คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่4
กู่หนิวปัดความคิดแปลกๆออกไป
ด้วยรู้ตัวดีว่าตนเองไม่ใช่คนหน้าตาดีอะไร
ไม่นับเรื่องที่อีกฝ่ายหน้าตาดีและอายุน้อยกว่า
อีกทั้งตัวเขาเองก็ไม่ได้ฝักใฝ่ด้านนั้น ชายหนุ่มเดินลงไปรับเงินเดือนเช่นทุกวัน
ก่อนจะแปลกใจเมื่อไม่เห็นหลงคุนในห้อง
เพราะหลงคุนไม่อยู่กู่หนิวจึงตัดสินใจออกไปก่อน
แต่แล้ว
“หนิว”
กู่หนิวชะงัก
หันกลับไปก็เจอคุณชายเซียงเว่ยมองมาที่ตนด้วยสายตานิ่งๆ
แต่ก็เพราะสายตาที่จับจ้องมานั้นเองทำให้ชายหนุ่มรู้ตัวว่าเมื่อครู่ไม่ได้หูฝาด
“...ครับ?”
“เอาสีอื่นบ้าง”
“ครับ?
คุณชายหมายถึง...”กู่หนิวไม่แน่ใจในเนื้อความที่อีกฝ่ายต้องการสื่อ
แต่เมื่อนัยน์ตาสีฟ้าเลื่อนไปยังแจกันมุมห้อง
อ๊ะ
“ลิลลี่”คำตอบที่ดีเลย์ดังมาถึงหู
กู่หนิวก้มหน้ารับคำ
“เข้าใจแล้วครับ คราวหน้าผมจะเอาสีอื่นมาเปลี่ยน”
ดอกลิลลี่มีหลายพันธุ์ แต่หลงคุนใช้ผ้าเช็ดหน้าอยู่ไม่กี่สี
และในบรรดานั้นไม่มีสีชมพู
งั้นคราวหน้าเอาเป็นสีชมพูแล้วกัน
กู่หนิวไม่ได้ถามถึงเหตุผลที่ตนได้รับอนุญาตให้ไปดูแลเรือนกระจก
เขาคิดแค่ว่าตัวเองคงดูไม่ใช่คนมือบอนในสายตาอีกฝ่าย
หรืออาจมีเหตุผลไม่สำคัญอย่างอื่น...
“หนิว”
“ครับ?”กู่หนิวรับคำอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายไม่พูดอะไร เพียงจ้องเขาอยู่นาน ชายหนุ่มไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า
แต่แววตาอีกฝ่ายคล้ายกำลังยิ้ม...
พอหลงคุนกลับมากู่หนิวก็รีบรับเงินเดือนก่อนกลับห้องตัวเอง
เขาอาบน้ำกินข้าวแล้วก็ล้มตัวลงนอน
ในฝัน เขาเห็นรอยยิ้มของเทวดา...
การทำงานอย่างหนัก ย่อมได้ผลลัพธ์ที่ดี
สตรอว์เบอรี่หลากหลายพันธุ์ในที่สุดก็ถึงเวลาเก็บเกี่ยว กู่หนิวตัดสินใจเอาลูกสวยๆ
ไปฝาก พร้อมหารือเรื่องแลกนมกับลุงเป่ย
แต่เมื่อไปถึงงานแรกของเขากลับเป็นการอาบน้ำให้เจ้าพลูโตกับมาเบิ้ลที่พักนี้อ้วนท้วนสมบูรณ์กว่าเดิม
ซึ่งขณะที่มาเบิ้ลว่าง่าย และรักสะอาด เจ้าพลูโตกลับเหมือนเด็กซนที่ไม่ชอบอาบน้ำ
ทำเอากว่าเขาจะจัดการกับมันได้ก็กินเวลาอยู่พักหนึ่ง
“ขอบใจ เอ้านี่คริสตัล”เสียงแหบๆดังขึ้น
พร้อมมือของชายชรายื่นส่งคริสตัลมาให้
“ขอบคุณครับลุงเป่ย”กู่หนิวรับมาอย่างว่าง่าย
เพราะเคยปฏิเสธไปครั้งหนึ่งแล้วโดนโกรธยกใหญ่ เขาจึงได้แต่ตามน้ำ
อีกอย่างอีกฝ่ายมีคริสตัลเหลือเฟือด้วย ชายหนุ่มจึงไม่ค่อยลำบากใจ
“แล้วตกลงวันนี้มีธุระอะไรล่ะ?”เมื่ออีกฝ่ายเข้าประเด็น
กู่หนิวก็ยิ้มประจบ ก่อนอธิบายเรื่องราวให้ฟัง
“ได้ เอาไปสิ เดี๋ยวให้เจ้าเอ็มซีกับเจ้าอีเลฟเว่นไปแล้วกัน
สองตัวนั้นเป็นพันธุ์ดี ยังอยู่ในช่วงขยายพันธุ์ด้วย”ชายชรากล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
กู่หนิวได้ฟังก็กล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ขอบคุณครับ ไว้ผมทำเสร็จแล้วจะเอามาฝากนะครับ”กู่หนิวมองอีกฝ่ายอย่างนึกซาบซึ้งจริงๆ
ในชีวิตของเขามีผู้คนไม่มากนักที่จะดีต่อเขาด้วยใจจริง
และลุงเป่ยก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คนนั้น
“เออๆ ว่าแต่วันนี้ว่างใช่ไหม มานวดให้หน่อยซิ
ช่วงนี้ปวดหลัง...”คนโดนขอบคุณพูดเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อน ซึ่งกู่หนิวรับคำด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ได้ครับ!”
พอได้นมมาแล้ว มีสตรอว์เบอรี่แล้ว
ก็เหลือแค่ตั้งไฟแล้วเอาน้ำตาลมาเคี่ยวกับสตรอว์เบอรี่บด ผสมกัน
ไม่เกินครึ่งชั่วโมงนมสตรอว์เบอรี่สดใหม่ก็พร้อมดื่ม โชคดีที่ไฟฟ้ายังเหลือใช้
ทำให้ตู้เย็นสามารถเก็บพวกนมไว้ได้
กู่หนิวมองพวกเนื้อสัตว์กับไข่ในตู้แล้วนึกสะท้อนใจว่าคนรวยกับคนจนช่างแตกต่าง
ถึงนี่จะอยู่ในยุควันสิ้นโลกแล้ว แต่นอกจากเรื่องที่ผู้คนจำนวนมากกลายเป็น
‘ผู้ล่า’ แล้ว เรื่องอื่นๆ กลับแตกต่างจากในหนังที่เคยดูโดยสิ้นเชิง
ทั้งที่ในหนังบอกว่าเมื่อวันสิ้นโลกมาถึงคนจะบ้าคลั่ง
ผู้หญิงจะถูกฉุดเอย เรื่องพวกนั้นเองก็มีอยู่ แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก เพราะถึงอัตราประชากรเพศหญิงในปัจจุบันจะลดลงพอสมควร แต่ก็ยังไม่ถึงกับต้องแย่งชิงกัน เรื่องพวกอาหารเองก็อาจมีปัญหาอยู่บ้างเพราะพวกพืชสัตว์ล้มตายและโรงงานก็หยุดชะงักขาดการผลิต
แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่ขนาดมีคนอดตายจำนวนมาก เพราะพวกพืชสัตว์ก็ไม่ได้ติดเชื้อหรือกลายเป็น’ผู้ล่า’ พวกมันแค่ล้มตายกันเพราะขาดคนดูแลให้อาหาร แต่ป้อมต่างๆ ก็ได้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์ปลูกพืชขึ้นเพื่อแก้ปัญหา ส่วนเรื่องโรงงาน พวกไฟฟ้าก็ยังใช้ได้อยู่ แม้ไม่มากพอสำหรับโรงงานใหญ่ๆ
แต่แค่ผลิตอาหารจำนวนร้อยถึงสองร้อยกระป๋องต่อวันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร นั่นจึงทำให้ป้อมเล็กๆ
อย่างป้อมเหลี่ยงตี้สามารถหาอาหารมาเลี้ยงดูคนในป้อมได้
หากถามว่าแล้วทำไมถึงยังกำจัดผู้ล่าไม่ได้? นั่นเป็นเพราะจำนวนสองส่วนสามของประชากรโลกได้กลายเป็นผู้ล่าไป ขณะที่เกินครึ่งของจำนวนที่เหลือก็ได้ตกตายไปในช่วงสามปีที่ผ่านมา
โดยจำนวนดังกล่าวก็ได้กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก ทำให้ในยุควันสิ้นโลกที่การเดินทางไกลกลายเป็นเรื่องลำบาก
การฟื้นฟูโลกให้กลับมาดีดังเดิมจึงเป็นเรื่องยากเข้าไปใหญ่
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าคนในยุคนี้ก็ไม่ได้ต้องการทำด้วย
จริงอยู่ที่บางคนอาจจะยังคิดถึงความสบายที่เคยได้รับ
แต่ผู้คนจำนวนมากกลับกระหายในอำนาจมากกว่า
การที่ป้อมถูกตั้งขึ้นมาเป็นจำนวนมากก็ยืนยันถึงเรื่องนั้นได้เป็นอย่างดี
หากผู้คนต้องการสันติสุขคืนมาจริงๆ สิ่งที่ควรทำคือร่วมใจกันจัดการล้างบางผู้ล่า
แล้วเริ่มฟื้นฟูโลกขึ้นมาใหม่
แต่ก็นั่นแหละนะ หากคิดทำจริงๆ
โลกคงไม่อยู่สภาพนี้
กู่หนิวนับส่วนของตัวเอง
เขาผลิตนมสตรอว์เบอรี่รอบนี้ได้สิบสองขวดด้วยจำนวนนมที่ได้มาไม่พอ แต่เมื่อหารสี่แล้ว
ส่วนของเขาเท่ากับสามขวด ซึ่งกู่หนิวตั้งใจเก็บไว้กินเองขวดหนึ่ง
ส่วนอีกสองขวดเอาไปฝากลุงเป่ย
พอกลับมาที่ป้อม ขณะเตรียมตัวไปอาบน้ำนอน เขากลับถูกตามให้ขึ้นไปพบกับหลงคุน
ส่วนประเด็นของวันนี้คือ
“คริสตัลชนิดใหม่?”
“ใช่ สายที่ส่งมาบอกว่าป้อมกันจวี๋พบคริสตัลสีน้ำเงินเมื่อวานนี้”
“กันจวี๋?(ส้มเขียวหวาน)”กู่หนิวนึกติดใจชื่อป้อมมากกว่าเรื่องคริสตัลชนิดใหม่
เขาข้องใจว่าป้อมไหนช่างกล้าตั้ง แต่เมื่อโดนสายตาพิฆาตของหลงคุนก็กระแอมถาม
“คริสตัลสีน้ำเงินเหรอครับ?”
น้ำเสียงที่นิ่งสงบคล้ายไม่แปลกใจกับสิ่งที่ได้ยินทำให้คนฟังหรี่ตาแคบ
“นายรู้จัก”ครั้งนี้ไม่ใช่คำถาม
กู่หนิวพยักหน้าด้วยท่าทางปกติด้วยค่อนข้างคุ้นชินกับหลงคุนแล้ว
เขาตอบรับด้วยเสียงเรียบง่าย
“อ่า ครับ ผมเคยเห็นคริสตัลสีน้ำเงินมาก่อน”
หลงคุนดันแว่นเพื่อปกปิดท่าทีตัวเอง
แม้จะคาดเดาไว้แล้ว แต่เมื่อได้ยินกับหูก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
“ถ้างั้นนาย...?”
“ผมสามารถแลกเปลี่ยนให้ได้ครับ เพียงแต่ครั้งนี้อาจแลกได้น้อยกว่าเดิม
ทั้งยังต้องใช้คริสตัลมากกว่าเดิมด้วย”กู่หนิวพูดถึงตรงนี้ก็กดหัวคิ้วเข้าหากันอย่างกังวล
หลงคุนถามอัตราแลกเปลี่ยนอย่างร้อนใจ
“เป็นเท่าไหร่?”
“200 ต่อ 1 อันครับ”
“สองร้อย?!”หลงคุนทวนเสียงสูงอย่างไม่พอใจ
แต่กู่หนิวได้แค่ยิ้มแหยๆ ให้ เพราะที่จริงราคาที่เขาเสนอไปนั้นถือว่าลดให้มากแล้ว
เพราะคริสตัลสีน้ำเงินหนึ่งอันต้องใช้สีแดงแลกถึงหนึ่งร้อยห้าสิบอัน
ครั้งนี้เขาคิดค่านายหน้าแค่ห้าสิบอันเองนะ
“ความสามารถของมันคืออะไร?”หลงคุนไม่ได้พูดปฏิเสธ
แม้จะได้ยินราคาที่สูงกว่าที่คาดไปมากมาย เพราะจากที่รู้จักกันมาเกือบปี
กู่หนิวเองก็ดูเป็นคนซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ไม่มีพิษมีภัยอะไร ถึงเรื่องความสามารถพิเศษกับเรื่องที่อีกฝ่ายแลกเปลี่ยนคริสตัลยังไงจะยังเป็นปัญหาคาใจก็ตาม
เขาจึงสอบถามอย่างต้องการรู้เหตุผล
“คริสตัลสีน้ำเงิน...มันสามารถเพิ่มพูนความสามารถของพลังพิเศษได้ครับ”
“เพิ่มพูนความสามารถของพลังพิเศษ?!”ครั้งนี้หลงคุนเบิกตาโต
แสดงสีหน้าตกใจอย่างไม่รักษามาด ทำเอากู่หนิวผวาถอยหลังไปสามก้าว
“อ่า ครับ”
ครับงั้นเหรอ?
นี่รู้รึเปล่าว่าเรื่องที่ตัวเองพูดออกมามันเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน?!
หลงคุนได้แต่กลืนถ้อยคำที่อยากตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายลงคอ
แล้วถามด้วยเสียงที่พยายามกดให้นิ่ง
“มีตัวอย่างรึเปล่า?”
“ไม่มีครับ คริสตัลที่ผมมีแลกไม่พอ”กู่หนิวไม่ได้พูดปด เงินของเขาเหลือไม่พอจริงๆ หลังแลกคริสตัลสีเขียวไปชุดใหญ่ และลองแลกคริสตัลสีน้ำเงินมากินสองสามอัน ตอนนี้ในกระเป๋าก็เหลือแค่คริสตัลสีแดงสามสิบอันกับสีเหลืองสิบหกอันเท่านั้น
หลงคุนฟังแล้วก็ดันแว่นอย่างไม่ค่อยพอใจ
ก่อนหันไปมองเซียงเว่ยที่นิ่งเงียบมาโดยตลอด
“แลก”
เพียงคำเดียวตัดสินทุกสิ่ง
หลงคุนที่หัวใจคล้ายถูกเฉือนยื่นกระเป๋าที่ใส่คริสตัลสีแดงจำนวนหกร้อยอันไปให้กู่หนิว
ซึ่งกู่หนิวรับมาก่อนพูดทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มติดขี้เล่น
“รอบนี้ไม่มีแถมให้นะครับ”
วันถัดมากู่หนิวเอาคริสตัลสีน้ำเงินมาส่งมอบให้ในตอนเช้า
หลงคุนนึกสงสัยกับความรวดเร็วนี้ ทั้งยังสงสัยว่าอีกฝ่ายทำการแลกเปลี่ยนกับใคร
ยังไง และเมื่อไหร่ แต่เพราะไม่ต้องการทำลายมิตรภาพที่มีอยู่จึงเลือกจะไม่ถาม
ชายหนุ่มนำคริสตัลทั้งสามอันไปส่งมอบให้กับเซียงเว่ย
กู่หนิวที่ยืนมองอยู่ก็คิดได้ว่าตนเองยังไม่เคยรู้เลยว่าความสามารถพิเศษของเซียงเว่ยคืออะไร
แม้แต่คนในป้อมอย่างเฉ่าเหมยกับจางลู่ก็ไม่รู้ เขาเองก็ไม่ได้ถาม
ได้แต่คิดคาดเดาเล่นๆ แต่เมื่อผลลัพธ์ปรากฏก็ทำให้เขาต้องตกใจไม่น้อย
ดิน น้ำ ลม ไฟ สายฟ้า
ก้อนดินที่อัดเป็นรูปสีเหลี่ยมลูกเต๋าจำนวนสี่อันปรากฏขึ้นเหนือฝ่ามือขาว
โดยอันแรกสุดถูกน้ำชะล้างจนเป็นก้อนโคลนเหลว ข้างๆกันถูกพายุหมุนจิ๋วพัดเป่าจนกระเด็น
อันต่อมาถูกไฟเผาจนเกิดรอยไหม้ อันสุดท้ายถูกสายฟ้าเล็กๆผ่าลงมาจนแยกเป็นรูโบ๋
พลังพิเศษห้าอย่าง?
ขณะที่เขาคิดอย่างนั้น...ก้อนดินทั้งสี่ชิ้นพลันถูกแช่แข็งจนดูคล้ายถูกผลึกใสห่อหุ้ม
หกอย่าง?!
“หนิว”
“ครับ?”กู่หนิวที่ถูกเรียกไม่ทันตั้งตัวเผลอตอบรับ
เขามองไปยังคนเรียกที่มีสีหน้าไร้อารมณ์เช่นเคย
“ทำได้ดีมาก”
“อะ อ่า ครับ!”กู่หนิวที่โดนชมเผลอแสดงท่าทางเงอะงะออกไป
เขาเกาหัวอย่างขัดเขินก่อนจะรีบขอตัวกลับไปทำงาน ซึ่งไม่รู้เพราะอะไร
แต่เขาก็เผลอฮัมเพลงกับตัวเองทั้งวัน
ความคิดเห็น