ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฟิงจิ้น จักรพรรดิสองวิญญา

    ลำดับตอนที่ #12 : บทสิบเอ็ด พายุตั้งเค้า

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ย. 60



       จิ้นเฟยหัวเราะร่าระหว่างวิ่งจากมา ในใจนึกขำใบหน้าโกรธปนอายของเด็กชายไม่น้อย และเป็นเฟยจิ่งที่พูดกล่าวตำหนิการกระทำนั้น

       "เจ้าทำอะไรของเจ้า?"น้ำเสียงติดโมโหซึ่งคนโดนถามตอบกลับอย่างลอยหน้าลอยตา

       "ทำอะไร? ก็หอมแก้มไงลุง"

       "ใช่ หอมแก้ม!"เฟยจิ่งย้ำเสียงลอดไรฟัน "เจ้าถึงกับหอมแก้มบุรุษ ช่างเป็นสตรีที่ไร้ยางอาย!"

       เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นจิ้นเฟยก็กลอกตา นึกหน่ายกับความหัวโบราณของอีกฝ่าย

       "ขอบอกลุงเป็นรอบที่ล้านเลยนะว่าตอนนี้ ฉัน เป็น ผู้ ชาย! ร่างกายเป็นชายแท้ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์!"

       แทนที่จะเย็นลงเฟยจิ่งกลับเปิดประเด็นใหม่ขึ้นอีก

       "นั่นยิ่งเลวร้ายใหญ่! เจ้าเป็นบุรุษแล้วเหตุใดยังไปหอมแก้มบุรุษด้วยกันอีก"คำต่อว่าที่ทำเอาจิ้นเฟยต้องเกาหัวแกรกๆ

       "อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่เลยน่าลุง นั่นแค่เด็กเองนะ อีกอย่าง ถึงเป็นผู้ชายแล้วใครกันที่กำหนดว่าผู้ชายจะรักชอบผู้ชายด้วยกันไม่ได้"

       เมื่อได้ยินคำพูดสวนครั้งนี้เฟยจิ่งเป็นอันต้องหลุดมาดร้องถามด้วยความตระหนก

       "เจ้ากำลังคิดอะไร?!"

       ได้ยินคำถามนี้จิ้นเฟยก็นิ่งไปเล็กน้อยก่อนตอบสั้นๆ "เปล่านี่"

       เมื่อจับความรู้สึกไม่เชื่อถือที่ตรงมาอย่างชัดเจนได้จิ้นเฟยก็ต้องเกาหัวก่อนยอมตอบไปอย่างเสียไม่ได้

       "มันก็แค่เรื่องของคอมม่อนเซนส์ ก็อย่างที่ลุงรู้ว่าชาติก่อนฉันเคยเป็นผู้หญิง ถึงตอนนี้ฉันจะอยู่ในร่างผู้ชาย แต่ความชอบแบบผู้หญิงก็ยังมีอยู่ อย่างพวกของน่ารักหรือหนุ่มหล่อ"หลังเกริ่นมาเยิ่นยาวจิ้นเฟยก็วนเข้าสู่บทสรุป แม้รู้ดีแก่ใจว่าเนื้อหาที่จะพูดออกไปคือสิ่งที่คนฟังไม่อยากได้ยินที่สุดก็ตาม

       "พูดง่ายๆ ว่าตัวฉันในตอนนี้ยังมีเศษเสี้ยวของความเป็นผู้หญิงหลงเหลืออยู่ ซึ่งบังเอิญที่เศษเสี้ยวที่ว่านี้...ดันเป็นความรู้สึกชอบผู้ชาย"

       "ฉันหมายถึงความชอบแบบอยากอดจูบลูบคลำน่ะ"จิ้นเฟยขยายคำต่อเมื่อเห็นเฟยจิ่งยังคงไม่มีปฏิกิริยา ซึ่งคำขยายนี้ชัดเจนพอให้คนฟังแทบหน้ามืด

       "เจ้า...!"เฟยจิ่งถึงกับพูดไม่ออก เขาเค้นออกมาได้แค่คำเดียวจริงๆ ฝ่ายจิ้นเฟยหัวเราะอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่

       "น่าๆ ใจเย็นก่อนลุงเฟย นี่ก็แค่ข้อสันนิษฐานล่ะน่ะ บางทีตอนที่ฉันโตมากกว่านี้อาจจะเปลี่ยนรสนิยมมาชอบผู้หญิงก็ได้ ไม่ต้องตกใจไปหรอกน่า"

       ช่างคำพูดปลอบใจที่ไม่ช่วยอะไร เฟยจิ่งนึกเครียด คิดในใจว่าหากวิญญาณสาวยังคงไม่สามารตัดความชอบบุรุษในตัวไปได้ล่ะก็...

       ภาพชายหนุ่มผู้หนึ่งในชุดลายมังกรสีทองคำนั่งอยู่บนบัลลังก์ ข้างกายซ้ายขวามีร่างหนุ่มรูปงามคอยประกบ ใบหน้าที่ประดับยิ้มเจ้าเล่ห์ก้มหอมแก้มหนุ่มด้านซ้าย ก่อนเอี้ยวหน้าไปอ้าปากรับองุ่นที่ถูกยื่นป้อนทางขวาปรากฏในห้วงคิด ซึ่งภาพอนาคตอันน่าสะพรึงนี้เองที่ทำให้เฟยจิ่งตัดสินใจเด็ดขาด

       "ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปเจ้าต้องรับการฝึกฝนอย่างหนัก ข้าจะเคี่ยวกรำเจ้าจนกว่าจะกลายเป็นบุรุษที่แท้จริง!"

       "หา อะไรกันน่ะลุงเฟย อยู่ดีๆก็?"จิ้นเฟยร้องถามด้วยความสงสัยแกมประหลาดใจ หากแต่เฟยจิ่งไม่ตอบคำ เพียงเร่งฝีเท้ากลับให้ไวขึ้น 

     

       ยามนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มจนเห็นเพียงดวงจันทร์ที่ส่องแสงสว่าง รอบข้างปกคลุมด้วยความนิ่งสงบ แม้แต่เสียงงานฉลองในห้องโถงก็เงียบหาย เฟยจิ่งที่เร้นกายกลับเข้าตำหนักต้องนิ่งงันเมื่อพบสองร่างนั่งอยู่หน้าตำหนักท่ามกลางความมืด

       ถังจูและเป้ยฉี สองนางกำนัลประจำตำนักนั่งพับเพียบอยู่หน้าทางเข้าห้อง โดยที่นางหนึ่งหลับน้ำลายยืดหัวอิงบ่าอีกคน เป้ยฉีสะกิดร่างนางกำนัลรุ่นน้องให้ตื่น ถังจูที่สะดุ้งตื่นปรือตาขึ้นอย่างง่วงงุน แต่เมื่อเห็นร่างโปร่งในชุดฟ้ายืนอยู่ไม่ไกลก็รีบผุดลุกยืนร้องเรียกเสียงดัง

       "องค์ชาย...!"เสียงที่เกือบเป็นตะโกนทำให้เป้ยฉีรีบเอามืออุดปากอีกฝ่ายด้วยความว่องไว จิ้นเฟยนึกโล่งอก เพราะเสียงแหกปากเมื่อครู่แทบจะปลุกคนทั้งวังได้เลยทีเดียว ฝ่ายถังจูที่สติกลับมาเต็มที่แล้วกะพริบตาปริบๆมองมือที่ปิดปากตนอยู่พร้อมส่งเสียงอู้อี้เล็กน้อย เป้ยฉีเห็นว่าอีกฝ่ายตื่นเต็มตาแล้วจึงปล่อยมือออก ก่อนหันมาคำนับเจ้านายน้อยของตน

       "ยินดีต้อนรับกลับเพคะองค์ชาย"เสียงกล่าวไม่เบาไม่ดังทำให้คนฟังพยักหน้ารับ ก่อนถามอย่างสงสัย

       "นี่ก็ค่ำมากแล้ว เหตุใดพี่เป้ยฉีกับพี่ถังจูยังไม่นอนอีกเล่า?"

       "พวกหม่อมฉันกำลังรอพระองค์เสด็จกลับเพคะ"ได้ฟังคำตอบที่กล่าวอย่างอ่อนน้อมยิ่งจิ้นเฟยก็ต้องยิ้มแห้งๆในใจ

       "นี่ลุงเฟย พี่สาวพวกนี้มานั่งรอพวกเรากลับใช่ไหมเนี่ย?"

       "ก็เจ้ารับปากสิ่งใดไว้เล่า?"คำพูดเตือนของเฟยจิ่งทำให้จิ้นเฟยระลึกถึงสัญญาที่ให้ไว้ออก

       "อา แย่จริง ข้าบังเอิญติดธุระเล็กน้อยจึงไม่อาจกลับมาทันตามสัญญา อีกทั้งยังลืมนำของฝากมาให้พวกพี่อีก ข้าต้องโทษด้วยจริงๆ"

       เมื่อได้ฟังคำขอโทษนี้เป้ยฉีก็ชะงักเล็กน้อย ก่อนก้มหน้าต่ำตอบรับเสียงเรียบ

       "เรื่องนั้นไม่เป็นไรเพคะ แค่องค์ชายทรงปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว"คำกล่าวนั้นเรียกเสียงประท้วงเล็กๆจากถังจู

       "เอ๋ แต่ข้าอยากได้ของฝากนี่... ไม่เอาก็ได้เพคะ"คำพูดประโยคหลังเปลี่ยนทันควันเมื่อสบสายตาดุจากนางกำนัลรุ่นพี่ จิ้นเฟยหัวเราะน้อยๆเมื่อมองภาพนั้น

       "นี่ก็ดึกมากแล้วพวกพี่ควรไปพักผ่อนได้แล้ว ข้าเองก็จะเข้านอนเหมือนกัน"

       "แล้วเรื่องปรนิบัติ..."เป้ยฉีหมายถึงเรื่องอาบน้ำ จิ้นเฟยส่ายหัวตอบ

       "ไม่ต้องหรอก เรื่องนั้นเดี๋ยวข้าจัดการเอง จริงสิ พรุ่งนี้พี่สี่จะมาหาข้า ช่วยบอกห้องครัวให้เตรียมอาหารเผื่อด้วยนะ"

       "องค์ชายสี่ทรงกลับมาแล้วหรือเพคะ?"ถังจูร้องถามอย่างตื่นตกใจจนเป้ยฉีต้องสะกิดเตือน

       "อืม ข้าบังเอิญเจอกับพี่สี่ระหว่างเดินเที่ยวจึงได้พูดคุยกันเล็กน้อย พี่สี่กล่าวว่าจะมาหาข้าพรุ่งนี้ แต่ข้าไม่แน่ใจนักเรื่องเวลา ยังไงก็ตาม ช่วยบอกให้พวกเขาเตรียมเผื่อไว้ด้วยแล้วกัน อีกอย่าง พรุ่งนี้ช่วยเตรียมชาหลงจิ่งไว้ด้วย ข้าจำได้ว่าพี่สี่ชอบ"จิ้นเฟยว่าทิ้งท้ายระหว่างเดินผ่านร่างทั้งสองตรงเข้าห้อง ซึ่งสองนางกำนัลกล่าวรับคำอย่างนอบน้อม

       "รับทราบเพคะ"

       เป้ยฉีและถังจูยืนส่งองค์ชายน้อยเข้าห้อง พวกนางรอจนแสงเทียนข้างในถูกจุดจึงจากมา ทั้งสองมองหน้ากันอย่างเงียบงัน สายตาที่สบประสานสื่อความหมายที่เข้าใจกันดี

       องค์ชายสี่ผู้นั้นกลับมาแล้ว

       พวกนางยังจำได้ดี เมื่อครั้งยังทรงเยาว์องค์ชายตงห่ายเป็นเพียงผู้เดียวที่องค์ชายเฟิงจิ้นทรงเปิดใจให้ ซึ่งยามที่องค์ชายสี่เดินทางออกจากเมืองหลวงไปองค์ชายเฟิงจิ้นได้คัดค้านอย่างหนัก แต่ก็สุดจะรั้งไว้ได้ ตั้งแต่นั้นมาองค์ชายน้อยก็เอาแต่ใจมากขึ้น กราดเกรี้ยวบ่อยครั้งขึ้น แล้วชอบเอ่ยถามซ้ำๆแทบทุกวัน

       "พี่สี่ยังไม่กลับมาอีกหรือ?"

       "ตอนนี้พี่สี่เป็นอย่างไรบ้าง?"

       "เมื่อไหร่พี่สี่จะกลับมา?"

       ทุกคราวที่ได้รับคำตอบว่า 'ไม่ทราบ' กลับมา องค์ชายก็จะสั่งลงโทษคนกล่าวและระเบิดอารมณ์ใส่คนรอบข้าง แม้ในยามที่ทรงตกอับก็ยังคงถามถึง แต่ช่วงสองปีหลังมานี้ทรงคล้ายจะลืมเลือนไม่พูดถึงแม้แต่ครั้งเดียว มาวันนี้กลับต้องเผชิญหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้พวกนางยากจะหยั่งรู้ถึงความคิดภายในใจขององค์ชายเฟิงจิ้น

       วันเวลาและสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทำให้ยากจะคาดเดา ห้าปีที่แยกห่างองค์ชายเฟิงจิ้นได้เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย เช่นนั้นองค์ชายตงห่ายเล่า

       'พี่สี่' ผู้นั้นจะยังคงเหมือนเดิมหรือไม่? เรื่องนั้นมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้

       หากเป็นองค์ชายเก้าคนก่อนพวกนางคงไม่รู้สึกอะไรหากอีกฝ่ายจะต้องถูกทอดทิ้ง แต่ในยามนี้ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว ถังจูและเป้ยฉีได้แต่หวังว่าองค์ชายสี่ผู้นั้นจะยังคงเป็น พี่สี่ของเสี่ยวเฟิง เหมือนเมื่อครั้งวันวาน

       แต่ไม่ว่าความคาดหวังของนางกำนัลทั้งสองจะเป็นจริงหรือไม่ เช้าวันถัดมาพายุแห่งความเปลี่ยนแปลงก็ได้มาเยือนยังตำหนักตวนหมิง...


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×