ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    วัวกินหญ้า หรือ หญ้ากินวัว? BL

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่5

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ย. 64


    จากประสิทธิภาพของคริสตัลสีน้ำเงิน ทำให้หลงคุนกัดฟันเอาคริสตัลสีแดงมาแลกอาทิตย์ละหนึ่งพันอัน หรือเท่ากับสีน้ำเงินจำนวนห้าอันต่ออาทิตย์ ตอนกู่หนิวเห็นคริสตัลจำนวนมากก็อึ้งตะลึงไป แต่ก็ยอมแลกให้แต่โดยดี หลังผ่านการแลกเปลี่ยนหลายครั้งเข้า กู่หนิวก็ตัดสินใจบอกเรื่องสำคัญแก่หลงคุนและเซียงเว่ย

    “ที่จริง... นอกจากสีน้ำเงินแล้ว ผมยังเคยเห็นอีกสองสีครับ”

    คำบอกกล่าวในเช้าวันหนึ่งทำให้ผู้ฟังตกตะลึง

    “อะไรนะ?!

    “อันหนึ่งสีฟ้า อีกอันสีม่วง”กู่หนิวพูดพลางแสดงหลักฐานโดยการล้วงคริสตัลทั้งสองสีออกมาส่งให้ หลงคุนมองคริสตัลกลมใสขนาดลูกปิงปองทั้งสองสีในมืออย่างไม่อยากเชื่อสายตา ก่อนจะหันมองสลับระหว่างกู่หนิวกับเซียงเว่ย

    “แลก”

    ยังไม่ทันถามความสามารถก็แลกแล้ว? กู่หนิวแปลกใจกับคำตอบรับที่รวดเร็วของเจ้านาย ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมั่นใจว่าสองอันนี้ต้องมีความสามารถดีๆ หรือว่ายังไง แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจอธิบายให้ฟัง

    “อันสีม่วงช่วยเสริมให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าดีขึ้นครับ ส่วนสีฟ้าจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้”

    หลงคุนฟังแล้วก็เบิกตากว่างกว่าเดิม เพิ่มประสิทธิภาพของประสาทสัมผัส? รักษาอาการบาดเจ็บภายใน? มีประโยชน์มาก!

    ในยุคที่ต้องเอาชีวิตรอดแบบนี้ สิ่งที่ช่วยรักษาชีวิตให้ยืนยาวล้วนแต่มีประโยชน์!

    “อัตราแลกล่ะ”หลงคุนรีบถาม

    “สีม่วงหนึ่งร้อยยี่สิบ สีฟ้าสามร้อยครับ”

    ฟังอัตราการแลกเปลี่ยนแล้วหลงคุนก็ชั่งใจ สีฟ้าเป็นคริสตัลรักษา ที่แพงก็ไม่แปลกอะไร ส่วนสีม่วงก็ถูกกว่าที่คิด

    “เอาเป็นคริสตัลสีม่วง 50 อัน คริสตัลสีฟ้า 20 อัน แล้วกัน”

    “ได้ครับ”กู่หนิวตอบเสียงนิ่ง โดยคิดคำนวณในใจไว้เสร็จสรรพ ที่จริงอัตราการแลกสีม่วงอยู่ที่ 1:100 ส่วนสีฟ้าอยู่ที่ 1:175 เท่ากับว่าหลังหักส่วนที่ทำการแลกเปลี่ยนไปแล้ว เขาจะได้คริสตัลสีแดงทั้งหมด 3,500 อัน เรียกว่ากำไรครั้งใหญ่

    แต่พอทำการแลกเปลี่ยนเสร็จกู่หนิวกลับพบว่ามีคริสตัลเกินมาหนึ่งร้อยอัน เพราะคริสตัลที่นำมาแลกเปลี่ยนทั้งหมดคือหนึ่งหมื่นสามร้อยอัน ทั้งที่จริงๆ อีกฝ่ายควรให้มาแค่หนึ่งหมื่นสองร้อยอันแท้ๆ

    เมื่อนึกถึงความใจกว้างของเจ้านายกู่หนิวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกละอายใจกับการคิดกำไรคริสตัลสีฟ้าที่มากเกินควรของตน สุดท้ายเขาจึงเพิ่มคริสตัลสีฟ้าเข้าไปอีกห้าอัน

    พอทำการแลกเปลี่ยนเสร็จแล้วชีวิตของเขาก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ยังคงใช้ชีวิตตามวิถีเดิมๆ แต่ก็เพียงเดือนเดียว เมื่อในที่สุดชายหนุ่มก็ได้กลับมาทำหน้าที่หลักของตัวเองอีกครั้ง

    “ออกล่าเหรอครับ?”

    “อืม ก่อนนี้คุณชายบาดเจ็บจึงยังไม่ออกไปด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้หายดีแล้ว”ฟังหลงคุนอธิบาย กู่หนิวที่คาดไม่ถึงก็ชะงักไป

    บาดเจ็บ... หรือจะเป็นตั้งแต่ตอนนั้น?

    พอคิดอย่างนั้นแล้วกู่หนิวก็รู้สึกผิดในใจ เขาไม่รู้มาก่อนว่าเด็กหนุ่มยังคงไม่หายดี เพราะจากภายนอกดูไม่มีบาดแผลอะไร แต่การที่เพิ่งหายนี่ แปลว่าที่ผ่านมามีอาการบาดเจ็บภายใน?

    นี่ถ้าเขารู้มาก่อนคงหาโอกาสเอาคริสตัลสีฟ้าให้อีกฝ่ายนานแล้ว...

    “หนิว ไปกัน”

    “ครับ”

    กู่หนิวตอบรับ หลังถูกเรียกบ่อยครั้งเขาก็เริ่มชินกับการถูกเรียกห้วนๆ แต่ก็มีแค่เซียงเว่ยที่เรียกเขาแบบนี้ อย่างหลงคุนมากสุดก็เรียกเขาว่าต้าหนิว

    การออกล่านั้นไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไร ซึ่งสมาชิกทีมออกล่าก็ได้แก่เขา เซียงเว่ย และเด็กๆอีกสามคนชื่อ หลงจู หลงไช่ และ ไห่หลาง

    หลงจูกับหลงไช่เป็นเด็กหนุ่มนิสัยร่าเริง ได้ยินมาว่าเป็นญาติกับหลงคุน ถึงเค้าหน้าจะไม่ได้เหมือนมากนักก็ตาม ส่วนไห่หลางเป็นเด็กที่ค่อนข้างเงียบขรึม แต่ก็เชื่อฟังมาก เมื่อได้รับคำสั่งก็ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว

    สำหรับวันนี้สถานที่ออกล่าคือมหาลัยN ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างมีเชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

    ขณะเดินทาง กู่หนิวก็รับรู้ถึงสายตาที่มองมายังตนเอง แม้จะเป็นแบบเหลือบมองเป็นระยะ แต่เขาก็ยังจับความรู้สึกได้ เมื่อโดนลอบมองบ่อยครั้งเข้าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วน ในที่สุดหลังลงจากรถแล้วเขาจึงหันไปถามอย่างยอมแพ้

    “มีอะไรกันรึเปล่าครับ?”

    “ไม่มี!”หลงไช่พูดตอบทันควัน แต่สักพักก็เหมือนคิดได้จึงเปลี่ยนท่าที “จริงๆก็มีนั่นแหละ สรุปแล้วพี่ชายนี่...เป็นคนรักของพี่เว่ยเหรอ?”

    พี่เว่ย... หมายถึงคุณชายเซียงเว่ย?

    “ไม่ใช่ครับ”

    “ไม่ใช่หรอกเหรอ?”คนพูดทำหน้าเหมือนผิดหวังอย่างหนักจนกู่หนิวแปลกใจ ก่อนจะเข้าใจเมื่ออีกฝ่ายล้วงคริสตัลสีแดงห้าอันไปส่งให้หลงจู

    “ฮ่าๆ! ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ใช่ พี่เว่ยไม่ได้ชอบผู้ชายสักหน่อย”หลงจูพูดกลั้วหัวเราะขณะโยนคริสตัลในมือเล่น ฝั่งหลงไช่ได้ยินก็ไหล่ตก สีหน้าหดหู่เกินคำบรรยาย

    “ก็ปกติพี่เว่ยไม่เคยให้ใครเข้าใกล้นี่นา แต่เหมือนพี่ชายคนนี้เป็นข้อยกเว้น ฉันเลยคิดว่าใช่น่ะสิ”

    กู่หนิวที่ยืนฟังคำโต้ตอบของสองพี่น้องก็ยิ้มแกนๆ ก่อนชำเลืองไปทางคนที่ถูกพาดพิงซึ่งหันกลับมามองพอดี

    “ไปได้”

    ถ้อยคำสั้นๆได้ยุติบทสนทนาไร้สาระลง ทั้งกลุ่มเริ่มออกลาดตระเวนบริเวณรอบๆ เมื่อเช็คว่าปลอดภัยดีก็ค่อยๆ พากันเข้าไปในตัวตึก โดยคนที่นำหน้าคือไห่หลางที่นอกจากแนะนำตัวแล้วยังไม่ปริปากพูดคำใดอีก แต่ด้วยรู้ว่าอีกฝ่ายมีความสามารถในการตรวจจับ ทั้งยังมีฝีมือด้านการสู้ศึกมาไม่น้อย กู่หนิวเลยถอยกลับมาเดินประกบเซียงเว่ยเอาไว้แทน ในมือชายหนุ่มถือไม้เบสบอลเหล็กที่เบี้ยวๆ บูดๆ ไปเพราะการใช้งานไว้อย่างเตรียมพร้อม

    “ระวัง”เสียงที่ทุ้มต่ำทั้งยังฟังแปร่งหูกล่าวคำพลางกระชับดาบน้ำแข็งในมือตน คนอื่นๆ ต่างก็เตรียมพร้อมอย่างระวัง ยืนรอเพียงอึดใจ เงาร่างหญิงสาวหุ่นเซ็กซี่ที่ใบหน้าเละไปซีกหนึ่งพลันปรากฏสู่สายตา อีกฝ่ายอยู่ในชุดเกาะอกสีแดงสวมกาวน์ทับ ทำให้คนคาดว่าน่าจะเป็นอาจารย์ห้องพยาบาล

    กู่หนิวอดใจไม่ไหวต้องกวาดมองสองรอบด้วยหน้าอกที่ล้นทะลักกับต้นขาเรียวที่ปกปิดด้วยถุงน่องตาข่ายมันดึงดูดสายตา เขานึกเสียดายเล็กน้อยที่อีกฝ่ายกลายเป็นผู้ล่าไปแล้ว

    ฉัวะ!

    ...เอ๋? เงาร่างสีขาววิ่งผ่านหน้า ด้วยเพราะเผลอเหม่อจึงไม่ทันระวัง รู้สึกตัวอีกทีร่างของเซียงเว่ยก็ได้พุ่งตัวออกไปตัดหัวหญิงสาวด้วยมีดผีเสื้อ กู่หนิวมองคนที่กำลังจะใช้ชายเสื้อตัวเองเช็ดเลือดจากมีดก็รีบเข้าไปปราม

    “เดี๋ยวครับ ใช้นี่ดีกว่า”กู่หนิวล้วงผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอ่อนลายสตรอว์เบอรี่ที่ได้มาจากเฉ่าเหมยเมื่อหลายเดือนก่อนมายื่นส่งให้ เห็นเซียงเว่ยจ้องผ้าเช็ดหน้าครู่หนึ่งก่อนคว้าไปเช็ดก็โล่งใจ เพราะเสื้อขาวของอีกฝ่ายดูจะซักยากกว่ามาก

    แต่ไม่ทันโล่งใจนัก ร่างในชุดนักศึกษาชายหญิงพลันทยอยออกมาจากที่ซ่อน กู่หนิวสังเกตเห็นว่านักศึกษาชายที่สวมแว่นคนหนึ่งดูคุ้นตา ถึงเนื้อส่วนคอและแขนซ้ายแหว่งไปจนจนไม่เหลือสภาพ แต่ส่วนใบหน้ายังดีอยู่ เขาลองจ้องสักพักถึงนึกได้ว่าเป็นไอดอลชายชื่อดังคนหนึ่ง

    ฉัวะ!

    ขณะที่เขาเผลอมอง คนที่ยังยืนนิ่งเมื่อครู่ก็ลงมืออีกแล้ว กู่หนิวถอนใจ เพราะรอบนี้เสื้อของอีกฝ่ายเปรอะเลือดที่กระเซ็นออกมาไปหย่อมหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างน่าเสียดาย...

    ผ่านไปสองชั่วโมง สรุปการล่ารอบนี้ได้ผลึกสีแดงมายี่สิบหกอัน สีเหลืองสอง สีเขียวหนึ่ง และสีน้ำเงินถึงสาม

    “แปลกจัง รอบนี้ได้คริสตัลเกือบทุกตัวเลย!

    คำทักของหลงไช่ที่พูดขึ้นเรียกความสนใจจากกู่หนิว โดยส่วนตัวเขาไม่ค่อยได้ออกล่านัก ส่วนมากจะมีหน้าที่แค่ลาดตระเวนตอนกลางคืน คอยระวังภัยเฉยๆ โอกาสเจอผู้ล่าเองก็มี แต่โอกาสที่จะมานั่งคว้านคริสตัลออกจากกะโหลกผู้ล่านั้นน้อยยิ่งกว่าน้อย ส่วนใหญ่เขามักไปคุ้ยเอาจากกระเป๋าพกของศพอดีตเพื่อนร่วมงานซะมากกว่า ดังนั้นจึงไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไร

    “หมายความว่ายังไงเหรอครับ?”

    “อ้าว นี่นายไม่รู้เหรอ? พวกคริสตัลน่ะไม่ใช่ว่าจะดรอปออกมาทุกตัวนะ บางตัวก็ไม่มี อย่างพวกผู้ล่าที่มีรูปร่างเป็นเด็กๆ นี่ไม่มีคริสตัลกันเลย”หลงไช่อธิบาย กู่หนิวฟังก็แปลกใจ

    “งั้นเหรอครับ”

    “อื้ม แต่พวกคนแก่นี่มีกันนะ แต่จะไม่ค่อยใหญ่มากและส่วนใหญ่เป็นสีเหลือง”

    พอฟังคำชี้แจงของหลงไช่ กู่หนิวก็เริ่มวิเคราะห์

    อีกฝ่ายบอกว่าไม่ใช่ผู้ล่าทุกตัวที่มีคริสตัล เด็กๆ จะไม่มีกัน คนแก่เองก็มีบ้าง แต่จะมีขนาดค่อนข้างเล็ก... ถ้างั้นคริสตัลนี่เกิดขึ้นจากอะไรกันนะ?

    เขาพยายามหาคำตอบ แต่รู้ตัวอีกทีรถก็แล่นกลับมาถึงป้อมแล้ว

    พวกเขาแบ่งส่วนแบ่งกันแล้วแยกย้าย โดยทางกู่หนิวที่ไม่ค่อยได้โจมตีด้วยเอาแต่ระวังหลังให้เซียงเว่ย ได้รับคริสตัลสีแดงมาสามอัน ถือว่าไม่มากไม่น้อย หลังแยกย้ายแล้วเขาถึงคิดได้ว่าไม่ได้ขอผ้าเช็ดหน้าคืนจากเซียงเว่ยที

    อ่า ค่อยไปถามหลงคุนทีหลังแล้วกัน

    วันถัดมา เขาก็ลองถามหลงคุนดู แต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่เห็น แถมยังคาดการณ์ว่าคุยชายเซียงคงเผลอทำหล่นระหว่างทาง กู่หนิวฟังแล้วก็ค่อนข้างเสียดาย เพราะนั่นเป็นลายโปรดด้วย แต่พอตกเย็นเขากลับได้ผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่ปักรูปสตรอว์เบอรี่สองอันตรงมุมมาผืนหนึ่งจากเซียงเว่ย

    ถึงไม่พูดอะไร แต่กู่หนิวเข้าใจดีว่าอีกฝ่ายคงต้องการชดเชยเรื่องผ้าเช็ดหน้าที่หายไป เขาพูดขอบคุณก่อนรับมาเก็บไว้ในอกเสื้อ และเพราะเขาออกจากห้องไปก่อนจึงไม่ทันเห็นว่าบนใบหน้าที่เรียบเฉยของใครบางคน มีรอยโค้งเล็กๆ ปรากฏที่ริมฝีปาก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×