คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : คนดัง??
เช้าที่สดใสของวันใหม่เริ่มพร้อมๆกับกิจวัตรประจำวันอันแสนคุ้นเคย
“อรุณสวัสดิ์...ชางยอน”
เสียงงัวเงียของชางยาทำเอาคนถูกทักแอบนึกในใจว่า ให้มันได้อย่างนี้ทุกเช้าสิน่า
“ชางยอนจ๊ะวันนี้ไปช่วยแม่ซื้อของหน่อยสิอ้อ!ชางยาด้วยนะจ๊ะ”
“ค่ะ/ค่า”
หลังจากทานอาหารเช้าแล้วสองสาวก็พากันเดินไปยังโรงเรียนเหมือนเช่นเคยต่างกันก็ตรงที่ชางยอนเดินไปในฐานะประธานนักเรียนซึ่งแต่งตัวเนี้ยบติดจะออกแนวผู้ชายด้วยซ้ำต่างจากชางยาที่แต่งตัวได้น่ารักสมวัย
“ชางยอนจ๊ะวันเสาร์นี้ว่างมั้ย”
สาวน้อยหน้าหวานกระโดดออกจากที่ซ่อนแล้วตั้งคำถามอย่างฉับไวในขณะที่คนถูกทักทำหน้าเรียบเฉย
“ถามทำไมเหรอ”
“คือถ้าเธอไม่ว่า...เราไปเดทกันนะ”
“โทษทีนะฉันไม่ว่างกับเรื่องพวกนี้หรอก”
คำปฏิเสธนี้ทำให้เธอหน้าชาทันทีชางยาที่แอบมองเด็กสาวด้วยความสงสารสะกิด ชางยอนเป็นเชิงให้ขอโทษแต่คำตอบที่ได้รับมีเพียงความนิ่งเฉย
“ชางยาถ้าเธอ.....”
เด็กหนุ่มหน้าตาดีเดินเข้ามาทักชางยาด้วยเสียงกรุ้มกริ่มก่อนจะรีบถอยออกไปเมื่อเห็นสีหน้าของผู้ที่เดินมาด้วยพลางคิดในใจว่า ฝาแฝดเป็นอย่างนี้ทุกคู่เลยรึไงนะ
“นี่ชางยาถ้าเธอไม่ว่าอะไรฉันขอตัวนะ”
ชางยอนเอ่ยแล้วเดินจากไปปล่อยให้ชางยามองตามด้วยสีหน้าปลงๆ
มันมักจะเป็นแบบนี้เสมอเนื่องด้วยชางยอนเป็นคนเงียบขรึมเย็นชาติดจะไร้อารมณ์และไม่ยอมใคร เรียนดี หัวไว กีฬาเก่งที่สำคัญใบหน้าหวานใสอันเรียบเฉยนั้นยังเป็นที่ต้องใจของเด็กสาวโรงเรียนมัถธยมเคฮวอนและเด็กสาวทั่วไปอีกด้วยจึงไม่แปลกที่เธอจะเป็นคนดังในหมู่เด็กสาวๆส่วนชางยานั้นต่างกัน...ด้วยนิสัยน่ารัก เรียบร้อย อัธยาสัยดี ร่าเริงอีกทั้งยังหน้าตาน่ารักเป็นที่ต้องใจของบรรดาหนุ่มๆทั้งหลายจึงไม่แปลกที่พวกเธอจะเป็นคนดังในหมู่ผู้คนที่ต่างกัน
...................................................................................................................................
“นี่ชางยอนพร้อมมั้ย”
“พร้อม”
เสียงใสของสาวน้อยผมเปียที่ส่งน้ำดื่มมาให้ทำให้ชางยอนตอบกลับไปเล็กน้อยก่อนจะรับน้ำดื่มนั้นมาล้างหน้าล้างตาให้คลายร้อนแล้วจึงเดินลงสนามท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดของเด็กสาวมากหน้าหลายตาที่พร้อมใจกันมาดูการแข่งขันบาสเกตบอลของนักเรียนปีสองซึ่งชางยอนที่เป็นกัปตันทีมลงความเห็นกับตัวเองว่า น่าเบื่อชะมัด ยัยพวกนี้
“ปี๊ด!”
เสียงกรรมการให้สัญญาณการแข่งขันจึงเริ่มขึ้น
“สามแต้ม!”
ด้วยการเคลื่อนไหวที่ฝึกมาอย่างชำนาญทำให้ลูกบาสฯถูกโยนเข้าห่วงไปอย่างรวดเร็วแล้วเสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นอีกครั้ง
การแข่งขันยังคงดำเนินไปเรื่อยๆท่ามกลางเสียงกรี๊ดของเด็กสาวมากหน้าหลายตาและในที่สุดทีมของชางยอนก็ชนะจนได้....
“เหนื่อยมั้ยเอ่ยคนเก่ง”
“ชางยา”
ชางยอนเอ่ยเสียงเบาเมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใคร
“ทักก็ไม่ตอบอีกแนะ”
“มีอะไรเหรอ”
“ป่าวหรอก”
ชางยาตอบก่อนจะนั่งลงข้างๆน้องสาวที่เช็ดเหงื่ออยู่ผมสไลล์แบบเก๋ชุ่มเหงื่อแต่มันกลับทำให้ดูเท่ห์ยิ่งกว่าผู้ชายจริงๆซะอีกนะเนี่ย
“กลับกันเถอะนะจะหกโมงแล้วอ่ะ”
“เธอกลับไปก่อนเหอะ...ฉันมีประชุมคณะกรรมการนักเรียน”
“ฉันจะรอนี่”
“ตามใจ...งั้นก็”
ชางยอนเดินนำออกจากโรงยิมไป.....
ขณะที่เดินได้สักพักก็มีเด็กหนุ่มท่าทางเงียบขรึมเดินเข้ามาทักชางยา
“ดีครับ...ชะ...ชะ...ชางยา”
“ดีค่ะ”
“หวัดดีชางยอนไม่นึกว่าจะได้เจอเธอที่นี่นะแหะแหะ”
เด็กหนุ่มรู้สึกเสียวสันหลังเมื่อสบตานิ่งเฉยแสนสวยคู่นั้นก่อนจะยิ้มแก้มแทบปริเมื่อหันมาเจอนางฟ้าของเขา
“หวัดดีอินชองนายโดนคาดโทษที่โดดเรียนนี่นา”
“ใช่ใช่”
“ทำรึยัง”
“เออ...คือ”
“ชางยอนอย่าไปบังคับเค้าเลยนะ”
“ชางยา...เงียบ”
เสียงเตือนแกมขู่กลายๆทำให้ผู้เป็นพี่ยอมสงบปากสงบคำโดยดี
“ว่าไง อินชองนายไปทำเวรที่ห้องอาจารย์นาบุรึยัง”
“โธ่!ทำแล้วสิ”
ชายหนุ่มท่าทางเงียบขรึมพูดออกมาอย่างเรียบๆชางยาหัวเราะกับท่าทีของเขาก่อนจะเดินตามน้องสาวไปที่หอประชุม........
“ชางยาเธอนั่งนี่นะ”
ชางยอนพูดแล้วเลื่อนเก้าอี้ออกให้ชางยาบรรดาสาวๆที่อยู่ในละแวกนั้นจึงพากันเข่าอ่อนกับท่าทีเท่ห์ๆนั้นไม่ได้
“ป๊อปจริงๆเลยชางยอนเนี่ย”
“เงียบเถอะน่า”
ชางยอนดุเบาๆแต่ตาของชางยากลับเห็นว่าชางยอนไม่ได้โกรธอะไรเพียงแค่รำคาญแค่นั้นเอง
“จะเริ่มประชุมแล้วล่ะนะ......”
เสียงชางยอนเริ่มขึ้นโดยมีชางยานั่งดูด้วยสายตาทึ่งปนเหนื่อยใจที่ไม่มีใครรู้ความหมาย..
...........................................................................................................................................
“เฮ้ยอึนซองแกน่าจะเห็นว่าฉันไปเจออะไรมายัยชางยอนทำแสบเป็นบ้าเลยว่ะ”
ซามุ อินชองหนุ่มลูกครึ่งเกาหลี-ญี่ปุ่นบ่นในขณะที่นั่งลงบนโต๊ะไม้ลายสวยข้างๆกับลูกพี่ลูกน้องของเขา
“เจออะไร”
เด็กหนุ่มผมสีบอลน์ถามเสียงทะเล้นในขณะที่เท้ายังเกยอยู่บนเก้าอี้ในมือถือหนังสือการ์ตูนที่หน้าปกมีกระดาษที่เขียนว่า ฟิสิกส์ขั้นพื้นฐาน แปะอยู่
“ยัยชางยอนนะหวงพี่สาวยังกะอะไรฉันเดินเข้าไปทักหน่อยเดียวยัยนั่นหักหน้าฉันจนไม่มีชิ้นดีเลยว่ะ เซ็งจิต”
ปาร์ค อึนซองหัวเราะลั่นพลางจินตนาการถึงหน้าญาติที่เป็นได้ทั้งเพื่อนสนิทและลูกพี่ลูกน้องที่ซี้ปึกก่อนจะโดนหนังสือฟาดใส่หัว
“แล้วแม่นางฟ้าอะไรของแกนั่นทำยังไงล่ะว่ะ”
อึนซองกุมหัวปอยๆก่อนจะถามคำถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องซึ่งมันได้ผลดีทีเดียวเพราะคนอารมณ์เสียรีบยิ้มแก้มแทบปริก่อนจะตอบเสียงระรื่นจนคนฟังแทบจะถีบกระเด็นด้วยความหมั่นไส้
“เค้าบอกว่า ชางยอนอย่าไปบังคับเค้าเลยนะ เสียงนี่หวานใสไพเราะสุดๆเชื่อเลยว่าไม่มีทางเกิดกับยัยชางยอนเด็ดขาด”
“แกมั่นใจขนาดนั้นเชียวเหรอว่ะ”
“ล้านเปอร์เซ็นต์เชื่อดิ.....ถึงยัยนั่นจะสวยแค่ไหนแต่ยังไงก็ขายไม่ออกหรอกนอกจากว่าจะมีผู้หญิงมาสู่ขอ จะว่าไปพี่น้องคู่นี้ก็แปลกนะ”
“ทำไมละว่ะ”
อึนซองถามอย่างสนใจเด็กหนุ่มวางหนังสือลงก่อนจะหันมานั่งเท้าคางฟังเพื่อนตอบคำถาม
“ก็ทั้งๆที่เป็นฝาแฝดแต่กลับไม่เหมือนกันเลยสักอย่างเดียวชางยอนน่ะสวยก็จริงแต่สวยแบบดูน่าเกรงขามดูเหมือนน้ำแข็งที่ยากจะละลายแล้วยังเป็นคนที่ป็อปปูลาร์ในหมู่สาวๆอีกแหนะพูดแล้วอิจฉาจริงๆส่วนชางยารายนี้สวยแบบน่าปกป้องน่าทะนุถนอมแบบกลีบดอกไม้ที่บอบบางแล้วยังดังในหมู่ผู้ชายน่ารักอ่อนหวานเห็นม่ะไม่เหมือนกันสักอย่าง”
“แกเอาอะไรไปตัดสินวะ”
“ไม่ใช่ฉันคนเดียวนะเว้ย...เป็นแกก็ขยาดเหมือนกันน่ะแหละน่า...ปากดีไปเถอะ”
“แล้วถ้าฉันไม่กลัวยัยนั่นล่ะ”
“เอาเลยว่ะ....ถ้าแกจีบยัยน้ำแข็งนั่นได้นะ...เอาไปเลยหมื่นวอน”
“จริงนะ”
“จริงดิ”
“ตกลงพันธะสัญญาเริ่มเวลานี้แล้วจำไว้แล้วกันชิน อินชอง”
เด็กหนุ่มทั้งสองจับมือเป็นเชิงสัญญาแล้วนั่งหัวเราะกันยกใหญ่ฝ่ายพี่น้องตระกูลคิมก็กำลังเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบล่วงหน้าโดยยกเอากองหนังสือมาติวกันในห้องนั่งเล่นด้วยว่าชางยอนหัวดีมาแต่เกิดจึงต้องมานั่งสอนชางยาที่หัวอ่อนจนไม่น่าเชื่อแต่ก็นั่นแหละหากเทียบกับคนทั่วไปชางยาก็ถือได้ว่าเป็นเด็กหัวไบร์เลยทีเดียว.....................
“ชางยอนจ๋า.....ข้อนี้ทำยังไงอ่ะสอนหน่อยนะ”
“ก็แค่เอาตัวแปรมาหารเสร็จก็ตั้งสมการแล้วก็ไปเข้าสูตรพีทากอรัสเสร็จแล้วเอาคำตอบที่ได้ไปคูณโดยใช้วิธีการหาค่าลอกกาลิทึมก็แค่นี้เอง..เสร็จแล้วล่ะ”
“อ๋อ...เก่งจังเลยนะขนาดครูอธิบายซะยาวฉันยังไม่เข้าใจเลยนี่เธอแค่อธิบายสั้นๆฉันก็เข้าใจแล้ว”
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการฝึกฝน”
“จ้าๆ”
หลังจากนั่งติวกันเสร็จแล้วทั้งสองคนก็ย้ายมานั่งดูหนังที่หน้าทีวีแทนในขณะที่ชางยาเลือกหนังชางยอนก็ทำท่าจะเดินออกไป
“จะไปไหนนั่งดูหนังด้วยกันก่อนสิ”
“ไปเอาไอติมเอารึเปล่าล่ะ”
“เอาสิๆขอ...”
“วนิลลา”
“ใช่รู้ใจกันดีจังเลยนะชางยอนเนี่ย”
“ก็คนอย่างเธอกินอะไรได้นอกจากของหวานๆ”
ชางยอนบ่นเงียบๆก่อนจะเดินไปยังห้องครัวโดยไม่รู้ว่าพี่สาวที่เธอคิดว่าหน่อมแหน้มกำลังหัวเราะชอบใจในความเคร่งขรึมของเธอ(เออ...หน่อมแหน้มจริงๆน่ะแหละ: j.p)
“มาแล้ว”
ห้านาทีต่อมาทั้งคู่จึงได้ดูหนังเงียบๆพลางเล็มไอศกรีมหอมหวานตรงหน้า
“ของเธอเป็นรสอะไรอ่ะน่ากินจัง”
“ลองกินดูมั้ยล่ะ”
“อือใจดีจังคิคิ”
“ห้ามบ่นนะ”
“รู้น่า”
ชางยาค่อยๆตักไอศกรีมสีแก่ๆที่ยวนใจมาคำโตก่อนจะรู้ตัวสีหน้าของเธอก็บิดเบี้ยวอย่างไม่ชอบใจ
“กะ...กะ....กาแฟนี่นา”
“ใช่...กาแฟ”
“เธอ...กินเข้าไปได้ไงเนี่ยขมจะตายแหวะๆ”
ชางยอนทำสีหน้าเหม็นเบื่อก่อนจะส่งผ้าเช็ดหน้าให้พี่สาวของตัวเองเพื่อเช็ดปากพลางบ่นขมุบขมิบ
“บอกแล้วก็ไม่เชื่อ”
“ยะ...ยัยตัวแสบ!”
ชางยาร้องลั่นอย่างเจ็บใจหากหนุ่มๆที่คลั่งไคล้เธอนักหนามาเห็นภาพนี้คงจะไม่กล้าเข้าใกล้ไปสามวันเจ็ดวันทีเดียวยามเธอหัวเสียนี่น่ากลัวจริงๆ
“ชะ...ชางยอนหนาวจัง....ธะ...เธออยู่ไหน”
เสียงงึมงำของพี่สาวทำให้ชางยอนทำสีหน้าระอา...อีกครั้งแล้วสินะที่เธอใจอ่อนยอมปล่อยให้รอยยิ้มที่แสนเศร้าเผยออกมานานทีเดียวกว่าจะรู้ตัวชางยอนจัดการเอาพี่สาวพาดบ่าแล้วพาขึ้นไปนอนในห้องนอนสีหวานของเธอหลังจากจัดแจงห่มผ้าห่มแสนนุ่มให้ยัยหน่อมแหน้มของเธอแล้วชางยอนก็กลับห้องนอนของตัวเองอย่างเหนื่อยอ่อนวันวุ่นๆก็ผ่านพ้นไปอีกวันแล้วสินะความคิดนี้ทำให้ความเหนื่อยล้าผสมความอ่อนเพลียส่งผลให้เธอหลับไปในที่สุด......
ความคิดเห็น