ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Genesis of Vampire Infinite : Bloody Vampire

    ลำดับตอนที่ #2 : PART 1: Confess [Zetus]

    • อัปเดตล่าสุด 24 มิ.ย. 57


    PART 1: Confess [Zetus]

    .

    .

    .

    เป็นเรื่องที่แปลกมาก ในเมื่อการที่ผมเกิดมาจากสิ่งของไม่ใช่สิ่งมีชีวิต และยังมีคนดูเหมือนจะเป็นพี่น้องของผมอีกสามคน ผมซึ่งเป็นคนแรก และต่อมาก็เป็นเดสเตอร์ ลาล่า และเมอร์นิต พวกเรานั้นเป็นแวมไพร์ ซึ่งตามความจริงเราต้องดื่มเลือดของมนุษย์ แต่เดสเตอร์ก็ไม่ยอมรับความคิดนั้น เราจึงตัดขาดกันตั้งแต่ตอนนั้น  เดสเตอร์ได้แยกตัวไปสร้างครอบครัวกับเมอร์นิต ส่วนผมนั้นก็แยกตัวมากับลาล่า

    'นี่ เซตัส คิดถึงอดีตที่ขัดแย้งขึ้นมาอีกรึไงกัน' ลาล่าที่นั่งดื่มชาอยู่กับผมพูดขึ้น 'ถ้าอยากพูดขอโทษก็ไปซ่ะสิ ก่อนที่มันจะยิ่งแย่ไปกว่านี้'

    'หึถ้าจะให้ข้าไปขอโทษเจ้านั่นล่ะก็ ข้ากับเจ้าก็จะกลายเป็นคนผิดน่ะสิ' ผมพึมพำออกมา 'มันไม่แฟร์เลยมากกว่าถ้าจะให้เจ้าพวกนั้นเป็นฝ่ายถูกทั้งคู่น่ะ'

    'เฮ้อเซตัส ทำไมเจ้าถึงได้ดื้อแบบนี้กันนะ' ลาล่าบ่นออกมาอีก 'เมอร์นิตเองก็อาจจะคิดแบบเดียวกับฉันนะ…'

    'ชิทำเป็นรู้ดีอยู่คนเดียว…' ผมสบถออกมา

    'ถ้าคุณรู้ คุณก็ควรยอมรับมันนะและบอกเขาไปตั้งแต่แรกว่า แวมไพร์นั้นก็เป็นมนุษย์ที่พิเศษกว่าคนอื่น' ลาล่านั่งจิบชาแล้วมองหน้าของผม 'และพวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องดื่มเลือดของมนุษย์เพื่อประทังชีวิต แต่เป็นการต่อยอดพลังที่ยิ่งใหญ่ต่างหากล่ะ'

    'ผลการวิจัยนั่นมันก็แค่ส่วนหนึ่งนี่ ข้ายังไม่ได้ยืนยันเลยว่าการไม่ดื่มเลือดมนุษย์จะทำให้เกิดอะไรขึ้นในรุ่นต่อไป' ผมพูดออกมาพร้อมกับลุกขึ้นเดินตรงไปที่ชั้นหนังสืออันใหญ่โตนั่น

    'เราก็มีพวกเขาทั้งคู่อยู่แล้วนี่' ลาล่าพูดขึ้น 'ถ้าไปคืนดี เราอาจจะได้ข้อมูลที่เราไม่รู้อีกเยอะเลยนะ เซตัส'

    แล้วมันจะยังไงล่ะถ้าเจ้านั่นไม่มาพูดขอโทษผม ผมก็จะไม่พูดเช่นกัน

    'พวกผู้ชายนี่ก็หัวดื้อกันจังนะ…' ลาล่าพึมพำออกมา 'แล้วถ้าทางฝ่ายนั้นเกิดโดนมนุษย์ต่อต้าน เพราะว่าเป็นแวมไพร์แบบเดียวกับพวกเรา คุณจะทำยังไงกันนะ เซตัส…'

    'ถึงเวลานั้นแล้วจะเก็บไปคิด…' ผมพูดออกมาลอยๆ

    'ใจร้ายจังเลยนะ เซตัส' ลาล่าที่ไม่รู้ว่าเดินมาตอนไหนขยับหน้าเข้ามามองผม 'คุณกับเดสเตอร์ก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ เป็นคนที่ไม่เคยฟังความคิดของกันและกัน…'

    และตอนนี้ผมก็เริ่มหมดความอดทนกับเธอแล้ว ผมรวบตัวของลาล่าเขามากอดพร้อมกับก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของเธอ

    'นี่ถ้าข้าปล่อยให้เจ้าไปกับเจ้านั่นก็คงจะแย่แล้วล่ะมั้งเนี่ย' ผมพูดกระซิบอยู่ข้างหูของเธอ

    'หยุดนะ เซตัส…' ลาล่าร้องออกมาเสียงหลง พร้อมกับพยายามผลักตัวของผมให้ออกห่างจากตัวของเธอ

    'ข้าจะไม่หยุด เจ้ามีปัญหามั้ยล่ะ!~' ผมตะโกนออกมาเสียงดัง 'เจ้าแขวนโซ่นี่ไว้กับข้าแล้วนี่ ข้าเป็นของเจ้า แล้วเจ้าก็เป็นของข้า'

    'แต่ปัญหาความขัดแย้งมันยังไม่จบเลยนะเซตัส' เธอพยายามดันตัวของผมออก 'นี่ไม่ใช่เวลา…'

    ผมที่หมดความอดทนกับเธอ ผมได้ก้มลงไปทาบริมฝีปากกับเธอในทันที

    'ซะเซตัส' ลาล่าร้องโวยวายออกมา 'เดี๋ยวเฟนอร์ฟจะเข้ามาเห็นเอานะ…'

    แต่ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ผมก้มลงไปทาบริมฝีปากของตัวตัวกับเธออีกรอบในทันที มันเป็นสิ่งที่ผมอยากจะบอกเธอมาหลายร้อยปีแล้ว หลังจากวันที่พวกเราได้แยกออกจากกัน

    'ข้ารักเจ้าลาล่า ขอแค่เจ้าเพียงคนเดียว…' ผมพึมพำออกมา พร้อมกับกระชับกอดให้แน่นขึ้น 'นี่เป็นสิ่งเดียวที่ข้าอยากบอกกับเจ้ามาตลอด…'

    เธอได้แต่ลูบหัวของผมทำอยู่แค่นั้น

    'บางทีก็ช้าไปนะ…' เธอพูดออกมาเบาๆแล้วกอดผมแน่น

    สักพักก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นแล้วหัวหน้าองครักษ์ก็พูดขึ้นมาทันที

    'ขอโทษที่รบกวนเวลาส่วนตัวนะครับ คุณเซตัส…' เขาพูดลากเสียงอย่างหน่ายๆ 'แต่ถ้าจะมากกว่านี้ขอให้ไปทำที่ห้องพักแทนที่จะเป็นห้องเก็บเอกสารด้วยครับ'

    'ฟินลิปไม่มีทหารคนไหนกล้ามาสั่งสอนเจ้านายหรอกนะ…' ผมหันไปพูดกับเขาแล้วผละตัวออกจากลาล่าทันที 'มีปัญหาอะไรถึงได้มาในเวลาน้ำชาของข้ากันล่ะ…'

    'ท่านก็น่าจะรู้นี่ถ้าไม่มีปัญหาอะไรผมก็คงจะไม่เข้ามาหาท่านหรอก…' เขาหรี่ตามองผมอย่างไม่พอใจ 'เลือดผสมเพ่นพ่านออกมาอีกแล้วครับ…'

    '…พวกเลือดสกปรกออกมาอีกแล้วงั้นหร่อช่วงหลังมานี่พวกนั้นจะเริ่มเยอะเกินไปแล้วนะ…' ผมพึมพำออกมาแล้วเดินออกไปทันที โดยที่ทิ้งลาล่าไว้ในห้องนั้นคนเดียว

    และไม่ฉุกคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้เลยซักนิด

    .

    .

    .

    ผมกำลังเดินเข้าไปในวงล้อมของทหารจำนวนมาก เพื่อล้อมจับเลือดผสมที่รวมตัวกันอาลวาทในดินแดนแห่งนี้

    'วุ่นวายจริงๆเลยนะถ้าพวกนายยอมอยู่กับอย่างสงบก็จะมีโอกาสมีชีวิตอยู่ที่นี่ต่อไปได้แล้วแท้ๆ…' ผมพึมพำ

    'เราแค่ออกมาเรียกร้องสิทธิของพวกเรา' ชายยังวัยรุ่นอยู่เลยนี่ 'พวกแกไม่เข้าใจถึงความรักเลยรึไง…'

    'สงบปากสงบคำหน่อยนะพ่อหนุ่ม' ฟินลิปเดินเข้าไปจับไหล่ของชายตรงหน้าเอาไว้แล้วพูดออกมาทันที 'เพราะแกยังมีประโยชน์กับข้าอยู่…'

    เขาพูดอะไรของเขานะน่าหงุดหงิดจริงๆ

    'ฟินลิปฝากด้วยนะ…' ผมพูดแล้วหันหลังกลับทันที

    'นี่แก!' ชายคนนั้นพูดตวาดตามหลังผมมาทันที

    'อยากรู้มั้ยว่าทำไมข้าถึงได้เกลียดเลือดผสมและก็มนุษย์นักนะ…' ผมหยุดเดินแล้วพูดออกมา '…เพราะน้องชายของข้าดันไปลุ่มหลงคำโกหกของพวกแกจนไม่ยอมฟังคำของข้าเลยยังไงล่ะ…'

    ผมหลับตาลงแล้วเดินออกไปทันที

    'น่าแปลกนะ ที่นักโทษที่ท่านเซตัสสั่งให้ขังชั่วคราว ไม่มีใครได้ออกมาจากห้องขังเลยล่ะ' เสียงของทหารที่ทำงานให้ฟินลิปกระซิบพูดกัน

    'ข้าว่าน่าจะถูกปล่อยออกไปกลางดึกมากกว่าล่ะมั้ง…' ทหารคนอื่นเริ่มกระซิบพูดกัน 'ท่านเซตัสไม่เคยพูดโกหกนี่'

    'แต่ข่าวลือเรื่องที่คุณฟินลิปเข้าไปในตรอกค้าทาสก็มีนี่พวกทหารที่เข้าเวรดึกก็รู้กันเกือบทั้งนั้นเลยนี่…'

    'ไม่จริงหรอกน่า คนดีๆแบบนั้นจะไปร่วมมือกับคนเถื่อนค้าทาสได้ยังไงกัน…'

    'อ้าวๆ พวกเธอ…' ผมหยุดเดินแล้วหันไปพูดกับเขา 'เรื่องนั้นช่วยเขียนรายงานแล้วเอาไปวางไว้บนโต๊ะทำงานของข้าด้วยล่ะอย่าเก็บไว้เป็นความลับสิ เรื่องตรอกนั่นข้าก็ไม่ได้ชอบใจอะไรด้วย'

    ผมพูดออกมาด้วยรอยยิ้มแปลกๆทันที

    'ครับ…' ทหารกลุ่มนั้นทำความเคารพแล้วพูดพร้อมกันทันทั

    'อย่าให้เจ้านั่นรู้ตัวล่ะ' ผมพึมพำแล้วเหลือบไปมองฟินลิปที่กำลังยิ้มเย้ยชายที่กำลังถูกคุมตัวไป 'ซ่อนหางเอาไว้จริงๆด้วยสินะเฮคแมน'

    ผมที่กำลังเดินกลับไปที่ห้องเอกสารที่ลาล่ารออยู่ทันที

    'กลับมาแล้ว…' ผมพูดแล้วเงยหน้ามองในห้อง 'ลาล่า…'

    ว่างเปล่าในห้องไม่มีใครอยู่เลย

    'พ่อครับ…' เสียงของเฟนอร์ฟลูกชายคนเดียวของผมดังขึ้น…'คุณแม่เขาบอกว่าเดี๋ยวจะกลับมาน่ะครับ…'

    '…กลับไปห้องได้แล้ว…' ผมพูดกับเขา 'บอกฟินลิปให้พาเจ้าไปที่วาร์ไซนส์ด้วยล่ะพอพ่อเสร็จธุระแล้วจะตามไป…'

    '…ครับ…' เฟนอร์ฟพึมพำแล้วเดินออกไปทันที

    'ยังเด็กอยู่นี่นะ…' ผมพึมพำ 'ชิก็บอกแล้วไงว่าอย่าออกไปไหนน่ะลาล่า…'

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×