คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่11 เมื่อผมต้อง...รักษาคำพูด?
บทที่11
เมื่อผมต้อง...รักษาคำพูด?
เมื่อผมต้อง...รักษาคำพูด?
มนุษย์เราเมื่อพูดอะไรออกไปก็ต้องรักษาคำพูด ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ยึดถือสัจจะเป็นที่ตั้ง
แต่ในบางสถานการณ์ การแกล้งทำเป็นลืมๆ สิ่งที่พูดไว้คงดีต่อตัวผมเองมากกว่าล่ะมั้ง?
...
ผมเชิญให้ทั้งเจ็ดคนเข้ามาในบ้าน วางสัมภาระของตัวเองก่อนเดินไปหยิบแก้วกับน้ำมารินให้ ตอนแรกเวย์ก็อาสาช่วยแต่ผมก็ปฏิเสธไป ซึ่งตอนที่ผมปฏิเสธเห็นสีหน้าของเวย์หมองลงเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดผมก็จัดการรินน้ำให้ทุกคน ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาเดี่ยวแล้วมองไปยังแก้วน้ำที่ตั้งนิ่งไม่มีใครแตะ
ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี พวกไปป์เองพอเข้ามาในบ้านก็พากันเงียบหมด พอคิดๆ แล้วผมก็เริ่มประเด็นแรกจาก
"สวนข้างนอกนั่น...ใครจัดเหรอ?"
คำแรกที่ผมกลั้นใจพูดเรียกอาการสะดุ้งจากจินได้เป็นอย่างดี ก่อนเวย์จะตอบกลับมา
"พวกผมเองครับ"
"พวกนาย?"ผมทวนคำ ก่อนขมวดคิ้วแล้วตั้งคำถาม "ไม่สิ ฉันควรถามว่ามันมาได้ยังไงมากกว่า พวกนายเข้ามาข้างในบ้านฉันได้ยังไง?"
ผมที่เกือบลืมประเด็นที่ควรสงสัยแต่แรกถามขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ก่อนไปผมแน่ใจว่าล็อครั้วบ้านไว้แล้ว ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเวย์จะเข้ามาแบบปกติ
นี่คงไม่ใช่ว่า...ปีนรั้วเข้ามาหรอกนะ?
ก่อนที่ความคิดของผมจะเตลิดไปไกลก็มีเสียงอธิบาย
"พี่อินให้กุญแจรั้วมาน่ะ"จินตอบสั้นๆ ซึ่งผมเลิกคิ้ว
"อินเหรอ?"
"ครับ คุณอินให้กุญแจรั้วพวกผมมา"เวย์พูดยืนยัน แต่นั่นยิ่งทำให้ผมอยากเป็นลม
"แล้วทำไมอินถึงให้พวกนายมาล่ะ? ไม่สิ พวกนายทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร? ไม่ เดี๋ยวก่อน นี่มันเข้าข่ายบุรุกนะ พวกนายกับอินเล่นอะไรกันล่ะเนี่ย?"ผมถึงกับมึนหัวเมื่อเรื่องกลายเป็นแบบนี้ อินนี่ชอบเล่นสนุกเกินไปจริงๆ ผมให้กุญแจรั้วกับกุญแจบ้านชุดสำรองไว้เผื่อกรณีผมลืมเอกสารหรือต้นฉบับเอาไว้อีกฝ่ายจะได้เข้ามาเอาได้ ถึงเรื่องแบบนั้นจะไม่เคยเกิดขึ้นก็ตามแต่ผมก็ให้ไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินไม่ใช่ให้อินเอามาเล่นอะไรแบบนี้
ดูท่าผมคงต้องพิจารณาเรื่องขอกุญแจคืนแล้วล่ะมั้ง ผมคิดพลางยกมือกุมขมับ
"ทอยจำได้ไหมที่เราคุยกันก่อนหน้านี้"ไปป์พูดเกริ่นเรื่องขึ้นมาโดยไม่ตอบคำถามผม ผมขมวดคิ้วเมื่อไม่แน่ใจว่าไปป์กำลังพูดถึงเรื่องอะไร พอไปป์เห็นผมทำหน้าไม่เข้าใจก็ขยายความ
"ที่ทอยเคยบอกว่าอยากปลูกต้นไม้ อยากจัดสวน อยากเลี้ยงปลา แต่ทอยไม่ค่อยมีเวลาเลยไม่ได้ทำน่ะ"
"ฉันจำได้"ผมพยักหน้ารับ ผมจำได้ว่าพวกไปป์ถามถึงงานอดิเรกของผมและสิ่งที่ผมอยากทำ ผมเลยบอกไปว่าอยากลองปลูกต้นไม้ดู
"พวกฉันคุยพี่อินทราว่าทำยังไงถึงจะยอมบอกว่าทอยไปไหน พี่เขาก็บอกให้พวกฉันพิสูจน์ให้ดูว่าจริงจังกับทอยแค่ไหน พอถามว่าจะให้พิสูจน์ยังไง พี่เขาก็บอกว่าให้คิดกันเอาเอง พอปรึกษากันพวกฉันเลยเลือกจัดสวนนี่ให้ทอย ตอนแรกก็ลืมไปว่าทอยล็อคบ้านไว้แต่พี่อินกลับมีกุญแจ... นั่นแหละ พวกฉันเลยขอยืมมาแล้วเริ่มลงมือทำ"ไปป์ว่าต่อโดยน้ำเสียงตอนท้ายดูไม่พอใจเท่าไหร่นัก ตอนนี้เองที่จินว่าขึ้น
"พวกฉันจัดกันเองจริงๆ ถ้าทอยไม่เชื่อถามพี่อินดูก็ได้"
ผมนิ่งเงียบ ก่อนจะถอนหายใจ
"แทนที่ฉันจะไปถามอินว่าพวกนายจัดสวนกันเองจริงๆรึเปล่า คงต้องถามพวกนายมากกว่าว่า...ทำไปทำไม?"
"...."
ทั้งเจ็ดคนนิ่งเงียบพาให้บรรยากาศอึมครึม แต่สุดท้ายก็เป็นไปป์ที่ตอบคำถาม
"ให้พูดตรงๆนะ ที่พวกฉันทำไป...ก็อยากขอโทษน่ะ"
"ขอโทษ?"ผมได้ยินไม่ผิดใช่ไหม? ขณะที่ผมประหลาดใจ ไปป์ที่เกาต้นคอแกรกๆก็พูดขึ้นต่อ
"พวกฉันรู้สึกว่าทำเกินเลยไปหน่อย... จะว่าไงดี? ที่พูดไปแบบนั้นคงทำให้นายตกใจสินะ? โทษที"
"งั้นสรุปว่าที่พูดวันนั้น...พวกนายแค่ล้อเล่น?"ผมขมวดคิ้วแล้วถามเสียงต่ำ รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยที่ถูกพวกไปป์แกล้ง แต่ลึกๆกลับรู้สึกโล่งอกมากกว่า
"เปล่า"ไปป์ปธิเสธพลางยักไหล่ "พวกฉันเอาจริง ที่ขอโทษนี่แค่ขอโทษเรื่องที่รุกนายตอนป่วย ก็นะ ดันพูดกะทันหันแบบนั้นนายคงรู้สึกรับมือไม่ทันล่ะสิ"
ไม่... ก็ใช่อยู่ที่ผมรับมือไม่ทัน แต่สรุปแล้วที่พูดนั้นเอาจริง?
หลังปล่อยให้ไปป์เจรจากับผมสองคนมาสักพักจินก็ว่าขึ้นบ้าง
"นี่ทอย ทอยรังเกียจคนอายุน้อยกว่ารึเปล่า?"คำถามของจินดูไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่พูดอยู่สักนิดทำให้ผมมึนงงไปชั่วขณะ แต่ก็ยังตอบไป
"เปล่า ถามทำไม?"
"ก็...นะ"จินพูดแค่นั้นก่อนฉีกยิ้มกว้างอย่างมีเลศนัยให้ผม พอผมคิดจะถามซ้ำ ไปป์ก็ถามขึ้นตัดหน้า
"จริงสิทอย ทอยจำได้ไหมว่าครั้งแรกที่เจอกันทอยเคยพูดไว้ว่า ขอแค่ เก่ง พอ ใครก็ เล่น กับนายได้?''
ผมนิ่งอึ้งกับคำถามก่อนจะพยักหน้าเมื่อจำได้ลางๆว่าเคยพูด แต่จู่ๆไปป์ยกประเด็นนี้ขึ้นมาทำไม?
"คราวก่อนทอยเคยบอกไว้สินะว่าจะไม่ยอมเป็นของเล่นของใครทั้งนั้น ? แล้วทอยยังบอกอีกสินะ ว่าถ้าพวกฉันอยาก เล่น แบบเล่นๆ นายจะยอมเล่นด้วย?"
ผมชะงัก รู้สึกประหลาดในใจเมื่อเห็นว่ายิ่งไปป์พูดมากเท่าไหร่พวกจินยิ่งฉีกยิ้มกว้างขึ้นเท่านั้น ขนาดซิตซ์ที่นั่งอยู่ไกลๆยังกระดิกเท้าอย่างอารมณ์ดีเลย
"งั้นนายคงไม่ว่ากันสินะ ถ้าพวกฉันจะขอใช้สิทธิ์ของ คนเล่นของเล่น ในการ เล่น กับนาย?"
"หมายความว่าไง?"ผมถามขึ้นขัดเมื่อสิ่งที่ไปป์พูดชักไม่ค่อยดี
"ก็นายบอกเองนี่ ว่าคนที่เล่นเก่งจะถือเป็นผู้เล่นที่ได้รับอนุญาตจากนาย แล้วพวกฉันทุกคนก็ค่อนข้างมั่นใจในฝีมือการเล่นของตัวเองพอสมควร และตอนนี้...พวกฉันที่เป็นผู้เล่นก็คิดอยากจะเล่นกับนายไงล่ะ!"
ผมมึนไปกับศัพท์ ผู้เล่น คนเล่นของเล่น และคำว่าเก่งที่ไปป์เอามาใช้เรียงกันเป็นประโยค พอคิดพยายามทำความเข้าใจก็ยิ่งปวดหัว
"อ้อ ไม่ต้องห่วงนะ พวกฉันจำเงื่อนไขได้ว่านายอนุญาตให้เล่นเฉพาะแบบเล่นๆ"ไปป์พูดเสริม ผมที่ได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มทำความเข้าใจ
ผู้เล่น = พวกไปป์
การเล่น = มีเซ็กซ์
แบบเล่นๆ = ฉาบฉวย ไม่จริงจัง?
สรุปว่า...พวกไปป์คิดจะมีความสัมพันธ์แบบคู่นอนชั่วคราวกับผม?
เสียงไปป์ดังขึ้นซ้ำอย่างคล้ายยืนยันความคิดนั้น
"พวกเรามา เล่น กัน แบบเล่นๆ กันเถอะ"
.
.
.
"ตกลง"
ผมตอบตกลงไปแล้ว ส่วนสาเหตุที่ตอบตกลงเพราะคิดอย่างง่ายๆว่าถ้าเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่จริงจังก็จะไม่มีการก่อเกิดความรักหรือความเกลียดชัง ต่อให้ยุติความสัมพันธ์ในการเป็นคู่นอนนี้ไปผมกับพวกไปป์ก็จะยังมีความรู้สึกดีๆต่อกันหลงเหลืออยู่
เพราะคิดแบบนั้น...
"อ้อ ทอยอย่าลืมล่ะ ว่าเป้าหมายของพวกฉันคือการเป็นเจ้าของของเล่น "
หือ? ผมมองไปป์ที่พูดขึ้นหลังดื่มน้ำเปล่าที่ผมรินให้จนหมดแก้วอย่างงุนงง
"นับจากนี้ไปพวกฉันทั้งเจ็ดคนจะตามจีบนาย โดยที่นายห้ามหนี ห้ามปฏิเสธ และห้ามไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่น"
"เข้าใจนะ?"
.
.
.
หือ?
ความคิดเห็น