่สุดแต่ก็ดูหน้าตาดีอยู่ดี ทำไมผู้ชายสองคนนี้ถึงได้หล่อบดบังความหล่อของผมแบบนี้ล่ะ ผมไม่ยอมนะผมต้องหล่อที่สุดในเรื่องสิ!
“Me too, Im Bambam (เช่นกันครับ ผมแบมแบมนะ)”ผมก้มหัวให้สองคนตรงหน้าเล็กน้อยพร้อมกับหันไปเจอกลุ่มเพื่อนที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาผม
“แบมแบม! พวกฉันหาแกแทบแย่! เอ่อ..ว่าแต่นี่ใครอ่ะ?”ลลิซวิ่งเข้าจับแขนผมเขย่าไปมาก่อนจะหันไปเห็นสองหน่อที่ยืนมองพวกเราคุยกัน
“เรื่องมันยาวน่ะ ไว้ค่อยเล่าละกัน”คนชื่อแจคสันทำหน้าสงสัยเหมือนอยากรู้ว่าพวกผมพูดอะไร ส่วนคนชื่อมาร์คก็เอาแต่ยืนนิ่งๆมองพวกผมเท่านั้น
“Thank you for your help again,Mark. I gotta go now. (ขอบคุณที่ช่วยอีกครั้งนะครับมาร์ค ผมต้องไปแล้วล่ะ)”ผมหันไปพูดกับเจ้าของร่างสูงที่เข้ามาช่วยผมจากสามน่ากลัวอีกครั้ง
“I never help anyone without reward. (ฉันไม่เคยช่วยใครโดยไม่ได้รับผลตอบแทนหรอกนะ)”เจ้าของร่างสูงดุนลิ้นที่ปากเล็กน้อยก่อนเอื้อมมือมาจับผมที่ยืนงงอยู่ ก็จะให้ผมเอาอะไรไปตอบแทนเขาล่ะ เงินสักบาทติดตัวยังไม่มีเลย หรือผมจะให้เบอร์ที่ร้านไปก่อนแล้วให้เขาติดต่อทีหลังดีล่ะ
“I’ll will give.. (ผมจะให้..)”
”จุ้บ”
แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไร เจ้าของร่างสูงก็ดึงผมเข้าไปหาแถมยังก้มหน้าลงมาแล้วเอาปากของเขามาแตะปากของผมเสียรวดเร็วแถมยังกดริมฝีปากย้ำไปมาจนผมได้ยืนแข็งทื่อกับการกระทำนั่น
ตึกตัก ตึกตัก
“YOU! (คุณ!)”มือของผมกำเสื้อของคนตรงข้ามไว้กับดวงตาที่เบิกกว้างหลังจากร่างสูงปล่อยผมให้เป็นอิสระ ก็นั่นมันจูบแรกของผมเชียวนะ จะไม่ให้ผมตกใจได้ไงเล่า แถมยังเป็นคนแปลกหน้าอีกต่างหาก
“I don’t need anything but your kiss. (ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นล่ะนอกจากจูบของนาย)”ร่างสูงยิ้มให้ผมเป็นยิ้มแรกนับตั้งแต่ที่เจอกันก่อนจะเดินออกไปจากซอยโดยมีคุณแจคสันวิ่งตามไป ทิ้งให้ผมกับเพื่อนยืนอึ้งกับการกระทำบ้าระห่ำนั่น
“I don’t need anything but your kiss.”
“I don’t need anything but your kiss.”
“I don’t need anything but your kiss.”
“I don’t need anything but your kiss.”
“อ้าก!!!!”
(END)
- TALK -
ฟิคนี้เกิดขึ้นจากการต้องมาติดแหง็กอยู่ที่บ้านของคนเขียนเเอง
ช่วยทำกับข้าวจนเหนื่อยแล้วเนี่ย ฮา
ภาษาอังกฤษกับภาษาจีนในนี้อาจผิดพลาดบ้าง ขออภัยมา ณ ที่นี้
เม้นท์ติชมได้ก็จะดีใจมากเลยน้า มือใหม่หัดเขียนอ่า ฮา
เมื่อไหร่พี่มาร์คจะลงรูปถ่ายกะน้องแบมอีกน้า
แม้ว่าตอนนี้เค้ายังไม่หายฟิน #Hunbam ก็ตาม
จบ talk ก็ได้ บุยส์
ความคิดเห็น