คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ตอนที่ 15
ฉันรักษาสัญญามาจนครบปี ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ปีสามแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้อยู่ดีว่าทำไมต้องทนเจ็บเพราะตาลหวานไปชอบคนอื่น...ต้องทนทรมานกับคำสัญญา ต้องทนทุกข์ร้อนเพราะไม่รู้ว่าตัวเองทำไมถึงชอบผู้หญิงด้วยกัน...
พี่กวางกับตาลคบกันมาจนครบหนึ่งปี...และถึงแม้ว่าฉันจะเจ็บปวดแค่ไหน ที่ทำได้ก็แค่อาการเฉยชาใส่พี่กวางและคอยดูแลตาลหวานอยู่ใกล้ๆแค่นั้น...
“อากาศเย็นลงอีกแล้ว...เอาผ้าพันคอนี่ไปพัน ไม่ต้องมามองอย่างนั้น ครีมห่วงก็คือห่วง แค่รับไปแล้วขอบคุณเรื่องก็จบ”
ฉันว่าแล้วพันผ้าพันคอไปรอบๆคอของตาลหวาน เธอทำหน้าบู้อย่างงอนๆที่ไม่สามารถขัดฉันได้เหมือนเช่นเคย แต่แล้วก็อมยิ้มแล้วเดินมาควงแขนฉัน
“แปลกนะ ครีมน่ารักขนาดนี้ ทำไมไม่มีแฟน”
ตาลหวานถามแล้วทำหน้าตาจับผิด ซึ่งสิ่งที่ฉันมีให้คือความปกติ หัวใจฉันมันชินชากับความเจ็บปวดจนซ่อนได้ทุกความรู้สึกซะแล้วล่ะ
“เพราะครีมไม่สนใจใครไง”
นอกจากคนที่ชื่อตาลหวาน คนที่คอยกอดแขนอ้อนอยู่ใกล้ๆแบบนี้
“ที่จริงจะว่าแปลกก็ไม่ได้ ใครๆก็รู้ว่าครีมเป็นเจ้าหญิงต้องห้ามของโรงเรียนนี่เนอะ”
พูดแล้วก็หัวเราะเอง ฉันไม่ได้อยากเป็นเจ้าหญิงอะไรอย่างว่าสักหน่อย เพียงแค่บังเอิญเป็นน้องสาวของเจ้าชายของโรงเรียน น้องสาวที่เจ้าชายค่อนข้างหวงไปสักนิด
“แต่ถ้าตาลเป็นพี่โกโชก็คงจะหวงมากกว่านี้ซะอีก รู้ตัวรึเปล่าว่าตัวเองมีเสน่ห์แค่ไหน”
“งั้นเหรอ”
ฉันถามเบาๆ ไม่ได้สนใจอะไรไปมากกว่าอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นจนน่ากลัว...น่ากลัวว่าเธอจะได้ยินเข้าสักวัน
“นี่ถ้าครีมเป็นผู้ชายนะ ตาลรักตายเลย”
แล้วทำไมเธอถึงไม่รักฉันเพียงเพราะฉันเป็นผู้หญิงล่ะ
“ตอนนี้ไม่รักเหรอ”
“รักสิ ครีมเป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดเลยนี่นา”
ว่าแล้วตาลหวานก็ยิ้มหวาน ดึงแก้มฉันเล่นพร้อมรอยยิ้มสดใส รอยยิ้มที่ทำให้ฉันเกิดความสุขที่ได้มองแต่ก็ต้องเศร้าหมองเพราะรู้ว่าไม่มีวันได้ครองเอาไว้
“อุ๊ย!พี่กวางโทรมา แปปนะจ้ะครีม”
“ไม่ต้องหรอก ไปหาเถอะ เดี๋ยวครีมจะไปหาโกโชเหมือนกัน”
ฉันอ้างไปอย่างนั้นเพื่อให้ตาลหวานไปหาพี่กวางโดยที่ไม่ต้องมาห่วงฉัน ตาลหวานยิ้มออกมาอย่างยินดีแล้วรีบวิ่งออกไป ฉันลืมเตือนเธอรึเปล่านะว่าอย่าดีใจจนเกินไป เดี๋ยวโรคจะกำเริบ...
“ว่าไง หาคำตอบมาตั้งสามปี รู้รึยังว่าทำไมถึงได้ปกป้องเจ้าของรอยยิ้มนั้นอยู่ได้”
“ขอร้อง อย่ามาย้ำ”
“ครีมเป็นไงบ้าง ใจเย็นนะเว้ย โอเคขึ้นมั้ย”
“ไม่โอเค ไม่เลยล่ะ”
ฉันมองตามไปยังร่างของตาลหวานที่กำลังจะเดินจากไป โชเซกับเพิร์ทกุมมือฉันคนละข้าง มือที่ว่างอยู่ก็โอบไหล่อย่างปลอบใจ...ทำไม จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจ ไม่เข้าว่าทำไมตัวเองถึงได้รู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงด้วยกัน...
อาการของตาลหวานถูกฉันบังคับให้ไปโรงพยายบาลของคุณลุงหมอทุกเดือนจนดูเหมือนจะดีขึ้นมาก ตอนนี้ก็รอแค่ให้มีคนบริจาคหัวใจเข้ามา เมื่อนั้นจะได้ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจจะได้หายขาดและเลิกทรมานแบบนี้ซะที...
“เฮ้!พักนี้ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ”
“นั่นเพราะฉันเองก็ไม่อยากจะเจอนายไงล่ะ”
ฉันว่าแล้วเตรียมเดินหนี แต่อีกฝ่ายเป็นใคร นิสยัยังไงก้น่าจะรู้กันอยู่ เขาไม่มีทางปล่อยให้ฉันอยู่อย่างสงบสุขหรอก
“จะตามรังควาญฉันไปถึงไหน”
ฉันถามอย่างอ่อนใจ ในขณะที่อีกฝ่ายยังอยู่ในอารมณ์เล่นสนุกที่ฉันไม่คล้อยตามเลยสักนิด
“ไม่รู้สิจนกว่าจะเลิกชอบเธอล่ะมั้ง”
“หา?”
“เปล่าๆ อย่าสนใจเลย”
บอกไม่ให้สนใจแต่ทำตัวพิรุธอย่างนี้ไม่ว่าแมวที่ไหนมันก็ต้องสนใจล่ะ
“อีกอย่างฉันไม่ยุ่งกับใครง่ายๆด้วย”
“-_-;”
“ถ้าไม่ใช่เธอ ฉันก็ไม่สนหรอก”
“นี่นายเกลียดฉันขนาดนั้นเชียวเหรอ”
“ยัยโง่เอ๊ย!!”
เพทายว่าเสียงเครียด เอามือกุมศรีษะอย่างกับว่าอยากให้มันระเบิดซะให้รู้แล้วรู้รอด แล้วฉันพูดผิดตรงไหน คนที่เค้าตามแกล้งกันขนาดนี้ถ้าไม่เรียกว่าเกลียดจะเรียกว่าอะไร ฉันไม่เข้าใจกับหมอนี่จริงๆ
“ด่าฉันทำไม”
“เพราะเธอมันงี่เง่าเอาโล่เลยน่ะสิ ถามจริงเถอะนะ ไม่รู้จริงๆหรือว่าไม่สนใจกันแน่”
“ฉันคิดว่าทั้งสองอย่าง เพราะถ้าเกี่ยวกับนายฉันไม่รู้หรอกว่านายพูดเรื่องอะไร เหตุเพราะฉันไม่คิดจะสนใจมันอยู่แล้วด้วย”
ฉันตอบหน้าตาย นั่นทำให้เพทายทำท่าเหมือนอยากจะบีบคอฉันให้ตายคามือไปซะเลย
“รู้มั้ยว่าวันนี้วันอะไร”
เพทายพูดก่อนจะอมยิ้มอย่างมีเลศนัย วันอะไรงั้นเหรอ ฉันจะรู้ได้ยังไงเล่า
“ไม่รู้สิ”
“ไม่รู้จริงๆน่ะเหรอ”
“ถ้าจะถามเป็นวันทั่วไปก็คงต้องตอบว่าวัน...”
“ไม่ใช่!นี่เธอจำไม่ได้จริงๆน่ะเหรอ”
เพทายกุมขมับอย่างเครียดจัด แล้วฉันจะเข้าใจไหมเนี่ยว่าวันที่นายว่ามันคือวันอะไร
“ขอร้องนะ ตอนนี้ไม่อยู่ในอารมณ์เล่น ไปไหนก็ไปเถอะ”
“เธอมันเพี้ยนจริงๆสิให้ตาย เอ้า!ในเมื่อไม่รู้ว่าวันนี้วันอะไร เอานี่ไปนั่งคิดดูแล้วกัน”
กล่องขนาดย่อมที่เพทายซ่อนไว้ข้างหลังถูกยัดใส่มือฉันก่อนที่คนให้จะรีบชิ่งหนีไป อะไรของเขา แล้วไอ้กล่องหนักๆนี่มันจะช่วยอะไรฉันได้ล่ะ
“ครีมเค้ก...ทายสิ วันนี้วันอะไร”
เพิร์ทเปิดประเด็นทันทีที่วิ่งมาเกาะแขนฉันแล้ว มาอีกละคำถามชวนมึน ก็มันวันอะไรล่ะ
“อย่ามากวนประสาทนะ วันอะไรก็บอกมา”
“ใครไปกวนเค้ก”
โชเซทำหน้าตาสงสัยแต่แล้วก็ส่งยิ้มหวานออกมา หน้าตาไม่น่าไว้ใจเลยแฮะ วันนี้ยัยนี่จะคิดว่าฉันเพิร์ทแล้วตามแกล้งอีกรึเปล่านะ
“ถามจริงนะ ไม่รู้จริงๆเหรอเนี่ย”
“จะวันอะไรล่ะฉันไม่รู้หรอกว่าพวกโชเซพูดถึงเรื่องอะ...”
“สุขสันต์วันเกิดนะ”
อยู่ๆโชเซกับเพิร์ทก็โพล่งขึ้นมาพร้อมกัน เดี๋ยวนะ
“โชเซว่าอะไรนะ”
“ก็วันนี้ วันเกิดของครีมเค้กไง จำไม่ได้เหรอ”
ฉันส่ายหน้าดิกเพราะไม่รู้จริงๆแต่นั่นกลับทำให้โชเซหัวเราะออกมาแล้วลูบศรีษะฉันโดยอาศัยความสูงที่มากกว่า ก่อนจะยื่นตุ๊กตากระต่ายสีชมพูแกมขาวผูกโบว์สีชมพูใสพร้อมๆกับบรรดาพี่ๆทุกคนพากันเดินล้อมวงเข้ามาพลางร้องเพลง Happy Birth Dayโดยทีพี่นัทถือเค้กครีมหนานุ่มมาด้วย
“อะไรกันเนี่ย ทำไมทุกคนถึงได้....”
“ครีมนี่ตลกจริงๆนะ วันเกิดตัวเองก็ดันจำไม่ได้ซะอีก”
เพิร์ทว่าแล้วหัวเราะออกมาจนฉันต้องเอื้อมมือไปปิดปากไม่ให้ยัยนี่ได้ทีหัวเราะเยาะฉัน...ก็ไม่ได้สนใจมันนี่นา แต่ว่าทำไมทุกคนถึงได้...
“คงต้องให้มันเปิดงานว่ะ ดูนั่นๆ ร้อนรนจนออกนอกหน้าไปแล้ว”
“หุบปากไปเลยไอ้เพื่อนเวร!”
โกโชว่าแล้วก้าวออกมาข้างหน้า ส่งยิ้มกว้างแล้วนั่งลงจะสายตาอยู่ในระดับเดียวกับฉัน
“โตขึ้นอีกปีแล้วนะคะ น้องสาวคนดี โกโชขอให้หนูน่ารักๆทุกวันแบบเดิมนะ”
“นี่โกเข้าใจว่าครีมโตจริงๆรึเปล่าเนี่ย”
“ก็ต้องเข้าใจสิคะ”
ว่าแล้วก็คว้าฉันเข้าไปกอดไว้ราวกับตุ๊กตา สรุปนี่โกเขาเข้าใจจริงๆรึเปล่าฮะ!
“พี่ขอให้น้องครีมมีความสุขมากๆนะคะ นี่ของขวัญจากพวกพี่สองคนค่ะ”
พี่เนโกะกับพี่โอตะส่งยิ้มาให้พร้อมกับกล่องของขวัญในมือ
“พี่ขอให้เรารักพี่แบบเดิมก็พอแล้วล่ะ อันนี้พี่นัทมอบให้ครับ”
พี่นัทเอื้อมมือมาลูบหัวฉันก่อนจะยื่นของในมือมาให้เมื่อเปิดออกก็พบว่ามันเป็นแหวนวงเล็กๆสลักชื่อครีมเค้กเอาไว้ และนั่นทำให้พี่ชายของฉันหน้าตึงขึ้นมาทันที
“ไอ้นัท แกเล่นจะขอหมั้นน้องสาวฉันเลยเรอะ!! อายุยังไม่ถึงสิบห้าเลยนะเฟ้ย!!!!!”
“ไอ้บ้า ก็ต้องจองก่อนไง เดี๋ยวมีตัวอะไรคาบไปฉันก็ต้องช้ำใจสิฟะ”
“ไอ้เพื่อนเวร!”
ทุกคนหัวเราะก่อนเมื่อโกโชกระโจนเข้าลอคคอและแกล้งถีบพี่นัทซึ่งก็ทำท่าทางโอเวอร์แอคติงเรียกร้องความสนใจ...กล่องของขวัญทั้งหมดถูกยกมาวางไว้ในสวนที่โกโชแอบไปขออนุญาตจัดงานตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ สวนกลางลานน้ำพุถูกปรับเปลี่ยนให้น่ามองด้วยโคมไฟหลากสีและโต๊ะที่ประดับผ้าลูกไม้วางเรียงรายด้วยถาดอาหารและขนมหวานอย่างอลังการงานสร้าง
พวกเรานั่งล้อมวงกันทานอาหารและเครื่องดื่มซึ่งงานนี้ no algorhol มีแต่จำพวกนม น้ำผลไม้ และน้ำหวาน น้ำอัดลมแทน เพทายมาถึงตอนทุ่มครึ่ง ในทันทีที่เห็นหน้ากันเขาก็ส่งสายตาเยาะเย้ยมาให้ฉันเป็นการตอกย้ำถึงคำถามที่ว่า รู้มั้ยวันนี้วันอะไร เหอะ!ฉันก็แค่ลืมวันเกิดตัวเอง ผิดที่ไหนกันล่ะ
“ผมยังมาทันใช่มั้ย”
โชคดีที่วันนี้เขาดูเหมือนจะไม่คิดกวนประสาทฉัน
“ทันสิฟะ แล้วนี่ไปไหนมา”
“ไปหาเพื่อนมา มันบอกว่าจะขอตามมาด้วย”
เพทายว่าแล้วทำหน้าเหมือนขออนุญาตไปในตัว โกโชมองฉันแบบให้ตัดสินใจเอาเอง
“ก็น้องครีมเป็นเจ้าของงาน มีสิทธิ์เลือกรับแขกที่มาได้ทุกคน”
“แต่ตามมารยาทสังคมแล้วครีมคงเอาแต่ใจตัวเองแบบที่โกโชให้ทำไม่ได้สิคะ พามาเถอะ”
ฉันว่าแล้วหัวเราะเมื่อโกโชยิ้มออกมา ทันทีที่เห็นว่าเพื่อนที่เพทายว่าเป็นใคร ฉันก็เริ่มรู้สึกคิดผิดที่ออกปากอนุญาต
“นี่ไงๆ เพื่อนผมเอง ชื่อกวาง เฮ้ย!ไอ้กวาง นี่พี่ๆของฉัน”
เพทายว่าแล้วแนะนำตั้งแต่โกโชที่อุ้มฉันนั่งอยู่บนตักเรื่อยไปจนถึงพี่กีต้าร์ที่กำลังนั่งดีดกีต้าร์เป็นเพลงอย่างเงียบขรึมอยู่ที่ปลายโต๊ะ
“นี่ คีตา เป็นน้องพี่ภัทรนะ เพื่อนสนิทฉันเอง”
“สวัสดีจ้ะ อยู่ชั้นเดียวกันแท้ๆไม่เคยได้เห็นเนอะ”
พี่คีตาว่าแล้วก้ส่งยิ้มทักทายออกไป ฉันคิดมากไปเองหรือเปล่านะว่าบางที พี่คีตาอาจจะชอบเพทาย..หรือไม่ก็เพทายคือคนที่คิดเกินกว่าเพื่อนกับพี่คีตา...
“นั่นคือยัยเปี๊ยก...ขอโทษคร้าบ~พี่โกโช นั่นน้องครีมเค้ก น้องสาวของพี่โกโช เจ้าของงานวันนี้น่ะ”
พี่กวางมองหน้าฉันอย่างอึ้งๆ ที่ผ่านๆมาฉันไม่เคยบอกให้เขารู้ว่าฉันเป็นน้องของโกโชก็จริง แต่ถ้าเขาจะสังเกตสักหน่อยก็คงจะรู้ได้เองล่ะว่า ถ้าฉันเป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดา เจ้าชายของโรงเรียนคงไม่เข้ามาวุ่นวาย รวมไปถึงคิง ไนท์ และโจ๊กเกอร์ด้วย...
“สวัสดีครับน้องครีมเค้ก ได้ยินชื่อมานาน เพิ่งจะได้รู้จักก็วันนี้ เจ้าหญิงต้องห้ามของโรงเรียน”
พี่กวางแค่นหัวเราะเบาๆแล้วมองหน้าฉันด้วยรอยยิ้มจอมปลอม ฉันไม่ใช่ของอาถรรพ์อะไรนะ สาบานได้ แต่ที่ฉันเป็นเจ้าหญิงต้องห้ามอะไรนั่นเพราะแค่บังเอิญเกิดมาเป็นน้องสาวของเจ้าอันดับหนึ่งของโรงเรียน และบังเอิญพี่ชายที่ว่าทั้งรักทั้งหวงจนถึงขั้นออกกฎห้ามใครมายุ่งยุ่มย่าม บังเอิญว่าทุกคนทำตาม ฉันถึงได้กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่กล้าแตะต้อง
แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือ ทำไมต้องทำหน้าเจ็บปวดแล้วมองฉันแบบนั้น ฉันไม่ใช่คนผิด ไม่ได้ไปทำอะไรให้สักหน่อย แล้วอีกอย่าง สายตาแบบนั้น เขาควรจะเก็บไว้ให้ตาลหวานเพียงคนเดียว...
งานดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ฉันรู้ว่าที่งานนี้มีขึ้นเพื่อให้ฉันได้รู้สึกแบบนี้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าฉันจะแกล้งแสดงออกว่ามันไม่มีอะไรที่ผิดปกติ แต่ลึกลงไปฉันรู้ดีว่าโกโชรู้ว่าฉันไม่เหมือนเดิม...รู้ตั้งแต่โกโชเห็นฉันอยู่กับตาลหวาน ก็เพราะโกโชรู้จักฉันดีแบบนี้ หลายๆครั้งฉันถึงได้แต่เสียใจที่ไม่สามารถปกปิดความรู้สึกของตัวเองเพื่อไม่ให้โกโชกังวลตามไปด้วย...
“น้องเค้กจะไปไหน”
โกโชถามเมื่อฉันลุกขึ้นยืน ดูเหมือนจะจับจ้องฉันตลอดเวลาเลยทีเดียว...เปล่า ฉันไม่ได้อึดอัด เพียงแค่รู้สึกว่าความรักของพี่ชายมันมากมายจนบางครั้งการแสดงออกก็ดูจะตลกไปซะอย่างนั้น ฉันเป็นน้องที่แย่มากเลยเนอะ
“อยากเดินเล่นดูน่ะค่ะ”
“ให้ไปด้วยมั้ย”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่เดินรอบๆไม่ได้ไปไหนไกล”
ฉันว่าแล้วแยกตัวออกมาเพื่อสูดอากาศยามค่ำคืน เสียงดนตรีจากกีต้าร์ของพี่กีต้าร์ยังคงมีมาให้ฟังแว่วๆ จะว่าไป ทำไมถึงได้ไม่มีใครไปบอกตาลหวานให้มาด้วยนะ ในเมื่อก็รู้กันอยู่ว่าตอนนี้ยัยนั่นคือคนที่ฉันเผลอใจให้ไปซะแล้ว
“แกทำไมไม่เคยบอกฉันล่ะวะ!”
“บอกอะไรวะ”
“ก็เรื่องที่น้องครีมเป็นน้องของรุ่นพี่โกโชไงวะ”
เสียงพูดคุยดังขึ้นจากพุ่มไม้ด้านข้าง ฉันเหลือบมองแล้วก็ต้องแปลกใจ ทำไมพี่กวางกับเพทายต้องมายืนคุยหน้าเครียดในเรื่องของฉันด้วยล่ะ
“ฉันว่าฉันเคยบอกแกแล้วนะเว้ย”
เพทายว่าแล้วปัดมือพี่กวางที่จับคอเสื้อออกด้วยใบหน้างงๆ
“แกไม่ได้บอกนี่หว่าว่าน้องสาวพี่โกโชที่ชื่อว่าครีมเค้กเข้าชมรมเทควันโด!”
“แล้วมันสำคัญตรงไหนล่ะวะ ว่าแต่แกรู้ได้ยังไงว่ายัยเปี๊ยกเข้าชมรมนั้น”
เพทายถามอย่างสงสัย หน้าตายุ่งๆนั่นทำให้ฉันรู้ว่าเขากำลังหงุดหงิด
“แกจำผู้หญิงที่ฉันชอบพูดถึงได้รึเปล่า”
“ยัยรุ่นน้องที่แกไปหลงชอบแต่เขาไม่เล่นด้วยน่ะเหรอวะ”
“ใช่...คนนั้นล่ะ”
“ก็ไหนแกบอกว่าแผนฉันสำเร็จไง ยัยนั่นซึมไปเลยเมื่อรู้ว่าแกไปคบกับเพื่อนเจ้าหล่อนไม่ใช่รึไง”
“ก็ใช่”
“แล้วเกี่ยวกับยัยเปี๊ยกของฉันตรงไหน”
“รุ่นน้องที่ว่าชื่อครีมเค้ก แล้วก็เป็นเจ้าของงานวันเกิดวันนี้ด้วย...”
พี่กวางว่าแล้วจ้องหน้าเพทายที่ยืนนิ่งค้าง พวกเขาพูดถึงแผนอะไร ฉันไม่เข้าใจ แต่เรื่องอะไรจะมานั่งเงียบอยู่อย่างนี้ ฉันกำลังจะออกไปถามให้รู้เรื่องอยู่แล้วถ้าไม่ใช่เพราะใครอีกคนวิ่งเข้าไปก่อน...คนที่ฉันเห็นแล้วต้องอึ้งเมื่อใบหน้าของเธอซีดขาวจนน่ากลัว
“หมายความว่ายังไงคะพี่กวาง...”
“ตาล...”
“แผนที่ว่าคืออะไร แล้วเกี่ยวข้องกับครีมยังไง”
“คือว่า...”
“งานเข้าแล้วมั้ยล่ะ ไอ้กวาง”
เพทายว่าแล้วกุมขมับ ตาลหวานมองเพทายสลับกับพี่กวางก่อนที่น้ำใสๆจะไหลรินเมื่อพี่กวางมองหน้าของตาลหวานแล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆ
“พี่ว่าเรา...เลิกกันเถอะนะ”
ประโยคนั้นทำให้ทั้งฉัน เพทาย และตาลหวานตกใจจนแสดงออกอย่างชัดเจน ผิดก็แต่ว่าไม่มีใครเห็นฉัน
“พี่กวาง ทำไมทำกับตาลอย่างนี้ล่ะ”
น้ำเสียงตัดพ้อมาพร้อมกับหยดน้ำตาที่มากขึ้นเรื่อยๆ เสียงใสสั่นๆที่ฟังแล้วทำให้ฉันใจไม่ดีเลยสักนิด
“พี่ไม่ได้รักน้องตาลครับ”
พี่กวางพูดพร้อมกับที่เพทายส่ายหน้า ตาลหวานเงียบไปในทันที
“ทำไมล่ะ ทำไมพี่กวางถึงไม่รักตาล!!!”
ตาลหวานว่าพร้อมกับระดมทุบเข้าที่ไหล่ของพี่กวางที่ได้แต่ปัดป้องเบาๆและเพทายที่กำลังทำตัวแนอากาศธาตุเพราะรู้ตัวดีว่าขณะนี้ตัวเองเป็นบุคคลที่สาม ไม่สมควรจะเข้าไปยุ่ง
“ตาล...หยุดก่อน ฟังพี่ก่อนนะ”
“ตาลไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น!แต่ตาลอยากรู้ว่าทำไม!!!”
ตาลหวานว่าหอบๆ น้ำตานองเต็มหน้าพร้อมๆกับความเจ็บปวดที่ฉายออกมาอย่างชัดเจนทางสายตา และความรู้สึกนั้นได้ส่งผ่านมาถึงฉันด้วย...
“พี่รักน้องครีมเค้กครับ...นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพี่ถึงรักน้องตาลไม่ได้...”
ประโยคนั้นก้องอยู่ในหัวของฉันชั่วขณะ ฉันไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดประโยคนี้ออกมาในขณะที่ตาลหวานอาการแสดงออกว่าแย่ขนาดนั้น!
“ครีมเค้กงั้นเหรอ.....ครีมเค้ก....”
“ไหนๆก็ไหนๆ พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับตาลอยู่เหมือนกันครับ”
ตาลหวานดูจะไม่รู้ตัวมากกว่าจะสงบฟัง แต่พี่กวางก็ประคองเธอเอาไว้พร้อมกับเริ่มพูดช้าๆราวกับจะย้ำทุกคำพูว่ามันเป็นเรื่องจริง
“พี่พบน้องครีมครั้งแรกเมื่อตอนน้องครีมอยู่ปีหนึ่งในวันที่น้องครีมไปสมัครเข้าชมรมกับน้องเพิร์ท ตอนแรกพี่ก็คิดแค่ว่าน้องครีมน่ารักดี เลยลองแกล้งจีบเล่นๆคอยตามตื้อสารพัด ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่ที่พี่คิดว่ามันเป็นเรื่องจริงจัง”
เพทายดูเหมือนจะสะดุดกับประโยคเหล่านั้นแต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา
“พี่รู้ตัวว่าพี่ชอบน้องครีมตอนน้องครีมอยู่ปีสอง แต่เพราะไม่ว่าจะทำยังไงน้องครีมก็ดูเหมือนจะไม่สนใจพี่ ดังนั้นพี่เลยไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อน...”
ไม่ต้องบอกฉันก็พอเดาได้ว่านั่นเพื่อนที่ชื่อว่าเพทาย...
“เพื่อนพี่เลยแนะนำมาว่า ลองไปสนใจผู้หญิงคนอื่นดู ถ้าหากว่าน้องครีมมีปฏิกิริยาแตกต่างไปจากเดิมแสดงว่าพี่ก็พอจะมีหวังอยู่บ้าง แล้วตอนนั้น....”
“ตาลก็เข้าไปบอกชอบพี่กวาง...”
ตาลหวานพูดแทรกขึ้นมาก่อนจะช้อนสายตาเหม่อลอยให้ขึ้นไปสบตากับพี่กวาง
“เพื่อให้ผู้หญิงคนนั้นมาสนใจ พี่กวางถึงขนาดยอมทำร้ายความรู้สึกของตาลเลยเหรอคะ...”
“พี่ขอโทษ...”
“ช่างเป็นผู้หญิงที่โชคดีซะจริงๆนะ”
ตาลหวานกัดฟันพูดแล้วแค่นหัวเราะออกมาแผ่วๆ
“พี่ขอโทษ...”
ประโยคเดียวที่กวางพูดได้คือพี่ขอโทษ...นั่นคือสิ่งเดียวที่เขาทำได้งั้นเหรอ ทำให้น้ำตาของยัยนั่นไหลแล้วพูดได้แค่คำเดียวว่าพี่ขอโทษ...ทั้งๆที่เขาทำได้แค่นั้นแต่ฉันก็รู้ว่าตาลหวานยังรักพี่กวาง...
“ปล่อยตาล”
ตาลหวานว่าแล้วสะบัดตัวเองออกจากการประคองของพี่กวาง สายตานิ่งๆที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่จับจ้องไปยังทางที่ได้ยินเสียงเพลง
“งานวันเกิดครีมเค้กไปทางนั้นใช่มั้ยคะ”
ตาลหวานหันไปถามเพทายที่นั่งเงียบมาตลอดสร้างความแปลกใจให้ทั้งฉัน เพทายแล้วก็พี่กวาง
“ชะ...ใช่ครับ ทำไมเหรอ”
“ตาลจะไปสั่งสอนให้ยัยเพื่อนทรยศสำนึกซะบ้าง!”
ประโยคนั้นเหมือนฟ้าผ่าเพราะตาลหวานดูจะไม่มีสติเหลืออยู่อีกแล้ว ดวงตาที่เคยฉายแววอ่อนโยนดูแข็งกล้าและน่ากลัว พี่กวางกับเพทายพยายามเข้าห้ามเมื่อเธอตั้งหน้าจะเดิน ตาลหวานผลักพี่กวางออกพร้อมๆกับน้ำตาที่ไหนนองหน้าอีกครั้ง
“ที่พี่กวางขอเลิกกับตาลไม่ใช่เพราะไม่รักหรอก”
“...”
“แต่เพราะยัยครีมเค้กให้ท่าพี่ใช่มั้ย!”
“ตาล!”
“เพราะยัยนั่นรู้สึกเสียดายที่พี่กวางตามจีบตอนแรกแล้วเล่นตัวเลยพยายามจะทวงคืน ยัยเพื่อนทรยศที่ต่อหน้าก็ทำดีให้ฉันแต่พอลับหลังก็ทำตัวซึมเศร้าให้คนอื่นเห็นใจ!”
ตาลหวานว่าอย่างเคียดแค้น ไม่จริงสักหน่อยนะตาลหวาน ความทุกข์ของฉันในทุกวันนี้คือการอยากบอกรักเธอแต่ทำไม่ได้ต่างหาก...
“เพราะพี่จะกลับไปทำให้ผู้หญิงคนนั้นยิ้มออกมาใช่มั้ย”
“..........”
“พี่จะกลับไปทำให้เธอร่าเริงเหมือนเดิมงั้นสิ”
“................”
“อย่าคิดว่าตาลจะยอมถ้าตาลไม่ได้พี่กวาง ใครหน้าไหนก็ไม่มีทางได้เหมือนกัน!”
“ทำไมถึงเป็นไปได้ขนาดนี้......”
“เพราะตาลรักพี่ อย่าลืมสิคะว่าโลกมันไม่ได้สวยงามขนาดที่ว่าทุกคนสามารถเสียสละได้หมด แต่ถ้าจะต้องมีคนเสียสละล่ะก็...คนคนนั้นต้องไม่ใช่ตาล ต้องเป็นคนที่ตาลเกลียดที่สุดอย่างยัยครีมเค้กเท่านั้นที่จะต้องเป็นฝ่ายออกไป!!”
ตาลหวานพูดออกแล้วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง นางห้าของฉันในตอนนี้ดูน่าสงสารมากกว่าน่ากลัว และดูเหมือนว่าพี่กวางจะเริ่มหงุดหงิดกับอาการของตาลหวาน มีเพียงเพทายเท่านั้นที่แสดงออกว่ากำลังรู้สึกไม่ดี
“ไม่ว่าตาลจะคิดยังไง เราก็กลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้ ตัดใจซะเถอะ มีคนที่ดีกว่าพร้อมจะดูแลตาลแทนพี่”
กวางพูดพร้อมกับเดินออกห่าง และคงจะทำร้ายตาลมากกว่านั้นถ้าหากว่าเพทายมาจับชายเสื้อเอาไว้
“ตัดใจงั้นเหรอ”
เสียงของตาลสะอื้นเบาๆ
“ถ้ามันได้ง่ายๆคงจะทำไปตั้งนานแล้วล่ะ”
ตาลร้องไห้อีกครั้งคราวนี้ถึงกับสะอื้นอย่างน่าสงสาร ก่อนที่ฉันจะได้เดินเข้าไปปลอบ ร่างบางๆที่สั่นไหวก็วิ่งออกไป ดูเหมือนว่าทุกคนจะตกใจจนลืมไปว่าควรจะไปตามเธอกลับมา...ฉันเดินออกจากพุ่มไม้ตรงเข้าไปตรงหน้าพี่กวางที่มองมาอย่างตกตะลึง เพทายถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นฉัน
“ยัยเปี๊ยก!!มะ...มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“น้องครีม...”
พลัก!
ฉันถีบพี่กวางเข้าที่ขาให้ล้มลงก่อนจะรัวหมัดใส่อย่างไม่ยั้งโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เพทายที่พอได้สติก็รีบแยกฉันให้ออกมาจากตัวพี่กวางที่ได้แต่ปัดป้องอย่างงงงัน แต่แน่นอนว่าตัวฉันในตอนนี้ก็เหมือนม้าพยศไม่ยอมให้ใครมาจับตัวได้ง่ายๆ ดังนั้นเพทายที่ยื่นมือเอามายุ่งถึงได้โดนลูกหลงล้มลงไปนอนกองกับพื้นอย่างไม่ต้องสงสัย
“ก็ถ้าไม่รัก...แล้วมาตอบรับความรู้สึกของคนอื่นเขาทำไม!”
“พี่...”
“เคยรู้บ้างไหมว่าความรู้สึกของคนไม่ใช่เครื่องทดสอบ!”
หลังจากที่ฉันกระหน่ำพวกเขาด้วยกำลัง คำพูดมากมายก็พรั่งพรูออกมาเองโดยที่ฉันหยุดไม่ได้
“ขอบอกอะไรให้รู้เอาไว้สักอย่าง ที่ครีมเปลี่ยนไปไม่ได้เป็นเพราะพี่กวาง!แต่เป็นเพราะครีมชอบตาล!ได้ยินรึเปล่าว่าครีมชอบตาลหวาน!”
เหมือนกับว่าประโยคนั้นทำให้ทุกคนได้สติ พี่กวางตาเบิกกว้างพอๆกับเพทาย
“นายก็จำไม่ใช่รึไงว่าวันที่ฉันเจอกับตาลหวานฉันพูดว่ายังไง”
ฉันหันถามเพทาย
“จำได้แต่ไม่คิดว่าจะจริง...”
“ความรู้สึกฉัน...ฉันไม่เคยล้อเล่น ฉันพูดว่าชอบก็คือชอบ ชอบมาสามปีแต่พอรู้ว่าตาลชอบพี่กวางครีมถึงได้ถอย ถามจริงๆนะพี่กวาง...คบกันมา พี่รู้อะไรเกี่ยวกับตาลบ้าง”
“พี่...”
“ตาลหวานเป็นโรคหัวใจ!นั่นทำให้ครีมไม่กล้าขัดใจและซึมลงไปเพราะช่วยอะไรไม่ได้!”
หลังจากพูดออกไปแล้ว ฉันก็ปรายตามองใบหน้าที่แสดงออกถึงความตกใจนั้นอย่างโกรธเคืองอีกครั้งแล้วเตรียมจะเดินไปตามตาลหวานที่กำลังเตลิด
“เพทาย...”
ฉันเรียกเขาให้หันหน้ามามองอย่างสงสัย...
“ขอบอกไว้ก่อนว่าฉันไม่ใช่ของนาย”
ความคิดเห็น