คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่5
จากประสิทธิภาพของคริสตัลสีน้ำเงิน
ทำให้หลงคุนกัดฟันเอาคริสตัลสีแดงมาแลกอาทิตย์ละหนึ่งพันอัน
หรือเท่ากับสีน้ำเงินจำนวนห้าอันต่ออาทิตย์ ตอนกู่หนิวเห็นคริสตัลจำนวนมากก็อึ้งตะลึงไป
แต่ก็ยอมแลกให้แต่โดยดี หลังผ่านการแลกเปลี่ยนหลายครั้งเข้า กู่หนิวก็ตัดสินใจบอกเรื่องสำคัญแก่หลงคุนและเซียงเว่ย
“ที่จริง... นอกจากสีน้ำเงินแล้ว
ผมยังเคยเห็นอีกสองสีครับ”
คำบอกกล่าวในเช้าวันหนึ่งทำให้ผู้ฟังตกตะลึง
“อะไรนะ?!”
“อันหนึ่งสีฟ้า อีกอันสีม่วง”กู่หนิวพูดพลางแสดงหลักฐานโดยการล้วงคริสตัลทั้งสองสีออกมาส่งให้
หลงคุนมองคริสตัลกลมใสขนาดลูกปิงปองทั้งสองสีในมืออย่างไม่อยากเชื่อสายตา ก่อนจะหันมองสลับระหว่างกู่หนิวกับเซียงเว่ย
“แลก”
ยังไม่ทันถามความสามารถก็แลกแล้ว? กู่หนิวแปลกใจกับคำตอบรับที่รวดเร็วของเจ้านาย
ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายมั่นใจว่าสองอันนี้ต้องมีความสามารถดีๆ หรือว่ายังไง
แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจอธิบายให้ฟัง
“อันสีม่วงช่วยเสริมให้ประสาทสัมผัสทั้งห้าดีขึ้นครับ
ส่วนสีฟ้าจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้”
หลงคุนฟังแล้วก็เบิกตากว่างกว่าเดิม
เพิ่มประสิทธิภาพของประสาทสัมผัส? รักษาอาการบาดเจ็บภายใน? มีประโยชน์มาก!
ในยุคที่ต้องเอาชีวิตรอดแบบนี้
สิ่งที่ช่วยรักษาชีวิตให้ยืนยาวล้วนแต่มีประโยชน์!
“อัตราแลกล่ะ”หลงคุนรีบถาม
“สีม่วงหนึ่งร้อยยี่สิบ สีฟ้าสามร้อยครับ”
ฟังอัตราการแลกเปลี่ยนแล้วหลงคุนก็ชั่งใจ
สีฟ้าเป็นคริสตัลรักษา ที่แพงก็ไม่แปลกอะไร ส่วนสีม่วงก็ถูกกว่าที่คิด
“เอาเป็นคริสตัลสีม่วง 50 อัน คริสตัลสีฟ้า 20 อัน
แล้วกัน”
“ได้ครับ”กู่หนิวตอบเสียงนิ่ง โดยคิดคำนวณในใจไว้เสร็จสรรพ
ที่จริงอัตราการแลกสีม่วงอยู่ที่ 1:100 ส่วนสีฟ้าอยู่ที่ 1:175
เท่ากับว่าหลังหักส่วนที่ทำการแลกเปลี่ยนไปแล้ว เขาจะได้คริสตัลสีแดงทั้งหมด 3,500 อัน เรียกว่ากำไรครั้งใหญ่
แต่พอทำการแลกเปลี่ยนเสร็จกู่หนิวกลับพบว่ามีคริสตัลเกินมาหนึ่งร้อยอัน
เพราะคริสตัลที่นำมาแลกเปลี่ยนทั้งหมดคือหนึ่งหมื่นสามร้อยอัน ทั้งที่จริงๆ อีกฝ่ายควรให้มาแค่หนึ่งหมื่นสองร้อยอันแท้ๆ
เมื่อนึกถึงความใจกว้างของเจ้านายกู่หนิวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกละอายใจกับการคิดกำไรคริสตัลสีฟ้าที่มากเกินควรของตน สุดท้ายเขาจึงเพิ่มคริสตัลสีฟ้าเข้าไปอีกห้าอัน
พอทำการแลกเปลี่ยนเสร็จแล้วชีวิตของเขาก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก
ยังคงใช้ชีวิตตามวิถีเดิมๆ แต่ก็เพียงเดือนเดียว เมื่อในที่สุดชายหนุ่มก็ได้กลับมาทำหน้าที่หลักของตัวเองอีกครั้ง
“ออกล่าเหรอครับ?”
“อืม
ก่อนนี้คุณชายบาดเจ็บจึงยังไม่ออกไปด้วยตัวเอง แต่ตอนนี้หายดีแล้ว”ฟังหลงคุนอธิบาย
กู่หนิวที่คาดไม่ถึงก็ชะงักไป
บาดเจ็บ... หรือจะเป็นตั้งแต่ตอนนั้น?
พอคิดอย่างนั้นแล้วกู่หนิวก็รู้สึกผิดในใจ
เขาไม่รู้มาก่อนว่าเด็กหนุ่มยังคงไม่หายดี เพราะจากภายนอกดูไม่มีบาดแผลอะไร
แต่การที่เพิ่งหายนี่ แปลว่าที่ผ่านมามีอาการบาดเจ็บภายใน?
นี่ถ้าเขารู้มาก่อนคงหาโอกาสเอาคริสตัลสีฟ้าให้อีกฝ่ายนานแล้ว...
“หนิว ไปกัน”
“ครับ”
กู่หนิวตอบรับ
หลังถูกเรียกบ่อยครั้งเขาก็เริ่มชินกับการถูกเรียกห้วนๆ
แต่ก็มีแค่เซียงเว่ยที่เรียกเขาแบบนี้ อย่างหลงคุนมากสุดก็เรียกเขาว่าต้าหนิว
การออกล่านั้นไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไร ซึ่งสมาชิกทีมออกล่าก็ได้แก่เขา
เซียงเว่ย และเด็กๆอีกสามคนชื่อ หลงจู หลงไช่ และ ไห่หลาง
หลงจูกับหลงไช่เป็นเด็กหนุ่มนิสัยร่าเริง
ได้ยินมาว่าเป็นญาติกับหลงคุน ถึงเค้าหน้าจะไม่ได้เหมือนมากนักก็ตาม
ส่วนไห่หลางเป็นเด็กที่ค่อนข้างเงียบขรึม แต่ก็เชื่อฟังมาก เมื่อได้รับคำสั่งก็ปฏิบัติตามอย่างรวดเร็ว
สำหรับวันนี้สถานที่ออกล่าคือมหาลัยN ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างมีเชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
ขณะเดินทาง กู่หนิวก็รับรู้ถึงสายตาที่มองมายังตนเอง
แม้จะเป็นแบบเหลือบมองเป็นระยะ แต่เขาก็ยังจับความรู้สึกได้
เมื่อโดนลอบมองบ่อยครั้งเข้าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระอักกระอ่วน
ในที่สุดหลังลงจากรถแล้วเขาจึงหันไปถามอย่างยอมแพ้
“มีอะไรกันรึเปล่าครับ?”
“ไม่มี!”หลงไช่พูดตอบทันควัน แต่สักพักก็เหมือนคิดได้จึงเปลี่ยนท่าที
“จริงๆก็มีนั่นแหละ สรุปแล้วพี่ชายนี่...เป็นคนรักของพี่เว่ยเหรอ?”
พี่เว่ย... หมายถึงคุณชายเซียงเว่ย?
“ไม่ใช่ครับ”
“ไม่ใช่หรอกเหรอ?”คนพูดทำหน้าเหมือนผิดหวังอย่างหนักจนกู่หนิวแปลกใจ
ก่อนจะเข้าใจเมื่ออีกฝ่ายล้วงคริสตัลสีแดงห้าอันไปส่งให้หลงจู
“ฮ่าๆ! ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ใช่
พี่เว่ยไม่ได้ชอบผู้ชายสักหน่อย”หลงจูพูดกลั้วหัวเราะขณะโยนคริสตัลในมือเล่น ฝั่งหลงไช่ได้ยินก็ไหล่ตก
สีหน้าหดหู่เกินคำบรรยาย
“ก็ปกติพี่เว่ยไม่เคยให้ใครเข้าใกล้นี่นา
แต่เหมือนพี่ชายคนนี้เป็นข้อยกเว้น ฉันเลยคิดว่าใช่น่ะสิ”
กู่หนิวที่ยืนฟังคำโต้ตอบของสองพี่น้องก็ยิ้มแกนๆ
ก่อนชำเลืองไปทางคนที่ถูกพาดพิงซึ่งหันกลับมามองพอดี
“ไปได้”
ถ้อยคำสั้นๆได้ยุติบทสนทนาไร้สาระลง ทั้งกลุ่มเริ่มออกลาดตระเวนบริเวณรอบๆ
เมื่อเช็คว่าปลอดภัยดีก็ค่อยๆ พากันเข้าไปในตัวตึก โดยคนที่นำหน้าคือไห่หลางที่นอกจากแนะนำตัวแล้วยังไม่ปริปากพูดคำใดอีก
แต่ด้วยรู้ว่าอีกฝ่ายมีความสามารถในการตรวจจับ ทั้งยังมีฝีมือด้านการสู้ศึกมาไม่น้อย
กู่หนิวเลยถอยกลับมาเดินประกบเซียงเว่ยเอาไว้แทน ในมือชายหนุ่มถือไม้เบสบอลเหล็กที่เบี้ยวๆ
บูดๆ ไปเพราะการใช้งานไว้อย่างเตรียมพร้อม
“ระวัง”เสียงที่ทุ้มต่ำทั้งยังฟังแปร่งหูกล่าวคำพลางกระชับดาบน้ำแข็งในมือตน
คนอื่นๆ ต่างก็เตรียมพร้อมอย่างระวัง ยืนรอเพียงอึดใจ เงาร่างหญิงสาวหุ่นเซ็กซี่ที่ใบหน้าเละไปซีกหนึ่งพลันปรากฏสู่สายตา
อีกฝ่ายอยู่ในชุดเกาะอกสีแดงสวมกาวน์ทับ ทำให้คนคาดว่าน่าจะเป็นอาจารย์ห้องพยาบาล
กู่หนิวอดใจไม่ไหวต้องกวาดมองสองรอบด้วยหน้าอกที่ล้นทะลักกับต้นขาเรียวที่ปกปิดด้วยถุงน่องตาข่ายมันดึงดูดสายตา
เขานึกเสียดายเล็กน้อยที่อีกฝ่ายกลายเป็นผู้ล่าไปแล้ว
ฉัวะ!
...เอ๋? เงาร่างสีขาววิ่งผ่านหน้า ด้วยเพราะเผลอเหม่อจึงไม่ทันระวัง
รู้สึกตัวอีกทีร่างของเซียงเว่ยก็ได้พุ่งตัวออกไปตัดหัวหญิงสาวด้วยมีดผีเสื้อ
กู่หนิวมองคนที่กำลังจะใช้ชายเสื้อตัวเองเช็ดเลือดจากมีดก็รีบเข้าไปปราม
“เดี๋ยวครับ
ใช้นี่ดีกว่า”กู่หนิวล้วงผ้าเช็ดหน้าสีชมพูอ่อนลายสตรอว์เบอรี่ที่ได้มาจากเฉ่าเหมยเมื่อหลายเดือนก่อนมายื่นส่งให้
เห็นเซียงเว่ยจ้องผ้าเช็ดหน้าครู่หนึ่งก่อนคว้าไปเช็ดก็โล่งใจ
เพราะเสื้อขาวของอีกฝ่ายดูจะซักยากกว่ามาก
แต่ไม่ทันโล่งใจนัก ร่างในชุดนักศึกษาชายหญิงพลันทยอยออกมาจากที่ซ่อน
กู่หนิวสังเกตเห็นว่านักศึกษาชายที่สวมแว่นคนหนึ่งดูคุ้นตา ถึงเนื้อส่วนคอและแขนซ้ายแหว่งไปจนจนไม่เหลือสภาพ
แต่ส่วนใบหน้ายังดีอยู่ เขาลองจ้องสักพักถึงนึกได้ว่าเป็นไอดอลชายชื่อดังคนหนึ่ง
ฉัวะ!
ขณะที่เขาเผลอมอง
คนที่ยังยืนนิ่งเมื่อครู่ก็ลงมืออีกแล้ว กู่หนิวถอนใจ
เพราะรอบนี้เสื้อของอีกฝ่ายเปรอะเลือดที่กระเซ็นออกมาไปหย่อมหนึ่ง
ซึ่งค่อนข้างน่าเสียดาย...
ผ่านไปสองชั่วโมง สรุปการล่ารอบนี้ได้ผลึกสีแดงมายี่สิบหกอัน
สีเหลืองสอง สีเขียวหนึ่ง และสีน้ำเงินถึงสาม
“แปลกจัง รอบนี้ได้คริสตัลเกือบทุกตัวเลย!”
คำทักของหลงไช่ที่พูดขึ้นเรียกความสนใจจากกู่หนิว
โดยส่วนตัวเขาไม่ค่อยได้ออกล่านัก ส่วนมากจะมีหน้าที่แค่ลาดตระเวนตอนกลางคืน
คอยระวังภัยเฉยๆ โอกาสเจอผู้ล่าเองก็มี
แต่โอกาสที่จะมานั่งคว้านคริสตัลออกจากกะโหลกผู้ล่านั้นน้อยยิ่งกว่าน้อย
ส่วนใหญ่เขามักไปคุ้ยเอาจากกระเป๋าพกของศพอดีตเพื่อนร่วมงานซะมากกว่า ดังนั้นจึงไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไร
“หมายความว่ายังไงเหรอครับ?”
“อ้าว นี่นายไม่รู้เหรอ? พวกคริสตัลน่ะไม่ใช่ว่าจะดรอปออกมาทุกตัวนะ
บางตัวก็ไม่มี อย่างพวกผู้ล่าที่มีรูปร่างเป็นเด็กๆ นี่ไม่มีคริสตัลกันเลย”หลงไช่อธิบาย กู่หนิวฟังก็แปลกใจ
“งั้นเหรอครับ”
“อื้ม แต่พวกคนแก่นี่มีกันนะ
แต่จะไม่ค่อยใหญ่มากและส่วนใหญ่เป็นสีเหลือง”
พอฟังคำชี้แจงของหลงไช่ กู่หนิวก็เริ่มวิเคราะห์
อีกฝ่ายบอกว่าไม่ใช่ผู้ล่าทุกตัวที่มีคริสตัล
เด็กๆ จะไม่มีกัน คนแก่เองก็มีบ้าง แต่จะมีขนาดค่อนข้างเล็ก... ถ้างั้นคริสตัลนี่เกิดขึ้นจากอะไรกันนะ?
เขาพยายามหาคำตอบ
แต่รู้ตัวอีกทีรถก็แล่นกลับมาถึงป้อมแล้ว
พวกเขาแบ่งส่วนแบ่งกันแล้วแยกย้าย โดยทางกู่หนิวที่ไม่ค่อยได้โจมตีด้วยเอาแต่ระวังหลังให้เซียงเว่ย
ได้รับคริสตัลสีแดงมาสามอัน ถือว่าไม่มากไม่น้อย
หลังแยกย้ายแล้วเขาถึงคิดได้ว่าไม่ได้ขอผ้าเช็ดหน้าคืนจากเซียงเว่ยที
อ่า ค่อยไปถามหลงคุนทีหลังแล้วกัน
วันถัดมา เขาก็ลองถามหลงคุนดู แต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่เห็น
แถมยังคาดการณ์ว่าคุยชายเซียงคงเผลอทำหล่นระหว่างทาง
กู่หนิวฟังแล้วก็ค่อนข้างเสียดาย เพราะนั่นเป็นลายโปรดด้วย
แต่พอตกเย็นเขากลับได้ผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่ปักรูปสตรอว์เบอรี่สองอันตรงมุมมาผืนหนึ่งจากเซียงเว่ย
ถึงไม่พูดอะไร
แต่กู่หนิวเข้าใจดีว่าอีกฝ่ายคงต้องการชดเชยเรื่องผ้าเช็ดหน้าที่หายไป เขาพูดขอบคุณก่อนรับมาเก็บไว้ในอกเสื้อ
และเพราะเขาออกจากห้องไปก่อนจึงไม่ทันเห็นว่าบนใบหน้าที่เรียบเฉยของใครบางคน
มีรอยโค้งเล็กๆ ปรากฏที่ริมฝีปาก
ความคิดเห็น