คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : พี่เลี้ยง?
วะ...ว่าไงนะ!!ทายาทอะไรกัน สงสัยฉันจะฟังเข้าข้างตัวเองเกินไป
“อาม่า อาม่าล้อผมเล่นใช่ไหม ^^ เรื่องที่จะเอาสุดที่รักผมไว้ที่นี่ตลอดกาลอะไรนั่นน่ะ”
“แค่สองเดือนย่ะ! ฉันไม่ใช่แกนะเจ้าเพสจะได้เล่นไปซะทุดเรื่อง”
แง T^T นั่นยิ่งตอกย้ำความจริงใช่ม้ายยยย!!
“ทำไม!ทำไมอาม่าต้องพรากเราสองคนออกจากกันด้วยT^T”
เฮียเพสว่าแล้วรีบวิ่งมาคว้าตัวฉันไปกอด คิดว่าตัวเองกำลังเล่นละครหรือทำมิวสิควีดิโอหรือไงกัน!
“อาเฉิน ลูกนายนี่อาการโคม่านะ”
อาม่าเหล่มองเตี่ยที่ยิ้มแห้งๆอย่าหนักใจ ไม่ใช่แค่เตี่ยหรอก ฉันเองก็จนปัญญาจะรักษาไอ้เฮียบ้านี่แล้ว!
“ผมเองก็กลัวอยู่ครับหม่าม้า”
“พัฟ...”
คราวนี้เป็นฉันที่ได้รับความสนใจ อาม่าหันมายิ้มให้อย่างเอ็นดูซึ่งหาได้ยากยิ่งเลยนะ ไหว้ซะๆ สาธุ
“อาม่าแก่แล้ว เพราะอย่างนั้นเลยต้องเลือกผู้สืบทอด รู้ใช่ไหมว่ากิจการมันเยอะแค่ไหน โฮะๆๆๆๆ”
อาม่าเริ่มน่าหมั่นไส้แฮะ-_-; มีการหัวเราะโฮะๆๆๆๆด้วยนะ
“ทำไมถึงเป็นน้องหนูของผมล่ะ”
เฮียเพสถามทั้งๆที่ยังไม่ยอมปล่อยฉัน ต้องให้บอกเฮียกี่ครั้งว่านี่น้องนะ!เดี๋ยวหวั่นไหวขึ้นมาจะกลายเป็นตราบาปไม่รู้ลืม T^T
“อาม่าหลงพัฟอะ มีปัญหาอะไรไหม?”
“เหตุผลเอาแต่ใจอย่างรุนแรงเลย”
“แล้วไงล่ะ หลานๆคนอื่น อาม่าก็มีมรดกให้ แค่ให้พัฟเป็นคนรับมรดกส่วนใหญ่เอง”
ฉันควรจะดีใจใช่ไหมที่อาม่ารักขนาดนี้ แต่ทำไมฉันไม่รู้สึกเลยฟะ
“พัฟมาอยู่ที่นี่สองเดือนกับอาม่านะ ถ้าทำให้อาม่าพอใจได้ครบกำหนดแล้วเดี๋ยวอาม่าจะส่งกลับบ้าน”
แสดงว่าถ้าไม่พอใจก็ต้องอยู่ต่อใช่ม้ายยย!!!
“พัฟยังเป็นเด็กไร้อนาคตอยู่เลยนะคะอาม่า T^T ยังไม่รู้จะเลือกเข้ามหาลัยไหนเลย เป็นทายาทอะไรนั่นให้ไม่ไหวหรอกค่ะ”
“ไม่เป็นไรๆ อาม่ามีพี่เลี้ยงให้”
พี่เลี้ยง? ! โฮ T^T นี่ฉันยังมีพี่เลี้ยงไม่พออีกหรือไง!
“ที่ว่าพี่เลี้ยงนี่...?”
รอยยิ้มกริ่มของอาม่าไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด แล้วไอ้เสือบ้ามันจะยิ้มทำไมล่ะฟะนั่น!
“ต่อไปนี้ก็ฝากตัวด้วยนะครับ คุณลูกแกะ”
แง ฉันว่าแล้วว่ารอยยิ้มนั่นมันไม่น่าไว้ใจ!ไอ้เสือบ้าจริงๆด้วย
“อาม่าปรึกษาใครหรือยังครับ เรื่องพี่เลี้ยงของน้องสาวผมเนี่ย”
เฮียพิฟที่คงจะเงียบไม่ไหวเอ่ยถามออกมาอย่างไม่กลัวตาย นี่เฮียติดเชื้อบ้ามาจากเฮียเพสรึไง!
“ปรึกษาเตี่ยลื้อนั่นแหละ!”
เฮียพิฟหน้าม่อยเลย โถ อาม่าก็ใจร้าย
“บอกแล้วไงข่าวดีข่าวร้ายสำหรับใครบางคน ก็เลือกเอาแล้วกันว่าใครเป็นข่าวดี ใครเป็นข่าวร้าย”
มันเป็นข่าวร้ายแบบสุดยอดสำหรับบ้านฉันเลย!
“งั้นพวกผมจะอยู่นี่กับน้อง”
เฮียพาสเกิดบ้าระห่ำพูดขึ้นมาอีกคน โดยที่เฮียๆคนอื่นออกอาการดี๊ด๊ากันโดยถ้วนหน้า ถ้าเฮียใหญ่พูดแบบนี้แสดงว่าคิดดีแล้วสินะ
“อาม่าไม่ให้อยู่อะ ห้องมันไม่พอ”
แง้วววว!ห้องไม่พออะไรล่ะคะเจ้านางงงงง! แล้วปกติลูกหลานมันไปนอนกันที่หนายยย!!!
“พวกผมขาดน้องไม่ได้นะ”
เฮียเพฟอ้อนอาม่าอย่างที่ตัวเองถนัด เห็นนะว่าอาม่าแอบใจอ่อนไปครู่หนึ่งด้วย
“อย่ามากล่อมนะ แค่สองเดือนอดทนกันไม่ได้รึไง!อาม่าเอาน้องพวกลื้อมาเลี้ยงไม่ได้ขุนไว้กินสักหน่อย ทำมาหวงซะน่าหมั่นไส้”
นั่นไงตามบทเลย พอแพ้ลูกอ้อนเฮียเพฟทีไรโมโหกลบเกลื่อนทุกที นี่ฉันต้องอยู่บ้านนี้คนเดียวตั้งสองเดือน แล้วยังต้องมีพี่เลี้ยงเป็นไอ้หมอนั่น ย้าก!ชีวาจะอาสัญ แต่ไม่รู้ว่าคนอาสัญนี่จะเป็นฉันหรือหมอนั่นกันนะ!
เวลาสองอาทิตย์ช่างเดินไวอย่างกับจะไปไล่ควายที่ไหน ในที่สุด วันนี้พวกเฮียก็ต้องเดินทางกลับบ้านกันแล้ว!จะทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียวจริงๆน่ะเหรอ รู้สึกเหงาแบบแปลกๆนะ ก็พวกเราไม่เคยต้องห่างกันนานๆเลยนี่นา
“อาม่าเตรียมตัวจะไปไหนคะนั่น”
เจ้กวางเจาถามท่านประมุขที่อยู่ในชุดสวยบ่งบอกว่าจะออกนอกบ้าน ถึงอยู่ในบ้านอาม่าก็สวย
“ไปส่งอาเฉินกลับบ้าน”
โอ้แม่เจ้าคุณสามยกกำลังอินฟินิตี้!!ถึงขั้นตามไปส่งเลยเหรอ อาม่าลืมกินข้าวเช้าจนเพี้ยนเลยรึเปล่า
“ไม่ต้องก็ได้ครับหม่าม้า เดี๋ยวให้พัฟไปส่งพวกผมที่สนามบินแล้วให้กลับมากับรถของที่บ้านก็ได้”
คุณชิงเซียวยิ้มเยาะให้เฮียเพสที่ยืนหน้าหงอยโอบกอดฉันอย่างกับจะตายพรากจากกัน แง เฮียอย่าสร้างบรรยากาศแบบนี้ได้ม้ายยย!
“ไม่ได้หรอก หม่าม้าไม่ไว้ใจพวกลูกชายบ้านลื้อ! เดี๋ยวเอาตัวพัฟกลับไป ขี้เกียจไปตามหากัน”
“ผมจะเอาไปได้ไงล่ะครับอาม่า พัฟตัวออกใหญ่”
“แกแหละตัวดีเจ้าเพส เมื่อวันก่อนแค่ห้านาทีก็พาพัฟออกนอกบ้านไปเรียบร้อยแล้ว!”
วีรกรรมเมื่อวันวานทำพิษสินะ คราวนั้นเฮียลองซ้อมแผนพาฉันหนีน่ะ มันได้ผลดีซะจนอาม่าระแวงเลย พี่ชายฉันมันอัจฉริยะ!
“รีบไปกันดีกว่า เดี๋ยวตกเครื่อง”
“รีบไล่กันจริงนะ กลัวผมเอาตัวที่รักไปขนาดนั้นเลยหรือไง”
เฮียเพสบ่นอุบอิบก่อนจะล็อคคอฉันแล้วลากไปขึ้นรถ แง ฉันไม่อยากห่างจากไอ้เฮียบ้านี่เลยให้ตายเหอะ!
ในรถตู้
เฮียทั้งห้าคนไม่ยอมปล่อยให้ฉันไปนั่งกับเจ้กวางเจาและเจ้ไชน่าที่เบาะหน้าสุดแต่กลับฉุดฉันมานั่งเบาะหลังกับตัวเอง และพวกเจ้ก็ไม่กล้าโต้แย้งด้วย แค่เฮียพาสกับเฮียพิฟส่งสายตาเชือดเชือนสองสาวก็สั่นเป็นเจ้าเข้าแล้ว!
“เฮียไม่อยากให้ไอ้คนขับนั่นมาดูแลเราเลยอะ”
เฮียพิฟว่าแล้วม้วนผมฉันเล่น ฉันก็ไม่อยากให้มันมายุ่งกับฉันเหมือนกันแหละ
“เฮียเป็นห่วงเราจังเลย”
พัฟก็อยากโดดไปกับเฮียเหมือนกัน พัฟไม่อยากอยู่ที่นี่ง่า
“กรุณาหยุดด้วยค่ะ คุณชาย”
“ถ้าผมหยุดหัวใจได้ก็คงให้คุณแล้วล่ะ”
“ดิฉันไม่เล่นค่ะ”
“ผมก็ไม่ได้เล่นนะ ผมเอาจริง”
“พอน่าเพส...หยุดซะที”
เฮียเพฟว่าพลางล็อคคอปิดปากเฮียเพสที่วันนี้ยอมห่างฉันไปนั่งเบาะกลางกับเฮียเพนท์เฮียเพฟ ตอนแรกก็สงสัยอยู่ว่าทำไมยอมง่ายๆ ที่แท้ก็ไปแกล้งคุณเลขาอาม่านี่เอง
“เฮียทำไรอ่ะ! นอกใจพัฟเหรอ”
“ไม่กล้าหรอกคร้าบ~ ก็น่ารักแบบนี้ใครจะไปสนคนอื่นกันล่ะ”
“เช้อ~คำพูดเฮียเชื่อได้ที่ไหน”
ฉันว่าพลางทำหน้าบึ้งเชิดใส่อย่างงอนๆ เออแฮะ นึกจะมางอนเอาวันนี้
“ทำไมวันนี้พัฟดูเป็นผู้หญิงจังหว่า”
“ไม่ต้องมาย้ำเลย!เห็นๆอยู่ว่าพวกเจ้เขาทรมานพัฟขนาดไหน!”
ฉันว่าก่อนจะชี้ผ้าที่ลอยพลิ้วสวยให้เฮียเพฟดู เพราะวันนี้ฉันพ่ายแพ้ต่อแรงกุลสตรีศรีสวนสัตว์ทั้งสองคน ตัวเล็กกว่าฉันแต่ไหงแรงฟายแบบนี้ พวกเจ้จับฉันใส่กระโปรงก่อนจะจับแต่งตัวเอาซะจนบาร์บี้อายไปเลยมันเป็นเดรสสีขาวลายดอกไม้สีน้ำตาลดอกเล็กๆแขนตุ๊กตาขลิบผ้าลูกไม้สวย แต่ว่านะ ต่อให้มันน่าเอ็นดูกว่านี้สักล้านเท่าฉันก็ไม่ขอใส่อีกเด็ดขาด!!
“ใส่กระโปรงแล้วน่ารัก ทำไมไม่ใส่บ่อยๆล่ะครับคนดี”
“ขอโทษนะเฮีย เผื่อบังเอิญว่าเฮียจะไม่รู้ กระโปรงเนี่ยมันไม่เหมือนกางเกงนะ เพราะงั้นปล่อยพัฟลืมมันไปซะ อย่าได้ขอให้พัฟชอบมัน อย่าได้ขอ!”
เฮียเพฟหัวเราะก่อนจะปล่อยเฮียเพสให้เป็นอิสระแล้วหันมาหยิกแก้มฉันเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว ว๊าก!ฉันอยู่มัธยมปลายจะเข้ามหาลัยแล้วนะเฟ้ย ไม่ใช่เด็กสองสามขวบพวกเฮียเข้าใจกันบ้างมั้ยเนี่ย
“เฮียเพฟอ่ะ ไม่ยอม เล่นกับพัฟคนเดียวนี่ ปล่อยนะ ผมเล่นบ้าง”
ไอ้เฮียจอมยุ่งเข้าร่วมผสมวงด้วยการแยกหน้าฉันให้ออกห่างจากมือนุ่มๆของเฮียเพฟจากนั้นก็เข้ามาจับแก้มฉันซะเอง จะช่วยแล้วทำแบบนี้ไม่ต้องช่วยซะเหอะ ไม่ต่างกันเท่าไหร่
“เล่นกับน้องสาวที่น่ารักแบบนั้นได้ไง”
เฮียเพนท์ประท้วงก่อนจะส่งยิ้มละลายใจมาให้แล้วดึงฉันให้มานั่งบนตัก!เฮียช่างสามารถนี่เรานั่งกันอยู่ในรถตู้นะ! หัวฉันโขกเลยด้วย งือ T^T
“แกนั่นแหละ เล่นกับพัฟแบบนั้นได้ไง น้องไม่ใช่ตุ๊กตานะ!!”
แล้วพี่ชายที่แสนดีอย่างเฮียพาสกับเฮียพิฟก็ช่วยกันดึงฉันลงจากตักของเฮียเพนท์ให้มานั่งระหว่างตัวเองอย่างรวดเร็ว หัวโขกสองโป๊กเลยนะ!
“จะเล่นกับน้องทั้งที มันต้องมีชั้นเชิง”
“พวกอ่อนประสบการณ์น่ะไปเล่นกันเองเลยไป”
อ้าวเวร!แล้วไหงจากพี่ชายผู้เงียบขรึมอย่างเฮียพาสกับโหดดิบเถื่อนอย่างเฮียพิฟกลับกลายมาวางมาดเพลย์บอยกับฉันกันล่ะ!เฮียทั้งสองวางแขนของตัวเองคนละข้างโอบฉันเอาไว้ก่อนจะซบกับไหล่ของฉันพร้อมยิ้มพรายไปให้ตัวอิจฉาทั้งหลายที่ทำหน้ามุ่ย เพลิงริษยามันแผดเผาจนหน้าฉันแดงไปหมดแล้วววว!!!!!จากที่เฮียเพสมันบ้าคนเดียวกลายเป็นว่ามันแพร่เชื้อให้ลูกชายบ้านนี้ทั้งบ้าน แง แม้แต่เฮียพาสกับเฮียพิฟก็เอากับเขาด้วย ก๊าซซซซซซซซซ!!!!! พ่นไฟ พัฟอยากจะบ้าตาย
“พวกเฮียเข้าใจกันสักทีได้มั้ยว่าพัฟไม่ใช่ตุ๊กตานะ!!”
“เฮียก็ไม่ได้ว่าพัฟเป็นสักหน่อย”
เฮียพาสหัดกวนบาทาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ
“พวกนายส่งพัฟฟี่น้อยมานี่มา รังแกสาวน้อยแบบนั้นได้ไง”
เจ้กวางเจาออกโรงช่วยชีวิตฉันอย่างไม่เกรงกลัวฟ้าดิน อนิจจา ฉันเตือนเจ้ช้าไปหน่อยหนึ่งนะ
“เธอนั่นแหละ รังแกน้องฉัน!!!!!”
ประสานเสียงพร้อมกับแบบโซปราโน่แบบนี้ซะด้วย เจ้กวางเจาหน้าหงอยไปเลยทีเดียว ขอโทษนะเจ้นะ ถ้าให้ไปเป็นตุ๊กตาของเจ้ ฉันยอมโดนพวกเฮียนี่เล่นดีกว่า -_-;
สนามบิน
สนามบินเต็มไปด้วยผู้คนทั้งขาเข้าขาออก สมกับเป็นหระเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเลยจริงๆ หลังจากจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเสร็จสรรพ เวลาแห่งการล่ำลาก็มาถึง แง T^T ฉันไม่อยากอยู่นี่ ลักพาตัวฉันกลับไปทีสิ พวกเฮียบ้า!
“ดิฉันขอตัวไปรออยู่ที่รถนะคะนาย”
“อย่าลืมหัวใจไว้ที่ผมก็แล้วกันครับ”
น่าน จะต้องไปแล้วยังไม่วายแกล้งคุณชิงเซียวอีกยก เฮียนี่มันจอมกวนประสาทจริงเลย พวกเรามองตามหลังชิงเซียวจนกระทั่งประตูสนามบิรปิดถึงได้พากันหัวเราะออกมาเป็นบ้าเป็นหลัง ต่อหน้านี่กลัวคุณชิงจะเขินอะ
“พัฟ...”
เตี่ยเรียกพร้อมกับกอดฉันเอาไว้หลวมๆ แอบเขินเหมือนกันแฮะ
“อยู่นี่ล่ะก็ดูแลตัวเองดีๆนะลูกนะ”
“อาไม่ต้องห่วงนะคะ พวกเราจะดูแลน้องเอง”
เจ้ไชน่ายิ้มกว้างเหมือนกับจะรับรองว่าฉันจะอยู่อย่างมีความสุข ทำไมฉันรู้สึกทุกข์ระทมขมขื่นซะเหลือเกินล่ะฟะ
“ไอ้ที่จะห่วงน่ะก็เพราะพวกเธอจะมาดูแลน้องฉันเนี่ยแหละ”
เฮียเพสพูดอย่างที่ฉันคิดเอาไว้ทุกประการเลย เรามีโทรจิตสื่อถึงกันใช่ม้ายยย!!!
“เตี่ยอยู่โน่นก็ดูแลตัวเองดีๆเหมือนกันนะคะ”
“เตี่ยมีพวกเฮียๆพัฟดูอยู่ไม่ต้องห่วง”
“พัฟห่วงเพราะพวกเฮียมันคอยดูเตี่ยเนี่ยแหละ”
“ยัยน้องสาวไม่เชื่อมือกันเลย”
เฮียเพนท์ว่าแล้วโขกหัวฉันหนึ่งทีข้อหาไปว่ากล่าวพี่ชายตัวเอง พูดเรื่องจริงมันผิดรึไงกัน!
“เฮียพาส อย่าโหมงานนะคะ”
เฮียพาสยิ้มกับคำของฉัน เตี่ยปล่อยฉันออกมาจากอ้อมกอดส่งต่อให้เฮียใหญ่
“งานเฮียไม่โหมหรอก แต่กลับไปนี่ต้องมีคนบ้าอาการกำเริบแน่ๆ”
ว่าแล้วเหล่มองเฮียเพสที่ยืนทะเลาะกับเจ้กวางเจาอยู่ใกล้ๆ ฉันไม่อยู่แล้วใครจะทะเลาะกับเฮียล่ะ
“ไม่ต้องห่วงหรอกพัฟ เดี๋ยวเฮียจะช่วยดูๆมันไว้เอง”
เฮียพิฟว่ายิ้มๆ
“ไอ้ที่ว่าดูๆของพวกเฮียนี่คือการดูจริงๆหรือว่าล่ามโซ่เฮียเพสเอาไว้ดูเล่นกันล่ะ”
“คงอย่างที่สอง ม่ายงั้นเฮียมีหวัง...ได้ลอบลักพาตัวน้องสาวตัวเองกลับบ้านแน่ๆ”
เฮียเพนท์พูดแล้วหัวเราะออกมาอย่างคนอารมณ์ดี ถึงเฮียไม่ทำไอ้เฮียบ้าเพสก็ทำอยู่ดีแหละ เคยลองแล้วนี่
“พวกเฮียอย่าโหมงานโหมเรียนนะคะ ฝากดูแลเตี่ยด้วย”
“เอาน่า พูดเหมือนจะจากกันไปเป็นปี สองเดือนเอง ทำให้อาม่าพอใจเร็วๆสิ”
ก็ถ้าว่าอาม่าไม่พอใจพัฟไม่ต้องอยู่ต่อเรอะ เฮียเพฟพูดอะไรบ้าๆ!
“แล้วก็นะ...”
ฉันพูดเฉียบจนแม้แต่คนที่กำลังทะเลาะอย่างเอาเป็นเอาตายก็ยังตั้งใจฟัง คิดเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรเป็นหงุดหงิดทุกที
“อะ...อะไร เหรอน้องสาว”
“เรื่องผู้หญิงนี่อย่าให้รู้ ไม่งั้นกลับไปแม่พิพากษาเป็นรายคนแน่”
ต้องเตือนไว้ก่อนเพราะไอ้พวกเฮียนี่เสน่ห์แรงแถมเจ้าชู้ไม่เว้นแม้แต่คนเงียบที่เตี่ยไว้ใจหรือเฮียเพนท์ที่ว่านิสัยสุภาพนั่นก็ด้วย เห็นหน้ายิ้มๆนี่มีสาวมาบ้านไม่เว้นสักวัน แต่ละคนนี่ไม่ซ้ำหน้าอีกต่างหาก
“เรื่องนี้นี่ไม่เคยลืมเลยนะ”
“พวกเฮียชอบสร้างเรื่องปวดหัวให้เตี่ยนี่”
“เตี่ยไม่เห็นว่าอะไร”
“ใช่ เรื่องธรรมดาของผู้ชาย”
“งั้นถ้าพัฟมีแฟนแล้วอ้างว่ามันเรื่องธรรมดาของผู้หญิงก็จะไม่ว่าอะไรใช่ไหม”
“ไม่ได้!!!!!”
ทีอย่างนี้ละร่วมมือกันดีนัก เราล่ำลากันอีกหนึ่งยกก่อนที่เฮียเพสจะได้ลากันเป็นคนสุดท้าย ไอ้เฮียนี่ตลอดอะ
“คงคิดถึงโคตรๆเลย”
“เดี๋ยวเฮียก็หาสาวมาอยู่ด้วยอยู่ดี”
“ไม่มีใครเท่าสุดที่รักนี่หรอกน่า”
ว่าแล้วก็ขโมยหอมแก้มฉันอีกฟอดใหญ่ เล่นเอาเจ้ๆกับอาม่าตกตะลึงตาค้างกันไปเลยทีเดียว ไอ้เสือหน้ายิ้มอะตอมก็เป็นไปด้วย เหอะๆ
“รักพัฟนะ ตามมาเร็วๆ”
“รักเฮียเหมือนกัน อีกสองเดือนมารับด้วย”
“มาอยู่แล้ว ดูแลตัวเองดีๆ อย่าเพิ่งมีไอ้หนุ่มหน้าไหนมาแทนที่เฮียล่ะ”
“รู้แล้วน่า เดี๋ยวพัฟหวั่นไหวล่ะเป็นเรื่อง ไปได้แล้วเร็ว”
เฮียเพสทำท่าจะไม่ยอมไปเดือดร้อนเฮียเพนท์กับเฮียเพฟต้องมาหิ้วปีกขึ้นเครื่องบิน โธ่เอ๊ย!มาติดน้องยังกับติดหมอนข้างยังงั้นล่ะ
“ปล่อยมันไปแล้วกลับบ้านกันนะจ้ะน้องรัก”
เสียงใสๆดังขึ้นที่ข้างหูก่อนที่พวกเจ้จะพากันควงแขนฉันกลับไปที่รถบ้าง ดูดิ เฮียเพสโวยวายใหญ่เลยนะ
“พวกเจ้อย่ากล่อมอะไรพัฟน้า~!”
ไม่รู้ไม่ชี้ไม่มีสนใจจากสองสาวนี่หรอก ไม่พ้นฉันต้องกลายเป็นบาร์บี้อีกแหงเลย
ความคิดเห็น