ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Prince devil ลุ้นรักร้ายของเจ้าชายปีศาจ

    ลำดับตอนที่ #15 : ตอนที่ 14

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 53


    ตาลหวานมีคนมาหา

    เสียงเรียกชื่อที่ทำให้ฉันยังไม่เข้าใจตัวเองทุกครั้ง ทำไมแค่เห็นเธอคนนี้ถึงได้ทำให้ฉันแข็งทื่อได้นะ จะมีสักวันมั้ยที่ฉันจะสามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้สักที

    อ้าว...คุณคนเมื่อวาน

    เอ่อ....หวัดดีเราชื่อครีมเค้กนะ คือ....จะมาถามว่า เมื่อวานเป็นไงมั่ง

    ก็....ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เอ่อ...แล้วคุณล่ะคะ

    สบายมากๆ

    ฉันรีบตอบก่อนจะส่งยิ้มไปให้ทำเอาตาลหวานอมยิ้มตาม อ๊ากกก!!!!! น่ารักอ่ะ

    เอ่อ....จะว่าอะไรมั้ยถ้าจะบอกว่าตาลน่ารักมากเลยอ่ะ

    ตาลหวานดูจะอึ้งนิดๆและมองฉันอย่างไม่เข้าใจ แย่ล่ะสิ ถ้าเกิดว่าเธอระแวงแล้วฉันจะทำยังไงดีล่ะ!

    “เอ่อ...เรามาเป็นเพื่อนกันได้มั้ย”

    คราวนี้รอยยิ้มอ่อนโยนแผ่ออกมาให้ใจฉันเต้นแรงและสั่นไหว...รอยยิ้มของนางฟ้า

    “ได้สิจ๊ะ ตาลหวานว่าครีมก็น่ารักมากเลยจ้ะ”

    ให้ตายสิ...ฉันจะเป็นโรคหัวใจมั้ยนะ

    ..........................................................................................................................................................

    งั้นเหรอ ครีมชอบกินเผ็ดจริงๆเหรอจ๊ะ

    อือ....อร่อยดี ตาลกินอะไรเนี่ยหวานเป็นบ้า

    ฉันว่าก่อนจะมองคนตรงหน้าที่ยิ้มหวานอย่างไม่เกรงใจใครให้ตายสิ ยิ่งมองยิ่งน่ารักชะมัด

    งั้นจะชื่อตาลหวานเหรอ

    เธอว่ายิ้มๆผ่านมาสามเดือนแล้วที่ฉันกับตาลเป็นเพื่อนกัน.....เพื่อนจริงๆนะ โอเคล่ะ ยอมรับก็ได้ว่าฉันออกจะรู้สึกเกินเพื่อนและฉันอยากจะพัฒนาให้มากกว่านี้ใจจะขาดแต่เจ้าตัวเค้าดันซื่อเสมอต้นเสมอปลายซะนี่ เซ็ง

    กินเยอะไม่ดีนะรู้มั้ย

    เอาน่าเรากินแต่ผักทั้งนั้น

    ก็ถึงว่าตัวเล็กจัง

    ง่ะ ตาลอยากโดนดีป่ะ เราจัดให้ได้นะ

    ไม่ล่ะจ้า ล้อเล่นๆ

    ตาลหวานพูดก่อนจะลงมือกินข้าวๆ ทั้งๆที่ปกติฉันต้องไปกินข้าวกับโกโชทุกมื้อ แต่หลังจากวันที่ทะเลาะกันวันนั้นฉันก็ไม่ไปเจอโกโชเวลาไปกินข้าว ถึงเดินผ่านก็ไม่มองหน้า ก็บอกแล้วไงล่ะว่าฉันโกรธาจริงๆแล้วนะ ได้ยินข่าวมาแว่วๆว่าระยะสามเดือนมานี่ใครก็เข้าหน้าพี่ชายฉันไม่ติด เรียกได้ว่าเขากลายเป็นระเบิดเคลื่อนที่และเกเรมากขึ้นด้วย แต่ใครจะสนล่ะ ในเมื่อตอนนี้ฉันมีความสนใจอยู่ที่สาวน้อยตรงหน้า...ไม่อยากจะบอกถึงความอาภัพ ฉันตัวเล็กกว่าตาลหวานอีก

     วันนี้มีชมรมไม่ใช่เหรอ

    อยู่ๆตาลหวานก็ละการทานข้าวมาถามฉัน จะว่าไปเรื่องชมรมนี่ฉันก็ไปทุกครั้งน่ะแหละ แต่ไม่ค่อยได้สนใจอะไรมากนัก นับวันจะยิ่งเบื่อกับการโดนจีบและเสียงบ่นของเพิร์ทกับโชเซที่ว่าฉันทิ้งพวกมันไปอยู่กับตาลหวาน

    อือ....ไม่อยากไปอ่ะเซ็ง

    งั้นตาลไปด้วยนะ ได้มั้ย

    หือ....เอางั้นเหรอ ก็ได้นะ

    ฉันว่าแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ ถ้าตาลหวานไปก็คงจะน่าสนุกกว่าทุกวันนิดหน่อย อีกอย่าง จะได้ลืมเรื่องที่น่าเบื่อที่ชมรมไปซะด้วยเลย

     มาแล้วเหรอไอ้เพื่อนบ้า อ้าวเฮ้ย!!วันนี้ไหงพาตาลมาด้วยอ่ะ

    ทำเสียงตลกไปได้ เขาขอมาด้วยนี่นา ลืมคิดไปตอนบอกว่าไปด้วยได้น่ะ

    ฉันพูดเบาๆก่อนจะบอกให้ตาลหวานไปนั่งใกล้ๆริมประตู เรื่องของพี่กวางไอ้เพิร์ทช่วยปิดบังอย่างเต็มที่ดังนั้นที่มันส่งเสียงดังก็พอเข้าใจอยู่หรอกว่ากลัวความแตก

    “งั้นก็ช่างเถอะ ค่อยแก้เอาแล้วกัน”

    มาแล้วเหรอครับน้องครีม น้องเพิร์ท อ่ะ นี่ใครครับ

    เสียงของพี่กวางดังขึ้นมาจากข้างหลังทำให้เราสองคนสะดุ้งนิดๆแล้วหันหน้ากลับไปทำหน้าตาปกติ ฉันตอบกลับไปเสียงเรียบๆว่า...

    เพื่อนครีมค่ะ คงไม่ว่าใช่มั้ยที่พามาด้วยน่ะ

    ไม่ครับๆ ชื่ออะไรเหรอครับ

    ฉันคิดไปเองเพราะอคติหรือว่าไอ้รุ่นพี่บ้านี่มันกำลังยิ้มหวานจีบตาลอยู่นะ เห็นแล้วหงุดหงิดเฟ้ย

    ตาลหวานค่ะ

    แล้ว....

    พี่กวางค่ะ จะสอนมั้ย

    ฉันพูดเสียงฉุนๆที่เห็นว่าตาลมีท่าทางจะเขินไปกับยิ้มของหมอนั่น ทั้งๆที่มันก็เป็นแค่รอยยิ้มของผู้ชายเจ้าชู้แท้ๆหงุดหงิดเฟ้ย แต่จะไปว่าอะไรได้ ตาลหวานน่ารัก แถมไอ้หล่อนี่ดันมีสปีชีย์เดียวกับเพทาย รับรองว่าผู้หญิงอย่างตาลหวานต้องหลงเป็นแน่แท้

    งั้นวันนี้เรามาทดสอบการเตะกันนะครับ น้องตาลช่วยถือเป้าให้หน่อยได้มั้ยครับ

    ตาลถือให้เรานะ

    ฉันรีบพูดเมื่อเห็นว่าพี่กวางกำลังจะเดินมาทางฉันตาลหวานทำสีหน้างงนิดๆก่อนจะยิ้มแล้วเดินมาทางฉันแต่ทว่า....

    ไม่ต้องหรอกตาล ยัยครีมเตะหนักมาก มาถือให้เราดีกว่าพี่กวางไปถือให้ครีมนะคะ

    ยัยเพิร์ทพูดอย่างรวดเร็วพอๆกับคำตอบรับของคนถูกขอตาลหวานยิ้มแล้วแอบมองพี่กวางที่เจ้าตัวคิดว่าคงไม่มีใครเห็นการแอบมองครั้งนี้...แต่ฉันเห็นนะ...

    เอาล่ะนะครับ พอพี่นับสามเตะรัวสามสิบครั้งนะ

    ฉันรู้สึกตัวดีว่าตอนนี้กำลงโมโหจนถึงจุดเดือดแล้วจริงๆ ทำไมเพิร์ทถึงได้บอกให้พี่กวางมาถือให้ฉัน ทำไมตาลหวานต้องแอบมองแล้วทำหน้าแดงแบบนั้น และทำไมพี่กวางต้องทำท่าเหมือนจะสนใจตาลหวาน...ทุกอย่างทำไมถึงได้กลายไปเป็นแบบนี้ด้วยล่ะ

    หนึ่ง....สอง....

    ในใจฉันมันเดือดดาลแต่สีหน้านั้นเรียบเฉย ไม่ใช่ว่าไม่อยากแสดงหรอกแต่มันโกรธมาก.....จนทำหน้าไม่ถูก

    สาม....

    ฉันกระหน่ำเตะแบบไม่ยั้งหวังจะระบายอารมณ์ใส่เป้าตรงหน้าอย่างเต็มที่ ไม่สนใจว่ามันจะมีการกระทบกระเทือนอะไรกับขาของตัวเองมั้ย รู้แต่ว่าตอนนี้ ฟิวส์ขาดอย่างไม่สามารถต่อใหม่ได้แล้ว

    พอครับ พอๆน้องครีม พอ!!!!”

    ฉันหยุดเตะพลางหายใจหอบๆ แฮกๆ ฉันลืมตัวไปชั่วขณะ ลืมไปว่ากำลังทำอะไรอยู่...

    พี่ว่าวันนี้เราพอแค่นี้ดีกว่านะครับ พี่....เลิกชมรมแค่นี้ครับ

    พี่กวางพูดก่อนจะเดินหายเข้าไปหลังห้องทั้งๆที่ยังมองมาทางฉัน ส่วนไอ้เพิร์ทที่พาตาลเดินมาก็ถามเสียงใสตามนิสัยทะเล้นเหมือนเดิม

    เตะหนักอย่างนี้โดนควายคงตายไปเป็นตัว

    ฝึกหนักจังเลยนะครีม เตะน่ากลัวมากเลยอ่ะ พี่กวางเค้าแขนแดงเลยนะ

    นี่มันการฝึกน่า ตาลจะไปห่วงอะไรมากมาย

    ฉันพูดเสียงดังเกือบจะเป็นตะคอกและนั่นทำให้ฉันรู้ตัวว่าได้พูดผิดไป นี่ฉันเป็นอะไรไปเนี่ย ทำไมควบคุมตัวเองไม่ได้เลย

    ไม่เห็นจะต้องตะคอกเลยนี่ ครีมเป็นอะไร

    เปล่า...ระ...เราขอโทษ...ระ...เราไปเก็บของก่อนนะ

    เดี๋ยวสิ....คุยกันก่อนครีม

    ฉันเดินออกจากห้องชมรมโดยที่ทิ้งตาลหวานเอาไว้อย่างนั้นหวังว่าไอ้เพิร์ทคงพากลับหอได้โดยสวัสดิภาพนะ ไม่ไหว ขืนอยู่นานอีกหน่อยต้องเผลอทำอะไรไม่ดีไปอีกแน่ๆ

    อ้าวว่าไง ยัยเปี๊ยกไม่เจอหน้ากันตั้งนานเลยนะ หายไปไหนมา

    เสียงที่คุ้ยเคยทำเอาฉันหันไปมองพร้อมๆกับหน้าบึ้งๆ เพทายมองตรงมาอย่างแปลกใจก่อนจะถามอย่างล้อๆ นี่นายอยากตายมากนักใช่มั้ยถึงได้มายุ่งกับฉันเวลานี้น่ะ

    เป็นอะไรไปน่ะ หน้ายังกะไปกินรังแตนมา

    ไม่ยุ่งสักเรื่องจะเป็นอะไรมั้ย

    เป็นอย่างแรง

    ไปไกลๆเลย

    ฉันเดินไปยังโรงอาหารแต่ทว่าอีตาเพทายก็ยังคงตามมาก่อกวนอย่างไม่หยุดหย่อน โอ๊ย!นายกำลังจะทำให้ฉันเป็นฆาตรกรตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบห้านะ

    ไปไกลๆได้มั้ย รำคาญ

    บอกมาดิว่าเป็นอะไร

    อย่ามายุ่งน่า จะกินข้าว ไปไป๊

    ฉันเป็นรุ่นพี่เธอนะ

    ไว้ทำตัวให้น่านับถือซะก่อนแล้วค่อยมาอ้าง

    ฉันว่าแล้วจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง ในเวลาที่อารมณ์ของฉันมันไม่ปกติอย่างนี้อย่างหาว่าฉันไม่เตือนนายนะ แต่เพทายก็คือเพทาย ถ้าเขาฟังคำฉันง่ายๆนั่นแปลว่าไม่ใช่เพทายหรอกนะ จริงมั้ย

    ขอร้องล่ะ ไปไกลๆ

    ไม่เอาอ่ะ

    งั้นดีฉันไปเอง

    ฉันพูดพลางลุกจากโต๊ะแล้วเดินไปทั้งๆที่ยังไม่ได้กินข้าวสักเม็ดด้วยซ้ำ แน่นอนแม้ว่าท้องฉันมันจะประท้วงอยู่ซ้ำๆแต่สมองของฉันก็สั่งให้เดินจนในที่สุดฉันก็เดินกลับมาตายรังที่ห้องนอนของตัวเอง เหนื่อยใจกับผู้ชายที่ชื่อเพทายจริงเว้ยยย!!!

     กลับมาให้เห็นหน้าแล้วเหรอ ช่วงนี้ไม่เจอกันเลยนะว่าแต่ทำไมหน้าซีดแบบนั้น เพลียเหรอ

    พี่คีตาทักเสียงใสก่อนจะเดินเข้ามาใกล้แล้วถามอย่างเป็นห่วง

    เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร พี่คีตา

     ฉันตอบเสียงอ่อนๆ จะให้บอกไปรึไงว่าโมโหที่ผู้หญิงที่ชอบโดนจีบน่ะ บ้าแล้ว...

    ...แต่สุดท้ายฉันก็ต้องยอมบ้าด้วยการเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่คีตาฟัง

    ที่หายหน้าไปนี่ ติดผู้หญิงหรอกเหรอ?!!

    เสียงร้องของพี่คีตาดังแปดหลอดจริงๆ มันน่าตกใจฉันรู้ เป็นฉันก็คงร้องเสียงสูงเหมือนกัน

    “อาฮะ...”

    “น้องสาวพี่ชอบผู้หญิงเหรอเนี่ย แง รับไม่ได้อ่ะ

    ตามยถากรรมเหอะ น้องสาวพี่ตัดใจไม่ได้แล้ว

    ฉันถอนหายใจแล้วนั่งกุมหน้า เครียดจังโว้ยยย!จะชอบใครทั้งทีมันไม่มีเหตุผลนี่หว่า อารมณ์ความรู้สึกและจริงใจล้วนๆ!!

    พี่ว่านะ เราน่ะใจร้อนเกินไป น้องเค้าเป็นผู้หญิงนี่นา ก็ต้องหวั่นไหวกับผู้ชายเป็นธรรมดาสิหัดเข้าใจเค้าบ้าง

    พูดง่ายนะ ครีมไม่เคยเข้าใจขอโทษด้วย

    แล้วทำไม่ไม่บอกพี่โกโชล่ะ

    พี่คีตาเสนอความคิดแล้วยิ้มกว้างออกมา ซึ่งนั่นทำให้ฉันหน้าเบ้ในทันที

    ไอ้บ้านั่นน่ะนะ...อย่าไปพูดถึงเลยดีกว่า”

    “นี่ยังไม่ได้พูดกันอีกเหรอ...สามเดือนแล้วนะ”

    “อือ”

    “นานกว่าที่คิดแฮะ ใจแข็งจริงๆ”

    “ช่างหัวพี่ชายบ้าบออย่างนั้นเถอะ แล้วเรื่องตาลล่ะจะว่าไง”

    ฉันถามอย่างร้อนรน พี่คีตาหัวเราะออกมาเบาๆ รูมเมทฉันคนนี่จะว่าน่าหมั่นไส้ผสมความน่ารักลงไปคงจะไม่ผิด...คนเขากลุ้มจะตายมาหัวเราะอะไรกันเล่า!!!

    แล้วทำไมถึงได้หน้าบึ้งกลับมาล่ะ พี่ว่าเรื่องมันไม่แค่นี้หรอกใช่มัย

    เจอไอ้เพทายกวนประสาทมา

    ฉันพูดเสียงเข้มก่อนจะเรียกเสียงจุ๊ปากจากพี่คีตาที่ส่งมาอย่างไม่พอใจ แต่ช่างเหอะตอนนี้ไม่อยู่ในอารมณ์จะมาจับผิดอะไรหรอกนะหงุดหงิดเฟ้ย

    เออ...พูดถึงเพทาย พี่ว่านะ ตั้งแต่รู้จักกันมามีครั้งนี้แหละที่แปลก

     ยังไง

     ก็ปกติเขาสุภาพจะตาย ถึงจะคาสโนว่าหน่อยๆก็เหอะ แต่มีครั้งนี้แหละที่เค้าก่อกวนเด็กผู้หญิงมากเป็นพิเศษ

    “คนอย่างหมอนั่นเนี่ยนะ สุภาพ ไม่มีวันซะล่ะ แล้วที่ว่าคาสโนวาหน่อยๆน่ะไปบอกใครจะเชื่อ ขอร้องเหอะ โตแล้ว อย่ามาหลอกซะให้ยากเลย

     พี่ว่าไม่นะจริงๆปกติแล้วเขาก็ไม่ค่อยจะไปอะไรๆกับพวกผู้หญิงขนาดนี้หรอก ก็มีช่วงตั้งแต่ได้พบกัยครีม แล้วก็ได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับพี่เดวิลน่ะ

    ชื่อนั่นสะดุดหูฉันในทันทีที่ได้ยิน คนบ้าอะไรชื่อเดวิล

    “ใครเหรอ”

    “อ้าว ไม่รู้จักหรอกเหรอ เพื่อนของพวกพี่ชายเราไงจ้ะ แต่ก็อย่างว่า พี่โกโชคงไม่ยอมให้เจอล่ะสิ”

    “ทำไมกันล่ะ”

    “ก็แหม พี่เดวิลน่ะขึ้นชื่อเรื่องผู้หญิงจะตายไป”

    ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจอย่างถ่องแท้ ก็สมชื่อแล้วนี่เนอะ ปีศาจที่ชอบหลอกล่อมนุษย์ให้ใหลหลงไปกับความงามและความเสน่หา พอตกหลุมลวงมายาก็โดนกลืนกินเหลือไว้เพียงหยาดน้ำตาและความโศกศัลย์

    “เพทายน่ะ นับถือพี่เดวิลเป็นต้นแบบเชียวนะ”

    “มิน่า ต้นแบบก็ดีเหลือเกิน ไอ้คนเอาต้นแบบมาก็ดีซะเหลือเกิน”

    “ใช่ม้า~!

    พี่คีตาว่าอย่างเห็นดีเห็นงาม นี่พี่เคยรู้อะไรบ้างมั้ย ฉันเกลียดมันจะตายจะไปชมมันได้ยังไงกันล่ะ ประชดหรอกโว้ยย!!

    อย่าไปพูดถึงเลยเหอะ ว่าแต่เรื่องนี้ครีมทำไงดี

    อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก  อาจจะไม่มีอะไรก็ได้

    ถ้ามันมีล่ะ ต้องรอให้มีก่อนรึไง

    เป็นเอามากนะเนี่ย พี่พึ่งบอกไปหยกๆว่าให้ใจเย็นๆ

    ขอโทษ.....ก็ได้ๆเค้กจะพยายามนะ

    ฉันถอนหายใจเข้าออกช้าๆ ผ่อนคลายอารมณ์ครุกกรุ่นที่อยู่ข้างใน ฉันรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใครอาจจะไม่เข้าใจ ฉันเองก็ไม่เข้าใจ และหวังว่าสักวันจะเข้าใจว่าทำไมฉันถึงได้ชอบผู้หญิงคนหนึ่งมากขนาดนี้...ชอบผู้หญิงด้วยกัน...ทำไมถึงได้สนใจผู้หญิงด้วยกัน...

    ..........................................................................................................................................................

    น้องครีมเค้ก...พี่มีเรื่องจะคุยด้วยครับ     

    พี่กวางเรียกฉันหลังจากที่ซ้อมชมรมเสร็จ ฉันหันไปมองด้วยสายตาเรียบเฉยแล้วตวัดมองไปยังตาลหวานที่ส่งยิ้มอายๆมาให้

    “มีอะไรคะ”

    “นั่งก่อนสิครับ”

    ฉันมองเก้าอี้ตัวที่พี่กวางดันส่งให้อย่างลังเลก็พอดีกับที่ตาลหวานดังมือเพิร์ทออกไป

    “ไปกันเถอะ เพิร์ทไม่เหนียวตัวเหรอจ้ะ”

    “ก็เหนียวนะ แต่ว่า ครีมไม่อยากให้อาบที่นี่น่ะ...”

    “อย่าไปฟังเลย ไปอาบน้ำเถอะจ้ะ สะสมเหงื่อมากๆจะทำให้ผิวเสียนะ”

    เพิร์ททำตาโตเมื่อได้ยินแล้วรีบวิ่งออกไปโดยที่ฉันคิดว่ามันก็คงจะรีบแจ้นไปอาบน้ำ เชื่อเขาเลย!เรื่องความสวยความงามนี่ยอมไม่ได้เลยนะ ตาลหวานก็ใช่ย่อย...มีเล่ห์หลอกแบบนี้กับเขาด้วยรึไง

     เอาล่ะค่ะ ว่าธุระของพี่กวางมาเลยดี”

    พี่กวางยิ้มนิดๆให้กับฉัน เบื่อรึไง ยิ้มมาหน้าฉันก็มึนตึงใส่ทุกที

    “พี่รู้ว่าสองปีมานี้ น้องครีมคงลำบากใจที่พี่คอยตามตื้อน้องครีมอยู่ทุกวัน”

    รู้ตัวด้วยเหรอคะ แหมๆ ครีมเค้กไม่ได้แสดงออกขนาดนั้นสักหน่อย

    “แต่ต่อจากนี้น้องครีมสบายใจได้แล้วนะครับ พี่จะไม่กวนใจน้องครีมอีกแล้ว...”

    ประโยคนั้นทำให้ฉันสนใจในทันที ทำไมกันล่ะ ตื้อฉันมาสองปี อะไรช่วยชี้ทางสว่างให้เขาเห็นสิ่งที่ควรทำกันนะ ต้องขอขอบคุณจริงๆ

    “เพราะอะไรคะ”

    “พูดแบบนี้...น้องครีมยังอยากให้พี่กวางตื้ออยู่เหรอครับ”

    “ช่างเถอะค่ะ ครีมบ้าไปเองที่คิดว่าพี่กวางพูดรู้เรื่อง”

    ฉันว่าเบาๆในขณะที่พี่กวางหัวเราะออกมาเมื่อเห็นฉันทำหน้าเบ้ นี่หรือคือมุข อยากจะบ้า!!

    “เพราะมีคนมาบอกชอบพี่ และพี่คิดว่า ไหนๆตัวเองก็ไม่เคยได้รับโอกาสจากคนที่ชอบ ก็ควรจะให้โอกาสคนอื่นบ้าง

    ฉันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย พี่ควรจะคิดอย่างนี้ตั้งนานแล้วนะ

    “ครีมก็...ดีใจด้วยนะคะ ที่พี่กวางเจอคนดีๆ”

    “ขอบคุณครับ”

    “ความจริงแล้วพี่กวางก็เป็นต้นแบบที่ดีเรื่องกีฬานะ”

    “ขอบคุณครับ ได้ยินก็ชื่นใจละ”

    “แล้วพี่กวางไปเจอคนนั้นได้ไงคะ”

    ฉันถามอย่างข้องใจ มีผู้หญิงเป็นร้อยที่จะหลงหมอนี่ได้ก็จริง แต่หญิงส่วนใหญ่เพื่อนบ้าๆของหมอนี่อย่างเพทายก็กวาดไปแล้วนี่ แล้วเขาก็เอาแต่ตามตื้อฉัน คงไม่ใช่เพิร์ทหรอกใช่มั้ย

    “ก็...เป็นคนใกล้ตัวน้องครีมน่ะแหละครับ”

    “บอกทีว่าไม่ใช่เพิร์ทนะ”

    ฉันถามเสียงเรียบ อย่านะ ที่ฉันเฝ้าตามมาเข้าชมรมก็เพื่อปกป้องยัยบ้านั่น ถ้าเกิดว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆล่ะก็ ฉันจะตามไปฆ่ามันแล้วให้โชเซตามฆ่ามันอีกที

    “ฮะๆ ไม่ใช่หรอกครับ”

    โล่งใจ ถ้าใช่ล่ะก็ ถ้าใช่ล่ะก็...

    “เขาเป็น...พูดถึงก็มาพอดี เข้ามาสิครับ”

    เสียงเปิดประตูทำให้ฉันหันไปมองอย่างตื่นเต้น ใครกันนะ ผู้หญิงคนนั้น....

    “เคลียร์กันเสร็จแล้วเหรอคะพี่กวาง...”

    คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันส่งยิ้มแสนหวานให้อย่างสมชื่อ แต่รอยยิ้มนั่นทำให้ฉันชาไปทั้งตัว ใบหน้าร้อนวูบวาบ อันที่จริง มันร้อนไปทั้งตัวเลยต่างหาก

    อาทิตย์ก่อน น้องตาลหวานมาขอคบกับพี่”

    ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นความยินดีที่ตัวเองหลุดพ้นจากการถูกตามตื้อก็หายไปหมด ที่ว่าคนใกล้ตัว ใกล้มากขนาดนี้เชียว

    “พวกพี่...คบกันแล้วเหรอคะ”

    “แปลกใจใช่มั้ยล่ะจ้ะ ตาลเองก็ไม่คิดว่า พี่กวางจะตอบรับ”

    ตาลหวานส่งยิ้มกว้างอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เธอกระโดดเข้ามากอดแขนของฉันซบหน้าลงกับไหล่แล้วมองไปที่พี่กวางด้วยสายตายินดี

    “ที่ตาลไม่กล้าบอกครีมเพราะกลัวครีมจะโกรธน่ะจ้ะ แต่พอแป็นแบบนี้ก็โล่งใจนะ”

    “ตาล...ไปชอบ...ตั้งแต่เมื่อไหร่”

    “ก็ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันน่ะจ้ะ”

    ตัวฉันยังคงไม่หายชา จะว่าก็ไม่ได้นะว่าเรื่องรักแรกพบมันไร้สาระ เพราะกับฉันเองก็ยังหลงชอบตาลตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้า...

    “ครีมดีใจกับตาลมั้ยจ้ะ”

    “ก็...ยังตกใจอยู่”

    “นั่นสิ ถึงว่าหน้าซีดจังเลย”

    ตาลหวานเอามือมาอังหน้าผากฉันที่ยังคงนิ่งค้าง ฉัน...ทำอะไรไม่ถูกเลยทีนี้

    “น้องตาล!

    จู่ๆตาลก็วูบดีที่ฉันรับเอาไว้ได้ทัน ขอบคุณเสียงร้องของพี่กวางนะที่ทำให้ฉันตั้งสติได้ทัน

    “ขอโทษนะ ทำให้ตกใจ โรคเก่ากำเริบน่ะ”

    “ตาลเป็นโรคอะไร”

    เหลือเชื่อเลย รู้จักกันมาสองปีแล้วฉันยังไม่รู้แม้กระทั่งว่าตาบป่วย มีโรคประจำตัว อ่อนหัดจริงๆนะครีมเค้ก

    “ไม่มีอะไรมากหรอกจ้ะ”

    “อยากบอกเองหรือให้เค้กไปสืบ เลือกเอา”

    ในเมื่อถามดีๆไม่ยอมบอกก้ต้องใช้ไม้ขู่ซะหน่อย ตาลทำหน้ายุ่งแล้วบู้ปากอย่างงอนๆ มันน่ารักมากก้จริง แต่ฉันคงจะใจอ่อนให้ไม่ได้หรอกนะในกรณีนี้

    “พี่กวางช่วยตาลหน่อยสิคะ ครีมขู่ตาลน่ะ”

    “ถ้าเป็นเรื่องอื่นพี่ก็คงช่วยนะ แต่ว่า เรื่องนี้พี่เองก็อยากรู้เหมือนกัน”

    พี่กวางว่ายิ้มๆ ขอบคุณซ้ำสองที่เขาไม่เออออไปกับตาลหวาน ในเมื่อไม่มีพวก คนในอ้อมแขนของฉันก็เลยสะบัดตัวออกแล้วเดินโต๋เต๋ออกนอกห้องไป

    “ทุกคนรุมแกล้งตาลอะ”

    “เดี๋ยวดิ!กลับมาบอกให้รู้ก่อนว่าป่วยเป็นโรคอะไร”

    “ช่างเถอะครับบน้องครีม ไว้พี่จะถามให้อย่าห่วงเลยนะ”

    พี่กวางว่าแล้วส่งยิ้มให้ฉัน ทำไมนายดูเหมือนไม่ห่วงอาการของแฟนนายเลยล่ะ หรือว่าฉันจะเป็นฝ่ายห่วงมากไปเอง...

    “งั้นครีมไปก่อนนะคะ”

    ถึงแม้ว่าฉันจะรู้สึกแปลกๆที่รู้ว่าตาลคบกับพี่กวาง แต่ฉันต้องยอมรับการตัดสินใจของตาลหวาน...

    “คะ...ครีมจ๋า จะพาตาลไปไหนงั้นเหรอ”

    “ตามาเฉยๆ แล้วก็ไม่ต้องถามอะไรด้วย”

    “อา...แต่ว่าถ้าหายไปแบบนี้เดี๋ยวพี่โกโชจะว่าเอานะ”

    ตาลหวานว่าแล้วทำหน้าอ้อนเพื่อให้ฉันหยุดลากเธอสักที พูดถึงพี่ชาย เราสองคนคืนดีกันตั้งแต่เข้าเดือนที่สี่ของสองปีที่แล้วแล้วล่ะ ฉันทนใจร้ายกับตัวเองด้วยการไม่มีโกโชได้หรอก แต่นี่มันไม่ใช่ประเด็นนะ ตาลหวานพักนี้วูบบ่อย ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเป็นอะไร   

    “บอกก่อนสิจะพาไปไหน”

    “โรงพยาบาล”

    ล้อเล่นใช่มั้ย

    “หน้าตาครีมล้อเล่นรึไง”

    ฉันว่าเสียงเรียบแล้วรีบดึงกึ่งลากตาลหวานให้เดินตามมา

    “ครีม นี่เรากำลังโดดเรียนนะ เดี๋ยวเป็นเรื่อง”

    “จะเรื่องอะไรครีมก็เคลียร์ได้ ถ้าเรื่องมันมากนักครีมจะลาออกซะให้โรงเรียนนี้มันถูกปิด ตาลก็เลือกเอาว่าจะต้านอารมณ์ครีมตอนนี้ หรือจะยอมไปกับครีมดีๆ”

    “แต่ตาลไม่อยากให้รู้นี่นา”

    “แต่ครีมอยากรู้ และต้องรู้ให้ได้ ตาลเคยดูแลตัวเองบ้างมั้ย รู้รึเปล่าว่าพักนี้ตัวเองหอบจัดแถมยังดูเหนื่อยเกินเหตุแล้วก็วูบบ่อยด้วยนะ”

    “ครีมรู้ได้ไง”

    ฉันไม่ตอบคำถามของตาลหวานแต่เร่งฝีเท้าให้เดินเร็วยิ่งขึ้น จะให้ตอบได้ยังไงว่าเพราะสายตาของฉันแลอยู่ที่เธอเพียงคนเดียว...

    โรงพยาบาล...

    ว่าไงคะคุณลุงหมอ เพื่อนครีมเป็นอะไร

    ทันทีที่เห็นคุณลุงหมอเพื่อนคุณป๊าเดินออกมาจากห้องตรวจ ฉันก็รีบเด้งตัวขึ้นจากเก้าอี้ในทันที คุณลุงหมอส่งยิ้มให้ฉันนิดๆแล้วเรียกให้ตามเข้าไปในห้องทำงาน

    “เพื่อนน้องครีมเป็นโรคหัวใจค่ะ นี่เคยได้รับการรักษาที่อื่นรึเปล่า...”

    “ลุงหมอว่าเพื่อครีมเป็นอะไรนะคะ”

    ฉันถามเสียงดังอีกครั้ง เพื่อตอกย้ำให้แน่ใจในสิ่งที่ได้ยินว่าไม่ผิดพลาด ว่ากันตามจริง ฉันเองก็อยากให้มันผิดพลาดเหมือนกัน

    “เพื่อนน้องครีมเป็นโรคหัวใจค่ะ ที่อาการไม่ค่อยกำเริบเพราะดูแลตัวเองดีมาตลอด แต่ดูเหมือนช่วงหลังๆจะเครียดรึเปล่า หรือว่ามีเรื่องะไรให้ให้ตื่นตกใจ ดีใจอะไรทำนองนี้ อาการถึงได้ทรุด เนี่ย สงสัยจะไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองด้วย”

    “คุณลุงหมอบอกได้มั้ยคะว่าเป็นมาตั้งแต่เมื่อไหร่”

    “ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นมาตั้งแต่เกิดน่ะค่ะ น้องครีม...เป็นอะไรรึเปล่าลูก หนูหน้าซีดนะ”

    ฉันส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกจากปาก ตาลหวานเป็นโรคหัวใจ ทำไมฉันถึงได้ไม่เคยรู้ และที่เธอไม่อยากบอก เพราะอะไรกันนะ...

    “ครีม...”

    ฉันเข้าไปประคองตาลหวานที่เพิ่งออกจากห้องตรวจให้นั่งรถเข็นและพาเดินไปพร้อมกับคุณพยาบาลตรงไปยังห้องพักพิเศษที่เตรียมไว้ ทันทีที่ได้อยู่เพียงลำพังสองคน ตาลก็เปิดฉากทันที

    “ขอร้อง!อย่าบอกพี่กวางนะ”

    ทำไมล่ะ

    ฉันถามเสียงเบา สติยังไม่ค่ออยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ ในสมองยังคงท่องจำสิ่งที่ลุงหมอพูดเอาไว้อย่างไม่ขาดหายแม้แต่ประโยคเดียว...

    ตาลอยากให้พี่กวางรัก ไม่ใช่สงสาร

    คำพูดนั้นทำให้ฉันนิ่งไปอีกครั้ง ทำไม ทั้งๆที่ฉันมาก่อนแท้ๆแต่ทำไมคนที่ตาลชอบต้องเป็นพี่กวางด้วย หรือเพียงเพราะเขาเป็นผู้ชาย...

    “นะ ครีมนะ อย่าบออกเลยนะ สัญญาสิ”

    “อือ...สัญญา”

    ตาลหวานยิ้มออกมา รอยยิ้มแสนหวานสมชื่อแต่เป็นความหวานที่เคลือบพิษรึไงนะ เพราะทุกครั้งที่ฉันมอง ฉันถึงต้องเจ็บปวดอยู่ร่ำไป เจ็บปวดเพราะรู้ว่ายังไงๆมันก็ไม่ใช่ของฉัน...ไม่มีทาง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×