คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทสิบเอ็ด พายุตั้งเค้า
จิ้นเฟยหัวเราะร่าระหว่างวิ่งจากมา ในใจนึกขำใบหน้าโกรธปนอายของเด็กชายไม่น้อย และเป็นเฟยจิ่งที่พูดกล่าวตำหนิการกระทำนั้น
"เจ้าทำอะไรของเจ้า?"น้ำเสียงติดโมโหซึ่งคนโดนถามตอบกลับอย่างลอยหน้าลอยตา
"ทำอะไร? ก็หอมแก้มไงลุง"
"ใช่ หอมแก้ม!"เฟยจิ่งย้ำเสียงลอดไรฟัน
"เจ้าถึงกับหอมแก้มบุรุษ ช่างเป็นสตรีที่ไร้ยางอาย!"
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นจิ้นเฟยก็กลอกตา
นึกหน่ายกับความหัวโบราณของอีกฝ่าย
"ขอบอกลุงเป็นรอบที่ล้านเลยนะว่าตอนนี้ ฉัน เป็น ผู้ ชาย! ร่างกายเป็นชายแท้ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์!"
แทนที่จะเย็นลงเฟยจิ่งกลับเปิดประเด็นใหม่ขึ้นอีก
"นั่นยิ่งเลวร้ายใหญ่! เจ้าเป็นบุรุษแล้วเหตุใดยังไปหอมแก้มบุรุษด้วยกันอีก"คำต่อว่าที่ทำเอาจิ้นเฟยต้องเกาหัวแกรกๆ
"อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่เลยน่าลุง นั่นแค่เด็กเองนะ
อีกอย่าง
ถึงเป็นผู้ชายแล้วใครกันที่กำหนดว่าผู้ชายจะรักชอบผู้ชายด้วยกันไม่ได้"
เมื่อได้ยินคำพูดสวนครั้งนี้เฟยจิ่งเป็นอันต้องหลุดมาดร้องถามด้วยความตระหนก
"เจ้ากำลังคิดอะไร?!"
ได้ยินคำถามนี้จิ้นเฟยก็นิ่งไปเล็กน้อยก่อนตอบสั้นๆ "เปล่านี่"
เมื่อจับความรู้สึกไม่เชื่อถือที่ตรงมาอย่างชัดเจนได้จิ้นเฟยก็ต้องเกาหัวก่อนยอมตอบไปอย่างเสียไม่ได้
"มันก็แค่เรื่องของคอมม่อนเซนส์ ก็อย่างที่ลุงรู้ว่าชาติก่อนฉันเคยเป็นผู้หญิง
ถึงตอนนี้ฉันจะอยู่ในร่างผู้ชาย แต่ความชอบแบบผู้หญิงก็ยังมีอยู่
อย่างพวกของน่ารักหรือหนุ่มหล่อ"หลังเกริ่นมาเยิ่นยาวจิ้นเฟยก็วนเข้าสู่บทสรุป
แม้รู้ดีแก่ใจว่าเนื้อหาที่จะพูดออกไปคือสิ่งที่คนฟังไม่อยากได้ยินที่สุดก็ตาม
"พูดง่ายๆ ว่าตัวฉันในตอนนี้ยังมีเศษเสี้ยวของความเป็นผู้หญิงหลงเหลืออยู่
ซึ่งบังเอิญที่เศษเสี้ยวที่ว่านี้...ดันเป็นความรู้สึกชอบผู้ชาย"
"ฉันหมายถึงความชอบแบบอยากอดจูบลูบคลำน่ะ"จิ้นเฟยขยายคำต่อเมื่อเห็นเฟยจิ่งยังคงไม่มีปฏิกิริยา
ซึ่งคำขยายนี้ชัดเจนพอให้คนฟังแทบหน้ามืด
"เจ้า...!"เฟยจิ่งถึงกับพูดไม่ออก เขาเค้นออกมาได้แค่คำเดียวจริงๆ
ฝ่ายจิ้นเฟยหัวเราะอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่
"น่าๆ ใจเย็นก่อนลุงเฟย นี่ก็แค่ข้อสันนิษฐานล่ะน่ะ
บางทีตอนที่ฉันโตมากกว่านี้อาจจะเปลี่ยนรสนิยมมาชอบผู้หญิงก็ได้
ไม่ต้องตกใจไปหรอกน่า"
ช่างคำพูดปลอบใจที่ไม่ช่วยอะไร เฟยจิ่งนึกเครียด
คิดในใจว่าหากวิญญาณสาวยังคงไม่สามารตัดความชอบบุรุษในตัวไปได้ล่ะก็...
ภาพชายหนุ่มผู้หนึ่งในชุดลายมังกรสีทองคำนั่งอยู่บนบัลลังก์
ข้างกายซ้ายขวามีร่างหนุ่มรูปงามคอยประกบ
ใบหน้าที่ประดับยิ้มเจ้าเล่ห์ก้มหอมแก้มหนุ่มด้านซ้าย ก่อนเอี้ยวหน้าไปอ้าปากรับองุ่นที่ถูกยื่นป้อนทางขวาปรากฏในห้วงคิด
ซึ่งภาพอนาคตอันน่าสะพรึงนี้เองที่ทำให้เฟยจิ่งตัดสินใจเด็ดขาด
"ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปเจ้าต้องรับการฝึกฝนอย่างหนัก
ข้าจะเคี่ยวกรำเจ้าจนกว่าจะกลายเป็นบุรุษที่แท้จริง!"
"หา อะไรกันน่ะลุงเฟย อยู่ดีๆก็?"จิ้นเฟยร้องถามด้วยความสงสัยแกมประหลาดใจ หากแต่เฟยจิ่งไม่ตอบคำ เพียงเร่งฝีเท้ากลับให้ไวขึ้น
ยามนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มจนเห็นเพียงดวงจันทร์ที่ส่องแสงสว่าง รอบข้างปกคลุมด้วยความนิ่งสงบ แม้แต่เสียงงานฉลองในห้องโถงก็เงียบหาย
เฟยจิ่งที่เร้นกายกลับเข้าตำหนักต้องนิ่งงันเมื่อพบสองร่างนั่งอยู่หน้าตำหนักท่ามกลางความมืด
ถังจูและเป้ยฉี สองนางกำนัลประจำตำนักนั่งพับเพียบอยู่หน้าทางเข้าห้อง
โดยที่นางหนึ่งหลับน้ำลายยืดหัวอิงบ่าอีกคน
เป้ยฉีสะกิดร่างนางกำนัลรุ่นน้องให้ตื่น ถังจูที่สะดุ้งตื่นปรือตาขึ้นอย่างง่วงงุน
แต่เมื่อเห็นร่างโปร่งในชุดฟ้ายืนอยู่ไม่ไกลก็รีบผุดลุกยืนร้องเรียกเสียงดัง
"องค์ชาย...!"เสียงที่เกือบเป็นตะโกนทำให้เป้ยฉีรีบเอามืออุดปากอีกฝ่ายด้วยความว่องไว
จิ้นเฟยนึกโล่งอก เพราะเสียงแหกปากเมื่อครู่แทบจะปลุกคนทั้งวังได้เลยทีเดียว
ฝ่ายถังจูที่สติกลับมาเต็มที่แล้วกะพริบตาปริบๆมองมือที่ปิดปากตนอยู่พร้อมส่งเสียงอู้อี้เล็กน้อย
เป้ยฉีเห็นว่าอีกฝ่ายตื่นเต็มตาแล้วจึงปล่อยมือออก ก่อนหันมาคำนับเจ้านายน้อยของตน
"ยินดีต้อนรับกลับเพคะองค์ชาย"เสียงกล่าวไม่เบาไม่ดังทำให้คนฟังพยักหน้ารับ
ก่อนถามอย่างสงสัย
"นี่ก็ค่ำมากแล้ว เหตุใดพี่เป้ยฉีกับพี่ถังจูยังไม่นอนอีกเล่า?"
"พวกหม่อมฉันกำลังรอพระองค์เสด็จกลับเพคะ"ได้ฟังคำตอบที่กล่าวอย่างอ่อนน้อมยิ่งจิ้นเฟยก็ต้องยิ้มแห้งๆในใจ
"นี่ลุงเฟย พี่สาวพวกนี้มานั่งรอพวกเรากลับใช่ไหมเนี่ย?"
"ก็เจ้ารับปากสิ่งใดไว้เล่า?"คำพูดเตือนของเฟยจิ่งทำให้จิ้นเฟยระลึกถึงสัญญาที่ให้ไว้ออก
"อา แย่จริง
ข้าบังเอิญติดธุระเล็กน้อยจึงไม่อาจกลับมาทันตามสัญญา อีกทั้งยังลืมนำของฝากมาให้พวกพี่อีก
ข้าต้องโทษด้วยจริงๆ"
เมื่อได้ฟังคำขอโทษนี้เป้ยฉีก็ชะงักเล็กน้อย
ก่อนก้มหน้าต่ำตอบรับเสียงเรียบ
"เรื่องนั้นไม่เป็นไรเพคะ
แค่องค์ชายทรงปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว"คำกล่าวนั้นเรียกเสียงประท้วงเล็กๆจากถังจู
"เอ๋ แต่ข้าอยากได้ของฝากนี่...
ไม่เอาก็ได้เพคะ"คำพูดประโยคหลังเปลี่ยนทันควันเมื่อสบสายตาดุจากนางกำนัลรุ่นพี่
จิ้นเฟยหัวเราะน้อยๆเมื่อมองภาพนั้น
"นี่ก็ดึกมากแล้วพวกพี่ควรไปพักผ่อนได้แล้ว
ข้าเองก็จะเข้านอนเหมือนกัน"
"แล้วเรื่องปรนิบัติ..."เป้ยฉีหมายถึงเรื่องอาบน้ำ
จิ้นเฟยส่ายหัวตอบ
"ไม่ต้องหรอก เรื่องนั้นเดี๋ยวข้าจัดการเอง จริงสิ
พรุ่งนี้พี่สี่จะมาหาข้า ช่วยบอกห้องครัวให้เตรียมอาหารเผื่อด้วยนะ"
"องค์ชายสี่ทรงกลับมาแล้วหรือเพคะ?"ถังจูร้องถามอย่างตื่นตกใจจนเป้ยฉีต้องสะกิดเตือน
"อืม ข้าบังเอิญเจอกับพี่สี่ระหว่างเดินเที่ยวจึงได้พูดคุยกันเล็กน้อย
พี่สี่กล่าวว่าจะมาหาข้าพรุ่งนี้ แต่ข้าไม่แน่ใจนักเรื่องเวลา ยังไงก็ตาม
ช่วยบอกให้พวกเขาเตรียมเผื่อไว้ด้วยแล้วกัน อีกอย่าง
พรุ่งนี้ช่วยเตรียมชาหลงจิ่งไว้ด้วย
ข้าจำได้ว่าพี่สี่ชอบ"จิ้นเฟยว่าทิ้งท้ายระหว่างเดินผ่านร่างทั้งสองตรงเข้าห้อง
ซึ่งสองนางกำนัลกล่าวรับคำอย่างนอบน้อม
"รับทราบเพคะ"
เป้ยฉีและถังจูยืนส่งองค์ชายน้อยเข้าห้อง พวกนางรอจนแสงเทียนข้างในถูกจุดจึงจากมา ทั้งสองมองหน้ากันอย่างเงียบงัน
สายตาที่สบประสานสื่อความหมายที่เข้าใจกันดี
องค์ชายสี่ผู้นั้นกลับมาแล้ว
พวกนางยังจำได้ดี เมื่อครั้งยังทรงเยาว์องค์ชายตงห่ายเป็นเพียงผู้เดียวที่องค์ชายเฟิงจิ้นทรงเปิดใจให้
ซึ่งยามที่องค์ชายสี่เดินทางออกจากเมืองหลวงไปองค์ชายเฟิงจิ้นได้คัดค้านอย่างหนัก
แต่ก็สุดจะรั้งไว้ได้ ตั้งแต่นั้นมาองค์ชายน้อยก็เอาแต่ใจมากขึ้น
กราดเกรี้ยวบ่อยครั้งขึ้น แล้วชอบเอ่ยถามซ้ำๆแทบทุกวัน
"พี่สี่ยังไม่กลับมาอีกหรือ?"
"ตอนนี้พี่สี่เป็นอย่างไรบ้าง?"
"เมื่อไหร่พี่สี่จะกลับมา?"
ทุกคราวที่ได้รับคำตอบว่า 'ไม่ทราบ' กลับมา องค์ชายก็จะสั่งลงโทษคนกล่าวและระเบิดอารมณ์ใส่คนรอบข้าง
แม้ในยามที่ทรงตกอับก็ยังคงถามถึง แต่ช่วงสองปีหลังมานี้ทรงคล้ายจะลืมเลือนไม่พูดถึงแม้แต่ครั้งเดียว
มาวันนี้กลับต้องเผชิญหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้พวกนางยากจะหยั่งรู้ถึงความคิดภายในใจขององค์ชายเฟิงจิ้น
วันเวลาและสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปทำให้ยากจะคาดเดา
ห้าปีที่แยกห่างองค์ชายเฟิงจิ้นได้เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย
เช่นนั้นองค์ชายตงห่ายเล่า?
'พี่สี่' ผู้นั้นจะยังคงเหมือนเดิมหรือไม่?
เรื่องนั้นมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้
หากเป็นองค์ชายเก้าคนก่อนพวกนางคงไม่รู้สึกอะไรหากอีกฝ่ายจะต้องถูกทอดทิ้ง
แต่ในยามนี้ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปแล้ว ถังจูและเป้ยฉีได้แต่หวังว่าองค์ชายสี่ผู้นั้นจะยังคงเป็น
‘พี่สี่ของเสี่ยวเฟิง’ เหมือนเมื่อครั้งวันวาน
แต่ไม่ว่าความคาดหวังของนางกำนัลทั้งสองจะเป็นจริงหรือไม่
เช้าวันถัดมาพายุแห่งความเปลี่ยนแปลงก็ได้มาเยือนยังตำหนักตวนหมิง...
ความคิดเห็น