คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : คู่กัด
ตรงหน้าฉันคือฝูงชน...คนเป็นฝูงจริงๆนะ -_-;
“บอกทีสิมันร้านแจกของฟรีหรือว่าสหกรณ์กันแน่”
“...”
“พี่คีตา~ เรากลับกันเหอะ>_<”
โป๊ก!!
“โอ๊ยโย๋!เจ็บนะเนี่ย คนสวยชอบทารุณเหรอ T^T”
“เอาแต่ใจตัวเองนะ น้องสาว L เมื่อกี้ก็ครีมเองไม่ใช่เหรอที่ลากพี่มาที่นี่น่ะ!”
เสียงใสๆต่อว่าคล้ายจะตำหนิ พร้อมกับใบหน้าสวยๆที่ส่ายหน้าช้าๆอย่างระอาใจ แต่เรื่องอะไรจะไปสน เมื่อกี้ฉันลากมาก็จริงตอนนี้ก็กำลังจะลากกลับไปส่งคืนแล้วไงเล่า>x<
“ไม่เข้าแล้วเหอะ ดูโน่นแหน่ะ โน่นๆๆๆๆ!!”
ฉันชี้ไปยังภาพที่เห็นตรงหน้า สหกรณ์ที่เป็นแหล่งรวมทุกสิ่งทุกอย่างให้นักเรียนของสถานศึกษาซาโตนิโอได้ชอปปิ้ง ณ ขณะนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่พากันมารุมซื้อของราวกับว่าถ้าไม่ซื้อวันนี้พรุ่งนี้มันจะไม่มีให้ซื้อแล้วก็พอเข้าใจนะว่าวันพรุ่งนี้มีกิจกรรมรับน้อง(เสาร์แรกของเทอม)แต่ขนาดสหกรณ์ที่กว้างขนาดนั้นยังแน่นขนัดขนาดนี้ ตัวขนาดมินิไซต์อย่างฉันคงจะมุดเข้าไปไม่ได้แน่ๆ
“อุตส่ห์มาถึงนี่แล้ว ถ้าไม่ซื้ออะไรจะออกมาทำไมให้แดดร้อนๆมันเผาเล่นกันล่ะ -3-”
“โธ่! อยากเข้าไปเบียดตัวเองกับพวกนั้นเหรอ เราสู้เขาไม่ได้หรอกน่าL”
ฉันว่าแล้วลากพี่คีตาให้ออกมาอยู่ในระยะปลอดภัย บรรยากาศวุ่นวายแบบนี้ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ชวนให้หงุดหงิดได้ตลอดเลยแฮะ -_-;;
โรงเรียนของเราใช้ระบบรุ่นพี่รุ่นน้องแบบเดียวกับมหาวิทยาลัย ดังนั้นนักเรียนปี 1 ที่เข้าใหม่ก็จะมีสายรหัสคอยช่วยดูแล ในเรื่องที่ควรรู้ต่างๆ (รวมไปถึงกฎของสังคมด้วย) สายรหัสจะเลือกกันโดยไม่จำกัดว่าพี่รหัสกับน้องรหัสต้องอยู่ห้องเดียวกัน เราใช้วิธีสุ่มเลขประจำตัวนักเรียนผ่านเครื่องสุ่มเลข แล้วจะมีประกาศบอกนักเรียนใหม่ให้ทราบว่าพี่รหัสมีเลขประจำตัวอะไร จากนั้น เหล่าน้องใหม่ก็จะต้องออกตามหาพี่รหัสของตัวเองให้เจอภายในหนึ่งสัปดาห์ (ไม่งั้นจะโดนทำโทษแบบพิสดาร -O-) ในกรณีที่เป็นนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามากลางเทอมหรือกลางปี ก็จะให้นักเรียนชั้นปีสูงกว่าที่ไม่มีน้องรหัสเป็นผู้ดูแล ฟังดูวุ่นวายใช่มั้ย ฮะๆ ก็แบบนี้ล่ะ ถ้าไม่วุ่นวายไม่ใช่ซาโตนิโอ เซนต์ รอฟส์กี้ หรอก J
“ทำไมถึงได้วุ่นวายแบบนี้เนี่ย >_<!!” คนข้างตัวของฉันเริ่มบ่นเมื่องมองไปทางไหนก็ไม่มีช่องว่างให้มุดเข้าไปได้เลย
“เค้กว่าพี่คีตากลับหอดีกว่า เอาขนมในล็อกเกอร์ของเค้กกินไปก่อนก็ได้ โกโชซื้อมาไว้ให้จนมันจะล้นออกมาแล้ว ^^”
“ก็ได้ -^- แล้วนี่ไม่ต้องไปช่วยเพื่อนๆเตรียมงานรับน้องหรอกเหรอ”
“ต้องสิ งั้นเค้กไปแล้วดีกว่า เดี๋ยวพวกนั้นบ่นอีก”
“แล้วเจอกันที่โรงอาหารแล้วกันนะ”
“อื้อ พี่คีตาก็อย่าเดินระวังๆล่ะ”
หลังจากเราสองคนแยกกันที่หน้าสหกรณ์ ฉันก็จะเดินเตาะแตะเรื่อยเปื่อยไปยังข้างหอสมุด ห้องของฉันนัดรวมตัวกันที่นั่นเพื่อจัดเตรียมกิจกรรมสำหรับวันพรุ่งนี้ เสียงที่ส่อเค้าความวุ่นวายดังมาถึงนี่เชียว - -;;
“มาแล้วเหรอครีม!”
“งานไปถึงไหนแล้วล่ะ จะให้ช่วยอะไรมั้ย”
ฉันถามบราร์นี่ที่กำลังนั่งลงสีฉากสำหรับจัดฐานกิจกรรม เธอชี้ให้ฉันไปช่วยยัยเพิร์ทผสมอะไรสักอย่างที่ดูแฉะๆซึ่งเพื่อนรักของฉันก็ทำหน้าการันตีว่ามันน่าแหยะแค่ไหน
“มานี่มะ ทำให้ดีกว่า อะไรเนี่ย - -;;”
“Bananas Color T^T!”
“รู้แล้วว่าไม่ชอบของแหยะๆ”
“I hate it! Shit! T^T”
“ก็แค่กล้วยตำเละๆเอง ^^;; ใจเย็นๆ ไม่ต้องพ่นภาษาอังกฤษก็ได้”
“@#*^$#&++#$$%&(&^%!!!!”
“คราวนี้พ่นภาษาต่างดาวเลยเหรอ -O-!!”
เพิร์ทหันมาส่งสายตาเคืองๆก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอย่างงอนๆ - -; ยัยเพื่อนบ้า!กลัวของแหยะๆแบบนี้แล้วทำไมยังมาทำไอ้ตำกล้วยให้เละอะไรนี่ล่ะ
“เค้กทำอะไร -_-”
“ตำกล้วยให้เละ”
“ไอ้เพิร์ททำไม่รอดอะดิ หึ!ว่าแล้วว่ายังไงก็ไม่ไหว”โชเซที่เพิ่งเดินเข้ามาถามแล้วส่งเสียงหัวเราะเยาะๆ ตัวการอยู่นี่นี่เอง
“อย่าบอกนะที่ยัยนั่นบ้ามาทำทั้งๆที่กลัวนี่เพราะโชเซน่ะ -_-;”
“เปล่าน้า~ เพิร์ทบอกเองต่างหากว่าคนสวยทำได้ทุกอย่าง J”
“งั้นรีบไปรับผิดชอบเลย โน่น ร้องไห้ไปทางนั้นแล้ว พูดไม่เป็นภาษาคนแล้วมั้งน่ะ -_-;”
โชเซยักไหล่อย่างไม่สนใจก่อนเดินมาคว้าถุงมือแล้วช่วยฉันผสมกล้วยที่ตำแล้วกับสีผสมอาหารคลุกน้ำตาลให้เข้ากัน แม้ว่าหน้าตามันจะดูแล้วรับไม่ได้ แต่จริงๆแล้วมันอร่อยมากนะ >_<~!!
ตลอดหลายชั่วโมงแห่งความวุ่นวาย ที่จริง งานมันคงจะเดินหน้ามากกว่านี้ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกผู้หญิงเอาแต่แกล้งพวกผู้ชายที่กำลังทาสี(ผิดปกติเล็กๆนะ) และโชเซไม่พยายามท้าให้เพิร์ททำอะไรแปลกๆ(ซึ่งเพิร์ทก็บ้าจี้ทำตาม) ให้ตายสิพวกนี้นี่ L กว่างานทุกอย่างจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบหกโมง เวลารับประทานอาหารเย็นเหลือแค่ครึ่งชั่วโมงเองอ่ะ
“หิวแล้ว~ไปกินข้าวดีกว่า ปะ เพิร์ท โชเซ >_<”
“แน่ใจนะว่าพวกเธอล้างมือเรียบร้อยแล้ว”
“ตอนคลุกกล้วยพวกฉันใส่ถุงมือนะ มันไม่มีติดหรอกน่า -_-;”
“ใครเป็นคนคิดคอนเซบป์กิจกรรมเนี่ย แม่อยากฆ่าให้ตายเลยจริง >x<”
เพิร์ทบ่นรัวเป็นชุด คงจะลืมไปแล้วละมั้งว่า ตัวเองเป็นคนเสนอกิจกรรมแกล้งน้องแบบนี้ (ตอนนั้นคงจะโดนโชเซแกล้งท้าอะไรแปลกๆอีกตามเคยน่ะแหละ)
โรงอาหารสุดหรูอยู่ทางเหนือของโรงเรียน ด้านซ้ายสนามกีฬากว้างๆแบ่งออกเป็นสนามหญ้าพร้อมลู่วิ่งและสนามฟุตซอล ด้านหลังเป็นสนามเทนนิสที่ยังมีนักกีฬามาซ้อมอยู่เยอะพอสมควร ถัดไปเป็นโดมสระว่ายน้ำที่ตอนนี้ปิดปรับปรุง(เห็นว่าจะทำระบบน้ำอุ่นสำหรับหน้าหนาวน่ะ) ภายในโรงอาหารยังมีนักเรียนอยู่เยอะมาก คงจะเป็นเพราะทุกห้องต่างก็ต้องเตรียมงานสำหรับวันพรุ่งนี้ก็เลยทำให้มาช้ากัน ฉันมองฝ่าผู้คนเพื่อมองหาโต๊ะที่ต้องการ ไม่ใช่ว่าจะมีโต๊ะประจำอะไรหรอกนะ เพียงแต่ถ้าฉันไปนั่งโต๊ะอื่น เดี๋ยวความวุ่นวายจะตามมาน่ะ...
“อยู่ไหนนะ...”
“น้องเค้ก! >O<”
เสียงเรียกจากผู้ชายตัวสูงที่แค่ดังยังไม่พอ แต่มาพร้อมการโบกไม้โบกมืออย่างไม่อายสายตาประชาชนที่มองมาอย่างสนใจเลยสักนิด(ไม่เว้นแม้แต่บรรดาเชฟและสาวเสิร์ฟ)นี่ไง ตัวการที่ทำให้เกิดความวุ่นวายน่ะ
“มาช้าจังเลย~ให้รอนานๆมันคิดถึงนะรู้มั้ย>_<”
คนตัวสูงกระโดดกอดฉันในทันทีที่เราเดินไปถึงโต๊ะ โดยไม่แคร์สื่อใดๆว่าประชาชนที่คอยมองดูมันจะกรี๊ดลั่นโลกจนแสบแก้วหูจะตายอยู่แล้ว ทันทีที่อ้อมกอดถูกคลายลง ฉันที่ทำหน้างอก็ได้พบกับใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มกว้างอยู่ตรงหน้า
“ปล่อยเหอะ อายเขา -_-;”
“จะไปสนใจเขาทำไมJ”
“สนๆบ้างก็ดีนะL”
“ถ้าสนใจแล้วอย่ามาว่าก็แล้วกันJ”
น้ำเสียงกวนๆพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์ทำเอาฉันหมั่นไส้ขึ้นมาพร้อมความหงุดหงิด เลยเผลอหยิกเข้าที่ท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อด้วยความโมโห ชิ~! หัดพูดจายอกย้อนดีนักนะ น่ารักตายแหละ!!
“โอ๊ยๆๆๆ!!หยิกเขาทำไมอะ อู้ย!! >WO”
“มันเป็นความพอใจส่วนบุคคล มีอะไรปะ?”
พูดจากวนประสาทไม่พอแถมการยักคิ้วท้าทายให้คนตรงหน้าก่อนจะเดินจูงมือเพื่อนไปยังร้านประจำ ทิ้งให้คนข้างหลังส่งเสียงโวยวายอยู่คนเดียว
“เอาน่าๆ ก็น่ารักออกขนาดนั้น ให้อภัยเถอะ ^^”
“เหอะ!อย่าคิดเข้าข้างเชียวนะเพิร์ท”
“ไม่ได้เข้าข้างน้า~แต่ว่าเค้กก็ไม่น่าจะหงุดหงิดขนาดนั้นเพราะเรื่องแค่นี้เอง”
“ก็ดูปากนั่นสิ พูดจาแบบนี้มันน่าโดนมั้ยล่ะ~!”
“ใจเย็นๆน่า ก็รู้อยู่ว่าพี่โกโชน่ะชอบยั่วให้เค้กหึง คิก~”
“หึงบ้าอะไรล่ะ!! อย่าไร้สาระ แค่หงุดหงิดที่ว่า ถ้าฉันเป็นคนพูดประโยคพวกนั้นบ้างล่ะก็...”
“งานก็เข้าน่ะสิ”โชเซหัวเราะหึๆออกมาพร้อมกับทำหน้าระอาใจ
“ช่ายๆ แล้วก็พวกผู้ชายในโรงเรียนคงจะไม่มีทางอยู่อย่างสงบสุขแน่ๆ”นั่นสิ แบบนี้นี่ งี่เง่าเอาโล่เลยเหอะ -_-”
วันนี้ฉันกับเพิร์ทตัดสินใจกินสลัดผลไม้กับน้ำส้ม ส่วนโชเซเลือกกินพิซซ่า พาสต้า และโค้ก -_-; ทำไมกินขนาดนั้นแล้วยังไม่อ้วนนะ!! ไม่สิ...แค่พิซซ่าอย่างเดียวฉันก็คงจะเลี่ยนตายแล้วด้วยซ้ำ ทำไมยัยนี่ถึงกินอาหารไขมันสูงแบบนี้เข้าไปได้ทุกวันๆโดยไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้านบ้างนะ
“นั่งลงๆ เอาน่าคนดี อย่าโกรธเลยนะคะ ^^”
โกโชยิ้มกว้างพลางเลื่อนเก้าอี้ให้ฉันที่ยังหน้างอไม่หาย โชเซส่งยิ้มแบบรู้ทันมากวนใจก่อนจะนั่งลงข้างๆเพิร์ทที่ส่งยิ้มกว้างไปให้โกโชเหมือนเคย เสียงเอะอะของคนกลุ่มใหญ่ที่มุ่งหน้ามาที่โต๊ะของฉันเรียกความสนใจให้หันไปมองเป็นเวลาเดียวกับที่เสียงทักของคนที่เดินนำหน้าจะส่งตรงมาถึงฉัน
“โย่ว!สวัสดีครับน้องครีมเค้ก ^^”
“สวัสดีค่ะ พี่กีต้าร์ -_-”
“ว่าไงครับ สาวน้อยของพี่ ^^”
“เอ่อ...ค่ะ พี่นัท ก็ดีค่ะ -_-”
“หน้าตาแบบนี้ โกรธไอ้โกโชมาล่ะสิเนี่ย”
“เก่งนะคะ -_- สวัสดีค่ะภัทร”
“Say hi! Cream cake!! ^^”
“พูดภาษาไทยเค้กก็เข้าใจนะคะพี่โอตะ -_-”
เสียงหัวเราะอย่างครื้นเครงดังขึ้นอย่างไม่ถือสาคำต่อว่าของฉัน คนกลุ่มนั้นต่างก็เดินเข้ามาจับจองเก้าอี้ที่ว่างอยู่ซึ่งตามจริงแล้วแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเก้าอี้ประจำเลยทีเดียว
คนพวกนี้คือบรรดาเพื่อนๆของโกโช พี่ชายของฉัน ที่มาพร้อมกับแฟนสาวและน้องสาว พี่โอตะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับโกโชหลังจากที่เลื่อนเก้าอี้ให้พี่เนโกะแฟนสุดที่รักเรียบร้อยแล้ว ถัดมาเป็นพี่กีต้าร์ที่มองไปรอบๆเหมือนกำลังชั่งใจว่าจะเลือกกินอะไรดี ข้างๆโชเซเป็นพี่นัท ถัดไปก็เป็นพี่คีตากับพี่ภัทร พี่ชายของพี่คีตาซึ่งเป็นเพื่อนกับโกโช ความจริงแล้วพี่ภัทรเรียนอยู่ที่มารีอา เซนต์ โจเซฟ แต่ไม่รู้ทำไมต้องถ่อมากินข้าวเย็นที่นี่ทุกวัน -_- สงสัยกับข้าวที่มารีอาจะไม่เวิร์ก
“ไอ้เดวิลหายหัวอีกแล้ว”
“เฮ้ย ไอ้เสือของเราจะมานั่งแหง่วให้แกจ้องงาบหัวมันทำไม ก็ต้องมีนัดกับสาวบ้างสิโว้ย!”
“รู้สึกหลายปีมานี่ไม่เคยมากินข้าวกับเพื่อนเลยนะ -_-”
“ทำบ่นๆ แกเป็นคนไล่มันไปเองนะไอ้โกโช J”
“แต่ก็น่าจะโผล่หัวมามั่ง อะไรวะ เห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อน เหอะ!”
“อารายๆ คิดถึงมันรึงาย~>_<”
“ไอ้เพื่อนเวร! น้องเค้กนั่งอยู่นี่เดี๋ยวก็ได้เข้าใจผิดไปใหญ่โตหรอก”
“ฮ่าๆ ไอ้โกโชหน้าแดงว่ะ”
“ไหนๆ ดูดิ๊>_<”
แล้วเสียงหยอกล้อปนเสียงโวยวายก็ดังขึ้นมาอีกระลอก พวกผู้ชายพวกนี้นี่ไม่รู้จักโตเลยจริงๆนะ
พี่เดวิลเป็นเพื่อนคนเดียวของโกโชที่ฉันเคยได้ยินแค่ชื่อ แต่ไม่เคยได้เจอกันจริงๆจังๆเลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วหน้าตาเป็นยังไง เพราะโกโชขอเอาไว้ว่าอย่าไปยุ่งด้วย ซึ่งที่จริงแล้วก็ไม่ได้อยากรู้จักเท่าไหร่ เพราะว่าฉันไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้ และชื่อของพี่เดวิลคนนี้ก็ลือกระฉ่อนซะจนฉันสงสัยว่า คนเราจะเจ้าชู้ได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือไง? ผู้หญิงสวยๆทั้งในและนอกโรงเรียนต่างมาขอคบด้วยเป็นว่าเล่น ใช่ ข้อนี้เขาไม่ผิดหรอกเพราะผู้หญิงแห่มากันเอง(พวกนี้ก็ช่าง...) แต่ที่ผิดเพราะเขาไม่เคยเลือก ใครบอกชอบก็รับไว้หมดและบางทีก็รับไว้ทีละหลายๆคน ถ้าไม่จริงจังกับใครแล้วรับไว้ทำไมล่ะ!
“หวัดดีคีตา ว่าไง~น้องเค้ก”
“อ้าว! ดีจ้าๆ”
เสียงไม่พึงประสงค์ทำฉันหน้ายุ่งทันทีที่ได้ยิน ก็อยากจะทำเป็นไม่ได้ยินหรอกนะ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเจ้าของเสียงเดินมาทางนี้แล้ว แถมยังยืนอยู่ข้างหลังของฉันซะด้วย ไอ้คนที่อยากเจอน้อยที่สุดในโลกแต่ดันเจอบ่อยที่สุดในรอบวันของชีวิต ผู้ชายคนที่สร้างความทรงจำอันแสนแย่ไว้ในชีวิตของฉัน...ความทรงจำที่ยังไงก็ไม่มีทางลืมได้เลยล่ะ แต่ถึงแม้อยากจะทำอะไรสักอย่างให้หายแค้นก็เป็นไปไม่ได้เพราะโรงเรียนนี้ใช้กฎรุ่นพี่ถูกเสมอเพราะงั้นต่อให้อยากแหกกฎนี้แค่ไหนก็คงเสี่ยงเกินไปที่จะทำให้ตัวเองเป็นเป้าหมายโดนว้ากแม้ว่าจะไม่มีอะไรต้องกังวลก็เถอะและเวลาเปิดศึกเมื่อไหร่ พี่คีตาเป็นปกป้องมันตลอดอีกทั้งเขายังเป็นรุ่นน้องของโกโชลืมเรื่องที่ไปมีเรื่องโดยที่พี่ชายไม่รู้เป็นอันยกเลิกไปได้เลย ไม่มีทางที่เขาจะไม่วิ่งแจ้นไปฟ้องหรอกและต่อให้พี่ชายทั้งจะรักฉันมากสักแค่ไหน ก็คงต้องเฉ่งฉันเพราะการไปมีเรื่องแน่ๆ
“สวัสดีครับ น้องครีมเค้ก ^^”
“-_-”
“ทักแล้วไม่ทักตอบ เขาเรียกหยิ่งนะ”
“-_-”
“ไอ้ทาย อย่าไปยุ่งกะน้องเค้ก -_-++”
โกโชส่งคำเตือนไปให้ก่อนจะจิ้มสเต็กแล้วส่งมาป้อนให้ฉัน ไม่ต้องสงสัยว่าหมอนั่นจะทำตามรึเปล่า เสียงพี่ชายฉันเข้มขนาดนี้ถ้ายังกล้าต่อกรก็ต้องนับถือในความใจกล้ามากๆเลยล่ะ
“พี่โกโชล่ะก็ ผมแค่ทักทาย ไม่เห็นต้องทำเสียงดุเลย”
“น้องเค้กไม่ชอบแก -_-”
“รู้แล้วคร้า~บ รู้แล้ว ^^;”
เพทายนั่งลงตรงข้ามพี่คีตาที่ส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะชวนกันคุยกระหนุงกระหนิง...บรรยากาศหวานแหววแบบนี้นี่มันอะไรน่ะฮะ หงุดหงิดนะเนี่ย -_-
พี่คีตาเป็นรุ่นพี่ปี 5 รูมเมทของฉัน นอกจากนี้แล้วยังเป็นพี่สาวที่คอยดูแลตั้งแต่ฉันเข้ามาเรียนที่นี่ใหม่ๆ ทั้งนี้เนื่องจากฉันเป็นกรณยกเว้นไม่มีสายรหัสเป็นของตัวเอง
ส่วนไอ้คนที่ชื่อเพทายนั่นก็เป็นรุ่นพี่ปี 5 เหมือนกัน แต่ฉันกลับไม่มีความเคารพยำเกรงอะไรเลยสักนิด ก็อย่างที่บอกไปว่าระหว่างฉันกับหมอนั่นเคยมีเรื่องกันมาก่อน และยิ่งหมอนั่นเจ้าชู้ขั้นเทพแบบนี้ ดังนั้น การที่ฉันจะหวงพี่สาวคนสำคัญที่แสนจะใสซื่อ(?)และไร้เดียงสา(?)ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หมอนั่นกล้าดียังไงถึงได้มานั่งพูดคุยด้วยแบบนี้ ดูยังไงๆก็พยายามจีบชัดๆ ผู้ชายอย่างเพทายไม่ดีพอจะคู่ควรกับพี่คีตาหรอก เฮอะ!
“พรุ่งนี้มีรับน้อง น้องเค้กอยู่ซุ้มไหน”
“ข้างหอสมุด ทำไมคะ” โกโชเรียกสติของฉันให้กลับมาก่อนจะตอบไปแบบงงๆ
“ก็...อาจจะแวะไปหาน่ะ”
“-_-”
“อย่าเพิ่งทำหน้าแบบนั้นสิ ^^; รู้น่าว่าไม่ชอบ ก็แค่แวะไปดูๆกิจกรรมอะไรหน่อยเท่านั้น”
“เกรงว่าการที่โกโชไปจะทำให้กิจกรรมมันล่มซะก่อนน่ะสิคะ”
“ใจร้ายอ่ะTT”
“แค่พูดความจริงเท่านั้นเองนี่L”
“หวงเค้าใช่ม้า~J”
“อยากโดนทุ่มด้วยชามสลัดมะ -_- ถ้าไม่ก็เงียบไปเลย”
ฉันส่งสายตามองค้อนโกโชวงใหญ่แล้วกลับมาสนใจสลัดผลไม้ตรงหน้า ก็กำลังจะกินอยู่แล้วล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเหลือบไปเห็นสีหน้ายิ้มๆของคนชอบกวนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามละก็...
“-_-”
“ทำไมไม่กินล่ะ”
“-_-”
“ก็แค่มอง ไม่ได้เหรอ^^”
“-_-”
“ครับๆ ไม่มองแล้วก็ได้ กินไปเถอะ แล้ววันหลังกินอะไรที่มีโปรตีนเยอะๆหน่อยก็ดีนะ จะได้โตไวๆ”
“-_-”
ฉันเลิกสนใจคนกวนประสาทแล้วกลับมาจัดการกับสลัดของตัวเอง ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมหมอนี่ต้องชอบมาก่อกวนฉันด้วย รู้ทั้งรู้ว่าฉันเกลียดเขายังกับอะไรดี แต่เหมือนยิ่งรู้จะยิ่งชอบใจอยากเข้าใกล้ ดูท่าหมอนี่จะใกล้กับคำว่าบ้าและโรคจิตเข้าไปทุกที!
“เดี๋ยวกินเสร็จจะไปไหนรึเปล่า”
“ก็คงกลับไปทำการบ้านเพราะอาจารย์สั่งไว้เยอะบรม”
“งั้นโกไปส่งเราเลยแล้วกันเนอะ อย่าลืมอาบน้ำเช้าๆ เดี๋ยวไม่สบาย”
“โกก็เหมือนกันนะ อย่านอนดึก”
ฉันบ่นกับเรื่องเดิมๆที่ทำให้พี่ชายส่งเสียงหัวเราะและพูดว่ารู้แล้วๆ ที่ว่ารู้แล้วนี่เข้าใจ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำไม่เคยได้เลยสักที ฉันรู้นะว่าโกโชไม่เคยนอนก่อนเสียงไก่ขัน(ก็เลยเที่ยงคืนไปไง) และชอบไปทำอะไรสักอย่างนอกโรงเรียนตอนดึกๆอยู่บ่อยๆ ก็ไม่เชิงว่าไปคนเดียวหรอก ไปทีก็เห็นไปเป็นกลุ่ม แต่เพราะไม่ได้กลับมาพร้อมบาดแผลฉันเลยคิดเอาเองว่าคงไม่ได้ไปมีเรื่อง จะว่าไปบางทีไอ้คนกวนประสาทหน้าเป็นนี่ก็ไปด้วยนี่นา ฉันมองเพทายที่ส่งยิ้มเชิงคำถามมาที่ฉันเมื่อรู้ตัวว่าถูกมอง เหตุผลหลักๆที่ฉันไม่ชอบผู้ชายคนนี้เพราะเขาเจ้าชู้ไงล่ะ คิดดูนะ ไอดอลของเขาคือพี่เดวิล กิตติศัพท์เรื่องผู้หญิงที่เสียใจเพราะเขาก็ใช่ว่าจะน้อยๆ แล้วยังมีท่าทีมากระดี๊กระด๊ากับพี่คีตา ทั้งๆที่ตอนนี้ตัวเองก็มีสาวๆในสตอคเยอะจนใช้วันๆหนึ่งไม่หมดอยู่แล้ว แล้วแบบนี้จะให้ชอบได้ไง ให้ตายก็ไม่มีทางหรอก ยิ่งการเจอกันครั้งแรกไม่ได้มีความประทับใจอะไรเลยสักนิดด้วย ชาตินี้เราคงญาติดีกันได้หรอกนะ
“น้องครีม...โย้เย้! ^^”
“ว่าไงคะพี่ภัทร มีอะไร -_-;”
“ก็เห็นเหม่อๆคิดอะไรอยู่เหรอ Owo”
“ตกหลุมรักพี่อะดิ ฮะฮะ...เฮ้ยๆๆ!ล้อเล่นหรอกไอ้บ้า!! วางขวดแก้วนั่นลงเดี๋ยวนี้นะเว้ย O [ ] o!!”
โกโชวางขวดลงแล้วทำหน้าดุส่งไปให้ผู้ชายตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างพี่ภัทร รูมเมทของพี่ชายฉันเองล่ะ พี่นัท เป็นผู้ชายร้ายกาจอยู่เหมือนกันเพราะพี่เขาดูเหมือนจะเจ้าเล่ห์ความลับเยอะไปหมด มันก็เป็นเรื่องแปลกนะที่ผู้ชายแบบนี้มาเป็นเพื่อนสนิทกับพี่ชายของฉันซะได้ -_-
“สรุปน้องสาวคนดีเหม่ออะไรครับ ^^”
“วันนี้เหนื่อย เมื่อกี้หลับใน... -_-”
“หา? -_-;;”
“จะจริงได้ไงล่ะพี่นัทอย่าบ้าเชื่อสิ ก็แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยอย่าสนใจเลย -_-”
ฉันตอบส่งๆแล้วกินสลัดต่อจนหมด ทันทีที่ถึงหอพักฉันก็รีบไปเปิดน้ำสำหรับอาบแล้วกลับเข้าไปเตรียมเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนโดยทันที ระบบหอพักนี่ก็หรูเริ่ดไม่แพ้ตัวอาคารเลยนะ ในหนึ่งห้องพักจะประกอบไปด้วยสองห้องนอน มีห้องน้ำส่วนตัวคนละห้อง มีห้องรับแขก ห้องครัว ห้องดูทีวี และ ห้องซักรีด เสื้อผ้าส่วนใหญ่จะส่งซักยกเว้นของใช้ส่วนตัวที่ต้องซักเองถึงได้มีห้องซักรีดไว้ให้ ส่วนห้องดูทีวีก็มีลอกเกอร์ไว้ให้สองตู้สำหรับใส่ขนมและของจุกจิก ห้องครัวไว้สำหรับทำอะไรเล็กๆน้อยๆกินเวลากลางดึกแล้วเกิดหิวขึ้นมา ส่วนในห้องน้ำก็มีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกที่ไว้สำหรับคนที่ชอบอะไรต่างกัน ฉันชอบห้องน้ำที่สุดเลยล่ะ เพราะมันกว้างมาก ขนาดที่ว่าเมื่อถึงวัน Big Cleaning เมื่อไหร่ ไมค่อยมีใครอยากล้างห้องน้ำตัวเองเลย ไอ้วันทำความสะอาดที่ว่านี่มีประมาณเดือนละครั้งได้สำหรับเตรียมให้นักเรียนเป็นแม่บ้านที่ดีเท่านั้นแหละ เพราะส่วนใหญ่ก็จะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดให้ทุกวันอยู่แล้ว ตามปกติฉันจะอาบน้ำเย็นจนชินทั้งๆที่ความจริงการอาบน้ำอุ่นๆในเวลาที่อากาศเย็นๆแบบนี้มันสบายซะจนฉันเกือบหลับในห้องน้ำ ถ้าพี่คีตาไม่เดินมาเรียกป่านนี้จมน้ำในอ่างขึ้นหน้าหนึ่งวันพรุ่งนี้ไปแล้ว ‘ดับอนาจ นักเรียนหญิงง่วงนอนจัดจมน้ำตาย พี่ชายคร่ำครวญแทบบ้า’แล้วก็มีรูปของฉันที่มีเซนเซอร์เป็นแถบสีดำคาดตาเอาไว้ บรือ~แค่คิดก็สยองแล้ว - [ ] -;;
“ครีม...จะนอนแล้วเหรอ”
“งืมๆ ฝันดีนะ”
ฉันบอกพี่คีตาอย่างง่วงจัด ไม่มีอารมณ์จะมาพูดคุยคิกคักแล้วล่ะ พลังงานจากแบตเตอรี่อ่อนจนเกินปายย~ต้องงง~ชาร์ตตแล้ววว~=_=ZZ
“ว้า~หลับไปซะแล้ว ไปทำอะไรมาเนี่ย คงเหนื่อยล่ะสิ เปิดศึกกับทายอยู่ได้ทุกวัน ^^”
เสียงสุดท้ายก่อนที่ฉันจะจมดิ่งไปกับความฝันทำไมต้องมีชื่อหมอนั่นมาให้ระคายด้วยเนี่ย ไม่เข้าใจ
ค่ำคืนอันสุขสันต์ต้องหยุดชะงักเมื่อฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ฉันเบะปากเล็กน้อยก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ไหนแต่ไรมาฉันต้องเข้าก่อนนอนอยู่แล้วเลยไม่เคยตื่นมากลางดึกแบบนี้ สงสัยจะเพลียจัดจนลืมไปสินะ วันนี้ เฮ้อ~กำลังฝันดีว่าได้กินเค้กรูปน้องต่ายอยู่เชียว เค้กแครอทซะด้วย =w=
“งืมๆ~”
ฉันที่กำลังจะเดินกลับห้องนอนตัวเองแต่บังเอิญว่าดันได้ยินเสียงคุยกันซะก่อนจึงได้แต่หยุดชะงัก เสียงนี่คุ้นๆนะ ฟังเหมือนพี่คีตาเลยแฮะ =^o
“ทีหลังมีอะไร โทรมาเช้าๆหน่อยก็ดีนะยะ -_-;”
เป็นพี่คีตาจริงๆด้วย ดึกดื่นขนาดนี้ยังมีแก่ใจจะคุยอีกน้อ ว่าแต่ว่าพี่คีตาคุยกับใครกันนะ
“นายก่อเรื่องเองนะ เรื่องอะไรไปทำแบบนั้น >^<”
ฉันง่วงจนตาแทบจะปิดคาที่อยู่แล้ว แต่เพราะอยากรอถามเลยยืนพิงกำแพงอยู่อย่างนั้น คำพูดที่ลอยผ่านเข้าหูก็เข้าใจมั่งไม่เข้าใจมั่ง สรุปแล้วพี่คีตายังพูดภาษาไทยอยู่ใช่มั้ย? -_-;
“บ้าสิ!นั่นมันคำแก้ตัวที่ไหน >O<”
ไม่ไหวแล้ว จะเดินกลับห้องนอนเลยดีมั้ยนะ แต่ว่า แต่ว่า....
“อย่ามาง๊องแง๊งน่าทาย”
เพราะสติฉันเข้าสู่การหลับใหลไปซะก่อนถึงได้ไม่ทันได้ยินในประโยคสำคัญที่ถ้าฉันได้ยินในตอนนั้น เรื่องวุ่นวายคงจะไม่เกิดขึ้นมาก...ขนาดนั้น...
“ก็ได้จะช่วยก็ได้ย่ะ ชิ!เห็นว่าเป็นเพื่อนนะเนี่ย แต่จะทำอะไรก็ระวังหน่อยล่ะพี่ชายเค้าหวง”
“....”
“ยัยนั่นน่ะเหรอ นอนไปแล้วล่ะ คงเพลียจัดมั้ง”
“....”
“ช่าย~ นายเล่นแกล้งแบบนั้นทุกวันระวังจะโดนเกลียดเอาแล้วจะยุ่ง ถามหน่อยเถอะถ้าชอบจริงๆทำไมไม่บอกไปตรงๆหะ”
“.....”
“จะไปนอนแล้วย่ะ สวัสดี”
คีตาเดินออกมาจากระเบียงห้องทันทีที่ปลายสายวางโทรศัพท์ลง แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างเล็กๆของรูมเมทที่ตัวเองยกให้เป็นน้องสาวนั่งหลับพิงกำแพง ผมยาวๆปรกหน้าแต่ถึงอย่างนั้น ภาพที่ได้เห็นก็น่ารักจนเธออดไม่ได้ที่จะต้องยิ้มออกมาอย่างไร้เหตุผล...
“พี่ชักเข้าใจแล้วสิว่าทำไมคนอย่างหมอนั่นถึงได้ยอมทุ่มให้เธอทั้งใจอย่างนี้ รู้อะไรมั้ยสาวน้อย เธอเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดเท่าที่พี่เคยเจอมาเลย”
บ้าเอ๊ย!!รู้ตัวซะเปล่าว่าคนเขาเกลียดแสนเกลียดยังมีหน้ามาทำหน้าระรื่น สามัญสำนึกเก็บไว้บนตู้กับข้าวหมดแล้วรึไง -_-##!!
“คนตัวเล็กทำไมน่าบึ้งจัง แต่หน้างอก็ยังน่ารักแฮะ ^^”
“ประสาท -_-++”
“โอ๊ะโอ! ท่าทางจะอารมณ์เสียซะด้วย...อาการเก่ากำเริบรึไงจ้ะ ^^”
น้ำเสียงยียวนกวนประสาททำเอาความอดทนของฉันส่งเสียงเปรี๊ยะๆเหมือนขวดแก้วใกล้แตกเลยล่ะ ก็รู้ล่ะนะว่าหมอนี่มันตั้งใจจะกวนให้ฉันบ้าตายไปสักวัน แต่ถึงจะรู้อย่างนั้นฉันก็ยังบ้าไปตามเกมอย่างทนไม่ไหว เด็กปี 3 มาแสล่นทำบ้าอะไรอยู่แถวนี้!!
“นายมาทำบ้าอะไรอยู่แถวนี้ไม่ทราบ ไอ้รุ่นพี่บ้ากาม -_-;;”
“แหมๆ นานๆทีอากาศจะดีเรามาพูดกันดีๆดีกว่าเนอะ ^^”
“ไปตายซะ -_-+++”
“อะไรกัน น่ารักขนาดนี้แต่ใจร้ายที่สุดเลย T^T”
“กรุณาไปตายไกลๆเลย -_-++”
ฉันว่าแล้วผลักมือที่กำลังจะเอื้อมมาของเขาออกไป ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าฉันแสดงออกถึงความเกลียดไม่พอหรือหน้าหมอนี่มันหนาจนไร้ความรู้สึกแล้วกันแน่!!!!
“สรุปแล้วนายมาทำอะไรที่นี่ -_-”
“ก็มาตามคุมน้องไง ^^”
“กลุ่มที่นายคุมมันไปฐานอื่นตั้งชั่วโมงแล้วนี่!ทำไมถึงไม่ตามไปเล่า >O<!!!”
“ก็แหม ฐานนี้น่าสนุกกว่านี่นา ว่าแต่เมื่อกี้เอาอะไรให้น้องกินล่ะ ^^”
เพทายเหลียวกลับไปมองโถขนาดใหญ่ที่มีส่วนผสมของกล้วย(เละๆ) น้ำตาล และสีผสมอาหาร แล้วทำหน้านึกขยาด...นั่นสินะ รู้อะไรรึเปล่า นายทำให้ฉันนึกอะไรดีๆออกแล้วล่ะ ในเมื่อนายมาอยู่ที่นี่ในฐานะพี่สตาฟ นายก็ควรจะรับรู้รสชาติของสิ่งที่พวกฉันใช้รับน้องนะ
“นั่นอะไรน่ะ^^”
“สิ่งที่นายต้องกิน^^”
“หา!? ^^;”
“พูดรอบเดียวไม่เข้าใจรึยังไง บอกว่านายต้องกินไอ้นี่ -_-;”
“ฉัน? กินไอ้นี่? เนี่ยนะ-_-;;;”
“ใช่ อ้อ!รับรองว่าปลอดภัยเพราะฉันทำมันขึ้นมาเอง ส่วนผสมไม่พิสดารเท่าไหร่หรอกและถ้านาย กลัวว่าจะติดคอตายล่ะก็ฉันมีน้ำให้ ^^”
เพทายมองตามมือของฉันที่ยกเหยือกน้ำขึ้นมา เหยือกน้ำหวานสีสวยที่ใช้หลอกล่อเรียกรอยยิ้มจากหน้าตาคิดมากของเขาได้เยอะทีเดียวเชียวล่ะ แต่ว่านะ นายจะวางใจตอนนี้มันยังเร็วเกินไป
“นี่ กินแต่น้ำไม่ได้เหรอ ไอ้นั่นมัน...น่าแหยงอะ -w-;;”
“นายนี่ไม่แมนเลยนะเพทาย...”
“ไม่แมนยังไง”
“ฉันยังกินได้แล้วทำไมนายถึงได้บอกว่ามันน่าแหยงล่ะ”
ฉันว่าแล้วคว้าเอาถ้วยเล็กๆที่ใส่กล้วยเตรียมไว้มากินให้เขาดู แน่นอนว่าที่ฉันกินมันอร่อยเพราะมีองค์ประกอบของน้ำตาล แต่ที่จะให้เขากินน่ะ มันไม่ใช่ของดีๆแบบนี้หรอกนะ
“เธอ....แหวะ!กินเข้าไปได้ยังไง”
“ถึงได้บอกไงว่านายมันไม่แมน เรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ก็อย่ามากวนฉันให้เสียเวลา ไปละนะ อ้อ!ฉันไม่บอกใครหรอกว่านายไม่กล้าลอง มันคงน่าอายเหมือนกันเนอะถ้าพวกผู้หญิงรู้ว่าสาวกพี่เดวิลตัวพ่ออย่างนายกลัวแม้กระทั่งกล้วยบดอย่างนี้น่ะ”
ทันทีที่พูดจบฉันก็วางถ้วยลงโบกไม้โบกมือพอยั่วให้เขาโกรธแล้วทำท่าจะเดินออกมา เป็นไปตามที่คาดเพราะเพทายเอื้อมมือมาดึงแขนฉันเอาไว้ ก็อย่างว่าล่ะนะ คนบ้าศักดิ์ศรีแบบนี้มักจะตกหลุมพรางได้ง่ายเวลาโมโห
“ใครกลัว ก็แค่กล้วย ถ้าเธอกินได้ ทำไมฉันจะกินไม่ได้ เอามานี่!”
เพทายว่าแล้วคว้าเอาถ้วยที่ฉันวางทิ้งไว้ข้างๆกันขึ้นมา เขาหยุดมองนิดหนึ่งเหมือนกับว่ารอให้ฉันเปลี่ยนใจ แต่ไม่มีทางหรอกนะเพทาย เพราะครั้งนี้คนที่จะชนะคือฉัน...ไม่ใช่นาย
“ไม่กินก็เอามา เสียเวลาน่า กลัวก็ยอมรับมาซะ”
“ปากมากน่ายัยเปี๊ยก!เอามาๆ ดูซะเวลาที่ฉันกิน แล้วเตรียมทำหน้าหงอยๆเป็นลูกหมาตกน้ำได้เลย”
“นายสิต้องหงอย ไอ้รุ่นพี่บ้ากาม”
เพื่อความสมจริงเลยต้องต่อปากต่อคำไปบ้างเดี๋ยวจะสงสัย ทั้งที่ในใจกำลังกลั้นหัวเราะอย่างรุนแรง หมอนี่ทั้งบ้าทั้งงี่เง่าเอาโล่เลยขอบอก ฮ่าๆๆๆ!!!!
“ก็แค่กล้วย...อุ๊บ!!Shit!!แค่กๆ!!ยะ...ยัยบ้าเอาอะไรให้ฉันกินเนี่ย!!”
เพทาย Vs ครีมเค้ก 0: 1
“กล้วยบดไง อร่อยมั้ย โอ๋ๆๆๆ สงสารดีมั้ยนะ จะให้น้ำนี่ดีมั้ยน้า~”
“เอามาเดี๋ยวนี้เลยนะ!!! >o<”
“จะดีเหรอ”
“เอามาโว้ยยย!!! >O<”
ฉันทำท่าจะเก็บแก้วน้ำไปไว้ให้ห่างๆ เพทายเห็นอย่างนั้นเลยรีบคว้าน้ำมาซดเอาไว้ ผลคือ....
พรวด!!!!!!!!
เพทาย Vs ครีมเค้ก 0: 2
“ก็ถามแล้วว่าจะดีเหรอ นายเอาไปกินเองนะ =w=”
“แค่กๆ!!เธอ...เธอเอาอะไรให้ฉันกินเนี่ยยย!!!!”
“ก็กล้วยบดผสมพริกกับเกลือ ที่นายเข้าใจว่าสีมันเป็นแบบนั้นเพราะสีผสมอาหารน่ะแหละ แล้วน้ำนั่นก็ผสมน้ำปลาทั้งขวดกับเกลือ กำลังจะหาคนมาชิมอยู่พอดี ว่าไง เค็มพอจะใช้แกล้งน้องได้มั้ยอะ”
“ยัยเปี๊ยก!!!เธอนี่มันแสบได้โล่เลย!!!”
“ขอบคุณค่ะ ไปก่อนนะ ต้องรีบเอาน้ำนี่ไปให้หัวหน้าห้อง อ้อ!ถ้านายอยากได้น้ำอีกล่ะก็ ฉันแบ่งใส่เหยือกไว้ให้ทางโน้น ค่อยๆจิบไปแล้วกันนะ ไม่ต้องรีบ ถ้าหมดยังไงเดี๋ยวจะผสมมาให้ใหม่ บ๋าย บาย”
ฉันโบกมือลาแล้วคว้าเอาเหยือกน้ำเดินไปอีกทางโดยมีเพทายที่ยังไม่ยอมหยุดไอสบถไล่ตามหลังมา สมน้ำหน้า ใครบอกให้นายมากวนประสาทฉันดีนัก เฮอะ!กล้ากวนประสาทฉันล่ะก็ เตรียมใจได้เลย ชีวิตนายไม่มีทางสงบสุขหรอก!
หลังจากที่กิจกรรมทั้งหมดผ่านพ้นไปด้วยดี ก็มีติดขัดบ้างตอนที่โกโชมาหาฉันที่ซุ้มกิจกรรม(มันทำให้ทุกอย่างติดขัดและฉันก็ไม่สบอารมณ์อย่างมากด้วย!)เวลานี้ที่ลานกิจกรรมหน้าสหกรณ์กำลังทำจัดเตรียมสำหรับการแสดงของวงดนตรีนักเรียนในแต่ละระดับชั้นพร้อมวงโรงเรียน ฉันคิดว่าจะไม่ไปล่ะ เพราะถ้าฉันไปมันต้องเกิดเรื่องยุ่งยากแน่ๆ -_-;;
“ครีม จะไม่ไปจริงๆเหรอ มันน่าสนุกมากเลยนะ ^^”
“นั่นสิ ถ้าเค้กไม่ไป ฉันคงต้องกร่อยเพราะยัยนี่เอาแต่กรี๊ดก็ได้ -_-;”
“พูดอะไรฉันได้ยินนะยะ >O<”
แล้วฝ่ามือของเพิร์ทก็ฟาดไปที่หัวไหล่ของโชเซเป็นการลงโทษ ฉันมองดูสงครามภายในครอบครัวแล้วส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ จะมีสักวันมั้ยที่โชเซจะไม่กวนประสาทเพิร์ทแล้วยัยคนสวยนี่จะไม่บ้าจี้โกรธไปตามที่มันวางเกมเอาไว้
“ไม่ล่ะ ถ้าฉันไปเดี๋ยวงานล่ม =w=;”
“ถ้าเธอไม่ไปฉันว่างานจะล่มตั้งแต่ยังไม่จัดคูณสองเลย O_o”
“เธอก็รู้นี่ เค้ก ว่าเธอเป็นตัวแปรสำคัญของงานนี้เลยนะ =w=”
“อย่ามามั่ว!ฉันไม่ใช่เพิร์ทนะจะได้วิ่งไปตามสมการบ้าบอของแกน่ะ โชเซ!”
ฉันว่าแล้วแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่าย โชเซทำหน้ามุ่ยเมื่อรู้ว่าแหย่ฉันไม่สำเร็จ แน่สิ เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กทำไมฉันจะไม่รู้ว่านิสัยโชเซเป็นยังไง คงมีแค่ยัยเพิร์ทเท่านั้นแหละที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักที =_=;
“ไปแล้วนะ แล้วอย่าทะเลาะกันละ รู้มั้ย”
“รู้แล้วน่า แต่เชื่อฉันเถอะว่าเธอต้องไปแน่ๆ”
โชเซว่ายิ้มๆแล้วดึงให้ยัยเพิร์ทเดินไปอีกทาง ทำไมฉันจะต้องไป มันมีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้อง...ปะ...ไป
“ว่าไงจ้ะสาวน้อย ป่านนี้แล้วทำไมถึงยังไม่ไปจองที่ ^^”
“พี่คีตา...?”
พี่คีตาที่เดินมาพร้อมกับเพทายส่งยิ้มหวานมาให้ เพทายเมื่อเห็นหน้าฉันก็ทำหน้าเบ้ คงจะนึกเจ็บใจที่โดนฉันแกล้งเมื่อตอนกลางวันสินะ =w=
“ว่าไงจ้ะ ยังไม่ไปหน้าเวทีอีกเหรอ วันนี้พี่ภัทรก็มาดูด้วยนะ ^^”
“รู้สึกว่าพี่ภัทรก็จะมาทุกวันไม่ใช่เหรอ -_-;”
“นั่นสินะ :p”
พี่คีตาหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วหันไปคุยกับเพทายที่ก็รับด้วยสีหน้าระรื่น แบบนี้จะไม่ให้ฉันกังวลได้ยังไงในเมื่อท่าทีของนายมันส่อเจตนาขนาดนี้แถมพี่คีตายังดูท่าว่าจะชอบนายอีกด้วย
“พี่คีตา ที่จริงแล้ว เค้กกำลังจะกลับหอ”
“ทำไมล่ะ งานวันนี้ก็น่าสนุกออกนี่นา ^^”
“ ไม่อยากอยู่แล้วอ่ะ เบื่อ”
“เบื่ออะไรงั้นเหรอ ^^”
“อย่ารู้เลย คนสวยรับไม่ได้หรอก =w=”
“เล่นแบบนี้อีกแล้วนะ >///<”
“เขินแบบนี้อีกแล้วนะ -_-;”
ฉันว่าเมื่อพี่คีตาออกอาการเขินทีไรเป็นต้องลงไม้ลงมือทุกที แต่ละทีก็เจ็บไม่ใช่น้อยเลยด้วย
“สรุปแล้วน้องครีมเค้กจะไม่ไปด้วยกันจริงๆเหรอ”
เพทายถามขึ้นเมื่อค้นพบแล้วว่าพี่คีตาละเลยและเปลี่ยนความสนใจมาที่ฉัน ไม่ต้องแปลกใจหรอกที่เขาเรียกฉันแบบนี้ ถ้าอยู่ต่อหน้าพี่คีตาหรือคนอื่นล่ะก็จะเรียกว่าน้องครีมเค้กมั่ง น้องเค้กมั่ง น้องครีมมั่ง เหอะ!แต่ถ้าลองได้อยู่ลับหลังพวกพี่ๆล่ะก็ คำว่ายัยเปี๊ยกคือสรพพนามเดียวที่เขาจะใช้
“ไม่ไปล่ะ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเราไม่ถูกกัน คนเกลียดกันจะไปด้วยกันได้ยังไง”
“คิดไปเองรึเปล่าเรื่องเกลียดน่ะ”
“ไม่ใช่เรื่องที่คิดเอาเอง แต่เป็นสิ่งที่ธรรมชาติยอมรับแล้วว่ามันคือความจริง”
“งั้นเหรอครับ ^^+”
“ค่ะ ฉันว่านายก็คงจะรู้สึกนะ ใช่มั้ย”
ทั้งฉันและเพทายต่างส่งกระแสจิตอาฆาตให้อีกฝ่ายผ่านสายตา คิดจะมาทำดีต่อหน้าพี่สาวเพื่อเรียกคะแนนพิศวาสรึยังไงไม่ทราบ แผนกระจอกแบบนี้ยังกล้าใช้ อ่อนหัด!
“แต่จริงๆก็อยากให้ไปด้วยนะ T^T”
“พี่คีตากำลังจะกล่อมใช่มั้ย ไม่ต้องพยายามก็ได้ เพราะเค้กยังไม่เห็นมีอะไรน่าสนุกเลยอ่ะ”
“งั้นเราไปกันเองก็ได้นะคีตา ยังไง...น้องเค้กก็กลับหอดีๆนะครับ ^^”
เดี๋ยวนะ...ที่ว่าไปกันเองนี่หมายถึงไปกันสองคนงั้นเหรอ?-_-;
“เอางั้นก็ได้ แล้วเจอกันที่หอนะจ้ะ แต่ว่าจะไม่ไปจริงๆน่ะเหรอ”
“รีบไปเถอะคีตา เดี๋ยวถ้าที่นั่งเต็มจะไม่ได้นั่งด้วยกันนะ ไหนๆน้องเค้กเขาก็คงไม่ไปอยู่แล้ว ชวนยังไงก็คงไม่ไปหรอก...เนอะ ^^”
ท้ายเสียงเพทายหันมาถามฉันพร้อมด้วยรอยยิ้มกวนประสาท บ้าที่สุด! ถ้าฉันปล่อยให้สองคนนี้ไปด้วยกันหมอนี่ก็มีเวลาทำคะแนนน่ะสิ!!
“เดี๋ยว!!!”
ฉันรีบวิ่งตามไปจนทันในที่สุด พี่คีตาที่ถูกฉันจับแขนไว้แค่ทำหน้าสงสัยแต่เพทายนี่สิ....สีหน้าแสดงออกถึงอาการดีใจในชัยชนะโจ่งแจ้งไปรึเปล่า!
“อ้าว! ว่าไงครับน้องครีมเค้ก ^^”
“ไปด้วย -_-;”
ถึงแม้จะรู้ว่ามันต้องเสียฟอร์มแต่เรื่องอะไรจะยอมปล่อยให้สองคนนี้ไปด้วยกัน แต่จะว่าไปก็น่าเจ็บใจที่สุด!
“รู้แล้วๆ น้องครีมกลัวล่ะสิ เดินกลับคนเดียวมืดๆอย่างนี้ จะว่าไปก็น่ากลัวเนอะ”
“อย่ามาเพ้อเจ้อไร้สาระ! ก็แค่เบื่อ อยากหาอะไรดูให้รู้สึกหายเซ็ง”
ฉันหันไปตอบด้วยอารมณ์หงุดหงิดในขณะที่เพทายยังอมยิ้มไม่หยุด ยิ่งเห็นรอยยิ้มนั่นมันยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิด ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่นายไปด้วยคือพี่คีตาล่ะก็ ให้ตายยังไงฉันก็ไม่มีทางกลับคำพูดของตัวเองอย่างนี้หรอก!
“งั้นเรารีบไปเถอะนะ ^^”
“รีบไปกันครับ เดี๋ยวการแสดงจะเริ่มแล้วนะ น้องเค้กอุตส่าห์อยากดูขนาดนั้น ถ้าพลาดขึ้นมาเสียดายแย่ ลงทุนวิ่งตามมาเลยนี่นา เนอะ ^^”
ฉันมองเพทายที่โจมตีฉันด้วยประโยคนั้นและรอยยิ้มให้พี่คีตาแล้วได้แต่กัดฟัดตอบรับ
“อาจจะใช่...มั้ง!”
น่าแค้นใจที่สุด!คนอย่างหมอนี่...อย่างไอ้บ้านี่น่ะนะ...ให้ตายชาตินี้ก็ไม่มีวันชอบได้ลงหรอก!!!
เพทาย Vs ครีมเค้ก 1: 2
...เราเดินมาจนถึงสถานที่จัดการแสดงซึ่งขอบคุณพระเจ้าที่มาถึงได้สักที ระยะทางแค่ห้าสิบเมตรแต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันเหมือนเป็นหมื่นๆไมล์เลยทีเดียว เพราะระหว่างทางเพทายเอาแต่ชวนพี่คีตาคุยเหมือนกับว่าจะแสดงให้ฉันเห็นถึงทักษะอันน่าขบขันของพวกบ้าผู้หญิง =x= จะว่าไปเขาก็เก่งนะ เพราะตลอดการเดินทางมาที่นี่พี่คีตาไม่สนใจฉันเลย!งานกำลังจะเริ่มเมื่อสังเกตเห็นฝ่ายทีมงานขึ้นมาเซตอุปกรณ์เป็นครั้งสุดท้าย ถึงจะบอกว่ามันเป็นงานเล็กๆของพวกนักเรียนก็เถอะ แต่เมื่อได้เห็นสภาพงานแล้วแม้แต่คอนเสิร์ตของนักร้องเกาหลีคงยังต้องอายกับความยิ่งใหญ่แบบอลังการงานสร้างนี่แน่ๆ อยากรู้จริงๆว่าในปีๆหนึ่งจะหมดงบประมาณไปกับงานพวกนี้สักเท่าไหร่และไอ้งบประมาณที่ว่านั่นมันมาจากไหนกันนะ -_-;
“ครีม!ครีมเค้ก...ทางนี้! >w<”
เพิร์ทที่นั่งขนาบข้างด้วยโชเซและพี่ภัทรส่งเสียงเรียกมาจากที่นั่งด้านหน้าสุด ซึ่งเมื่อพวกเราเดินไปถึงก็ทำให้ฉันได้พบกับรอยยิ้มของโชเซ...รอยยิ้มที่ทำให้ยัยนั่นโดนฉันดีดหน้าผากไปหนึ่งทีด้วยความสุดแสนจะหมั่นไส้
เสียงเพลงที่เปิดเร้าอารมณ์ให้ผู้มีดนตรีในหัวใจได้ออกลวดลายเป็นไส้เดือนโดนไฟจี้เลื้อยไปมา การแสดงนี้มีวงดนตรีสิบสามวงพอดีที่ทำการขึ้นแสดงเพราะในแต่ละชั้นปีก็มีวงประจำอยู่สองวง พ่วงวงดนตรีโรงเรียนอีกหนึ่งวง นี่ฉันคิดถูกรึเปล่าที่พาตัวเองมาในสถานที่แบบนี้ =x=;
“ว่าไงสาวน้อย รอชมพี่ชายอยู่เหรอจ้ะ ^^”
เสียงนุ่มๆดังขึ้นข้างๆ พี่ภัทรที่ถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มทำให้ฉันต้องส่งยิ้มเครียดๆกลับไปให้ ฉันบอกรึเปล่าว่าวงโรงเรียนที่ว่าเป็นวงของโกโชและคณะน่ะ
“ค่ะ อยากดูมาก -_-;”
ฉันลากเสียงยาวอย่างประชดประชันทำให้พี่ภัทรหัวเราะออกมา จะว่าไปฉันควรสงสัยสินะว่าพี่ภัทรทำยังไงถึงได้เข้ามาเดินเฉิดฉายอวดประกายความหล่อในโรงเรียนได้ทุกวันเพราะแม้แต่เวลาปกติการที่คนนอกจะเข้ามาในโรงเรียนได้มันยากยิ่งกว่ายากเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีสิทธิเข้ามาในโรงเรียน ยิ่งยามวิกาลแถมยังเป็นผู้ชายอย่างนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ พวกพี่ชายนี่ยังไง ทำไมถึงได้ทำแต่สิ่งที่คนอื่นอยากทำแต่ทำไม่ได้นะ
“เดี๋ยวมา”
โชเซว่าแล้วก็หายไป สักพักก็ขึ้นไปโผล่อยู่กลางเวทีพร้อมเล่นอิเลคโทนโชว์ด้วยท่าทางเคร่งขรึม แน่นอนว่านอกจากมันจะเรียกเสียงกรีดร้องได้อย่างมากมายมหาศาลแล้ว มันยังทำให้แฟนคลับยัยนี่เพิ่มขึ้นอีกด้วย เสียงเพลงที่โชเซเล่นเพราะมากจนทำให้ฉันเกือบเผลอหลับ งั้นระหว่างที่ฟังเพลงเพราะๆและก่อนที่ฉันจะหลับมาฟังเรื่องของพวกพี่ชายฉันดีกว่า...
...พวกเขาเป็นนักเรียนปีหกชั้นปีสุดท้ายของที่นี่ โรงเรียนนี้นอกจากกลุ่มก้อนที่เรียกตัวเองว่าชมรมแล้ว ยังมีคนหน้าตาดีแบบสวรรค์จงใจสร้างมากไปหน่อยอีกกลุ่มหนึ่งที่ทุกคนในโรงเรียนตั้งตำแหน่งให้อย่างโก้หรู หนุ่มฮอตอันดับหนึ่งที่หน้าตาดีมากที่สุด( โกโช )และหนุ่มฮอตอันดับสอง(พี่เดวิล)เป็นที่หมายปองของเหล่าเด็กสาวถูกยกให้เป็นเจ้าชายของโรงเรียน(แน่นอนว่าอันดับหนึ่งกุมอำนาจทุกอย่างเอาไว้โดยอันดับสองมีหน้าที่ช่วยเหลือ) หนุ่มฮอตอันดับสาม(พี่นัท) ผู้มีทุกอย่างเป็นความลับเรียกว่าคิงหนุ่มฮอตอันดับสี่(พี่โอตะ)ผู้เป็นดังมันสมองของกลุ่มถูกยกให้เป็นโจ๊กเกอร์จอมเจ้าเล่ห์ และหนุ่มฮอตอันดับห้า(พี่กีต้าร์) ผู้มีบุคลิกเถื่อนแต่เร้าใจถูกยกให้เป็นไนท์ อัศวินผู้ปกป้องโรงเรียน
พวกนี้ป็อปมากๆ เป็นหนึ่งในด้านความดีและความไม่ดีทั้งหลายที่ผู้ชายมักจะมีเช่น หนุ่มฮอตจอมเจ้าชู้(พี่เดวิล) หนุ่มหล่อขี้โมโหจอมเกเร (พี่กีต้าร์) หนุ่มเพอร์เฟกที่มีอิทธิพลอย่างไม่รู้ที่มาที่ไป (โกโช) หนุ่มน้อยขี้เล่นจอมซน (พี่นัท) และหนุ่มแว่นจอมวางแผน (พี่โอตะ)
พวกนี้ก็ไม่รู้ว่าไปเปลี่ยนจากนักเรียนเป็นมาเฟียตอนไหนเพราะพวกเขาคือผู้คุมกฏสังคมที่ตราขึ้นมาอย่างเอาแต่ใจไม่มีใครกล้าหือหรืออวดดี พวกเขามีเวลาว่างมากกว่าคนทั้งโรงเรียนรวมกันและยังเป็นกลุ่มที่ทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้ อย่างเช่น การที่พวกพี่ๆเข้ามายุ่มย่ามในหอพักสตรีถึงในห้องนอนได้โดยไม่ถูกลงทัณฑ์บนนั่นไง
“น้องเค้กต้องทำใจนะ มีพี่ชายเป็นคนดังก็แบบนี้”
“เหรอคะ เค้กก็รู้นะว่าพี่ชายเค้กดัง แต่ไม่รู้รายละเอียดเท่าไหร่ ว่าไปทำอีท่าไหนถึงได้ดัง”
มาถึงตอนนี้พี่ภัทรทำท่าเหมือนจะตกเก้าอี้ ฉันว่าเขาต้องรู้อะไรแต่ไม่บอกฉันแน่ๆ แต่ก่อนที่ฉันกำลังจะถามเสียงกรี๊ดจำนวนมหาศาลก็ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของผู้ชายห้าคนท่ามกลางแสงสีเสียงตระการตา ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าสุดก็หันมาเห็นฉัน
“Say hi!! ^^”
“กรี้ดดดดดดด!!!!!!! >////<”
พี่โอตะที่ถือเบสอยู่ในมือส่งเสียงทักทาย เพียงแค่นั้นก็พอแล้วที่จะปลุกกระแสเสียงร้องจากบรรดาผู้ชมได้อย่างมากมาย โกโชที่ยืนถือไมค์ขยิบตาให้ฉันที่ส่งยิ้มเครียดๆกลับไปแต่ก่อนที่ฉันจะได้ทำหน้าเบื่ออย่างที่ตั้งใจ สายตาของฉันก็สะดุดเข้ากับใบหน้าของใครบางคน...
...โครงหน้าสวยรับกับเส้นผมสีส้มเหมือนแครอท ทว่าสว่างเจิดจ้า คิ้วเข้มพาดอยู่เหนือตาคู่คมอย่างเหมาะเจาะ ตาสีเทาอมฟ้าที่ดูเหมือนหมอกยามเช้ากำลังจ้องมองมาที่ฉันอยู่เหมือนกัน จมูกโด่งอย่างพวกลูกครึ่งเชิดนิดๆเหมือนจะบอกว่าเขาเองก็คงจะรั้นอยู่ไม่ใช่น้อย ริมฝีปากบางแย้มยิ้มบางเบา ยิ้มประหลาด ยิ้มสวยๆแบบนั้นทำไมถึงได้ติดตาฉันนักนะ เขาเป็นผู้ชายตัวสูงที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน แต่แน่นอนว่ามันคงเดาได้ไม่ยาก เพื่อนเพียงคนเดียวในกลุ่มของพี่ชายที่ฉันยังไม่เคยเห็นหน้า...พี่เดวิล
“น้องเค้กเห็นคนหัวส้มๆนั่นมั้ย”
“ทำไมเหรอคะ”
ฉันถามพี่ภัทรที่ชี้ไปยังผู้ชายที่แม้กระทั่งตอนนี้ฉันก็ยังคงมองเขาอยู่ เอ...จะถามว่าติดใจอะไร...คงจะเป็นผมสีสวยกับตาคู่คมนั่นละมั้ง
“นั่นน่ะ ไอ้เดวิล น้องเค้กยังไม่เคยเจอสินะ”
พี่ภัทรว่าแล้วอมยิ้มนิดๆอย่างน่ารัก ตอนนี้พวกเขาทั้งห้าคนต่างก็เข้าที่เตรียมความพร้อมของการเป็นนักดนตรีของตัวเอง ยกเว้นโกโชที่ยังคงยืนถือไมค์อยู่อย่างนั้น
“พี่เดวิลที่ว่า...เป็นคาสโนวาของโรงเรียนน่ะเหรอคะ”
“ก็ใช่นะ แต่อย่าเข้าใจมันผิดล่ะ ไอ้นี่มันหล่อเป็นทุนเดิม นิสัยก็ดี กีฬาก็เยี่ยม เรียกได้ว่า Perfect man ไม่แพ้ไอ้โกโชเลยทีเดียวล่ะ แต่เพราะพี่ชายน้องเค้กแคร์น้องสาวตัวเองจนไม่แลผู้หญิงอื่นทำให้การเข้าถึงตัวมันน่ะยาก เพราะอย่างนั้นผู้หญิงถึงได้รุมเข้ามาหาไอ้เดวิลมากกว่า”
“ก็เห็นตอบรับทุกคนนี่นะ”
“ว่าไงนะ”
“อ๋อเปล่าค่ะ แค่สงสัยว่าทำไมถึงได้ไม่เคยเจอ”
พี่ภัทรยิ้มรับแล้วลูบผมฉันอย่างเอ็นดู ดูเหมือนพี่ท่านจะชอบยิ้มจังเลย
“เพราะไอ้เดวิลมันมีผู้หญิงมาชอบเยอะ ไอ้โกโชก็เลยกลัวว่ามันจะมาชอบน้องครีมหรือไม่ก็น้องครีมไปชอบแล้วจะเสียใจน่ะสิ ก็เลยกันท่าให้อยู่ห่างๆ”
“-_-;”
“เป็นพี่ พี่ก็หวงนะคะ เพราะน้องครีมน่ะ น่ารักเกินไป”>w<
ฉันกลับมาสนใจที่เวทีการแสดงก่อนจะต้องเขินไปกับคำพูดของผู้ชายสุดน่ารักคนนี้ คำว่าฉันน่ารักอย่างนั้น น่ารักอย่างนี้ได้ยินบ่อยจนแทบไม่เชื่อแล้วว่ามันคือความจริง ตามปกติก็ไม่เชื่ออยู่แล้วล่ะนะ
“หลังจากเสียงตอบรับอันมหาศาล ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่มั้ยคะว่า ใคร! คือวงดนตรีในดวงใจของคุณ!!เชิญพบกับพวกเขาได้เลยค่ะกับ...The…Rambits!!!”
หลังพิธีกรสาวสวยหุ่นเพรียวประกาศชื่อแบรนน์ของพวกเขา เสียงกรี๊ดถล่มทะลายก็ตามมาอีกหลายระลอกกว่าจะจบลงด้วยการที่โกโชส่งเสียงเทสไมค์ให้พร้อมใช้งาน
“วันนี้มีอะไรพิเศษจะมาโชว์พวกเราคะ Rambits!”
คำถามถูกส่งให้พี่กีต้าร์ที่กำลังเช็คเสียงกีต้าร์ในมือซึ่งเจ้าตัวดูจะไม่ค่อยสนใจกับคำถามเท่าไหร่เลยตอบส่งๆออกมา
“เรื่องนี้ต้องไปถามนักร้องนำ ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าไอ้บ้าเอาแต่ใจนี่จะเลือกร้องเพลงอะไร”
เสียงตอบรับจากบรรดาแฟนคลับจำนวนมากดังประหึ่มขึ้นอีกครั้ง เพราะเสน่ห์แบบคนดุ เถื่อน ให้อารมณ์ประมาณพวกอันธพาลครองเมืองของพี่กีต้าร์ ทำให้มีสาวๆจำนวนไม่น้อยหลวมตัวสมัครเป็นแฟนคลับของเขา พี่กีต้าร์ก็เหมาะกับอิมเมจนี้จริงๆแหละนะ เพราะตามตัวพี่เขามีรอยแผลเต็มไปหมดเลย
และแล้วพิธีกรก็เปลี่ยนเป้าหมายมาที่พี่ชายของฉันแทน โกโชยืนยิ้มแฉ่งตอบออกมาด้วยเสียงสดใส
“เพลงที่เรานำมาร้องทั้งหมดในวันนี้ จะเป็นเพลงผู้หญิงครับ”
“หา?”
“และในตอนท้ายเรามีโชว์พิเศษให้ดูด้วย”
เสียงฮือฮาเริ่มถูกแทนที่ด้วยเสียงกรี๊ด(อีกครั้ง)เมื่อโกโชเผยรอยยิ้มมีเสน่ห์ ถ้าถามฉันว่าอิมเมจของพี่ชายเป็นยังไงก็บอกได้คำเดียวเลยว่าเขาคือหนุ่มหล่อที่สามารถตอบสนองได้ในทุกลักษณะของชายในฝันที่บรรดาสาวๆโหยหา เพียงแค่อิมเมจหลักคือผู้ชายที่สดใส ร่างเริง และดูบ้าบอ มันก็แล้วแต่สถานการณ์ล่ะนะ เพราะเท่าที่ได้ยินมาเมื่อถึงเวลาเรียน โกโชก็จะดูเนิร์ดมาก ถ้าเวลาเล่นกีฬาก็จะดูฮอตในอีกรูปแบบหนึ่งเลยไม่รู้จะอธิบายยังไงดี
“ตอนนี้ทุกอย่างก็พร้อมแล้วสำหรับพวกเขา ขอเสียงดังๆอีกครั้งให้กับ The Rambits!!!”
เสียงกรี๊ดมาตามคำขอพร้อมกันนั้นเสียงกลองที่พี่นัทเป็นคนเล่นก็เริ่มบรรเลงขึ้น ท่วงทำนองที่คุ้นเคย โลดแล่นนำเสียงคีย์บอร์ดที่ฉันมองไม่เห็นว่าใครเป็นคนคอนโทรล แต่ให้ตายสิ มันเพราะจับใจเลย!
‘Grew up in a small town
And when the rain would fall down
I just stared out my window
Dreaming of what could be
And if I'd end up happy
I would pray (I would pray) ...
เสียงของพี่ชายสอดคล้องกับท่วงทำนองอย่างลงตัว เครื่องดนตรีทำหน้าที่เสริมให้เสียงร้องเด่นชัด ที่เป็นหลักฐานที่ดีที่สุดคือการตอบรับจากผู้ฟังโดยรอบ
Trying not to reach out
But when I'd try to speak out
Felt like no one could hear me
Wanted to belong here
But something felt so wrong here
So I pray (I would pray)
I could breakaway
เสียงดนตรีค่อยๆผ่อนลงนิดหน่อยก่อนจะโหมหนักเหมือนจะช่วยส่งให้เสียงของโกโชเน้นหนักขึ้น เสียงนุ่มทุ้มในเวลานี้ทรงพลังที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมา แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ฉันที่เคลิ้มไปกับเสียงนี้
I'll spread my wings and I'll learn how to fly
I'll do what it takes til' I touch the sky
I'll make a wish
Take a chance
Make a change
And breakaway
Out of the darkness and into the sun
But I won't forget all the ones that I loved
I'll take a risk
Take a chance
Make a change
And breakaway
ฉันนั่งฟังเพลงจนกระทั่งมันจบลง จากนั้นเพลงอื่นๆก็ทยอยตามออกมา แน่นอนว่าพวกเขาร้องแต่เพลงของผู้หญิงอย่างที่พูด เสียงหัวเราะปนเสียงโห่แซวแว่วมาให้ยินตอนที่โกโชร้องเพลงของศิลปินชื่อ Lady gaga แม้แต่ฉันเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะตามไปด้วย เวลาเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่ทันไรก็ห้าทุ่มซะแล้ว...
“ตอนนี้ ผมว่าถึงเวลาสมควรแล้วที่ให้โชว์พิเศษแก่ทุกคน”
“กรี๊ดดดด!!!!!”
“อีกรอบ!!!!! อีกรอบ!!!!! อีกรอบ!!!!!กรี๊ดดดดด!!!!”
“ผมหวังว่าทุกคนจะชอบเธอคนนี้ อันที่จริง ผมว่าทุกคนต้องรักเธอแน่เลย”
ฉันที่ตอนแรกก็ลุ้นอยู่หรอกว่าการแสดงที่โกโชว่ามันคืออะไร มาตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าสมควรจะลุ้นรึเปล่า ทำไมต้องพูดว่า ‘เธอคนนี้’ แล้วหันมายักคิ้วขยิบตาเหมือนส่งสัญญาณให้กับฉันด้วยล่ะ
‘พร้อมนะ’
แม้จะไม่มีเสียงแต่ฉันก็อ่านประโยคนี้ได้จากปากของพี่ชาย ฉันบอกแล้วไงล่ะว่ามันจะยุ่งน่ะ ทำไมไม่เคยเชื่อตัวเองเลยนะ!!
“ไม่เอา หันกลับไปร้องเองเลยนะ”
‘เอาน่าๆ ขึ้นมาร้องหน่อย เอาละนะ...’
ขณะที่ฉันกำลังจะร้องห้าม โกโชก็หันกลับไปสนใจคนดูและส่งยิ้มกว้าง
“เชิญพบกับน้องสาวสุดที่รักของผม...น้องครีมเค้กครับ!!!”
เมื่อประโยคนั้นหลุดออกมาพร้อมแสงไฟที่เจิดจ้าส่งมาที่ตัวฉัน ทั้งนักดนตรี พี่ภัทรที่นั่งข้างๆ ผู้ชมโดยรอบหรือแม้แต่ตัวฉันเองก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่งเพราะคาดไม่ถึงกันทั้งนั้น!
“เอ้าน้องครีม ไม่รีบขึ้นไปไม่ดีนะ”
พี่ภัทรที่ดูเหมือนจะได้สติก่อนเพื่อนสะกิดฉันเบาๆ แน่นอนว่าเมื่อได้สติแล้วความรู้สึกเดียวที่ฉันมีอยู่ในตอนนี้คือ...
“ฉันจะล่มงานนี้ให้ราบคาบเลยคอยดู”
ฉันไม่รอให้พี่ภัทรห้ามหรือว่าพูดทักท้วงอะไร เพราะผู้คนที่ดูเหมือนจะเริ่มมีสติต่างส่งเสียงเรียกให้ฉันขึ้นไปบนเวที ทันทีที่ฉันขึ้นไปยืนอยู่บนนั้น โกโชก็รีบวิ่งมารับและคว้าตัวฉันไปยืนอยู่ข้างๆ เสียงกรี๊ดมาพร้อมกับเสียงแซวจากบรรดาผู้ชมข้างล่าง ฉันก็อายหรอกนะแต่ว่า มันก็ยังไม่เท่ากับที่ฉันรู้สึกหงุดหงิดตอนนี้หรอก
“น้องเค้กจะร้องเพลงอะไรครับ”
โกโชส่งไมค์มาพร้อมกับถามคำถาม ฉันส่งยิ้มเยาะให้หนึ่งทีแล้วเงียบ ไม่ตอบอะไร
“เอ่อ...ว่าไงครับ จะร้องเพลงอะไรเอ่ย”
“.....”
“น้องสาวของผมคงจะตื่นเวที เอาล่ะนะ ใจเย็นๆค่อยๆหายใจลึกๆ จะร้องเพลงอะไรคะ”
“....”
โกโชพยายามอยู่อย่างนั้นเกือบๆครึ่งชั่วโมงแต่ก็ไม่มีเสียงอะไรหลุดออกมาจากปากของฉัน ก็น่านับถือทั้งผู้ชมและพี่ชายเลยนะ เป็นฉันไล่ให้ลงเวทีไปตั้งแต่ห้านาทีแรกแล้ว
“น้องครีม โกขอโทษก็ได้นะ แต่ก่อนที่งานจะล่มไม่เป็นท่าช่วยร้องออกมาสักเพลงเหอะ แล้วโกให้สัญญาว่าไม่ว่าน้องครีมจะขออะไรโกจะให้ทุกอย่างข้อหนึ่ง”
เสียงกระซิบข้อเสนอที่ถูกยื่นออกมาทำให้ฉันสนใจมากพอจะยิ้มออกมา และดูเหมือนโกโชก็จะรู้เพราะในทันทีที่ฉันยิ้ม พี่ชายก็หันไปส่งสัญญาณให้บรรดานักดนตรี แวบหนึ่งฉันที่เหลือบไปเห็นเส้นผมสีส้มอยู่หลังคีย์บอร์ด...
“เอาล่ะครับเพื่อไม่ให้มันเสียเวลาไปมากกว่านี้ พบกับครีมเค้กได้เลย!!”
โกโชยัดไมค์เข้ามาใส่มือของฉันก่อนจะวิ่งไปหยิบกีต้าร์ขึ้นมาอีกตัว ทั้งพี่กีต้าร์ พี่นัท พี่โอตะ ต่างรอลุ้นอยู่ว่าฉันจะยอมร้องรึเปล่า...
“today I don't wanna be like Cinderella”
ทันทีที่ฉันพูดประโยคนั้นเสียงรัวจากกลองของพี่นัทก็เริ่มบรรเลงขึ้นมาก่อน ตามด้วยพี่โอตะและเสียงคีย์บอร์ด บทเพลงที่เร้าใจ ความหมายดี ทำให้รู้สึกสนุกสนาน ฉันจับไมค์ให้ถนัดมือ เพราะข้อเสนอนั่นหรอกนะฉันถึงได้ยอม
ความคิดเห็น