ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Secret of heart ความลับหัวใจของยัยจอมมาร

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7 : ขอให้เหมือนเดิม

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 57


    ฉันเกลียดวันจันทร์ที่สุด!

    “ริชชี่~หม่ำๆข้าวเช้าก่อนนะคะลูก>w</

    “ไม่ล่ะค่ะ”

    “ใจร้าย T^T ฝีมือแม่มันแย่ขนาดนั้นเชียวเหรอ”

    “.....”

    ฉันเลือกที่จะเงียบแล้วเดินเลี่ยงออกมาซะยังจะดีกว่าทำร้ายจิตใจแม่ตัวเองด้วยการบอกความจริงให้นางรู้ว่า อาหารฝีมือแม่มันพัฒนากลายเป็น Poison cooking เข้าไปทุกวันแล้ว - -

    “ริช จะไม่หม่ำจริงๆเหรอลูกT^T

    “จริง -_-

    “จริงๆเหรอ แม่ลุกขึ้นมาทำแต่เช้าเลยนะTT^TT

    “จริงค่ะ”

    “หม่ำนิดหนึ่งก็ได้ แม่เป็นห่วงนี่นาTTT^TTT

    ถ้าแม่เป็นห่วงหนู หนูว่าแม่ควรล้างสมองตัวเองแล้วกรอดข้อมูลลงไปใหม่ว่า ฉันเกลียดการทำอาหาร จะดีกว่าค่ะ ชีวิตหนูจะปลอดภัยกว่านี้เยอะ

                “คนบ้านนี้นี่มันยังไงกันนะ!อุตส่าห์ตื่นมาทำอาหารเช้าให้กินก็เอาแต่พูดว่าไม่กันทั้งพ่อทั้งลูก โมโหแล้วนะ!!

    แม่ทำท่าเหมือนก๊อซซิลล่าเตรียมถล่มเมืองเดินตรงไปทางห้องทดลองของพ่อ แต่ก่อนจะได้ทำลายล้างอะไรสักอย่างในบ้านสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นช่วยชีวิตขึ้นมาซะก่อนใครคือผู้กล้าขี่ม้าขาวมาแต่เช้าแบบนี้นะ

    “โย่ว~!จอมมาร”

    “ทำอะไรน่ะริช แม่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เลย(._.)”

    ตรงไหนที่บอกว่าเหมือนจะร้องไห้ นั่นน่ะใบหน้าของการทำลายล้างชัดๆ พวกนายมองไม่ออกรึไง โซลยิ้มกว้างส่งมาทักทาย ในขณะที่เซโร่เอาแต่มองหน้าฉันสลับกับแม่ที่ยิ้มด้วยความตื้นตัน นั่นสิ ทำไมฉันถึงเดาไม่ออกนะว่ามีแค่ตัวยุ่งพวกนี้เท่าที่กล้ามารบกวนถึงที่บ้านฉันอย่างนี้-^-

    “โซล>< เซโร่>< ช่วยแม่ด้วย”

    “ทำไมเหรอครับ จอมมารขู่ฆ่าคุณน้าเหรอครับ”

    “ถ้าขืนยังปากดีแบบนี้ ฉันจะให้นายได้ตายเป็นศพแรกเลย สัญญา”

    “ไม่เอาดีกว่า ไม่ต้องให้เกียรติฉันขนาดนั้นก็ได้ ^^;

    โซลว่าแล้วยิ้มแห้งๆส่งมาให้พร้อมกับทำตัวลีบไปหลบหลังเซโร่ในทันที และไอ้คนโดนใช้เป็นโล่ก็วิ่งไปหลบหลังแม่ของฉันอีกที ทีแบบนี้ละก็รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดีกันเชียวนะ

    “ตกลงจะมีใครบอกฉันได้รึยังว่ามาทำอะไรกันตั้งแต่เช้า”

    “มารับเธอไปโรงเรียนไง” เซโร่ตอบเสียงใส ใบหน้ายิ้มๆซีดลงก่อนจะรีบก้มลงหลบหลังแม่ของฉันให้ต่ำลงอีก

    “ฉันขอเหรอ”

    “พวกฉันเสนอหน้าเองแหละ ฮ่าๆ><”ประโยคนี้มาจากใครไม่ต้องถามเลยว่ามาจากใคร - -++

    ฉันมองผู้ชายสองคนที่ยืนหลบอยู่ข้างหลังแม่ของตัวเองอย่างเหนื่อยใจ เซโร่ในชุดนักเรียนสุดเนี้ยบที่มีแม่ของฉันยืนปลื้มปริ่มยิ้มหน้าชื่นอยู่ข้างหน้า กับโซลในชุดนักเรียนที่ผ่านการโมดิฟายมาซะแทบไม่เหลือเค้าเดิม...มันก็หล่อดีหรอกแต่....แต่...เดี๋ยวนะ ทำไมโซลใส่ชุดนักเรียน

    “วันนี้นายไปโรงเรียนด้วยเหรอ โซล”

    “แหงสิ วันนี้มีสอบนะจ้ะเธอ”

    โซลตอบพลางยักคิ้วกวนประสาท นี่คิดว่าอยู่หลังแม่แล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรสินะ

    “หยุดทำหน้าดุเลยนะ ริช><!!

    และ...แม่ฉันก็ออกโรงปกป้องหนุ่มๆของเธอ - - นี่ฉันเคยบอกรึเปล่า ว่าแม่ชอบหลงเสน่ห์เพื่อนหนุ่มน้อยน่ารักทั้งสองของฉันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้ว และฉัน...ต้องทำใจ

     “แม่คะ หลีก...”

    “หนูนั่นแหละหลีกไปลูก แม่จะพาหนุ่มๆไปทานข้าว^^

    และก่อนที่จะได้มีใครประท้วง แม่ก็วิ่งยิ้มแฉ่งลากทั้งคู่เข้าไปในครัว สองหนุ่มนี่ไม่เคยลิ้มลองฝีมือแม่เลยส่งยิ้มหวานอย่างเอาอกเอาใจตามไปอย่างว่าง่าย แล้วพวกนายจะได้กลัว

                หลังมื้อเช้าแสนทรหดและอดทนผ่านพ้นไป (ฉันปฏิเสธลูกเดียว)ทั้งโซลและเซโร่ที่อยู่ในสภาพผะอืดผะอมพร้อมจะอาเจียนออกมาได้ทุกเวลาก็ฝืนยิ้มหวานให้กับแม่ บอกลา แล้วรีบลากฉันให้ออกจากบ้านมาชนิดที่เรียกว่าวิ่งไม่เห็นฝุ่น และทันทีที่พ้นประตูรั้ว ทุกสิ่งอย่างที่ลงไปอยู่ในกระเพาะก็ออกมาสู่โลกกว้างอีกครั้ง สมน้ำหน้า

    “ทำไมไม่เตือนสักหน่อยล่ะว่า ไอ้นั่นน่ะมันกินไม่ได้!!

    เซโร่ต่อว่าทันทีที่หยุดคายของเก่า นั่งทรุดอยู่ริมฟุตบาทอย่างหมดสภาพ ในขณะที่โซลเองก็ดูเหมือนจะไม่มีแรงพูดอะไร แต่ก็ไม่วายส่งสายตาหาเรื่องมาให้กับฉัน

    “ก็ดูพวกนายระริกระรี้อยากลองกินกันดูนักนี่”

    “เธอรู้อยู่แล้วใช่มั้ยฮะ ว่านั่นมันไม่ใช่ของกิน”

    “นายน่าจะฉลาด คิดได้ตั้งแต่เห็นว่าฉันไม่ยอมกินแล้วนะ โซล”

    “ใครจะไปรู้วะ!ก็ปกติเธอก็ไม่กินข้าวอย่างคนปกติอยู่แล้วนี่”

    “ยังจะปากดี อยากให้ฉันเข้าไปบอกแม่มั้ยว่าพวกนายเอามาคายทิ้งไว้ที่นี่”

    “ไม่!!/โนวววว!!!

    สองหนุ่มพร้อมใจประสานเสียงตอบรับโดยพร้อมแพรียง พอเห็นแบบนั้นฉันก็อดหัวเราะไม่ได้ สภาพน่าสงสารซะจนซ้ำเติมไม่ลงเลยจริงๆ วันนี้มีสอบย่อยด้วย จะไหวมั้ยเนี่ย - -

    “ไหวมั้ยเนี่ย”

    “ไหวน่า...ป่ะ!ไปโรงเรียนกันได้แล้ว”

    โซลกลั้วน้ำในปากก่อนจะส่งให้เซโร่ แล้วทั้งคู่ก็ตรงมาที่ฉันหลังจากที่หยุดอาการคลื่นไส้ได้แล้ว รถสปอร์ตสุดหรูสีแดงสดจอดอยู่ไม่ไกลถูกเปิดประตูออกโดยฝีมือเซโร่ในขณะที่โซลเข้าประจำที่คนขับรถ ฉันก้าวขึ้นรถและหลังจากที่รถออกตัวไปได้สักครู่ ก็ถึงเวลาสอบสวน

    “เอาล่ะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ พวกนายมารับฉันทำไม”

    “ก็แค่อยากมารับน่า” โซลว่าทั้งๆที่สายตายังไม่ละจากถนนใหญ่

    “จะพูดความจริงหรือนายอยากให้ฉันเค้นเอง... ขอบอกเอาไว้ก่อน ครั้งนี้ไม่ว่านายจะขอร้องให้ช่วยอะไรเกี่ยวกับเทียนหอม เชิญกลับไปฝันกลางวันที่บ้าน ณ ตอนนี้ได้เลยนะเซโร่ ส่วนนายนะ โซล ไม่ว่านายกำลังคิดจะทำอะไร ขอแนะนำให้หยุดคิดก่อนที่ฉันจะล่วงรู้ เพราะไม่อย่างนั้นนายอาจจะไม่มีโอกาสแม้กระทั่งเอ่ยคำแก้ตัวกับฉัน”

    ฉันดักคอเอาไว้อย่างรู้ทัน และจะเพราะเสียงเฉียบติดจะดุของฉันหรือเพราะพวกนี้มีความผิดติดตัวรึเปล่าก็ไม่รู้ว่าข้อไหน แต่สองหนุ่มกลับพากันสามัคคีชุมนุมกลืนน้ำลายลงคอในทันที

    “รู้ทันซะด้วย”เซโร่

    “ก็บอกแล้วว่าปิดไม่มิดหรอกU^U”โซล

     “ถ้ารู้ว่าปิดไม่มิดก็คราวหลังก็อย่าทำ”

    “ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่า พวกฉันแค่อยากมารับ ส่วนเรื่องจุดประสงค์ ปล่อยๆมันไปซะ” เซโร่ว่าพลางถอนหายใจแล้วอมยิ้มอะไรไม่รู้คนเดียว ในขณะที่โซลกลับฮัมเพลงหนีความผิด เนียนไหลได้เป็นปลาไหลใส่โรลเลอร์เบลดเชียวนะคุณ

    โรงเรียน Sent. Sonata

    ทันทีที่รถจอดสนิท ฉันก็เดินตรงเข้าไปในโรงเรียนพร้อมกับเพื่อนสนิทที่สีหน้ายังดูซีดๆ แต่ดูท่าว่าวันนี้ทั้งโรงเรียนจะถึงทีแตกตื่น เพราะแม้ว่านักเรียนจะไม่กล้ามองหน้าฉันอย่างเคยก็จริง แต่หลงจากที่ฉันเดินผ่านไปแล้ว เสียงซุบซิบกรี๊ดกร๊าดก็ดังตามขึ้นมาตลอดระยะทางที่เดินผ่าน...ใช่ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรล่ะนะ

    “ถ้าวันหลังพวกนายจะช่วยมากันเองจะดีมากL” เสียงของผู้หญิงพวกนี้มันน่ารำคาญ

    “มีเพื่อนหล่อเธอต้องทำใจนะJ” โซลตอบพลางยิ้มกวนๆ

    “ต้องยอมรับนะริช ว่าเพื่อนเธอมีเสน่ห์เหนือความน่าเกรงขามของจอมมาร”เซโร่ยิ้มกว้างหลังเอ่ยประโยคนี้ออกมา พระเจ้าคะ ทำไมพระองค์ถึงได้บันดาลให้หนูมาชอบคนหลงตัวเองแบบนี้ด้วย = =

    “แล้วถ้าเสน่ห์ของพวกนายนำปัญหามาให้ ก็อย่ามาร้องขอความเมตตาจากความน่าเกรงขามของฉันแล้วกันนะ”

    พูดทิ้งท้ายประโยคไว้แล้วก็เดินจากมาทั้งๆแบบนั้น ก่อนพวกนั้นจะโวยวายแล้ววิ่งไล่ตามมาฉันก็เดินมาไกลแล้ว

     “เฮ้!ฉันตั้งตารอเช้านี้มาก เพราะอย่างนั้น ทักทายกันด้วยรอยยิ้มหน่อยสิคนสวยJ

    เสียงนั้นมาพร้อมรอยยิ้มกริ่มของคนตัวสูงที่มายืนขวางหน้าของฉันเอาไว้ ฉันหยุดการเดินเร็วๆของตัวเองก่อนที่สายตามาดร้ายจะส่งตรงพุ่งดิ่งไปยังร่างสูงๆที่อาจหาญมาขวางหน้า  ทำไมเช้านี้มีแต่คนมากวนใจจังโว้ย!

    “สวัสดีครับ~ เราเคยรู้จักกันรึเปล่า~หน้าตาคุ้นๆ~...”

    “ถามจริง...นั่นเสียงคนร้องเพลงหรือเสียงควายโดนรถทับ”

    “โห~ปากร้ายพอๆกับความสวยของคุณเลยนะ^^;; แต่ไม่เป็นไร เพราะผมหล่อ ผมให้อภัย”

    ฉันชักสีหน้าเย็นชาใส่เขาอย่างจงใจ ผู้ชายพวกนี้นี่มันสายพันธุ์หลงตัวเองกันหมดเลยรึยังไงนะ

    “ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับนาย  หลีกไป”

    “โว้~ถึงแม้หน้าเธอจะดุแค่ไหน มันก็ยังสวยสุดๆไปเลย><

    “สิ่งที่ฉันบอกนายคือ หลีกออกจากทางเดินไปเดี๋ยวนี้”

    ซีซาร์ส่งยิ้มมาให้แม้จะเห็นได้ชัดว่าในแววตาของเขาไม่มีความหวั่นเกรงสักเลยแม้แต่น้อย แต่เขาก็ยอมถอยหลังปล่อยให้ฉันเดินผ่านมาและเขา...ก็เดินตามมาด้วย - -

    “นายจะตามฉันมาทำไมนะ”

    “ก็ผมอยากคุยกับคุณ อยากรู้จักคุณ คุณดูรีบๆแต่ผมว่างก็เลยเดินตามคุณมานี่ไง”

    “ฉันไม่อยากรู้จักนาย”

    “ไม่เป็นไรนี่ ผมอยากรู้จักคุณคนเดียวก็พอแล้ว^^

    รอยยิ้มกว้างที่ถูกส่งมาให้ไม่ได้ทำให้หมอนี่ลดระดับความน่ารำคาญเลยสักนิด มีแต่จะเพิ่มความหงุดหงิดให้ก็เท่านั้น

    “ทำไมอารมณ์เสียแต่เช้าเลยล่ะวันนี้ รู้มั้ยว่าโมโหบ่อยๆเธอจะหน้าแก่เร็วนะ”

    “เพราะมีคนน่ารำคาญอย่างนายอยู่ในโลกใบนี้ยังไงล่ะ”

    ฉันหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับซีซาร์ที่ยังยิ้มอย่างไม่หวาดหวั่น ดูจากสถานการณ์แล้วหมอนี่ไม่น่าจะปล่อยฉันไปง่ายๆ ทำไมถึงรู้น่ะเหรอ ก็เพราะสายตาของเค้ามีแววตาเหมือนฉันน่ะสิ

    “นาย...อยากรู้จักฉันใช่มั้ย”

    “ดูเหมือนว่าในที่สุดคุณก็จะให้โอกาสผมแล้วสินะ^^

    ฉันขยับเข้าไปใกล้เขาจนชิดพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้กับเขา...ยิ้มหวานอย่างที่ใช้เฉพาะเวลาที่ฉันต้องการหว่านเสน่ห์ และเมื่อไหร่ที่จอมมารหว่านเสน่ห์นั่นหมายความว่าต้องมีคนโดนสังเวย

    พลั๊ก!!

    “โอ...โอยย><

    เข่าของฉันกระแทกเข้ากลางจุดอ่อนของเขาแล้วสวนเข้าที่ลิ้นปี่อีกหมัดส่งผลให้คนตรงหน้าทรุดลงไปกองกับพื้นแถมยังจุกจนพูดอะไรไม่ออกอีกต่างหาก

    “ขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย อย่ามายุ่งกับฉัน”

    ฉันทิ้งเขาเอาไว้ข้างหลังแล้วเดินจากมาอย่างไม่ไยดี ก็ทำตัวน่ารำคาญแถมยังมากวนประสาทอีกต่างหาก สมควรแล้วล่ะ

     “เฮ้~!จอมมาร อย่าทิ้งเราไว้สิ><

    “ช่วยด้วยริช >< พอเธอทิ้งพวกฉันเอาไว้พวกผู้หญิงก็วิ่งเข้ามารุมเลยอะTT

    ทั้งโซลและเซโร่ที่วิ่งตามมาข้างหลังรีบเกาะแขนฉันเอาไว้คนละข้างพลางทำสีหน้าอ้อนวอนเหมือนลูกหมา เหอะ!ไงล่ะ เสน่ห์อันเหลือล้นนี่ช่วยอะไรได้บ้างล่ะ

    “ไหนว่ามีเสน่ห์เหลือล้นไงล่ะ

    “ขอความเมตตาแบ่งความน่าเกรงขามมาคุ้มครองพวกเราหน่อยเหอะน้า~T^T

    ฉันปรายตามองเพื่อนแล้วก็ต้องถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน พระเจ้าคะ จะมีเพื่อนทั้งทีขอเพื่อนดีๆหน่อยได้มั้ยคะ

    “กรี๊ด><!! คนอะไรไม่รู้ ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารัก”

    “ดูสองหนุ่มนั่นสิ น่าร้ากกก><!!

    เสียงน่ารำคาญหยุดลงทันทีที่ฉันปรายสายตาเย็นเยียบไปให้ และนั่นทำให้สองหนุ่มข้างกายพากันลอบถอนหายใจในทันที...แต่ก็ไม่วายส่งยิ้มน้อยๆเป็นเชิงขอโทษไปให้ยัยพวกนั้น ยังไม่เข็ดอีก

    ฉันต้องไปหาเทียนหอมละ พวกนายอยู่กันได้นะ

    อย่าห่วงเลยเซโร่ ขาดนายฉันไปสักคนไม่ได้ทำให้ฉันเดือดร้อนหรอก

    ถึงแม้ถ้อยคำที่พูดออกไปจะแสดงท่าทีเหมือนกับว่าฉันไม่แคร์ แต่ลึกๆในใจแล้วฉันก็ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ว่าฉันไม่เจ็บปวด...ใช่ ริชแบรนน์...ข่มความเจ็บปวดเอาไว้ อย่าให้ใครรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังอ่อนแอ ในเมื่อเธอเลือกเองแล้ว...ก็จงรับผิดชอบเส้นทางที่เธอเลือกเองนี้ซะ

    ไอ้เซโร่ เดี๋ยว!”

    ฉันหันไปมองโซลที่อยู่ๆก็เกิดเฮี้ยนเรียกเซโร่เอาไว้ บางที...หมอนี่อาจจะอยากทำอะไรเพื่อช่วยฉัน...และอะไรที่ว่านั่น...มันเป็นสิ่งไม่จำเป็น!!

     ว่าไง โซล แกมีอะไรวะ”

    “ฉันว่าแก...”

     นายจะรีบไปหรือจะรอให้ฉันใช้นายไปทำเรื่องเสี่ยงตาย”

    “ไปแล้วคร้าบ~><

    เซโร่ยิ้มรับ ตบบ่าของโซลเบาๆสองสามทีเหมือนให้กำลังใจก่อนไปรบแล้ววิ่งจากไป ฉันได้แต่ยืนมองตามแผ่นหลังนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา นึกทั้งสมเพชตัวเองที่อ่อนแอ และนึกอยากหัวเราะให้กับคนที่บังอาจมาปกป้องฉัน

    เราต้องคุยกันนะ จอมมาร

    นายเลิกเรียกชื่อฉันแล้วหันไปเรียกฉายาบ้าๆนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะ โซล

     ก็ตั้งแต่ที่เธอทำให้ฉันใจเต้นแรงเวลาเรียกชื่อเธอน่ะสิ”

    โซลพูดเหมือนไม่ใส่ใจก่อนจะจับมือของฉันแล้วพาลากไปอย่างที่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขารู้จุดหมายหรือเปล่า รู้แต่ประโยคที่เขาพูดออกมา มันกำลังทำให้ภายใจของฉันเกิดรีเอฟเฟคโดยไม่รู้ตัว...อีกแล้ว

    ....ลานว่างหลังโรงเรียน...

    โซลจับไหล่ฉันกดให้นั่งแล้วตัวเองถึงจะนั่งตาม ตาคู่คมจับจ้องฉัน ในสายตานั้นมีความเจ็บปวดแฝงอยู่...ถึงเขาจะพยายามซ่อน ให้มิดยังไงฉันก็หาเจอ

    เธอจะมาห้ามฉันไว้ทำไม!ฉันพยายามจะช่วยเธอนะ

    “ไม่จำเป็น”

    “ยังจะปากดีอีก!เจ็บเจียนตายแบบนั้น เธอเลิกทำท่าเหมือนไม่รู้สึกอะไรสักทีจะได้มั้ย”

     ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างที่นายว่านักหรอก

    โกหก

    ฉันไม่จำเป็นต้องทำอย่างที่นายว่านะ

    เธอเจ็บมากขนาดนี้ ทำไมฉันจะไม่รู้

    ฉันจ้องหน้าของเขาอย่างแปลกใจ หมอนี่นี่ยังไงกันนะ ก็บอกไปแล้วนี่นาว่าไม่เจ็บ ขืนนายยังมาถามเซ้าซี้แบบนี้ นายเองนั่นแหละที่จะต้องเจ็บ

    ทุกครั้งที่เธอมองเซโร่ มองเวลามันเดินไปหาเทียนหอม ฉันรู้ว่าเธอเจ็บ

    สองมือของโซลจับไหล่ของฉันเอาไว้อย่างแผ่วเบา สายตาคู่นั้นเหมือนจะเน้นย้ำให้ฉันรับรู้ถึงความเป็นห่วงที่เขาส่งมา...แต่ฉันไม่เคยที่จะรับมันเอาไว้เลยสักนิด

    เพราะฉันมองเธอมาตลอด...มองเธอคนเดียว ฉันถึงได้รู้ว่าเธอรู้สึกยังไง

    โซล...

    ไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลาหรอกนะ ริช...

    เสียงที่เรียกชื่อฉันในเวลานี้ ทำไมถึงได้อ่อนโยนจนสามารถสั่นคลอนหัวใจของฉันได้ขนาดนี้กันนะ

    ถ้าอยากจะร้อง...ร้องออกมาเถอะ

    คนอย่างฉันไม่มีน้ำตาหรอกโซล

    “เด็กผู้หญิงทุกคนมีน้ำตา ริช”

    สิ้นประโยค โซลดึงตัวของฉันเข้าไปกอดอย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าฉันจะแปลกใจที่เขากล้าทำแบบนี้แต่ลึกๆในใจแล้วกก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองต้องการจะผลักไสอ้อมกอดของผู้ชายคนนี้ 

    ตอนนี้เราอยู่กันสองคน เธอไม่ใช่จอมมารหรอกนะ ริช เพราะงั้นจะร้องก็ร้องออกมาเถอะ

    ฉันไม่ได้อยากจะร้องไห้

    ก็บอกแล้วไงว่าอย่าโกหก

    ฉันซบหน้าลงกับอ้อมกอดของโซล ที่ผ่านมาฉันไม่เคยเป็นแบบนี้ และหากจะหาเหตุผลตอนนี้ฉันเองก็บอกไม่ได้เช่นกัน รู้แค่ตอนนี้ หัวใจที่กักเก็บสะสมความปวดร้าวและความรู้สึกต่างๆเอาไว้ กำลังจะพังทลายเป็นเขื่อนแตกเพราะผู้ชายคนนี้

    “สัญญากับฉันนะโซล”

    “ว่าไง...”

    “หลังจากวันนี้ไป...ขอให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม”

    “...”

    “ขอแค่ ขอให้เหมือนเดิม”

    “ฉันสัญญา”

    น้ำตาที่มีอยู่ไหลทะลักพร้อมกับเสียงคร่ำครวญของฉัน แค่วันนี้เท่านั้นที่ฉันจะปล่อยตัวเองให้มีอิสระ ไม่ต้องคิดไม่ต้องปิดบังความรู้สึกใดๆ ปล่อยให้หัวใจได้รับการเยียวยาจากหมอที่ชื่อว่าโซล....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×