ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] I'm your Toy. ผมเป็นของเล่นของคุณ (8P)

    ลำดับตอนที่ #32 : ตอนที่31 ผมกับสายโทรศัพท์ยามค่ำคืน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.72K
      76
      13 พ.ย. 61

    ตอนที่31

    ผมกับสายโทรศัพท์ยามค่ำคืน

     

     

       โทรศัพท์มือถือก็เหมือนเครื่องประดับ ผมไม่ได้ใช้บ่อยนักถ้าเทียบกับคนอื่นๆ

     

       แต่ตอนนี้ผมมีแฟนแล้ว(หลายคนด้วย) คงต้องใช้ให้บ่อยมากขึ้นแล้วล่ะมั้ง?  




       ...


       "ถึงแล้วนะ"ผมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ขณะไขประตูเดินเข้ามาในบ้าน พอล็อคบ้านเสร็จก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง


       "ถึงอะไร?"


       "ซิตซ์?"ผมชะงักมือที่จับลูกบิดเมื่อปลายสายไม่ใช่คนที่คิดไว้ ผมรีบก้มมองมือถือ แต่ไม่ว่ายังไงเบอร์ที่กดโทรออกมันก็เบอร์เวย์ชัดๆ


       "ใช่ ฉันเอง แล้วตกลงถึงอะไร?"ปลายสายถามย้ำทำให้ผมรีบตอบ


       "เอ่อ ฉันเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยง เวย์บอกว่าถ้าถึงแล้วให้โทรหา...น่ะ"ผมพูดไปก็รู้สึกแปลกๆ หรือว่าเวย์ไม่ได้บอกคนอื่นๆ?


       "อ้อ ที่ไปกับยัยอินนั่นน่ะเหรอ?"เสียงซิตซ์ถามมาแบบที่แสดงถึงว่าพอรู้เรื่อง แต่ผมขมวดคิ้วเมื่อซิตซ์เรียกอินว่ายัยอิน


       มันฟังดูไม่เคารพยังไงไม่รู้ ยังไงซิตซ์กับอินก็ห่างกันเจ็ดปี เพราะงั้นถึงซิตซ์จะไม่ค่อยชอบอินก็ไม่ควรเรียกอินแบบนั้น


       "ซิตซ์ อย่าเรียกอินแบบนั้นได้ไหม?"


       "หึ เรียกแค่นี้ยังน้อยไป "ซิตซ์พูดเถียง ผมรู้สึกไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยไพล่ไปถามเรื่องอื่นแทน


       "แล้วนี่ทำไมถึงมารับสายเครื่องเวย์ได้ล่ะ?"ผมถามอย่างสงสัยแต่ต้น นี่ก็เกือบตีหนึ่งแล้ว ทำไมซิตซ์ถึงมารับสายเครื่องเวย์ได้กัน? 


       ซิตซ์เงียบไปก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนโกรธๆ


       "ทำไมถึงโทรหาแค่เวย์?"


       "อะไรนะ?"ผมไม่เข้าใจที่ซิตซ์ต้องการสื่อ ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้าก่อนปลายสายจะเอ่ยทวนมาอีกรอบ


       "ทำไมถึงโทรหาแค่เวย์? เวลามีเรื่องอะไรๆก็บอกแต่เวย์? พวกฉันไม่ใช่แฟนของนายรึไง? เห็นฉัน...เห็นพวกฉันที่เหลือเป็นอะไร?"เสียงตอนท้ายฟังกระแทกกระทั้น ขณะที่ผมกำลังงงกับการโกรธกระทันหันของซิตซ์ปลายสายก็ถูกเปลี่ยนมือ


       "ฮัลโหล ทอย? โมชิๆ ฉันเอง"


       "ไปป์?"ผมทวนชื่อเจ้าของเสียงรู้สึกแปลกใจกับการโทรศัพท์ครั้งนี้มาก 


       โทรหาเวย์ แต่คนที่รับที่คุยกลับไม่ใช่เวย์ซะงั้น


       "นี่ๆ ทอยอย่าว่าซิตซ์เลยนะที่น้อยใจนาย /...ว่าใครน้อยใจวะ!"


       เสียงซิตซ์โวยวายดังแทรกสายมา ก่อนเสียงจะเบาลง ผมคิดว่าไปป์คงเดินห่างออกมา


       "แล้วซิตซ์จะ...น้อยใจเรื่องอะไรล่ะ?"ผมถามไปป์กลับถึงจะลดเสียงตรงคำว่าน้อยใจเพราะกลัวคนที่ถูกหาว่าน้อยใจมาได้ยินเข้า


       "ฮะๆ ก็เรื่องโทรศัพท์ไง ทอยไม่ค่อยโทรหาซิตซ์ใช่ม้า? หมอนั่นมันนอยด์เรื่องนั้นแหละ"เสียงไปป์พูดกลั้วหัวเราะ แต่ผมไม่หัวเราะตาม


       นี่ผมทำให้ซิตซ์โกรธ เพราะไม่ค่อยโทรหางั้นเหรอ?


       "ก็นะ ทอยน่ะเวลามีอะไรก็โทรบอกแค่เวย์จริงๆล่ะนะ ขนาดพวกฉันเองก็เถอะ นานๆทีทอยถึงจะเป็นฝ่ายโทรมาหาเอง ส่วนใหญ่พวกฉันต้องเป็นฝ่ายโทรหาตลอด น่าน้อยใจจริงน้า"ไปป์ทำเสียงเหมือนแกล้งงอน ผมนึกอยากเถียงแต่เมื่อลองนึกทบทวนก็พบว่าที่อีกฝ่ายพูดเป็นความจริง


       ผมโทรหาเวย์บ่อยกว่าคนอื่นจริงๆ


       "นั่นมัน....ฉันแค่..."


       "เดี๋ยวนะ"ไปป์พูดขัดผมแล้วจะหันไปคุยกับใครบางคน ผมได้ยินเสียงพูดคุยแว่วมาตามสายแต่จับใจความไม่ได้


       "โอเคๆ รู้แล้วๆ ...ทอยว่าต่อสิ"ไปป์กลับมาพูดสายกับผม ผมไม่ได้ถามว่าทำอะไรกันเมื่อกี้และพูดต่อจากที่ค้างไว้


       "ฉันแค่คิดว่าโทรหาเวย์เป็นทางเลือกที่ดีต่อทุกฝ่ายที่สุด...น่ะ"หางเสียงเผลอสั่นอย่างไม่ตั้งใจ ผมพูดต่อโดยไม่รอให้ไปป์ถาม


       "ก็เพราะเวย์เป็นเป็นศูนย์กลางของกลุ่มพวกนายนี่? ฉันเลยคิดว่าถ้ามีอะไรบอกเวย์ไว้จะสะดวกกว่า เพราะถ้าโทรบอกเวย์ ฉันมั่นใจว่าเดี๋ยวเวย์ก็ไปบอกพวกนายต่อเอง แต่ถ้าฉันบอกคนอื่นๆ อย่างบอกจินก็มีสิทธิ์ที่จินจะลืมบอกต่อใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าเป็นเวย์ฉันคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางลืมแน่ๆ"

     

       ก็เวย์ดูพึ่งพาได้ที่สุดนี่นา  

     

       ผมเกาแก้ม พูดไปแล้วก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังว่าคนที่เหลือว่าพึ่งพาไม่ได้ยังไงไม่รู้


       "อ่า พอเข้าใจความหมายนายหรอก ...แล้วทำไมไม่บอกซิตซ์ล่ะ? หรือไนท์ก็ดี ฉันว่าสองคนนี่ยังไงก็ไม่ลืมหรอกนะ"เสียงไปป์ที่พูดโทรศัพท์ฟังดูแปลกๆ แต่ผมก็ตอบไปตามตรงแม้จะเสียงค่อยลงก็ตาม


       "ฉันเกรงใจสองคนนั้นน่ะ กลัวว่าโทรไปจะรบกวนพวกเขารึเปล่า อย่างซิตซ์ถ้าฉันโทรไปอาจจะทำให้รำคาญก็ได้ คนอื่นๆก็ด้วย ฉันกลัวว่าจะเผลอไปรบกวนพวกนายเอาเลยไม่ค่อยกล้าโทรหาเท่าไหร่น่ะ"


       "เลิกเกรงใจไม่เข้าท่า ถ้าอยากโทรมาก็โทรมาซะ!"


       ปลายสายที่สวนกลับมานั้นเปลี่ยนคนพูดอีกแล้ว เสียงของซิตซ์ที่ดังพอๆ กับตะโกนทำให้ผมต้องถือสายออกห่างจากหู ก่อนจะเบิกตาเมื่อนึกได้ว่าซิตซ์ได้ยิน


       แย่ล่ะ!


       "เอ่อ ซิตซ์คือฉัน..."ผมไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังดีเมื่อดูท่าอีกฝ่ายจะได้ยินหมดเปลือก ถ้าให้เดาไปป์คงจะกดสปีกเกอร์ให้ได้ยินกันทั่ว


       แล้วงานนี้...นอกจากซิตซ์จะมีใครได้ยินอีกรึเปล่าเนี่ย?


       "ใช่... ถ้าทอยอยากโทรมา...ฉันก็ว่างเสมอ ไม่รบกวนหรอก"เสียงนิ่งๆเรียบเรื่อยแบบนี้มัน...ไนท์


       "ใช่ๆ ทอยอยากโทรหาฉันก็โทรได้น้า แล้วฉันสัญญาว่าถ้าทอยมีธุระที่อยากให้บอกคนอื่นๆ ฉันจะไม่ลืมบอกเด็ดขาด เอ่อ อย่างน้อยฉันจะบอกไปป์ไว้กันลืมแล้วกัน"เสียงจินดังมาตามปลายสายยิ่งทำเอาผมหายใจไม่ถนัดอยากซุกหน้าหนีเพราะดันเผลอปล่อยไก่พูดนินทาต่อหน้าเจ้าตัว


       "พวกฉันด้วย ถึงช่วงนี้จะมีท่องหนังสือและติวข้อสอบทดลองแลปเยอะไปหน่อย แต่ถ้าทอยโทรมาพวกฉันยินดีคุยนะ เนอะลอส"


       "พวกเราไม่ค่อยว่างก็จริง แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ว่างรับสายโทรศัพท์ ถ้าทอยมีอะไรก็โทรมาได้เสมอ"


       "เห็นมะๆ คนอื่นๆอยากให้ทอยโทรมาจะตาย ฉันด้วย อ๊ะ แต่ฉันอยากทำมากกว่าคุยโทรศัพท์นะ เซ็กซ์โฟนเป็นไง... โอ๊ย! ใครเขก...เวย์!"


       "เมื่อกี้พูดว่ายังไงนะครับไปป์?"


       "เอ้อ ล้อเล่นน่า แค่หยอกเล่น... เอ่อ เวย์ อย่าทำหน้างั้นดี้...!!"


       จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็กลับเป็นปกติ ผมที่กำลังงงกับเสียงวุ่นวายจากปลายสายก็ต้องกระชับมือถือในมือเมื่อได้ยินเสียงนุ่มๆ ของเวย์ดังถามมา


       "ถึงบ้านนานแล้วเหรอครับ?"


       "อ่า ก็สักพักแล้วล่ะ"ผมตอบก่อนนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยืนอยู่หน้าห้องมาได้สักพักเลยเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วทิ้งตัวนั่งบนที่นอน


       "เอ่อ เวย์ ทำไมคนอื่นๆ ถึงไปอยู่กับเวย์ได้ล่ะ?"ผมถามอย่างคาใจเพราะเหมือนคืนนี้ทั้งกลุ่มจะรวมตัวกันครบอย่างน่าแปลก

     

       "อ๋อ วันนี้พวกผมนัดติวหนังสือกันน่ะครับ"

     

       "อ้อ งั้นเหรอ นี่พวกเวย์จะสอบกันแล้วเหรอ?"

     

       "แค่สอบกลางภาคน่ะครับ ช่วงก่อนจินกับไปป์เอาแต่เล่นพวกผมเลยต้องมาช่วยติวให้ เพราะถ้าเกรดตกพี่ชายของจินต้องบินมาว่าถึงที่ไทยแน่ๆ"เวย์พูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจัง แต่ผมอดชะงักไม่ได้

     

       พี่ชายของจิน?

     

       "อ่า งั้นเหรอ งั้นฝากบอกจินว่าพยายามเข้าล่ะ ฉันจะคอยเชียร์"

     

       "...ทอยให้กำลังใจแค่จินเหรอครับ?"น้ำเสียงของเวย์ฟังดูน้อยใจจนผมรีบปฏิเสธ

     

       "ไม่ใช่นะ แค่...ก็เวย์บอกว่าเป็นคนติวให้จิน ฉันเลยคิดว่าเวย์กับคนอื่นๆ ต้องทำได้อยู่แล้ว...ไม่ใช่เหรอ?"ผมลดเสียงลงอย่างไม่มั่นใจ ผมว่าคนอื่นๆ รวมถึงเวย์น่าจะทำได้อยู่แล้วนี่นา?

     

       "ครับ เรื่องสอบพวกผมคงทำได้กันอยู่แล้ว ...แต่ทอยจะไม่ให้กำลังใจหน่อยเหรอครับ?"

     

       น้ำเสียงของเวย์ฟังดูคาดหวัง ผมเม้มปาก ก่อนจะพูดเสียงค่อยใส่โทรศัพท์

     

       "งั้นเวย์ก็...พยายามเข้านะ"

     

       "ครับ!"

     

       ก็รู้หรอกนะว่าดีใจ แต่ไม่เห็นต้องทำเสียงร่าเริงขนาดนั้นเลยนี่นา...

     

       ผมซบหน้าลงบนฝ่ามือซ้ายอย่างนึกปลง เพราะแค่ฟังเสียงผมก็นึกถึงสีหน้าของอีกฝ่ายออก และนั่นทำให้ผมต้องถอนหายใจอย่างรู้สึกเหนื่อยใจเมื่อรับรู้ถึงอาการหัวใจที่เต้นกระตุกอีกครั้ง

     

       เฮ้อ...

     

       หลังจากนั้นเวย์ก็ชวนผมคุยเรื่องงานเลี้ยงว่าเป็นยังไงบ้าง ถามประมาณว่าสนุกไหม ซึ่งผมตอบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

     

       "ไม่ล่ะ ฉันไม่ค่อยชอบงานแบบนั้น ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยงล่ะนะ"พอผมตอบไปอย่างนั้นก็ได้ยินเสียงเวย์หัวเราะแล้วตอบกลับมา

     

       "แต่ทอยก็ยังไปนี่ครับ"

     

       "ก็ใช่หรอก แต่ที่ไปก็เพราะอินขอหรอก งานเลี้ยงอะไรนั่น เป็นไปได้ก็ไม่ไปหรอก"

     

       "...ดูทอยจะแคร์อินจังนะครับ"

     

       "ก็นะ อินช่วยฉันไว้หลายอย่าง ถ้าเรื่องอะไรช่วยได้ก็อยากจะช่วยล่ะนะ"ผมตอบก่อนถอดนาฬิกาออกไปตั้งไว้บนหัวเตียง แล้วพูดอย่างนึกได้

     

       "จริงสิ เรื่องติว ถ้ามีอะไรที่ฉันช่วยได้ก็บอกนะ"ผมพูดอาสาไว้ก่อน ถึงไม่แน่ใจว่าพวกเวย์จะต้องการความช่วยเหลือก็เถอะ

     

       "ครับ"

     

       ผมคุยกับเวย์ได้อีกสักพักก็รู้สึกง่วงจนเผลอหาวใส่โทรศัพท์

     

       "ง่วงแล้วเหรอครับ? จริงสิ นี่ก็ดึกแล้วขอโทษที่รบกวนเวลาทอยนะครับ"เสียงเวย์ขอโทษมาตามสาย ผมเผลอส่ายหน้าก่อนพูดปฏิเสธกับโทรศัพท์

     

       "ไม่ได้รบกวนหรอก วันนี้แค่เหนื่อยๆน่ะ ฉันชอบคุยโทรศัพท์กับเวย์นะ"

     

       พูดไปแล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมคุยโทรศัพท์นานขนาดนี้ ปกติผมมักคุยเรื่องธุระเสร็จแล้วก็วาง ตอนช่วงที่เดทกับฝนก็มีโทรคุยกันแต่ผมกลับรู้สึกเบื่อและอยากวาง ไม่เหมือนวันนี้ที่ผมรู้สึกอยากคุยต่ออีกหน่อย

     

       "งั้นไว้คราวหน้าทอยก็โทรมาอีกนะครับ ผมเองก็ชอบคุยกับทอยเหมือนกัน"พอฟังคำพูดเวย์ผมรู้สึกเขินแปลกๆ

     

       "อืม... งั้นไว้ฉันจะโทรหาอีก อ้อฝากบอกซิตซ์กับคนอื่นๆด้วยว่าคราวหลังฉันจะโทรไป...ถ้าไม่รบกวนน่ะนะ"ผมพูดอย่างลังเล แต่พวกซิตซ์บอกว่าโทรไปได้งั้นก็ไว้โทรไปสักหน่อยแล้วกัน

     

       "ได้ครับ ไว้เดี๋ยวผมจะบอกให้"

     

       "อ้อ จริงสิ ฝากบอกไปป์ด้วยเรื่องเซ็กซ์โฟนน่ะ..."

     

       "ครับ?"เวย์ขึ้นเสียงสูงขัดจนผมเผลอบีบโทรศัพท์ก่อนจะรีบพูดระรัวจนลิ้นแทบพันกัน

     

       "เอ่อ ฝากบอกไปป์ว่า...ถ้าไปป์อยากทำเมื่อไหร่ก็โทรมาแล้วกัน แล้วก็ฝันดีนะเวย์"ผมพูดบอกลา ซึ่งปลายสายค้างไปนานก่อนตอบกลับ

     

       "...ครับ ฝันดี"

       ผมกดวางสายแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ถึงรู้สึกเหมือนตาใกล้จะปิดก็ตาม พออาบเสร็จก็เกือบจะทิ้งตัวลงนอนเหมือนเคย แต่แวบนึงสมองพลันนึกถึงคำพูดของไปป์เมื่อหลายวันก่อน

     

       "ถ้าฉันไม่อยู่แล้วก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ ก่อนนอนต้องเช็ดตัวเช็ดหัวให้แห้ง แล้วก็ใส่เสื้อผ้าตอนนอนด้วย!"

     

       คำพูดเตือนที่ทำให้ผมเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองนิดหน่อย ก็ได้... แค่ใส่เสื้อผ้าตอนนอนเองนี่นะ

     

       ผมเช็ดตัวเสร็จก็สวมชุดนอนแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่หลายวันมานี้เริ่มจะคิดแล้วว่ามันดูกว้างไป

     

       นี่ถ้าผมซื้อตุ๊กตามาตั้งรอบเตียง...จะรู้สึกดีขึ้นไหมนะ?


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×