ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] I'm your Toy. ผมเป็นของเล่นของคุณ (8P)

    ลำดับตอนที่ #21 : ตอนที่20 ผมกับการ...ตัดขาด

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.51K
      110
      1 ก.ย. 63

    ตอนที่20

    ผมกับการ...ตัดขาด

     


       คำบางคำเราจำเป็นต้องเอ่ยมันออกไป


       "ขอโทษด้วยนะ ลอสริกซ์ ฉัน..."


       แม้จะรู้ว่าถ้อยคำนั้น...จะทำร้ายจิตใจคนฟังแค่ไหนก็ตาม


       "ฉัน...แยกพวกนายไม่ได้จริงๆ"



       ...


       เพื่อเป็นการตอบแทนเรื่องสตอเบอรี่ ไนท์ได้รับปากและได้สอนทริคในการจับผิดลอสกับริกซ์ให้ แต่หลังเรียนรู้ทริคดังกล่าวแล้ว... ผมก็ไม่แน่ใจนักว่าทริคนี้จะสามารถใช้จริงได้หรือไม่ ขณะที่ผมขอตัวลากลับห้องด้วยความกลุ้มใจ ไนท์ก็ได้ก้มมาจูบหน้าผากผมแล้วพูดอวยพร


       "ขอให้แยกออกไวๆ..."


       หลังจากที่ผมได้ทริค(?)จากไนท์มาเรียบร้อย วันถัดมาหรือก็คือวันเสาร์ ผมก็อาศัยโอกาสที่ลอสกับริกซ์ไม่ได้ออกไปไหนเริ่มลงมือ


       "ช่วยแบมือหน่อยสิ"


       ผมพูดขอนิ่งๆ ลอสกับริกซ์มองหน้ากัน ก่อนจะยื่นมือขวามาให้ผมคนละข้าง ผมเพ่งมองฝ่ามือขาวที่แบออก ก่อนจะเอามือซ้ายของตัวเองทาบมือของลอสดู ผมค้างอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสลับไปทำแบบเดียวกันกับของริกซ์


       ผมทำซ้ำกับมือซ้ายของทั้งคู่ ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อความต่างมันเล็กน้อยเกินไป ครั้งนี้ผมเปลี่ยนวิธีใหม่


       "ช่วยลืมตาค้างเอาไว้ทีนะ"


       พอทั้งคู่ยอมทำตามคำขอ โดยเบิกตานิ่งค้างไว้จนคล้ายกับตุ๊กตา ผมก็รีบเพ่งมองสีนัยน์ตาจองทั้งคู่ ไนท์บอกว่าสีตาของริกซ์เข้มกว่าของลอสอยู่หน่อยนึง แต่เท่าที่ผมลองดูก็ไม่ได้ต่างกันเลย สีฟ้าอมเขียวของทั้งคู่่ต่างกระจ่างใสราวกับกระจก ผมขมวดคิ้ว


       หรือว่าความสามารถในด้านการแยกสีของไนท์จะอยู่ในระดับสูงกันนะ?


       หลังจากแยกสีตาไม่สำเร็จผมก็เปลี่ยนวิธีอีกครั้ง อันเป็นวิธีสุดท้าย ซึ่งจริงๆแล้วผมก็ไม่อยากใช้วิธีนี้นัก แต่ก็จนใจจริงๆ


       "ขอฉัน...แตะหน้าหน่อยนะ"ผมเอ่ยปากอย่างเชื่องช้าผิดกับสองคราแรก


       "อ่า... ได้สิ"ริกซ์ยิ้มแบบที่คล้ายงงคล้ายขำ ลอสพยักหน้าให้ และครั้งนี้ผมเริ่มจากทางริกซ์ก่อน


       ผมยื่นมือสองข้างไปประคองใบหน้าของริกซ์ ฝ่ามือแตะเข้าที่ข้างแก้มขาวเนียน ผมใช้ปลายนิ้วลูบไล้เบาๆเพื่อสัมผัสผิวและอุณหภูมิที่เริ่มต้นจากอุ่นไปยังร้อนเล็กน้อย ผมกดคิ้วเมื่อมันยังไม่พอ ก่อนจะเลื่อนนิ้วโป้งไปลูบที่ริมฝีปากของริกซ์ ไล้จากริมฝีปากบนไล่ลงมายังด้านล่าง ทำซ้ำไปซ้ำมาพลางสังเกตขนาด สี และลักษณะอื่นๆ


       ผมผละออกจากใบหน้าริกซ์ช้าๆ แล้วหันไปทางลอสที่มีอาการสะดุ้งเล็กๆเมื่อผมยื่นมือไปหา ผมชะงักก่อนจะพูดปลอบเสียงเบา


       "ฉันจะทำเบาๆ...นะ?"


       คราวนี้ลอสไม่ได้เบี่ยงหน้าหนีและยอมให้ผมแตะใบหน้าแต่โดยดี ผมทำแบบเดียวกับที่ทำกับริกซ์ ค่อยๆใช้นิ้วโป้งลูบไล้ไปตามใบหน้า ซึ่งครั้งนี้ผมพบความต่าง เมื่อดูเหมือนลอสจะมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าริกซ์ แต่...


       มันก็ยังไม่พออยู่ดี


       ถึงจับตัวแล้วรู้ว่าเป็นใคร แต่ผมต้องแยกพวกเขาให้ออกด้วยการมองต่างหากถึงจะเรียกว่าสำเร็จจริงๆ


       "ทอย?"


       ลอสกับริกซ์เหมือนต้องการคำอธิบายของการกระทำเมื่อครู่ของผม ซึ่งผมก็ยินดีชี้แจงให้เข้าใจ


       "ฉันกำลังพยายามแยกพวกนายให้ออกน่ะ โดยดูจากขนาดมือ สีตา แล้วอุณหภูมิร่างกายกับลักษณะของริมฝีปาก"


       "อ้อ อย่างนี้นี่เอง พวกฉันตกใจหมด เอ่อ... วิธีพวกนี้ ไนท์เป็นคนสอนทอยสินะ?"ริกซ์กระซิบถามตอนท้ายด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน ผมนิ่งไปก่อนสมองจะประมวลผล


       "...หรือว่าเมื่อก่อน ไนท์..เคยใช้วิธีพวกนี้กับ...พวกนาย?"ผมถามจบก็เผลอนึกภาพไนท์ทำกับพวกลอสแบบเดียวกับที่สอนผม...


       ฮะ


       ผมหลุดหัวเราะออกมาหนึ่งเสียงอย่างไม่ตั้งใจ ซึ่งไม่คิดเลยว่านั่นจะเป็นการกระทำที่ผิดพลาด ขณะที่ยกมือขึ้นบังปากอย่างเคยนิสัยก็พลันถูกล็อคตัวจากทางด้านหลัง เอี้ยวคอกลับไปมองก็เห็นว่าเป็นฝีมือลอส หันกลับมาก็เจอเข้ากับริกซ์ที่ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ด้วยใบหน้าทะมึน


       "ตลกงั้นสินะ? ตลกมากงั้นสินะ?"


       "ดะ เดี๋ยวริกซ์...!"ผมพยายามพูดแก้ตัว แต่ก็ไม่ทันเมื่อริกซ์พุ่งเข้ามาจั๊กจี้เอวผมพร้อมพูดถามซ้ำๆว่า


       "ยังตลกอีกไหม? หืม? ว่าไง? ยังตลกอีกไหม?"


       ผมไม่ได้นับว่าริกซ์ถามไปกี่ครั้งเพราะตัวผมกำลังพยายามดิ้นให้หลุดจากการจับกุม แต่แขนลอสล็อคไว้แน่นเกินไป ผมจึงได้แต่นอนหัวเราะบนโซฟาในสภาพนั้น 


       ผ่านไปครู่หนึ่งก็เหมือนริกซ์จะเหนื่อย พอถึงจังหวะที่ริกซ์ผ่อนแรงลงผมเลยจัดการเอาขาเกี่ยวเอวอีกฝ่ายไว้พลางออกแรงรั้งเข้ามาใกล้ เห็นริกซ์เสียหลักล้มลงมา ทางลอสก็เผลอคลายมือออก ผมอาศัยโอกาสนี้พลิกตัวหนีลงจากโซฟา ซึ่งพริบตาที่ผมผละออกจากที่เกิดเหตุ สถานการณ์ที่ไม่คาดฝันก็พลันบังเกิด!


       โป๊ก!


       เสียงกระแทกที่ดังสนั่นทำให้ผมรีบหันขวับไปมอง แล้วก็ทันได้เห็นสองแฝดผละออกไปกุมหัวร้องโอดโอย ผมที่รีบลุกไปดูก็เห็นว่าที่หน้าผากของทั้งสองคนปรากฏรอยแดงปื้นใหญ่ชวนให้รู้สึกเจ็บแทน ผมหน้าตาตื่นรีบขอโทษขอโพยทั้งสองคนพลางวิ่งไปหาน้ำแข็งมาประคบให้


       "ขอโทษนะ เป็นอะไรมากไหม? เจ็บรึเปล่า?"ผมถามอย่างเป็นกังวลขณะมองดูทั้งคู่เอาถุงน้ำแข็งประคบรอยแดง โดยแต่ละคนต่างก้มหน้านิ่งไม่ยอมหันมาสบตา ยิ่งเห็นว่าลอสกับริกซ์ยังคงไม่ตอบคำผมก็แน่ใจ


       ...สงสัยคงโกรธ


       ผมที่คิดอย่างนั้นก็หน้าเสีย ไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีกับเหตุการณ์ตรงหน้า ขณะที่ร้อนใจอยู่ก็ได้ยินเสียงอู้อี้ลอดมาจางๆ


       "..บอก...น..นะ"


       "อะไรนะ?"ผมถามเมื่อฟังไม่ชัด ครั้งนี้เสียงเงียบไปก่อนจะเป็นริกซ์ที่พูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น โดยที่ยังไม่ยอมเงยหน้ามามองผม


       "ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นๆนะ!"


       "อ้อ... ได้"ผมกะพริบตาพลางตอบรับ เห็นริกซ์ไม่ได้ว่าอะไรต่อก็ขยับเข้าใกล้ พลางถามอย่างติดกังวลหน่อยๆ


       "สรุปว่าเป็นอะไรมากไหม? บวมรึเปล่า? ต้องทายาไหม?"พอผมซักไซ้พลางเพ่งมองรอยแดงเขม็ง ริกซ์ก็ทำปากยื่นตอบเสียงสะบัด


       "แค่นี้ไกลหัวใจ อีกเดี๋ยวก็หายแล้ว!"


       ผมกะพริบตาแล้วหันไปดูทางลอสที่เลื่อนนัยน์ตาสีฟ้าเขียวมาสบ อีกฝ่ายเลี่ยงสายตาไปก่อนตอบเสียงแผ่ว


       "ไม่เป็นไรหรอก ไม่บวมมากเท่าไหร่ ไม่ต้องทายาหรอก"


       ผมได้ยินอย่างนั้นก็โล่งใจเล็กน้อย แต่ก็ยังกังวล เพราะรอยแดงมันใหญ่มาก และฟังจากเสียงเมื่อกี้ก็น่าจะกระแทกแรงมากด้วย ดังนั้นมันต้องเจ็บมากแน่ๆ พอคิดอย่างนั้นผมก็นึกโกรธตัวเองที่เล่นไม่ระวังจนทำให้ทั้งคู่ต้องเจ็บตัว


       "ขอโทษนะ"


       ผมขอโทษซ้ำอย่างรู้สึกผิด แต่ลอสกับริกซ์ประสานเสียงถามกลับคล้ายไม่เข้าใจ


       "ทอยจะขอโทษพวกเราทำไม?"


       "ก็ฉันทำให้พวกนายเจ็บตัว"


       พอผมตอบไปแบบนั้น ลอสกับริกซ์ก็มองหน้ากันแล้วหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ


       "พวกฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายเล่นไม่ระวัง"


       "ทอยไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย"


       แม้จะได้ยินทั้งสองคนว่าแบบนั้น แต่ผมก็ยังคิดว่านี่เป็นความผิดตัวเองกึ่งนึง พอเห็นผมทำหน้าไม่เห็นด้วยลอสก็จิ้มมาที่หว่างคิ้วของผมก่อนคลึงเบาๆ


       "อย่าขมวดคิ้วสิ"


       "ถ้าทอยรู้สึกผิดจริงๆล่ะก็คอยดูแลพวกฉันจนกว่าจะหายสิ"ริกซ์ว่าบ้าง ทางลอสผละมือออกไป ส่วนผมใช้ความคิดหนัก


       ดูแล... จริงสิ มีวิธีนึงที่ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ผมเงยหน้ามองทั้งคู่สลับกัน ก่อนจะเลือกลอสก่อน


       "โอมเพี้ยง!"


       ผมประกบมือ ก่อนจะเป่าเบาๆที่รอยแดงบนหน้าผากลอส พอทำเสร็จก็หันไปทำกับริกซ์แบบเดียวกัน ผมยิ้มอย่างพอใจ แต่สีหน้าของลอสกับริกซ์ดูจะแปร่งๆ


       "ทอย...เมื่อกี้?"


       ผมมองริกซ์ที่ว่าอย่างคล้ายไม่เข้าใจ แล้วอธิบายด้วยเสียงฟังชัด


       "อ๋อ เป็นคาถาที่ทำให้แผลหายเร็วขึ้นน่ะ พวกนายก็น่าจะทำเป็นนะ?"


       "คา...ถา?"ริกซ์ทำสีหน้าพิลึกยิ่งกว่าเดิม ผมไม่เข้าใจ พอมองไปทางลอสก็เห็นว่าเจ้าตัวมีสีหน้าสับสน แล้วเอ่ยช้าๆเหมือนจะพยายามสอน


       "ทอย... ฉันว่าเรื่องแบบนั้นมันมีแต่ในนิยายเท่านั้นแหละ"


       ผมกะพริบตา ก่อนจะเข้าใจว่าทั้งสองคนคงเข้าใจอะไรผิดอยู่


       "เดี๋ยวก่อนนะ ที่ฉันบอกว่าเป็นคาถานี่ ไม่ได้หมายถึงเวทมนตร์หรืออะไรหรอกนะ"ผมชี้แจงก่อนที่จะมีการตีความหมายผิดไป


       "อ้าว?"เสียงอุทานของทั้งคู่ทำให้ผมยิ้มอย่างอ่อนใจ


       "คาถาที่ฉันพูดถึง...น่าจะเรียกว่าเป็นเคล็ดล่ะมั้ง? มันเป็นการส่งเจตนาดี โดยหวังให้บาดแผลและความเจ็บปวดหายไป แน่นอนละว่ามันไม่ได้ช่วยรักษา..."ผมคลี่ยิ้มนิดๆ เมื่อนึกถึงภาพอดีต... กับครั้งหนึ่งที่มีคนเคยทำแบบเดียวกันให้


       "แต่ถึงมันจะไม่ได้เยียวยา แต่มันก็ทำให้ความเจ็บมันลดลงหน่อยนึงล่ะนะ"


       ผมยิ้มให้ทั้งคู่ ก่อนจะว่าเสริมอย่างนึกขึ้นได้


       "จริงอยู่ที่ว่ามันไม่ได้ช่วยรักษา แต่ตอนที่ฉันทำแบบนี้ เหมือนแผลมันจะหายไวขึ้นจริงๆนะ"


       ผมเคยมีดบาดแล้วลองเป่าคาถาดูเล่นๆ และไม่ทันครบอาทิตย์แผลที่ว่าก็หายดีสนิท ถึงจริงๆมันอาจมีปัจจัยอื่นเสริมด้วย แต่ทำไปก็ไม่เสียหายนี่นะ?


       "ฮะๆ ทอยนี่ตลกชะมัดเลย"


       ผมไม่เข้าใจว่าริกซ์ตลกอะไร ลอสที่อยู่ข้างก็แค่ยิ้มๆด้วยสีหน้าคล้ายจะ...เอ็นดู?

     

       ผมโคลงหัวอย่างไม่เข้าใจความคิดของทั้งสองคนจริงๆ



       มาถึงวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้ใช้เวลาค้างคืนที่คอนโดนี้ เมื่อเช้าวันจันทร์มาถึง ผมต้องให้คำตอบกับพวกเขา...


       เฮ้อ...


       ขณะที่ผมกลุ้มใจ จินก็เดินมาหาพร้อมจานใส่สต็ก วันนี้พวกซิตซ์ย่างสต็กกินกันที่คอนโด โดยคนลงมือย่างคือซิตซ์กับไปป์ ส่วนเวย์ทำหน้าที่แค่ซื้อวัตถุดิบมาหมัก


       ผมที่เครียดกับเรื่องพวกลอสริกซ์ไม่รู้สึกหิวเท่าไหร่เลยมานั่งดูอยู่ห่างๆที่โซฟา พอเห็นจินเดินเข้ามาก็คิดว่าคงจะมาพูดชวนให้ไปกินด้วย แต่แล้วจินที่เดินตรงเข้ามากลับแค่นั่งลงเบียดข้างๆ พลางกินต่ออย่างไม่พูดอะไร ผมแปลกใจอยู่หรอก แต่ในเมื่อจินไม่พูดอะไรผมก็ไม่คิดเปิดประเด็น


       ผ่านไปสักพักเสียงเคี้ยวหงุบหงับก็ยังดังอยู่ข้างหู ผมก้มลงมองก็เห็นว่าหน้าตาจินเปรอะไปด้วยซอสสีเข้ม ผมหันมองซ้ายขวาก่อนลุกไปหยิบทิชชู่มาเช็ดให้อย่างเคยชิน พอเช็ดเสร็จก็เดินไปหาน้ำเปล่ามาให้จินกินกันติดคอ


       จินที่รับแก้วน้ำขึ้นดื่ม พอวางแก้วลงบนโต๊ะก็จิ้มสเต็กส่วนที่ยังไม่ได้กินขึ้นมาจ่อปากผม ผมอยากปฏิเสธ แต่อีกฝ่ายดันจ่อชิดจนซอสเลอะปาก พอเห็นว่าโดนปากตัวเองแล้วผมเลยยอมอ้าปากรับ แต่พอมีคำแรกแล้วก็มีคำที่สองที่สามตามมาเรื่อยๆ จนไม่นานก็หมดจาน จินดึงตัวผมไปทางเตาย่างสเต็กเพื่อเติม


       "ทอย เอาอะไรดี?"


       "ฉันไม่ค่อยหิว นายอยากกินอะไรก็กินเถอะ"


       พอผมปฏิเสธไปจินก็ทำเสียงตอบรับในคอ สุดท้ายก็หยิบสเต๊กหมูชิ้นใหญ่จนกินได้สองคนออกมา จากนั้นก็ลากผมมานั่งกินด้วย ผมจะปฏิเสธแต่ก็เหมือนเดิม โดนจินป้อนจนเริ่มอิ่ม ผมที่ใกล้จุกนิดๆ รีบปฏิเสธจินไม่ให้ป้อนต่อ พอเห็นว่าผมดูจะอิ่มจริงๆอีกฝ่ายถึงยอมเลิกป้อน


       ระหว่างที่ผมดื่มน้ำเพื่อล้างคอจินก็ถามขึ้น


       "นี่ทอย ทอยเครียดเรื่องที่แยกพวกริกซ์ไม่ออกเหรอ?"


       "อ่า"ผมตอบรับคำเบาๆ พอได้ยินคำตอบผมจินก็ตบหลังผมพลางพูดปลอบใจ

     

       "ทอยไม่ต้องเครียดไปหรอกน่า อย่างฉันกว่าจะแยกพวกนั้นออกก็ใช้เวลาหนึ่งเทอมแน่ะ!"


       "หนึ่งเทอมเลยเหรอ?"ผมทวนคำอย่างแปลกใจ จินพยักหน้าอย่างขันแข็ง


       "อื้ม! ริกซ์กับลอสตอนย้ายมาเรียนใหม่ๆยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นแฝด ฉันกว่าจะรู้ว่าพวกนั้นเป็นคนละคนกันก็ปาไปเกือบครึ่งเทอมแล้ว..."พูดถึงตรงนี้จินก็มุ่ยหน้าเหมือนไม่ค่อยพอใจ ผมเห็นอย่างนั้นก็แปลกใจ


       "มีอะไรเหรอ?"


       จินที่ได้ยินผมทักก็มองมาด้วยสีหน้าประหลาด


       "นี่ทอย ...ฉันค้างทอยเรื่องคำใบ้อยู่อยู่ใช่ม้า? งั้นฉันจะบอกให้ วิธีแยกพวกนั้นที่เร็วที่สุด..."


       ผมมองจินที่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างประหลาดใจ ก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นตะลึงระคนไม่อยากเชื่อหูเมื่อได้ยินที่จินกระซิบมา


       "...ก็อย่างที่ว่าไปนั่นละ ถ้าทอยใช้วิธีนี้รับรอง แยกง่ายมาก!"


       "...เอาจริงเหรอ?"ผมถามจินอย่างอึ้งๆ ซึ่งจินยิ้มร่าพร้อมชูนิ้วโป้งให้


       "แน่นอน!"


       หลังจากทานกันเสร็จ ผมก็ช่วยเก็บกวาดของก่อนจะตรงกลับห้องของลอสด้วยสีหน้ากลุ้มใจ ลอสกับริกซ์ที่เดินตามมาตลอดสังเกตเห็นสีหน้าผม พอถึงห้องก็พากันถาม


       "ทอย เมื่อกี้คุยอะไรกับจินเหรอ?"


       ผมมองลอสที่สอบถาม ก่อนจะหลบตาแล้วตอบเสียงแผ่ว


       "ไม่มีอะไร... จินแค่บอกวิธีช่วยแยกพวกนายน่ะ"


       "วิธีอะไรเหรอ?"ริกซ์ถามบ้าง ผมลำบากใจที่จะตอบเลยเลือกจะเงียบ ริกซ์กับลอสที่เห็นแบบนั้นก็คาดคั้นผม


       "เฮ้ ทอย ตกลงวิธีอะไรล่ะ?"


       "วิธีของจินแปลกกว่าของไนท์อีกเหรอ?"


       "อืม..."ผมเงยหน้ามองลอส ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่พยายามพูดให้นิ่ง


       "ไฝ"


       "หืม?"ทั้งสองส่งเสียงประหลาดใจ ผมเลยพูดย้ำ


       "จิน...บอกตำแหน่งไฝของพวกนายให้ฉันน่ะ"


       "ตำแหน่งไฝของพวกเรา?"ริกซ์ทวนคำเหมือนยังไม่เข้าใจ แต่สีหน้าลอสนิ่งค้าง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ


       "นะ นั่น"ลอสว่าเสียงตะกุกตะกัก พอริกซ์มองหน้าลอสก็ทำคล้ายคิดได้ ก่อนจะหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงไม่แพ้กัน


       ผมถอนหายใจเมื่อคิดว่าทั้งสองคงเข้าใจแล้ว ผมยิ้มนิดๆกับปฏิกิริยาที่ดูน่ารักน่าเอ็นดูของทั้งคู่ ถึงจะคิดมาก่อนแล้วว่าถ้าได้ยินลอสกับริกซ์คงจะเขินอายไม่มากก็น้อย แต่ก็ไม่คิดว่าจะพากันน่าแดงแบบนี้


       ดูน่ารักดี


       ผมคิดอย่างขบขันก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนคลายใจ


       "ไม่ต้องห่วงไป ฉันไม่คิดพิสูจน์เรื่องนั้นหรอก"


       เพราะตำแหน่งไฝมันอยู่ใน 'พื้นที่ส่วนตัว' เกินไป ผมเลยไม่คิดจะไปขอดู เพราะถึงจะรู้ตแหน่งพวกนั้นผมก็ไม่สามารถแยกทั้งคู่จากการมองหน้าได้อยู่ดี


       เฮ้อ


       "ทอยมานอนกัน"จู่ๆริกซ์ก็เข้ามาคว้าแขนผมไปที่เตียง


       "เดี๋ยวก่อนสิริกซ์ ฉันยังไม่ได้อาบน้ำ"ผมว่า แต่ริกซ์ก็ยังไม่สนใจ


       "ฉันไม่ถือ แล้วก่อนไปกินสเต็กก็เพิ่งอาบไปนี่ ไม่เป็นไรหรอก!"


       "ฉันยังไม่ได้แปรงฟัน..."ผมว่าอย่างเหนื่อยใจ ริกซ์ชะงักไปเล็กน้อย


       "นั่น...ไม่แปรงสักคืนฟันไม่ผุหรอกน่า เนอะ ลอส"


       "ถ้าแค่คืนเดียวล่ะก็..."ลอสพูดด้วยสีหน้าไม่ค่อยเต็มใจ แต่ริกซ์ที่ได้ยินคำตอบจากคู่แฝดแค่ว่า "เห็นมะ?" แล้วลากผมไปที่เตียง


       ผมถอนใจ


       เอาเถอะ ยังไงก็คืนสุดท้ายแล้ว....



       พอตื่นเช้ามา ผมที่อาบน้ำแต่งตัว จัดกระเป๋าอะไรเรียบร้อยก็มาพูดลาทั้งสองคน โดยไม่ลืมจะขอโทษเรื่องที่รักษาสัญญาไว้ไม่ได้


       "ขอโทษด้วยนะ ลอส ริกซ์ ฉัน...แยกพวกนายไม่ออกจริงๆ"


       ทั้งคู่มีสีหน้าเหมือนรู้อยู่ก่อนแล้ว ผมมองรอยยิ้มเจื่อนบนใบหน้าของทั้งสองคนอย่างรู้สึกผิด


       "ไม่เป็นไรน่า ทอย ไว้คราวหน้าทอยค่อยลองแยกพวกฉันดูใหม่ก็ได้"ริกซ์ว่าอย่างพยายามไม่ให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่ความผิดหวังยังฉายชัดในดวงตาคู่นั้น


       "อืม... เรื่องบทลงโทษ... ไว้ชุดตัดเสร็จก็นัดวันมาแล้วกัน แล้วก็...ฉันขอโทษจริงๆ"


       ผมพูดทิ้งท้ายก่อนจากมา พร้อมกันนั้นผมก็ได้ตัดสินใจที่จะตัดขาด เพื่อไม่ให้ตัวเองทำร้ายใครต่อใครไปมากกว่านี้ ผมเลยเลือกที่จะ...ตัดขาดกับพวกเขา


       "ทอย วันนี้ว่างรึเปล่า? ฉันเพิ่งไปซื้อแผ่นหนังมาใหม่ มาดูด้วยกันนะ!"


       "โทษทีจิน ช่วงนี้ฉันเริ่มเขียนงานแล้ว ต้องใช้สมาธิ ถ้าไม่มีธุระอะไรก็อย่าโทรมาเลยนะ"


       "ทอย ยุ่งมากรึเปล่า? พวกฉันได้ตั๋วสวนน้ำมาหลายใบเลย ไปด้วยกันไหม?"


       "ขอบใจที่ชวนนะไปป์ แต่ตอนนี้ฉันยุ่งจริงๆ"


       "ทอย..."


       .

       .

       .


       "ขอโทษด้วยจริงๆ"



       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×