คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [ Zero ] : The Thief [ 100% ]
0
The Thief
[ขโมย]
กึก ... กึก ...
เสียงรองเท้ากระทบกับพื้นหินเก่าดังสะท้อนไปในความมืด ค่ำคืนนี้เป็นอีกค่ำคืนที่อากาศหนาวไม่น้อยใน "สถานที่" แห่งนี้ ดวงตากวาดมองไปตามซากปรักหักพังที่แม้จะหล่น โค่น ล้ม หรือเก่าแก่เสียเท่าใดก็ยังคงความสวยงามของวัฒนธรรมไว้เสมอ ฝีเท้าเริ่มเบากริบลงเรื่อยๆเมื่อเข้าไปในเขตหวงห้าม แสงไฟไกลลิบบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ณ จุดนั้น มีบุคคลอาศัยอยู่ หากเธอจำไม่ผิดแล้วละก็ อีกไม่ไกลจะถึงเป้าหมายของเธอแล้ว เสาหินที่ค้ำจุนตัวเพดานไว้มีผลอย่างดีเมื่อเธอคิดจะเปลี่ยนจากการเดินไปตามทางอย่างไม่ยี่หระต่อสิ่งต่างๆ มาเป็น 'แอบไปอย่างเงียบๆ' แทน ตามพื้นหินเก่าที่บางส่วนเริ่มแตกพังไปบ้าง กับซากกำแพงและเศษหินที่ร่วงหล่น ช่างเป็นบรรยากาศที่น่าพิสมัยไม่น้อยเลยนะ แต่จุดที่หน้าสนใจคงไม่ใช่ภาษาแปลกประหลาดที่สลักไว้เป็นลวดลายวิจิตรงดงาม หรือศิลปะชิ้นเอกอย่างไหโบราณหรือเครื่องประดับทำจากทอง หากแต่มันมีมากกว่านั้น ของที่น่าสนใจน่ะ ... อยู่ 'ข้างใน' ต่างหาก ... การก้าวเดินเป็นไปอย่างเงียบกริบ การเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วหลบไปตามหลังเสาหรือซากกำแพงเป็นไปอย่างสบายๆ จะมีเพียงแต่ดวงตาสีแดงสดที่เปี่ยมไปด้วยประกายความต้องการ และในที่สุด เธอก็เจอสิ่งที่เธอต้องการ หากแต่คิ้วเรียวก็ขมวดมุ่นเมื่อเห็นร่างของชายฉกรรจ์ ห้าหกคนนอนเรียงรายไม่ต่างจากหมาเฝ้าประตูบ้าน อีกทั้งกองไฟที่ส่องแสงในความมืดทำให้การเคลื่อนไหวของเธอลำบากขึ้นอีกด้วย แต่เมื่อเหลือบไปเห็นแท่นบูชาที่มีสิ่งที่เธอต้องการวางอยู่นั้น มันช่างเย้ายวนตาเสียเหลือเกิน แต่จะทำยังไงถึงจะรอดจาก 'เจ้าหมาเฝ้าบ้าน' พวกนี้ไปได้ละ ? ถึงจะได้ยินเสียงกรนเพียงแว่วๆ แต่เธอก็ไม่เชื่อว่าเจ้าพวกนี้มันหลับกันหมดแล้วหรอกนะ ดวงตาหรี่เล็กเหลือบมองออกนอกเสาที่เธอกำลังหลบอยู่ ในหัวเริ่มคิดวิธีต่างๆนาๆให้ได้เข้าใกล้สิ่งที่เธอต้องการโดยที่ไม่มีใครรู้ แต่เจ้าพวกนั้นเล่นล้อมรอบเสียหมดเลยนี้นา
... เดินไปก็ไม่ได้ ... ถ้าแอบไปก็คงเห็น ...
... แล้วถ้าเกิด โหนตัวลงมาแทนละ ? ...
คิดได้ดังนั้น ผ้าคลุมสีดำราตรีก็ถูกสะบัดออก เผยให้เห็นเรือนร่างเพรียวสวยภายในอาภรณ์สีแดงสดทันทีช่องลับต่างๆนาๆในตัวผ้าคลุมนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเชือก ยา มีด ลูกดอก ไม่เว้นแม้แต่...ไม้จิ้มฟัน!!
มือบางคว้าเชือกก่อนจะจัดการผูกติดกับตะขอ เหวี่ยงไปด้านบนเพดาน ปักเข้ากับเนื้อหินอย่างแน่นหนา เธอกระตุกเชือกเบาๆเพื่อตรวจสอบว่าฐานตะขอนั้นมันคงดีไหม ร่างบางเหวี่ยงตัวขึ้นไปบนชั้นหินที่ยื่นออกมาจากกำแพงอย่างเงียบเชียบ มือจับเชือกไว้มั่น ก่อนจะผูกมันเข้ากับเสาหินใกล้ๆนั้น เหล็กแท่งขนาดพกพาถูกงัดออกมาจากผ้าคลุมสารพัดนึกไม่ต่างจากกระเป๋าของโดราเอม่อน ก่อนจะพาดมันไว้กับเชือก ดวงตามองพื้นด้านล่างที่มีร่างของชายฉกรรจ์นอนระเกะระกะ แต่จุดที่เธออยู่นั่นสูงมากพอ แถมยังเป็นมุมที่ค่อนข้างลับตาอีกด้วย เพราะงั้น คงไม่ทันสังเกตง่ายๆหรอกกระมั้ง ว่าแล้วจึงจับท่อนเหล็กแน่น ก่อนจะโหนตัวไปตามเชือกอย่างรวดเร็ว ตรงยังจุดที่เธอขว้างตะขอออกไป หรือก็คือ อยู่เหนือแท่นบูชานั้นพอดี เป็นไปอย่างที่คิด ด้วยความที่อยู่สูงกว่าระดับสายตา มันช่วยให้เธอรอดพ้นจากเหล่าหมาเฝ้าบ้านนั้นไปได้อย่างเฉียดฉิวเลยทีเดียว ก่อนที่จะต้องหยุดลงที่ปลายเชือกของตะขอ มองหาลู่ทางลงที่จะไม่ทำให้เหล่าสุนัขยามผู้ซื่อสัตย์(?)รู้ตัว เท่าที่คำนวณ แท่นนี้สูงไม่น้อย และคิดว่าถ้าโดดลงไปแล้วกะน้ำหนักถูกละก็ เสียงคงไม่ดังมากนัก แถมอยู่ใกล้กับเป้าหมายของเธออีกด้วย ...ว่าแล้วจึงโหนตัวลงมาจากเชือกทันที แต่อาจจะเพราะการคาดเดาที่ผิดพลาดไปหน่อย ทำให้เธอไม่ทันคิดว่า ...สิ่งที่อยู่มากว่าร้อยปีต่อให้สภาพดีแค่ไหน ก็ต้องเปราะบางบ้างละนะ ....
แกรก !! โครม !!
ร่างบางไถลล้มลงกับพื้นหินทันที เมื่อจู่ๆไอ้แท่นบูชาที่ว่าสภาพดีที่สุดเกิดแตกหักขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เสียงร้องโอดครวญดังขึ้นเบาๆพร้อมกับร่างของหมายักษ์ เอ้ย! ... ชายฉกรรจ์ทั้งหลายลุกพรวดและพุ่งมาหาเธอแทบจะทันที ใบหน้าหวานภายใตผ้าคลุมถึงกับถอดสี ก่อนจะเอื้อมมือคว้าหมับเข้าที่ของที่ต้องการพร้อมกับพุ่งตัวหนีชายฉกรรจ์ทรงผมเดธร็อคคนหนึ่งทันที
"จับตัวยัยนั้นไว้ !!!" เสียงตะโกนสั่งการจากชายอีกคนทำให้เธอถึงกับเหงื่อตก รีบโหนตัวขึ้นไปบนแท่นบูชาที่จะพังแหล่ไม่พังแหล่ มือหนาไม่ต่างจากท่อนไม้ใหญ่หลายคู่คว้าสะเปะสะปะหมายจะจับตัวเธอไว้ หากแต่คงไม่ทันการเท่าใดนักเมื่อเจ้าตัวเล่นดีดตัวขึ้นไปคว้าหมับที่ท่อนเหล็กที่ยังคงพาดอยู่กับเชือกไว้ แล้วโหนตัวกลับทิศทางเดิมทันที เสียงสบถอย่างหัวดังขึ้น ชายฉกรรจ์หลายคนเริ่มวิ่งไล่เธอ ในขณะที่บางคนคว้าปืนกระบอกสีดำสนิทขึ้นเล็งหมายจะหยุดยั้งเธอไว้
ปัง ปัง ปัง !!!
เสียงปืนลั่นออกมาถึงสามนัดไม่ได้สร้างความหวาดกลัวให้เธอแม้สักนิด เจ้าตัวหลบไปอย่างสบายๆก่อนจะวิ่งไปตามชั้นหินที่โผล่ออกมาจากกำแพง แม้เพียงเป็นเส้นทางเล็กน้อยทรงตัวยาก แต่สำหรับเธอน่ะหรอ จิ๊บจ๊อย !
... ละมั้งนะ ?
แต่นั้นไม่ใช่เวลามาอธิบายถึงความเพอร์เฟคของเธอเสียหน่อย ต้องหาทางหนีก่อนต่างหากเล่า ...!!!
ดวงตากวาดมองไปทั่วทิศทางรอบข้าง ตอนนี้เจ้าพวกนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วสิ แถมไอ้กระสุนที่กราดมาทางเธอนี้ดูท่าว่าคงจะไม่หยุดง่ายๆด้วย พลันเหลือบไปเห็นหน้าต่างบานหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่สิ เรียกว่าหน้าต่างคงไม่ได้ ต้องเรียกว่า 'ซอกหิน' สินะ ? เอาเถอะ อย่างที่บอก นี้ก็ไม่ใช่เวลาคิดเหมือนกัน ขาเรียวรีบเร่งเดินไปตามชั้นหินพร้อมกับหลบกระสุนไปด้วย ใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ได้ยินเสียงตะโกนสั่งให้หยุดไม่ขาดสาย แต่อย่างว่า เราขโมยเขามา เรื่องอะไรต้องหยุดให้โดนจับ ? มือเรียวคว้าเข้าที่ขอบหิน ก่อนจะเหวี่ยงตัวเตรียมออกไป แต่คงจะเป็นเพราะความคิดกวนๆแต่กำเนิด ไม่วายส่งสายตาเย้าแหย่ไปทางชายฉกรรจ์ที่มองมาอย่างโกรธแค้น เรียวปากสวยเอ่ยแผ่วเบาแต่กลับได้ยินอย่างชัดเจนในความเงียบงัน ในประโยคเบสิคที่ว่า
"คิดจะจับคนอย่างข้าน่ะ เร็วไปสิบปีไอ้น้อง !" ก่อนที่จะหันไปทิ้งตัวลงสู่พื้นเบื้องล่าง โดยไม่คิดจะหันกลับมามองอีกเลย ...
ความคิดเห็น