คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 2 - ดีหรือชั่ว
Part 2
เขาอาจจะเรียกว่า...รักแรกหรืออะไรก็ได้ แต่ผมนั้นได้หลงรักนามิมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว...ก่อนที่จะเกิดเรื่องนั้น
เช้าวันต่อมา
ผมได้แต่นอนคดตัวอยู่บนเตียง เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงต้นเดือนธันวาคม...เป็นช่วงฤดูหนาวที่ยาวนาน...และวันนี้ก็เป็นวันเสาร์เสียด้วย เหมาะแก่การนอนขดอยู่ในผ้าห่มที่สุด
"ตื่น...ได้แล้ว" เซนยื่นพูดอยู่ข้างเตียงของผม ด้วยเสียงที่ดูเย็นชา
และที่เซนเป้นแบบนี้ก็เพราะผมแย่งอีกขั้วของเซนมาหมดเลยล่ะมั้ง~
"อีกห้าชั่วโมง~ หนาว~" ผมบ่นพร้อมกับซุกหมอนต่อไป
แกร๊ก!~
เสียงชักไกปืนได้ดังขึ้น
"เฮ้ย!~ ทำไมต้องเล่นแบบนี้ด้วย" ผมรีบลุกขึ้นไปโวยวายทันที
"แล้วเมื่อไหร่นายจะตื่น..." เซนพูดออกมาอย่างเย็นชา "วันนี้ต้องออกไปฝึกที่สนามใหญ่นะ..."
"หนาวแบบนี้เนี่ยนะ~" ผมพูดเสียงดัง "นายน่ะมันคูลเกินไปแล้ว~"
"จะได้สร้างภูมิคุ้มกันความหนาวไว้บ้างไง~" และแล้วเซนก็ยิ้ม...แบบเยือกเย็น "ถ้าไม่ไปจะได้เขียนรายงานประจำวันซ่ะเลยนิ~"
"บอกตรงๆ วันนี้วันเสาร์นะ" ผมลงจากเตียงแล้วไปยืนประจันหน้ากับเซน "นายไม่ให้เจ้าพวกนั้นได้พักบ้างรึไง~"
"ไม่..." เซนพูดออกมาช้าๆ
"รอหน่อยละกัน..." ผมพูดออกมา "ออกไปก่อน"
ผมรีบเปลี่ยนชุดแล้วใส่ผ้าพันคอในทันที แล้วรีบเดินออกไป
"มาแล้วๆ" ผมพูดแล้วเดินตามเซนออกไปทันที
พอเจ้านั่นหันหลังให้ผมก็...ซัดให้สลบแล้วหิ้วไปโซนญี่ปุ่นทันที
มีบ้านทรงญี่ปุ่นหลังใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้าของผม
ครืด~
"โยสึโกะ~" ผมลากเสียงออกมา "ฝากเจ้าหมอนี่ไว้ก่อนสิ~"
"ไม่ต้องเลยเค..." เธอบ่นออกมา "เดี๋ยวเจ้าหมอนั่นจะก่อความวุ่นวายในบ้านชั้นอีก~"
"แต่ถ้าไม่ทำ เจ้านี่ก็จะลากเราไปสนามใหญ่ให้ได้เลยนี่สิ~" ผมบ่นออกมา "น่าๆ~ อย่างเธอทำได้อยู่แล้ว~"
"เอางั้น...จะดีหร่อ" เธอมองหน้าผมครู่หนึ่งแล้วหันไปมองเซนทันที
"มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้น" ผมพึมพำเบาๆ "ฝากด้วยนะ...โยสึซึเมะ โยสึโกะ"
ผมพูดเสร็จพร้อมกับวางเซนลงให้พิงกับกำแพงแล้วเดินออกไป
"ว่าไง~ คินาสึมิ คิระ~" เสียงๆหนึ่งที่พอผมได้ยินมักจะฉุนขาดเสมอดังขึ้น
"ฟุโด เฮย์รุวะ…" ผมหันไปมองเขาซึ่งอยู่บนหลังคา "ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ~…ผู้ใช้ซากศพ"
"เพื่อนเก่า…ไม่คิดจะทักทายกันแบบเพื่อนเก่ากันบ้างมั้ยล่ะ~" เขาพูดเย้ยผม "เสียใจเป็นนะเนี่ย~"
"ทำไมผมต้องแคร์...คุณด้วยล่ะ" ผมพูดเสียงเรียบใส่เขา "เราน่ะเป็นศัตรูกันอยู่แล้วนี่~"
"ได้ใหม่เลยลืมเก่าสินะ..." เขาพูดออกมาแบบกวนผม "เอาเถอะ~ ยังไงมันก็สิทธิของนายนี่นะ~"
"ขายมันไปแล้วยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกหร่อ" ผมพูดพึมพำ
"ขาย...อะไรกัน วิญญาณมันก็แค่จิตใจเท่านั้นแหล่ะ ไม่เห้นจะต้องยึดติดกับมันเลยนี่~" เขาพูดออกมาด้วยเสียงที่ราบเรียบแล้วทำหน้าเย็นชา "มันไม่สำคัญเลยซักนิด~"
"คราวนี้ตัดขาด" ผมพูดแล้วรีบเดินกลับไปทางหอพักของตัวเองทันที
"แหมๆ ร่างกายแบบนี้ทำอะไรไม่สะดวกเลยจริงๆสินะ~" หมอนั่นมายืนดักหน้าผมไว้ "จะหนีไปไหนๆ หนึ่งในเจ้าชายแฝด"
"ถอยไป" ผมพูดเสียงแข็ง "งั้นนาย..."
แน่นอน...ผมพยายามควานหาดาของผม ประเดี๋ยวนะ....มันอยู่ใต้เตียงนี่หว่า...เอาไงดีล่ะ
"ผมจะทำไมล่ะครับ~ จะฟันผมรึไง" เขาหัวเราะกวนผม "มีเหยื่อชิ้นโตยืนอยู่ตรงหน้า...ใครจะไปยอมให้มันหนีไปได้ล่ะ~"
"แกมัน..." ผมกำมือแน่น "เลวสิ้นดี..."
อยู่ดีๆเจ้านั่นก็ทรุดลงพร้อมกับยกมือขึ้นไปกุมหัวในทันที พอได้โอกาสผมจึงวิ่งกลับไปที่ห้องของผมในทันที
"หมอนั่น..." ผมพึมพำออกมาเบาๆ
"ใครอีกล่ะ..." เสียงของเน็นโซดังขึ้น
คุราซากะ เน็นโซได้นั่งอยู่บนโซฟาในห้องของผม กำลังนั่งอ่านบันทึกข้อมูลในหนังสือข้อมูลคู่กายของเขา ฉายาจอมวางแผน รบร้อยครั้งถ้าได้หมอนี่มาวางแผนให้ล่ะก็ชนะร้อยแน่นอน น้องสาวของเขาชื่อคุราซากะ นามิ เธอมีนิสัยต่างจากพี่สุดขั้ว ตอนนี้เธอก็ยืนถือถาดน้ำชาอยู่ข้างๆโซฟา
"เจ้านั่น...มาแล้ว" ผมพูดพร้อมกับหอบเพราะความเหนื่อย "ผู้ใช้ซากศพ..."
เคร้ง!~
ถาดน้ำชาที่นามิได้ถืออยู่นั้นได้ร่วงลงสู่พื้นทันทีที่ผมพูดคำๆนั้นออกมา พร้อมกับทรุดลงกับพื้น
"เร็วเกินไป" เน็นโซก็อึ้งไปในทันทีที่ได้ยิน "เจ้านั่นไม่มีทางมาเร้วขนาดนั้น!~"
"เฮย์รุคุงเค้า...มาแล้ว..." นามิกุมหัวตัวเองแล้วสั่นอย่างหวาดกลัว "ไม่...ไม่...ไม่นะ!~"
เธอร้องลั่นจากนั้นก็ล้มลงไป
"เรา...ทำอะไรไม่ได้เลยสินะ..." ผมพึมพำออกมา แล้วอุ้มนามิไปนอนที่เตียงในห้องของผมพร้อมกับเดินกลับมานั่งลงที่โซฟาด้วยเหมือนกัน "คนที่มีความทรงจำแย่ๆแบบนั้น...มีแค่นามิคนเดียวสินะ..."
"อืม..." เน็นโซพึมพำเบาๆ "เพราะเจ้าบ้านั่นแท้ๆเลย~"
"โถ่เอ้ย!~" ผมทุบโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าสุดแรง "มาเร็วไม่สมกับเป็นพวกนั้นเลย..."
"เอื่อยเฉื่อย เหมือนซอมบี้..." เน็นโซพูดขึ้นมาอีก "จะว่าไปเจ้าพวกนั้นดูเหมือนจะมีกำลังมากขึ้นพอเจ้าเฮย์รุวะกลายเป็นพวกของมันไป"
"ได้ความอัจฉริยะของเจ้านั้น...ไปพัฒนาพลังในการเรียกใช้ซากศพสินะ" ผมพูดเบาๆพร้อมกับก้มหน้าคิด "ซากศพของนักรบนับแสน..."
"ยังไงๆมันก็ซอมบี้…ชัดๆ" เน็นโซพูดเบาๆ
ซึ่งมันทำให้ผมผวาไปแล้ว...
"เป็นอะไรไปน่ะ..." หมอนั่นจ้องหน้าผมที่ทำหน้าเหวอๆกับคำว่าซอมบี้ "ยังไม่เลิกกลัวของสยองขวัญอีกรึเนี่ย"
"กะ...ก็มัน..." ผมพูดอย่างหวั่นๆ "สยองนี่นา~"
"พูดตรงๆ...ยังไงๆนายก็ต้องลงไปนัวอยู่กับพวกมัน" เน็นโซมองผมอย่างเอือมๆทันทีที่พูดเสร็จ "แข็งใจหน่อยเถอะ~"
"ไม่เอา~" ผมร้องออกมา "ยังไงก็ไม่ยอมไปยุ่งกับตัวน่ารังเกียจแบบนั้นเด็ดขาด"
"เฮ้อ~ ถ้านายได้ความนิ่งมาจากเซนซักหน่อยก็คงจะดีสิ" เน็นโซบ่นผมพร้อมกับยกแก้วชาขึ้นมาดื่ม "ไอ้ทางนั้นก็สงบเกินไปด้วย...พวกนายนี่ไม่มีความพอดีเอาซ่ะเลย~"
"พอซักทีจะได้มั้ย~" พอโวยออกมา
"ว่าแต่...เซนล่ะ" เน็นโซหันไปมองรอบๆ "ไม่เห้นตั้งแต่เช้าแล้ว"
"หมอนั่นคิดจะลากผมไปสนามใหญ่แต่เช้าแล้ว~" ผมพูดเบาๆ "เลยจัดการแล้วเอาไปฝากโยสึโกะดูแลซักพักน่ะ..."
"วิธีเอาตัวรอดเฉพาะทางสินะ..." เน็นโซมองผม "ก็เจ้านั่นจะมีความรู้สึกเฉพาะตอนอยู่กับโยสึซึเมะนี่น่ะนะ~..."
"แปลกคนจริงๆนั่นแหล่ะ" ผมบ่นออกมา
"ว่าแต่...คราวนี้พ่อของนายยังแทบไม่รอดแล้วพวกเราจะเหลืองั้นรึ..." เน็นโซถามผมอีกรอบ
"ไม่แน่หรอก...ปาฏิหาริย์มีจริงแน่นอน" ผมพึมพำเบาๆ "เราอาจจะต้องใช้...พลังของทุกคนรวมกัน...หรืออาจจะต้องบีบอัดพลังทั้งหมดแล้วทำลายพวกมันด้วยชีวิตของผมเลยก็ได้..."
"นายห้ามทำแบบนั้นเด็ดขาดนะ... " เน็นโซจ้องหน้าผม "ชั้นน่ะไม่ได้ห้ามนายกับนามิคบหรือเป็นอะไรกัน มีแต่จะสนับสนุน...แต่ว่า...เธอน่ะกำลังสับสนกับตัวเอง ตั้งแต่นายพูดคำนั้น...ในวันนั้น วันที่นายจะกลับไปกับพ่อของนาย"
"งั้นหร่อ...แบบนี้เองสินะ..." ผมพึมพำ "งั้นผมคงทำแบบนั้นไม่ได้แล้วกัน..."
"...วันนี้ถ้าชั้นไม่เห็นความคืบหน้าของพวกนาย..." เน็นโซลุกแล้วเดินไปที่ประตู "ก็ไม่ต้องมาคุยกับชั้นในฐานะเพื่อนสมัยเด้กกันอีกเลย..."
แบบนี้เขาเรียกรัฐประหารนะ...เน็นโซ...
"ไม่เป็นไรจริงๆนะ..." ผมพูดขึ้น "น้องสาวของนายเชียวนะ..."
"ชั้นยอมเรียนช้าสองปีเพื่อที่จะได้มาดูแลน้องสาวสุดที่รักเลยนะ..." เน็นโซพูดเสียงเรียบ "อย่าทำให้ความหวังอันเล็กน้อยของชั้นที่จะหาคนดูแลน้องสาวของชั้นได้ดีเท่านายเลย..."
"โอเค~..." ผมร้องออกมา "ได้เวลาเปิดใจกันแล้วสินะ..."
"ไปล่ะ..." เน็นโซเปิดประตูแล้วก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว... "ขอบอกไว้อย่างเลย...เจ้านั่นมันหัวไวกว่าที่คิดแฮะ..."
"ว่าไงนะ..." ผมร้องขึ้น "หรือว่า..."
"...อ่า...นั่นสินะ" เน็นโซหันมายิ้มให้ผม
หลังของเน็นโซมีคราบเลือดที่กำลังขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ มุมปากของเขามีคราบเลือดไหลออกมา...
"เน็นโซ...เฮ้~" ผมวิ่งไปรับตัวเขาไว้ทันทีที่เขาล้มลงมา "ละ...ลวดงั้นรึ..."
"หึหึ...เพื่อนเก่า...บอกแล้วไง..." เฮย์รุที่ยืนอยู่หน้าประตูหัวเราะออกมา "ผมน่ะ...ถึงเวลาฆ่า ก็จะฆ่า ต่อให้เป็นเพื่อนเก่าก็เถอะ~"
"แกมัน...ชั่วจริงๆ" ผมโวยกลับไป
"ก็ยังดีกว่าคุณนั่นแหล่ะ...เจ้าขี้ขลาด..." เฮย์รุพูดด้วยเสียงเย็นชา "ถ้าแน่จริงก็ออกมาสู้กันวันจริงเลยเป็นไง...กับกองทัพซอมบี้ที่ไม่มีขีดจำกัด..."
"บอกวันมาเลย..." ผมพูดขึ้น "วันไหนว่ามาสิ..."
"สองอาทิตย์...เราจะบุกมาที่นี่เอง..." เฮย์รุพูดแล้วก็หายตัวไปในทันที...
"เน็นโซ!~" ผมร้องลั่นแล้วรีบหยิบโทรศัพท์มาเรียกพวกคนอื่นๆมาในทันที "ไม่เป็นไรแล้ว...ทุกคนจะมาพานายไปรักษาแล้ว..."
ไม่นานพวกของไคโตะก็มาพาเน็นโซไปโรงพยาบาลทันที
"ไม่เป็นไรนะ..." ซาซึเกะยืนมองผมอยู่หน้าห้อง "ไปอาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนชุดแล้วก็เอาชุดนั้นไปทิ้งซ่ะเถอะ...เปรอะเลือดหมดแล้ว..."
"อ่า...นั่นสินะ...ฝากจัดการที่พื้นด้วยล่ะ" ผมหันไปบอกพวกซาซึเกะแล้วเดินเซเข้าไปในห้องนอนทันที...
ณ ตอนนั้น...ผมเห็นนามิที่กำลังนั่งมองผมอยู่บนเตียง
"คิจัง...น่ะ...นั่นมัน..." เธอชี้มาที่คราบเลือดบนตัวของผม
"อ้อ...ไม่มีอะไรหรอก..." ผมบอกเธอแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปในทันที "ขอผม...อยู่คนเดียวซักพักเถอะนะ..."
ผมยืนอยู่หน้ากระจก...มองคราบเลือดที่อยู่บนตัวแล้วเอามือขึ้นมากุมหัวตัวเองอย่างหวาดกลัว
"ทำไมกัน..." ผมพูดออกมาอย่างหวาดกลัว...
หมับ
นามิได้เข้ามากอดผมจากด้านหลัง...
"ไม่เป็นไรแล้ว...ไม่มีใครทำให้นายเลือดออกได้หรอกนะ~" เธอพูดออกมาเพื่อปลอบใจผม "คุณไม่ผิดซักหน่อย~"
เธอลูบหน้าอกของผมเบาๆ มันทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย...เป็นแบบนี้เสมอ เวลาที่ผมกลัวแบบนี้เธอมักจะกอดผมจากด้านหลังแล้วลูบหน้าอกของผมเอย่างอ่อนโยน...และบางที...ตอนนี้อาจจะเรียกว่า...อารมณ์ขึ้นล่ะมั้ง
"นามิ..." ผมเรียกชื่อเธอออกมาเบาๆ "ถ้าทำแบบนี้...ผมจะเปลี่ยนเสื้อไม่ได้นะ...เอางั้น..."
ผมจึงปลดกระดุมเสื้ออกช้าๆพร้อมกับกระชากเสื้อออกจนขาด
"ฉันยอมก็ได้นะ..." เธอพูดออกมาเบาๆ "ถ้านายต้องการ...มัน"
ผมจึงหันตัวเข้าไปหาเธอทันที พร้อมกับก้มลงไปจูบเธออย่างแผ่วเบา...
"เพียงแค่สองอาทิตย์...เราก็จะเจอกับพวกมันแล้วนะ" ผมพูดออกมาเบาๆ
เธอเอามือลูบหน้าอกของผมช้าๆ
"ถ้าไม่ชนะกลับมา...ก็จะไม่มีงานของเราอีกแล้วนะ~" เธอยิ้มให้ผม
"เอาแบบนี้เลยสินะ~" ผมยิ้มกวน "วันนี้ขอก่อนได้มั้ยล่ะ~"
"เดี๋ยวเถอะ~" เธอร้องออกมา
ผมจึงอุ้มเธอขึ้นเตียงเลยสิครับ...ใครมันจะไปรอฟัง
"ทำอะไรน่ะ~" เธอร้องออกมา "เดี๋ยวเถอะ~ คิจัง~"
"ไม่รอฟังแล้ว..." ผมพูดแล้วถอดเสื้อของเสื้อออกช้าๆ "พี่ชายของเธอสั่งมาแล้วนะ..."
"บ๊อง~" เธอพูดออกมา "จะซื่อเกินไปแล้ว~"
"แล้วที่เธอทำแบบเมื่อกี้นี้…มันยิ่งทำให้ผม...เป็นแบบนี้" ผมก้มมองลงไปทางกางเกงของผมแล้วหัวเราะ "ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ~"
"สรุปคือฉันต้องรับผิดชอบสินะ~" เธอถอยหายใจออกมา "ก็ได้ๆ~"
เธอเอื้อมมือขึ้นมาคล้องคอผมแล้วขยับขึ้นมาจูบที่ปากของผมอย่างนุ่มนวล ซึ่งสิ่งที่ผมทำได้นั้นคือการจูบตอบเธอไป แล้วเอื้อมมือไปโอบเอวของเธอไว้
และสิ่งต่อไปที่จะทำนั้น...เปิดเผยแค่บางช่วงล่ะกัน
"อึก...คิจัง~" เธอได้ร้องครางออกมาอย่างแผ่วเบา
"นามิ...ผมรักคุณที่สุดเลยล่ะ" ผมค่อยขยับอย่างช้าๆ...(จงคิดไปให้ลึกๆ เพราะมันลึกไงล่ะ)
"อ๊ะ~" เสียงร้องของเธอได้ดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ
"อึก..." ผมได้ร้องขึ้นในตอนที่รู้ตัวว่าตัวเองได้ทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน
.
.
.
เช้าวันต่อมาแทนที่ผมจะได้ซุกผ้าห่มกลับกลายเป็นว่ามีเธอมาซุกผมแทน...มันเป็นช่วงที่อัศจรรย์ใจอย่างมากที่สุด
"อ่า...นามิ...เช้าแล้วนะ~" ผมพยายามเรียกเธอใหตื่น
"อืม~" เธอได้ขานตอบผมกลับมา "ขออยู่แบบนี้ต่ออีกซักพักเถอะนะ~"
"อ่า...ได้สิ..." ผมยิ้มแล้วนอนกอดเธออยู่บนเตียงในสภาพที่กึ่งๆเปลือย ไม่หนาวเลยงั้นหร่อ...""
"อื้อ~" เธอส่ายหน้า "อยู่กับคิคุงแบบนี้ฉันมีความสุขและอุ่นสุดๆเลย~"
"อ่า...งั้นรึ" ผมยิ้มแล้วนอนกอดเธอต่อ "เจ็บมั้ย..."
"นิดหน่อยคะ~" เธอได้ตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว "แต่ไม่เป็นไรหรอก..."
"แบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ~" ผมยิ้มทันทีที่ได้รับคำตอบ
และวันนี้ก็เป็นวันอาทิตย์
ความคิดเห็น