คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : ตอนที่31 ผมกับสายโทรศัพท์ยามค่ำคืน
ตอนที่31
ผมกับสายโทรศัพท์ยามค่ำคืน
โทรศัพท์มือถือก็เหมือนเครื่องประดับ ผมไม่ได้ใช้บ่อยนักถ้าเทียบกับคนอื่นๆ
แต่ตอนนี้ผมมีแฟนแล้ว(หลายคนด้วย) คงต้องใช้ให้บ่อยมากขึ้นแล้วล่ะมั้ง?
...
"ถึงแล้วนะ"ผมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ขณะไขประตูเดินเข้ามาในบ้าน พอล็อคบ้านเสร็จก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง
"ถึงอะไร?"
"ซิตซ์?"ผมชะงักมือที่จับลูกบิดเมื่อปลายสายไม่ใช่คนที่คิดไว้ ผมรีบก้มมองมือถือ แต่ไม่ว่ายังไงเบอร์ที่กดโทรออกมันก็เบอร์เวย์ชัดๆ
"ใช่ ฉันเอง แล้วตกลงถึงอะไร?"ปลายสายถามย้ำทำให้ผมรีบตอบ
"เอ่อ ฉันเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยง เวย์บอกว่าถ้าถึงแล้วให้โทรหา...น่ะ"ผมพูดไปก็รู้สึกแปลกๆ หรือว่าเวย์ไม่ได้บอกคนอื่นๆ?
"อ้อ ที่ไปกับยัยอินนั่นน่ะเหรอ?"เสียงซิตซ์ถามมาแบบที่แสดงถึงว่าพอรู้เรื่อง แต่ผมขมวดคิ้วเมื่อซิตซ์เรียกอินว่ายัยอิน
มันฟังดูไม่เคารพยังไงไม่รู้ ยังไงซิตซ์กับอินก็ห่างกันเจ็ดปี เพราะงั้นถึงซิตซ์จะไม่ค่อยชอบอินก็ไม่ควรเรียกอินแบบนั้น
"ซิตซ์ อย่าเรียกอินแบบนั้นได้ไหม?"
"หึ เรียกแค่นี้ยังน้อยไป "ซิตซ์พูดเถียง ผมรู้สึกไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยไพล่ไปถามเรื่องอื่นแทน
"แล้วนี่ทำไมถึงมารับสายเครื่องเวย์ได้ล่ะ?"ผมถามอย่างสงสัยแต่ต้น นี่ก็เกือบตีหนึ่งแล้ว ทำไมซิตซ์ถึงมารับสายเครื่องเวย์ได้กัน?
ซิตซ์เงียบไปก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนโกรธๆ
"ทำไมถึงโทรหาแค่เวย์?"
"อะไรนะ?"ผมไม่เข้าใจที่ซิตซ์ต้องการสื่อ ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้าก่อนปลายสายจะเอ่ยทวนมาอีกรอบ
"ทำไมถึงโทรหาแค่เวย์? เวลามีเรื่องอะไรๆก็บอกแต่เวย์? พวกฉันไม่ใช่แฟนของนายรึไง? เห็นฉัน...เห็นพวกฉันที่เหลือเป็นอะไร?"เสียงตอนท้ายฟังกระแทกกระทั้น ขณะที่ผมกำลังงงกับการโกรธกระทันหันของซิตซ์ปลายสายก็ถูกเปลี่ยนมือ
"ฮัลโหล ทอย? โมชิๆ ฉันเอง"
"ไปป์?"ผมทวนชื่อเจ้าของเสียงรู้สึกแปลกใจกับการโทรศัพท์ครั้งนี้มาก
โทรหาเวย์ แต่คนที่รับที่คุยกลับไม่ใช่เวย์ซะงั้น
"นี่ๆ ทอยอย่าว่าซิตซ์เลยนะที่น้อยใจนาย /...ว่าใครน้อยใจวะ!"
เสียงซิตซ์โวยวายดังแทรกสายมา ก่อนเสียงจะเบาลง ผมคิดว่าไปป์คงเดินห่างออกมา
"แล้วซิตซ์จะ...น้อยใจเรื่องอะไรล่ะ?"ผมถามไปป์กลับถึงจะลดเสียงตรงคำว่าน้อยใจเพราะกลัวคนที่ถูกหาว่าน้อยใจมาได้ยินเข้า
"ฮะๆ ก็เรื่องโทรศัพท์ไง ทอยไม่ค่อยโทรหาซิตซ์ใช่ม้า? หมอนั่นมันนอยด์เรื่องนั้นแหละ"เสียงไปป์พูดกลั้วหัวเราะ แต่ผมไม่หัวเราะตาม
นี่ผมทำให้ซิตซ์โกรธ เพราะไม่ค่อยโทรหางั้นเหรอ?
"ก็นะ ทอยน่ะเวลามีอะไรก็โทรบอกแค่เวย์จริงๆล่ะนะ ขนาดพวกฉันเองก็เถอะ นานๆทีทอยถึงจะเป็นฝ่ายโทรมาหาเอง ส่วนใหญ่พวกฉันต้องเป็นฝ่ายโทรหาตลอด น่าน้อยใจจริงน้า"ไปป์ทำเสียงเหมือนแกล้งงอน ผมนึกอยากเถียงแต่เมื่อลองนึกทบทวนก็พบว่าที่อีกฝ่ายพูดเป็นความจริง
ผมโทรหาเวย์บ่อยกว่าคนอื่นจริงๆ
"นั่นมัน....ฉันแค่..."
"เดี๋ยวนะ"ไปป์พูดขัดผมแล้วจะหันไปคุยกับใครบางคน ผมได้ยินเสียงพูดคุยแว่วมาตามสายแต่จับใจความไม่ได้
"โอเคๆ รู้แล้วๆ ...ทอยว่าต่อสิ"ไปป์กลับมาพูดสายกับผม ผมไม่ได้ถามว่าทำอะไรกันเมื่อกี้และพูดต่อจากที่ค้างไว้
"ฉันแค่คิดว่าโทรหาเวย์เป็นทางเลือกที่ดีต่อทุกฝ่ายที่สุด...น่ะ"หางเสียงเผลอสั่นอย่างไม่ตั้งใจ ผมพูดต่อโดยไม่รอให้ไปป์ถาม
"ก็เพราะเวย์เป็นเป็นศูนย์กลางของกลุ่มพวกนายนี่? ฉันเลยคิดว่าถ้ามีอะไรบอกเวย์ไว้จะสะดวกกว่า เพราะถ้าโทรบอกเวย์ ฉันมั่นใจว่าเดี๋ยวเวย์ก็ไปบอกพวกนายต่อเอง แต่ถ้าฉันบอกคนอื่นๆ อย่างบอกจินก็มีสิทธิ์ที่จินจะลืมบอกต่อใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าเป็นเวย์ฉันคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางลืมแน่ๆ"
ก็เวย์ดูพึ่งพาได้ที่สุดนี่นา
ผมเกาแก้ม พูดไปแล้วก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังว่าคนที่เหลือว่าพึ่งพาไม่ได้ยังไงไม่รู้
"อ่า พอเข้าใจความหมายนายหรอก ...แล้วทำไมไม่บอกซิตซ์ล่ะ? หรือไนท์ก็ดี ฉันว่าสองคนนี่ยังไงก็ไม่ลืมหรอกนะ"เสียงไปป์ที่พูดโทรศัพท์ฟังดูแปลกๆ แต่ผมก็ตอบไปตามตรงแม้จะเสียงค่อยลงก็ตาม
"ฉันเกรงใจสองคนนั้นน่ะ กลัวว่าโทรไปจะรบกวนพวกเขารึเปล่า อย่างซิตซ์ถ้าฉันโทรไปอาจจะทำให้รำคาญก็ได้ คนอื่นๆก็ด้วย ฉันกลัวว่าจะเผลอไปรบกวนพวกนายเอาเลยไม่ค่อยกล้าโทรหาเท่าไหร่น่ะ"
"เลิกเกรงใจไม่เข้าท่า ถ้าอยากโทรมาก็โทรมาซะ!"
ปลายสายที่สวนกลับมานั้นเปลี่ยนคนพูดอีกแล้ว เสียงของซิตซ์ที่ดังพอๆ กับตะโกนทำให้ผมต้องถือสายออกห่างจากหู ก่อนจะเบิกตาเมื่อนึกได้ว่าซิตซ์ได้ยิน
แย่ล่ะ!
"เอ่อ ซิตซ์คือฉัน..."ผมไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังดีเมื่อดูท่าอีกฝ่ายจะได้ยินหมดเปลือก ถ้าให้เดาไปป์คงจะกดสปีกเกอร์ให้ได้ยินกันทั่ว
แล้วงานนี้...นอกจากซิตซ์จะมีใครได้ยินอีกรึเปล่าเนี่ย?
"ใช่... ถ้าทอยอยากโทรมา...ฉันก็ว่างเสมอ ไม่รบกวนหรอก"เสียงนิ่งๆเรียบเรื่อยแบบนี้มัน...ไนท์
"ใช่ๆ ทอยอยากโทรหาฉันก็โทรได้น้า แล้วฉันสัญญาว่าถ้าทอยมีธุระที่อยากให้บอกคนอื่นๆ ฉันจะไม่ลืมบอกเด็ดขาด เอ่อ อย่างน้อยฉันจะบอกไปป์ไว้กันลืมแล้วกัน"เสียงจินดังมาตามปลายสายยิ่งทำเอาผมหายใจไม่ถนัดอยากซุกหน้าหนีเพราะดันเผลอปล่อยไก่พูดนินทาต่อหน้าเจ้าตัว
"พวกฉันด้วย ถึงช่วงนี้จะมีท่องหนังสือและติวข้อสอบทดลองแลปเยอะไปหน่อย แต่ถ้าทอยโทรมาพวกฉันยินดีคุยนะ เนอะลอส"
"พวกเราไม่ค่อยว่างก็จริง แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ว่างรับสายโทรศัพท์ ถ้าทอยมีอะไรก็โทรมาได้เสมอ"
"เห็นมะๆ คนอื่นๆอยากให้ทอยโทรมาจะตาย ฉันด้วย อ๊ะ แต่ฉันอยากทำมากกว่าคุยโทรศัพท์นะ เซ็กซ์โฟนเป็นไง... โอ๊ย! ใครเขก...เวย์!"
"เมื่อกี้พูดว่ายังไงนะครับไปป์?"
"เอ้อ ล้อเล่นน่า แค่หยอกเล่น... เอ่อ เวย์ อย่าทำหน้างั้นดี้...!!"
จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็กลับเป็นปกติ ผมที่กำลังงงกับเสียงวุ่นวายจากปลายสายก็ต้องกระชับมือถือในมือเมื่อได้ยินเสียงนุ่มๆ ของเวย์ดังถามมา
"ถึงบ้านนานแล้วเหรอครับ?"
"อ่า ก็สักพักแล้วล่ะ"ผมตอบก่อนนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยืนอยู่หน้าห้องมาได้สักพักเลยเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วทิ้งตัวนั่งบนที่นอน
"เอ่อ เวย์ ทำไมคนอื่นๆ ถึงไปอยู่กับเวย์ได้ล่ะ?"ผมถามอย่างคาใจเพราะเหมือนคืนนี้ทั้งกลุ่มจะรวมตัวกันครบอย่างน่าแปลก
"อ๋อ วันนี้พวกผมนัดติวหนังสือกันน่ะครับ"
"อ้อ งั้นเหรอ นี่พวกเวย์จะสอบกันแล้วเหรอ?"
"แค่สอบกลางภาคน่ะครับ ช่วงก่อนจินกับไปป์เอาแต่เล่นพวกผมเลยต้องมาช่วยติวให้ เพราะถ้าเกรดตกพี่ชายของจินต้องบินมาว่าถึงที่ไทยแน่ๆ"เวย์พูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจัง แต่ผมอดชะงักไม่ได้
พี่ชายของจิน?
"อ่า งั้นเหรอ งั้นฝากบอกจินว่าพยายามเข้าล่ะ ฉันจะคอยเชียร์"
"...ทอยให้กำลังใจแค่จินเหรอครับ?"น้ำเสียงของเวย์ฟังดูน้อยใจจนผมรีบปฏิเสธ
"ไม่ใช่นะ แค่...ก็เวย์บอกว่าเป็นคนติวให้จิน ฉันเลยคิดว่าเวย์กับคนอื่นๆ ต้องทำได้อยู่แล้ว...ไม่ใช่เหรอ?"ผมลดเสียงลงอย่างไม่มั่นใจ ผมว่าคนอื่นๆ รวมถึงเวย์น่าจะทำได้อยู่แล้วนี่นา?
"ครับ เรื่องสอบพวกผมคงทำได้กันอยู่แล้ว ...แต่ทอยจะไม่ให้กำลังใจหน่อยเหรอครับ?"
น้ำเสียงของเวย์ฟังดูคาดหวัง ผมเม้มปาก ก่อนจะพูดเสียงค่อยใส่โทรศัพท์
"งั้นเวย์ก็...พยายามเข้านะ"
"ครับ!"
ก็รู้หรอกนะว่าดีใจ แต่ไม่เห็นต้องทำเสียงร่าเริงขนาดนั้นเลยนี่นา...
ผมซบหน้าลงบนฝ่ามือซ้ายอย่างนึกปลง เพราะแค่ฟังเสียงผมก็นึกถึงสีหน้าของอีกฝ่ายออก และนั่นทำให้ผมต้องถอนหายใจอย่างรู้สึกเหนื่อยใจเมื่อรับรู้ถึงอาการหัวใจที่เต้นกระตุกอีกครั้ง
เฮ้อ...
หลังจากนั้นเวย์ก็ชวนผมคุยเรื่องงานเลี้ยงว่าเป็นยังไงบ้าง ถามประมาณว่าสนุกไหม ซึ่งผมตอบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
"ไม่ล่ะ ฉันไม่ค่อยชอบงานแบบนั้น ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยงล่ะนะ"พอผมตอบไปอย่างนั้นก็ได้ยินเสียงเวย์หัวเราะแล้วตอบกลับมา
"แต่ทอยก็ยังไปนี่ครับ"
"ก็ใช่หรอก แต่ที่ไปก็เพราะอินขอหรอก งานเลี้ยงอะไรนั่น เป็นไปได้ก็ไม่ไปหรอก"
"...ดูทอยจะแคร์อินจังนะครับ"
"ก็นะ อินช่วยฉันไว้หลายอย่าง ถ้าเรื่องอะไรช่วยได้ก็อยากจะช่วยล่ะนะ"ผมตอบก่อนถอดนาฬิกาออกไปตั้งไว้บนหัวเตียง แล้วพูดอย่างนึกได้
"จริงสิ เรื่องติว ถ้ามีอะไรที่ฉันช่วยได้ก็บอกนะ"ผมพูดอาสาไว้ก่อน ถึงไม่แน่ใจว่าพวกเวย์จะต้องการความช่วยเหลือก็เถอะ
"ครับ"
ผมคุยกับเวย์ได้อีกสักพักก็รู้สึกง่วงจนเผลอหาวใส่โทรศัพท์
"ง่วงแล้วเหรอครับ? จริงสิ นี่ก็ดึกแล้วขอโทษที่รบกวนเวลาทอยนะครับ"เสียงเวย์ขอโทษมาตามสาย ผมเผลอส่ายหน้าก่อนพูดปฏิเสธกับโทรศัพท์
"ไม่ได้รบกวนหรอก วันนี้แค่เหนื่อยๆน่ะ ฉันชอบคุยโทรศัพท์กับเวย์นะ"
พูดไปแล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมคุยโทรศัพท์นานขนาดนี้ ปกติผมมักคุยเรื่องธุระเสร็จแล้วก็วาง ตอนช่วงที่เดทกับฝนก็มีโทรคุยกันแต่ผมกลับรู้สึกเบื่อและอยากวาง ไม่เหมือนวันนี้ที่ผมรู้สึกอยากคุยต่ออีกหน่อย
"งั้นไว้คราวหน้าทอยก็โทรมาอีกนะครับ ผมเองก็ชอบคุยกับทอยเหมือนกัน"พอฟังคำพูดเวย์ผมรู้สึกเขินแปลกๆ
"อืม... งั้นไว้ฉันจะโทรหาอีก อ้อฝากบอกซิตซ์กับคนอื่นๆด้วยว่าคราวหลังฉันจะโทรไป...ถ้าไม่รบกวนน่ะนะ"ผมพูดอย่างลังเล แต่พวกซิตซ์บอกว่าโทรไปได้งั้นก็ไว้โทรไปสักหน่อยแล้วกัน
"ได้ครับ ไว้เดี๋ยวผมจะบอกให้"
"อ้อ จริงสิ ฝากบอกไปป์ด้วยเรื่องเซ็กซ์โฟนน่ะ..."
"ครับ?"เวย์ขึ้นเสียงสูงขัดจนผมเผลอบีบโทรศัพท์ก่อนจะรีบพูดระรัวจนลิ้นแทบพันกัน
"เอ่อ ฝากบอกไปป์ว่า...ถ้าไปป์อยากทำเมื่อไหร่ก็โทรมาแล้วกัน แล้วก็ฝันดีนะเวย์"ผมพูดบอกลา ซึ่งปลายสายค้างไปนานก่อนตอบกลับ
"...ครับ ฝันดี"
ผมกดวางสายแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ถึงรู้สึกเหมือนตาใกล้จะปิดก็ตาม พออาบเสร็จก็เกือบจะทิ้งตัวลงนอนเหมือนเคย แต่แวบนึงสมองพลันนึกถึงคำพูดของไปป์เมื่อหลายวันก่อน
"ถ้าฉันไม่อยู่แล้วก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ ก่อนนอนต้องเช็ดตัวเช็ดหัวให้แห้ง แล้วก็ใส่เสื้อผ้าตอนนอนด้วย!"
คำพูดเตือนที่ทำให้ผมเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองนิดหน่อย ก็ได้... แค่ใส่เสื้อผ้าตอนนอนเองนี่นะ
ผมเช็ดตัวเสร็จก็สวมชุดนอนแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่หลายวันมานี้เริ่มจะคิดแล้วว่ามันดูกว้างไป
นี่ถ้าผมซื้อตุ๊กตามาตั้งรอบเตียง...จะรู้สึกดีขึ้นไหมนะ?
โทรศัพท์มือถือก็เหมือนเครื่องประดับ ผมไม่ได้ใช้บ่อยนักถ้าเทียบกับคนอื่นๆ
แต่ตอนนี้ผมมีแฟนแล้ว(หลายคนด้วย) คงต้องใช้ให้บ่อยมากขึ้นแล้วล่ะมั้ง?
...
"ถึงแล้วนะ"ผมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ขณะไขประตูเดินเข้ามาในบ้าน พอล็อคบ้านเสร็จก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง
"ถึงอะไร?"
"ซิตซ์?"ผมชะงักมือที่จับลูกบิดเมื่อปลายสายไม่ใช่คนที่คิดไว้ ผมรีบก้มมองมือถือ แต่ไม่ว่ายังไงเบอร์ที่กดโทรออกมันก็เบอร์เวย์ชัดๆ
"ใช่ ฉันเอง แล้วตกลงถึงอะไร?"ปลายสายถามย้ำทำให้ผมรีบตอบ
"เอ่อ ฉันเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยง เวย์บอกว่าถ้าถึงแล้วให้โทรหา...น่ะ"ผมพูดไปก็รู้สึกแปลกๆ หรือว่าเวย์ไม่ได้บอกคนอื่นๆ?
"อ้อ ที่ไปกับยัยอินนั่นน่ะเหรอ?"เสียงซิตซ์ถามมาแบบที่แสดงถึงว่าพอรู้เรื่อง แต่ผมขมวดคิ้วเมื่อซิตซ์เรียกอินว่ายัยอิน
มันฟังดูไม่เคารพยังไงไม่รู้ ยังไงซิตซ์กับอินก็ห่างกันเจ็ดปี เพราะงั้นถึงซิตซ์จะไม่ค่อยชอบอินก็ไม่ควรเรียกอินแบบนั้น
"ซิตซ์ อย่าเรียกอินแบบนั้นได้ไหม?"
"หึ เรียกแค่นี้ยังน้อยไป "ซิตซ์พูดเถียง ผมรู้สึกไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยไพล่ไปถามเรื่องอื่นแทน
"แล้วนี่ทำไมถึงมารับสายเครื่องเวย์ได้ล่ะ?"ผมถามอย่างสงสัยแต่ต้น นี่ก็เกือบตีหนึ่งแล้ว ทำไมซิตซ์ถึงมารับสายเครื่องเวย์ได้กัน?
ซิตซ์เงียบไปก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนโกรธๆ
"ทำไมถึงโทรหาแค่เวย์?"
"อะไรนะ?"ผมไม่เข้าใจที่ซิตซ์ต้องการสื่อ ได้ยินเสียงสูดลมหายใจเข้าก่อนปลายสายจะเอ่ยทวนมาอีกรอบ
"ทำไมถึงโทรหาแค่เวย์? เวลามีเรื่องอะไรๆก็บอกแต่เวย์? พวกฉันไม่ใช่แฟนของนายรึไง? เห็นฉัน...เห็นพวกฉันที่เหลือเป็นอะไร?"เสียงตอนท้ายฟังกระแทกกระทั้น ขณะที่ผมกำลังงงกับการโกรธกระทันหันของซิตซ์ปลายสายก็ถูกเปลี่ยนมือ
"ฮัลโหล ทอย? โมชิๆ ฉันเอง"
"ไปป์?"ผมทวนชื่อเจ้าของเสียงรู้สึกแปลกใจกับการโทรศัพท์ครั้งนี้มาก
โทรหาเวย์ แต่คนที่รับที่คุยกลับไม่ใช่เวย์ซะงั้น
"นี่ๆ ทอยอย่าว่าซิตซ์เลยนะที่น้อยใจนาย /...ว่าใครน้อยใจวะ!"
เสียงซิตซ์โวยวายดังแทรกสายมา ก่อนเสียงจะเบาลง ผมคิดว่าไปป์คงเดินห่างออกมา
"แล้วซิตซ์จะ...น้อยใจเรื่องอะไรล่ะ?"ผมถามไปป์กลับถึงจะลดเสียงตรงคำว่าน้อยใจเพราะกลัวคนที่ถูกหาว่าน้อยใจมาได้ยินเข้า
"ฮะๆ ก็เรื่องโทรศัพท์ไง ทอยไม่ค่อยโทรหาซิตซ์ใช่ม้า? หมอนั่นมันนอยด์เรื่องนั้นแหละ"เสียงไปป์พูดกลั้วหัวเราะ แต่ผมไม่หัวเราะตาม
นี่ผมทำให้ซิตซ์โกรธ เพราะไม่ค่อยโทรหางั้นเหรอ?
"ก็นะ ทอยน่ะเวลามีอะไรก็โทรบอกแค่เวย์จริงๆล่ะนะ ขนาดพวกฉันเองก็เถอะ นานๆทีทอยถึงจะเป็นฝ่ายโทรมาหาเอง ส่วนใหญ่พวกฉันต้องเป็นฝ่ายโทรหาตลอด น่าน้อยใจจริงน้า"ไปป์ทำเสียงเหมือนแกล้งงอน ผมนึกอยากเถียงแต่เมื่อลองนึกทบทวนก็พบว่าที่อีกฝ่ายพูดเป็นความจริง
ผมโทรหาเวย์บ่อยกว่าคนอื่นจริงๆ
"นั่นมัน....ฉันแค่..."
"เดี๋ยวนะ"ไปป์พูดขัดผมแล้วจะหันไปคุยกับใครบางคน ผมได้ยินเสียงพูดคุยแว่วมาตามสายแต่จับใจความไม่ได้
"โอเคๆ รู้แล้วๆ ...ทอยว่าต่อสิ"ไปป์กลับมาพูดสายกับผม ผมไม่ได้ถามว่าทำอะไรกันเมื่อกี้และพูดต่อจากที่ค้างไว้
"ฉันแค่คิดว่าโทรหาเวย์เป็นทางเลือกที่ดีต่อทุกฝ่ายที่สุด...น่ะ"หางเสียงเผลอสั่นอย่างไม่ตั้งใจ ผมพูดต่อโดยไม่รอให้ไปป์ถาม
"ก็เพราะเวย์เป็นเป็นศูนย์กลางของกลุ่มพวกนายนี่? ฉันเลยคิดว่าถ้ามีอะไรบอกเวย์ไว้จะสะดวกกว่า เพราะถ้าโทรบอกเวย์ ฉันมั่นใจว่าเดี๋ยวเวย์ก็ไปบอกพวกนายต่อเอง แต่ถ้าฉันบอกคนอื่นๆ อย่างบอกจินก็มีสิทธิ์ที่จินจะลืมบอกต่อใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าเป็นเวย์ฉันคิดว่ายังไงก็ไม่มีทางลืมแน่ๆ"
ก็เวย์ดูพึ่งพาได้ที่สุดนี่นา
ผมเกาแก้ม พูดไปแล้วก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังว่าคนที่เหลือว่าพึ่งพาไม่ได้ยังไงไม่รู้
"อ่า พอเข้าใจความหมายนายหรอก ...แล้วทำไมไม่บอกซิตซ์ล่ะ? หรือไนท์ก็ดี ฉันว่าสองคนนี่ยังไงก็ไม่ลืมหรอกนะ"เสียงไปป์ที่พูดโทรศัพท์ฟังดูแปลกๆ แต่ผมก็ตอบไปตามตรงแม้จะเสียงค่อยลงก็ตาม
"ฉันเกรงใจสองคนนั้นน่ะ กลัวว่าโทรไปจะรบกวนพวกเขารึเปล่า อย่างซิตซ์ถ้าฉันโทรไปอาจจะทำให้รำคาญก็ได้ คนอื่นๆก็ด้วย ฉันกลัวว่าจะเผลอไปรบกวนพวกนายเอาเลยไม่ค่อยกล้าโทรหาเท่าไหร่น่ะ"
"เลิกเกรงใจไม่เข้าท่า ถ้าอยากโทรมาก็โทรมาซะ!"
ปลายสายที่สวนกลับมานั้นเปลี่ยนคนพูดอีกแล้ว เสียงของซิตซ์ที่ดังพอๆ กับตะโกนทำให้ผมต้องถือสายออกห่างจากหู ก่อนจะเบิกตาเมื่อนึกได้ว่าซิตซ์ได้ยิน
แย่ล่ะ!
"เอ่อ ซิตซ์คือฉัน..."ผมไม่รู้ว่าจะแก้ตัวยังดีเมื่อดูท่าอีกฝ่ายจะได้ยินหมดเปลือก ถ้าให้เดาไปป์คงจะกดสปีกเกอร์ให้ได้ยินกันทั่ว
แล้วงานนี้...นอกจากซิตซ์จะมีใครได้ยินอีกรึเปล่าเนี่ย?
"ใช่... ถ้าทอยอยากโทรมา...ฉันก็ว่างเสมอ ไม่รบกวนหรอก"เสียงนิ่งๆเรียบเรื่อยแบบนี้มัน...ไนท์
"ใช่ๆ ทอยอยากโทรหาฉันก็โทรได้น้า แล้วฉันสัญญาว่าถ้าทอยมีธุระที่อยากให้บอกคนอื่นๆ ฉันจะไม่ลืมบอกเด็ดขาด เอ่อ อย่างน้อยฉันจะบอกไปป์ไว้กันลืมแล้วกัน"เสียงจินดังมาตามปลายสายยิ่งทำเอาผมหายใจไม่ถนัดอยากซุกหน้าหนีเพราะดันเผลอปล่อยไก่พูดนินทาต่อหน้าเจ้าตัว
"พวกฉันด้วย ถึงช่วงนี้จะมีท่องหนังสือและติวข้อสอบทดลองแลปเยอะไปหน่อย แต่ถ้าทอยโทรมาพวกฉันยินดีคุยนะ เนอะลอส"
"พวกเราไม่ค่อยว่างก็จริง แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ว่างรับสายโทรศัพท์ ถ้าทอยมีอะไรก็โทรมาได้เสมอ"
"เห็นมะๆ คนอื่นๆอยากให้ทอยโทรมาจะตาย ฉันด้วย อ๊ะ แต่ฉันอยากทำมากกว่าคุยโทรศัพท์นะ เซ็กซ์โฟนเป็นไง... โอ๊ย! ใครเขก...เวย์!"
"เมื่อกี้พูดว่ายังไงนะครับไปป์?"
"เอ้อ ล้อเล่นน่า แค่หยอกเล่น... เอ่อ เวย์ อย่าทำหน้างั้นดี้...!!"
จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็กลับเป็นปกติ ผมที่กำลังงงกับเสียงวุ่นวายจากปลายสายก็ต้องกระชับมือถือในมือเมื่อได้ยินเสียงนุ่มๆ ของเวย์ดังถามมา
"ถึงบ้านนานแล้วเหรอครับ?"
"อ่า ก็สักพักแล้วล่ะ"ผมตอบก่อนนึกขึ้นได้ว่าตัวเองยืนอยู่หน้าห้องมาได้สักพักเลยเปิดประตูเข้าไปในห้องแล้วทิ้งตัวนั่งบนที่นอน
"เอ่อ เวย์ ทำไมคนอื่นๆ ถึงไปอยู่กับเวย์ได้ล่ะ?"ผมถามอย่างคาใจเพราะเหมือนคืนนี้ทั้งกลุ่มจะรวมตัวกันครบอย่างน่าแปลก
"อ๋อ วันนี้พวกผมนัดติวหนังสือกันน่ะครับ"
"อ้อ งั้นเหรอ นี่พวกเวย์จะสอบกันแล้วเหรอ?"
"แค่สอบกลางภาคน่ะครับ ช่วงก่อนจินกับไปป์เอาแต่เล่นพวกผมเลยต้องมาช่วยติวให้ เพราะถ้าเกรดตกพี่ชายของจินต้องบินมาว่าถึงที่ไทยแน่ๆ"เวย์พูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจัง แต่ผมอดชะงักไม่ได้
พี่ชายของจิน?
"อ่า งั้นเหรอ งั้นฝากบอกจินว่าพยายามเข้าล่ะ ฉันจะคอยเชียร์"
"...ทอยให้กำลังใจแค่จินเหรอครับ?"น้ำเสียงของเวย์ฟังดูน้อยใจจนผมรีบปฏิเสธ
"ไม่ใช่นะ แค่...ก็เวย์บอกว่าเป็นคนติวให้จิน ฉันเลยคิดว่าเวย์กับคนอื่นๆ ต้องทำได้อยู่แล้ว...ไม่ใช่เหรอ?"ผมลดเสียงลงอย่างไม่มั่นใจ ผมว่าคนอื่นๆ รวมถึงเวย์น่าจะทำได้อยู่แล้วนี่นา?
"ครับ เรื่องสอบพวกผมคงทำได้กันอยู่แล้ว ...แต่ทอยจะไม่ให้กำลังใจหน่อยเหรอครับ?"
น้ำเสียงของเวย์ฟังดูคาดหวัง ผมเม้มปาก ก่อนจะพูดเสียงค่อยใส่โทรศัพท์
"งั้นเวย์ก็...พยายามเข้านะ"
"ครับ!"
ก็รู้หรอกนะว่าดีใจ แต่ไม่เห็นต้องทำเสียงร่าเริงขนาดนั้นเลยนี่นา...
ผมซบหน้าลงบนฝ่ามือซ้ายอย่างนึกปลง เพราะแค่ฟังเสียงผมก็นึกถึงสีหน้าของอีกฝ่ายออก และนั่นทำให้ผมต้องถอนหายใจอย่างรู้สึกเหนื่อยใจเมื่อรับรู้ถึงอาการหัวใจที่เต้นกระตุกอีกครั้ง
เฮ้อ...
หลังจากนั้นเวย์ก็ชวนผมคุยเรื่องงานเลี้ยงว่าเป็นยังไงบ้าง ถามประมาณว่าสนุกไหม ซึ่งผมตอบปฏิเสธอย่างรวดเร็ว
"ไม่ล่ะ ฉันไม่ค่อยชอบงานแบบนั้น ถ้าเลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยงล่ะนะ"พอผมตอบไปอย่างนั้นก็ได้ยินเสียงเวย์หัวเราะแล้วตอบกลับมา
"แต่ทอยก็ยังไปนี่ครับ"
"ก็ใช่หรอก แต่ที่ไปก็เพราะอินขอหรอก งานเลี้ยงอะไรนั่น เป็นไปได้ก็ไม่ไปหรอก"
"...ดูทอยจะแคร์อินจังนะครับ"
"ก็นะ อินช่วยฉันไว้หลายอย่าง ถ้าเรื่องอะไรช่วยได้ก็อยากจะช่วยล่ะนะ"ผมตอบก่อนถอดนาฬิกาออกไปตั้งไว้บนหัวเตียง แล้วพูดอย่างนึกได้
"จริงสิ เรื่องติว ถ้ามีอะไรที่ฉันช่วยได้ก็บอกนะ"ผมพูดอาสาไว้ก่อน ถึงไม่แน่ใจว่าพวกเวย์จะต้องการความช่วยเหลือก็เถอะ
"ครับ"
ผมคุยกับเวย์ได้อีกสักพักก็รู้สึกง่วงจนเผลอหาวใส่โทรศัพท์
"ง่วงแล้วเหรอครับ? จริงสิ นี่ก็ดึกแล้วขอโทษที่รบกวนเวลาทอยนะครับ"เสียงเวย์ขอโทษมาตามสาย ผมเผลอส่ายหน้าก่อนพูดปฏิเสธกับโทรศัพท์
"ไม่ได้รบกวนหรอก วันนี้แค่เหนื่อยๆน่ะ ฉันชอบคุยโทรศัพท์กับเวย์นะ"
พูดไปแล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมคุยโทรศัพท์นานขนาดนี้ ปกติผมมักคุยเรื่องธุระเสร็จแล้วก็วาง ตอนช่วงที่เดทกับฝนก็มีโทรคุยกันแต่ผมกลับรู้สึกเบื่อและอยากวาง ไม่เหมือนวันนี้ที่ผมรู้สึกอยากคุยต่ออีกหน่อย
"งั้นไว้คราวหน้าทอยก็โทรมาอีกนะครับ ผมเองก็ชอบคุยกับทอยเหมือนกัน"พอฟังคำพูดเวย์ผมรู้สึกเขินแปลกๆ
"อืม... งั้นไว้ฉันจะโทรหาอีก อ้อฝากบอกซิตซ์กับคนอื่นๆด้วยว่าคราวหลังฉันจะโทรไป...ถ้าไม่รบกวนน่ะนะ"ผมพูดอย่างลังเล แต่พวกซิตซ์บอกว่าโทรไปได้งั้นก็ไว้โทรไปสักหน่อยแล้วกัน
"ได้ครับ ไว้เดี๋ยวผมจะบอกให้"
"อ้อ จริงสิ ฝากบอกไปป์ด้วยเรื่องเซ็กซ์โฟนน่ะ..."
"ครับ?"เวย์ขึ้นเสียงสูงขัดจนผมเผลอบีบโทรศัพท์ก่อนจะรีบพูดระรัวจนลิ้นแทบพันกัน
"เอ่อ ฝากบอกไปป์ว่า...ถ้าไปป์อยากทำเมื่อไหร่ก็โทรมาแล้วกัน แล้วก็ฝันดีนะเวย์"ผมพูดบอกลา ซึ่งปลายสายค้างไปนานก่อนตอบกลับ
"...ครับ ฝันดี"
ผมกดวางสายแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ ถึงรู้สึกเหมือนตาใกล้จะปิดก็ตาม พออาบเสร็จก็เกือบจะทิ้งตัวลงนอนเหมือนเคย แต่แวบนึงสมองพลันนึกถึงคำพูดของไปป์เมื่อหลายวันก่อน
"ถ้าฉันไม่อยู่แล้วก็ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ ก่อนนอนต้องเช็ดตัวเช็ดหัวให้แห้ง แล้วก็ใส่เสื้อผ้าตอนนอนด้วย!"
คำพูดเตือนที่ทำให้ผมเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองนิดหน่อย ก็ได้... แค่ใส่เสื้อผ้าตอนนอนเองนี่นะ
ผมเช็ดตัวเสร็จก็สวมชุดนอนแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงที่หลายวันมานี้เริ่มจะคิดแล้วว่ามันดูกว้างไป
นี่ถ้าผมซื้อตุ๊กตามาตั้งรอบเตียง...จะรู้สึกดีขึ้นไหมนะ?
ความคิดเห็น