ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    IB : Infinity Boys เรื่องรักๆของฝาแฝดทั้งสอง

    ลำดับตอนที่ #5 : ข้อที่0:บทแห่งการเริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 10 ธ.ค. 55


    Part from Part

              ความรู้สึกที่อ้างว้างรอบร่างกายนี่มัน...เย็นเฉียบเหมือนกับน้ำ...น้ำ...งั้นรึ...ร่างกายของข้ามันแหลกสลายไปแล้วนี่...

              "ฟื้นแล้ว!~" เสียงของลุง...ไม่สิ...โทเซย์ดังขึ้น

    พอลืมตาขึ้นก็พบกับคนที่หน้าตาคล้ายๆกับโทเซย์...(แต่ผมสั้นกว่า) "อาลาน ดี ซีอุส~"

              บุ๋ง~ ผมตกใจกะเกียดตะกายอยู่ในนั้นทันที แต่...หันไปทางไหนก็เจอแต่กำแพงที่มองไม่เห็น

              "ดะ...เดี๋ยว!~ อาลาน...อย่าพึ่งตกใจ ขอข้าปิดเจ้านี่ก่อน~" โทเซย์พยายามพูดจนจบแล้วก็หันไปกดอะไรซักอย่างในทันที

    น้ำในโถค่อยๆลดลง จนผมสามารถยืนได้...

    "ออกมาได้แล้วล่ะ..." โทเซย์มองหน้าผมพร้อมกับหันไปใส่เสื้อคลุมสีขาวในทันที

    พอผมเดินออกไปเขาก็เดินมาดึงท่ออะไรก็ไม่รูออกจากปากของผม เหมือนมันจะมีไว้ช่วยหายใจในน้ำสำหรับมนุษย์

              "บะ...เบาๆหน่อยสิ" ผมบ่นเบาๆให้เขาได้ยิน

              "ขอโทษละกัน..." เขาพูดแล้วยิ้มให้ผม...พร้อมกับลูบหัวผมซึ่งเตี้ยกว่า

              "เสียงของข้า..." ผมพยายามพูด

    ผมยกมือขึ้นาดูก็พบว่ามันไม่ใช่...

              "มันไม่ใช่ร่างกายของนาย..." โทเซย์พูดด้วยเสียงที่ราบเรียบ "มันมีแต่พันธุกรรมของลูกชายชั้นทั้งนั้น"

              "นะ...นายสร้างมนุษย์..." ผมหันไปมองหน้าเขา

              "แค่ร่างกายนี่" โทเซย์บ่นต่อ

              "นายทำลายกฏของมนุษย์นะ~" เขาเอามือกุมหน้าผากของผมไว้

              "พ่อของแกขอร้องมาเองนิ...เพื่อที่จะไม่ให้วิญญาณของแกต้องสูญสลายไป..."

    ผมมองเขาด้วยสายตาที่เหลือเชื่อ "พ่อน่ะรึ"

              "อืม...ใช่...4ปีแล้วนี่ที่แกจากเจ้าแฝดนั่นมา..." เขาพูดถึงเหล่าอดีตลูกชายของผม

              "พอเถอะ...มันเป็นอดีตไปแล้ว" ผมพยายามก้มหน้าระงับความโกรธไว้

              "อ้อ...ใช่ เฮเลนรอนายพร้อมคนๆหนึ่งอยู่นะ" โทเซย์พูดพร้อมกับยิ้มกว้าง

              "เวลาแค่สี่ปีเฮเลนไม่มีทางทิ้งผมไปหาคนอื่นหรอก!~" ผมโวยวายลั่น

              "งั้นขอสามวันที่ข้าจะพาเจ้าไปดูให้เห็นด้วยตาของเจ้าเอง" โทเซย์พูดด้วยสีหน้าที่จริงจังเอามาก "รับนี่ไปเช็ดซ่ะ เดี๋ยวจะไม่สบายซ่ะเปล่า~"

              โทเซย์พูดพร้อมกับโยนผ้าขนหนูผืนหนึ่งมาให้ผม

    "ขอบคุณ...แล้วชุดล่ะ..." ผมพูดแล้วถามต่อ

    "ไปหาได้ในตู้ เลือกได้ตามใจชอบเลย" โทเซย์พูดแล้วเดินออกไป

    "…สามวันน่ะ...นานไปแล้ว" ผมบ่นออกมาเบาๆ

              วันต่อมา

              อยากรู้จริงว่าทำไมต้องเป็นตอนดึกๆตลอดเลยนะ ไอ้จุดเริ่มต้นเนี่ย ผมเลยอดเดินดูบ้านบนโลกมนุษย์ของโทเซย์เลย~

              แอด~

              ผมได้เปิดประตูห้องของโทเซย์ออกมาก็พบกับเด็กชายผมสีฟ้าคนหนึ่งนั่งหน้าบึ้งถือรีโมตโทรทัศน์นั่งอยู่บนโซฟา ซึ่งเดาได้ว่าเบาเป็นลูกชายคนล่าสุดของโทเซย์...ซาซึ

    "ซาซึเกะ...นั่งหน้าบูดอยู่ได้~" โทเซย์นั่งบ่นอยู่บนเก้าอี้โต๊ะกินข้าว

    "พอได้รึยังครับ~" ซาซึเริ่มบ่น "อีกสองวันก็ต้องช่วยงานใหญ่ของพ่ออยู่แล้วนี่"

    "แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะไปชนะห้อง S ได้ล่ะ~" โทเซย์คงจะพูดถึงโรงเรียนของซาซึล่ะมั้ง

    "ห้อง A ก็มากพอแล้วล่ะครับ อย่างผมไม่มีทางที่จะไปแทนที่เจ้าแฝดมหาประลัยหัวแดงขว้างโลกนั่นได้หรอก" พอซาซึพูดจบโทเซย์ก็หันมายักคิ้วให้ผมทันที

    "แต่ก็อาจจะไปเป้นสมาชิกเพิ่มเติมได้นี่~"

              พอซาซึได้ยินแบบนั้น ก็หันมาทางผมแล้วบ่นไปทางโทเซย์ว่า "พ่อ!~ เอาเลือดผมไปทำไอ้นี่เองเหรอ!~"

    "นิดๆหน่อยๆเองนะ~" โทเซย์บ่นเบาๆ

    "ไม่นิดแล้วครับพ่อ!~" ซาซึก็เถียงต่ออีก

    "ว่าแต่นายช่วยพาข้าไปพบเจ้าเด็กแฝดมหาประลัยหัวแดงขวางโลกทีได้มั้ย" ผมพูดห้ามศึก (รึเปล่า)

    "เด็กแฝดหัวแดงมีอยู่เกลื่อนญี่ปุ่นเลยนะ" ซาซึเบ้ปากแล้วันหน้าไปทางอื่น "ระบุให้ชัดกว่านี้"

    "The elder brother left eye is Red right eye is Blue.; The younger brother left eye is blue eye and right eye is red." ผมแสยะยิ้มเล่นๆ "ชัดพอมั้ย"

    โทเซย์กับซาซึทำหน้าเหวอในทันที "รับทราบครับ" (ง่ายเว่อร์~ -^-)

    "ดีมาก~" ผมแสยะยิ้มพร้อมกอดอกในทันที

                                                              ลับหลัง

    "พ่อสร้างตัวอะไรออกมาเนี่ย~" ซาซึบ่น

    "ทนไปซักสามสี่วันเถอะนะ~" โทเซย์ทำหน้าสำนึกผิดในทันที

    "เฮ้~จะไปกันตอนไหนล่ะ" ผมหันไปถามพวกนั้น "ลูกชายนายคนนี้ชื่อ ซาซึสินะ~"

    "ซาซึเกะครับ" ซาซึพูดแล้วเขม่นใส่ผมทันที "วันนี้ตอนสิบโมงผมถึงจะลงสนามกัน"

    "ชื่อจริงของนายคือซาซึ แค่นั้นน่ะไม่ทำให้นายกลายเป็นเด็กผู้หญิงหรอกนะ~" ผมบ่น "งั้นชื่อของร่างนี้ก้คือยูสึเกะสินะ~"

    "ใครใช้ให้นายใช้ชื่อนั้นกัน" ซาซึชี้หน้าของผมในทันที

    "โทเซย์ นายได้เอาอาวุธที่ข้าเคยใช้ไปปรับโครงสร้างรึยัง" ผมหันไปถามโทเซย์ในทันที

    "ข้าสร้างให้ใหม่หมดตามลิสต์ที่นายสั่งของจากคลังแสง" โทเซย์พูด "นายทำตัวเหมือนเนคลังแสงเดินได้เชียวนะ"

    "งั้นก็เอามาเลย~" ผมหันไปหาโทเซย์พร้อมกับร้องขอชุด

    "อ่า...ได้ๆ แล้วนายจะเอาของพวกนั้นไปเก็บไว้ส่วนไหนของร่างกายมิทราบ" เขาโวยวายเสียงดังพร้อมกับชี้ที่อาวุธกองเท่าภูเขานั่น

    "มีดสั้นก็เก็บไว้ตามแขนเสื้อไง มีดพกไว้ที่เอว ดาบคาดเอวไว้ กระบอกไพล่หลัง หัวหอกสองคมคาดหลังไว้ เข็มใส่กระเป๋าหลัง หว่างแขนก็เก็บปืน อย่างอื่นก็เก็บตามผ้าคลุมเอา" ผมพูดไปพร้อมกับเก็บของไปตามที่พูด

    "เก็บไม่กลัวตาย" โทเซย์บ่น

    "ช่วยไม่ได้ ก็ผ้าคลุมเทพมันโดนเผากระจุยไปหมดแล้ว" ผมเขม่นคืนโทเซย์ไป

              แต่ว่ากว่าผมจะใส่ของพวกนั้นกับตัวเสร็จก็ล่อไปครึ่งชั่วใมง

    "ชุดอะไร หนักชิบ~" ผมบ่น

    "ก็มันเป้นน้ำหนักที่ร่างเทพรับไหวนี่" โทเซย์มองผมอย่างอนาจใจ

    "จำได้แล้ว~" ผมนึกขึ้นได้ "โรงเรียนนั่น ที่เอาข้าเป็นวีรบุรุษประจำสินะ"

    "มาโฮระ กินโซ" โทเซย์ยิ้มกว้าง "นานๆที วีรบุรุษที่สาบสูญก็จะกลับมาเยือนสินะ~"

    "นั่งเล่นต่อคำกันเสร็จรึยัง~" ซาซึนั่งมองพวกเราที่กำลังยกชุดที่ผมใส่อยู่

    "เสร็จแล้วล่ะ" โทเซย์ตอบไปในทันที "เดี่ยวพ่อจะพายูซึเกะไปหา..."

    "ผมก็จะไปด้วย" ซาซึเกะพูดเสียงเรียบ "อยากไปเห็นหน้าเจ้าพวกบ้านั่นตอนตกใจเหมือนกัน~"

    เราตัดบทมายืนกันหน้าประตูห้องเรียนของโรงเรียนมาโฮระ กินโซ สายคลาส10 ห้อง S เลยล่ะกัน

    "ว่าไง~" มีเด็กชายใส่แว่นที่มีสีผมฝืนธรรมชาติเปิดประตูออกมาต้อนรับพวกเราในทันที "อ้าว~ที่สองตลอดกาล"

    "หมอนี่...มาพบเจ้าแฝดทั้งสองไงล่ะ~" ซาซึพูด "ได้ใช่มั้ย"

    "งั้น...เข้ามาก่อนสิ" เด็กคนนั้นพูดเสร็จก็หลบทางให้พวกเราเข้าไปในทันที

    ภายในห้องนั้นเหนอความเป้นห้องเรียนอย่างมาก อุปกรณ์ที่ห้องเรียนไม่ควรมีซ่ะด้วย

    "เคบอยกับเซนไปไหนล่ะ" เด็กแว่นคนนั้นเดินเข้าไปคุยกับเด็กผู้หญิงที่มีสีผมผิดธรรมชาติเช่นกัน

    "ผู้อำนวยการเรียกตัวไปคุยเรื่องงานวัฒนธรรมน่ะคะพี่~" เธอตอบ "แล้วนั่น~"

    "อ้อ~ แขกน่ะ~ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ มิสเตอร์พี~" เด็กแว่นคนนั้นยื่นมือไปจับกับโทเซย์ "คุณด้วยครับ ผมชื่อคุราซากะ เน็นโซครับ"

    "ยูซึเกะ..." ผมตอบพร้อมกับยื่นมือออกไป

    "คุณคงเป็นร่างที่ถูกสร้างขึ้นมาสินะครับ" เน็นโซพูดพร้อมกับยิ้มให้ผม "อาลานซัง~"

    "เดี๋ยวสิคุราซากะคุง~" โทเซย์ท้วงขึ้น

    "พอดีพวกเราในห้องนี้เป็นคนพิเศษกว่ามนุษย์น่ะครับ ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรเลย พวกเรารู้ได้ตั้งแต่ตอนที่พวกคุณก้าวเข้ามาแล้วล่ะครับ ผมเป็นมนุษย์ข้อมูล ส่วนนี่น้องสาวของผม" เน็นโซหันไปแนะนำเด็กผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ

    "คุราซากะนามิคะ~" เธอยิ้มให้ผม "ยินดีที่ได้พบคะ~"

    "เธอเป็นมนุษย์คำนวนน่ะครั สามารถนับพาราเรลเวิร์ดได้ด้วยนะครับ~" เน็นโซเริ่มอวด

    "อ้อ~ หร่อครับ" ผมทำหน้านิ่ง

    "แต่มีแค่สองคนที่ไม่เคยใช้เซ้นส์ด้านการสัมผัสพิเศษเลยนี่สิ" เน็นโซบ่น

    "ก็พวกเซนกับคิคุงนี่แหล่ะคะ~" นามิยิ้มให้พวกเราอีกรอบ "เขาเป็นพวกเซ้นส์ประสาทสัมผัสด้านชาแต่เด็กแล้วนี่สิ"

    "เรื่องนั้นข้ารู้...ข้าดูแลเขามาตั้งแต่เกิด…" ผมพูดไปสั้นๆ

              โทเซย์เอาศอกกระทุ้งแขนของผม

    "อย่าบอกพวกนั้นเชียวนะ" ผมรีบพูดต่อ

    "พวกคุณนี่เข้าใจยากกันจังนะครับ เป็นอะไรกันรึเปล่าเนี่ย~" เน็นโซเพ่งมองผมทันที "มิโตะ ชงชาให้แขกที~"

    "รับทราบค่า~ หัวหน้า~" เด็กน้อยผมสั้นสีดำวิ่งไปที่เค้าท์เตอร์ในทันที

    "เซนกับเคบอยเป็นคนสำคัญของพวกเรา ห้ามทำให้ทั้งคู่มีบาดแผลเด็ดขาดเลยนะครับ" เน็นโซเริ่มขู่พวกเรา

    "รู้แวล่ะน่า~" ผมบ่นออกไปเบาๆ

    "ชาได้แล้วค่า~"เด็กน้อยที่ชื่อมิโตะเดินถือถาดใส่ถ้วยชามาอย่างรวดเร็ว "วะ~ ว้ายยยยย~"

    ถ้วยชาหลายใบพุ่งเข้ามาทางผม ซึ่งถ้าผมทำลายมันตอนนี้ก็มีแต่จะโดนโทเซย์กับซาซึทันที

    หมับ...มีมือของใครไม่รู้มารับถ้วยชาไว้ได้สองใบ แต่อีกใบนึงมันกำลังจะโดนตัวผม

    "เซน...กำจัด" เสียงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ผมรู้จักดีคนหนึ่งเอ่ยชื่อลูกชายของผมออกมา

              ปัง!~ แก้วที่กำลังลอยเข้ามาได้แตกกระจายแล้วพุ่งมาทางผมเร็วกว่าเดิม

              ฉึก~ มีคนวิ่งมารับมันแทนตัวผม ร่างกายที่สูกว่าผมเยอะมาก...

    "หวิดไปนะครับ~" คิระยิ้มให้ผม

    "คะ...เค..." ผมพูดชื่อของเขาออกไปด้วยความตกใจ

    "คิระ~ เจ้าไม่ควรทำให้ร่างกายมีบาดแผลนะ~" โทเซย์ก้มลงไปดุใส่เขา

    "มิสเตอร์...น่าจะกลับไปทำงานมากกว่านะครับ" คิระหันมาบ่นใส่โทเซย์ "พาของทดลองมาเที่ยวเล่นได้ยังไงกัน"

    หลังจากที่ฟังเจ้าลูกกวนประสาทนี่พูดปุ๊ป

    "มาลองกันซักตั้งมั้ยล่ะ~" ผมพูดเบาๆ "คินาซึมิ คิระ!~  ข้าขอท้าแกประลอง"

              ดูคิระจะตกใจไม่น้อย

    "เซน...เอาไง" คิระหันไปถามเซนในทันที

    "2on2" คำตอบที่ได้รับช่างสมน้ำสมเนื้อจริงๆ ซึ่งมันน่าเบื่อมาก พวกแกจะติดกันเป็นตังเมไปเพื่ออะไร

    "2ต่อ1 มาเลยดีกว่า" ผมพูดเบาๆ "ข้อแลกเปลี่ยนคือเอาเจ้านี่เข้าไปในห้องแกด้วย!~" ผมพูดเสียงดังพร้อมกับชี้ซาซึในทันที

    "เห~" ซาซึกับโทเซย์ร้องเสียงดัง

    "แค่สามนาทีก็จบ..." เซนพึมพำเบาๆ

    "ตกลง~" คิระยอมรับข้อเสนอของผมในทันที

              ครู่ต่อมา ณ สนามประลองใหญ่

              "เป็นแค่โคลนนิ่งแท้ๆ" คิระบ่นพึมพำพร้อมกับเตรียมดาบคู่กายในทันที

    "ระวังไว้ด้วยล่ะ...จิตสังหารมันเหนือกว่าเราเยอะ" เซนพูดพร้อมมองผมที่ยืนจัดของอยู่

    "ประจำที่ได้แล้ว~" โทเซย์เร่งผมที่กำลังเก็บชุดทั้งหมด

    "เสร็จแล้วคร้าบ~" ผมเดินไปยืนตรงที่ๆผมควรยืน ทั้งคู่ก็ยืนข้างกันเช่นเคย

    "ดาบคู่กาย...มีสั้นกับปืนงั้นรึ เลือกใช้อาวุธกันได้เหมาะกับนิสัยนี่~" ผมพึมพำเบาๆ

    "เริ่มได้~" โทเซย์พูดแล้วรีบหลบไปในทันที

    "ดูถูกกันนะ~" คิระเริ่มหวดดาบใส่ผมในทันที

    "ฮัดช่า!~" ผมโดบขึ้นฟ้าในทันทีเช่นกันเพราะผมรู้การเคลื่อนไหวของทั้งคู่อยู่แล้ว

    "นายพลาดแล้ว..." เซนยกปืนขึ้นมาเล็งทางผมซึ่งอยู่กลางอากาศ แน่นอนผมรู้อยู่แล้ว

    "ก็ไม่ได้จะหนี!~" ผมพูดเสียงดัง

    ปัง! ปัง! ปัง!~

    "สามนัดงั้นรึ..." ผมพึมพำแล้วมองกระสุนทั้งสามนัดที่พุ่งมาหาผผมอย่างช้าๆ

    "เตรียมอึ้งเอาฮา!~" ผมตะโกนเสียงดังพร้อมกับเอามือเปล่ารับกระสุนทั้งหมด

    "เป็นไปไม่ได้!~" เซนเผลอตะโกนเสียงดังลั่น

    "ตาข้าบ้างละนะ~" ผมหยิบมีดพกออกมาขว้างใส่เซนแล้วชักดาบออกมาปะทะกับคิระทันทีแล้วชักดาบอีกเล่มออกมากันเซนในทันที

    "หนอย~" คิระกับเซนร้องพร้อมกัน

    "เจ้าพวกลูกๆ ไหนว่าแข็งแกร่งที่สุดแล้วยังไงล่ะ~ แบบนี้เขาเรียกหมาลอดกัดเฟ้ย!~" ผมผลักทั้งคู่ให้ล้มลง โยนดาบทิ้งไปแล้วคว้าหอกกับปืนมาดักไว้

    "พูดอะไรของนายน่ะ..." คิระทำหน้าเหวอใส่ผม

    "หึ...เจ้าพวกลูกชายไร้สมอง" ผมสบถ "จำพ่อตัวเองยังจำไม่ได้เลย"

    "พะ...พ่องั้นรึ" เซนพึมพำ

    "ก็ใช่น่ะสิไอ้ลูกบ้า!~ อย่าให้ต้องปล่อยออร่าเลยเว้ย!~" ผมจับแขนของทั้งสองแล้วจับหักในทันที

    "ยอมๆ!~"คิระร้องลั่น "พอได้แล้วพ่อ!~"

    "ดีมาก..." ผมปล่อยทันทีที่พวกนั้นยอมเรียกผมว่าพ่อ

    "จอมเผด็จการ~" เซนร้องเบาๆ

    "เฮ้อ~ น่าเบื่อจริงๆ~" โทเซย์หาวทันทีที่งานปาหี่จบลง "ผลน่ะมันรู้ตั้งแต่อาลานโดดขึ้นไปกลางอากาศแล้ว~"

    "ทวินส์แพ้งั้นรึ~" เด็กชายผมสีแดงอมส้มใส่ชุดที่มีเข็มกลัดอะไรไม่รู้เยอะแยะ ดูเหมือนจะเป็นเจ้าชายพูดขึ้น

    "ฮ่ะๆ~ เป้นไปได้แฮะ~" เน็นโซบ่นเบาๆ "พ่อก็ต้องชนะลูกสิ~"

    "สรุปพวกนั้นเป้นพ่อลูกกันจริงๆสินะคะ~" นามิพูดเบาๆ

    "ดูจักท่าทางและคำพูดของฝ่ายที่บอกว่าเป็นพ่อ มีส่วนคล้ายเจ้าแฝดน้อยของเราถึง50% เชียวละ~"

    "ฮ่าๆ ถ้าให้เดานะ นายคงจะเป็นเน็นโซที่ลูกชายข้ายาววัย12พูดถึงบ่อยๆ" ผมหันกลับไปหัวเราะใส่เน็นโซทันทีที่เขาพูดจบ "เล่นเอาซ่ะลูกชายข้าไม่อยากกลับโอลิมปัสเลยทีเดียว~"

    "แต่ก็นะ~" คิระเดินมายืนข้างๆผม "ตัวจะหดไปไหน~" แล้วเอามือมาเทียบความสูงกับร่างกายของผม

              พลั่ก!~

    "โทดที~มือมันลื่นน่ะ" ผมพูด

    "แบบนี้ไม่เรียกลื่นแล้ว!~" คิระโวยวายลั่น

    "เป็นเด็กเป็นเล็ก~" ผมบ่น "จะไปหามั้ย...แม่แกน่ะ..."

    "ไม่ไป..." คิระตอบทันทีที่ผมถามไป

    "แม่...ก็มีพ่ออยู่แล้วนี่..." เซนพึมพำ

    "ไม่เห็นจำเป็นจะต้องเอาพวกเราเข้าไปเลยนี่นา..." คิระบ่นต่อ

    "พวกแกน่ะ...ไปตายซ่ะ!~" ผมโวยวายออกไปทันทีที่ได้ยินเจ้าพวกนั้นพูดออกมา "โทเซย์ กลับกันเถอะ..."

    โทเซย์เห็นผมเป็นแบบนั้นจึงรีบพาผมกลับไปในทันที

    "นี่พวกเราทำอะไรผิดงั้นหร่อ..." คิระพูดเสียงต่ำออกมา

    "นี่...นามิ สิทธิของเธอแล้วนะ..." เน็นโซได้บอกน้องสาวของตน "บอกเจ้าปัญญาอ่อนทั้งสองหน่อยสิว่ามันต้องทำยังไง"

              เธอเดินออกไปทันทีที่ผมพูด

    "คิคุง~รูปมั้ยคุณทำอะไรผิด~" นามิได้ยืนตรงหน้าของคิระ

              เพี้ยะ!~

    "เฮ้!~นามิ" เน็นโซถึงกับตะลึง

    "คุณมันลูกอกตัญญู" นามิพูดเสียงแข็ง "คุณน่ะไม่เข้าใจความรู้สึกของพ่อแม่"

    "นั่นน่ะมันสิทธิ์ของผมนี่..." คิระพึมพำ "ผมน่ะ..."

    "จะบอกว่า...คุณน่ะไม่มีสิทธิ์เข้าไปอยู่ในฐานะครอบครัวสินะคะ..." นามิพูดเบาๆ "คนเป็นพ่อแม่เขาก็มีแต่จะโกรธกันทั้งนั้นแหล่ะ...ถ้าคุณพูดแบบนี้น่ะ..."

    "เซน...นายก็มานี่เลย!~" โยสึโกะก็ลากเซนออกไป

    "เฮ้~ โยสึซึเมะ~" เพียงเวลาไม่กี่อึดใจโยสึโกะก็สามารถลากเซนออกไปได้

    "พ่อแม่ของคุณน่ะเป็นถึงบุคคลระดับสูงของโอลิมปัส...แต่คุณกลับไม่คิดว่าตัวเองเป็นในสิ่งที่คุณเป็น...พูดตรงๆ..." นามิพึมพำออกมา "ถ้านายยังไม่ยอมรับ เราก็ไม่ต้องมายุ่งกันอีกเลย~"

    "นะ...นามิ..." สิ่งที่นามิพูดนั้นทำให้คิระอึ้ง

    "เอาเป็นว่า...พรุ้งนี้มิสเตอร์พีจะเป็นคนพาโคลนนิ่งยูสึเกะไปออกงาน หลังจากนั้นก็จะพาไปพบกับหัวหน้าศูนย์วิจัย" เน็นโซได้พูดสรุปพร้อมกับชี้หน้าเซน "พรุ้งนี้นายจะต้องโดดเรียนไปงานนั้นพร้อมกับพวกเรา!~"

    "หา~...เพื่ออะไร~" คิระได้แต่ทำหน้างง

    "อาจิ...เอาเขาไปเก็บซ่ะ..." ไคโตะได้พูดขึ้นมา "ในฐานะที่เป็นรุ่นแก่กว่า ขอสั่งในฐานะบุตรแห่งโพเซดอน ให้เจ้าไปกับข้า"

    "ว่าไงนะ...บุตรของ...โทเซย์งั้นรึ" คิระได้เรื่องอึ้งอีกแล้ว

    "อาจิ...ทำเหมือนเคยด้วย" ไคโตะสั่งต่อ

              และแน่นอนอาเซย์ อาจิพานได้อัดแรงกระแทกเข้าที่ท้องของคินาซึมิคิระจนเขาสลบไป

    "รังแกพ่อแม่ตัวเองอยู่ได้..." เสียงของอเดล อาเดสต้าพูดออกมาต่อ

              กลับไปทางโทเซย์

    "เอาน่าๆ ยังไงนั่นก็ลูกนายนะ" โทเซย์ได้บอกผมอย่างจริงจัง

    "น่าจะตัดพ่อตัดลูกกันซ่ะให้เข็ด..." ผมบน่ออกมาเบาๆ "พรุ้งนี้นายจะพาข้าไปสินะ...โอลิมปัสในศตวรรษที่25น่ะ..."

    "แน่นอน...แต่นายต้องทำงานให้ข้าก่อน~" โทเซย์พูดแล้วยิ้ม "ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะต้องทำได้แน่นอน~"

    "งาน...เหมือนถึงงานที่ต้องโชว์ตัวที่พูดกันน่ะรึ~" ผมพูดเบาๆ "สภาพแบบนี้จะไปทำอะไรได้"

    "ข้ากำลังจะพาไปเอาชุดของนายทั้งหมดที่ทำไว้ยังไงเล่า" โทเซย์บ่น "ชุดที่ไม่ว่าร่างกายของนายจะเป็นยังไงก็จะรับใช้นายไปชั่วนิรันดร์"

    "อ้อ...เจ้านั่นน่ะเอง~" ผมบ่นพึมพำพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่าง "แค่ร้อยปีโรงเรียนนั้นก็พัฒนาไปยอดเยี่ยมมากเลยนะ...เหมาะกับเอาไปฝึกทหารเลยล่ะ~"

    "นั่นสินะ เจ้าหมาป่าปัญหานิ่มทั้งสองนั่นคงหวังให้เป็นสวรรค์ของการเรียนล่ะมั้ง~" โทเซย์พึมพำต่อ "ให้เด็กทุกคนตั้งใจเพื่อเลื่อนขึ้นตัวเองไปให้ถึงที่สุด และใช้เวลาสามปีกับเวลาแบบนั้นให้ถึงที่สุด"

    "พ่อก็ช่างสรรหานะ~ เอาลากมาจากแดนไกล ที่ๆเรียกว่าฝรั่งเศสน่ะ~" ผมบ่นต่อ "ทุกคนที่อยู่กลุ่มเดียวกับเคและเซน...เป็นคนดีทั้งนั้นเลย~"

    "ฮ่ะๆ มีคู่นึงที่เป็นฮาร์ฟบลัดเลยนะ~" โทเซย์พูดต่อ "มีลูกของชั้นกับพลูตด้วยล่ะ~"

    "อ้อ...พลูโต..." ผมชายตาไปมองเขาต่อ "เลยย่อเป็นพลูตงั้นรึ...แปลกแฮะ"

    "เจ้านั่นไม่ชอบชื่อแทนน่ะ" โทเซย์บ่นต่อ

    "แมตเป็นไง~" ผมพูดกวน

    "ชื่อของ...เจ้านั่นหร่อ..." โทเซย์หันมามองผม

    "บนโลกมนุษย์...สิ่งนั้นก็จำเป็น..." ผมพูดเบาๆ "ข้าถึงได้ตั้งชื่อลูกชายทั้งสองไว้แบบนั้นไง เพื่อที่จะส่งให้มาอยู่กับมิคคาเอลในอนาคต..."

    "นายตั้งเป้าหมายไว้แล้วสินะ~" โทเซย์หันกลับไปมองที่ตึกสูงระฟ้าซึ่งตั้งสูงเด่นอยู่กลางเมือง

    "แน่นอน...ข้าอยากให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีที่สุด" ผมมองออกไปทางตึกนั้นเช่นกัน "ที่นั่นสินะ~...ที่ๆนายจะพาข้าไปน่ะ~"

    "ใช่แล้วล่ะ...นั่นก็เย็นมากแล้ว~...ข้าว่าไปหาอะไรกินได้แล้วล่ะ ร่างกายแบบนั้นมันหิวเป็นอยู่แล้ว~" โทเซย์ยิ้มแล้วมองผม

    "อ่า...นั่นสินะ..." ผมหัวเราะ

    "กลับมาแล้ว~..." ซาซึที่กลับมาพอดีได้พูดลากเสียงดังลั่น

    "มาช้านะซาซึ~" โทเซย์เดินออกไปต้อนรับเขาทันที

    "ชอบทิ้งผมไว้ตลอดเลยนะ~" ซาซึบ่น

    "ก็มันยังไม่หมดชั่วโมงเรียนของลูกนี่นา~" โทเซย์พูดกวนต่อ "จิ้งจอกดำทำเรื่องให้รึยัง"

    "เรียบร้อยแล้วครับ..." ซาซึพูดด้วยท่าทางที่เหนื่อยเอาการ "หลังจากที่พวกพ่อกลับไปพวกนั้นก็ซัดเคซ่ะเต็มเหนี่ยวเลยด้วย"

    "อะไรนะ..." ผมถึงกับตะลึง

    "เคโดนซ้อมซ่ะเต็มเหนี่ยวเลย เพราะสิ่งที่เจ้านั่นพูดกับนายมันเป็นสิ่งที่ไม่สมควรสำหรับพวกนั้น" ซาซึพูดเสียงเรียบ "ตาแก่ไคโตะนี่มันใครกัน~"

    "พี่ชายแกไง..." โทเซย์ตอบทันทีที่ซาซึพูดจบ

    "นี่แกยังมีลูกอีกกี่คนฟร่ะ!~" ซาซึได้พุ่งไปต่อยโทเซย์ในทันที

    ร่างน้ำของโทเซย์ได้ช่วยปกป้องเขาไว้

    "แกก็ด้วยแหล่ะ...เมื่อไหร่จะหยุดสร้างความเดือดร้อนให้พ่อซักที" โทเซย์พูดเสียงเรียบแล้วจับซาซึเหวี่ยงไปที่โซฟาอย่างแรง

    "พวกนายน่ะ...พอได้แล้วมั้ง~" ผมพูดแล้วมองทั้งคู่อย่างเอือมๆ

              วันต่อมา สภาพก็ยังคงเป็นแบบนี้ผมเห็น

    "เจ้าคู่นี้...ซัดกันทั้งคืนเลยสินะ~" ผมมองทั้งคู่อย่างอนาถใจ

    "อ่า...เหนื่อย..." โทเซย์บ่น

    "หาน้ำสิ~" ผมบอกไป "เดี๋ยวไปเอามาให้"

    "ฝากด้วยนะ~" โทเซย์หันมายิ้มใหผม

              ผมเดินไปยกน้ำที่ใส่ถังเอาไว้ไปให้โทเซย์พร้อมกับสาดน้ำในขวดใส่ซาซึไป

    "ทำอะไรของนายน่ะ~" ซาซึรีบลุกขึ้นมาโวยวายในทันที

    "เติมพลังให้นายไง~" ผมพูดเสียงเรียบ "สร้างปัญหาแล้วอย่ามาบ่น"

    "อ่า...นั่นสินะ~" โทเซย์ลุกขึ้นยืนหลังจากรับน้ำนั่นไปแล้ว "เก็บกวาดกันดีกว่า~"

              หลังจากที่โทเซย์พูดจบ ของที่กระจุยกระจายก็กลับเข้าที่ของมัน ของที่พังก็กลับเป็นเหมือนเดิมและกลับเข้าที่เดิมของมัน

    "ไปแต่งตัวได้แล้ว..." โทเซย์หันมาทำหน้าเซ็งใส่ผมทันที

    "อืม..." ผมตอบไป

    "ไม่ไป...ยังไม่เคลียร์" ซาซึนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมพร้อมกับขมวดคิ้ว

    "งั้นแกไม่ต้องมาเป็นลูกของชั้น" โทเซย์พูดเสียงเรียบอีกรอบ "จะเอาใช่มั้ย...จะได้ไล่ออกไปเลย"

    "หนอย~" ซาซึร้องออกมาแล้วรีบกระแทกเท้ากลับเข้าห้องนอนไปในทันที

    "ลูกชายนายนี่น่าเบื่อเนอะ~" ผมหันไปพูดกับโทเซย์ในทันทีที่ซาซึไป "เปลี่ยนให้ข้าไปแล้ว~"

    "อ่า...โทดทีโทเซย์หันมามองผม "พอดีคิดมากไปหน่อย"

              เขาได้เปลี่ยนชุดให้ผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว รวดเร็วสมกับเป็นเทพ

    "นายเองก็เตรียมตัวไปได้แล้วล่ะ..." ผมบอกเขาในทันที

    ครึ่งชั่วโมงต่อมาเราทุกคนก็พร้อมเรียบร้อย

    "รีบๆขอโทษกันได้แล้ว..." ผมมองหน้าทั้งคู่ซึ่งตอนนี้กำลังมองหน้ากันไม่ติด "งานจะไม่ราบรื่นเอานะ~"

    "นี่...ตาแก่..." ซาซึเริ่มพูด "สามเทพผู้ยิ่งใหญ่น่ะ เป็นแบบนี้กันหมดรึเปล่า..."

    "ก็คงจะ..." โทเซย์เริ่มพูดบ้าง

    "ไม่หรอกนะ..." ผมตอบแทนโทเซย์ "ซุส...ถึงจะหลายใจ แต่เขาก็ให้ความสำคัญกับภรรยาของเขาทั้งหมดนะ โพเซดอนพ่อของนาย ถึงภรรยาของเขาจะสั่งห้ามแค่ไหน เขาก็ไปมีลูกกับมนุษย์ตลอดผลลัพธ์ก็คล้ายๆนายนั่นแหล่ะ แต่บางที...เขาก็ให้ความสำคัญกับบุตรทั้งหลายของเขามากเลยนะ~" ผมพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าโทเซย์ตอนนี้เขาได้แต่ยิ้มให้ผมและซาซึ "แต่เฮดีสนั้นเขาเป็นเทพที่ยึดติด อาจจะมีหลุดรอดมาบ้างแต่ก็ส่วนน้อยนะ เพราะเขานั้นรักภรรยาเพียงคนเดียวของเขามาก..."

    "เขาใจ...รึยังล่ะ" โทเซย์บ่นพึมพำเบาๆ

    "ขอโทษครับ~" ซาซึชิงพูดก่อน "ผมไม่เข้าใจเองแหล่ะ"

    "งั้นหร่อ..." โทเซย์พูด "ไปกันเถอะ~"

    "ง่ายเงี้ย~" ผมทำหน้างง

    "ก็มันสายแล้ว" โทซย์เริ่มทำเสียงไนร้เดียงสากวนประสาทผม

              ที่งานมันก็พอๆกันกับงานเปิดตัวโชว์รูมรถยังไงยังงั้นแหน่ะ ความรู้สึกที่แบบว่า...มันจะเกินไปหน่อยนะ

    "ไม่ใช่เรื่องที่ดีที่เราจะมัวแต่มายืนออกันตรงนี้นะ~" เสียงของใครคนหนึ่งที่ผมคุ้นเคยดังขึ้นอีกแล้ว

    "ดี~" ผมหันกลับไปมองเขาทันทีที่เขาเดินออกมาจากห้องประชุม

    "ว่าไง~ พี่ชาย~" ดีหรือไดโฮนีซุสได้ออกมายืนต้อนรับพวกเรา "พร้อมที่จะกลับบ้านแล้วสินะครับ~"

    "ร็แล้วน่า~" ผมวิ่งนำไปทันทีที่ดีพูดจบ

              โอลิมปัส

              มันเป็นเรื่องที่ดีที่จะเปลี่ยนสถานที่ตั้งของโอลิมปัส ให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมส่วนใหญ่นะ~

    "เฮ้อ~ ไม่ได้มาซะตั้งนานแน่ะ..." โทเซย์บ่นพึมพำ

    "กลับมาแล้วหร่อ..." เสียงของ...พ่อดังขึ้นมา

    "จู...ปิเตอร์" ผมพึมพำ

    "เรียกพ่อตัวเองห่างเหินไปมั้ย..." พ่อก้มมาพูดกับผม "ร่างกายแกหายไปจนเหลือแค่นี้เองนะ~" พ่อยืนถือทีคาดหัวอันหนึ่งซึ่งมันเป็นของที่ผมใส่อยู่ตลอด

    "เอามันคืนมานะ~" ผมรีบพุ่งไปคว้ามันแต่ก็ถูกเอามือยันหน้าไว้

    "รอหน่อยสิฟร่ะ~" พ่อบ่น "วิณญาณของเจ้าข้าขอล่ะ~"

              วิณญาณของผมได้หลุดออกจากร่างเทียมที่โทเซย์สร้างขึ้น และถูกใส่เข้าไปในที่คาดผม

    "ร่างกายของแกข้าจะสร้างมันให้ใหม่..." พ่อพูดต่อแล้วโยนที่คาดผมใส่วิณญาณของผมไว้ลงไปในกองไฟ

              ซู่ว~ ร่างกายของผมกลับสู่สภาพเดิมในพริบตา

    "ซุส...นายสร้างเองก็ได้นะความจริง..." โทเซย์บ่น

    "ข้าชื่อ...แมส..." พ่อบ่นออกมา

    "ร่างกาย...มัน" ผมบ่นพึมพำออกมา

    "ของขวัญต้อนรับยังไงล่ะ~" พ่อยิ้มให้ผม "รีบไปเร็วสิ...เธอรอแกมาตลอดเลยนะ"

    "อีกคนนั้น...ใครกันน่ะ..." ผมพูดขึ้นเบาๆ

    "ไปถึงเดี๋ยวแกก็จะรู้เองแหล่ะ~" พ่อพูดไว้แล้วเดินผ่านผมไป "ยินดีด้วยนะ..."

              เขาพูดหลังจากที่ผมได้เริ่มออกตัววิ่งไป ผมก็วิ่งไปเรื่อยๆ ไปสู่ชิงช้าแห่งกาลเวลาที่เธอนั่งรอผมตลอดหลังจากที่ผมให้สัญญาไว้

    "เฮเลน~" ผมพูดเบาๆหลังจากที่วิ่งไปถึงที่นั่น

    แน่นอนผมได้พบเธอ...

    "ผมกลับมาแล้ว..." ผมเดินเข้าไปหาเธอทันทีที่ผมพูดเสร็จ

    "ฉันมั่นใจว่าคุณต้องกลับมา" เธอยิ้มให้ผม

    "ผมก็กลับมาแล้วไง~" ผมยิ้ม

    "รอตั้งนานแหน่ะรู้มั้ย...คนบ้า~" แล้วจู่ๆเธอก็เริ่มร้องไห้ออกมา

    "ไม่เป็นไรนะ~" ผมคุกเข่าลงตรงหน้าเธอและเธอก็ดึงผมไปกอดอย่างแรง "ไม่เป็นไรแล้ว...ข้าจะไม่ไปไหนแล้ว~"

    "คุณแม่~" มีเสียงของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาสะดุดหูผม

    "เอเลน่าจังมาหาแม่หน่อยเร็ว~" เฮเลนได้เรียกเด็กคนนั้นให้มาหาเราและได้เรียกตัวเองว่าแม่

    "แฮ่กๆ ว่ายังไงนะ!~" เสียงนี่มัน… "ลูกงั้นรึ!~"

    "คิระ~ เจ้าห้ามเข้าไปขัดจะได้มั้ย!~" เฮลิออสได้ดึงรั้งลูกชายของผมไว้

    "ไหนว่าแกแก่มากจนมีไม่ได้แล้วไง ไอ้พ่อบ้า!~" คิระเริ่มอาลวาท

    "เฮเลน...เด็กคนนี้" ผมหันไปถามเธอ

    "ลูกของเราคะ~ แกเกิดหลังจากที่คุณไปได้เกือบปี" เธอตอบผมอย่างช้าๆพร้อมกับจับมือเด็กที่เดินมาทางพวกเรา

    "ก็แกเล่นหายไปตั้งสี่ปีเลยนี่~" พ่อพูดขึ้นเบาๆ "กลับมาก็ดีแล้วล่ะ"

    "ยินดีต้อนรับกลับนะคะ~ คุณพ่อ~" เอเลยน่าเด็กหญิงที่น่าจะเป็นลูกสาวของผมได้พูดขึ้น "หนูอยากจะพบคุณพ่อมานานแล้วล่ะคะ~"

    "นั่นไงล่ะจ๊ะ~ พี่ชายของหนู" เฮเลนได้ชี้นิ้วไปที่พวกเซน

    "อ้าว~ พวกแกไม่ได้มากันแค่สองคนงั้นรึ~" ผมหันไปก็พบกันเหล่าเด็กนักเรียนที่ผมเคบพบมาแล้ว "เฮ้ย~"

    จู่ๆเฮเลนก็ดึงหน้าของผมเขาไปใกล้ๆเธอ

    "ได้เวลลบลอยแผลนี่แล้วนะ~" เธอได้ลูบหน้าของผมช้าๆตรงที่มีแผลขนาดใหญ่อยู่แล้วก็ดึงผมไปจูบ

    "ฮู้ว~ คู่นี้ชอบทำคนโสดอิจฉา~" เฮลิออสได้นินทาเราอีกแล้วรู้สึกคิดถึงจัง...คำพูดแบบนี้น่ะ...

    ใบหน้าของเราได้แยกออกจากกัน...น้ำตาของเธฮไหลออกมาอีกรอบ

    "ยินดีต้องรับกลับนะคะ~" ผมทำตัวไม่ถูก...ได้แต่ดึงัวเอเลน่าและเฮเลนเข้ามากอดพร้อมกัน

    "อ่า...ซึ้งพอล่ะ~" เสียงของเฮดีสดังขึ้น "วันนี้เป็นวันรวมญาติสินะ~…ข้าแค่จะมาพบลูกสาวของข้า"

    "พ่อ!~" เด็กชายผมดำตาก็ดำใส่ชุดแนวมืดมนพูดขึ้น

    "อเดล...มาได้ยังไงกัน~" เฮดีสดูตกใจไม่น้อยที่ได้เห้นลูกชายของตนมาพร้อมกับคิระ

    ผมได้คลายอ้อมกอดจากเฮเลนและลูกสาวจะนั้นก็เดินตรงไปหาเซนกับคิระทันที

    "ไหนว่าจะไม่มาแล้วไง..." ผมถามทั้งคู่

    "ทุกคนบังคับเรามา..." เซนพึมพำ

    "เซอร์ไพร์สไง...นานๆจะได้มาทีนี่..." คิระพูดเสียงเรียบ "อยากให้มาไม่ใช่รึไง~"

    "ลูกพ่อ~" ผมดึงทั้งคู่เข้ามากอด "โตขึ้นบ้างแล้วนี่~"

    "ผมอยากมาหาพวกคุณตลอดเลยล่ะครับ...สี่ปีมานี้" เซนพูดขึ้น "ผมรอวันนี้มานานแล้ว..."

    "ไม่ต้องฝืนหรอก..." ผมยิ้มให้ทั้งคู่ "ยินดีต้องรับสู่โลกของผู้ใหญ่นะ~"

    "เอาเป็นว่า~...เราได้มาอยู่กันพร้อมหน้าแล้วนะคะ~" เฮเลนเดินเข้ามาจับชายเสื้อของผมไว้

    "ฮ่ะๆ นั่นสินะ~" ผมหัวเราะ "เด็กๆ มาปาร์ตี้กันเถอะ~"

              หลังจากนั้นงานเลี้ยงก็จบลง พวกเด็กๆก็เล่นกันกับเอเลน่า

    "พ่อฮ่ะ~" คิระถามผม "ให่ผมกลับไปจะดีหร่อครับ"

    "ดีแล้วล่ะ เดี๋ยวพ่อจะแวะไปหาบ้านละนะ~" ผมพูดแล้วยิ้ม

    "แล้วสัญญาเมื่อคราวนั้น...ทำสำเร็จแล้วหร่อครับ~" คิระถามย้ำกับผม

    "ที่ว่าศึกรอบที่แล้วจะชนะไม่ใช่รึไง" เซนพูดพึมพำ "แพ้ราบคาบแถมร่างกายยังแหลกเป็นผงด้วย"

    "ศัตรูรอบนี้ไม่ใช่เรื่องของพ่อนี่ที่จะไปต่อกรกับมัน..." ผมพูดเบาๆ "งานนี้มันเป็นงานของพวกแกเท่านั้น"

    "ว่าไงนะครับ" คิระถึงกับตะลึง

    "รอบนี้...เป็นพวกหมาหมู่น่ะ..." ผมพูดเบาๆ "พวกมันขี้ขลาดเอาการเลย"

    "แต่พ่อโดนไปขนาดนั้น...พวกเราจะทำยังไง" คิระโวยวายลั่น

    "อย่าดูถูกพลังของตัวเองสิ พวกแกน่ะอย่าดูถูกพลังของเพื่อนๆแกได้มั้ย" ผมพูดเสียงดัง "พวกแกน่ะเป็นความหวังของมาโฮระ กินโซเชียวนะ"

    "แล้วศัตรู...เป็นใคร" คิระถามผมต่อ

    "คู่แข่งกับแกนั่นแหล่ะ..." ผมพูดพึมพำ "ผู้ใช้ซากศพ..."
    .
    .
    .

    .

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×