ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] I'm your Toy. ผมเป็นของเล่นของคุณ (8P)

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่2 เรื่องบังเอิญ...เมื่อผมไปห้าง

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 64


    ตอนที่2

    เรื่องบังเอิญ...เมื่อผมไปห้าง

     

       จากวันนั้นก็ผ่านมาหลายเดือน แม้ผมจะไม่ได้นับ แต่นั่นก็เนิ่นนานพอดู

     

       วันนี้ผมมาห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของกินของใช้เหมือนเคย

     

       เดือนก่อนผมก็มา เดือนก่อนหน้านั้นผมก็มาที่ห้างนี้ แต่เดือนนี้ผมกลับบังเอิญพบเจอกับคนที่ไม่คาดคิดว่าจะได้พบ

     

       คนเล่นของเล่นของผม

     

       

     

       ...

     

       ผมหยุดขาที่จะก้าวไปต่อแถวช่องคิดเงินเมื่อเห็นสองร่างที่คุ้นตา จิน กับ ไปป์

                          

       ผมไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าจะได้บังเอิญมาพบเจอพวกเขาอีกครั้ง

     

       ระยะห่างระหว่างผมกับสองคนนั้นไม่มากไม่น้อยเกินไปนัก นั่นทำให้ผมมองเห็นชัดถึงเส้นผมสีบลอนซ์ทองที่ตอนนี้ยาวเลยต้นคอลงมาเกือบคืบ ใบหน้าหันข้างของจินทำให้ผมมองเห็นใบหูที่มีห่วงสีเงินไม่ต่ำกว่าสองเพิ่มขึ้นมาจากความทรงจำ แล้วก็จุดที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้นเสื้อกั๊กสีฉูดฉาดที่คงคอนเซปรัดรูปและเซ็กซี่ของอีกฝ่าย ส่วนไปป์ที่ยืนเถียงอยู่สวมเสื้อเชิ้ตสีเขียวอ่อนมีลายพร้อยๆตามสไตล์

     

       ผมไม่รู้ว่าควรทักดีไหม ในเมื่อเราเป็นแค่คนที่เคยนั่งดื่มด้วยกันแค่ครั้งหนึ่งและบังเอิญได้ ร่วมเตียง ด้วยกันแค่คืนเดียว...

     

       ผมตัดสินใจถอย

     

       ขณะที่หมุนตะกร้ารถเข็นกลับ ผมก็ต้องอึ้งค้างเมื่อเห็นใบหน้าร่างสูงที่ยืนขวาง ผมสีแดงกับนัยน์ตาสีเทา ดวงตาคู่นั้นเบนลงมาสบ ซึ่งนั่นทำให้ผมเผลอกลั้นหายใจ

     

       ซิตซ์...

     

       อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้?

     

       ผมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร ท่าทางนิ่งเงียบนั่นทำให้ตีความไปว่าเขาคงลืมหน้าตาผมไปแล้ว และเมื่อมองไปที่มือที่มีซองหมากฝรั่งและลูกอมไม่กี่กล่องก็คิดได้ว่าอีกฝ่ายคงจะมาจ่ายเงิน

     

       ผมเลื่อนรถเข็นหลบเพื่อที่จะได้ไม่ขวางทาง แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้เดินผ่านไป ซึ่งงานนี้ผมไม่สนใจรีบเลื่อนรถเข็นผ่านร่างอีกฝ่ายไปอย่างรวดเร็ว

     

       "นี่ ซิตซ์ทำไมถึงรีบเดิน... ทอย?"เสียงทักทำให้ผมเงยหน้ามอง

     

       "เวย์..."ผมหลุดปากเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงแผ่ว เจ้าของชื่อเดินมาพร้อมอีกร่างที่สวมชุดคอวีแขนยาวสีดำ

     

       ไนท์...

     

       ผมไม่รู้ว่าควรตกใจรึเปล่าที่ได้บังเอิญมาเจอกับคนที่เคยนอนด้วยเมื่อหลายเดือนก่อนพร้อมกันถึง5คน

     

       ดีที่ไม่เจอลอสกับริกซ์ด้วย...

     

       "ไม่เจอกันนานเลย ทอยสบายดีรึเปล่าครับ?"เวย์เดินมาหยุดตรงหน้าแล้วทักทายเหมือนเพื่อนสนิทที่บังเอิญมาพบพานกันอีกครั้ง

     

       ท่าทางผ่อนคลายและน้ำเสียงสบายๆไม่กดดันทำให้ผมหายใจคล่องหน่อย ขณะที่กำลังจะตอบเสียงร้องเรียกด้านหลังก็ทำให้หันไปมอง

     

       "เฮ้ เวย์มาจ่ายเงินพร้อมกันสิ... ทอย!"เสียงเรียกชื่อที่ดังพอๆกับตะโกนทำให้ผมสะดุ้งและทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นสายตาผู้คนที่เริ่มจับจ้อง

     

       "ชู่ว อย่าเสียงดังในห้างสิจิน"ไปป์ที่ยืนอยู่ข้างๆพูดเตือนเพื่อน ซึ่งจินก็เหมือนเพิ่งรู้ตัวจึงยกมือซ้ายปิดปาก แล้วใช้อีกข้างโบกมือหยอยๆให้พวกผมเดินไปหา

     

       เฮ้อ... เอาเถอะ

     

     

       หลังจ่ายเงินเรียบร้อย ผมก็เดินเข็นรถโดยมีไปป์กับจินเดินขนาบข้าง ซึ่งเวย์ก็ยืนถัดต่อจากจินอีกที ส่วนด้านหลังก็มีร่างของซิตซ์และไนท์เดินตามมาเงียบๆ

     

       ตลอดทางจินกับไปป์ชวนผมคุยไม่หยุด โดยมีเวย์เสริมบ้างเล็กน้อย

     

       "นี่ๆ ทอย ทำไมนายไม่ไปที่ร้านอีกล่ะ? ฉันรออยู่นะ"จินพูดเป็นเชิงตัดพ้อ ซึ่งผมก็ยิ้มนิดๆกับคำว่ารอ


       คำว่า รอ ที่อีกฝ่ายว่าทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจ ทั้งๆที่ไม่สนิท แต่อีกฝ่ายกลับบอกว่ารอผมอยู่... มันทำให้ผมรู้สึกอารมณ์ดีแปลกๆ

     

       "ฉันมีงานต้องทำน่ะสิ จิน งานมันยุ่งจนหัวปั่นเลย ฉันไม่มีเวลาไปเที่ยวหรอก"ผมตอบ ก่อนหยุดเท้าที่หน้าร้านหนังสือ

     

       แม้ไม่ต้องเดินเข้าไปก็เห็นชัด หนังสือปกสีน้ำตาลเข้มติดชาร์จท๊อปเทนซึ่งวางเด่นอยู่

     

       ผมอมยิ้มเมื่อเห็นผลสำเร็จของความพยายามตลอดสามเดือน

     

       "นายมองอะไรอยู่น่ะ?"ไปป์ส่งเสียงถามขณะชะโงกสายตามองตาม ผมหันไป ในหัวคิดจะตอบกลับว่าไม่มีอะไร หากแต่สายตา5คู่ทำให้ผมชะงัก ก่อนตอบไปตามความจริง

     

       "หนังสือน่ะ เล่มสีน้ำตาลตรงนั้น"ผมชี้ ซึ่งสายตาหลายคู่มองตาม ก่อนเวย์จะเป็นคนถาม

     

       "ทอยชอบอ่านหนังสือแนวนั้นเหรอครับ?"

     

       คำถามนั่นทำให้ผมฉีกยิ้มอย่างอารมณ์ดี ก่อนตอบไปสั้นๆ

     

       "อืม... ชอบมาก"


       ผมชอบหนังสือนิยาย...และยิ่งชอบมากยิ่งขึ้นเมื่อเป็นเล่มที่ผมเขียนเอง

     

       "งั้นเข้าไปซื้อไหมครับ?"เวย์ถาม ซึ่งผมส่ายหัวเบาๆ

     

       "ไม่ล่ะ ฉันมีแล้ว"

     

       ผมตอบเสร็จก็นึกได้เลยหันไปถามทั้งห้าคนอย่างแปลกใจ

     

       "แล้วนี่พวกนายไม่มีธุระอะไรแล้วเหรอ?"ที่ผมถามอย่างนั้น เพราะอีกฝ่ายเดินเข็นรถตามผมมาจนถึงชั้นหนึ่งแล้ว

     

       "ครับ พวกผมกำลังจะกลับเหมือนกันครับ วันนี้พวกผมจะทำสุกี้หม้อไฟกินกันก็เลยมาซื้อของกลับไปทำ วันนี้ทอยว่างรึเปล่าครับ? ไปทานด้วยกันไหม?"เวย์พูดชวนอย่างเป็นมิตร

     

       "ไม่ดีกว่า รบกวนเปล่าๆ"ผมปฏิเสธอย่างเกรงใจ เพราะยังไงเราก็ไม่ถือว่าสนิทกันมาก ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายชวนจริงหรือแค่ถามตามมารยาท เดี๋ยวคนอื่นๆจะไม่ชอบใจซะเปล่าๆ

     

       ผมเหลือบมองซิตซ์กับไนท์ที่ไม่เอ่ยปากอะไรตั้งแต่เจอกันแล้ว เวย์เหมือนจะสังเกตเห็นท่าทางผมเลยหันไปถามคนอื่นๆ

     

       "แค่เพิ่มทอยไปสักคนไม่รบกวนหรอกครับ จริงไหมทุกคน?"

     

       "ไม่ๆๆ ไม่รบกวนเลย ไปกินด้วยกันเถอะทอย"จินพูดตอบระรัวด้วยท่าทางกระตือรือร้น

     

       "ไม่นี่ ไปเถอะ กินด้วยกันสนุกออก"ไปป์พูดชวนยิ้มๆ

     

       "ก็ไม่ได้รบกวน..."ไนท์ตอบกลับสั้นๆ ท่าทางยังคงนิ่งจนผมดูไม่ออกว่าที่พูดนั้นออกมาจากใจจริงรึเปล่า

     

       "หึ ก็ไปสิ"เสียงแหบๆของซิตซ์พูดตอบรับ ซึ่งเหมือนผมจะได้ยินเสียงอีกฝ่ายเป็นครั้งแรกของวัน

     

       ผมก็ไม่แน่ใจหรอกว่าทุกคนยินดีให้ผมไปรึเปล่า แต่เสียงสามส่วนห้าเหมือนอยากให้ไปนี่นะ ถ้างั้นไปก็ได้...

     

       "แล้วจะทำกินกันที่ไหนเหรอ?"ผมถามก่อนตอบตกลง เพราะอีกฝ่ายชวนก็จริงแต่ยังไม่ได้บอกเรื่องสถานที่ ซึ่งที่ผมคาดไว้ไม่น่าเป็นที่ร้าน เพราะถ้าทำกินเองก็น่าจะที่ส่วนตัว...

     

       "ที่คอนโด TRy OL น่ะครับ รู้จักรึเปล่า?"เวย์เป็นคนตอบ ก่อนถามคำถามที่ผมต้องพยักหน้าไวๆให้

     

       รู้จักแน่นอน คอนโดสุดหรูที่มีบรรยากาศเยี่ยม พื้นที่กว้างน่าอยู่ ทั้งยังใกล้ย่านร้านค้า การเดินทางก็สะดวกเพราะอยู่ใจกลางเมือง ผมเองเคยคิดจะซื้อคอนโดที่นั่นเหมือนกัน แต่สู้ราคาไม่ไหว เพราะคอนโดTRy OLมีที่จอดรถส่วนตัวด้วยจึงทำให้ราคาอัพขึ้นสูงจนผมจ่ายไม่ไหว และเพราะตัวผมเองก็ไม่มีรถเลยมองว่าคอนโดนั้นเกินความจำเป็น ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะเก็บเงินซื้อบ้านแถวชานเมืองอยู่แทน ถึงมันจะอยู่ไกลตัวเมืองไปหน่อยแล้วก็ไปไหนไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่ก็เงียบสงบดี เหมาะกับคนที่ชอบใช้ชีวิตเงียบๆหาไอเดียในการเขียนนิยายแบบผมพอดี

     

       แต่ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าจะเจอคนที่อาศัยอยู่ที่นั่นตัวเป็นๆ เพราะอย่างที่รู้ว่าคอนโดนั้นราคาสูงมาก ดังนั้นคนที่อาศัยอยู่ที่คอนโดนั่น ฐานะจึงไม่ใช่แค่ดี แต่ต้องอยู่ในระดับที่รวย ซึ่งคนระดับนั้นหากมองหาตามท้องตลาดไม่มีทางเจอแน่ๆ

     

       ผมอึ้งนิดๆ แต่ก็แค่นั้นเมื่อสถานะทางการเงินของอีกฝ่ายไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตผม เพียงแต่...ที่ตั้งคอนโดนนั่นออกจะเป็นปัญหาสักหน่อย

     

       "ดูเหมือนงานนี้ฉันคงไม่สะดวกไป... คือฉันไม่มีรถน่ะ แล้วที่นั่นก็อยู่ไกลจากบ้านฉันด้วย ถ้าใกล้ๆอย่างร้านเหล้าที่ไปคราวก่อนคงพอได้แวะไป โทษทีนะ"ผมพูดแล้วอดรู้สึกผิดแปลกๆไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายอุตส่าห์มีน้ำใจชวน

     

       "งั้นเหรอครับ เข้าใจแล้วครับ..."เวย์ตอบด้วยเสียงอ่อนหน้าตาดูเศร้าๆ ส่วนจินกับไปป์มีท่าทีผิดหวังเล็กๆ ซึ่งผมก็ยิ้มนิดๆก่อนจะขอตัวลา แต่กลับถูกรั้งไว้ ซึ่งคนที่รั้งผมไว้คือซิตซ์ มือใหญ่จับที่ต้นแขนผมก่อนพูดสั่งด้วยเสียงนิ่งๆ

     

       "เอาโทรศัพท์มาซิ"


       ผมงเบิกตามองคนขอที่พูดซ้ำหลังผมนิ่งอึ้งและไม่ยอมส่งให้ในทีแรกด้วยเสียงที่เริ่มออกแนวหงุดหงิด ปกติแล้วผมไม่ค่อยชอบโดนสั่งนัก และยิ่งไม่ปลื้มกับพฤติกรรมที่จู่ๆก็มาจับตัวกันแบบไม่ทันตั้งตัวอย่างนี้ด้วย แต่ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงไม่โกรธ ทั้งยังยอมส่งมือถือให้ตามคำบอกอีกฝ่ายอีก

     

       ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งให้ ซึ่งซิตซ์รับไปแล้วทำในสิ่งที่ผมต้องนิ่งค้าง อีกฝ่ายกดเบอร์มือถือตัวเอง ก่อนยื่นมือถือคืนมาให้พร้อมสั่งเสียงแข็ง

     

       "เมมซะ"

     

       ผมกะพริบตามองคนสั่งรับมือถือคืนมา ก่อนมองหน้าคนสั่งสลับกับตัวเลขสิบหลักที่ปรากฏ ซึ่งพอผมมองเป็นครั้งที่สามก็ถูกอีกฝ่ายตวัดสายตาดุมองมาจนต้องยอมเมมชื่อ 'Zitz' ลงในรายชื่อ ซึ่งระหว่างเมมผมแอบเห็นคนสั่งที่ทำหน้าดุเมื่อกี้ยกยิ้มนิดๆคล้ายอารมณ์ดีจนเผลอมุ่นคิ้วอย่างแปลกใจ

     

       "อ๊ะ ขี้โกง เมมของฉันด้วยสิ"จินโวยแล้วแย่งมือถือผมไป ไปป์เองก็ไปร่วมวงด้วย ซึ่งผมก็ปล่อยตามสบาย เมมเสร็จเมื่อไหร่ก็ช่วยคืนด้วยแล้วกัน

     

       "แล้วตกลงทอยจะไม่ไปจริงๆเหรอครับ? ไปทานด้วยกันเถอะครับ เดี๋ยวผมไปส่งเอง"เวย์พูดชวนอีกครั้งด้วยเสียงนุ่มผสมกับลูกอ้อนเล็กๆ ซึ่งใครมาเห็นรอยยิ้มอ้อนๆกับเสียงชวนละลายแบบนี้คงไม่วายใจอ่อน

     

       หน้าตาดีแล้วยังอ้อนเก่ง สาวๆหลงตายพอดี

     

       ผมส่ายหัวให้

     

       "ไม่ล่ะ ฉันไม่รบกวนดีกว่า ไว้คราวหน้าแล้วกันนะ"พอได้ยินคำปฏิเสธครั้งนี้คุณชายก็เหมือนจะยอมแพ้สักที แต่ก็ยังส่งสายตามาถามเป็นเชิงถามย้ำ ผมส่ายหัวอีกรอบ

     

       "...ถ้าอย่างนั้นก็ค้างสิ"เสียงเรียบนิ่งฟังแล้วรู้สึกเยือกเย็นดังมาจากปากของไนท์ หนุ่มเงียบอีกคน

     

       ผมหันไปมองอย่างไม่เข้าใจ

     

       ค้าง? หมายความว่ายังไง?

     

       "นั่นสินะ ถ้าวันนี้ทอยไม่มีธุระที่ไหนคืนนี้มานอนค้างที่คอนโดพวกผมก็ได้ครับ"เวย์พูดอย่างจับประเด็นได้ ซึ่งมันทำให้ผมเข้าใจความหมายในประโยคสั้นๆของไนท์ในที่สุด

     

       ค้างคืน? นั่นสินะ ถ้าแบบนั้นล่ะก็...

     

       ไม่สิๆ ผมส่ายหัว

     

       "ไม่ล่ะ รบกวนเปล่าๆ..."

     

       "ไม่รบกวนหรอกน่า นะ ไปกินกันๆๆ"จินโพล่งแทรกคำพูดผม แถมมาเกาะแขนพูดตื๊อชวนไม่หยุด ซึ่งมองไปทางไปป์ อีกฝ่ายทำท่าพยักหน้ารัวๆ ส่วนทางเวย์ก็ส่งยิ้มนิดๆแล้วพยักหน้าให้

     

       คนเปิดประเด็นอย่างไนท์คงไม่ต้องพูดถึง ผมมองอีกคนที่มองมานิ่งๆไม่มีท่าทีตอบรับ แต่ก็ไม่มีวี่แววปฏิเสธ

     

       เฮ้อ

     

       "ก็ได้..."ผมตอบรับเสียงแผ่วโดยเห็นแก่ความพยายามของทั้งห้าคน ซึ่งพอตอบรับก็โดนจินที่มีท่าทางดีใจมากๆคว้าแขนลากไปทางประตูห้าง ผมเหลียวหลังหันไปมองตะกร้ารถเข็นของตัวเองที่ถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างตกใจ แต่ภาพที่เห็นเบื้องหลังคือไปป์ที่ยืนยิ้มส่งโบกมือให้เป็นเชิงไม่ต้องห่วง...ดูเหมือนผมจะได้คนช่วยเข็นแทนแล้ว


       ผมหันกลับมามองคนข้างตัวที่ยังคงลากแขนผมให้เดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าที่ระบายยิ้มร่าเริงแล้วถอนหายใจ

     

       เอาเถอะ ยังไงก็ไม่ได้มีธุระอะไรอยู่แล้วนี่นะ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×