ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Genesis of Vampire Infinite : Bloody Vampire

    ลำดับตอนที่ #10 : PART 9: Smile [Zetus]

    • อัปเดตล่าสุด 24 มิ.ย. 57


    PART 9: Smile [Zetus]

    .

    .

    .

    เข้าวันที่สี่แล้วที่ผมอยู่ที่คฤหาสน์เหนือการรักษาแผลผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่ด้วยเงื่อนไขที่ว่าหลังจากงานเลี้ยงจบผมต้องกลับมาพักฟื้นที่นี่ต่ออีกหนึ่งเดือนเพื่อความมั่นใจของไนต์

    'นี่ทำไมพวกเธอถึงตั้งหลักปักฐานอยู่กันที่นี่ล่ะ' ผมพึมพำออกมา 'เพราะพลังของแร่สีแดงทำให้พวกเธออ่อนแอลงด้วยนะ…'

    ผมได้แต่มองหน้าของกลิวที่หลบหน้าผมเมื่อผมถามแต่ละคำถามออกมาเพราะอะไรกันนะ

    'ไม่คิดจะให้ข้อมูลกันเลยนะ…' ผมพึมพำออกมาเบาๆ 'ให้ตายสิ'

    ผมนั่งๆนอนๆแบบนี้อยู่ทั้งวันแน่นอนผมต้องเบื่อเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

    'คุณอยู่นิ่งๆบ้างก็ดีนะคะ…' กลิวพูดบ่นขึ้นมา 'แบบนี้เมื่อไหร่จะหายกันล่ะ…'

    'แต่นี่ก็จะค่ำแล้ว จะไม่ไปยกอาหารมาให้ข้ารึไง~' ผมพูดเสียงเรียบใส่เธอทันที

    ที่นี่จะมีฤดูแตกต่างจากด้านล่างอยู่มาก เพราะบางวันที่จะมีหิมะตกลงมาย่อมๆก็บนเขานี่นะ

    ผมมองกลิวที่รีบเดินออกจากพื้นที่ของผมทันที ผมได้แต่ยิ้มไม่ให้เธอเห็นเท่านั้นนั่นสินะผมก็ไม่เคยยิ้มแบบนี้ต่อหน้าลาล่าเลยซักครั้ง

    บรรยากาศของที่นี่เริ่มเย็นลงเรื่อยๆรอบๆบ้านหลังนี้ค่อยๆมือลงเรื่อยๆเหลือแต่ไฟของแสงเทียนที่ถูกจุดให้สว่างอยู่ภายในบ้านหลังนี้

    'หนาวชะมัด' ผมพึมพำออกมาเบาๆ 'นั่นเธอเหรอกลิว…'

    ผมพูดขึ้นเบาๆหลังจากที่ได้กลิ่นของสุนัขป่าไม่ใช่ นี่ไม่ใช่กลิ่นทั้งของกลิวแล้วก็ไนต์

    จู่ๆก็มีลมกระโชกพัดเข้ามาจนเทียนในตะเกียงที่ยังไม่ได้ครอบเอาไว้ดับลงทันทีและทันทีที่เปลวไฟที่มอดดับลงสนิทก็มีสุนัขป่าตัวหนึ่งกระโจนเข้าใส่ผมบนเตียงทันที

    ถ้าให้บรรยายลักษณะของมันจะแตกต่างกับไนต์โดยสิ้นเชิงเพราะไนต์กับกลิวเป็นเฟนริร์สุนัขป่ายักษ์แต่นี่มันต่างกันตัวเล็กกว่า และดุร้ายกว่า

    ผมพยายามใช้ขาและแขนทั้งสองข้างยักมันเอาไว้สุดแรง

    'สุดท้ายก็ต้องมาตายที่นี่สินะ หนึ่งในเจ็ดวีรบุรุษ…' สุนัขป่าตัวนั้นพูดพร้อมกับก่ายขาหน้าทั้งสองข้างของมันข่วนใส่แขนของผมทันที

    ผมลดแขนลงด้วยความเจ็บปวดเจ้านี่มันเป็นตัวอะไรกันแน่นะ

    'เป็นอะไรไปล่ะ หรือว่าทนรับมากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว' เจ้านั่นยังคงพูดออกมาต่อ 'ต่อให้เป็นแวมไพร์ แต่ถ้ามาเจอแร่สีเลือดจำนวนมหาศาลแบบนี้ก็เป็นได้แค่ของเล่นของข้าเท่านั้นแหล่ะ…'

    มันพุ่งคอเข้ามากัดเข้าที่ไหล่ของผมทันทีเจ็บไม่มีเสียงเลยร่างกายมันชาไปหมดแล้ว

    .

    .

    .

    นี่เราจะตายจริงๆงั้นหร่อ

    'เฮ้ย!' แล้วจู่ๆเสียงของไนต์ก็ดังขึ้นมา

    'การแก้แค้นของข้ามันยังไม่จบหรอกนะ…' หมาป่าตัวนั้นพูดแล้วกระโจนหนีออกมาทางหน้าต่างทันที

    ไนต์ที่รีบวิ่งมาดูอาการของผมในตอนนี้ได้แต่พูดอะไรก็ไม่รู้ออกมาเขาพูดอะไรของเขาน่ะไม่ได้ยินอะไรเลยกลิวที่รีบหยิบอุปกรณ์ปฐมพยายามนั้นก็รีบทำแผลให้ทำต่อทันที

    หลังจากนั้นสติของผมก็วูบดับลงไป

    .

    .

    .

    ผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็เข้าช่วงบ้านวันที่หกซ่ะแล้วผมเหลือบตาเห็นกลิวที่นั่งฟุบหลับอยู่ข้างเตียงของผม

    'ฟื้นแล้วงั้นรึ…' ไนต์ที่นั่งอยู่ที่ระเบียงเดินเข้ามาหาผมทันที 'ให้ตายสิยัยนั่นเอาแต่โทษตัวเอง ที่ปล่อยให้นายอยู่คนเดียวตอนกลางคืนน่ะ…'

    'เจ้านั่นเป็นตัวอะไรน่ะ…' ผมพึมพำออกมาเบาๆ

    'คงต้องคุยกันนานล่ะนะเกี่ยวกับเรื่องนี้น่ะเอาเป็นว่า ถ้าพวกข้ากัดมนุษย์ก็จะเกิดการแพร่เชื้อเป็นแวร์วลูฟต์ใช่มั้ยล่ะ' ไนต์พูดออกมา 'แต่เจ้านั่นทำให้ตัวเองกลายเป็นมนุษย์หมาป่าเราเลยเรียกมันว่าไลแคนท์น่ะ'

    'ทำไมถึงไม่บอกข้าล่ะ…' พูดพยายามพูดออกมาทันที

    'เพราะมันกำลังตามล่านายยังไงล่ะ…' ไนต์พูดเสียงเรียบออกมา 'และบังเอิญว่านายมาที่นี่พอดีและโดนมันทำร้าย พวกเราถึงได้ซ่อนนายเอาไว้นอกคฤหาสน์ยังไงล่ะ'

    'ช่วยพยุงข้านั่งหน่อยสิ' ผมพูดออกมาเบาๆ

    'ถ้าไม่ติดว่านายมาบาดเจ็บในเขตของแร่สีเลือดนะ ข้าคงพานายไปที่เขตใต้ที่พลังฟื้นตัวจะรุนแรงที่สุดแล้วล่ะ…' ไนต์บ่นแล้วช่วยพยุงผมขึ้นนั่ง

    'พาข้าไปที่คฤหาสน์ตะวันออก หลังจากนั้นก็พาข้ากลับมาที่นี่ก็ได้นานแค่ไหนก็ไม่ว่า' ผมพึมพำออกมาเบาๆ

    ครู่ต่อมา กลิวที่ฟุบนอนอยู่ก็ตื่นขึ้นเพราะผมขยับตัวขึ้นนั่ง เมื่อเธอเห็นผมเธอก็ร้องไห้ออกมาทันที

    'นะนี่' ผมพึมพำออกมา 'อย่าร้องไห้เลยนะ…'

    'ฉันผิดเองฉันไม่น่าปล่อยให้คุณอยู่คนเดียวเลย' เธอพูดเสียงสั่น

    'ไม่นี่ ข้าผิดที่ข้าไปสร้างเรื่องเอาไว้มากกว่านะ' ผมเอื้อมมือไปลูบหัวของเธอเบาๆ

    ซักพักเธอก็ขยับเข้ามากอดผมแน่น ให้ตายสิมันเจ็บนะ

    'กลิวไหนบอกจะกอดพี่แค่คนเดียวไง' ไนต์ที่ยืนอยู่ข้างๆบ่นออกมาทันที

    กลิวที่เผลอตัวก็รีบผละตัวออกมาทันที

    'เจ็บชะมัด…' ผมพึมพำออกมา 'มนุษย์นี่กัดเจ็บเหมือนกันนะเนี่ย…'

    'ระวังจะติดเชื้อบ้าละกัน' ไนต์บ่นออกมา 'นายนี่ไปสร้างศัตรูไว้เยอะขนาดไหนกันนะ'

    '…ไม่รู้สิ…' ผมพึมพำออกมาเบาๆ

    'งั้นข้าจะออกไปจัดการเรื่องล่าตัวเจ้าไลแคนท์บ้านั่นก่อนนะ…' ไนต์พูดแล้วเดินออกไปทันที

    'เฟนริร์อย่างนายยอมรับแวร์วลูฟต์ได้แต่ทำไมถึงยอมรับไลแคนท์ไม่ได้กันนะ' ผมพูดตามหลังเขาไป

    ไนต์หยุดเดินแล้วพึมพำออกมาให้ผมได้ยิน

    'เพราะมันอยู่นอกกฎของโลกนี้ยังไงล่ะ…' ไนต์พึมพำออกมาแล้วเดินออกไปทันที

    .

    .

    .

    ผมหันไปมองกลิวที่นั่งเช็ดน้ำตาของเธออยู่

    'นี่…' ผมทักถามเธอไปทันที

    'มีอะไรงั้นเหรอ…' เธอหันมามองผม

    'สอนข้ายิ้มหน่อยได้มั้ย…' ผมพึมพำออกมาเบาๆ

    'นายบ้ารึเปล่าน่ะ' เธอพึมพำออกมา

    'เปล่านี่แค่อยากลองเปลี่ยนดูน่ะ' ผมพูดออกมา

    'แล้วมันต้องสอนด้วยหร่อ' เธอขมวดคิ้วพูดใส่ผมทันที

    'ก็ข้ายิ้มต่อหน้าใครไม่เป็นนี่…' ผมบ่นออกมาทันที 'โดยที่มองตาก็ไม่เป็นด้วย…'

    ผมถอนหายใจกับความไม่รู้อะไรของตัวเองทันที

    'มองตาฉันดูสิ…' เธอพูดออกมาเบาๆ

    หลังจากที่เธอพูดผมก็หันไปสบตาของเธอ ดวงตาสีฟ้าใสของเธอ

    'รู้สึกยังไงบ้างล่ะ…' เธอพึมพำออกมาเบาๆ

    'สีฟ้า…' ผมพูดออกมา

    'ผิดประเด็นแล้ว!~' แล้วจู่ๆเธอก็โวยวายออกมาทันที 'ฉันให้พูดถึงความรู้สึกที่ได้สบตาต่างหากล่ะ…'

    'ช่วยไม่ได้นี่ตาของเธอมันไม่เหมือนของไนต์นี่…' ผมบ่นออกมาทันที

    'สงสัยจะต้องใช้เวลานานกว่าที่คิดนะ' เธอยังคงพึมพำออกมาเบาๆ

    ผมคิดที่จะกลับมารักษาตัวที่นี่และลองคิดที่จะยิ้มออกมาแต่มันยากกว่าที่คิด

    แล้วเมื่อไหร่กันล่ะที่ผมจะยิ้มออกมาได้ด้วยหัวใจน่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×