ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วิจารณ์นิยายโดยมาจะกล่าวบทไป...

    ลำดับตอนที่ #2 : วิจารณ์นิยาย-The first kiss. คือเราสองคน

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 55


    ABCD Commet ล่...

    เรื่อง :: The first kiss. คือเราสองคน

    ผู้แต่ง :: New species yaoi

    ก่อนอื่นมาแนะนำตัวกันก่อน ชื่อมุกนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่วิจารณ์อย่างเป็นทางการเรื่องแรก ไม่ว่าจะเป็นข้อติ-ชมก็อยากให้นำไปปรับใช้ค่ะ ทุกจุดวิจารณ์ให้อย่างจริงใจไม่มีอคติ หรือเข้าข้างใดๆ ผิดคือผิด ถูกคือถูก อาจจะแรงไปบ้างก็ขออภัยนะคะ ขอให้เปิดใจรับฟังและนำไปปรับใช้ รับรองว่าได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ

    เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลยจ้า~

    (ถ้าพบคำผิดขอให้อ่านข้ามๆ มันไปเถอะค่ะ มุกอาจจะไม่ได้อ่านทวนหลายรอบนัก ขออภัยในความไม่รอบคอบ)

     

     

     

    -         ชื่อเรื่อง (8/10)

    จริงๆ แล้วชื่อเรื่องไม่ได้ขัดกับเนื้อเรื่องเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่หักคะแนนเล็กน้อย ชื่อเรื่องภาษาไทย กับภาษาอังกฤษเพราะมันขัดกันไปนิด ไม่ค่อยเข้ากัน เท่าไหร่

    -         ตัวละคร (10/20)

    ตรงนี้ขอหักคะแนนเยอะหน่อยนะคะ สำหรับการเปิดเรื่องตัวละครก็เยอะพรึ่บพรั่บแล้ว แต่ยังไม่มีการนำเสนอให้แต่ละตัวละครเตะตาคนอ่านเลยค่ะ ช่วงตอนแรกๆ มุกขอสารภาพเลยว่าใครเป็นใครก็ไม่รู้ โอเค มีพ่อ มีแม่ของทั้งสองฝ่ายที่แต่งงานกัน ฝ่ายพ่อมีลูกติด 3 คน ฝ่ายแม่เองก็มีลูกติดอีก 1 คน นอกจากนี้ยังไม่เหล่าเพื่อนๆ หรือแม้กระทั่งคนงานในบ้านอีก บลา บลา บลา

    แต่หลายๆ คนดูเหมือนจะพูดคล้ายๆ กันไปหมด ไม่มีการบรรยายอย่างเด่นชัดว่าตรงนี้ใครพูด แล้วตรงนั้นใครตอบ (ตรงนี้จะขอพูดในส่วนของเนื้อเรื่องนะคะ)

    สรุปคือตัวละครยังจืดชืดค่ะ แม้จะมีเอกลัษณ์เฉพาะตัว แต่ดูเหมือนบรรยายบ้างเป็นบางคราวว่านิสัยแบบนั้น แบบนี้ แต่คน 2 คนที่คุยกัน คนหนึ่งนิสัยหนึ่ง อีกคนก็นิสัยอีกแบบไปเลย แต่การพูดกลับไม่แตกต่างกันนัก อย่างเช่นพี่ชายคนโตผู้เคร่งขรึม เอาเข้าจริงพูดเป็นต่อยหอยเลยทีเดียว แถมยังขี้กวน ความเผด็จการโอเคค่ะ แต่ดูจะติดกวนไปนิด แบบนี้กลายเป็นนิสัยของตาคนรองไปแล้วนะ การมีตัวละครมากๆ อยากให้ระวังจุดนี้เป็นพิเศษค่ะ บุคลิกแต่ละแบบของตัวละครจะเป็นจุดดึงดูดคนอ่านได้ดีเลยทีเดียว

    -         เนื้อเรื่อง (20/30)

    ส่วนของเนื้อเรื่องไม่มีอะไรให้หักคะแนนมากนักค่ะ พล็อตเรื่องค่อนข้างจะเป็นพล็อตลาด แต่ก็นำเสนอได้โอเคทีเดียว เพียงแต่จะหักคะแนนเยอะหน่อยตรงที่บางครั้งก็บรรยายเอื่อยเฉื่อยเกินไป ในขณะที่บางครั้งกลับรวบรัดเกินไปซะอย่างนั้น ทำให้บางประโยคดูไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนจะพยายามให้ภาษาออกมาสวยจนแปลก เช่น

    ผมเอ๋ยถามพ่อเลี้ยงผม  ลุงพงศษ์นักธุรกิจพันล้าน มือดีอันดับต้นๆของเมืองไทย

    ที่มีธุรกิจ ทั้งในและนอกประเทศ   แต่ด้วยเหตุใดมิทราบถึงได้มาตกหลุมรักแม่ผมที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร

    เล็กๆแห่งหนึ่ง  ย่านแหล่งท่องเที่ยวทางเชียงใหม่

    *สีแดง-คำผิด

    *สีชมพู-คำที่ไม่แน่ใจว่าผู้เขียนต้องการเขียนว่าอย่างไรกันแน่

    จากตรงนี้ไม่ต้องบอกว่าคุณพ่อเลี้ยงมีธุรกิจใน-นอกประเทศหรือเปล่า เพราะเหตุการณ์ต่อจากนี้จะพูดถึงธุรกิจของคุณพ่อเลี้ยงว่าเป็นอย่างไร หรือถ้าจะพูดถึงธุรกิจก็ควรจะมีมากกว่านี้ เหมือนแค่เกริ่นนิดหน่อยก็หายไปแล้ว อ้าว! แอบค้าง

    และจุดสำคัญ “เหตุใดมิทราบถึงได้มา” แน่นอนว่ามันอาจจะแปลกนิดหน่อยหากคุณแม่จะตกหลุมรักใครสักคน แต่เหมือนว่าประโยคนี้จะแฝงความประหลาดใจ อิจฉา ประมาณว่า 2 คนนี้ไม่น่าจะตกหลุมรักกันทำนองนี้ค่ะ อ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่เป็นธรรมชาติ และอาชีพของคุณแม่ก็ไม่ต้องบอกหรอกค่ะว่าอยู่ที่จังหวัดไหน จบแค่ร้านอาหารเล็กๆ เป็นอันรู้เรื่องค่ะ

    เมื่อพูดถึงความไม่เป็นธรรมชาติของประโยคแล้ว มาพูดถึงอาการพิเศษของตัวละครที่หยั่งรู้อนาคตกันดีกว่าค่ะ เช่น

    ผมเพ่งมองเจ้าของใบหน้าขาวใส  ริมฝีปากหนาได้รูป  คิ้วเข้ม  จมูกโด่ง  นัยย์ตาดุ   รูปร่างสูงใหญ่

    บุคลิกดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ  ใบหน้าของชายหนุ่มเรียบเฉย  แม้ยามที่ผมยกมือไหว้ เขาเพียงแค่พยักหน้ารับ

    *สีฟ้าคราม-ประโยคที่ผิดธรรมชาติ

    อ่านประโยคนี้แล้วแปลกไหมคะ? ยังไม่รู้เลยว่าเขาอายุเท่าไหร่ แต่รู้แล้วว่าบุคลิกเขาเกินอายุ โอเค ตัวละครอาจจะรู้มาก่อนว่าชายคนนี้อายุเท่าไหร่ แต่อย่าลืมนะคะว่าคนอ่านเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยแล้วเข้ามาอ่านนิยายของเรา ทุกตัวอักษรของเราเป็นทางที่จะนำพาเขาไป เขาจะค่อยๆ เรียนรู้ และจดจำเส้นทางตามที่เราบอก ตรงนี้บอกว่าเกินอายุ แล้วเกินยังไง เขาดูเหมือนอายุเท่าไหร่ แล้วจริงๆ แล้วเขาอายุเท่าไหร่ คำถามมากมายจะประเดประดังเข้ามาในหัวทันที ตรงนี้ถ้าบอกแต่แรกเลยว่า

    “เขาดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุทั้งที่จริงๆ แล้วเขาอายุแค่ 21”

    ต่อไปเป็นการใช้คำซ้ำที่มากจนเกินไปทำให้เหมือนประโยคคล้ายกับเดจาวู

    พร้อมเดินไปนั่งลงที่โซฟากลางบ้านที่คุณลุงพงศษ์นั่งอยู่

    ลองเปลี่ยนเป็น

    พร้อมเดินไปนั่งลงบนโซฟาที่คุณลุงนั่งอยู่

              คำภาษาไทยมีมากมายค่ะ ความหมายเหมือนกัน แต่คำต่างกัน ทั้ง “ที่” และ “บน” เป็นคำระบุตำแหน่งทั้ง 2 คำ แต่เมื่อเลือก “บน” มาใช่เพิ่มทำให้คำดูหลากหลาย และสวยงามขึ้นค่ะ

    การเว้นวรรค รวมไปถึงการขึ้นบรรทัดใหม่ยังไม่ถูกต้องนะคะ การเว้นวรรค เว้นเป็นเคาะสเปคบาร์เพียงครั้งเดียวเท่านั้นพอค่ะ ส่วนการเว้นวรรค หากอยากจะเว้น 1 ครั้งทุกๆ การขึ้นบรรทัดใหม่สามารถทำได้ค่ะ เพียงแต่เว้น 1 บรรทัดสำหรับบรรทัดใหม่ และเว้น 2-3 บรรทัดสำหรับย่อหน้าใหม่

                อะไรทำให้เขาเป็นแบบนี้......แค่สบตากับผู้ชายนัยย์ตาดุคนนี้ 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                

     

     

                “หวัดดีฮะ ผมอานนท์ผมเอ๋ยทักทายทั้งที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมา 

    อ่ะโห!!! อะไรจะเว้นเยอะขนาดนี้? ทั้งๆ ที่เป็นย่อหน้าเดียวกัน แต่เว้นจนดูเหมือนขึ้นย่อหน้าใหม่ เปลี่ยนเหตุการณ์ไปแล้วซะอย่างนั้น แบบนี้จะทำให้สับสนนะคะว่า อ้าว! ยังคุยกันอยู่ แต่ทำไมเว้นเยอะจัง ลองดูแบบนี้นะคะ

     

    อะไรทำให้เขาเป็นแบบนี้......แค่สบตากับผู้ชายนัยย์ตาดุคนนี้ 

     

    หวัดดีฮะ ผมอานนท์ผมเอ๋ยทักทายทั้งที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมา

     

    กลัวร่างสูงตรงหน้าเห็นใบหน้าที่แดงก่ำ  มันน่าอายจะตาย

     

    เว้นแบบนี้ผู้อ่านจะเข้าใจได้เลยว่า เว้นประมาณนี้คือยังเป็นเหตุการณ์เดิมนะ ที่เว้นเพื่อให้รู้ว่าอยู่คนละบรรทัดเท่านั้น

    และอีกอย่างที่ควรใช้ในการเขียนนิยายคือ “หลัก 3” เพื่อความสวยงามที่ไม่ทำให้ดูรกจนเกินไปควรใช้สัญลักษณ์ต่างๆ เพียงแค่ 3 เท่านั้นค่ะ ไม่ควรเกินจากนี้

    อึ้ง..................กิมกี่

    "อ้ากกกกกกกกก   ไอ้นนท์อยากตาย" ผมตะโกนสุดเสียงหลังที่ได้ยิน

    อึ้ง... กิมกี่

    "อ้ากกก ไอ้นนท์อยากตาย" ผมตะโกนสุดเสียงหลังที่ได้ยิน

    แบบล่างดูโอเคกว่าใช่ไหมคะ? ไม่ว่าจะลากเสียงยาวขนาดไหน การที่มากเกินไปจะทำให้ดูรกได้ค่ะ

    และเรื่องสุดท้ายคือการเล่าเรื่องของตัวละคร การใช้สรรนามบุรุษที่ 1 คือตัวผู้เล่า เล่าเรื่องตัวเองข้อดีคือเราจะบรรยายได้ง่ายว่าตัวละครนั้นรู้สึกอย่างไร แต่ข้อเสียคือไม่สามารถบอกได้ว่าตัวละครอื่นๆ รู้สึกอย่างไร เพราะไม่ใครมีญาณวิเศษหยั่งรู้ความคิดคนอื่นได้ การแก้ปัญหาของนักเขียนหลายๆ คนก็คือเปลี่ยนตัวผู้เล่า

    แต่... การเปลี่ยนบ่อยจนเกินไปอาจทำให้ผู้อ่านสับสนได้ หากไม่ระบุให้แน่ชัด และที่สำคัญวกกลับมาเรื่องเดิมค่ะ บุคลิกของตัวละครจะสะท้อนให้เห็นว่าขณะที่เล่าอยู่ความคิดเขาจะต้องไม่เหมือนกับตัวละครเดิมที่เคยเป็นผู้เล่ามาแล้ว

    ขอให้ระวังจุดนี้ดีๆ ค่ะ การเปลี่ยนตัวละครบ่อยเกินไป หรือนิสัยที่เหมือนเกินไปจะให้ให้สับสน

    -         การใช้ภาษา (24/30)

    สำหรับคำผิด ขอบอกว่าเยอะพอสมควร และหลายๆ คำเป็นคำที่ผิดคำเดิมซ้ำๆ อีกด้วยสรุปคำผิดตอนที่ 1-2 ค่ะ (ขอสรุปแค่ 2 บทเท่านั้น เดียวจะเยอะเกินไป)

    นัยย์-นัยน์

    เอ๋ย-เอ่ย

    *ลุงพงศษ์-ลุงพงษ์หรือลุงพงศ์ (แบบนี้น่าจะดีกว่านะคะ)

    ขี้เก้ก-ขี้เก๊ก

    ภวังน์-ภวังค์

    เพล์บอย-เพลย์บอย

    โอยกอด-โอบกอด

    นิ-นี่

    บรรได-บันได

    ได่ก่า-ได้ก่า?

    ยืนบื้อทำไร-ยืนบื้อทำอะไร?

    พรุ้งนี้-พรุ่งนี้

    โทรศัพท์-โทรศัพท์

    ถามผมไหมอ่ะ-ถามผมทำไมอ่ะ

    เห้อะ-เฮอะ

    ปุ้บปั้บ-ปุ๊บปั๊บ

    ไมชี้-ไม่ชี้

    พี่ชอบน่ะ-พี่ชอบนะ

    หน่อยคร้าบเถอะ-หน่อยเถอะครับ?

    อาจจะมีเยอะกว่านี้ลองตรวจสอบดูอีกรอบนะคะ ขอแนะนำให้พกพจนานุกรมไว้ค่ะ เจอคำไหนที่ไม่แน่ใจจะได้เปิดดูได้

    (ขอชี้แจงนิดนึงนะคะที่มุกบอกว่าให้มองข้ามคำผิดของมุกเพราะเป็นบทความวิจารณ์ค่ะ ส่วนนิยายควรมีคำผิดให้น้อยที่สุด หรือไม่มีเลยยิ่งดีค่ะ)

     

    -         มารยาทของนักเขียน (9.5/10)

    ตัวนักเขียนเองสุภาพแน่นอนอยู่แล้วค่ะ แต่ที่ขอหักคะแนนนิดหนึ่งนั้นเป็นมุกอยากให้นักเขียนพูดคุยทักทายนักเขียนให้มากหน่อยค่ะ

    -         สรุปคะแนน : 71.5 เกรด B

    -         คำแนะนำ : สรุปนะคะจุดที่ควรปรับปรุงคือ

    1. หลัก 3

    2. การเว้นวรรค

    3. การขึ้นย่อหน้าใหม่

    4. ประโยคไม่เป็นธรรมชาติ

    5. ความมีมิติเป็นธรรมชาติตรงบุคลิกตัวละคร

    6. คำผิด

    7. คำซ้ำเยอะเกินไป

    8. การสลับตัวละครบรรยายบ่อยเกินไป

    9. รวบรัด หรือปล่อยให้ประโยคยืดยาวเกินจำเป็น

    อาจจะดูเหมือนมีส่วนที่ต้องแก้ไขเยอะ แต่เชื่อมุกเถอะค่ะว่ามันเป็นประโยชน์มากๆ ในการปรับปรุงผลงานให้ดีขึ้น ยังไงก็สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×