คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : รูมเมทสุดหล่อ
ฉันน่ะแทบจะอ้วกเหม็นหน้าอีตาขี้เก๊ก>>วุฟ<< จอมงี่เง่าตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนเครื่อง ฉันรู้สึกเหมือนหลุดพ้นจากขุมนรกชั้นที่ลึกสองพันเก้าร้อยแปดสิบหกกิโลเมตรจากระดับน้ำทะเลทันทีที่เก้าเท้าออกจากประตูสนามบิน โล่งๆอย่างบอกไม่ถูก เหมือนไอ้ที่ทนนอน ทนกินอยู่บนเครื่องมาด้วยกันนี่มันสิ้นสุดเสียที แน่ละ! ฉันคงไม่ทนอยู่ร่วมกับสนามบินเดียวกับอีตาวูฟได้อีกต่อไป ‘เสนียด’ เชอะ
รังเกียจเหนือคำบรรยาย(แล้วจะบรรยายเพื่อ?)บังอาจที่ใช้ความหล่อยั่วแอร์ฮอสเตรสอกเป็นฝรั่งยัดซาลาเปาทั้งสองลูกนั่นให้เธอมาจิกฉันเสียอย่างนั้น อะไรกันนักกันหนาห๊ะ!! แค่เดินชนสองครั้ง และครั้งที่สองแค่ตั้งใจ >,,< เหอะๆ ถ้าคิดว่าตัวเองมีลูกไม้แพรวพราวอยู่คนเดียวล่ะก็ คิดผิดถนัดเลยล่ะย่ะ!! ฮึๆ รอดูไปก่อนเถอะอีตาหมาป่าโรคจิต
ตอนก่อนเครื่องจะออกฉันจับได้ว่าอีตาบ้าคนหนึ่งที่ฉันเดินชนก่อนขึ้นเครื่องเป็นคนขโมยตั๋วพี่ยิปซีมา T___T เจ๊จะไปส่งฉันเรียนที่ฝรั่งเศสก็กะจะอยู่ด้วยเผื่อปรับตัวไม่ได้แล้วค่อยบินกลับ แต่แล้วเรื่องมันกับตาลปัตรเป็นอย่างนี้ฉันจะทำยังไงล่ะ
และตอนตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนั้นฉันก็คงต้องรีบโทรหาพี่สาวล่ะ
“ฮาโหลๆ พี่ซีอยู่ที่ไหนน่ะ”
(บนเครื่องน่ะสิ ฉันจะทำยังไงดีล่ะยิปโซ ก็เครื่องบินลำนี้มันจะพาฉันไปอิตาลี) น้ำเสียงพี่สาวฉันดูร้อนรนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ปกติเธอจะเป็นคนสุขุมเย็นชาจนน่ากลัว แต่ถ้าเข้าเรื่องเงินเมื่อไหร่เข้าอีหรอบนี้ทุกทีสิน่า -*-
“ว่าไงนะ!!!” ฉันตกใจไม่แพ้กัน แล้วมันเป็นอย่างนี้ไปได้ไง จะไปอิตาลี???
(คะ..เครื่องจะออกแล้วยิปซะ...)
“ฮาโหลๆๆ พี่ซี พี่ยิปซี!!”
และเรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละ ตอนนี้พวกฉัน (พี่+ฉัน) จะทำยังไงกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเหล่านั้น...ก็คงยากที่จะคาดเดา
ฉันมาถึงหอของมหาลัยแล้วแหละตอนนี้ ^_^ หลังจากโบกรถเมล์เป็นอีเพิ้งหัวบานอยู่นาน ว่าแต่หอมหาลัยที่นี่หรูชะมัด เหมือนโรงแรมเลย ~~ แต่เท่าที่อ่านระเบียบการมาเห็นบอกว่าต้องมีรูมเมทอีกหนึ่งคนด้วยนี่นา และจุดไคล์แม่กซ์ >>> รูมเมทไม่จำกัดเพศ โดยทางหอจะจัดมาให้ในตอนแรกแล้วเปลี่ยนแปลงในภายหลังได้หลังจากหาเพื่อนสนิทเองได้แล้ว มีวงเล็บมุมซองตัวเล็กๆด้วยว่า นมหนองโพนมโคแท้ๆของไทย ไม่ใช่ละๆๆ เขียนว่าๆ ต้องอยู่ภายใต้การตัดสินใจของผู้ปกครอง<<< อ๊ากกก >,,,< เลือดกำเดาหยดย้อยตามทางกันเลยทีดียว !! ฮี่ๆ แม้จะแอบเซ็งเล็กๆก็ตามนี่ถ้ามีแฟนซักคนจะจับมาทุ่มเตียงเล่นก็ต้องโทรขอหม่าม๊างั้นหรอ -0- ไม่นะ
ฉันรับการ์ดห้องจากล๊อบบี้ต้านล่างและตรงไปชั้นสี่สิบสามด้วยลิฟท์ทันที.......
อ้อ ห้องนี้สินะ 1023 ^_^ ตรงกับหมายเลขที่สลักไว้บนพวงกุญแจที่ห้อยอยู่กับการ์ดห้องเลย ฉันไม่รอช้าเปิดประตูเข้าไปอย่างตื่นเต้นทันที
ว้าว >O< เตียงคู่สองเตียงตั้งอยู่ห่างกันโดยมีโคมไฟลายสวยคั่นเอาไว้ ฉันจะเลือกเตียงไหนดีน๊าาา...อืม ติดหน้าต่างละกัน ทิวทัศน์สวยเว่อร์มากๆ ด้านหน้าต่างเป็นกระจกใสๆทั้งแถบ โดยมีม่านอันใหญ่สีเหลืองสดในเก็บอยู่ด้านข้างอย่างเรียบร้อยและถ้าหากมองลงไปแล้วก็จะพบกับตึกใหญ่มากมาย รวมไปถึงต้นไม้สีเขียว ส้ม แดงสวยๆเหล่านั้นด้วย แต่สิ่งที่ดูจะสะดุดตาฉันเป็นพิเศษก็คงจะเป็นสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างไปจากหอฉันเพียงสองบล๊อกเท่านั้นเอง ^^
ส่วนตู้เสื้อผ้าที่อยู่หน้าห้องน้ำสองตู้ติดกันนั้น ฉันเลือกอันที่มันสภาพดีหน่อย >,.< หุหุ อีกอันที่เหลือมองดูแล้วมัน ~~~ >> หูประตูหลุด กลิ่นอับชื้นโชยเตะจมูก มีรูโหว่ด้วย อี๋~ แหวะทำไมสภาพมันต่างกันขนาดนี้ -*- และเมื่อจัดเสื้อผ้าโหลกว่าๆและข้าวของทั้งกระเป๋าเดินทางเข้าที่เข้าทางเป็นอันเรียบร้อยแล้ว ฉันก็แตแล๊ดแต๊ดแต๋ไปเปิดทีวี แล้วก้มลงหยิบขนมในตู้เย็นเล็กมาฉีกกิน พร้อมเอนตัวลงนอน (และกิน แอนด์ ดูในคราวเดียว) ทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ฮึ่ม!! คนจะขอสบายซะหน่อยก็ไม่ได้ เสียงนรกที่ดังมาจากข้างนอกของใครบางคนช่างกวนใจจริงๆเลย สวยเบื่อ สวยเบื่อ...
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกเท่าตัว ไปแล้วย่ะ !! ไม่ต้องกระแทกกระทั้นให้มันกระเทือนก็ได้ย่ะ เดี๋ยวฉันจะกระเถิบไปเปิดประตูให้เดี๋ยวนี้แหละ!!
มือเรียวของฉันคว้าหมับเข้าที่ลูกบิดประตูและเปิดมันออกอย่างหงุดหงิด และชักสีหน้าให้ไอ้ตัวที่มันอยู่หน้าห้องรู้ซะบ้างว่าคนมัน หงุดหงิด โว้ย!!!! ถ้าเป็นลุงยามวิ่งขึ้นมาบอกว่า ผมลืมแว่นครับ!!! แม่จะตบให้กระเด็นออกไปอยู่สวนสัตว์ดุสิต
“^_^ ไฮ~”
อ๊ายยยย~ ให้ตาย หล่อปรมณูลากไส้ติ่ง ไม่ไหวแล้ว >_____< นัยน์ตาสีน้ำทะเลที่น่าหลงไหลดังต้องมนต์สะกด ไหนจะผมสีเท่าอมเงินดูก็รู้ว่ามันนุ่มสลวยน่าสัมผัสแค่ไหน แล้วยังจะสูทกับรองเท้าหนังสีดำขัดจนขึ้นมันวาวนั้นอีกล่ะ โอ๊ย ฉันจะเป็นลม นี่ล่ะ สเป๊คฉัน ลุงยามที่นี่มีเกรดจริงๆ
“คุณได้ยินที่ผมพูดมั้ยครับ” เขาโยกมือไปมาผ่านสายตานิ่งสนิทของฉัน
“......” หล่อค่ะ
“คุณไม่เข้าใจภาษาฝรั่งเศสเหรอครับ” คราวนี้เขาถึงกับต้องสะกิดซะจนฉันตื่นจากภวังค์...อ๊า~ฉันเป็นคนบ้าผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่ก๊านนนน ไม่นะ นอกจากนั้นเขายังเป็นยามอีกแล้ว -///-
“ห๊ะ ห๊า ขอโทษค่ะคุณว่าอะไรนะคะ”
“อ้าว ที่แท้คุณก็พูดภาษาฝรั่งเศสได้นี่นา แถมเข้าใจด้วย”
“ฮี่ๆ ค่ะว่าแต่คุณคือ.....”
“อ๋อ ผมเป็นรูมเมทของคุณน่ะครับ ^_^” รอยยิ้มแสนสดใสของเขาปรากฏขึ้นพร้อมกับมือของเขาที่ยกการ์ดห้องขึ้นโชว์อวดฉัน อ้าวไม่ใช่ยามหรอกเรอะ IO_OI
อ๊ากกก -0- รูมเมทหล่อขนาดนี้ให้ตายก็ไม่เปลี่ยนคนแล้วค่ะ >_<
“เข้ามาก่อนสิ”
“^^”
ฉันเปิดประตูให้เขาเข้ามาด้วยท่าทางเป็นมิตรสุดๆ คิดแล้วก็แปลกนะ ตลอดเส้นทางการมาฝรั่งเศสฉันเจอผู้ชายอยู่สองคนด้วยกัน
คนหนึ่ง...สุภาพ หล่อเนี๊ยบ (แม้จะเหมือนยามในวินาทีแรก)
อีกคน.....เถื่อน ถ่อย สถุน แย่ ทราม เลว
และมันก็ทำให้เราได้รู้ถึงความแตกต่าง~~ ไม่บอกก็รู้ว่าคนหัวเทาเนี่ยตรงใจ >,,< หุหุ
“นึกว่าจะต้องยืนคุยข้างนอกแล้วซะอีกนะครับ ^^” เขานั่งลงเป็นม้านั่งระเบียงห้องตรงข้ามกับฉันพลางยกถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบ
“รอสน่ะ คุณก็พูดไปเรื่อย เอ้อคุณอยู่คณะอะไรหรอคะ” ฉันคุยต่อ ถามเชียรอสเจ้าชายหัวสีสวยของฉันหลังจากทำความรู้จักไปแล้วพักหนึ่งระหว่างช่วยเขาจัดของเข้าที่
“แพทย์ศาสตร์ครับ ^^” เขาก็ดีตรงนี้ล่ะนะ มักมีรอยยิ้มติดใบหน้าอยู่เสมอ ...เรียนเก่งเหมือนกันแฮะ คณะแพทย์ศาสตร์
“แล้วคุณมาอยู่หอทำไมล่ะคะในเมื่อคุณเองก็น่าจะไป-กลับเองได้ มีบ้านในฝรั่งเศสอยู่แล้วน่ะ ไม่น่าต้องมาอยู่หอให้ลำบากเลยนี่นา”
“ผมเป็นคนอังกฤษน่ะครับ^^”
“อ้าว นึกว่าคนฝรั่งเศสซะอีก” ฝรั่งนี่มันแยกกันไม่ออกจริงๆ หรือฉันมองไม่ออกเองกันนะ ^&^
“ฮ่ะๆ” เขาหัวเราะฝืดๆ เชอะ เอาน้ำมันหล่อลื่นมาราดไม่คะ?
“อ้อ แล้วยิปโซคุณจะออกไปดูนิทรรศการต้อนรับเด็กปี 1มั้ยครับ”
เชียรอสคงพูดถึงงานที่จัดขึ้นมาเพื่อต้อนรับนิสิตใหม่ล่ะมั้ง ฉันได้ใบปลิวมาจากหน้าหอก่อนเข้ามานี้เอง รายละเอียดบอกไว้ว่าแต่งตัวได้ตามสบายและยังเปิดให้คนภายนอกเข้าร่วมนิทรรศการได้ด้วย
“ไปแน่นอนค่ะ ^_^”
หลังจากที่ฉันบอกไปอย่างนั้นเขาก็เอ่ยชวนให้ไปพร้อมกัน งานเริ่มตั้งหนึ่งทุ่มตอนนี้เพิ่งจะสี่โมงเย็นเองเชียรอสก็เลยนัดฉันหกโมงครึ่งที่หน้าหอ เพราะเขาขาดของใช้ส่วนตัวจึงจะออกไปซื้อตอนนี้เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา
เมื่อเชียรอสออกไปในเพียงแค่สวมเสื้อคลุมทับแทนสูทตัวนอกเท่านั้น ก่อนที่ฉันก็ทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างโหยหาหลังจากที่เขาออกไปได้สองวินาทีเศษ~~
เฮ้อ~คิดถึงตอนอยู่บนเครื่องแล้วยังเหม็นขี้หน้าไอ้บ้าวูฟไม่เลิก พอฉันวางโทรศัพท์(ที่โดนตัดสายทิ้ง คาดว่าน่าจะเพราะเครื่องออกแล้วแต่โดนตัดสัญญาณทิ้งแน่เลย T___T) ฉันเลยเอนตัวลงกับเบาะอย่างไร้ที่ไป
“โหยๆ อะไรกันโซน้อยๆแค่นี้สิ้นหวังแล้วหรอครับ ^_^” อีตาหมาป่าในชุดสว๊ตเต้อร์สีดำที่สวมทับเสื้อเชิร์ตสีขาวสะอาดอยู่คู่กับกางเกงขาเด๊ปสีน้ำตาลทำท่าล้อเลียนฉัน =0= แค่นี้ฉันก็เบื่อแกมากพอแล้วนะ
“(_._)” ขอร้องเหอะนายอย่ากวนฉันมากกว่านี้ได้หม๊ายย~~ ขอร้อง T___T
“อย่าเงียบสิครับ” ไอ้น้ำเสียงดูจะสุถายแต่แท้จริงมันแฝงความเยาะเย้ยเนี่ย ช่างชวนฝากลูกบาทาไว้ที่ปากจริงๆนะ แล้วนี่สรุปแกจะไม่ให้ฉันพักจริงๆน่ะเรอะ!! โหดร้าย Y^Y
“โถ่ๆ อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิครับ ไม่เอาน่า อย่างน้อยเราก็รู้จักกันในฐานะเพื่อนร่วมเดินทางนะครับ
“ใครไปรู้จักนายตอนไหนกันยะ -*-“ ฉันปราดตามองตานั่นอย่างเหยียดๆ เชอะ ใครเค้าอยากรู้จักนายล่ะ
“อ้อ ผมวูฟครับ คุณโซ ^^)V” เขายกสองนิ้วขึ้นพร้อมกับฉีกยิ้ม ..ที่แก้มไม่เห็นจะมีลักยิ้มเลย หึๆ>>วูฟ<< และตั้งแต่เขาแนะนำตัวที่ฉันไม่ได้อยากรู้เลยซักติ๊ด ก็แอบตั้งฉายาว่า >>อีตาหมาป่า<< ในใจมาตั้งแต่นั้นแหละ แต่ก็ดี จะได้แจ้งความถูกคน
“เลิกเรียกฉันว่าโวได้แล้ว ฉันชื่อยิปโซย่ะ ไม่รู้จริงยังจะสะเออะ” รู้สึเหมือนกันมั้ย ว่าฉันแรดเหลือเกิน ไม่รู้สิ เจอเจ้าชู้อย่างนี้เราก็ต้องแรดๆไว้ก่อนล่ะ >,,<
“ครับ ^-^ ยิปโซ”
“ถามอะไรหน่อยนะ คิดยังไงถึงมาขโมยตั๋วชาวบ้านเขาน่ะ อยากไปฝรั่งเศสขนาดนั้นเลยรึไงกัน คอยดูนะถึงที่นู่นเมื่อไหร่ฉันดำเนินคดีแน่นอน”
“นี่คุณ!!!” เขาชักสีหน้าและกระชากน้ำเสียง แสดงออกอารณ์ขุ่นมัวฉุนเฉียวเกินไปละ ฉันจ่างหากล่ะที่ต้องโกรธน่ะ แล้วเขาก็ว่าต่อ
“ผมก็ไม่ได้อยากไปนักหรอกนะ ฝรั่งศ่งฝรั่งเศสบ้าบออะไรนั่น ไอ้ที่ผมจะไปน่ะมันอิตาลี จะบอกให้รู้ไว้ซะ”
“อ้าวแล้วทำไม O_O?? นาย...”.
“ก็ถ้าไม่เดินชนผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของตรงนี้จนตั๋วสลับกันล่ะก็ป่านนี้ผมไปลั๊นลาอยู่หอเอนปิซ่าแล้ว!!!! คิดว่าตัวเองเซ็งได้คนเดียวรึไงห๊ะ”
“อ๋อออออ นี่คุณจะบอกว่าเดินชนกับพี่ยิปซีจนตั๋วสลับงั้นสิ เว่อร์ไปละ ชีวิตคุณนี่เดินชนกับคนอื่นทุกสามนาทีเลยรึไง”
“อย่ามาพูดอย่างนี้นะ คุณนั่นแหละที่มาเดินชนผมที่ด่านตรวจกระเป๋าก่อนรวมทั้งตอนเดินเข้าเครื่องด้วย!!”
“เชอะ” เถียงไม่ขึ้น -^- ผู้ชายอาร๊ายยย ปากร้ายชะมัด
คิดมาถึงตอนนี้ก็ขำตัวเองเหมือนกันนะที่เถียงกับคนอื่นเขาได้ ปกติแล้วฉันมักจะดูเป็นคนเรียบร้อยในสายตาคนอื่นเสมอ คิดจะคำอะไรจะพูดอะไรก็ได้แต่เก็บไว้ในใจเท่าทั้น มีเพียงรอยยิ้มและคำพูดที่แทบไม่หลุดออกจากปาก แต่ดูฉันทำกับตานี่สิ แรดจริงๆ -*- (เพิ่งรู้เรอะว่าตัวเองแรด)
กลับสู่โหมดปัจจุบันก่อนละกันไม่อยากจะคิดให้รกสมอง -_-*
เอ้อ !! ฉันลืมไปซะสนิท โทรศัพท์เจ้ากรรมอยู่ไหนล่ะเนี่ย T__T แล้วฉันจะโทรหาพี่สาวยังไง แล้วเรื่องอีตาบ้านั่นเกิดมันจับพี่ฉันไปข่มขืนแล้วเพ็คกระป๋องส่งออกนอกล่ะ Y^Y ไม่นะ !!!
“โอ้วววว” โทรศัพท์จ๋าเจ้าอยู่หนใด~~ โผล่ออกมาทีเต๊อะ - /l ฉันหาซะห้องกระจุยจวนจะราบเป็นหน้าโรตีแล้วเนี่ย
ก็มันจริงๆนี่นา
......ที่ห้องน้ำ >ว่าง<
......ในกระเป๋า >โล่ง<
ตู้เสื้อผ้า >ไม่มี<
ที่นอน >ไม่เจอ<
.......ใต้โคมไฟ >ไม่อยู่<
โว้ยยยย !! ไม่มีซักที่ ฉันหันหน้าหันหลัง แล้วมันจะเจอมั้ยฟะ -^- แงๆๆ ฉันจะกลับไปแก้แค้นนาย ไอ้หมาป่า !!!!! รอไปก่อนเหอะ ซักวันฉันจะต้องช่วยพี่จากแรงงานพม่าให้จงได้ !!!!!
ความคิดเห็น